หัวข้อ: รบกวนคุณหมอ หรือท่านที่มีประสพการณ์พาเด็กเล็กขึ้นเครื่องครับ เริ่มหัวข้อโดย: makoto ที่ กุมภาพันธ์ 05, 2008, 12:57:44 AM รบกวนเรียนถามด้วยครับ พอดีจะไปรับลูก+แฟนกลับจากกทม. ขาไปเอารถไปแต่ขากลับจะกลับเครื่อง ตอนนี้ลูกชายอายุ11เดือนจะขึ้นครั้งแรก ไม่ทราบว่าควรป้องกันลูกอย่างไรครับ เคยเจอแต่ลูกคนอื่นร้องลั่นเครื่องทุกที สงสารและกลัวหูหรืออื่นๆจะมีปัญหาเพราะเค้ายังเล็ก ขนาดผู้ใหญ่ยังปวดเลย ขอบคุณครับ ::014::
หัวข้อ: Re: รบกวนคุณหมอ หรือท่านที่มีประสพการณ์พาเด็กเล็กขึ้นเครื่องครับ เริ่มหัวข้อโดย: Nakin ที่ กุมภาพันธ์ 05, 2008, 01:05:14 AM อืมม์ ...... ให้เด็กกินน้ำ น่าจะช่วยได้นะครับ ( เหมือนให้ผู้ใหญ่ กลืนน้ำลาย หรือ อมลูกอม ) หัวข้อ: Re: รบกวนคุณหมอ หรือท่านที่มีประสพการณ์พาเด็กเล็กขึ้นเครื่องครับ เริ่มหัวข้อโดย: Nakin ที่ กุมภาพันธ์ 05, 2008, 01:07:06 AM แต่ ....... ถ้าทำให้เด็กนอนหลับได้ ระหว่างอยู่บนเครื่องบิน ก็คงจะดีกว่า ..... หัวข้อ: Re: รบกวนคุณหมอ หรือท่านที่มีประสพการณ์พาเด็กเล็กขึ้นเครื่องครับ เริ่มหัวข้อโดย: rute - รักในหลวง ที่ กุมภาพันธ์ 05, 2008, 01:09:19 AM ผมไม่ใช่หมอเด็กหรือหมอด้านเวชศาสตร์การบินนะครับ...
ปกติเวลาผมจะพาเด็กเล็กเดินทาง ไม่ว่าทางบก ทางเรือ หรือ ทางอากาศ... ผมจะเลือกเวลาที่แกหลับอยู่ครับ ใช้การยื้อให้แกง่วงมากที่สุดจนผลอยหลับไปก่อนเริ่มการเดินทางครับ... ปกติในห้องโดยสารเครื่องบินพานิชย์น่าจะเป็นห้องปรับแรงดันอากาศอยู่แล้ว การรบกวนเช่น หูอื้อ อาจจะมีบ้าง... แต่คิดว่าถ้าหลับสนิทๆไม่น่าเป็นอะไรครับ... ผมไม่แนะนำให้ใช้ยากันเมารถเมาเรือกับเด็กนะครับ... ขอให้เดินทางโดยสวัสดิภาพครับ...:D หัวข้อ: Re: รบกวนคุณหมอ หรือท่านที่มีประสพการณ์พาเด็กเล็กขึ้นเครื่องครับ เริ่มหัวข้อโดย: makoto ที่ กุมภาพันธ์ 05, 2008, 01:37:46 AM ขอบพระคุณครับ แล้วที่เอาสำลีอุดหูมีส่วนช่วยใหมครับ ผมสังเกตเห็นตอนอยู่บนเครื่องขวดน้ำงี้แบนเลยพอลงมาก็กลมปกติ
หัวข้อ: Re: รบกวนคุณหมอ หรือท่านที่มีประสพการณ์พาเด็กเล็กขึ้นเครื่องครับ เริ่มหัวข้อโดย: ทัดมาลา ขอเป็นข้ารองพระบาททุกชาติไป ที่ กุมภาพันธ์ 05, 2008, 02:27:20 PM เด็กอายุเกิน 7 วันสามารถเดินทางทางเครื่องบินได้ครับ แต่เด็กเล็กยังทำ วัลซาวา หรือการอัดลมในโพรงจมูกไม่ได้
อาการปวดหู จะเกิดจากการ หด ขยายตัว ของอากาศในโพรงไซนัสซึ่งทำให้เยื่อแก้วหูมีการพองตัวเข้าหรือออก ตามแต่ว่า ไต่ หรือร่อน แม้ในเครื่องมีการปรับความกดอากาศจริง แต่ก็ไม่เท่ากับพื้นโลก จะเท่ากับที่ความสูงประมาณ 8-9000 ฟุต ซึ่งถ้าเป็นหวัด มีการอักเสบในโพรงจมูก มีน้ำมูก ในระหว่างที่มีการไต่และร่อนลงสูสนามนั้น น้องๆมีสิทธิที่จะเจ็บหูแล้วร้องไห้ แต่การร้องไห้ก็มีประโยชน์เพราะจะเป็นการช่วยเคลียร์หูเด็กไปในตัวครับ ในกรณีของเจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติการบิน หากมีอาการหวัด หรือ โพรงจมูกอักเสบ มักทานยาแก้แพ้ ลดบวมที่ไม่ง่วงในเวลาปฏิบัติงานครับ ส่วนใหญ่จะใช้ pseudoephridine ถ้ายี่ห้อก็ clarinase ครับ แต่สำหรับเด็กเล็กนั้น แนะนำว่าปรึกษาหมอเด็กถึงข้อจำกัดต่างๆดีกว่าครับ หัวข้อ: Re: รบกวนคุณหมอ หรือท่านที่มีประสพการณ์พาเด็กเล็กขึ้นเครื่องครับ เริ่มหัวข้อโดย: makoto ที่ กุมภาพันธ์ 05, 2008, 03:08:25 PM ขอบพระคุณอีกครั้งครับ
หัวข้อ: Re: รบกวนคุณหมอ หรือท่านที่มีประสพการณ์พาเด็กเล็กขึ้นเครื่องครับ เริ่มหัวข้อโดย: hdk366 ที่ กุมภาพันธ์ 05, 2008, 10:15:04 PM ถ้าไม่เป็นหวัดไม่มีปัญหาครับ ดูพวกเครื่องต่างประเทศสิครับ บางทีบิน10 ชม.เขายังอุ้มเด็กล็กมาด้วยเลย
หัวข้อ: Re: รบกวนคุณหมอ หรือท่านที่มีประสพการณ์พาเด็กเล็กขึ้นเครื่องครับ เริ่มหัวข้อโดย: RroamD ที่ กุมภาพันธ์ 05, 2008, 11:25:49 PM อายุเท่าลูกสาวผมตอนพาไปสิงคโปร์ครั้งแรกครับ
ไม่มีอะไรน่าเป็นห่วงเพราะนั่งอยู่บนที่นั่งที่ดีที่สุดคือตัวคุณแม่ ตอนเครื่องขึ้นลงจะใช้เข็มขัดนิรภัยเสริมจากชุดหลักของเบาะนั่ง โดยให้เด็กอยู่ที่หน้าอกผู้ใหญ่(จากเครื่อง 747 ของสิงคโปร์แอร์ไลน์ปี พ.ศ.2543) ส่วนเรื่องหูอื้อช่วงเพิ่มและลดเพดานบินอาจจะทำให้เด็กร้องเพราะปวดหู เตรียมน้ำในขวดนมให้ดูดครับ หัวข้อ: Re: รบกวนคุณหมอ หรือท่านที่มีประสพการณ์พาเด็กเล็กขึ้นเครื่องครับ เริ่มหัวข้อโดย: จอยฮันเตอร์ ที่ กุมภาพันธ์ 06, 2008, 07:41:59 AM เด็กอายุเกิน 7 วันสามารถเดินทางทางเครื่องบินได้ครับ แต่เด็กเล็กยังทำ วัลซาวา หรือการอัดลมในโพรงจมูกไม่ได้ เรียนถามกัปปิตันครับ บางครั้งผมเคยสังเกตุ เด็กบางคนไม่ร้องเลย บางคนก็ร้องลั่นเครื่อง อาจจะเป็นที่กัปตันให้ความสนใจเรื่องการปรับความดันอยู่ตลอดหรือปล่าวครับ ::014::อาการปวดหู จะเกิดจากการ หด ขยายตัว ของอากาศในโพรงไซนัสซึ่งทำให้เยื่อแก้วหูมีการพองตัวเข้าหรือออก ตามแต่ว่า ไต่ หรือร่อน แม้ในเครื่องมีการปรับความกดอากาศจริง แต่ก็ไม่เท่ากับพื้นโลก จะเท่ากับที่ความสูงประมาณ 8-9000 ฟุต ซึ่งถ้าเป็นหวัด มีการอักเสบในโพรงจมูก มีน้ำมูก ในระหว่างที่มีการไต่และร่อนลงสูสนามนั้น น้องๆมีสิทธิที่จะเจ็บหูแล้วร้องไห้ แต่การร้องไห้ก็มีประโยชน์เพราะจะเป็นการช่วยเคลียร์หูเด็กไปในตัวครับ ในกรณีของเจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติการบิน หากมีอาการหวัด หรือ โพรงจมูกอักเสบ มักทานยาแก้แพ้ ลดบวมที่ไม่ง่วงในเวลาปฏิบัติงานครับ ส่วนใหญ่จะใช้ pseudoephridine ถ้ายี่ห้อก็ clarinase ครับ แต่สำหรับเด็กเล็กนั้น แนะนำว่าปรึกษาหมอเด็กถึงข้อจำกัดต่างๆดีกว่าครับ หัวข้อ: Re: รบกวนคุณหมอ หรือท่านที่มีประสพการณ์พาเด็กเล็กขึ้นเครื่องครับ เริ่มหัวข้อโดย: PU45™ ที่ กุมภาพันธ์ 06, 2008, 07:45:32 AM ผู้มีประสบการณ์พาเด็กเล็กของบ้านเล็กขึ้นเครื่องมาถามเองเลย ....... กระจองงอง กระจองงอง เจ้าข้าเอ้ยยยย หัวข้อ: Re: รบกวนคุณหมอ หรือท่านที่มีประสพการณ์พาเด็กเล็กขึ้นเครื่องครับ เริ่มหัวข้อโดย: เด็กหัวตลาด ที่ กุมภาพันธ์ 06, 2008, 08:31:46 AM ทฤษฎีเป็นไปตามที่ทัดมาลาอธิบาย
ทางปฏิบัติ จากประสบการณ์ตรง พอเครื่องเริ่มวิ่ง taxi ก็เอานมหรือน้ำให้ดูดครับ พอจะ landing ก็เอานมหรือน้ำให้ดูดเหมือนกัน การที่เด็กหลับคงไม่ช่วยอะไร ถ้าปรับความดันไม่ดี เกิดปวดหูเด็กก็จะตื่นแล้วร้องครับ หัวข้อ: Re: รบกวนคุณหมอ หรือท่านที่มีประสพการณ์พาเด็กเล็กขึ้นเครื่องครับ เริ่มหัวข้อโดย: flyingkob-รักในหลวง ที่ กุมภาพันธ์ 06, 2008, 08:33:22 AM เด็กอายุเกิน 7 วันสามารถเดินทางทางเครื่องบินได้ครับ แต่เด็กเล็กยังทำ วัลซาวา หรือการอัดลมในโพรงจมูกไม่ได้ เรียนถามกัปปิตันครับ บางครั้งผมเคยสังเกตุ เด็กบางคนไม่ร้องเลย บางคนก็ร้องลั่นเครื่อง อาจจะเป็นที่กัปตันให้ความสนใจเรื่องการปรับความดันอยู่ตลอดหรือปล่าวครับ ::014::อาการปวดหู จะเกิดจากการ หด ขยายตัว ของอากาศในโพรงไซนัสซึ่งทำให้เยื่อแก้วหูมีการพองตัวเข้าหรือออก ตามแต่ว่า ไต่ หรือร่อน แม้ในเครื่องมีการปรับความกดอากาศจริง แต่ก็ไม่เท่ากับพื้นโลก จะเท่ากับที่ความสูงประมาณ 8-9000 ฟุต ซึ่งถ้าเป็นหวัด มีการอักเสบในโพรงจมูก มีน้ำมูก ในระหว่างที่มีการไต่และร่อนลงสูสนามนั้น น้องๆมีสิทธิที่จะเจ็บหูแล้วร้องไห้ แต่การร้องไห้ก็มีประโยชน์เพราะจะเป็นการช่วยเคลียร์หูเด็กไปในตัวครับ ในกรณีของเจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติการบิน หากมีอาการหวัด หรือ โพรงจมูกอักเสบ มักทานยาแก้แพ้ ลดบวมที่ไม่ง่วงในเวลาปฏิบัติงานครับ ส่วนใหญ่จะใช้ pseudoephridine ถ้ายี่ห้อก็ clarinase ครับ แต่สำหรับเด็กเล็กนั้น แนะนำว่าปรึกษาหมอเด็กถึงข้อจำกัดต่างๆดีกว่าครับ การอดทนของเด็กแต่ละคนไม่เหมือนกันครับ บางครั้งที่ร้องไห้บนเครื่องบินไม่เกี่ยวกับระบบปรับความดันของเครื่องบิน แต่อาจจะเป็นเพราะความหิว เจ็บป่วยอย่างอื่นก็เป็นไปได้ครับ สำหรับเรื่องระบบปรับความดันในเครื่องบินนั้น โดยปรกติทั่วไปนักบินจะใช้ระบบ automatic เพราะไม่ต้องมาตรวจสอบทุก 1000 ฟุตที่ระยะสูงเปลี่ยนไปจนกว่าจะถึงระดับเพดานบิน และอัตราการเปลี่ยนแปลงระยะสูงภายในเครื่องบินจะอยู่ที่ประมาณ 300-500 ฟุตต่อนาทีและในอัตรานี้แก้วหูของมนุษย์จะสามารถปรับความดันได้เป็นปรกติ ฉะนั้นการที่มีการเปลี่ยนแปลงระยะสูงการปรับความดันก็จะเปลี่ยนไปด้วยมากหรือน้อยมันอยู่ที่ระบบอัตโนมัติที่กำลังควบคุมการทำงานอยู่ หรือบางครั้งที่ระดับเพดานบินก็อาจจะมีการเปลี่ยนแปลงบ้างนิดหน่อยเพราะอากาศในเครื่องจะต้องมีการถ่ายเท หรือระบบอัดอากาศเอาอากาศเข้ามากเกินไปหน่อยมันจะปล่อยออกไปด้านข้าง ไม่อย่างนั้นเครื่องบินก็จะเป็นเสมือนลูกโป่งที่พองออกจนแตก! และถึงแม้ว่าจะมีการสูญเสียความกดดันในเครื่องหน้ากากอ๊อกซิเจนจะตกลงมาอัตโนมัติ ไม่ต้องตกใจครับ คว้าเอามาสูด และนักบินจะทำการลดระดับลงฉุกเฉินไปที่ความสูงที่ปลอดภัยสำหรับทุกๆคนที่สามารถหายใจได้โดยไม่ต้องสวมหน้ากากอ๊อกซิเจน (เจ้าหน้ากากอ๊อกซิเจนจะใช้งานได้ประมาณ 12 นาที) เหตุการณ์นี้อาจจะทำให้ผู้โดยสารบางท่านมีอาการเจ็บป่วยด้านแก้วหูบ้างไม่มากก็น้อย ไม่ต้องห่วงเช่นกันครับ ค่ารักษาพยาบาลทั้งหมดสายการบินจะเป็นผู้ออกค่าใช้จ่ายให้เพราะถือเป็นความรับผิดชอบของสายการบิน ปล. ถ้าเด็กเล็กๆ ผมใช้นมผสมกับไวน์ขาวให้ทาน....ไม่มีอัตราส่วนที่แน่นอนครับ เพราะผมให้ลูกสาวดื่มในช่วงเวลาบินไปเยอรมันตอนนั้นลูกผมอายุสามเดือน ดื่มจนสามขวบ.. หลับตลอดไฟล์ทครับไม่กวนใครเลย... (ส่วนใหญ่ลูกสาวผมเดินทางคนเดียว เพราะผมต้องทำงานครับ) หัวข้อ: Re: รบกวนคุณหมอ หรือท่านที่มีประสพการณ์พาเด็กเล็กขึ้นเครื่องครับ เริ่มหัวข้อโดย: จอยฮันเตอร์ ที่ กุมภาพันธ์ 06, 2008, 08:44:52 AM เด็กอายุเกิน 7 วันสามารถเดินทางทางเครื่องบินได้ครับ แต่เด็กเล็กยังทำ วัลซาวา หรือการอัดลมในโพรงจมูกไม่ได้ เรียนถามกัปปิตันครับ บางครั้งผมเคยสังเกตุ เด็กบางคนไม่ร้องเลย บางคนก็ร้องลั่นเครื่อง อาจจะเป็นที่กัปตันให้ความสนใจเรื่องการปรับความดันอยู่ตลอดหรือปล่าวครับ ::014::อาการปวดหู จะเกิดจากการ หด ขยายตัว ของอากาศในโพรงไซนัสซึ่งทำให้เยื่อแก้วหูมีการพองตัวเข้าหรือออก ตามแต่ว่า ไต่ หรือร่อน แม้ในเครื่องมีการปรับความกดอากาศจริง แต่ก็ไม่เท่ากับพื้นโลก จะเท่ากับที่ความสูงประมาณ 8-9000 ฟุต ซึ่งถ้าเป็นหวัด มีการอักเสบในโพรงจมูก มีน้ำมูก ในระหว่างที่มีการไต่และร่อนลงสูสนามนั้น น้องๆมีสิทธิที่จะเจ็บหูแล้วร้องไห้ แต่การร้องไห้ก็มีประโยชน์เพราะจะเป็นการช่วยเคลียร์หูเด็กไปในตัวครับ ในกรณีของเจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติการบิน หากมีอาการหวัด หรือ โพรงจมูกอักเสบ มักทานยาแก้แพ้ ลดบวมที่ไม่ง่วงในเวลาปฏิบัติงานครับ ส่วนใหญ่จะใช้ pseudoephridine ถ้ายี่ห้อก็ clarinase ครับ แต่สำหรับเด็กเล็กนั้น แนะนำว่าปรึกษาหมอเด็กถึงข้อจำกัดต่างๆดีกว่าครับ การอดทนของเด็กแต่ละคนไม่เหมือนกันครับ บางครั้งที่ร้องไห้บนเครื่องบินไม่เกี่ยวกับระบบปรับความดันของเครื่องบิน แต่อาจจะเป็นเพราะความหิว เจ็บป่วยอย่างอื่นก็เป็นไปได้ครับ สำหรับเรื่องระบบปรับความดันในเครื่องบินนั้น โดยปรกติทั่วไปนักบินจะใช้ระบบ automatic เพราะไม่ต้องมาตรวจสอบทุก 1000 ฟุตที่ระยะสูงเปลี่ยนไปจนกว่าจะถึงระดับเพดานบิน และอัตราการเปลี่ยนแปลงระยะสูงภายในเครื่องบินจะอยู่ที่ประมาณ 300-500 ฟุตต่อนาทีและในอัตรานี้แก้วหูของมนุษย์จะสามารถปรับความดันได้เป็นปรกติ ฉะนั้นการที่มีการเปลี่ยนแปลงระยะสูงการปรับความดันก็จะเปลี่ยนไปด้วยมากหรือน้อยมันอยู่ที่ระบบอัตโนมัติที่กำลังควบคุมการทำงานอยู่ หรือบางครั้งที่ระดับเพดานบินก็อาจจะมีการเปลี่ยนแปลงบ้างนิดหน่อยเพราะอากาศในเครื่องจะต้องมีการถ่ายเท หรือระบบอัดอากาศเอาอากาศเข้ามากเกินไปหน่อยมันจะปล่อยออกไปด้านข้าง ไม่อย่างนั้นเครื่องบินก็จะเป็นเสมือนลูกโป่งที่พองออกจนแตก! และถึงแม้ว่าจะมีการสูญเสียความกดดันในเครื่องหน้ากากอ๊อกซิเจนจะตกลงมาอัตโนมัติ ไม่ต้องตกใจครับ คว้าเอามาสูด และนักบินจะทำการลดระดับลงฉุกเฉินไปที่ความสูงที่ปลอดภัยสำหรับทุกๆคนที่สามารถหายใจได้โดยไม่ต้องสวมหน้ากากอ๊อกซิเจน (เจ้าหน้ากากอ๊อกซิเจนจะใช้งานได้ประมาณ 12 นาที) เหตุการณ์นี้อาจจะทำให้ผู้โดยสารบางท่านมีอาการเจ็บป่วยด้านแก้วหูบ้างไม่มากก็น้อย ไม่ต้องห่วงเช่นกันครับ ค่ารักษาพยาบาลทั้งหมดสายการบินจะเป็นผู้ออกค่าใช้จ่ายให้เพราะถือเป็นความรับผิดชอบของสายการบิน ปล. ถ้าเด็กเล็กๆ ผมใช้นมผสมกับไวน์ขาวให้ทาน....ไม่มีอัตราส่วนที่แน่นอนครับ เพราะผมให้ลูกสาวดื่มในช่วงเวลาบินไปเยอรมันตอนนั้นลูกผมอายุสามเดือน ดื่มจนสามขวบ.. หลับตลอดไฟล์ทครับไม่กวนใครเลย... (ส่วนใหญ่ลูกสาวผมเดินทางคนเดียว เพราะผมต้องทำงานครับ) |