เว็บบอร์ดสนทนาภาษาปืน

กระทู้ผมอาจจะไม่ใช่คำถามนะครับ เป็นกระทู้เล่าสู่กันฟัง ถ้าขาดสาระ ก็ลบได้นะครับ

สืบเนื่องจาก ภริยาผมสั่งซื้อปืนโครงการฯ เป็น G19 โดยผมเป็นคนเลือกให้ตามวัตถุประสงค์การใช้งาน กลางเดือน ม.ค. 51 มีหนังสือแจ้งให้ไปทำ ป.3 เพื่อไปรับปืนได้
ปลายเดือน ก.พ. 51 ผมพาภริยาไปที่อำเภอหนึ่ง ของ จ.เชียงใหม่ พร้อมด้ิวยเอกสารตามที่โครงการฯ แจ้งมาครบถ้วน

ไปถึงโต๊ะ จนท. รับเรื่อง เมื่อแจ้งวัตถุประสงค์ว่าเราสั่งซื้อปืนโครงการฯ ขณะนี้ชำระค่าปืนครบแล้ว และมีหนังสือแจ้งมาให้มาขอ ป. 3 เพื่อไปรัีบปืน  จนท. น้องผู้หญิงคนนั้น ก็ให้เรากรอกเอกสารตามระเบียบ พร้อมกับแนบเอกสารที่เตรียมมา

น้อง จนท. คนนั้นแจ้งว่า "ขาดหนังสือรับรองของผู้บังคับบัญชา"   ซึ่งในรายการไม่ได้บอกไว้
แต่ไม่เป็นไร ภริยาผมเลยขอดูตัวอย่างหนังสือรับรองที่ว่านั้น เพื่อจะทำตามแบบให้ ผู้บังคับบัญชาเซ็นต์ให้

จนท. ก็ถ่ายสำเนาให้มาเป็นตัวอย่าง

ระหว่างนั้น ป. อาวุโส นั่งอยู่โต๊ะข้างๆ ก็หันมาคุยด้วย ทำนองว่า ทำงานอะไรที่ไหน?
ภริยาผมก็ตอบไป พร้อมกับอธิบายว่า ลักษณะงานต้องเกี่ยวข้องกับผู้ติดยาเสพติด  (เป็นเจ้าพนักงานตาม พรบ. เกี่ยวกับผู้ติดยาเสพติด) ซึ่งมีอำนาจหน้าที่จะต้องติดตาม คุมประพฤติ ตลอดจนตรวจค้น จับกุม ถ้าจำเป็น

ป. อาวุโส ก็คุยด้วยพอได้ความกันแค่นั้น

แต่ในความรู้สึกผม (อาจจะระแวงไปเอง)  รู้สึุกว่า เหมือนต่างฝ่า่ยต่างคุมเชิงอย่างไร บอกไม่ถูก  เหมือนจะหยั่งท่าที เหมือนจะหาช่องพูดอะไรบางอย่าง สังเกตุจากการคุยไป คิดไป เสียงติดๆ ขัดๆ ไม่ลื่นไหลเป็นธรรมชาติ   แต่ก็ไม่ได้เอ่ยเรื่องเงื่อนไขอื่นใด นอกจากแนะนำให้ไปทำหนังสือรับรองมา้ด้วย

ผมกับภริยาจึงลากลับ

อีกราว 1 สัปดาห์ ภริยาผมจึงมีเวลาเอาหนังสือรับรองดังกล่าวไปแนบเพิ่มที่ อำเภอ (ครั้งนี้ผมไม่ได้ไปด้วย เลยไม่ทราบบรรยากาศ แต่เห็นบอกว่า ไม่ีมีอะไรผิดปกติ ไม่ไำด้เอ่ยถึงเรื่องอื่่น)

ต้นเดือน มี.ค. ผมลองโทรไปตามว่า เรื่องออกมาหรือยัง จนท. ผู้หญิงคนนั้นบอกว่า เอกสารไม่เรียบร้อย นายบอกว่า ในหนังสือรับรอง ที่บอกว่า "เป็นเจ้าพนักงาน ตาม พรบ..................  มาตรา 36 "   นั้น  นายถามว่า ม. 36 มันว่าอย่าง่ไร  ให้มาแก้ไข ใส่เนื้อความนั้นไว้ด้วย

ภริยาผมก็เลย ถ่ายเอกสาร พรบ. ทั้งฉบับ  โดยฝากผมไม่แนบเพิ่มเติมวันนี้เองครับ

วันนี้ ผมไปยื่นเอกสารคนเดียว เพราะภริยาออกพื้นที่ทั้งสัปดาห์  ไปเ้ช้า กับมืดทุกวันเหนื่อยมาก
เมื่อไปถึงอำเภอ ผมเจอ ป.อาวุโส ก่อน ก็เข้าไปเรียนให้ทราบเรื่อง ซึ่งท่า่นจำเรื่องได้
ผมเอา สำเนา พรบ. ให้ท่านดู ท่า่นขีดเส้นใต้ พยักหน้าตาม พูดคุยไปด้วย  เสียงเครือๆ หน่อย  เหมือนไม่ค่อยมั่นใจอะไรบางอย่าง  (ผมระแวงอีกแล้ว) แต่ก็ไม่ได้เอ่ยเรื่องใด

ซักพัก น้อง จนท. ผู้หญิงคนเดิม เดินเข้ามา ป. จึงส่งเรื่องต่อให้
น้อง จทน. เอาเอกสารปึกเดิมให้ผมดู ในหนังสือรับรอง มีรอยดินสอร่างไว้ ข้อความเพิ่มเติม ประมาณว่า "......... และไม่เป็นผู้ขาดคุณสมบัติ ตาม ม.xxx ของพรบ. อาวุธปืน"

จะให้ผมเอาไปบอกภริยาออกหนังสือรับรองใหม่ ให้เพิ่มข้อความดังว่า

ผมก็เลยแย้งว่า " ก็ที่คุยทางโทรศัพท์ บอกว่า ติดตรงไม่ใส่เนื้อความ ม.36 ของ มาตราที่อ้างถึงนี่นา  ไม่ไำด้พูดถึงตรงนี้ "   

จนท. ก็ตอบไม่ได้ เลี่ยงไปบอกว่า มันต้องเขียนแบบนี้อ่ะค่า 
ผมก็แย้งว่า ก็วันนั้น น้องเป็นคนถ่ายสำเนาให้ตัวอย่างหนังสือรับรองไปด้วยตัวเอง และนี่ก็พิมพ์ตามนั้นเด๊ะเลย   เปลี่ยนแค่ชื่อ กับหน่วยงานเองนะ   ไม่ได้แต่งเองเลย

จนท. ตอบไม่ได้ พยายาม พูดอ้อมไปอ้อมมา ว่า มันแล้วแต่นายอำเภอ แต่ละอำเภอไม่เหมือนกัน

ระหว่างนั้น ป. อาวุโส ก็คงเงี่ยหูฟังด้วยนะคับ ผมว่า เพราะไม่มีแขกอื่น

ผมก็บอกว่า เอางี้นะคับ ผมไม่ขอใหม่แล้ว เอายื่นตามนี้ เอาพรบ. แนบเลย จะได้ชัดๆ

ป.อาวุโส หันมาบอกว่า "มันเป็นดุลพินิจของนายอำเภอ เดี๋ยวถ้าหากว่า ท่านจะไม่อนุญาตท่านจะมีหนังสือให้มาแย้งค้าน หรือให้มาให้ข้อมูลเพิ่มเติมได้ภายใน 15 วัน

ผมก็เลยบอกว่า "ไม่เป็นไรครับ  ผมยื่นเอกสาร และหลักฐานตามนี้ ซึ่งเป็นไปตามระเบียบก็แล้วกัน ถ้าท่านไม่อนุญาต ท่านก็คงแทงเรื่องลงมาเป็นหนังสือให้ผมทราบ"  (จำมาจากพี่ๆ ในเว็บนี้) 

จนท. เอาหนังสือรับรอง ที่มีรอยดินสอ เขียนเพิ่มไปปรึกษา ป.อาวุโส  ซึ่งท่านก็เอายางลบ ลบออกให้ (สรุปว่า ไม่ต้องเพิ่มข้อความ)
และหันมาคุยกับผมต่อว่า  ที่ต้องให้เขียน เพราะจะได้พิจารณาง่ายขึ้น เพราะรับรองว่า ไม่เป็นผู้ขาดคุณสมบัติตาม พรบ. อาวุธปืน

ผมอดไม่ได้ก็เลย ตอบว่า " ที่จริง รับราชการมาขนาดนี้ ทำหน้าที่มาขนาดนี้ ไม่น่าจะขาดคุณสมบัติไปได้นะครับ"   

ป.อาวุโส บอกว่า "ที่จริงก็คงไม่ขาด แต่เขียนไปให้มันครบก็ได้ครับ แต่ไม่เป็นไร"

ผมคิดในใจต่อว่า "มันไม่เมคเซ้นต์ อะครับ  หนังสือรับรอง เขาก็เขียนว่า ทำงานนี้ หน้าที่นี้ ความประพฤติดี ไม่เสียหาย ทำงานด้วยความขยันขันแข็ง   ก็ถูกแล้ว  จะมีผู้บังคับบัญชากี่คนที่จะไปรู้ว่า คุณสมบัติตาม พรบ. อาวุธปืน มันว่าไว้อย่างไร???"  แต่ไม่ได้พูดออกไปนะครับ

สรุปว่า ผมยื่นแค่นั้น และก็ขอสำเนา ป.1 กลับมาด้วย   จนท. ผู้หญิงบอกว่า ให้รอว่านายจะเรียกสอบวันไหน คงจะเรียกสอบพร้ัอมคนอื่นอีกสองสามคนที่ยื่นไว้

แล้วผมก็ลากลับ


ไปสองครั้งแล้ว เขาก็ยังไม่เอ่ยเรื่องค่าใช้จ่ายอื่นใดนะครับ

ลุ้นอยู่ว่า จะราบรื่นดีไหม? ถ้ามีความคืบหน้าจะมาเล่าให้ฟังใหม่ครับ

เล่าสู่กันฟังครับ
 

มันเป็นเรื่องชวนรำคาญพอสมควรครับ

หนังสือรับรองของผู้บังคับบัญชา ที่ต้องลงชื่อโดยผู้บังคับบัญชาสูงสุดของที่นั่น

ทีนี้ ผู้บังคับบัญชาสูงสุด ไม่รู้จักเรา.... ก็เลยไม่รู้ ว่า ทั้ง ๙ ข้อ เราขาดหรือไม่ขาดข้อใด

ผู้บังคับบัญชาที่รู้จักเรา ก็ไม่มีอำนาจเซ็นต์ ... ประมาณนั้น...

ป.๓ โครงการ ไม่ค่อยงอแงหรอกครับ เรียกค่าน้ำชายาก ... ถ้าจะยากสุดก็ ตรงหนังสือรับรองของผู้บังคับบัญชานี่แหละ

มาตรา 36 พ.ร.บ.ฟื้นฟู ฯ พ.ศ.2545 มันยาวมาก พิมพ์ไปก็ล้นหน้ากระดาษ (ถ้าเป็นหน้าที่ผม ผมไม่ลงหลายหน้าหรือ) ผมว่าไม่มีปัญหาอะไร เดี๋ยวก็เรียกมาให้ไปรับ ป.3 ครับ 

ขอให้ได้ ป.3 ในเร็ววันครับ

ขอบคุณทุกท่านครับ

เมื่อกี้ ตอน 5 โมงเย็น  จนท. โทรมาตาม บอกว่า วันจันทร์นี้ นายขอสอบ เวลา 11  นาฬิกาครับ   เห็นว่า มีสองสามราย  คืบหน้าอย่า่งไร จะมาเล่าให้ฟังครับ

หนังสือรับรองผมไม่ยากครับ เพราะเจ้านายผมก็สั่งโครงการนี้เหมือนกัน พิมพ์หนังสือไปท่านเซ็นต์ให้ทันทีครับ

วันจันทร์นี้ขอให้โชคดีครับ ปกติถ้าเรียกสอบแบบนี้น่าจะรอรับ ป.3 ได้เลยนะครับ

ผมเดินทางออกจากเชียงใหม่ วันพฤหัสเช้านะครับ นกแอร์ 7.45 น. กลับ 16.25 น. ไปด้วยกันจะได้ประหยัดค่าแท๊กซี่ครับ

ป.๓ โครงการ ไม่ค่อยงอแงหรอกครับ เรียกค่าน้ำชายาก ... ถ้าจะยากสุดก็ ตรงหนังสือรับรองของผู้บังคับบัญชานี่แหละ

ของผมตรงกันข้ามครับ ป3 (กระบอกที่ 2) ยาก หนังสือรับรอง แค่ 2 ชม. ได้ครับ ถ้านายอยู่ แถมมีแบบฟอร์มไว้ให้เรียบร้อย เป็นมาตราฐานเลยครับ

ขอให้เป็นข่าวดีนะค๊ะ  ได้ป.3 มาในเร็ววันค่ะ

อำเภออะไรนี่ ท่าทางจะเข้าใจกฎหมายคลาดเคลื่อน ถ้ามีปัญหามากนายทะเบียนไม่อนุญาตก็อุทธรณ์ต่อ รมต.มหาดไทย หากไม่อนุญาตอีก ก็ร่างฟ้องศาลปกครองเลยครับ ขอให้โชคดีครับ

เอาใจช่วยครับ ::002::

ขอให้โชคดีครับ...

ขอให้โชคดีครับ ::002::
แล้วมาส่งข่าวกันหลังจากไปพบท่านก็แล้วกัน

ว่าแต่มันน่าหงุดใจและเสียเวลาทำงานจริงๆนะครับ ::013::

ขอให้เรียบร้อยนะคร๊าบ

ขอให้เป็นไปด้วยความราบรื่นนะครับ แล้วมาเล่าสู่กันฟังอีกนะครับ

ขอให้ได้ป.3โดยเร็วและราบรื่นครับ...:D

ขอเล่าความคืบหน้านะครับ
วันนี้พาภริยาไปตามที่ท่านนายอำเภอนัดสอบปากคำเพิ่มเติมแล้วครับ
บรรยากาศทั่วไปในส่วนของจนท. ก็ดีครับ
ก่อนเข้าห้อง ผมกดบันทึกเสียงใส่กระเป๋าเสื้อไว้ก่อนล่ะครับ ใครจะว่า ไม่ให้เกียรติก็ว่าไป ผมคิดว่า เผื่อไว้ไม่เสียหลายครับ

ขอตัดตอนมาเล่าถึงตอนที่นายทะเบียนสัมภาษณ์เลยนะครับ
สวัสดีทักทายเชิญนั่งเสร็จ ท่านก็เริ่มเลยว่า "ทำไมถึงคิดว่าจำเป็นต้องซื้อปืน" 
ภริยาผมก็อธิบาย ไปเรื่องโดยหน้าที่ต้องเกี่ยวข้องกับผู้เกี่ยวข้องกับยา ทั้งเสพติด ทั้งเคยขาย บางทีส่งตัวมา มีการแอบหนี ต้องไปตาม จนถึงถ้าจำเป็นก็ต้องเข้าจับกุมด้วย (ตามหน้าที่ใน พรบ. ที่เคยแนบไป)

ฟังเท่านี้ ท่านก็แย้งเสียงดังเลยว่า "โอย นั่นมันไม่เกินอำนาจหน้าที่เหรอ เป็นผู้หญิงด้วย มันต้องเป็นหน้าที่ของ จนท. ตำรวจ หรือฝ่ายปราบปรามโดยตรงมั้ง" 

ภริยาก็อธิบายต่อไปว่า ตามปกติก็เป็นอย่างนั้น แต่ถ้ากรณี ส่งตัวมาที่เราแล้ว ในระหว่างที่เราดูแลต่อเนื่องนี่ ความรับผิดชอบ อำนาจหน้าที่ ในเบื้องต้นเป็นของเรา ถ้าเราเอาไม่ไหว ขั้นตอนต่อไปถึงจะไปถึง ตำรวจท้องที่

ท่านนายทะเบียน ก็ดูไม่ค่อยจะคล้อยตาม ทำนองว่า มันจะบู๊เกินหน้าที่ สุภาพสตรีตัวเล็กๆ

ผมก็เลยขออนุญาตเสริมว่า "ในส่วนของการปฏิบัติงานที่พูดไปก็เป็นส่วนหนึ่ง แต่คงไม่ใช่ประเด็นหลัก ประเด็นหลักคือ  เราต้องการมีไว้เพื่อป้องกันชีวิตและทรัพย์สิน ไม่ว่าขณะปฏิบัติหน้าที่ หรือ ขณะใช้ชีวิตประจำวันนอกเวลาราชการ"

ก็เลยเปลี่ยนประเด็นมาเป็นเรื่องป้องกันชีวิตและทรัพย์สินในภาพใหญ่แทน

นายทะเบียนก็พูดมาว่า แกมีนโยบายไม่เพิ่มจำนวนปืนในท้องที่อำเภอนี้ เพราะทุกวันนี้ปืนเยอะแล้ว อีกอย่างมีข่าวบ่อยๆ ว่า มียิงกันที่โน่นที่นี่  เรื่องความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน เป็นหน้าที่ของบ้านเมือง จนท.ตำรวจอยู่แล้ว 
ขนาดผมเอง มีไว้ ยังไม่เคยพก หรือใช้เลย นี่ เอาใส่ตู้เซฟไว้ที่อำเภอนี่  (ว่าไปโน่นเลย)

ผมก็อธิบายต่อไปว่า "มันก็จริง รัฐมีหน้าที่ต้องดูแลทุกข์สุข ความปลอดภัยของประชาชน แต่คงปฏิเสธไม่ได้ว่า ทุกวันนี้ รัฐไม่สามารถดูแลได้ทุกที่ทุกเวลา เพราะฉะนั้น เราก็ต้องดูแลป้องกันตัวเองด้วย ในกรณีฉุกเฉิน ทำนอง มีไว้ไม่ได้ใช้ ดีกว่าจะใช้แล้วไม่มี  (จำคำพี่ๆ นี่แหละ)

ท่านก็เงียบคิดซํกพัก ก็โต้มาว่า  โอ๊ย ถ้าอย่างนี้ คนในอำเภอเป็นไม่รู้กี่หมื่น ก็ต้องมีปืนหมดทุกคนสิ?

ผมเก็บจะสวนแล้วว่า ก็ถ้าเขามีตังค์ซื้อ และท่านอนุญาต เขาก็แห่มาเอาอยู่แล้ว ไม่มีใครเชื่อว่ารัฐจะคุ้มครองเขาได้ตลอดเวลาหรอกทั่น"  (แต่ไม่ได้พูดนะครับ ผมพยายามรักษาบรรยากาศ)

ท่าทีตอนนั้น จะไม่อนุญาตท่าเดียวครับ
แต่ก็ไม่ได้มีท่าทีเรื่องเงินๆ ทองๆ นะครับ อันนี้ชมเชยจริง ๆ   แต่เหมือนท่านไม่เข้าใจมากกว่า

เอาให้ผมดูด้วยว่า วันนี้ นัดมาสอบปากคำวันเดียว  6 คน  อนุญาตไปแค่ 1 เป็น จนท. ราชทัณฑ์ ที่อนุญาตเพราะผู้บังคับบัญชาทำหนังสือมาด้วยว่า อนุญาตให้ จทน.คนนั้น นำปืนส่วนตัวไปปฏิบัติงานด้วย

ส่วนที่เหลืออีก 4 ราย ไม่อนุญาต (เอาแฟ้มให้ผมดูด้วย) 
มี จนท. ป่าไม้ ระดับ 6  ไม่อนุญาต เพราะมีอยู่แล้ว 1 กระบอก  โดยท่านบอกผมว่า "ใครมันจะพกปืนทีละ 2 กระบอกล่ะ"    ผมล่ะ เข้าใจท่านเลยว่า มุมมองท่านแคบไปนิดนะ  อิอิ

อีกคน ไม่อนุญาต เพราะ เห็นว่า ไม่มีความจำเป็น 


กรณีภริยาผม ท่านก็เห็นว่า ไม่น่าจะจำเป็นต้องมีปืน เพราะต่อให้มีปืน ก็อนุญาตให้มีและใช้ที่บ้าน เอาไปไหนมาไหนก็ไม่ได้ มันไม่ได้ช่วยอะไรหรอก

ผมต้องนั่งนิ่งๆ แล้วอธิบายให้ท่านฟังอีกรอบ ว่า สภาพความจริงทุกวันนี้ ผมเรียนท่านตรงๆ ว่า ในสถานการณ์ที่เห็นว่าน่าเป็นห่วง ผมต้องไปส่งเขาทำงาน ไปเป็นเพื่อน และหลายครั้งที่ผมไปด้วยไม่ได้ ผมต้องเอาปืนผมให้เขาติดตัว  กันไว้ดีกว่าแก้

ท่านก็แย้งว่า ถ้าเกิดต้องใช้จริงๆ  ไม่กลัวจะกลายเป็นของแถมให้เขาไปเหรอ?
ผมก็ต้องเรียนท่านว่า เรื่องนี้เราก็คิด และหลายปีมานี่ ผมก็พยามให้เขาฝึกทักษะความชำนาญ การระแวดระวังภัย พอสมควร
ตรงนี้เลยถือโอกาสโม้สำทับซะหน่อยว่า  "อย่างทุกวันนี้ ผมเข้าสนามยิงปืน ก็พาเขาไปฝึกความชำนาญด้วยประจำ ดูเหมือนเขาจะยิงดีกว่าผมด้วยซ้ำ"  (จริงๆ ไม่ได้ไปบ่อยขนาดนั้นหรอกครับ ไม่มีตังค์)

แล้วท่านก็บอกว่า "แล้วทำไม ไม่โอนปืนของน้องให้ภริยาไปซะล่ะ จะได้ไม่ต้องซื้อใหม่"

ผมก็ (อ้าว)  "ต่อให้โอนให้ก็ต้องขอ ป.3 จากทั่นอยู่ดี อีกอย่าง ผมก็ต้องมีไว้เหมือนกัน"
นายทะเบียนนิ่ง คงนึกในใจว่า "เอ่อ จริง กรูไม่น่าหลุดเลย"  อิอิ

สุดท้าย ถามผมว่า "เคยทะเลาะกันไหม?" 

เคยสิครับ แหม ใครไม่เคยก็แปลกล่ะ แต่ว่า นั่นมันตอนเด็ก ตอนนี้ มันเล่ยจุดนั้นมาไกลแล้ว และอีกอย่าง เราโตจนป่านนี้ เรื่องพวกนี้เราคุยกันเมื่อสิบปีแล้วครับ ว่าถ้ามีอารมณ์โมโห  เราไม่ยุ่งกับปืนผาหน้าไม้" 

อยากจะพูดต่อเหมือนกันว่า "ถ้าจะฆ่ากัน ไม่จำเป็นต้องปืนหรอกครับ คว้าไม้กอล์ฟ ง่ายกว่าเยอะ ไม่ติดคุกด้วย"  อิอิ แต่ไม่ได้พูดครับ  (สถิติ ผัวเมียทำร้ายกัน ผมว่า ปืน ไม่ติดอันดับนะ  เข่า แข้ง หมัดศอก และมีดโกน น่าจะน่ากลัวกว่า อันนี้ไม่ยืนยัน)

โต้ แย้ง อธิบายเหตุผลกันอยู่ ราว 30 นาทีเต็มๆ ครับ
ทำท่าจะไม่อนุญาต ผมก็นิ่งๆ สบตาตลอด ไม่ได้กังวล เพราะพี่ๆ ให้ความรู้ไว้แล้วว่า ถ้าไม่ให้ ก็อุทธรณ์ เสียเวลาอีกนิดหน่อย ไม่เห็นต้องคิดมากเลย

สุดท้าย ถามผมว่า ทำงานรับราชการด้วยกันเหรอ?  (คงจะหาข้อมูล)
ผมก็เลยตอบว่า "คนละที่ครับ ผมช่วยราชการที่..................... )   

ท่าทีก็อ่อนลงเล็กน้อย
ผมรีบสำทับว่า ถึงยังงัย ผมก็ยืนยันว่า ผมต้องให้เธอมีไว้เผื่อคราวจำเป็นจริงๆ ที่ต้องใช้ ซึ่งเราหวังว่าจะไม่ต้องใช้ และไม่อยากจะใช้เลย เพราะชักออกมาก็มีเรื่องยุ่งยากแล้ว และทุกวันนี้เรียนท่านตามตรง ในสถานการณ์ไม่น่าไว้วางใจ ผมก็เอาของผมให้เขาไปอยู่แล้ว ดังที่เรียนตอนแรกแล้ว แม้ว่าไม่ถูกตามข้อกฏหมาย แต่ถ้าต้องเลือกระหว่างชีวิต ความปลอดภัย กับข้อกฎหมาย ผมเลือกอย่างแรกไว้ก่อน  และที่มานี่ก็เพราะเห็นว่าจำเป็นต้องมีไว้ และอยากให้ถูกตามระเบียบและกฏหมายที่สุด ไม่อยากให้ผิดมือ  เพราะงั้น คงต้องขอความกรุณาจากท่านว่า ได้ช่วยพิจารณาให้ด้วย "  (ผมร่ายตามนี้เลยครับ)

ท่านนิ่งคิด อมยิ้ม สบตากับผม ผมไม่หลบตาเลย
"ถ้าอย่างนั้น ผมก็คงต้องอนุญาตล่ะนะ แม้ไม่อยากให้มีปืนเพิ่มในอำเภอเรา" 

ผมรีบ ยกมือไหว้ ขอบคุณท่านมากครับ
ภริยาเห็นก็ขอบคุณตาม

"เห็นภริยาจะต้องไปประชุมที่กรมฯ วันที่ 2-3-4 นี้ พอดี ไม่ทราบว่า เอกสารจะทันไหมครับ จะได้ไปรับปืนซะในคราวเดียวกัน "   

"เดี๋ยว ให้จนท. เขียน ป. 3 ให้  คงใช้เวลาไม่นาน"

ผมรีบลากลับเลยครับ  กัวท่านเปลี่ยนใจ

อิอิ



=================
ขอบคุณพี่ๆ ทุกท่าน ที่ให้ความรู้ และเป็นกำลังใจให้ครับ
ทำให้มั่นใจขึ้นเยอะเลย เมื่อมั่นใจ เราก็นิ่งครับ

เดี๋ยวอาทิตย์หน้า จะลงไปรับปืนให้ภริยาแล้วครับ

ยินดีด้วยครับ..... ::002:: ::014::

อ่านที่ท่านจขกท.เล่าแล้วเหนื่อย(ใจ)
ขอคารวะในความความอดทนของท่านครับ  ::014::

ยินดีด้วยครับ

ยินดีด้วยครับ ต้องชักแม่น้ำทั้งห้าเลยนะครับกว่าจะได้มา  ;D

ลุ้น.........จนหยดสุดท้ายเลยครับ..........เฮ้อ.........โล่งใจ.......ยินดีด้วยครับ

 ;D  ::002::   ยินดีด้วยครับ ...

  เป็นการใช้เหตุผลชี้แจงจนนายทะเบียนจนด้วยเกล้าจำนนและยอมอนุญาต ..... ขอแสดงความยินดีเป็นอย่างยิ่งครับ

ฟังแล้วเหนื่อยใจอีกคน ครับ . ยินดีด้วยนะครับ.คุณ  Just  :D

 ::002:: ::002:: ::002:: ::002::  รายการต้อนนายทะเบียน โดนรุกฆาตด้วยขุนกะม้า จนกลางกระดานครับ  ดีใจด้วยครับ

ถ้าเป็นเมื่อก่อนก็คงแล้วแต่บุญแต่กรรมเหมือนกันครับ นี่ดีว่าได้ความรู้จากพี่ๆ นี่ล่ะครับ พอมีข้อมูล ก็ทำให้เราเดินถูกทางครับ

ขอบคุณพี่ๆ ทุกท่านครับ

สวัสดีครับ
ผมก็อยู่เชียงใหม่ครับ
อากาศไม่ดีเลย ::004::

Congratulation krub....
You are so cool krub..... ::003::

ขอแสดงความยินดีด้วยครับ  :D

 ;) ยินดีด้วยครับ

ยินดีด้วยครับ โชคดีจังครับ ไปประชุมที่กรม แถมไปรับปืนเลย ขอให้ได้ ป.3 ทันเวลาครับ

พรุ่งนี้ก็คิวผมแล้วครับ  แต่คนละจังหวัดกัน :D

ท่าน จขกท.ใจเย็นและมีความอดทนเป็นเยี่ยมครับ...

ถ้าหากผมเป็นนายทะเบียนก็คงต้องออกให้แน่ๆครับ...

ส่วนหนึ่งผมว่านายทะเบียนอาจทดสอบขันติของแฟนท่าน จขกท.ครับ...:D

ขอให้โชคดีครับ สู้ๆ

ยินดีกับท่านเจ้าของกระทู้ด้วยครับ

วันนี้ก็ถึงคิวผมแล้วเหมือนกันครับ

จะไปฟังท่านว่า เพราะเหตุใดจึงไม่อนุมัติ

ความพยายามอยู่ที่ไหน ความสำเร็จอยู่ใกล้ๆนั่น

ยินดีด้วยครับ  :VOV: :VOV:

 :D :Dอ่านไป ลุ้นไป ตื่นเต้นดีจัง แต่ก็ได้สมใจ ;D ;D
ยินดีด้วยครับ :VOV:

ขอแสดงความยินดีกับพี่Justกับภรรยาด้วยครับ  ;D ;D ;D  ::002::

เยียมครับ...มีเหตุ..มีผล....

ลุ้นซะสนุกเลยครับ.....ยินดีด้วยครับ :~)

ยินดีด้วยครับ เหนือยแทนเลย...

...ได้ ป.3 ..ก็ตอนนี้แหละ...;D

...ยินดีด้วยครับ....

- ขอชม จขกท.  เยี่ยมจริง ๆ ๆ.....  ::002::   ::002::   ::002::

- ผมก็ซื้อปืนโครงการฯ ได้ ป. 3  เมื่อ 20 มี.ค.   ตั้งใจจะไปรับปืน วันที่ 1 เม.ย.   กว่าจะได้ต้องขึ้นอำเภอ 3 ครั้ง เหมือนกัน ( เรื่องติดอยู่ที่ เจ้าหน้าที่ฯ และหน้าห้อง ... ทนไม่ไหวเดินเข้าห้องนายทะเบียน   ;D )

ยินดีด้วยคร๊าบ  ;D

 ::002::
 ::002::
 ::002::
ท่านทดสอบความอดทนของคุณน่ะครับ ว่า ถ้าคุณอดทนกับบรรยากาศแบบนั้นไม่ได้ ก็อย่ามีปืนเลย

เอ...แต่ที่พูดถึงนี่ ภรรยาคุณมิใช่รึ

ยินดีด้วยครับ  :D
เจ้าของกระทู้ เขียนบรรยาย ได้ดี จัง ขอชม

ขอแสดงความยินดีด้วยครับที่ภรรยาของท่านได้ ป.3 ความอดทนเป็นเลิศ ขอนับถือด้วยความจริงใจ

ของผมวันนี้เป็นวันที่ 29 แล้วครับนับแต่วันที่ยื่นขอ ป.3 ผมคงโทรไปเรียนถามท่านปลัด สัปดาห์ละครั้ง จนกว่าจะได้ครับ

ผมจองปืนกับ สน.อส. ตั้งแต่ศุกร์ที่ 22 ก.พ.51(ได้ใบจองในวันนั้น) แล้วไปยื่นขอ ป.3 วันจันทร์ที่ 25 ก.พ.51

เรียนถามเพื่อน ๆ สมาชิกว่า หากผมได้ ป.3 เลยวันที่ 31 มี.ค.51 ซึ่งเป็นวันสิ้นสุดโครงการของ สน.อส.ระยะที่ 3  เมื่อผมนำ ป.3 ไปตัดสดที่ สน.อส.ในเดือน เม.ย. 51 นี้ จะถือว่าเลยกำหนดหรือไม่ครับ ::004::

แสดงว่า มีปืนในสต็อคอยู่แล้วใช่ไหมครับ เพราะบอกว่าจะไปตัดสด
ผมมีความเห็นว่า วันสิ้นสุดโครงการ 31 มี.ค. 51 น่าจะหมายถึงวันปิดรับเรื่องว่าจะอนุญาติให้เข้าโครงการหรือไม่  ไม่ใช่วันสิ้นสุดการส่งมอบ เพราะฉะนั้น ถ้ายื่นเรื่องเข้าร่วมโครงการไว้ในระยะเวลากำหนดแล้ว จะส่งมอบปืน กันหลังจากนั้นก็ไม่ถือว่าเลยกำหนดหรอกครับ เว้นแต่จะมีกำหนดไว้ชัดเจน ลองอ่านดูระเบียบอีกทีครับ

ขอบคุณมากครับ ถ้าอย่างนั้นทางอำเภอจะอนุมัติให้ ป.3 ช้าไปอีกก็คงไม่เป็นไร ได้มาเมื่อไหร่ก็ไปตัดสดที่ สน.อส. เมื่อนั้น เกรงแต่ว่าจะมีอาวุธปืนให้เลือกน้อยลงเท่านั้น ในใบจองเขาพิมพ์มาเป็น สไตเออร์ ซึ่งผมก็มอง ๆ หมายตารุ่นนี้อยู่ ส่วนอีก 2-3 รุ่นก็คือ G19, G26 และ RAMI ครับ

วันหน้าก็ขอฝากเนื้อฝากตัวในฐานะมือใหม่ไม่เคยมีปืน ผมยังต้องศึกษาและขอความรู้จากประสบการณ์ของเพื่อน ๆ สมาชิกอีกมากครับ