เว็บบอร์ดสนทนาภาษาปืน

การลดขนาดของจันทัน จากเหล็กซี 120 มม. เป็นเหล็กกล่อง 100 มม.
และแปเหล็กจาก 100 มม. เป็น 80 มม.(อันนี้เหล็กซีเหมือนเดิม)
เนื่องจากผู้รับเหมาแจ้งว่าเหล็กที่ระบุในแบบไม่มีในจังหวัด ต้องสั่งเอา
และถ้าออเดอร์น้อยสั่งเหล็กไม่กี่เส้น ร้านเค้าก็ไม่สั่งให้(บ้านชั้นเดียวครับ)
และอธิบายเพิ่มเติมว่า
การลดขนาดเหล็กลงแค่นี้ส่วนต่างแค่ไม่กี่ร้อย-กี่พันหรอก ไม่ต้องกังวลว่าเค้าจะโกง(ผมให้เค้าเหมาครับ)
สมาชิกที่เป็นผู้รับเหมามีความเห็นเป็นยังไงครับ
ผมกำลังจะถูกเอาเปรียบรึเปล่า รึว่าการปรับเปลี่ยนแบบเปลี่ยนขนาดเป็นเรื่องปกติของการก่อสร้าง
ขอบคุณครับ

ขณะนี้เหล็กขึ้นราคาไปเกิน50%    แต่การลดขนาดโดยอ้างว่าไม่มีสินค้า     ฟังไม่ขึ้นครับและเหล็กตัวซีนี่โกงความหนาของเหล็กด้วย     พ่นสีว่า3.2มม.วัดจริงๆได้1.6-2มม.ไม่ควรลดขนาดครับ    ถึงแม้จะรับน้ำหนักได้ก็ตามที    และเหล็กพวกนี้มีขายทุกอำเภอแน่นอน

ลืมดูไปเหล็กตัวซี120มม.ไม่มีนะครับ   จะเป็น100มม.125มม.และ150มม.  ในตัวจังหวัดจะมีขายแต่125มม.   ไม่ค่อยนิยมใช้จะเป็น100กับ150มม.จะนิยมใช้มากกว่า  เอาเวอร์เนียไปวัดรุ่นหนา2.3มม.วัดได้0.8มม.    3.2มม.วัดได้1.8-2มม.  เลยนิยมเรียกเป็นกก.มากกว่า

ขอบคุณพี่เล็กครับ

ถ้าสั่งทำไปแล้ว... ก็ตามความเห็นท่านอื่นข้างบนครับ...

แต่ถ้าหากยังไม่ได้ลงมือทำ และงานสามารถสับส่งต่อให้เจ้าอื่นได้โดยไม่ขุ่นข้องหมองใจกัน... นายสมชายแนะนำให้ไปว่าจ้างร้านซีเมนต์ไทยโฮมมาร์ททำทั้ง 1) โครงหลังคา และ 2) มุงหลังคา... โดยทั้งค่าของ+ค่าแรงงาน ราคาไม่แพงกว่าผู้รับเหมารายย่อยทำเองครับ...

ผลดีจากจ้างเหมาโดยตราช้างคือ รับประกัน 5 ปี และฝีมือประณีตดีมาก มีวิศวกรตรวจสอบตลอดเวลาตั้งแต่ตรวจความแข็งแรงของอะเส ตรวจความแข็งแรงของโครงหลังคา มี QC ตรวจสอบความเรียบร้อยของการมุงกระเบื้อง...

สิ่งสำคัญอีกอย่างนึงคือ หากยังไม่ได้ทำโครงหลังคา... น่าจะพิจารณาใช้โครงชนิดเหล็กถัก (โครงทรัส)... ผลดีคือโครงหลังคาจะเบากว่าโครงเหล็กธรรมดาถึง 2 เท่าครับ... แปลว่า Safety Factor ของบ้านเราจะเพิ่มขึ้นอีกด้วย...

นายสมชายเพิ่งสร้างบ้านจวนเสร็จ ช่วงนี้หน้ามืดเลย ผู้รับเหมาทิ้งงานเสียด้วย เกิดคดีคาโรงคาศาลอยู่... นายสมชายเลยจำเป็นต้องทำตัวเป็นผู้รับเหมาเสียเอง เป็นตั้งแต่สถาปนิก วิศวกร จัดซื้อ โฟร์แมน และผู้รับเหมา ...ฮา

แล้วจ้างวิศวกรรายเดือนเป็นที่ปรึกษาเอาไว้ให้ตรวจสอบตามหลักวิชาการอีกทีนึง... เหนื่อยมากครับ ทั้งงานไซต์และงานคดีแพ่ง...

ขอบคุณพี่สมชายครับ

ลองเข้าไปเที่ยวดูที่กระทู้ "(^_^")รวมช่างท้องถิ่นไทย หัวใจชอบปืน" สิครับ คำตอบเพียบ......

...ผู้รับเหมา..จุดประสงค์..คือ "กำไร"..เจ้าของบ้าน จุดประสงค์ "งานดี ราคาถูก"...


        ตรงจุดนี้ ผมมองว่า เป็นข้อแก้ตัว ตามสไตล์ ลูกเล่น ของผู้รับเหมาทั่ว ๆ ไป แผนนี้ ผมเจอะ มาเยอะ...เป็นลูกไม้ตื้น ๆ ที่นิยมทำกัน ถ้าเจ้าของงานตามไม่ทัน ก็เข้าล๊อคไป  แต่ถ้าเจ้าของงาน ...ตามทัน ..อันนี ก็ต้องว่ากัน..

     ..จะด้วย..เหตุผลใดก็แล้วแต่......ถ้าเปลี่ยน ขนาด ชนิด วัสดุ ก็ต้องเปลี่ยนราคาด้วย... แต่จะเปลี่ยนได้นั้น ...ทางผู้รับเหมา ต้องหาวิศวกร มารับรอง ว่าเมื่อเปลี่ยนแล้ว บ้านเราจะต้องไม่มีปัญหาในอนาคต ..ตรงนี้ อย่าใช้ ความน่าจะเป็นมาตัดสิน อย่างเช่น.....ไม่เป็นไรหรอก บ้านชั้นเดียวเอง...น้ำหนักมันลงไม่เยอะ...ไม่น่ามีปัญหา ....อันนี้ ....ไม่ได้....ที่ถูกคือ  ต้องมีการรับรองโดยวิศวกร อย่างเป็นลายลักษณ์อักษร.....และจะต้อง ทำการเปรียบเทียบราคา วัสดุเดิม และวัสดุใหม่ ด้วย ...เอาส่วนต่างมาหักลบในกรณีนี้...เหล็กชนิด หน้าตัด แบบเดียวกัน......หน้าตัดเล็กกว่า ย่อมราคาถูกกว่าแน่นอน..เพราะฉะนั้นทางผู้รับเหมาต้อง ..คืนเงินให้เรา เจ้าของงาน .  และทุกอย่างต้องทำเป็นลายลักษณ์อักษร...อย่างละเอียด..ถี่ถ้วน

     ...ยึดหลักในการทำทุกอย่างคือ "เราต้องไม่เสียผลประโยชน์  ให้คุ้มค่ากับเงินที่เราต้องจ่ายไป"  ...ครับ...

       แนะนำตามที่ผมได้อ่านที่ท่านบอกมาได้แค่นี้ครับ..

ข้อเปรียบเทียบ..ระหว่างเหล็กทั้งสองชนิด
ในขนาดเท่ากัน..และความหนาเท่ากัน..เหล็กกล่องจะมีความสามารถในการรับนำหนักได้ดีกว่า
และราคาเหล็กล่องก็มีราคาที่แพงกว่าเหล็กตัวซีครับ..

ผมว่าตามพี่เล็กครับ ถ้าให้ดีสั่งระงับการก่อสร้างในส่วนที่เกี่ยวกับหลังคาไว้ก่อนครับ แล้วลองขับรถเข้าไปดูในตลาดครับสอบถามจากร้าน
ขายเหล็กในตลาดเลยครับ
แต่ตามประสาของผมที่เป็นผู้รับเหมานะครับ ประการแรกผู้รับจ้างไม่อยากรับภาระราคาค่าเหล็กที่มันแพงขึ้น
ประการที่สองต้องการเรียกราคาในทำนองขอความเห็นใจจากผู้ว่าจ้าง
ต้องถามอย่างนี้ว่าผู้รับจ้างได้ทำรายการประมาณราคาเสนอเจ้าของบ้านหรือเปล่าถ้าทำมันมีราคาอยู่ในรายการประมาณราคาอยู่แล้วครับ
การถอดราคาโดยส่วนใหญ่จะเผื่อราคาเหล็กและปูนไว้พอสมควรอยู่แล้วครับ
ถ้าคิดไม่ตกยินดีให้คำปรึกษาครับ 0813800757  8.00-18.00 น.ครับ

ผมก็อยู่อุดรนะครับอยู่ อ.เมือง

ผมก็เป็นผู้รับเหมาครับ ขอตอบอย่างตรงไปตรงมาว่า ถ้าเปลื่ยนสเปคให้ลูกค้าครั้งใดภายใต้เงื่อนไขที่ว่าหาของไม่ได้  ::014:: ผมจะเปลื่ยนให้มีขนาดที่ใหญ่ขึ้นเท่านั้นครับ ถึงแม้ว่าขนาดที่เล็กลงจะสามารถใช้งานได้และอยู่ภายใต้ข้อกำหนดจากการคำนวณก็ตาม(โดยที่ขนาดที่ใหญ่ขึ้นไม่มีผลต่อโหลดอื่นๆ) ทั้งนี้เพื่อความสบายใจทั้งสองฝ่าย กล่าวคือลูกค้าจะได้สบายใจว่าสิ่งที่เราทำให้สามารถใช้งานได้ และเราจะได้สบายใจว่าจะไม่มีใครไปพูดภายหลังว่าเราเอาเปรียบลูกค้า ::014::

ขอโทษนะครับผมไม่ใช่ผู้รับเหมา แต่สร้างคนให้เป็นสถาปนิก วิศวกร หรือผู้รับเหมา ขอแสดงความคิดเห็นในเรื่อง การเปลี่ยนขนาดของวัสดุนั้นสามารถกระทำได้ แต่ต้องมีเหตุผลความจำเป็นพอสมควร การใช้ขนาดที่เล็กลง แต่ไปเพิ่มความหนา เพิ่มจำนวนให้มากขึ้น ถ้าสามารถคำนวนออกมาแล้วรับน้ำหนักได้ตามที่วิศวกรกำหนดไว้ ก็ไม่น่าจะมีปัญหาใดๆ แต่ทั้งนี้ต้องไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่ม แต่ปัญหาที่เราพบกันอยู่บ่อยๆ ก็คือเรื่องของความหนาเนื้อเหล็ก มักจะไม่เป็นไปตามความจริง ถ้าหากซื้อจากร้านค้าวัสดุที่ไม่ได้มาตรฐาน ประเภทที่ถามว่ามีเหล็กความหนากี่มิลลิเมตร จะได้คำตอบเป็นกิโลกรัม (น้ำหนักต่อเส้น) อันนี้ผมงงเลยคำนวนไม่ถูก ฉะนั้น จะเปลี่ยนอย่างไรแล้วต้องใช้เหล็กที่มีความหนาตามความเป็นจริงนะครับ  ส่วนเรื่องการเปลี่ยนแปลงแก้ไขรูปแบบ รายการก่อสร้างที่ยื่นขออนุญาตไว้นั้น ถ้าหากว่าอยู่ในพื้นที่เข้มงวดตรวจสอบการก่อสร้างอย่างจริงจังแล้ว ระวังนะครับอาจถูกระงับการก่อสร้าง (เปลี่ยนแปลงแก้ไข ต่อเติมจากแบบมากๆ)

เท่าที่ทราบการลด ขนาด ทำได้ครับ ตามเงื่อนไข (การออกแบบ) กำลังในการรับ น้ำหนักต้องไม่ลด

ถ้าลดขนาดตามข้างต้น ปัญหาที่สำคัญอีกอย่างคือ แหล่งวัสดุที่ ผู้รับเหมา หามาครับ เหล็กตลาด

จะมีเหล็ก ที่เรียก ว่าเหล็ก B และ C   ขนาดเท่า กัน แต่การรับกำลัง และจุดคลากของเหล็ก ต่ำกว่าที่ควร

อันนี้อันตรายมากครับ   ถ้าลดเสป็ค เหล็กเล็กลง จะต้องหนาขึ้น จำนวนเพิ่มขึ้น  หน้าตัดรับกำลังมีประสิทธิภาพเพียงพอ

ขอบคุณพี่ๆทุกท่านครับ ::014::