เว็บบอร์ดสนทนาภาษาปืน

กลับมาแล้วครับท่าน

http://www.komchadluek.net/2008/04/22/x_main_a001_199240.php?news_id=199240

"สมัคร"เซ็นอนุมัติ"ดวงเฉลิม" กลับเข้ารับราชการทหารสังกัด ศรภ. กองบัญชาการทหารสูงสุดแล้ว พร้อมคืนยศ "ร้อยตรี" หลังถูกไล่ออกพร้อมถอดยศเมื่อ 7 ปีก่อน เพราะตกเป็นผู้ต้องหาฆ่า "ดาบยิ้ม" และหลบหนีออกต่างประเทศ

(21มี.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า มีกระแสข่าวลือว่า นายดวงเฉลิม อยู่บำรุง บุตรชายของ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รมว.มหาดไทย ได้ร้องขอกลับเข้ารับราชการในสังกัดของสำนักงานรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม หลังถูกทางกระทรวงกลาโหมมีคำสั่งพักราชการ ภายหลังตกเป็นผู้ต้องหาในคดีสังหารดาบยิ้มในผับแห่งหนึ่ง ย่านถนนรัชดาภิเษก

ทั้งนี้ มีรายงานข่าวว่า นายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม ได้เซ็นคำสั่งอนุมัติให้นายดวงเฉลิมกลับเข้ารับราชการแล้วเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา พร้อมคืนยศให้ตามเดิมในตำแหน่งยศร้อยตรี





พล.อ.อุดมชัย องคสิงห เลขานุการ รมว.กลาโหม กล่าวว่า ขณะนี้ยังไม่เห็นหนังสือของนายดวงเฉลิมในการขอกลับเข้ารับราชการ เรื่องนี้คงจะต้องตรวจสอบรายละเอียดอีกครั้ง อย่างไรก็ตาม ตามหลักการแล้ว นายดวงเฉลิม สามารถกลับเข้ารับราชการทหารได้ตามปกติเหมือนคนอื่น เพราะหากการพิจารณาของศาลเห็นว่า นายดวงเฉลิมไม่มีความผิดตามข้อกล่าวหาในดดีการสังหารดาบยิ้ม ก็สามารถร้องขอกลับเข้ารับราชการได้ โดยตามขั้นตอนจะต้องร้องขอไปยังต้นสังกัดเดิมของนายดวงเฉลิมก่อน เมื่อต้นสังกัดพิจารณาตรวจสอบรายละเอียดเรียบร้อยแล้ว จะนำหนังสือการร้องขอกลับเข้ารับราชการนำเรียนให้ รมว.กลาโหม เซ็นอนุมัติอีกครั้ง 

ด้าน พล.อ.อัฏฐพร เจริญพานิช เจ้ากรรมพระธรรมนูญ ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีดังกล่าวว่า ทราบข่าวมาเหมือนกัน แต่ยังไม่เห็นรายละเอียด ซึ่งนายดวงเฉลิมไม่ได้เข้ามารับราชการในสังกัดกรมพระธรรมนูญ แต่อาจเข้ามารับราชการในสังกัดสำนักงาน รมว.กลาโหม ซึ่งการตรวจสอบตามกฎหมายของกระทรวงกลาโหม คนที่ถูกกล่าวจะต้องมีคำสั่งจากศาลยกฟ้องว่านายดวงเฉลิมไม่มีความผิด ถ้าศาลยกฟ้องแสดงว่านายดวงเฉลิมเป็นผู้บริสุทธิ์ ก็สามารถร้องกลับเข้ามารับราชการได้เหมือนเดิม ทั้งนี้ จะต้องไม่ขัดกับระเบียบของกระทรวงกลาโหมในข้ออื่นๆ ด้วย

“ผมไม่ทราบว่า ทางสำนัก รมว.กลาโหม ได้มีการตรวจตสอบแล้วหรือไม่ แต่หากจะให้กลับเข้ามาทำงานคิดว่าคงตรวจสอบเคลียร์เรียบร้เอยแล้ว และคงไม่ขัดต่อระเบียบกระทรวงกลาโหม ซึ่งเขาคงตรวจสอบคุณสมบัติให้เรียบร้อย ทั้งประวัติและระเบียบต่างๆ ขณะนี้ผมผมรอฟังผลอยู่ว่าข้อเท็จจริงเป็นอย่างไร” พล.อ.อัฏฐพรกล่าว

 เมื่อถามว่า หากได้รับกลับเข้ามาจะขัดต่อความรู้สึกของประชาชนหรือไม่ พล.อ.อัฏฐพรกล่าวว่า ตรงนี้สิเรื่องความรู้สึกของประชาชน ก็จะต้องว่ากันอีก ถ้าเกิดเขาไม่ขัดต่อระเบียบก็สามารถกลับเข้ามาทำงานได้ แต่รายละเอียดตอนนี้ยังไม่ทราบ ยังไม่เห็นคำสั่ง ซึ่งความรู้สึกขึ้นอยู่กับแต่ละคน ทุกอย่างจะต้องไม่ขัดต่อระเบียบ

 "ไม่ได้ขอร้องให้ทางกรมพระธรรมนูญในระเบียบการกลับเข้ารับราชการ ทางกรมไม่มีหน้าที่ในการตรวจ เรื่องนี้กรมเสมียตราเป็นผู้ดูแลในเรื่องการตรวจสอบการเข้ามารับราชการ" พล.อ.อัฏฐพรกล่าว

 ทั้งนี้ นายดวง อยู่บำรุง เคยถูกถอดยศและปลดยศเมื่อวันที่ 15 พฤศจิกายน 2544 หลังตกเป็นผู้ต้องหาในคดีสังหาร ด.ต.สุวิชัย รอดวิมุติ หรือ "ดาบยิ้ม" เมื่อคืนวันที่ 29 ตุลาคม 2544 ในทเวนตี้ผับ และหลบหนีออกนอกประเทศ ทำให้ผู้บัญชาการทหารสูงสุดในขณะนั้นลงนามในคำสั่งปลดออกจากราชการ ในวันที่ 15 พฤศจิกายน 2544 และถอดยศทหารเมื่อวันที่ 16 พฤศจิกายน ปีเดียวกัน

 :<< :<< :<< :<<

   มาแล้วครับน้าช้าง ------ > http://www.gunsandgames.net/smf/index.php?topic=55905.0

เซ็ง

จุดนี้ มั้งครับ ที่ทำให้ความขัดแย้ง ที่ไม่เคยคิดจะเผาผีกัน.. ที่เห็นแต่จะกัดกันตลอด
จึงเป็นสาเหตุ ให้เกิดการ อนุเคราะห์ .. และ ต้องตอบแทนบุญคุณ ระหว่าง ๒ ด๊อกฯ  ::001::

ขอโทษครับ โพสซ้ำตกข่าวครับ เพิ่งได้รับจากเนชั่นเมื่อก็้นี่เอง :D

เป็นเหตุผลให้ต้องพกอาวุธไปในเมืองและหมู่บ้านอีกครั้ง 

เรื่องนี้ไม่ใช่กลับเข้ารับราชการตามสิทธิอะไรหรอกครับ    แต่เป็นการบรรจุบุคคลซึ่งเคยเป็นข้าราชการทหารเข้ารับราชการเท่านั้นเอง
หลักเกณฑ์เป็นแบบนี้ครับ
ที่ถูกปลด ถอดยศ  เป็นไปเพราะเข้าหลักเกณฑ์ "ต้องหาในคดีอาญา แล้วหลบหนีไป"   ดังนั้นคำสั่งปลด และยอดยศ จึงเป็นคำสั่งที่ชอบด้วยกฎหมาย
และในเมื่อศาลพิพากษายกฟ้อง คดีถึงที่สุดแล้ว   ก็ไม่ได้ทำให้เกิดสิทธิกลับเข้ารับราชการ  เพราะที่ถูกปลด  เป็นเรื่องการหลบหนี  ไม่ใช่เรื่องทางคดีว่าทำผิดหรือเปล่า
ส่วนการบรรจุเข้ารับราชการ   ก็เป็นเรื่อง หน่วยที่จะรับ มีความต้องการตัวคนนี้หรือเปล่า  และเจ้าตัวมีคุณสมบัติที่จะได้รับการบรรจุได้หรือไม่

ในแง่การเมือง   เรื่องนี้เป็นสิ่งบอกเหตุ ถึงความแตกแยกในพรรคพลังประชาชน  และการที่คุณสมัคร ไม่ยอมฟังคำสั่งของคุณทักษิณ

 ::004::

เซ็งอีกหน

ทนอีกครั้ง.. ;D

     เซ็งเลย-- ทำไมสังคมไทยถึงเป็นอย่างนี้ไปได้ ระบบการลงโทษทางสังคมไม่มีเลยหรือ นอกจากให้ศาลตัดสินแล้ว  ไม่มีกระบวนการลงโทษอย่างอื่นเลยหรือ พอศาลบอกไม่ผิด ก็ เอาล่ะมันไม่ผิด มันไม่ได้ทำ ทั้งที่สังคมก็รับรู้มาตลอดถึงความประพฤติอันเลวทรามที่ผ่านๆมา  สังคมต้องทำเป็นลืม กลาโหมก็ต้องรับกลับเข้าทำงาน เพราะว่ามันมาถูกต้องตามระเบียบตามกระบวนการอย่างนั้นหรือ   เหมือนรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้ง ไม่ว่าจะโกง จะหลอกลวง จะเอาแต่ตัวเองและพวกพ้องอย่างไรก็ได้ฯลฯเพราะมาถูกต้องตามกระบวนการอย่างนั้นหรือ? เพื่อความสงบของบ้านเมืองมันจะทำอย่างไรก็ปล่อยให้มันทำอย่างนั้นหรือ? เพื่อบ้านเมือง  ต้องสามัคคี ความดี ต้องมาสามัคคีกับความชั่ว  ที่ดีก็ดีน้อยลงหน่อย ที่ชั่วก็ชั่วขึ้นมาอีกนิด จะได้มาบรรจบกันตรงกลางอย่างนั้นหรือ?  เพื่อความสงบของบ้านเมืองสื่อฯก็ต้องเป็นกลางอย่างนั้นหรือไม่ต้องใช้สมองคิดว่าไอ้ที่ทำๆกันอยู่นั้นดีหรือชั่วใช่ไหม? คนดี ที่กล้าหาญ กล้าชนก็เหลือน้อยเหลือเกิน มีแต่ประเภทอลุ้มอล่วย ยืดหยุ่น เพื่อความสงบของบ้านเมืองหรือไม่ก็กลัวว่าวันข้างหน้าตัวเอง หรือญาติ พี่น้องจะพลาดพลั้งไปแล้วไม่มีใครช่วย ความดีก็เลยต้องมาสามัคคีกับความชั่วใช่ใหม?   

   
  แน่นอนจริงๆ ท่าน มท

     ต่อไปก็  แต่งตั้ง โคตรเหง้า พี่ ป้า น้า อา ลูก หลาน ลูกน้อง.............  ไอ้คนที่อยู่ในคุกก็ได้นะ  มารับตำแหน่งด้วยซิครับท่าน  ก็ท่านมีอำนาจนิ.......    เวรกรรม ??? ???    ความสง่างามไม่มีเลย

ใช่เพลงของ โน๊ต เชิญยิ้ม หรือเปล่า ครับ..  ดูมันทำ ดูมันทำ  ดูมันท้าม .. ::002::

ไม่แน่ใจ จะเป็นเพลงนี้ของโย่งเชิญยิ้มหรือเปล่าครับ..... ::014::

http://www.wherearepop.com/index.php?topic=11378.0;wap2

ด้วยความเคารพครับ

แต่น่าจะลงไปช่วยราชการที่ภาคใต้ซัก 6 เดือนก่อนนะครับ
ทำประโยชน์ให้บ้านเมืองซะหน่อย คนเขาจะได้ยอมรับบ้าง.

ขอแสดงความยินดีกับท่านด้วย    ::007::

อืมม์    . . . . . .   

ร่วม เซ็งด้วยอีกคน ครับ เฮ้อ

ขอฮ่วยด้วยคน

ผมเชื่อในกฎเเห่งกรรมครับ.....เมื่อถึงเวลาต้องชดใช้ในสิ่งที่ตนทำครับ

บ้าจริงเห็นแล้วเหนื่อย

กดดันมากๆ  ทางออกก็คือ  ปฏิวัติ ;D ;D ;D ;D ;D ;D ;D ;D

ซักปีสองปีก็ดีครับ แต่คิดว่าคงยาก ลูกหัวแก้วหัวแหวน  ::008::

หัวน่าจะโดนแก้วและหลังแหวนมากกว่าครับ.....อิ..อิ.. ::005::

ทายซิว่าถ้า ...ถ้าไอ้ปื๊ด กลับมาจะได้เป็นอะไร

:~) :~) ;D

คนเรามีขึ้นมีลงเป็นปกติครับ ต่อให้วันนี้ใหญ่คับฟ้าแค่ใหน ถึงเวลาก็ร่วงติดดินได้ครับ ไม่ต้องมากแค่คนในตระกูลชินวัตร สิ้นทักษินเมื่อไหร่ละก็ หึหึ
รับรองว่าโดนทึ้งยิ่งกว่าแร้งลงกินศพอีก

สิทธ์ของเธอ...........อัสนีย์-วสันต์. ::006::

    ยังไม่หมดครับเหลือตำแหน่ง ร้อยตำรวจตรี อีกสองอัตรา

เรียนท่านผุ้การสุพินท์
การกลับเข้ารับราชการใหม่ของนายทหารสัญญบัตรนั้นต้องให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมลงนามเลยเหรอครับ แค่เจ้ากรมกำลังพลมีอำนาจไม่เพียงพอเหรอครับ แล้วต้องเสนอทูลเหล้าฯด้วยหรือไม่ครับ
ขอบคุณครับ

การบรรจุชั้นประทวน  เป็นอำนาจของ ผบช.เทียบเท่าผู้บัญชาการกองพล
ชั้นสัญญาบัตร  เป็นอำนาจของรัฐมนตรีครับ
สัญญาบัตรยศ  ต้องขอพระราชทาน   รัฐมนตรีมีอำนาจเพียงให้ "ว่าที่ยศ"

ขอบคุณครับ

เห็นด้วยขอรับกระผม แต่ ๖ เดือนน้อยไปหรือเปล่าครับ ซักปี เป็นไงครับผม

ผมว่าอย่าเอาคนแบบนี้ลงไปเลยครับ พี่น้องทางภาคใต้ตอนนี้ก็เดือดร้อนพออยุ่แล้ว   ::003::

ไปเปลี่ยนนามสกุลแทนดีกว่าครับ เพื่อจะได้ดีกับเค้าบาง

ผลตอบแทนสุดท้ายของการที่กองทัพทำรัฐประหาร คือได้ "ดวง" กลับสู่กองทัพ (ฮา)

 ::004:: ::004::

http://news.sanook.com/politic/politic_269898.php  (http://news.sanook.com/politic/politic_269898.php)

ลูกดวง ทำแตกคอ บิ๊กสีเขียวซัดกันนัว! โฆษก กห.สวน รองผบ.สส.ยันคืนยศถูกกฎหมาย
โดย มติชน วัน ศุกร์ ที่ 2 พฤษภาคม พ.ศ. 2551 00:00 น.

รองโฆษก กห.ป้อง ลูกดวง ได้รับยศคืนตามขั้นตอน โต้รองผบ.สส.เข้าใจผิด-ตั้งกก.สอบวินัย ปชป.ชี้ขาดราชการจนถูกปลด-ถอดยศ ขัดระเบียบ กห. ยันมีหลักฐานพร้อม เตรียมหารือพรรคเล็งอภิปรายนายกฯ-มท.1


ร.ต.ดวง อยู่บำรุง ลูกชายสุดที่รัก
ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รมว.มหาดไทยพล.ท.พีระพงษ์ มานะกิจ รองโฆษกกระทรวงกลาโหม กล่าวเมื่อวันที่ 1 พ.ค. ถึงกรณีที่ พล.อ.อ.วีรวิทย์ คงศักดิ์ รองผู้บัญชาการทหารสูงสุด (รอง ผบ.สส.) และอดีตประธานกรรมการสอบกรณี ร.ต.ดวง อยู่บำรุง ถูกตั้งกรรมการสอบวินัยราชการ ระบุการคืนยศ ร.ต.ดวงยังไม่สมบูรณ์ว่า พล.อ.อ.วีรวิทย์คงเข้าใจผิด ขอยืนยันว่าทุกอย่างจบแล้ว ร.ต.ดวงเข้ารับราชการในสังกัดสำนักรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมแล้ว ซึ่งไม่ได้เข้าสังกัดในกองบัญชาการทหารสูงสุด (บก.สส.) และก่อนที่จะให้ ร.ต.ดวงกลับเข้ารับราชการได้สอบถามทางกรมพระธรรมนูญแล้ว ยืนยันว่าทุกอย่างถูกต้องไม่มีปัญหา พล.อ.วินัย ภัททิยกุล ปลัดกระทรวงกลาโหม ระบุว่าถูกต้องตามหลักเกณฑ์

ผู้สื่อข่าวถามว่า พล.อ.อ.วีรวิทย์ระบุว่าต้องตั้งกรรมการสอบ ร.ต.ดวง หากจะกลับเข้ารับราชการ เพราะพ้นราชการด้วยข้อหาไม่มารายงานตัวผิดวินัยร้ายแรง พล.ท.พีระพงษ์กล่าวว่า วันที่เกิดเหตุคือวันที่ 29 ตุลาคม 2544 และวันที่ 4 พฤศจิกายน 2544 มีคำสั่งพักราชการ หมายความถึงการให้ออกราชการไปก่อน เพื่อตั้งกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริง เมื่อมีคำสั่งพักราชการ ร.ต.ดวงก็ไม่จำเป็นต้องมาทำงาน ดังนั้น การไม่มาทำงานก็ไม่ใช่การขาดราชการ จึงไม่ถือเป็นความผิด ที่สำคัญต้องไปดูกฎหมายสั่งพักราชการว่าข้อเท็จจริงเป็นอย่างไร แล้วคำสั่งปลดราชการถูกต้องหรือไม่ คนที่โต้แย้งคงเข้าใจผิด ไม่รู้รายละเอียด นอกจากนี้ ร.ต.ดวงกลับเข้าราชการในสำนักรัฐมนตรี ไม่ใช่ บก.สส. ดังนั้น ไม่จำเป็นต้องทำหนังสือไปถึงหน่วยดังกล่าว อีกทั้งศาลสั่งว่าไม่มีมลทิน ส่วนศูนย์รักษาความปลอดภัย (ศรภ.) ต้นสังกัดของ ร.ต.ดวง ระบุว่าไม่มีมลทิน ดังนั้น จึงกลับเข้ารับราชการได้ ขอให้เชื่อว่าทุกอย่างถูกต้อง เพราะผ่านการตรวจสอบแล้ว

ด้าน ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ปฏิเสธที่จะให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่ พล.อ.อ.วีรวิทย์ระบุว่าการคืนยศ ร.ต.ให้นายดวงยังไม่สมบูรณ์ โดยกล่าวด้วยสีหน้าเรียบเฉยว่า 'เรื่องนี้ผมไม่ขอพูด ไม่ขอแสดงความเห็น ไม่พูด'

นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ ส.ส.พัทลุง พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า พล.อ.อ.วีรวิทย์ได้ยืนยันแล้วว่าการปลดนายดวงมีเหตุเพราะขาดราชการ ไม่ได้ปลดเพราะโดนคดีอาญา ซึ่งเมื่อปี 2550 นายดวงก็ทำหนังสือส่งถึง พล.อ.ท.ดนัย นันทะศิริ เจ้ากรมกำลังพลทหาร สังกัดกองบัญชาการทหารสูงสุดในขณะนั้น เพื่อขอกลับเข้ากรม โดยอ้างสาเหตุว่าพักราชการเพราะคดีอาญา แต่ พล.อ.ท.ดนัยมีหนังสือตอบกลับลงวันที่ 9 สิงหาคม 2550 ระบุว่าไม่รับนายดวงเข้าราชการ เนื่องด้วยนายดวงถูกปลดและถูกถอดยศจากการขาดราชการ แต่ไม่ใช่เพราะถูกดำเนินคดีอาญา ทั้งนี้ ในระเบียบของทหารเขียนไว้ชัดเจนว่าหากข้าราชการทหารผู้ใดต้องคดี แต่ถ้ามารายงานตัวต่อสังกัดก็จะไม่ถูกปลด แต่กรณีของนายดวงนั้นไม่ใช่

นายนิพิฏฐ์กล่าวว่า เมื่อเดือนเมษายน 2551 ที่ผ่านมา นายดวงได้ทำหนังสือในลักษณะเดียวกัน แต่ไม่ได้ยื่นต่อกรมกำลังพลทหาร ตามระเบียบขอกลับเข้ารับราชการ แต่กลับเสนอไปยังสำนักเลขาธิการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม และไม่กี่วันนายดวงก็ได้รับการคืนยศ ส่อถึงความไม่ชอบมาพากล ดังนั้น การกระทำของนายดวงถือว่าผิดต่อระเบียบกระทรวงกลาโหม เพราะถ้าถูกปลดที่ไหนก็ควรไปยื่นหนังสือที่นั่น สำหรับข้อมูลและหลักฐานต่างๆ ตนได้รับความร่วมมือจากกองทัพมาโดยตลอด เท่าที่ทราบมีนายทหารชั้นผู้ใหญ่ในกองทัพหลายท่านวิตกกังวลว่ากรณีดังกล่าวจะกระทบต่อความน่าเชื่อถือได้ และหากพบว่าการคืนยศนั้นไม่ชอบ บุคคลที่เกี่ยวข้องกับการคืนยศให้นายดวงถือว่ามีความผิด อาจตั้งคณะกรรมการสอบต่อไป

'ผมมีหลักฐานทั้งหมด เท่าที่รวบรวมข้อมูลพบว่ามีการกระทำที่ขัดต่อระเบียบทหารแน่นอน ดังนั้น เรื่องนี้ถือว่าเป็นความผิด และอาจจะเกี่ยวข้องกับนายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี ในฐานะรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ที่มีหน้าที่อนุมัติเรื่องนี้โดยตรง เป็นการกระทำที่ไม่คำนึงถึงระเบียบและไม่น่าไว้วางใจ กำลังหารือกับทางพรรคว่าเป็นความผิดถึงขั้นที่จะอภิปรายไม่ไว้วางใจหรือไม่ ในวันที่ 5 พฤษภาคม คงได้ข้อสรุป ส่วน ร.ต.อ.เฉลิมเคยท้าทายผมให้อภิปรายไม่ไว้วางใจ ถ้าพบข้อมูลว่า ร.ต.อ.เฉลิมเกี่ยวข้องกับการคืนยศให้ลูกชาย ผมก็จะไม่ปล่อย ร.ต.อ.เฉลิมไว้' นายนิพิฏฐ์กล่าว

ก่อนหน้านี้ พล.อ.อ.วีรวิทย์ คงศักดิ์ รองผู้บัญชาการทหารสูงสุด และอดีตประธานคณะกรรมการสอบวนวินัยว่าที่ ร.ต.ดวง อยู่บำรุง บุตรชาย ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย กล่าวถึงการคืนยศ 'ร.ต.' ให้กับนายดวง ว่า การคืนยศ 'ร.ต.' ให้กับนายดวงยังไม่สมบูรณ์ เพราะยังไม่เข้าสู่กระบวนการคืนยศที่ถูกต้อง และการคืนยศต้องมีการตั้งคณะกรรมการสอบคำร้อง ขอคืนยศและขอกลับเข้ารับราชการ ก่อนที่จะนำขึ้นกราบบังคมทูลเกล้าฯขอพระราชทาน ซึ่งการตั้งคณะกรรมการสอบสวนต้องมีขึ้นหลังมีการร้องขอ ไม่เช่นนั้นถือว่าการคืนยศยังไม่สมบูรณ์ เป็นได้เพียงว่าที่ ร.ต.เพราะก่อนหน้านี้มีคำสั่งให้พักราชการแล้ว

'เมื่อเรียกตัวให้กลับมา แต่นายดวงไม่กลับมาตามคำสั่ง ทั้งยังเป็นผู้ถูกกล่าวหาทางคดีอาญาในช่วงนั้น ถือว่าผิดวินัยทหารร้ายแรง จึงมีความชอบธรรมที่ถูกคำสั่งให้ปลดออกจากราชการ ซึ่งหากการคืนยศไม่ทำให้ถูกต้องตามขั้นตอน รมว.กลาโหม มีสิทธิ์ทำได้ แค่คืนยศ 'ว่าที่ ร.ต.' ให้กับนายดวงเท่านั้น เพราะหากเป็นยศทางทหารต้องได้รับพระราชทาน ต้องปฏิบัติตามขั้นตอนให้ชัดเจนก่อน' พล.อ.อ.วีรวิทย์ กล่าว

พล.อ.อ.วีระวิทย์ กล่าวว่า ยืนยันว่าคำสั่งให้ถอดยศในขณะนั้น เป็นไปด้วยความชอบธรรม เพราะเป็นคำสั่งที่พิจารณาตามข้อมูล ทำให้เชื่อได้ว่า ว่าที่ ร.ต.ดวง มีเจตนาหลบหนีคดีอาญาเข้าข่ายข้อหาปลดออกจากราชการ ทำให้ รมว.กลาโหม ในช่วงนั้นมีคำสั่งถอดยศในที่สุด แต่การพิจารณาเรื่องการคืนยศจะไม่นำคดีอาญามาพิจารณาประกอบ เพราะถือเป็นอำนาจศาล แต่เรื่องที่เกิดขึ้นเป็นความผิดวินัยทางทหารที่นายดวงต้องชี้แจงให้ได้ว่า ภายหลังเกิดเหตุ 2 สัปดาห์ นายดวงหลบหนีไปไหน จึงไม่มารายงานตัวตามระเบียบของกองทัพ รวมทั้งยังต้องมีใบรับรองความประพฤติจากผู้บังคับบัญชาคนสุดท้ายมายืนยันอีกด้วย

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนหน้านี้มีการเปิดเผยจดหมายจากกรมกำลังพลทหาร กองบัญชาการทหารสูงสุด เลขที่ กห 0302/2401 ออกเมื่อวันที่ 9 สิงหาคม 2550 ส่งถึง นายดวงเฉลิม อยู่บำรุง ลงนามโดย พล.อ.ท.ดนัย นันทะศิริ ปฏิเสธการขอกลับเข้ารับราชการของ นายดวงเฉลิม โดยอ้างอิงมติสภากลาโหมและระเบียบกระทรวงกลาโหม ระบุปลดนายดวงเฉลิมออกจากราชการ เนื่องจากกระทำความผิดฐานต้องหาในคดีอาญาแล้วหลบหนี และถอดออกดจากยศทหาร ประกอบกับนายดวงเฉลิมไม่ได้อยู่ในระหว่างพักราชการ จึงไม่สามารถดำเนินการขอกลับมารับราชการ ตามข้อบังคับกระทรวงกลาโหมว่าด้วยการสั่งให้ข้าราชการทหารพักราชการ พุทธศักราช 2528 ได้

 8)...มีอำนาจแล้ว...ทำอะไรก็ได้ในบ้านนี้เมืองนี้...

...เป็นที่น่าสังเกตุว่า...ด้วยสภาพครอบครัว...ตอนนี้  เงินเดือนทหารคงไม่ใช่ปัจจัยท่สำคัญ..สำหรับ...พวกเขา...

...แต่ยศ...และเครื่องแบบทหาร...น่าจะเป็นสิ่งสำคัญ...ที่ต้องการ....

...น่าเห็นใจ...ชั้นประทวนทั้งหลายที่ต้องการเลื่อนเป็นสัญญาบัตร จำนวนมากมายในกองทัพ....

...ทำไมมันถึงไม่ง่ายดายแบบนี้บ้าง....

....ลูกกรอกจงเจริญ.....

ก็ต้องเข้าใจละครับ กลับมาครั้งนี้ ต้องเอาของตัวเองก่อนไม่รู้เมือไหรจะได้อย่างนี้อีก ต้องรีบครับ เข้าใจด้วย

ชาติอาจล่มจมครับ ยุคนี้ (ลูกกรอก)

เพื่อนผมเป็นจ่ามา20กว่าปีแล้วครับ    จะเห็นดาวก็คงอายุ60ปีนั่นแหละ

ตัวอะไรขึ้นตึก...

 "ชีวิตมันไม่เหลืออะไรแล้ว ทุกวันนี้ก็ขอมีชีวิตอยู่เพื่อลูกเท่านั้น" 

          นางสุพัตรา รอดวิมุต ภรรยาคู่ชีวิตของดาบตำรวจสุวิชัย รอดวิมุต หรือที่เรียกกันจนติดปากว่า "ดาบยิ้ม" พูดด้วยน้ำเสียงหมดอะไรตายอยาก แววตาดูเหนื่อยเหลือเกิน

          ถึงวันนี้ 7 ปีแล้วที่ดาบยิ้มต้องตายฟรี!! ทิ้งเพียงข้อกังขาและหยาดน้ำตาแห่งความสูญเสียไว้ให้กับครอบครัวรอดวิมุต

          นางสุพัตราบอกว่า 7 ปีมันเร็วมาก มันมีเรื่องราวต่างๆ มากมายเกิดขึ้นกับครอบครัวของตน แรกๆ ยอมรับว่าเราพร้อมที่จะสู้ และมีแรงสู้ แต่มาวันนี้มันหมดแล้ว หมดจริงๆ 

          "หลังจากที่จบคดีของดาบยิ้มก็กลับมาอยู่บ้านพ่อแม่ที่ จังหวัดสมุทรปราการ ส่วนลูกชายหลังจากที่สอบเข้าโรงเรียนเตรียมทหารไม่ได้ก็มาเรียนอยู่ที่มหาวิทยาลัยรังสิต ชั้นปีที่ 3 คณะจักษุแพทย์ ที่เลือกเรียนคณะนี้เพราะเขาสายตาสั้น ยอมรับว่า ทุกวันนี้ก็ต้องเหนื่อยกันมากขึ้นเพื่อหารายได้มาจุนเจือครอบครัว รายได้หลักๆ ก็จะมาจากการเผาถ่านขาย และค่าเช่าจากรถบรรทุกสิบล้อ ที่รวมเงินได้ก้อนหนึ่งซื้อแล้วนำไปฝากวิ่งขนส่งของเพื่อนสนิท ซึ่งก็พออยู่ได้ตามอัตภาพ"
          ภรรยาของดาบยิ้มยังบอกอีกว่า ชีวิตวันนี้มันต้องต่อสู้ มีเพียงแม่ลูกเท่านั้นที่จะต้องช่วยตัวเอง หลายครั้งที่ตนเห็นลูกดูเศร้าๆ ตนก็ทำได้เพียงแค่ปลอบใจว่าอย่าไปคิดอะไรมาก

          "ในวันที่มีการจัดงานเลี้ยงฉลองการคืนยศให้กับ ร.ต.ดวง อยู่บำรุง วันนั้นเกิดพายุฝนตกอย่างหนักจนงานเลี้ยงแทบพัง ลูกชายก็โทรศัพท์มาบอกว่า แม่เวรกรรมมีจริง พ่อมากับฟ้าดิน ฟ้าดินได้ลงโทษเขาแล้ว ฉันจึงคิดว่าพี่ยิ้มคงจะรับรู้เรื่องทุกอย่างที่เกิดขึ้น พี่เขาไม่ได้หายไปไหน เขายังอยู่ ยังคงช่วยดูแลฉันและลูกอยู่อย่างห่างๆ" สุพัตราเล่าด้วยแววตาแดงก่ำ

          ณ วันนี้ 2 แม่ลูกใช้ชีวิตกันอย่างเรียบง่าย ไม่เรียกร้อง ไม่ดิ้นรน ปล่อยให้ทุกอย่างผ่านไปเรื่อยๆ ที่เป็นเช่นนั้น นางสุพัตราบอกว่า เมื่อความยุติธรรมให้เราแค่นี้เราก็ขอพอแค่นี้

          "ทุกวันนี้อยากให้จบๆ ยิ่งเขามีอำนาจเราก็ยิ่งเป็นห่วงลูก ฉันกับลูกเป็นคนตัวเล็กๆ ยิ่งมาถึงวันนี้ฉันยิ่งอยากให้เรื่องทุกอย่างมันจบโดยเร็วๆ ฉันก... (เธอไม่กล้าเอ่ย) และขออย่าให้พวกเขามายุ่งกับครอบครัวฉันเลย"

          บทสนทนาครั้งนี้แม้จะดูสั้นยิ่งนัก แต่สิ่งที่เห็นก็พอจะบอกได้ว่า วิถีของการเอาตัวรอดของครอบครัว "รอดวิมุต" นั่นคือ ปรารถนาที่จะอยู่อย่างเงียบๆ เพราะเธอและลูกรู้ว่า..ไม้ซีกแผ่นบางๆ ควรจะอยู่อย่างไรในป่าไม้ซุงอย่างทุกวันนี้
http://hilight.kapook.com/view/23438

ประจานตัวเองอีกแล้วพี่เหลิมดาวเทียม