เว็บบอร์ดสนทนาภาษาปืน

อยากทราบว่า คนที่มีอาวธปืนถูกต้องตามกฏหมาย คือ มีแค่ ป4 แต่ไม่มี ป12 สำหรับพกพา มีกี่เปอร์เซนต์ในปัจจุปัน จะนำปืนติดตัวไปด้วยตลอดเวลาทุกครั้งที่เดินทาง และมีโอกาสใดบ้างที่จะถูกตำรวจตรวจค้น ที่ผ่านมาใครเคยมีประสบการณืที่ตำรวจตรวจเจอปืนบ้างแล้วเจอแล้วท่านทำตัวยังไงหรือพูดคุยยังไง และในกรณีที่ตำรวจตรวจเจอปืน เราควรปฏิบัติตัวยังไงครับ

http://www.gunsandgames.com/smf/index.php?topic=33376.0

คำถามแตกเป็นคำตอบแล้วยาว ขออนุญาตไปทำงานก่อนครับ งานเข้า เดี๋ยวคงมีหลายท่านที่จะให้ความเห็น ::014:: ;D

ผมไม่มีวิธีการพกมาบอกนะครับ  และก็ไม่ได้สนับให้พกโดยไม่ได้รับอนุญาต  แต่หากจำเป็นต้องพกจริงๆ  ผมมีมุมมองมานำเสนอครับ

จากที่ท่านถามว่า "มีโอกาสใดบ้างที่จะถูกตำรวจตรวจค้น"   ที่แน่ๆ โอกาสหนึ่งก็คือ การตั้งด่าน เพื่อป้องปรามอาชญากรรม ส่วนการเดินถนนหนทางปกติ  ผมว่าอยู่ที่การปฏิบัติตัวของเราครับ ว่ามีอาการมากน้อยแค่ไหน  การที่อยู่ดีๆ เจ้าหน้าที่จะขอตรวจค้นใครสักคน ก็ต้องมีลางบอกเหตุ หรือเรียกว่า"ได้กลิ่น"  ถ้าเราทำตัวได้ปกติ ไม่หลุกหลิก รนราน หรือตื่นเต้น  คิดว่าปืนเป็นส่วนหนึ่งของร่างกายเราไปเลย  หรือ รู้สึกธรรมดา จนไม่ได้คิดว่าเรามีปืน  ไม่ได้พกกร่างพกตุง  โอกาสน้อยครับที่จะโดนตรวจค้น  ให้ท่านลองจินตนาการว่าท่านเป็นเจ้าหน้าที่ก็ได้ครับ  ท่านก็คงเลือกปฏิบัติกับบุคคลผู้ต้องสงสัย มากกว่าที่อยู่ดีๆ จะมาสุ่มค้นใครก็ได้  ถ้าอย่างนั้นเหนื่อยแย่เลยครับ

ส่วนคำถาม  "ที่ผ่านมาใครเคยมีประสบการณ์ที่ตำรวจตรวจเจอปืนบ้าง"  อันนี้ผมไม่เคยนะครับ แต่มีความรู้สึกกลัวถูกตรวจมาเล่าให้ฟังครับ   เรื่องคือ : มีวันหนึ่ง (วันที่เค้าวิ่งคบเพลิงผ่านเยาวราช-ราชดำเนินกันนั่นแหละ)  ผมได้นำปืนติดตัวไปด้วย และรีบขับรถออกจากบ้านด้วยความรีบร้อน เพื่อนำปืนไปร้านช่างยอด กลัวร้านจะปิดเสียก่อน  เป็นเวลาเดียวกับที่เค้าวิ่งคบเพลิงกัน  มีการคุ้มกันแน่นหนา เจ้าหน้าที่ตรวจตราถี่ถ้วน  พอหาที่จอดรถเรียบร้อย ก็เอาปืนเหน็บเอว  เสร็จแล้วก็จะหยิบบัตรต่างๆและกระเป๋าสตางค์ออกจากรถ    เวรกรรม.....!  ด้วยความรีบ  วันนั้นผมไม่ได้เอากระเป๋ามา(ดีที่น้ำมันไม่หมด)  วันนั้นเค้าปิดถนนบางส่วน ผมต้องพกปืนเดินไปมาอีกตั้งไกลเนี่ยนะ ผ่านตำรวจที่คอยดูแลความปลอดภัยตั้งเยอะ จะทำไงดีฟะ  ไม่มีเอกสารหลักฐานอะไรแสดงเลย  แม้กระทั่งตัวเราเป็นใครก็ไม่มีหลักฐาน ใครเค้าจะเชื่อ  กว่าจะตรวจสอบได้กับต้นสังกัด  ก็คงต้องอยู่ในห้องขังอยู่นานแน่  ถ้าเคราะห์ร้ายวันนั้น  จากเป็นเจ้าหน้าที่คงได้ถูกเปลี่ยนสภาพเป็นผู้ก่อการร้ายแทนแน่ๆ  แต่ก็มาคิดถึงข้อแรกที่ตอบท่านไป และคิดถึงใจตัวเอง  ก็ลงจากรถไป ทำตัวเรียบร้อยๆ ก็ไม่มีอะไรเกิดขึ้น  (เราไม่ได้มีกลิ่น ใครเค้าจะมาดม)

มาถึงคำถาม  "พูดคุยยังไง และในกรณีที่ตำรวจตรวจเจอปืน เราควรปฏิบัติตัวยังไง"    อันนี้ผมไม่มีคำแนะนำครับ เพราะผมพูดแต่ละครั้งไม่เหมือนกันขึ้นอยู่กับนิสัยใจคอของคู่สนทนาเราด้วยครับ  แต่ละครั้งเลยไม่สามรถใช้บทสนทนารูปแบบเดียวกันได้  รอฟังท่านอื่นบ้าง


ที่กล่าวมา มันอาจไม่ใช่คำตอบทั้งหมดนะครับ  แต่เล่าเพื่อให้เกิดแนวทางเพื่อท่านได้ให้คำตอบตัวเอง  หวังว่าคงเป็นประโยชน์บ้างไม่มากก็น้อย

เอ่อ.... ยาวจริงๆด้วย  นี่ขนาดผมเองพยายามย่อๆ แล้วนะเนี่ย  บางอันก็ตัดไปไม่ตอบ  ยังยาวเลย

ตามลิ้งค์ท่าน PU45 ครับ  ;D คำตอบมีเยอะ ทั้งที่ท่านพี่ๆสมาชิกโดนตรวจค้นเจออาวุธปืนก็มี

1. ที่ถามมาว่าคนที่มีใบ ป.12 คงต้องให้ท่านที่อยู่ในกรมการปกครองคิด %จากยอดใบอนุญาตออกมาครับ ซึ่งตัวผมคิดว่าคนที่มีใบป.4:ป.12 อยู่ที่ 98:2 (คิดจากใบอนุญาตจริงๆนะครับ เจ้าหน้าที่พกแบบไม่มีใบไม่นับ :OO) ส่วนที่จะพกติดตัวตลอดเวลาตามความคิดผม คงจะทอยลงจาก 98% เป็นพก 40% เก็บไว้ในบ้านเฉยๆ 60% ตัวผมตอนนี้อยู่ใน 40% นี่แหละครับ เพราะเดินทางต่างจังหวัดเดือนหนึ่งหลายครั้ง แถมต้องเดินทางคาบเกี่ยวช่วงเวลากลางคืนแบบหลีกเลี่ยงไม่ได้  ภัยคุกคามพวกเด็กแว๊นเยอะขึ้นและน่ากลัวมากขึ้นจริงๆทุกที เพื่อนๆสมาชิกระวังด้วยนะครับ จากเลิกพก ต้องหันมาพกติดรถไว้อีกครั้ง(ไม่เหน็บติดตัวครับ ไม่มีศัตรูหรือภัยขนาดนั้น)

2. โอกาสใดบ้างที่ถูกตรวจค้น ขอตอบว่าเยอะครับ  ;D แต่แล้วแต่บุคคลที่จะโดนขนาดรื้อค้น ส่วนใหญ่ถ้าเดินทางเส้นทางหลักกลางคืนยิ่งขาเข้ากทม.จากภาคเหนือ ก็เจอด่านตลอด แต่เจ้าหน้าที่คงเห็นว่าหน้าตาผมไม่มีอันตรายมั้งครับ ::005:: :<< เลยส่วนใหญ่ดูเอกสารแล้วก็ปล่อยไป แต่ต่างกรรมต่างวาระนะครับ เคยเจออยู่ครั้งหนึ่งรื้อรถทั้งคันที่จุดแถวขุนตาล คาดว่าน่าจะเป็นรูปพรรณรถแบบเดียวกับที่สายรายงานให้จับตา ยางอะไหล่ยังเคาะดูเลยครับ ถ้าพกตอนนั้นคงไม่รอด ถ้าไม่อยากถูกค้นบ่อยๆก็เลือกเวลาเดินทางกลางวันปลอดภัยกว่าครับ (รอดทั้งคนร้ายและพี่เจ้าหน้าที่ตำรวจ ::005:: )

3. พูดคุยอย่างไร กับท่านเจ้าหน้าที่ ตัวผมที่ปฏิบัติอยู่คือพูดคุยแบบสุภาพชน ให้เกียรติต่อเจ้าหน้าที่ ให้เหตุผลตามจริงครับ ถ้าโดนจับจริงยังไงก็ผิดอยู่ดีตามกฎหมาย ถ้าคิดจะพกก็ต้องทำใจในข้อนี้อยู่แล้ว 

    อย่างไรก็ดีอยากให้พี่ๆที่เป็นฝ่ายปรามปรามช่วยกวดขันเด็กแว๊นหน่อยนะครับ อันตรายบนท้องถนนเวลากลางคืนเยอะจริงๆ ผมจะได้เก็บปืนไว้กับบ้านอีกครั้ง ผมไม่เคยคิดที่อยากจะพกปืนถ้าไม่มีภัยจริงๆ  ::014::

แล้วแต่เวรแต่กรรมและความห้าวขอคนพกครับ :~)

ตอบได้เลย โอกาศ ถูกตรวจค้นแล้วแต่ความซวยของแต่ละบุคคลครับ ไม่มีหลักไรหรอก
ต่อให้หน้าตาดี แต่งตัวดี ถ้าตร.จะค้นก็ได้


 ถ้า ตร. ตรวจเจอปืน ทำไง เหรอ ถ้าจบได้ใน ตอนตั้งด่าน คดีก็ไม่เกิดไม่มี ( พอเข้าใจไหม ไม่มีบันทึกจับกุม ไม่มีลง ปจว.เกี่ยวกับคดี) ส่วนจะทำไง ประสบการณ์ชีวิตจะสอนท่านเอง

ผมเดินทางเกือบทุกอาทิตย์ จากจังหวัดเหนือสุด ไปอุตรดิตถ์บ้าง  พิษณุโลกบ้าง ไปชัยภูมิบ้าง เจอด่านประจำครับ รถผมเป็นขาประจำด่านตรวจเลยละ เพราะทะเบียนเชียงราย โดนเชิญเข้าเทียบข้างทางตลอด โดยที่คันอื่น ๆ ส่วนใหญ่แค่เปิดกระจก ซักถาม มองเข้ามาในรถแล้วโบกให้ไปต่อ
ทำตัวปกติครับ (ในใจพร้อมที่จะตอบคำถามหากว่าขอค้นแล้วเจอปืนที่พก) พูดคุยดี ๆ ครับ ไม่คุยโอ่ อ้อนน้อมไว้ดีที่สุดครับ เป็นอย่างนี้มาห้าปีแล้ว ยังไม่เคยโดนค้นครับ  ปัจจุบันหลายด่าน กลายเป็นขาประจำ จำหน้าค่าตากันได้ดีแล้วครับ หลัง ๆ มาแม้ไม่เรียกก็ชะลอรถหรือไม่ก็จอดทักทายครับ บางทีตำรวจประจำด่านเอาพระเครื่องได้มาใหม่ ๆ มาอวดอีก แน๊
ผมว่าสำคัญที่สุด ยิ้มแย้มแจ่มใส น้ำใสใจจริง ดีที่สุดครับ ถ้าเราไม่ทำผิดชนิดขนยา หรือสิ่งกฏหมายร้ายแรงอื่น ๆ ทำตัวปกติ ไม่มีพิรุธ ขอดูใบขับขี่ก็เอาให้ดู ไม่ใช่ขอดูใบขับขี่ แต่เอาบัตรข้าราชาการให้ดู อย่างนี้ ตำรวจบางคนเขาถือครับ (อันนี้เรื่องจริงครับ ตำรวจด่านพูดให้ฟัง) ใบขับขี่ผมยังไม่เอารูปข้าราชการไปทำเลย เอารูปธรรมดาถ่ายหน้าขนส่งนะแหละ เดี๋ยวนายหมั่นไส้  ;D
 

ผมว่ามากคนที่พกพาปืนในการเดินทางรวมทั้งผมด้วย   แต่น้อยคนที่จะมีใบพกพา(ป.12)ผมเองก็เคยเจอด่านตรวจประจำเจอปืนบ้างไม่เจอบ้าง  บางที่ก็เอาแอบไว้นิดๆม่ให้เห็นจะดูว่าเจ้าหน้าที่จะมีความละเอียดรอบคอบในการตรวตจค้นหรือไม่ บางทีก็เจอบางทีก็ไม่เจอ  ถ้าเจอก็จะบอกผมก็พวกเดียวกับพี่นั่นแหล่ะ    ยิ่งพอบอกว่าทำงานอยู่ 3 จังหวัดภาคใต้ ทีนี้ล่ะไม่ต้องค้นกันแล้วเจอแต่คำถามเมื่อไหร่จะกลับมาบ้านเราหรือเป็นยังไงบ้างทางโน้น เอาๆขอให้โชคดีครับ     ทางที่ดีถ้าเจอด่านคุยกับตำรวจดีๆ ถ้าเจอคนที่เข้าใจเขาจะให้คำแนะนำพร้อมกับทำไม่เห็นปืนของคุณ พร้อมทั้งบอกว่าเดินทางให้ระมัดระวังตัวด้วยก็แล้วกันตำรวจคงไม่สามารถตามไปดูแลได้ตลอดเส้นทางหรอก    แต่ถ้าในเมืองใหญ่ หรือเมามาย  สถานการณ์ก็คงจะเป็นอีกอย่างดูเป็นรายๆไป   เดินทางเมื่อใดหากเจอด่านตรวจก็ขอให้เจอกับตำรวจที่มีคุณธรรม และใช้หลักรัฐศาสตร์ในการทำงานก็แล้วกัน

อย่าแสดงตัวว่าเราชอบปืนรักปืน
เช่น
ใส่เสื้อ  หมวกที่มีโลโกปืน  สติ๊กเกอร์ รถ

ตำรวจเห็น เดาได้เลย

    อย่างไรก็ดีอยากให้พี่ๆที่เป็นฝ่ายปรามปรามช่วยกวดขันเด็กแว๊นหน่อยนะครับ อันตรายบนท้องถนนเวลากลางคืนเยอะจริงๆ ผมจะได้เก็บปืนไว้กับบ้านอีกครั้ง ผมไม่เคยคิดที่อยากจะพกปืนถ้าไม่มีภัยจริงๆ  ::014::

[/quote]

ขอฝากด้วยคนครับ  ::014::ผมเองก็เบื่อไอ้พวกนี้อยู่เหมือนกัน ยิ่งนับวันมันยิ่งทวีความห่าม ความบ้า ไม่กลัวอะไรทั้งนั้น
ส่วนเรื่องก็พกปืนผมเองก็ต้องขอสารภาพครับว่าพกโดยที่ไม่มี ป.12 เหมือนกัน เเต่เพราะอย่างว่าเดี๋ยวนี้ที่ไหนก็ไม่ปลอดภัยทั้งนั้น ขนาดบ้านเราเองยังไม่ปลอดภัยเลย ก็เลยต้องจำใจละเมิดกฎหมายในข้อนี้ ทำไงได้ ขนาดโจรผู้ร้ายเองก็พกปืนโดยที่ไม่มีใบ ป.12เหมือนกัน+กับผมมีความคิดที่ว่า มีเเล้วไม่ได้ใช้  ดีกว่าจะใช้เเล้วไม่มี จึงเเอบพกอยู่ทุกวันนี้ แหะๆ :DD

ตามความเห็นที่ 11 เลยครับ  ::002:: ::002:: ::002:: ::002::

 ;D

ผมจะลงไปธุระทางใต้แถว ๆ สตูลแต่จะต้องเดินทางตอนกลางคืน  :OO จะเอาติดตัวไปด้วยจะคุ้มหรือเปล่าครับ  :OO มาเจอกระทู้นี้รู้สึกสดุดไปเลยเหมือนกันครับ  ::003::

ผมจะลงไปธุระทางใต้แถว ๆ สตูลแต่จะต้องเดินทางตอนกลางคืน   จะเอาติดตัวไปด้วยจะคุ้มหรือเปล่าครับ   มาเจอกระทู้นี้รู้สึกสดุดไปเลยเหมือนกันครับ   
    สตูล สงบเรียบร้อยดีครับ ไม่มีอะไรน่ากลัว แต่เดินทางไกล พกได้ก็ควรพกครับ

ผมว่าลองๆเข้าไปอ่านกระทู้นี้ของท่าน sigsax ดูก่อนจะดีเลยครับ ....

ผมก็เอาติดรถประจำครับไปไหนมาไหน ใกล้ไกลก็เอาไปด้วย(เอาไว้ที่บ้านกลัวขโมย) เมื่อเจอด่านก็ยกมือไหว้ก่อนท่านก็แค่ขอตรวจดูใบขับขี่ ถามไปไหน อยู่ที่ไหน ส่วนมากลูกเมียไปด้วย ก็ผ่านตลอด
ส่วนตัวแล้วผมเป็นคนชอบปืน ก็เลยชอบใส่เสื้อที่เกี่ยวกับปืน แต่วันนั้นผมใส่เสื้อหน่วยงานผมเข้าไปส่งหนังสือในจังหวัดเจอตำรวจทางหลวงโบกจอด ก็ยกมือไหว้ก่อน ท่านก็เคารพรับไหว้  ท่านก็มองที่อกเสื้อด้านขวาโลโก้หน่วยงาน แล้วถามว่าอยู่หน่วยงานนั้นเหรอ ท่านก็เชิญให้ไปได้ คิดๆแล้วถ้าวันนั้นใส่เสื้อปืนต่างๆที่ชอบไปแล้วอะไรจะเกิดขึ้นก็ไม่รู้

             อยู่เเถวสามจังหวัดชายเเดนใต้ครับ พกติดตัวมาสี่ปี เดินทางตลอด เก็บบัญชีลูกค้าครั้งละเป็นเเสน ผ่านด่านตรวจมาเป็นร้อยเป็นพันครั้ง โดนจับอาวุธเเค่ครั้งเดียวครับที่อำเภอสะบ้าย้อยครับโดน ตร4นาย รุมค้นรอบคันผมบอกหมวดเลยว่าไม่ต้องค้นปืนอยู่ที่เอว มีป4 บัตรสมาชิกสนามยิงปืน บัตรประชาชน หมวดเชิญไปลงบันทึกประจำวันที่ป้อมเเล้วก็ก้ปล่อยครับเสียเวลาไปครึ่งชม................ ;D

ส่วนมากเชื่อว่าไม่มีใบพกหรอก  แค่ ขอ ป3 ก้อยากเหลือเกิน
ผมเคยเจอด่าน พกปืนไปวางไว้หน้ารถ เหตุเกิด แถว นครนายก ไม่ขอบอกอำเภอนะ
ปืนถูกกฎหมายนะ แต่เรานะผิดที่พกพา  โดนจับ วันศุกร์กลางคืน
เสียเงินไป 3 หมื่น   ด่านมันใหญ่ ตำรวจเยอะ แบ่งหลายคน
อย่าไปพกเลยท่าน  ไม่คุ้ม

ถ้าจำเป็นก็น่าเสี่ยงนะครับ

       
ผมว่าอย่าดีกว่าเพราะเปอร์เซ็นเจอ จนท มีมากครับ แต่ก่อนพกไปทำงานประจำแบบพร้อมใช้เลยมาวันหนึ่งซวยครับโดนแบบตุงเอวเลย  ขึ้นสาญเจอข้อหาพกพาอาวุธโดยไม่ได้รับอะนุญาติ โดนปรับไปสี่พันเซ็งเลยซื้อกระได้ตั้งเยอะตอนนี้ยิ้งแพง  แต่ถ้าจำเป็นจริงๆแยกกระสุนออกจากตัวปืน ใช้ติดรถดีกว่าติดตัวครับโทษเบากว่า นี่ว่าจะขอ ป12ยังไม่ได้เข้าไป โดนก่อนแล้ว  ตอนนี้ใช้ติดรถเอาครับ รอใบ ป12

       
ผมว่าอย่าดีกว่าเพราะเปอร์เซ็นเจอ จนท มีมากครับ แต่ก่อนพกไปทำงานประจำแบบพร้อมใช้เลยมาวันหนึ่งซวยครับโดนแบบตุงเอวเลย  ขึ้นสาญเจอข้อหาพกพาอาวุธโดยไม่ได้รับอะนุญาติ โดนปรับไปสี่พันเซ็งเลยซื้อกระได้ตั้งเยอะตอนนี้ยิ้งแพง  แต่ถ้าจำเป็นจริงๆแยกกระสุนออกจากตัวปืน ใช้ติดรถดีกว่าติดตัวครับโทษเบากว่า นี่ว่าจะขอ ป12ยังไม่ได้เข้าไป โดนก่อนแล้ว  ตอนนี้ใช้ติดรถเอาครับ รอใบ ป12 :~) :D~

แล้วเกี่ยวหรือเปล่าคะ ถ้าหากว่ารถเรามีสติ๊กเกอร์ที่เกี่ยวกับการยิงปืน อาทิ ของเวบไซต์ ชมรมฯ ต่างๆ หรือใส่เสื้อ หมวก โลโก้ แล้วทำให้เราถูกเพ่งเล็ง และอาจจะโดนตรวจค้นมากกว่ารถที่ไม่มี  ???

ในขณะที่....อยู่ในด่าน....
เพียง sticker มิใช่มูลเหตุสำคัญ....ในการตรวจค้น ครับ ป้าแรมส์

เท่าที่ทราบ ๆ มา......ของแท้ ต้องไม่ติด sticker อะไรเลยครับ...คริ คริ

ขอบคุณมากค่ะ คุณ 51 :)

รับใช้ด้วยความยินดีครับ แม่ญิ๋ง...แรมส์....คริ คริ

การนำ อวป ติดตัวไปไหนมาไหนด้วยมันย่อมมี
การเสี่ยง ถ้าโชคไม่ดีโดน จนท เรียกให้จอดเพื่อ
ทำการตรวจค้น ประการแรกควรทักทายด้วยคำสุภาพชน
อย่าทำตัวมีพิรุท ให้ความร่วมมือกับ จนท ทุกอย่างจะราบรื่น
ลองดูนะครับ ;)

ขออนุญาตตอบด้วยน๊ะครับ ผมว่าไม่น่าจะเกี่ยวกันน๊ะ  ขึ้นอยู่กับดุลพินิจของเจ้าหน้าที่มากกว่า  ถ้าเรามี ป.4 แล้วเจอตรวจค้นเจอปืน  ผมแนะให้ว่า อย่าหยิ่ง อย่าโอ้อวดว่าคุณลูกใคร ตำแหน่งใด  มีเงินมากมาย   เป็นใครก็ไม่ชอบโอกาสที่จะโดนสูงมาก   เป็นที่รู้ๆกันอยู่ว่า ป.12 นั้นขอยากขนาดใหนใครมีถือว่าสุดยอด   แต่ผมเจอมามากแล้วน๊ะส่วนมากเวลากลางคืนชาวบ้านเดินทางกันเป็นครอบครัวก็ต้องทำเป็นละเว้นหน้าที่(ไม่จับ)คือถ้าพ้นจากตรงที่ตั้งด่านไปแล้วหากมีเหตุการณ์เกิดข้างหน้าเราก็ไม่รู้ว่าจะตามไปดูแลพวกเขาได้ทันท่วงที   อย่าลืมว่าอาชญากรรมสามารถเกิดขึ้นได้ทุกเวลา ในสถานที่ที่ปลอดเจ้าหน้าที่  อัตตาหิ อัตตาโน นาโถ ครับ

- แนวคิดของผม  กระจกหน้ารถติดสติ๊กเกอร์ต้นสังกัดหน่วยงาน ท้ายรถมีเอกสารราชการ หรือแฟ้มที่อบรมวางไว้บ้าง และ กล่าวสวัสดีตำรวจก่อนที่ท่านจะถามเราว่าจะไปไหน ......แค่นี้ก็ช่วยได้มากแล้ว ครับ 
- โสภณ  เดินทางจากบ้านถึงกรุงเทพ หรือขึ้นเชียงใหม่เป็นประจำ   ผ่านด่านหลายที่กว่าจะถึงปลายทาง  ยังไม่เคยถูกค้นเลย หรือถูกค้นก็ไม่กลัวเพราะไม่นำพา ครับ  ::005::  ::005::

เข้ามาอ่านครับ ขอบคุณทุกท่านที่แบ่งปันประสบการณ์ครับ

ติดสติ๊กเกอร์หน่วยงานหน้ารถก็ดีครับ แต่ประชาชนธรรมดาล่ะครับทำยังไงดีมีทางออกให้ไหมครับ

อ่านของสมาชิกท่านอื่นแล้วขออนุญาตเล่าเรื่องตัวเองบ้างเมื่อก่อนจบมารับราชการใหม่ ๆ กลับบ้านไปโอนที่ที่อำเภอเอกสารไม่ครบต้องขับรถของป้าจากอำเภอกลับมาเอาเอกสารที่บ้าน ระหว่างทาง อาโทรมาบอกว่าให้เอาลูกปืนมาให้อาด้วยลืมไว้ที่บ้านเหมือนกัน ด้วยความรีบลูก .45 ครึ่งกล่องวางไว้เบาะหน้าทับเอกสารไว้ด้วยขากลับเจอด่านตรวจประมาณ 5 -6 นาย โบกให้เข้าจอดข้างทาง" ตั้งสติไว้ ๆ " บอกตัวเองพร้อมกับหยิบเสื้อลายพลางของน้องชายปิดลูกปืนไว้ แล้วก็มีนายดาบ กับนายสิบเดินมาที่รถ นายดาบเดินมาที่ด้านของคนขับทำความเคารพแต่ผมไวกว่ายกมือไหว้ท่านก่อน พร้อมกับเตรียมบัตรประจำตัวไว้
 นายดาบ " ขออนุญาตค้นหน่อยนะครับ ไปไหนมาครับ "
 ผม " ได้ครับพี่ พอดีผมมาโอนที่ดินครับ ลืมเอกสารที่บ้านแล้วกลับมาเอา" หยิบเอกสารให้ดูพร้อมแสดงบัตร
ผมเปิดประตูด้านซ้ายให้นายสิบท่านตรวจใจก็นึกอย่าเปิดผ้าเด้อ ๆ
นายดาบ " เป็นทหารเนาะ แล้วบ้านอยู่ที่ไหนล่ะเนี่ย
ผม " อยู่อำเภอนู้นครับที่ดินอยู่ในเขตนี้เลยต้องมาโอนกันที่นี่
นายสิบท่านก็เปิดนุ่นเปิดนี่ในรถตรวจค้นไปเรี่อยหละครับ แต่ดีที่ไม่หยิบเสี้อออกจากเบาะ
ตรวจค้นพูดคุยกันซักพักก็ปล่อยให้ผมไปได้
ถ้าสังเกตุดี ๆ ผมเหยียบคันเร่งซะเสียงดังก็ผมเกร็งนี่นา รถจอดรอบมันขึ้นสามพันแหละครับอาจเป็นเพราะรถเก่าถึงไม่ได้ดูน่าสงสัย  ดีที่ท่านนายสิบไม่หยิบเสี้อออกดู
นั่นหละครับประสบการณ์เจอด่านครั้งแรกเหงื่อตกตัวเย็นเชียวหละครับ

- ที่ผมกล่าวก่อนหน้านี้ ผมปฏิบัติจริงๆ ครับ  และ ช่วงสงกรานต์ผมตั้งใจจะลงใต้ยังมีหนังสือรับรองเงินเดือนไว้ด้วยเพราะคิดว่าถ้าขอความกรุณาตำรวจท่านไม่ให้ เราจะได้ไม่เสียเวลาประกันตัวนาน
- แต่ ประชาชนธรรมดา  ไม่มีคำแนะนำ ครับ 

เจอตำรวจจับไม่ตาย ไม่มีปืนหากถูกโจรปล้มอาจตายครับ ถือสุภาษิตนี้ไว้ แล้วตัดสินใจเองครับ

ไม่ตายหรอกครับตำรวจจับ  แต่ต้องหาเงินมาประกันตัวและขึ้นศาลอาจจะตายทั้งเป็นสำหรับชาวบ้านธรรมดาที่พก :~) .38 สามนิ้วเก่าๆ

แยกลูก แยกแม่ เอาไว้ปืนท้ายรถครับ น่าจะรอด  ;D

(http://i203.photobucket.com/albums/aa299/Glock_pk/IMG_3252-1.jpg)

ปล.อย่าเลียนแบบนะครับ ไม่รับผิดชอบด้วย  ::005::

เข้าท่าดีครับ

เข้ามาอ่าน...ครับได้หลายแนวเหมือนกัน ... ;D

เอาปืนใว้ท้ายรถเข้าท่าดี :~) :~) :~)

 ;D  ดีครับ

โหดจังครับ :~)

...อิ อิ ..เข้าท่าดีครับพี่.....แหม..ปืนสวย..มาก  ๆ  :D~

::002:: ::002:: ::002::

ปืนพลาสติกอย่าเลียนแบบนะครับ....เพราะหมาอาจไล่กัดเป็นรอยได้.... ::005:: ::005::

นอกจากต้องระวังโจรผู้ร้าย เด็กแว้น เด็กปาขวด ยังต้องระวังตำรวจอีกนะครับ นี่แหละ พลเมืองดี

::002:: ::002::

I normally do ask myself, Police or bad guys that I'm more afraid of. Yes, I'm afraid of bad guys. So ... have gun will travel.  ;D

ทุกวันนี้ระวังตัวไม่ไหวแล้วครับพี่น้อง ทั้งต้องระวังโจรผู้ร้าย วัยรุ่นสมัยนี้ก็น่ากลัวครับ
ผมเห็นบ่อยมากถือมีดเล่มยาวๆไล่ฟันกันกลางถนน ไม่สนใจใครๆทั้งสิ้นบางที่
ก็ถือปืนวิ่งควบกันกลางถนน ไอ้เรามันคนธรรมดากลัวจริงๆลูกหลง พกออกไปซะเลย
เสี่ยงเอาช่วงเวลานั้นถ้าเกิดอะไรขึ้นตัวเราเท่านั้นที่ช่วยตัวเองได้( ความคิดส่วนตัวครับไม่นิยมให้ลอกเลียน)

นำพาไปเถอะครับ  เจอตำรวจดีกว่าเจอโจรครับ

ผมใด้นำพาปืนทุกครั้งที่เดินทางครับ ใส่กระเป๋าเอกสารและวางใว้บนเบาะหน้าคู่กับคนขับ เจอด่านเรียกบ่อยครับ แต่ไม่เคยขอเปิดกระเป๋าดูสักครั้ง จะดูก็แต่จุดอื่นที่ลับตามากกว่าครับ และพูดจาดีๆกับเจ้าหน้าที่ที่ตรวจแค่นี้ก็ผ่านด่านแล้วครับ  ;D ถ้าไปพื้นที่เสี่ยงอย่ากลัวเรื่องถูกจับปืน ให้คิดถึงชีวิตใว้ก่อน (โบราณว่าคิดจะเล่นกับเขียดก็อย่ากลัวคาว) คลิก.ๆๆ

ด้วยความเคารพ  ::014:: 
การพาอาวุธปืนติดตัวฯ ถ้าเป็นปืนของตนเองถูกต้อง ...... ระวางโทษจำคุกไม่เกินห้าปีหรือปรับไม่เกินหนึ่งหมื่นบาท
ซึ่งหากเป็นผู้ประกอบสัมมาชีพ พาอาวุธไปเพื่อป้องกันตัวโดยเจตนาสุจริต ศาลท่านมักปราณีลงโทษสถานเบาเพียงปรับ หรือรอฯโทษจำฯ

ผมเห็นที่คุณdhirayutโพสไว้ไล่ๆกันในสองกระทู้
อันแรกท่านบอกเสียเงินไปสามหมื่น อันหลังท่านกล่าวถึงศาล ว่าไปเจอท่านที่ไม่ค่อยชอบปืนจะไม่รอลงอาญา
ผมมาประมวลเอาว่า เพราะข้อมูลที่ท่านได้มาดังนี้ ..... ท่านเกรงอาญาแผ่นดิน เกรงติดคุก ท่านจึงยอมเสียเงินสามหมื่น
แต่ตอนท้าย ท่านกลับแนะนำ .... พกปืนเถื่อนเลยดีกว่า   ผมคิดว่าน่าจะเป็นคำแนะนำที่ไม่ถูกต้อง  ::014::

เป็นคำแนะนำที่ชอบกล บอกให้ทำตามกฏ พอสรุปบอกให้พกปืนเถื่อน แล้วมันจะคุ้มหรือครับท่าน ยิ่งพกปืนเถื่อนยิ่งหนักเข้าไปใหญ่
มีปืนแล้วไม่กล้าพก ก็อย่ามีเลยดีกว่า  หมายถึงไม่กล้าแม้แต่เพียงครั้งเดียวที่จะนำพา แต่ก็มิได้นำพา

เจอตำรวจเสียค่าปรับไม่กีพันครับ  เจอโจรหมดตัวแน่นอนครับ 
แถมดีไม่ดีอาจจะต้องเดินกลับบ้านแล้วมานั่งผ่อนกุญแจรถด้วยครับ

สัปดาห์ที่แล้วนี่เอง...........ผมได้พาปืนเข้ากรุงเทพ ฯ ด้วยความจำเป็นครับ
ขาไปเอาลูกออกจากแม็กทั้ง 8 นัด ใส่ถุงกร๊อบแกร๊บ  แล้วใส่กระเป๋าไว้ใบหนึ่ง
ส่วนตัวปืนเสียบแม็กเปล่าใส่กระเป๋าอีกใบหนึ่ง..........ขั้นตอนนี้เสียว ๆ อยู่เหมือนกัน
(เดินทางกลางคืนด้วยขนส่งมวลชนระบบราง)

รุ่งเช้าถึงกรุงเทพ ฯ  หลังจากอาบน้ำแต่งตัวที่บ้านพรรคพวกเสร็จแล้ว   ก่อนออกไปทำภาระกิจเป้าหมาย
ได้บรรจุกระสุนเข้าปืนตามเดิม (เอาไปแค่แม็กเดียว)

หลังจากนั้นก็อาศัยแท็กซี่แหละครับ..........       
ตระเวนหาแค่ 2 ย่านถนนคือ ศรีนครินทร์และรัชฎาก็ประสบความสำเร็จ
..........โดยที่ปืนพร้อมกระสุนก็อยู่กับผมตลอดเวลา

ทำให้จำเป็นต้องไปเบิกเงิน   รวมแล้วประมาณเกือบ 500,000
ช่วงที่ภรรยาผมกดเงินเพิ่มเติมจากตู้ ATM หน้าธนาคาร  ยังมีตำรวจในเครื่องแบบท่านหนึ่งยืนอยู่ใกล้ ๆ ด้วย
แต่ผมก็ทำตัวตามปกติ (ไม่ให้มีกลิ่น)

หลังจากเสร็จภาระกิจแล้ว   ผมค้างบ้านพรรคพวกหนึ่งคืน
รุ่งขึ้นประมาณ 8 โมงครึ่ง ผมขับรถกระบะมือสองกลับบ้านโดยสวัสดิภาพ..........ไม่เจอด่านเลย
ถึงบ้านประมาณ 6 โมงเย็น..........

(ขากลับนี้ยอมรับว่าได้บรรจุกระสุนตามปกติ.....แต่ไว้ที่ไหนนั้นขออนุญาตไม่บอกนะครับ)


 

ประสบการณ์ผม ส่วนมากไม่มีปัญหาครับ อย่าเหน็บเอวก็แล้วกัน แบบค้นปุ๊บเจอปั๊บ โดนแน่ครับ
เจอด่านมาก็หลายครั้งหลายครา เคยโดนตรวจเจอเต็มๆก็แค่หนเดียว เวลาประมาณ 22.30 น. มากัน 4 คน ปืน 5 กระบอก  โดนตำรวจรุมรอบคันเลย ถามว่านั้นอะไร (เห็นอุปกรณ์ IPSC ) ตอบว่าอุปกรณ์กีฬาครับ แล้วถามต่อว่านี้อะไร (ซองนอกของเพื่อนผมที่ใส่กับชุดเข็มขัด) ผมตอบว่าซองปืนครับ แล้วมีปืนหรือป่าว ตอบว่ามีครับ มีกันทุกคนเลย ไหนดูซิ ได้ครับพี่ ให้ดูหมดทุกอย่าง เริ่มจากปืนของเพื่อนก่อนเลยครับ .357 ท้ายรถ ไม่มีเครื่องกระสุนบรรจุ มีแต่ลูกซ้อม 1 กระปุก อุปกรณ์ แล้วก็ตามด้วยปืนผม บรรจุเต็ม 15 นัด แม๊คสำรองอีก 15 นัด ไปไหนกันมา ไปซ้อมยิงปืนที่สนามยิงปืนครับ ค่าย....................... เลยนำปืนไปด้วย พร้อมกับแสดงบัตรนักกีฬายิงปืนให้ดู

ดูบัตรสักพักหนึ่งแล้วปรึกษากัน ไม่จับครับ ปืนกับ ป.4 ผมยังไม่ดูเลย ทั้งที่หยิบกระเป๋าที่ใส่ปืนมาให้ดูแล้วก็ตามครับ (ไม่มีกลิ่นครับ)
เจตนาดีไม่มีพิรุต ตำรวจก็พกปืนกันทั่วบ้านทั่วเมืองครับ (นอกเวลาราชการและเครื่องแบบ) เป็นเรื่องธรรมดา ถ้ามีเพื่อนเป็นตำรวจลองสังเกตุดูพกปืนเกือบทุกคนครับ  ถ้าทำให้เป็นเรื่องปกติ พูดจาสุภาพ เจ้าหน้าที่ก็ไม่ได้ตื่นตูมตามเราไปด้วย ถ้าจับก็ให้จับครับ แต่คุยกันก่อนอธิบายเหตุผล
ถ้าไม่ฟัง เคลียร์ ถ้าเคลียร์ไม่ลงเตรียมประกันตัวได้เลย ที่สำคัญถ้าไม่เข้าลักษณะพกพา ต้องให้บันทึกในการจับกุมด้วย เช่น แยกออกจากกัน เผื่ออัยการสั่งไม่ฟ้องครับ ท่านคงพิจรณาจากเหตุผลของคุณด้วย

ถ้าคุณมีความเสี่ยงหรืออยู่ในที่ที่มีความเสี่ยงมากขึ้นตามลำดับ ก็จงมีความพร้อมขึ้นตามลำดับ มากสุดก็คอนดิชั่นวันไปเลยครับ
ติดคุกดีกว่าตายครับ นับภาษาอะไรกับขึ้นศาลเสียตัง

ปล.เหตุการณ์นี้ใช้ได้กับบางสถานการณ์เท่านั้น วันนั้นอาจจะไม่รอดก็ได้ เพราะฉะนั้นต้องเข้าใจ และรับได้ หากอะไรจะตามมาจากการตัดสินใจของคุณ

๑. คนที่มีอาวธปืนถูกต้องตามกฏหมาย คือ มีแค่ ป4 แต่ไม่มี ป12 สำหรับพกพา มีกี่เปอร์เซนต์ในปัจจุปัน
ถ้าไม่รวมเจ้าพนักงานฝ่ายปกครอง ตำรวจ น่าจะไม่น้อยว่า ๘๐ เปอร์เซนต์ครับ

๒. จะนำปืนติดตัวไปด้วยตลอดเวลาทุกครั้งที่เดินทาง และมีโอกาสใดบ้างที่จะถูกตำรวจตรวจค้น
ตอบโดยเฉพาะเจาะจงไม่ได้ครับ เพราะมีทุกโอกาสที่เราจะไปเจอ ตำรวจ หรือเจอด่านตรวจ ค้นและจับกุม ซึ่งจะเจอที่ไหน เมื่อไหร่ก็ได้ และแม้กฎหมายหรือระเบียบสำนักงานตำรวจแห่งชาติจะกำหนดให้ทุกครั้งที่ตั้งด่าน ตรวจค้น จับกุม จะต้องตั้งที่มีแสงสว่างชัดเจน มีป้ายแสดงอย่างเห็นได้ชัด และต้องมีนายตำรวจชั้นร้อยตำรวจตรีขึ้นไปร่วมด้วยในการตั้งด่านก็ตาม แต่ก็มีบ่อยไปที่ ไปแอบตามซอยเปลี่ยวๆ มุมมืด ซุ่มในป่าพอเห็นรถแล้วค่อยออกมาแสดงตัว จนเกิดการเข้าใจผิดและเกือบจะเร่งเครื่องชนหรือถึงขั้นต้องดวลปืนก็มีมาแล้ว

๓. ที่ผ่านมาใครเคยมีประสบการณืที่ตำรวจตรวจเจอปืนบ้างแล้วเจอแล้วท่านทำตัวยังไงหรือพูดคุยยังไง
ผมเคยอยู่บ่อยครั้ง เนื่องจากลงพื้นที่ต่างอำเภอและต่างจังหวัดบ่อย แต่อาจจะเป็นเพราะโชคดีที่ในจังหวัด จะรู้จักและสามารถเครียร์ปัญหาได้อย่างไม่ต้องขึ้นโรงขึ้นศาล แต่ต่างจังหวัดจะพยายามเก็บไว้ข้างตัวแต่มิดชิดที่สุด หรือไม่ก็เอาชุดทำงานของผม (เสื้อครุย)ตั้งทับ เพราะส่วนใหญ่พอเขาเห็นชุด ก็เข้าใจและหยุดตรวจค้นและปล่อยไป แต่ถ้ายังค้นจนเจอก็คงต้องอธิบายให้เขาเข้าใจด้วยน้ำเสียงที่นิ่ม และที่สำคัญอย่าทำหัวหมอเด็ดขาด

๔. ในกรณีที่ตำรวจตรวจเจอปืน เราควรปฏิบัติตัวยังไงครับ
ต้องยื่นสำเนาใบ ป. ๔ ให้ดูก่อนครับ และบัตรประชาชนหรือบัตรข้าราชการ และค่อยทำการพูดคุย เจรจา ขอความเห็นใจ โทรหาพรรคพวกให้เครียร์ หรือไม่ก็โทรหาพรรคพวกมาให้ประกันตัวครับ  ::005::

แต่อย่างไรก็ตาม มีน้อยมากครับ ที่ตำรวจจะทำการปล่อยตัวเราและคืนปืนให้ ทั้งที่เราถอดชิ้นส่วน แยกเก็บก็ตาม ยังไงต้องไปโรงพักก่อน แล้วพอพบพนักงานสอบสวน(ที่ดี) ระดับ สบ ๑ หรือ สบ ๒ ซึ่งรู้และเข้าใจกฎหมายและระเบียบเป็นอย่างดี อาจจะบันทึกประวัติของเราเท่านั้นก็ได้ครับ (ถ้าเจอถือว่าบุญสุดๆครับ)

นอกนั้นไปแก้ต่างกันเองที่ศาลครับ ซึ่งถ้าเป็นยังงั้นจริงคงต้องเข้าไปตรวจสอบและร้องขอให้ตำรวจหรือพนักงานสอบสวนทำแบบนี้ครับ

ขออ๓ยที่แนะนำชอบกล   จริงๆ  ปืนเถื่อนก้อไม่ควรพก   ในมุมมองผม มีปืน ไม่เกียวอะไรกับการต้องพกพาปืน
 ผมนะรักชอบปืน สมัยมีปืนกระบอกแรก ตั้งแต่อายุไม่มาก ชอบพกพาปืน ข้ออ้างที่ผมบอกตัวเองคือ อันตราย
รถเสียกลางทางจะทำยังไง ก้อเลยพกปืนไปไหนมาไหนตลอด มาโดนตำรวจจับ วันที่ดดนจับเปนวันศุกร์
วันนั้นผมโดน เข้าห้องขังโรงพัก ประกันตัวไม่ได้ สารวัตรไม่อยู่ เขาก้อให้เขาห้องขัง ไม่ได้ลงบัณทึกประจำวันนะ
ตอนเช้าเคลียร์ตำรวจ เขาก้อแจ้งว่า ได้กักเราตรวจค้นแล้วไม่พบสิ่งผิดกฎหมาย เรื่องก้อจบ กลัวคุกไหม กลัวคับ
ตั้งแต่นั้นมา ก้อไม่เคยพกปืนไปไหนเลย ยกเว้น เอาไปสนามยิงปืน  และเมื่อเร็วๆนี้ มีคนแถวบ้านโดนจับปืน ศาลตัดสินจำ
อันนี้ดังไปทั้งจังหวัด  ก้อเลยมาเขียนเล่าให้ฟัง วินิจฉัยอยู่ที่ตัวท่าน คำแนะนำเรื่องพกปืนเถื่อน ขออภัยมา ที่นี้ด้วยคับ

เปอร์เซ็นต์ของคนมีป.12 น่าจะมีน้อย ผมเคยได้ครั้งหนึ่งตอนนั้นรับราชการต้องทำหน้าที่เกี่ยวกับการเบิกจ่ายเงินจำนวนมาก (แต่ปัจจุบันไม่มีแล้ว เพราะย้ายหน่วยงาน) สำหรับประสบการณ์ถูกตำรวจค้นผมมี 2ครั้งครับ ส่วนมากผมจะนิยมพาไป มากกว่าพกครั้บ ครั้งแรก อารามรีบกลับบ้านเพราะออกเวรตอนตีห้า ปืนเหน็บ ซองเอี้ยมข้างลำตัว ปืนบรรจุลูกใส่แม็คพร้อม แต่ไม่ได้ขึ้นลำ ตำรวจเรียกผมลงมาแล้วขอตรวจปืน พร้อมถามว่าไปไหน ผมบอกว่าเพิ่งออกเวรครับ (สุภาพมาก) เขาถามว่าทำงานอะไร ผมบอกรับราชการครับ เขาขอดูหลักฐานทั้งหมด ผมเลยเอาบัตรข้าราชการ สำเนา ป.4 แล้วแจ้งว่าเหตุจำเป็นที่ต้องพกปืน คงเพราะ เป็นข้าราชการเหมือนกันละมั้งครับ เขาเตือนผมนิดหน่อยแล้วบอกให้ผมเก็บดีๆให้มีดชิด ผมก็รับปากแล้วทำตามพร้อมยกมือไหว้ขอบคุณเขา (ทั้งหมดทำด้วยกิริยาที่สุภาพ)
ครั้งที่ 2 ย้ายมาที่ใหม่แล้ว กำลังจะไปเข้าเวรตอน 2 ทุ่ม พบด่านตรวจก่อนถึงที่ทำงานสัง 3 กิโลเมตร คราวนี้ปืนผมอยู่ในลิ้นชักหน้ารถ ส่วนแม็คที่ใส่ลูกอยู่คอลโซลกลาง เขาจะขอตรวจค้น ผมกล่าวอย่างสุภาพยินดีครับ แต่ในรถผมมีปืน ผมกำลังจะไปเข้าเวร ตำรวจก็ขอดูปืน (ไม่ได้ใส่ลูก)และเอกสารผมก็นำมาให้เขาดู เขาซักถามนิดหน่อยว่าทำงานอะไร เข้าเวรเวลาเท่าไรถึงเท่าไร ผมก็ตอบไปอย่างสุภาพ เขาก็มิได้ว่าอะไร ก็ขอบคุณเขา แค่นั้นครับ

 ::002::

เข้ามาอ่านความคิดเห็นจากผู้รู้

 ::002::