เว็บบอร์ดสนทนาภาษาปืน

สนทนาภาษาปืน => หลังแนวยิง => ข้อความที่เริ่มโดย: jo1911 ที่ พฤษภาคม 10, 2008, 03:25:01 AM



หัวข้อ: พรบ.ล้างมลทิน
เริ่มหัวข้อโดย: jo1911 ที่ พฤษภาคม 10, 2008, 03:25:01 AM
ในพรบ.ล้างมลทิน แปลว่าคนที่กระทำความผิดและโดนลงโทษผ่านพ้นไปแล้ว จะได้รับการลบความผิดนั้นใช่หรือเปล่าครับ หรือว่าประวัติจะยังคงอยู่
แต่ไม่คิดเป็นความผิด รบกวนทีครับพอดีมีประวัติติดอยู่ แต่ที่อำเภอบอกว่าต้องรอ พรบ.ล้างมลทินออกมาก่อน แต่ที่ศึกษาดูเห็นว่าประกาศใช้ตั้งแต่วันที่ 5 พ.ย. 50แล้ว ขอบคุณครับ



อยากรู้เหมือนกันครับ.......เพื่อนผมต้องโทษกักขัง

จะขอ ป.3 ได้หรือปล่าวครับ


หัวข้อ: Re: พรบ.ล้างมลทิน
เริ่มหัวข้อโดย: jo1911 ที่ พฤษภาคม 10, 2008, 03:25:41 AM
ร่างพระราชบัญญัติ ล้างมลทินในวโรกาสที่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชทรงมีพระชนมพรรษา 80 พรรษา พ.ศ.... ภูมิพลอดุลยเดช ป.ร. ให้ไว้ ณ วันที่ เป็นปีที่ ในรัชกาลปัจจุบัน โดยที่เป็นการสมควรให้มีกฎหมายว่าด้วยการล้างมลทินในวโรกาสที่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ทรงมีพระชนมพรรษา 80 พรรษา


มาตรา 1 พระราชบัญญัตินี้เรียกว่า "พระราชบัญญัติล้างมลทินในวโรกาสที่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภููมิพลอดุลยเดชทรงมีพระชนมพรรษา 80 พรรษา พ.ศ...."


มาตรา 2 พระราชบัญญัตินี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป


มาตรา 3 ในพระราชบัญญัตินี้


"ผู้ต้องโทษ" หมายความว่า ผู้ต้องคำพิพากษาหรือคำสั่งของศาลให้ลงโทษหรือให้กักกัน และให้หมายความรวมถึงผู้ถูกลงโทษโดยคำสั่งที่ชอบด้วยกฎหมายซึ่งมีผลเช่นเดียวกับการถูกลงโทษโดยคำพิพากษาของศาล

"ผู้ถูกลงโทษทางวินัย" หมายความว่า ผู้ถูกลงโทษหรือลงทัณฑ์เพราะกระทำผิดวินัยตามกฎหมาย ระเบียบ ข้อบังคับ ประกาศ หรือคำสั่งของกระทรวง ทบวง กรม ราชการส่วนภูมิภาค ราชการส่วนท้องถิ่น หน่วยงานของรัฐ หรือรัฐวิสาหกิจ และ ให้หมายความรวมถึงบุคคลใดที่ถูกลงโทษหรือลงทัณฑ์โดยคำสั่งที่ชอบด้วยกฎหมายซึ่งมีผลเช่นเดียวกับการถูกลงโทษหรือลงทัณฑ์ทางวินัย


มาตรา 4 ให้ล้างมลทินให้แก่บรรดาผู้ต้องโทษในกรณีความผิดต่างๆ ซึ่งได้กระทำก่อนหรือในวันที่ 5 ธันวาคม พ.ศ.2550 และได้พ้นโทษไปแล้ว ก่อนหรือในวันที่พระราชบัญญัตินี้ใช้บังคับโดยให้ถือว่าผู้นั้นมิได้เคยถูกลงโทษในกรณีความผิดนั้นๆ


มาตรา 5 ให้ล้างมลทินให้แก่บรรดาผู้ถูกลงโทษทางวินัยในกรณีซึ่งได้กระทำก่อนหรือในวันที่ 5 ธันวาคม พ.ศ.2550 และได้รับโทษหรือรับทัณฑ์ทั้งหมดหรือบางส่วนไปก่อนหรือในวันที่พระราชบัญญัตินี้ใช้บังคับ โดยให้ถือว่าผู้นั้นมิได้เคยถูกลงโทษหรือลงทัณฑ์ทางวินัยในกรณีนั้น


มาตรา 6 สำหรับบรรดาผู้ถูกสั่งให้ออกจากราชการอันมิใช่เป็นการลงโทษทางวินัยก่อนหรือในวันที่ 5 ธันวาคม พ.ศ.2550 และบรรดาผู้ถูกดำเนินการทางวินัยในกรณีกระทำผิดวินัยซึ่งผู้บังคับบัญชาได้พิจารณาสั่งยุติเรื่องหรืองดโทษก่อนหรือในวันที่ 5 ธันวาคม พ.ศ.2550 ให้ผู้นั้นไม่ต้องถูกพิจารณาเพิ่มโทษหรือถูกดำเนินการทางวินัยในกรณีนั้นๆ ต่อไป


มาตรา 7 การล้างมลทินตามมาตรา 4 และ มาตรา 5 ไม่ก่อให้เกิดสิทธิแก่ผู้ได้รับการล้างมลทินในอันที่จะเรียกร้องสิทธิหรือประโยชน์ใดๆ ทั้งสิ้น


มาตรา 8 ให้นายกรัฐมนตรีรักษาการตามพระราชบัญญัตินี้


หัวข้อ: Re: พรบ.ล้างมลทิน
เริ่มหัวข้อโดย: PU45™ ที่ พฤษภาคม 10, 2008, 07:43:24 AM

        เคยได้ยิน พรบ. นี้ครับแต่ไม่ลึกซื้ง

        เข้าใจเอาเองว่าใช้เฉพาะ ข้าราชการ เท่านั้น ไม่ทราบถูกหรือผิด




หัวข้อ: Re: พรบ.ล้างมลทิน
เริ่มหัวข้อโดย: MP 436 ที่ พฤษภาคม 10, 2008, 07:56:25 AM
อ่านดูแล้ว พอตีความตามความเข้าใจได้ว่า

เคยทำผิดและรับโทษมาแล้ว   
แต่เมื่อได้รับการล้างมลทินแล้ว
ก็ต้องถือว่าไม่เคยได้รับโทษมาก่อน   ...

แต่ความผิดเดิมที่ทำยังคงมีอยู่ ...

ใช่หรือเปล่าครับ ..


หัวข้อ: Re: พรบ.ล้างมลทิน
เริ่มหัวข้อโดย: jo1911 ที่ พฤษภาคม 10, 2008, 01:46:04 PM
อ่านดูแล้ว พอตีความตามความเข้าใจได้ว่า

เคยทำผิดและรับโทษมาแล้ว   
แต่เมื่อได้รับการล้างมลทินแล้ว
ก็ต้องถือว่าไม่เคยได้รับโทษมาก่อน   ...

แต่ความผิดเดิมที่ทำยังคงมีอยู่ ...

ใช่หรือเปล่าครับ ..

น่าจะประมาณนั้นนะครับ.....แต่ที่สำคัญคือ

ต้องโทษ  กักขัง แล้วมันจะขอ ป.3 ที่วังไชยา ได้หรือปล่าวครับ

ท่านผู้รู้ช่วยตอบทีครับ


หัวข้อ: Re: พรบ.ล้างมลทิน
เริ่มหัวข้อโดย: SingCring ที่ พฤษภาคม 10, 2008, 03:01:14 PM
ประกาศใช้แล้วครับ พี่ที่ผมเคารพท่านหนึ่ง โดนจำคุกที่เรือนจำบางขวาง แต่ได้รับการอภัยโทษเนื่องจากเป็นนักโทษชั้นดี ในระหว่างนั้นพี่แกก็เรียนสุโขทัย นิติศาสตร์จนจบการศึกษา...
ก่อนนั้นแก่เคยไปขอสมัครเป็นสมาชิกวิสามัญแห่งเนติบัณฑิตยสภา เพื่อขอจดทะเบียนเป็นทนายความ
แต่นางเนติฯ ไม่รับเป็นสมาชิกเพราะเคยต้องโทษจำคุกมาก่อน......

----------------------------------------------------
แต่ว่าเมื่อพิจารณาจาก มาตรา ๔ ให้ล้างมลทินให้แก่บรรดาผู้ต้องโทษในกรณีความผิดต่างๆ ซึ่งได้กระทำก่อนหรือในวันที่ ๕ ธันวาคม พ.ศ.๒๕๕๐  และได้พ้นโทษไปแล้ว ก่อนหรือในวันที่พระราชบัญญัตินี้ใช้บังคับโดยให้ถือว่าผู้นั้นมิได้เคยถูกลงโทษในกรณีความผิดนั้นๆ
และหมายเหตุท้ายพระราชบัญญัตินี้ ตอนท้าย"เพื่อให้ไม่ถูกพิจารณาเพิ่มโทษหรือถูกดำเนินการทางวินัยในกรณีนั้นๆ ต่อไปด้วย" แสดงว่า พระราชบัญญัตินี้เพียงให้ถือว่าผู้นั้นไม่เคยต้องโทษจำคุกในความผิดที่ได้ทำมาก่อน แต่ไม่ได้ถือว่าผู้นั้นไม่ได้เป็นผู้ทำความผิด ในความผิดที่ถูกลงโทษมา

ซึ่งส่งผลอย่างไร  ในกรณีที่บุคคลหนึ่งเคยต้องคำพิพากษาลงโทษจำคุกมาก่อนในความผิดหนึ่ง แล้วได้กระทำความผิดใดๆ อีกในระหว่างที่ยังจะต้องรับโทษอยู่ หรือภายในระยะเวลา ๕ปีนับแต่วันพ้นโทษ หากศาลจะพิจารณาลงโทษจำคุกในครั้งหลังอีก ก็ให้ศาลเพิ่มโทษจำคุกอีกหนึ่งในสามของโทษที่จะลง (มาตรา ๙๒ แห่งประมวลกฎหมายอาญา) ถ้าความผิดที่ถูกลงโทษครั้งแรกและที่ถูกดำเนินคดีครั้งหลังเป็นความผิดเดียวกัน อีกในระหว่างที่ยังจะต้องรับโทษอยู่ หรือกระทำผิดซ้ำอีกภายในกำหนด ๓ ปีนับแต่วันพ้นโทษ  ศาลจะเพิ่มโทษอีกกึ่งหนึ่ง ของโทษที่จะลงแก่บุคคลนั้น (มาตรา ๙๓ แห่งประมวลกฎหมายอาญา)

         เช่น นาย ก. ถูกศาลพิพากษาลงโทษจำคุก ๓ ปี ในข้อหาลักทรัพย์ เมื่อพ้นโทษออกมา กลับมาทำผิดลักทรัพย์ซ้ำอีก ในคดีหลังนี้ศาลพิจารณาแล้ว จะลงโทษจำคุกนายก. อีก ๓ ปี กฎหมายจึงกำหนดให้ศาลต้องเพิ่มโทษบุคคลนั้นให้อีกหนึ่งในสามของโทษที่จะลงในความผิดครั้งหลัง ก็คือ ๑ ปี หกเดือน  ดังนั้นศาลจะต้องลงโทษจำคุก นาย ก. ในครั้งหลัง ๔ ปี หกเดือนนั้นเอง

        แต่เมื่อมีพระราชบัญญัตินี้ให้ถือว่า ผู้นั้นมิได้เคยถูกลงโทษในกรณีความผิดนั้นๆมาก่อน ดังนั้น ถ้านายก. ถูกจำคุกและพ้นโทษมาก่อนวันที่
ในวันที่ ๕ ธันวาคม พ.ศ.๒๕๕๐ แต่กลับมาทำผิดฐานลักทรัพย์ ในเดือนเมษายน ๒๕๕๑ จึงส่งผลให้ศาลจะพิพากษาเพิ่มโทษนาย ก. ตามมาตรา ๙๒ และ ๙๓ ไม่ได้ คงทำได้เพียงลงโทษจำคุกนาย ก. ตามอัตราโทษปกติของความผิดนั้น

          ดังนั้น เมื่อพระราชบัญญัตินี้ใช้บังคับ พี่เขาจึงกำลังขอสมัครเป็นสมาชิกใหม่ครับ เพราะในคุณสมบัติของผู้สมัคร ต้องไม่เคยถูกลงโทษถึงที่สุดให้จำคุกโดยคำพิพากษาของศาลมาก่อน ซึ่งผลของพระราชบัญญัตินี้ทำให้พี่ที่เคารพของผม ถือว่าเป็นบุคคลที่ไม่เคยต้องคำพิพากษาให้จำคุกมาก่อนนั้นเอง แต่ยังถือว่ายังเป็นผู้กระทำความผิดอาญา ฐานฆ่าผู้อื่นโดยเจตนาอยู่ดีครับ



--------------------------------------------------------
ส่วนนี้คือเหตุผลหนึ่ง ในส่วนของข้าราชการครับ

เรื่อง  พระราชบัญญัติล้างมลทินในวโรกาสที่ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชมีพระชนมพรรษา ๘๐ พรรษา
                 ผู้เขียนเห็นว่า มีข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา และลูกจ้างประจำจำนวนหนึ่งในสังกัด   ที่ถูกลงโทษทางวินัยเพราะกระทำผิดวินัย จนถูกผู้บังคับบัญชาสั่งลงโทษทางวินัย ทั้งที่ถูกลงโทษวินัยไม่ร้ายแรง เช่น ภาคทัณฑ์ ตัดเงินเดือน ลดขั้นเงินเดือน  หรือที่ถูกลงโทษวินัยอย่างร้ายแรง เช่น ปลดออก ไล่ออก จากราชการไปแล้ว จะได้รับการล้างมลทิน เนื่องในวโรกาสที่ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชมีพระชนมพรรษา ๘๐ พรรษา  ในวันที่  ๕  ธันวาคม  พ.ศ. ๒๕๕๐  ซึ่งเป็นมหามงคลกาลอันสำคัญยิ่งได้มีพระราชบัญญัติล้างมลทิน   ให้แก่บรรดาผู้ที่ถูกดำเนินการทางวินัย ในกรณีกระทำผิดวินัยซึ่งผู้บังคับบัญชา ได้พิจารณาสั่งยุติเรื่อง  หรืองดโทษก่อนหรือในวันที่ ๕ ธันวาคม  พ.ศ. ๒๕๕๐ ให้ผู้นั้น ไม่ต้องถูกพิจารณาเพิ่มโทษหรือถูกดำเนินการทางวินัยในกรณีนั้นๆต่อไป
                 แต่ยังเป็นที่สงสัยในหมู่ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา และลูกจ้างประจำว่า ผู้ใดที่ได้รับการล้างมลทินแล้วถือว่าผู้นั้นไม่ต้องรับผิด ใช่หรือไม่ เช่น ผู้ถูกลงโทษลดขั้นเงินเดือนจำนวน ๑ ขั้น ก่อนหรือในวันที่ ๕ ธันวาคม  พ.ศ. ๒๕๕๐ เมื่อบุคลผู้นั้นได้รับการล้างมลทินแล้ว  จะได้รับเงินเดือนในขั้นเดิมเหมือน ก่อนถูกลงโทษลดขั้นเงินเดือน   ใช่หรือไม่
                    ผู้เขียนขอเรียนว่า  ไม่ใช่  เพราะเหตุว่าการล้างมลทินเป็นเพียงการล้างโทษ แต่ไม่ใช่เป็นการล้างความผิด   ดังนั้น ผู้ใดที่ได้กระทำผิดวินัยจนถูกผู้บังคับบัญชาสั่งลงโทษจะต้องได้รับโทษตามความผิดนั้น  ส่วนการล้างมลทินคือให้ถือเสมือนหนึ่งว่าบุคคลผู้นั้นไม่เคยถูกลงโทษทางวินัยมาก่อน
                       ดังนั้น อาจจะยังมีผู้ที่ติดใจสงสัยใคร่รู้อีกว่า  หากเป็นเช่นนี้แล้ว ผู้ที่ถูกผู้บังคับบัญชาสั่งลงโทษไล่ออก  หรือปลดออกจากราชการไปแล้ว    ก่อนหรือในวันที่  ๕  ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๕๐ นั้น จะได้รับสิทธิประโยชน์อันใดจากพระราชบัญญัติล้างมลทินฉบับนี้  ผู้เขียนจึงขอกล่าวไว้   ณ  ที่นี้ว่า   สิทธิประโยชน์ที่บุคคลผู้นั้นจะได้รับจากพระราชบัญญัติล้างมลทินฉบับนี้   ก็คือ บุคคลผู้นั้นสามารถใช้สิทธิกลับเข้ามารับราชการใหม่ ได้อีกตามกระบวนการสรรหาบุคคลเข้ารับราชการโดยมิเป็นการต้องห้ามตาม กฎ ก.ค.ศ.
 
อมราวรรณ  นิติกร ๘ ว  ผู้เขียน ที่มา http://www.kan2.go.th/nitikan/nitikan_01.html (http://www.kan2.go.th/nitikan/nitikan_01.html)




หัวข้อ: Re: พรบ.ล้างมลทิน
เริ่มหัวข้อโดย: คนแปลกหน้า - รักในหลวง ที่ พฤษภาคม 10, 2008, 03:40:31 PM
   สรุปว่าขอใบป. ๓ ได้หรือเปล่าครับ?


หัวข้อ: Re: พรบ.ล้างมลทิน
เริ่มหัวข้อโดย: jo1911 ที่ พฤษภาคม 10, 2008, 03:54:43 PM
แล้วสรุปได้หรือปล่าวครับ ว่า

ต้องโทษ  กักขัง แล้วมันจะขอ ป.3 ที่วังไชยา ได้หรือปล่าวครับ

ก่อนหรือในวันที่  ๕  ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๕๐

ท่านผู้รู้ช่วยตอบทีครับ


หัวข้อ: Re: พรบ.ล้างมลทิน
เริ่มหัวข้อโดย: สุพินท์ - รักในหลวง ที่ พฤษภาคม 10, 2008, 04:01:11 PM
   สรุปว่าขอใบป. ๓ ได้หรือเปล่าครับ?

ขอได้อยู่แล้วครับ  ถึงตัวจะยังอยู่ในคุกก็ยังขอได้   แต่นายทะเบียนจะออกใบอนุญาตให้หรือไม่เป็นอีกเรื่องหนึ่ง

ตามหลักกฎหมายแล้ว  พ.ร.บ.ล้างมลทิน ฯ  สามารถเปลี่ยนลักษณะต้องห้ามตาม พ.ร.บ.อาวุธปืน ฯ มาตรา 13 ได้   เพราะเท่ากับไม่เคยถูกลงโทษจำคุกมาก่อน
แต่นายทะเบียนส่วนใหญ่  จะส่ายหน้าไว้ก่อน  คงเหนื่อยกันพอสมควร


หัวข้อ: Re: พรบ.ล้างมลทิน
เริ่มหัวข้อโดย: jo1911 ที่ พฤษภาคม 10, 2008, 06:40:32 PM
   สรุปว่าขอใบป. ๓ ได้หรือเปล่าครับ?

ขอได้อยู่แล้วครับ  ถึงตัวจะยังอยู่ในคุกก็ยังขอได้   แต่นายทะเบียนจะออกใบอนุญาตให้หรือไม่เป็นอีกเรื่องหนึ่ง

ตามหลักกฎหมายแล้ว  พ.ร.บ.ล้างมลทิน ฯ  สามารถเปลี่ยนลักษณะต้องห้ามตาม พ.ร.บ.อาวุธปืน ฯ มาตรา 13 ได้   เพราะเท่ากับไม่เคยถูกลงโทษจำคุกมาก่อน
แต่นายทะเบียนส่วนใหญ่  จะส่ายหน้าไว้ก่อน  คงเหนื่อยกันพอสมควร

ขอบคุณครับ


หัวข้อ: Re: พรบ.ล้างมลทิน
เริ่มหัวข้อโดย: คนแปลกหน้า - รักในหลวง ที่ พฤษภาคม 10, 2008, 11:17:42 PM
ขอบคุณครับ


หัวข้อ: Re: พรบ.ล้างมลทิน
เริ่มหัวข้อโดย: SingCring ที่ พฤษภาคม 11, 2008, 02:32:26 AM
มองอย่างลึกซึ้งแล้ว ดุลยพินิจนี้ใหญ่จริงๆครับ


หัวข้อ: Re: พรบ.ล้างมลทิน
เริ่มหัวข้อโดย: sun2000 ที่ พฤษภาคม 11, 2008, 08:25:58 AM
แล้วสรุปได้หรือปล่าวครับ ว่า

ขอได้ครับ......แต่จะได้ตามที่ขอหรือไม่นั้น...อยู่ที่ดุลยพินิจของนายทะเบียนครับ...ขอให้สมหวังนะครับ...


หัวข้อ: Re: พรบ.ล้างมลทิน
เริ่มหัวข้อโดย: jo1911 ที่ พฤษภาคม 13, 2008, 08:54:01 PM
แล้วสรุปได้หรือปล่าวครับ ว่า

ขอได้ครับ......แต่จะได้ตามที่ขอหรือไม่นั้น...อยู่ที่ดุลยพินิจของนายทะเบียนครับ...ขอให้สมหวังนะครับ...

สงสัยคงยากครับ