เว็บบอร์ดสนทนาภาษาปืน

กระสุน S&B 115 JHP ยาวทั้งนัด 26.9 มม ความเร็ว 377 เมตร/วินาที ผมได้ทดลองใช้เครื่องเคาะหัวกระสุนออก(ให้โรงกลึงทำให้)เคาะออกหลายๆนัดจากนั้นนำดินเดิมเพิ่มดินขับเป็นหนัก 6.5 เกรนดินของเดิมประมาณ 5.9 เกรน ทดลองทำ 20 นัดอัดกลับให้ความยาวทั้งนัดเป็น29.60 มม( ให้โรงกลึงทำให้โดยดูจากหลักการทำงานจากRCBS.com)ผลการทดลองยิงได้ไม่ติดขัดแต่มีปํญหาคือที่ปลอกจะมีเขม่าพุงถอยหลังออกมาด้านหลังปลอกด้านเดี่ยวไม่ทั้งนัดเหมือนแก็สย้อนหรือรั่วอยากขอทราบปัญหาและวิธีแก้ใขเกิดจากอะไรเช่นปลอกจับหัวกระสุนไม่แน่นดินขับเผาไม่หมดแล้วสไลต์ถอยก่อนหรือปลอกซีลแก็สไม่ได้หรืออย่างไรช่วยชี้แจงสาเหตุและการแก้ใขขอขอบพระคุณอย่างมากครับ

แรงอัดในรังเพลิงต่ำเกินไป  ทำให้อัดปลอกออกไปด้านข้างไม่มากพอ ก๊าซจึงรั่ว
สงสัยไหมว่าทำไมเพิ่มดิน  แล้วแรงอัดถึงลดลง
ถ้าอยากรู้  รับปากก่อนว่าจะเลิกทำแบบนี้  แล้วจะบอกให้

อันตรายนะครับ ท่านเพื่อนสมาชิก ผิดกฎหมายด้วย
ท่านผู้การอย่าแนะนำส่งเสริมเลยครับ

ขอบคุณมากครับท่านผู้พัน ผมทราบว่ามันอันตรายต่อการชำรุดของปืนแสดงว่าพื้นที่ในห้องเผาไหม้มีมากเกินไปจากการที่ผมอัดหัวให้ยุบลงไปน้อยลงกว่าเดิมผมเข้าใจถูกต้องหรือเปล่าครับผมกลัวปืนแตกเพราะไม่มีเครื่องมือวัดแรงดันในรังเพลิงสรุปว่าซื้อกระสุนใช้แน่นอนกว่าและเพิ่งทราบว่าผิดกฎหมายการการค้นหาคำว่าอัดกระสุนในหัวข้อเก่าๆหลังจากที่ได้ทดลองทำแล้วก็รับปากท่านครับจะไม่ทำอีกแต่ก็อยากทราบสาเหตุเพราะได้ลองทำแล้วมันคาใจนะครับจึงตัดสินใจถาม ผมดูใน Reload Data แล้วขนาด 6.5เกรน น่าจะปลอดภัยแรงคันไม่น่าจะเกิน 42800 PSI รีคอย์ที่ใช้ก็แข็งไม่อ่อน  ปืน CZ 75 C โครงเหล็ก

ดินส่งกระสุน จุดตัวจากแรงช๊อค  เมื่อ seat หัวตื้น เท่ากับขยายปริมาตรห้องจุดระเบิด  ทำให้ความหนาแน่นของแรงช๊อคลดลง  จึงจุดตัวไม่สมบูรณ์
ในกรณีนี้  ถ้าไพรเมอร์มีแรงเหลือเฟือ ปืนหรือมือคนอาจจะพังไปแล้ว
เอาแค่ตัวเลขก็ผิดแล้ว  มาตรฐาน SAAMI  กระสุน 9 มม.มีแรงอัดได้ไม่เกิน 33,000 CUP

ผมว่าคุณกับสิ่งที่อันตรายมากๆเลยรู้ไหมครับ
การเพิ่มดินขับ powder จาก 5.9 gr. เป็น  6.5 gr.ถ้าคิดเป็นเปอร์เซ็นต์แล้วเป็น 10% โดยปกติแล้วดินขับเพิ่มขึ้น 10% pressureจะเพิ่มขึ้นมากกว่านั้นคือประมาณ 40% ถ้าคุณอัดหัวกระสุนให้กระสุนยาวเท่าเดิมคือ26.9 มม และคุณต้องบีบคอปลอกกระสุนให้จับหัวกระสุนแบบที่ควรจะเป็น ปืนคุณและคุณอาจจะเจอวิกกฤติครั้งใหญ่ในชีวิตเลยก็ได้

สาเหตุที่คุณและปืนคุณรอดมาได้  คุณอัดหัวกระุสุนตื้นไปและคุณไม่ได้บีบปลายปลอกกระสุนให้จับหัวกระสุนให้แน่นอย่างที่ควรจะเป็น ทำให้หัวกระสุนพุ่งออกจากปลอกกระสุนเร็วกว่าปกติ ในขณะที่แรงดันเริ่มเพิ่มขึ้น ในขณะที่หัวกระสุนเริ่มพุ่งออกจากปลอกกระสุนนั้น ปลอกกระสุนยังไม่ขยายจนเต็มรังเพลิง(เพราะแรงดันไม่มากพอจนทำให้ปลอกกระสุนขยายออก) ดังนั้นคุณจึงพบคราบดินขับ powder สิ่งที่ตามมาคือแรงดันไม่สามารถเพิ่มขึ้นได้เต็มที่เพราะมีการรั่วของแก๊สร้อนจากการที่ปลอกกระสุนยังไม่ได้ขยายเต็มรังเพลิง

เรื่องที่สองที่ต้องบอกคือ ปืนระบบออโตเมติก หรือ กึ่งออโตเมติก จะมีการออกแบบเพื่อให้ทนต่อแรงผลักของปลอกกระสุนที่จุดๆหนึ่งเท่านั้น ถ้าแรงผลักดังกล่าวมากขึ้นจนปืนรับไม่ไหว สไลด์จะถอยหลังก่อนที่หัวกระสุนจะพ้นจากปากลำกล้อง ปลอกกระสุนที่อัดแรงดันที่มากจะถูกข้อรั้งปลอกกระชากกระชากริมจานท้ายขาด และท้ายจานกระสุนจะไม่มีตัวยัน  ทำให้เกิดการระเบิดจากท้ายจานกระสุน และคุณก็จะเข้าใจว่าปืน Kaboomเกิดขึ้นได้เพราะกระสุนที่มีการดัดแปลง

คุณเชื่อหรือไม่ว่า ดินขับจำนวนเท่้าเดิม ถ้าคุณตำให้ละเอียด burning rate ก็จะเปลี่ยนไป แรงดันที่ได้ก็จะสูงขึ้น และอันตรายมาก ดังนั้นถ้าไม่มีความชำนาญ หรือมีผู้รู้ค่อยให้คำแนะนำและสอนแล้ว อย่าสงสัยและทดลองเองเลยครับ มันอันตรายกว่าที่คุณคิดมากๆเลยครับ

 :OO :OOพี่โจเซียนจิงจิง :OO :OO

 :)..เป็นสาระ ได้ความรู้อีกแล้ว ..ขอบคุณมากครับ พี่สุพินท์.. ขอบคุณมากครับคุณโจ. :D

กระจ่างคับ...

ขอบคุณทุกๆท่านที่แนะ...

ที่สำคัญขอบคุณท่าน porn 14 ที่ตั้งกระทู้คับ...;D

ทั้งได้ความรู้ ทั้งสยอง สองเรื่อง สองรส ;)

ขอบคุณอีกครั้งสำหรับข้อมูลของทุกท่าน 42800 PSI คือMax Loadสูงสุดที่ลำกล้องทำงานได้โดยไม่ชำรุดจากคู่มือการRe load สาเหตุที่ทำคือ 9มม ลูกคกแตไม่แรงจึงต้องการลูก 9 มม แรงๆผมและเพื่อนๆพก 9มม พร้อมแม็กอะไหล่ 2 อันกันเป็นส่วนใหญ่ทำงานอยู่ที่ทางใต้นอกจากกำลังใจแล้วสิ่งที่ต้องการคือ ลูก 9มม 115 JHP ความเร็ว 1300-1350 ความยาวทั้งนัด 29 มมแรงคันในรังเพลิงต่ำไม่ติดสันเกียว CZ และ Glock ท่านผู้การรู้จักโรงงานผลิตกระสุนผลิตมาจำหน่ายแก่ข้าราชการไว้ประทะกับ AK 47 จะได้หรือเปล่าครับ ข้อมูลที่ผมนำมาอ้างอิงการทดลองคือ 115 XP-XTP Hornady COL 1.142   VV-N350 5.9 gr 1214fps คือ Starting Load ส่วน Max Load คือ 6.4 gr 1299 fps และ115 Sierra JHP VV-N350 7.0 gr 1391 fps COL 1.161 35800 psi VV-N350 6.1gr 1283 fps 26900 psi เป็นข้อมูลที่ใช้ประกอบการทดลองที่ผมใช้ และS&Bจากข้อมูลการชั่งดินก็ 5.9gr และความเร็ว 1237fps  (จากS$B usa)  เป็นข้อมูลที่ไก้ลเคียงที่สุดที่หาได้เพราะไม่ทราบข้อมูลคินขับของ S$B  และลูก S$B สั้นจึ่งน่าที่จะเพิ่มคินและเพิ่มพื้นที่ห้องเผาไหม้จากการที่อัดลูกให้กระสุนยาวขึ้นลดแรงคันในรังเพลิงลูก S$B 115 FMJ ความเร็ว 1280 fps ปลอกจึงน่าที่ทนแรงอัดได้ไม่ขาด ปลอก S$B หนากว่าเรมิงตันและแรงคันก็คงไม่เกิน 35800 psi  จำนวนคินขับน้อยหรือมาก คือแก็สขับคันหัวมากหรือน้อย ส่วนคินเบอร์ต่างเพื่อควบคุมการเผาไหม้เพื่อควบคุมแรงคันในรังเพลิงไม่ให้สูงจนลำกล้องชำรุดผมเข้าใจถูกต้องไหมครับ จากคู่มือที่อ่านแจ้งผมว่า เมื่อเพิ่มดินขับ 5% แรงคันจะเพิ่ม 10 % ความเร็วจะเพิ่ม 3% ส่วน Primer จะผลิตเป็นเบอร์เช่น CCi 500 จะควบคุมจำนวนไฟจากโรงงานผู้ผลิต เมื่อผมเพิ่มคิน 10 % แรงคันเพิ่ท 20% ความเร็วเพิ่ม 6% และผมใช้ COL สูงสุดคือ 1.161เป็นการลดแรงคันในรังเพลิงโอกาศที่ปืนชำรุดน่าที่จะไม่เกิดแต่ก็คงไม่ทำอีกแล้วขอบคุณทุกท่านที่ให้ข้อมูลมากๆครับขอบคุณคุณ Road สำหรับคำขอบคุณผมคิดอยู่นานกว่าที่จะตั้งกระทู้เพราะกลัวมีแต่คนติ

 ;D ขอเสนอความเห็นหน่อยนะครับ คือ 9 มม. ยังไงก็ไม่มีทางสู้กับ AK ได้หรอกครับ แม้จะได้กระสุนที่แรงมากที่สุดเท่าที่จะทำได้ในขนาด 9 มม. ก็ตาม หากเป็นผม ผมเลือกกระสุนที่ ยิงง่าย ยิงดี ยิงไม่มีขัด ดีกว่าครับ ;D

 :o

ผมเพิ่งจะกระจ่างไปด้วยวันนี้เองครับ เคยทราบแต่ว่ามันไม่ดีที่จะปรับแต่งองค์ประกอบ
ของกระสุนเอง ขอบคุณท่าน จขกท และพี่ๆที่ให้ความรู้ทุกท่านครับ แต่ยังงงอยู่นิดนึงครับ...


เข้าใจว่าหัวกระสุนพุ่งออกไปก่อนที่การเผาไหม้จะสมบูรณ์ และในขณะที่ปลอกกระสุนยังขยายไม่เต็ม
รังเพลิง ทำไมจึงไม่มีร่องรอยของเขม่าพุ่งถอยหลังออกมาด้านหลังปลอกโดยรอบล่ะครับ

 ???

ทำไมถึงเชื่อมั่น กระสุนที่มีความเร็วสูงๆ มากนักละครับ  ??? 
ลูก SB มักจะแต้มเเล็กเกอร์  ซีลกันชื้นที่หัวกระสุนด้วย ถ้าถอดเข้า-ออก จะเสียคุณสมบัติข้อนี้ไป  แล้วกระสุนที่โหลดเอง ถ้าทำไม่ดีพอก็จะกันความชื้นไม่ได้    หากจะเอาไปใช้งานที่ ภาคใต้ อากาศ ร้อนชื้น  น่าเป็นห่วงคุณภาพกระสุนมากกว่านะครับ  :OO

...เกือบปลอกแตก..... ;D

สรุปว่า... ซื้อกระสุนใช้ปลอดภัยกว่า

ปลอกแตก ยุ่งเลยพี่ :OO

ถูกต้อง นะคร๊าบ........ :~) :~)

.

 :). 9 มม. มีแบบของหัวกระสุนและความแรง.ให้เลือกมากแบบ นั่นคือทางเลือกที่มากกว่ากระสุนขนาดอื่น.. แต่ไม่จำเป็นต้องเลือกทุกครั้งครับ..
  ส่วนตัว ยังเห็นว่า 115 เกรน หัวบอล. เป็นแบบกระสุนมาตรฐานของ 9 มม. มีปัญหาน้อยที่สุด.. คุมกระสุนนัดที่สอง ได้ง่ายกว่า..ซ้ำ. ถูกเป้าได้ดีกว่า เร็วกว่า.. เป้าทุกชนิดที่ยิงโดยเจตนา ต้องเป็นรู.. ตรงจุดเล็ง...คือสิ่งที่ต้องการ.. สมประโยชน์ที่สุด..
 ..ขอบคุณมากครับคุณ porn14 กระทู้นี้ มีสาระ ความรู้มากครับ.. :D

 ;Dถ้าแตกจริงๆ คงกลุ้มหลายวันเลยครับ

ถือปืนชี้ลำกล้องไปข้างหน้า... กระสุนฯ อยู่ในรังเพลิงมันจะไม่พอดีเป๊ะๆ น้ำหนักก็ถ่วงให้กระสุนนอนอยู่ด้างล่างรังเพลิง มีช่องว่างด้านบน... พอกระสุนลั่น เขม่าก็วิ่งพุ่งย้อนช่องว่างระหว่างเพดานรังเพลิง และผิวด้านบนของปลอกฯไงครับ...

นายสมชายว่าท่านเจ้าของกระทู้หลงทางน่ะครับ...

เห็นด้วยกับ นายใหม่ และพี่ Road ... นี่ถ้าคุณอ๋องเข้ามาอ่าน... คงให้ความเห็นเหมือนๆ กันครับ ส่วนตัวคุณอ๋องแกเคยบอกว่าใช้ลูกซ้อมฯ ที่คุ้นมือ ไว้ติดปืนเสียด้วยซ้ำไปน่ะ...

ลูกหัวบอลธรรมดา ก็พอแล้วครับ ยิงให้ถูกในเวลาที่เหมาะสมก็เกินพอครับ...

จำได้ว่า นายใหม่ เคยเขียนไว้ว่า... ยิงกันระยะห่างเกินสองวา สามวา... ลูกแรงมากแรงน้อยมีผลแตกต่างกันไม่มากหรอกครับ... แต่ยิงถูกหรือไม่ถูกเนี่ย คนละเรื่องเลย...

 ;D ;D เห็นด้วยครับ ผมใช้ลูกหัวบอลติดปืนอย่างเดียวเลยครับลูกแบบอื่น ๆ ไม่เคยใช้เลยครับ ;D ;D

อืมมม...จริงแฮะลืมนึกไปเลยผม ขอบคุณพี่สมชายนะครับ ;D

ก่อนอื่นขอพูดเรื่องpressure หรือแรงดัน
ปัจจัยที่มีผลต่อแรงดัน
1. ชนิดของprimer ส่วนประกอบ และ ขนาดของprimer
2. ชนิดของดินส่ง powder ส่วนประกอบจำนวนที่ใช้ ขนาดความละเอียด รูปร่าง และ ความหนาแน่นของดินส่ง
3. ชนิดของหัวกระสุน น้ำหนักหัวกระสุน ลักษณะของหัวกระสุน เส้นผ่าศูนย์กลางของหัวกระสุน
4. ความแน่นในการจับหัวกระสุนของปากปลอกกระสุน
5. ลักษณะของเกลียวลำกล้อง รวมถึงเส้นผ่าศูนย์กลาง
6. ความหนาแน่นในการอัดดินส่ง
7. ชนิดของปลอกกระสุน
8.ลักษณะของรังเพลิง และ สภาพ
9 ความยาวของ freebore
10. อุณหภูมิ และ ความชื้นของสถานที่ที่ใช้เป็นที่เก็บกระสุนก่อนยิง
11. อุณหภูมิของกระสุน และ ปืนในขณะที่ยิง
12. ความลึกในการอัดหัวกระสุนในปลอกกระสุน
13. พื้นที่ภายในปลอกกระสุน
14. เส้นผ่าศูนย์กลางของเปลวไฟจุดระเบิด (Flash Hole Diameter)

ที่กล่าวมาในข้างต้น ถ้าคุณสามารถรู้ว่าปัจจัยไหนลด หรือ เพิ่ม และ เข้าใจว่าปัจจัยที่กล่าวมามีผลต่อ pressure อย่างไร แล้วคุณค่อยศึกษาเรื่อง Reloading

ชนิดของดินส่ง โดยปกติแล้วจะแบ่งโดยอัตราความเร็วในการเผาไหม้ ซึ่งในกระสุนที่ใช้กับปืนสั้นจะใช้ดินส่งแบบ fast burned เพราะลำกล้องปืนสั้น ทำให้อัตราในการเผาไหม้ต้องเร็วเพื่อให้หัวกระสุนมีกำลังเพียงพอที่จะหมุนได้อย่างมั่นคงก่อนที่จะพ้นจากปากลำกล้อง 

ในการศึกษาในหนังสือ reloading Manual ไม่ว่าจะเป็นของสำนักไหน กฏเบื้องต้นที่ต้องจดจำคือ ไม่อัดดินขับจนถึง maximum ถ้าถามผมว่าทำไม คำตอบก็คือ ปัจจัยที่มีผลต่อแรงดันในรังเพลิงนอกเหนือจากดินขับยังมีอีกมาก อย่างเช่นปืนไรเฟิลที่ใช้แข่งขัน โดยมากแล้วรังเพลิงจะเป็นแบบ neck tie (คอรังเพลิงแบบนี้จะเล็กกว่ามาตรฐาน เพื่อให้คอรังเพลิงสามารถจับบริเวณคอของปลอกกระสุนได้พอดี เพื่อแก้ปัญหาตะแคงหรือเอียงในรังเพลิง) และ Freebore จะไม่มีเพื่อให้หัวกระสุนถูกจับโดยเกลียวลำกล้อง เพื่อไม่ให้เกิดการโดดของหัวกระสุนขึ้น ปืนประเภทนี้จะเพิ่ม ignition time หรือ เวลาในการเพิ่มแรงดันภายในปลอกกระสุนจนกระทั่งหัวกระสุนเริ่มเคลื่อนตัว พื้นที่เผาไหม้เท่าเดิมในขณะที่ปริมาตรแก๊สร้อนเพิ่มขึ้นเพราะอัตราในการเผาไหม้ดินส่งเท่าเดิม จึงส่งผลให้แรงดันเพิ่มขี้น

การเพิ่มพื้นที่ภายในปลอกกระสุนสามารถลดแรงดันของแก๊สร้อนได้ แต่ถ้าหัวกระสุนที่ยื่นยาวกว่ามาตรฐานไปติดกับเกลียวลำกล้อง inition timeเพิ่มขึ้น แรงดันของแก๊สร้อนก็อาจจะเพิ่มขึ้นหรือลดลงก็ได้
และเรื่องปลอก S&B หนากว่ายี่ห้ออื่นไม่ได้หมายความว่าปลอกกระสุนจะทนกว่ายี่ห้ออื่นนะครับ ปัจจัยคือเรื่องความแข็งของปลอก ส่วนเรื่องผลกระทบต่อ pressure ปลอกที่หนาจะมีพื้นที่น้อยกว่า ทำให้อัตราในการเผาไหม้เท่าเดิมแต่พื้นที่น้อยกว่าทำให้แรงดันต่อพื้นที่มากกว่า และ ปลอกที่หนาจะจับหัวกระสุนได้แน่นกว่า เพราะแก๊สร้อนต้องใช้แรงดันมากกว่าในการผลักหัวกระสุนให้เคลื่อนที่ 

ความเร็วของหัวกระสุน จริงๆแล้วหัวกระสุนทุกชนิดจะมีค่าความเร็วที่เหมาะสมของจุดหนึ่ง ซึ่งไม่ใช่จุดที่ช้าหรือเร็วจนเกินไป ความเร็วที่มากของหัวกระสุนจะมีผลต่อการเจาะทะลุ แต่ไม่ส่งผลกับอำนาจในการหยุดยั้ง stopping power มากนั้น และเรื่องยิงโดนแล้วจะหยุดเร็วหรือช้า ขึ้นอยู่กับตำแหน่งที่ยิงถูกด้วยครับ และ กำลังใจของผู้ถูกยิงด้วย

พิมพ์มากไปหน่อยต้องขออภัยด้วยครับ

 ;D คุณโจมาพร้อมข้อมูลคับแก้วอีกแล้ว ;D

ขอบคุณครับ คุณโจ   :)

"เพิ่มพื้นที่ภายในปลอกกระสุน"ต้องเป็น ปริมาตรภายในปลอกกระสุนนะครับ

ปัญหานี้ จะ ตะแคง หรือ เอียง ดีครับ ;D ;D ;D

ขอบคุณคุณโจมากครับ เรื่องสาระที่นำมาฝาก :)

 ;D เอาภาพประกอบเรื่องแรงดันในรังเพลิงมาให้ดูครับ ในภาพเป็นปืนขนาด .50 BMG ครับ  ;D

[ไฟล์แนบถูกลบโดยผู้ดำเนินการ]

 :OO น่ากลัว :OO

 ;D ขอบคุณทุกๆท่านครับ ได้รับความรู้เพิ่มขึ้น อีกมากเลยครับ  ;)
     ขอขอบคุณท่าน จขกท ที่ได้ตั้งกระทู้นี้ และขอเป็นกำลังใจ ในการทำงานที่ภาคใต้ครับ  ;D

ตัวเลขแรงปะทะที่เห็นในตะรางขีปนวิถีนั้น  มันก็มีองค์ประกอบที่จะต้องนำมาพิจารณาด้วยครับ
เช่น   ถ้าคุณยิงกระสอบดินเหนียวหนาๆ ที่กระสุนไม่สามารถทะลุหรือเด้งกลับเข้าหน้าคนยิง ได้ ไอ้ตัวเลขพลังงาน xxx ฟุตต์ ปาวนด์ของกระสุนก็แสดงพลังได้เต็มที่
แต่หากหัวกระสุนที่วิ่งออกจากลำกล้องกระทบเป้าหมาย แล้วยังทะลุออกไปสำแดงเดชหลังเป้าหมาย นั่นแสดงว่าหัวกระสุนส่งพลังงานทำลายเป้าหมายหลักเพียงบางส่วนเท่านั้น  อยากรู้ว่าเท่าไหร่ ก็หาพลังงานของหัวกระสุนที่ทะลุผ่านเป้าหมายให้ได้ แล้วนำมาหักออกจากพลังงานที่ระยะของเป้าหมาย จะเป็นระยะ  20 30 ฟุตก็ว่ากันไป เราก็จะได้พลังงานหัวกระสุนที่ใช้กับการทำลายเป้าหมาย  ปืนของคุณเป้น ซีแซด และกล็อก เดาว่าคงใช้ในเมือง ในชุมชน  ดังนั้นเอากระสุนที่ความเร็วต่ำ หัวหนัก หัวรู  ที่สามารถฝังอยู่ในร่างกายคู่ต่อสู้จะดีกว่า เพราะคู่ต่อสู้จะได้กินลูกปืนอิ่มๆหน่อย และไม่โดนคนอื่นด้วย
ขอบคุณ ขจกท ครับที่เอาประสบการณ์มาเล่าสู่กันฟังครับ 

ปลอก  อาราย

 
 ;D อิอิอิ  ;D
 

เล่นอย่างนี้หน้ากลัวครับ