เว็บบอร์ดสนทนาภาษาปืน

        มีท่านใดทราบประวัติปืนกลมือ เอ็มทรี 11 ม.ม.บ้างครับ
ขอทราบเรื่องราวเกี่ยวกับปืนรุ่นนี้ทั้งในประเทศไทยและต่างประเทศ
เป็นความรู้ครับ เพราะช่วงนี้เห็นมีข่าวเกี่ยวกับปืนรุ่นนี้บ่อยครับ  ::014::

(http://world.guns.ru/smg/m3_gg1.jpg)

ดูรูปรอผู้รู้นะครับ ;D

รุ่นเดียวกับในข่าวที่วัยรุ่นยิง คู่อริตายเลย สาเหตุจาก hi5  :P :P :P

เห็นเค้าเรียกกันว่า ปืนอัดจารบี (Grease gun)ครับ

(http://world.guns.ru/smg/m3_gg3.jpg)

เวบไซด์อ้างอิง (http://world.guns.ru/smg/smg32-e.htm)

เอาเท่าที่ทราบคือไม่ค่อยแม่น เหมาะแก่การสาดเม็ดกระสุนออกไปให้มากเข้าไว้

ยิงมากๆ ลำกล้องร้อน วิถีกระสุนตก

แต่ติดตัวไปไหนสะดวก เพราะเล็กสั้นครับ

ขอแค่นี้ ที่เหลือรอท่านอื่นครับ

::014:: ขอบคุณพี่ submachine ที่นำ link มาให้ดูครับ.. link ก่อนที่พี่ส่งมาให้ผมดูจนตาแฉะเลย ...  :D~ :D~

แต่ที่ผมสงสัยคือ..มันเข้ามาในไทย และตกอยู่ในมือxxxได้อย่างไร ผมว่าน่ากลัวกว่าพวกปืนสั้นหรือพวก AK หากต้องสู้ประชิดตัว

แต่(อีกละ) ..ผมว่าไวสู้พี่ vinchy ไม่ได้แน่  ::014::  :D

เคยเห็นในหนังบู้รุ่น มิตร-เพชรา
และในมืออส.สมัยเก่าๆ
รอท่านผู้รู้มาเฉลยครับ ;D

ในฉากละครไทยเมื่อช่วง 10 กว่าปีก่อน ก็เห็นใช้กันอยู่หลายเรื่องครับ แต่สำหรับผมคิดว่า ยังสวยสู้ ปืนกลธอมป์สันสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 ไม่ได้  ::008:: 

ปืนกล M3 ขนาด 11 มม. หรือ .45ACP เป็นปืนกลที่ออกแบบมาเพื่อประจำการแทน ปืนกล ทอมสัน ครับ ไม่ไช่ว่า ปืนกลทอมสันไม่ดี แต่เป็นเพราะ ปืนกลทอมสัน มีต้นทุนการผลิตสูง มีชิ้นส่วนมาก และ ผลิตได้ ช้า

ปืนกล M3 ผลิตโดยวิธีปั้มแผ่นเหล็กขึ้นรูป โดย ออกแบบมาให้มีชิ้นส่วนน้อยชิ้น ผลิตได้ง่ายด้วยเครื่องจักรอุตสาหกรรมที่มีอยู่ แต่ที่สำคัญคือ ผลิตเป็นจำนวนมากได้เร็ว และ ราคาถูก

สาเหตุที่ปืนกล M3 เลือกใช้กระสุน .45 เพราะ เป็นกระสุนที่ประจำการอยู่ในกองทัพ สหรัฐ

ปืนกล M3 เป็นปืนกลมือ ที่ทำงานในระบบ โบว์แบ็ค ทำงานในจังหวะลูกเลื่อน เปิด  มีลูกเลื่อน ที่ใหญ่ และ หนัก เพื่อ หน่วงเวลาให้แรงดันในรังเพลิงลดลงก่อนที่จะดันลูกเลื่อนถอยหลัง

หลังสงครามโลกครั้งที่ 2 ปืนกลมือ M3 ยังได้มีการผลิตอย่างต่อเนื่อง และ ถูกนำไปเป็นอาวุธสำหรับพลประจำรถถัง ในกรณีที่ต้องออกจากรถ เมื่อ รถถัง เสียหาย หรือ ไม่สามารถเคลื่อนที่ไปไหนได้ แล้วพลประจำรถถัง ต้องออกมาภายนอก จะได้มีอาวุธปัองกันตัว

ได้ความรู้เพิ่มขึ้นครับพี่ ขอบคุณครับ

รู้สึกรุ่นนี้จะใช้จนถึงสงครามเวียตนามด้วยครับ  :)

ปืนกล M3 ใช้กระสุนได้ 2 ขนาดคือ .45 และ 9 มม.ครับ โดยรุ่น M3 จะใช้กระสุน .45 ACP และรุ่น M3A1 จะใช้กระสุน 9x19 mm. Parabellum  :)

แต่ทั้ง 2 รุ่นก็มีระยะยิงหวังผลแค่ 100 หลาหรือ 91 เมตร ถ้าเป็นยุคนี้ใช้ปืน AKS-74U หรือปืนกล H&K MP5 กับ H&K UMP ดีกว่าครับ ยิงแม่นกว่าแถมระยะหวังผลทำได้ดีกว่าด้วย  :<<

ปืนอินแกรม MAC 10 ก็มีขนาด .45 ACP เหมือนกัน แต่กระทัดรัด และดูทันสมัยกว่า M3 ครับ  ::002::

เข้ามาเก็บความรู้ครับ  ::014::

ขอบคุณผู้ให้ความรู้ทุกท่านครับ

เคยเห็นวางในตู้ ที่สนามยิงปืน รด. ครับ

ปกม. MAC 10 ระบบเซฟไม่ปลอดภัยครับ หล่นพื้นนิดหน่อยเป็นลั่นกระสุนทันที แบบนี้เกิดไปลั่นในรถถังหรือรถเกราะมีตายกันคาที่กันพอดี เกิดแฉลบไปโดนกระสุนปืนใหญ่อีกตูมเดียวไปทั้งรถทั้งคนแน่ครับ ที่สำคัญระยะหวังผลก็แย่มากๆแบบนี้ใช้ปืนพกยิงยังดีกว่าอีก :)

AKS-74U ใช้กระสุน 5.45 X 39 ใช้ระบบบริหารกลไกด้วย แก๊ส ลูกเลื่อนบิดตัว 2  เขี้ยวล๊อก ยาวเมื่อกางพานท้าย 735 มม. และ 490 มม.เมื่อพับพานท้าย

HK MP 5 ใช้กระสุน 9X19 ใช้ระบบกลอน ลูกปืนหน่วงเวลา ยิงขณะลูกเลื่อนปิด(roller-delayed blowback action) ยาวเมื่อหดฐาน 490 มม. และ 660 มม. เมื่อยืดฐานสุด

การใช้งาน หากมองภายนอก ปืนทั้งคู่มีขนาดใกล้เคียงกัน แต่การใช้งานต่างกันมาก โดย MP5 เป็นปืน ที่เหมาะแก่การยิงในอาคารมากกว่า AKS-74U เพราะ กระสุนมีหน้าตัดใหญ่ และ ความเร็วกระสุน ณ ปากลำกล้องต่ำกว่าหาก พลาดเป้า ก็จะไปหยุดที่กำแพง ไม่ทะลุไปทำลายเป้าหมายที่ไม่ต้องการ อีกฝั่งของ อาคาร ซึ่ง กระสุนของ AKS-74U มีโอกาศทะลุไปอีกฝั่งของ อาคารได้มากกว่า

ต่อมา ในปี 1990 HK ได้พัฒนาปืนในตระกูล MP-5 ขึ้นมา ให้ใช้กระสุน กระสุน .45, .40 S&W และ 9X19 โดยลดอัตราการยิง ลงเหลือ 600-700 นัด/นาที (MP-5 800 นัด/นาที) โดยเน้นตลาด อเมริกาเป็นหลัก เพราะ กระสุน .45 เหมาะแก่การยิงในอาคารมากกว่า กระสุน 9X19 เพราะ กระสุนมีหน้าตัดใหญ่กว่า โอกาศ ทะลุกำแพง (ในอเมริกา กำแพง ส่วนมากเป็น แผ่นยิปสัม อัดกระดาษ) ได้ต่ำกว่า แต่ พลังงาน จล สูงกว่า ทำให้มี อำนาจหยุดยั้งสูงกว่าอีกด้วย  โดยให้ชื่อปืนรุ่นใหม่นี้ว่า HK UMP (Universal Machinen-Pistole = Universal Submachine Gun) โดย ปืนใช้ระบบบริหารกลไกแบบ โบว์แบ็ค ยิงขณะลูกเลื่อนปิด

(http://world.guns.ru/smg/hk_ump45.jpg)

คุณ  NaiDiputs  รูปโครตฮาเลยครับ

      ได้ความรู้ขึ้นมากเลยครับ ขอบคุณทุกๆท่านครับ
เหตุที่ผมต้องการทราบข้อมูลของ เอ็มทรี เพราะเมื่อ

ต้นเดือนที่ผ่านมามี คดียิงกำนันเกิดในพื้นที่และผู้ก่อเหตุ
เลือกใช้ เอ็มทรี เป็นอาวุธสังหาร ครั้งแรกที่ไปถึงที่เกิดเหตุ

ผมพบปลอกกระสุน ขนาด 11 ม.ม.ตกอยู่ในที่เกิดเหตุ ประมาณ
20 ปลอก เจ้าหน้าที่หลายหน่วยเข้าไปดูที่เกิดเหตุ ต่าง

คิดว่า ผู้ก่อเหตุใช้ปืนพก ขนาด 11 ม.ม.และมีการเปลี่ยนแม็กฯ
หลายครั้ง บางท่านก็ว่าน่าจะเป็น ปืนพก ขนาด 11 ม.ม.ประเภท

พารา ออดแนนท์ เมื่อผมเก็บปลอกกระสุน ขึ้นมาพิจารณาดู
พบว่ารอยเจาะของเข็มแทงชนวนท้ายปลอกมีขนาดใหญ่กว่า

ของปืนพกทั่วๆไป ในหัวคิดไปถึงปืนกลมือ ขนาด 11 ม.ม.
แต่ยังไม่สามารถระบุชัดว่าเป็นรุ่นใด จึงพยายามหาหัวกระสุน

ในที่เกิดเหตุ พบมีหัวกระสุนฝังอยู่ในเก้าอี้ไม้หลายหัว จึงแจ้ง
ให้เจ้าหน้าที่วิทยาการทราบ เมื่อแคะหัวกระสุนออกมาได้

สภาพหัวกระสุนแทบไม่มีรอยบุบบี้ สังเกตุเห็นชัดเจนว่า มี
รองรอยของเกลียวลำกล้องที่หัวกระสุน 4 ร่องเกลียว

เมื่อกับถึงแผนก ผมได้โทรสอบถาม ครู ท่านหนึ่ง ซึ่งเป็น
ทหารที่ผมเคยเข้ารับการฝึกหลักสูตรฯจากท่าน ท่านวิเคราะห์

ว่า หัวกระสุนและปลอกกระสุนที่พบในที่เกิดเหตุ น่าจะยิงมาจาก
ปืนกลมือ แบบ เอ็มทรี เพราะเคยมีการใช้อย่างแพร่หลายในราชการ

หลายหน่วยงานรวมทั้งตำรวจด้วย และยิ่งยืนยันชัดเจนขึ้นเมื่อมีพยาน
ในที่เกิดเหตุระบุว่า อาวุธที่ผู้ก่อเหตุใช้ เป็นปืนยาวเพราะเห็นว่าสะพาย
มาโดยมีสายคล้องไหล่  

                    จากที่ได้ไปสัมผัส เอ็มทรี เอ 1 ตัวจริงๆ ที่ชุดสืบสวนของจังหวัดเพชรบุรี
จับกุมได้ พบว่าเป็นรุ่น เอ็มทรี เอ 1 สภาพดีมาก รมดำแทบไม่มี ร่องรอยถลอก
และใช้กระสุนขนาด 11 ม.ม. ระบบลูกเลื่อนเปิดเมื่อขึ้นลำลูกเลื่อนจะค้าง
รอการเหนี่ยวไกเพื่อพากระสุนเข้ารังเพลิงและลั่นออกไป ยิงอัตโนมัติได้อย่างเดียว
ปืนจะหยุดทำงานเมื่อเราคลายนิ้วออกจากไก
                      หลังจากนั้นไม่กี่วันก็ได้สัมผัสกับ เอ็มทรี (ไม่มี เอ 1) ที่ชุดสืบสวนของ
เมืองแปดริ้วจับกุมได้ พบว่าใช้กระสุนขนาด 11 ม.ม.และยิงระบบลูกเลื่อนเปิด เหมือน
เอ็มทรี เอ 1 รูปร่าง สัดส่วน ระหว่าง เอ็มทรี เอ 1 กับ เอ็มทรี มีต่างกันที่การขึ้นลำปืน
ของ เอ็มทรี จะมีคันโยกอยู่ทางขวาของตัวปืน ตามรูปที่ท่าน ซับแม็กซีน นำมาให้ดู
ส่วน เอ็มทรี เอ 1 จะไม่มีคันโยกที่ใช้สำหรับขึ้นลำ แต่ใช้วิธีเจาะช่องที่ลูกเลื่อนด้านหน้า
ให้ใช้นิ้วเกี่ยวตัวลูกเลื่อนเพื่อขึ้นลำโดยตรง ขอบคุณครับ ::014::

เห็นด้วย....

(http://i233.photobucket.com/albums/ee124/samprasit34/e0febaa1f8.gif)

แอบอมยิ้มครับ...คิดได้ไง  ::005:: ::005::

รู้สึกประวัติและที่ไป-ที่มา ของเจ้า M3  เคยลงในหนังสือ  อวป.แต่ฉบับที่เท่าไรผมจำไม่ได้  แต่เดี๋ยวผมขอหาข้อมูลก่อนนะครับจะเอาประวัติมาให้ชม

ปืนที่หนังสือพิมพ์ชอบมั่วว่าเป็นอูซี่

ซองกระสุน M3 บรรจุได้กี่นัดครับ

(http://snarkerati.com/movie-news/files/2007/12/indiana-jones-crystal-skull-teaser.jpg)

ซองกระสุนใช้ขนาด 11 มม.  30นัด ครับ

ปืน M3 ไม่ค่อยปลอดภัย  ทำให้ทหาร ตำรวจไทยตายมามากแล้ว
ปืนแบบนี้ใช้ลูกเลื่อนหนัก  แต่ใช้แอ็คชั่นสปริงอ่อน แถมยังไม่มีห้ามไกช่วยแบบเมดเสน   เวลาเอาไปปฏิบัติงาน กำลังพลจะนิยมใส่ซองกระสุน แล้ววางพานท้ายไว้ระหว่างเท้า หันลำกล้องขึ้น   พอรถตกหลุม ลูกเลื่อนจะถอยเอง  คือถอยเลยซองกระสุน แต่ถอยมาไม่ถึงเซียร์  มันจะดันกระสุนเข้ารังเพลิง แล้วจุดระเบิด  ส่วนใหญ่จะโดนใต้คาง ทะลุออกกระหม่อม

แบบนี้ก็ขุดเก่งนะครับ.. ::005:: ::005:: ::005::

(http://www.stanford.edu/group/parasites/ParaSites2004/Trypanosomiasis/armadillo.jpg)

ได้ความรู้เพิ่มอีกแล้วครับ... ขอบคุณครับ... ::014::

ใช้งานล่าสุด:  2009-06-16, 16:23:51

คุณ vinchy ไม่เข้าเวปมาสี่เดือนแล้ว เพื่อนฝูงยุงกัดเป็นห่วงจะแย่อยู่แล้ว ยิ่งอาชีพเสี่ยงๆอยู่  รีบเข้ามารายงานตัวด่วนนะครับ บวกคะแนนเป็นแรงใจครับ+1

พวกค้ายาเสพติดเมืองนอกชอบใช้ยิงเอามันส์ได้ แต่เล็งยากไม่ค่อยแม่นยำเหมือนเอ็มพี5

ขออนุญาติเสริมนิดนึงนะครับ  ถึงแม้ M3  จะไม่มีคันเซฟแต่ก็ไม่ใช่ว่าไม่มีเซฟนะครับ ใช้งานให้ปลอดภัยได้ถ้ารู้จักวิธี 8) 8)
คือ  - เซฟตี้ของเจ้า M3  จะอยู่ที่ฝาปิดกันฝุ่น/ฝาปิดลูกเลื่อนนี่ละครับ
- ตรงฝาปิดกันฝุ่น/ฝาปิดลูกเลื่อนจะมีเดือยยื่นออกมา
- และตัวลูกเลื่อนจะมีรูอยู่ 2 รู(รูที่ใช้นิ้วเกี่ยวขึ้นลำนี่แหละ)
- กรณีที่ 1เราไม่ขึ้นลำก็ปิดกันฝุ่นไว้เดือยที่ฝาปิดก็จะมาล๊อกที่รูที่1 (กระแทกให้ปืนพังลูกเลื่อนก็ไม่ขยับถ้าไม่เปิดฝากันฝุ่น/ฝาปิดลูกเลื่อน)
- กรณีที่ 2 ถ้าขึ้นลำ(แขวนลูกเลื่อน) เราก็ปิดกันฝุ่น/ฝาปิดลูกเลื่อน อีกละครับ เหมือนเดิมเดือยที่ฝาปิดก็จะมาล็อกที่รูแต่ตอนนี้จะเป็นรูที่ 2  พอจะใช้งานก็แค่เปิดฝากันฝุ่น/ฝาปิดลูกเลื่อนออก  แล้วก็สาดกระสุนไปเลย(แต่ต้องเสียเวลาใช้มืออีกข้างเปิดฝากันฝุ่น/ฝาปิดลูกเลื่อนออก  )

ทำไมคุณถึงคิดว่าตำรวจ ทหารไทยใช้ปืนไม่เป็น
การขึ้นลำปืนระหว่างเคลื่อนย้ายไม่ว่าทางยุทธการ หรือทางธุรการ เป็นเรื่องต้องห้าม    ถามว่าเมื่อสี่สิบปีก่อน ทหารตำรวจไทย นั่งรถเข้าไปในดง ผกค. แล้วเขาจะปิดฝาห้องลูกเลื่อนให้เสียเวลากันหรือเปล่า
M3 เป็นปืนแบบแรกที่เราเลิกใช้

คุณพ่อผม เคยเล่าให้ฟังว่า เมื่อสมัยเมื่อประมณ40ปี ที่แล้วท่านประจำการ บริเวณ ชายแดน เชียงราย-ลาว ได้รับคำสั่งให้ เอารถจี๊บ ขับออกตรวจพ้นที่กับหัวหน้า ถนน ยุคนั้นเป้นหลุมเป้นบ่อ มากๆ(ถนนดิน) ขณะเข้าพื้นที่อันตราย ก้ขึ้น ลำปืน เตรียมพร้อม พอดี มีเพื่อนท่าน นายหนึ่ง จะหยิบ ระเบิดมือ ออกมาจากกระเป๋า หรืออย่างไรไม่ทราบ เลยเอาปืน วางพาดไว้ ตรงที่วางปืน ในรถ รถตกหลุม พอดี ปืน ลั่นออกออกมาหมดแม๊กเลย ทุกคน ต่างกระโดด ลงจากรถจี๊บ กัน หัวคมำ ดีที่ไม่มีใครเป้นอ่ะไรแต่รถวิ่งไปชนต้นไม้พัง ดีที่ปืน มันล้อกกับที่วางพอดี ไม่งั้น คงมีใครได้เสีย ชีวิต แน่ๆ  อีกอย่างปืนในระบบเดียวกัน กับเจ้า m3 ที่คุณพ่อ ผมเจอก็เป้น บาเรทต้า m12 ซึ่งสมัยก่อน กรมตำรวจสั่งเข้ามาใช้กันพักใหญ่ ซึ่งสมัยก่อน ตำราจ จะเรียก บาเร้ทต้าปลาเค็ม ผมเองก็ไม่ทราบว่าทำไมถึงเรียกอย่างนั้น แต่ ปืน กลทอมสัน ท่านบอกว่าดี คาร์บินท่านก้ว่าดีเหมือนกัน

คาร์บินนี่เคยลองของเพื่อนครับ ยิงดีครับ

...อยากทราบว่าปืนกลเอ็มทรีของอเมริกัน  เมื่อเทียบกับปืนกลสเตนของอังกฤษ  จุดดีจุดด้อยแตกต่างกันอย่างไรบ้างครับ

ภาพที่หามาได้

ต้นสงครามโลกครั้งที่ 2  ปืนทอมสัน M1921 มีต้นทุนผลิต 280 เหรียญ  ถึงแม้จะปรับแบบมาเป็น M1928 A1 ลดต้นทุนลงมาเรื่อย ๆ จนเป็น M1 A1 ก็ยังมีราคาต้นทุน 120 เหรียญ   ในขณะที่สเตนของอังกฤษ มีต้นทุนเพียง 20 เหรียญ   จึงต้องออกแบบ M3 ใช้โครงปืนเป็นท่อเหล็ก กับเอาเหล็กเส้นมาดัดทำพานท้ายเหมือนกับปืนสเตน

ติดขัดบ่อยพอ ๆ กัน  แต่สเตนได้เปรียบที่ซองกระสุนอยู่ข้าง ทำให้ยิงระหว่างหมอบคลานได้สะดวกกว่า

มีภาพสวยๆอีกนิดหน่อย

ขอบคุณครับ  ผมชอบปืนสเตนมากๆ  คิดว่ามันออกแบบฉลาดดี  ต้นทุนถูกลงไปกว่าเพื่อนมาก

Sten เป็นปืนขนาดเก้า ส่วน M3ขนาด 11 Stenไม่มีด้ามจับเหมือน M3 เวลายิงฮิปจะรู้สึกแปลกๆ เหมือนกับจับปืนไม่ค่อยถนัดเหมือนพวกปืนที่มีด้าม (เป็นความรู้สึกส่วนตัวนะครับ คนอื่นอาจไม่เป็นก็ได้)

ไหนๆ จะขุดแล้วช่วยเสริมอีกนิดครับ

เท่าที่ทราบมา M3 ผลิตออกมาสำหรับเป็นเพียงอาวุธป้องกันตัวของพลรถถังในช่วง WWII  ไม่ได้นำมาทดแทนM1928 ครับ

จึงลดต้นทุน และไม่ได้เน้นคุณภาพอะไรมากมาย 

  คนที่ถือ 1911 นิ้วอยู่ในโกร่งไก...น่าหวาดเฉียววว

ปืนตระกูลนี้ m3 อินแกรมmc10-11 มักมีปัญหาขัดลำ จาก การที่สปริงแม๊ก ล้าตัว ยิ่งเวลา ใส่ลูกไว้ในแม๊ก นานๆ

เก็บเกี่ยวความรู้ครับ

ผมเพิ่งสังเกตนี่เองว่าปืนเอ็มทรีมันไม่มีศูนย์หน้า

 เอ้าขอ ขุด ด้วยคน ::014:: ::014:: ::014::ผมก็เพิ่งมารู้ประวัติ ในนี้ แหละครับ  เมื่อ ประมาณ ปี 41 กระผมใช้ไอ้ เจ้า M3 นี่แหละครับ เวลา ลงครวจค้น  ในเรือประมง เป็นอาวุธประจำกาย

1 ข้อเสีย จากที่เคยประสบมา  ขัดลำบ่อย  อาจ จะเป็นเพราะเก่า แต่ ก็ยิงได้  ถ้ารู้เทคนิคการใช้ ( สำหรับผมคนเดียวครับ)

2 ข้อ ดี ยิงในที่จำกัดได้ดี   เคลื่อนที่สะดวก ( ผู้ใช้ ต้องรู้จัก ปืนพอ บำรุงรักษาอย่างดี  ก็พอดีอีก ที่ผม มีหน้าที่ดูแล ปืนเล็กทั้งหมดในเรือ )
ซองกระสุน  30 นัด 2 ซอง เหลือเฟือ สำหรับใช้งาน ในเรือ  ( ในราชการ ทะเล เด้อ ครับ )

 หมาย  ::014:: ::014:: ::014::บางท่านอาจมีความเห็นแย้ง ก็ไม่เป็น  ถือว่าผมเล่าสู่กันฟัง จากประสบการณ์จริง ( ซึ่งมันก็ สิบปีที่แล้ว)
เมื่อไม่นานมานี้ ผมกลับไปเยี่ยม สังกัด เดิม เปิดตู้เก็บปืนเล็กดู ก็ยังเห็นปืนคู่มือ ผมในอดีต อยู่เหมือนเดิม ในลักษณะ อาบ จารบี ทั้วตัว

ในความคิดส่วน ตัว น่าจะเก็บเข้า คลัง หรือ พิพิธภัณได้แล้ว แต่เจ้านายท่าย คงพิจารณาแล้ว ว่า ยังใช้การได้อยู่ ::007:: ::007:: ::007:: ::007:: ::014:: ::014:: ::014::
 

                 ยังอยู่ครับ...เพียงแต่ไปนั่งอยู่หน้าเครื่องในหน่วยงานบางสถานที่
ล็อคห้ามเข้าเวฟที่มีคำว่า เกมส์ ครับ ขอบคุณมากครับที่สมาชิกเป็นห่วงกัน  ::014::

ดีใจที่รู้ว่าปลอดภัยครับ... ::014::

+๑ แต้มต้อนรับครับ...

กระทู้เก่าขุดมาใหม่สนุกได้ความรู้กว่าเดิมอีกครับ ...........   :)

มีครับแต่ไม่ได้อยุ่ที่ลำกล้องแต่ อยู่เหนือช่องคายปลอก ลองดูดีๆครับ