เว็บบอร์ดสนทนาภาษาปืน

ผม สงสัยมานานแล้วครับ   ::014::

๙ มม  แรงกว่า ครับ

9mm.แรงกว่าครับ...

.38 ปลอกจะยาวกว่า 9 mm. แต่ไม่ได้อัดดินปืนเต็มปลอก ...

ผมลองเอาปลอก .38 กับ 9 มม.  มาวัดกัน .38  จะมีปลอกที่ยาวกว่า ผมก็เข้าใจว่า ดินปืนน่าจะมีปริมาณแรงดันมากกว่า  จึงคิดว่า .38  แรงกว่า ผมก็ยังงง อยู่ครับ  ???

9 มม. แรงกว่าครับ แต่ .38 สเปฯ ให้อำนาจหยุดยั้งที่ดีกว่า ด้วยน้ำหนักหัวกระสุน และหน้าตัดที่ใหญ่กว่านิดหน่อย

9 มม. ดีตรงที่อำนาจเจาะทะลวงสูงกว่า .38 แต่ส่วนตัวผมว่า ทั้ง 2 ขนาดนี้ แทบไม่มีอะไรแตกต่างกันครับ  :-\

ส่วนตัวผมว่า .38 ดูยังน่าใช้กว่า 9 มม. ครับ  ::014::    

อย่าไปคิดมากครับ.............
ตอนนี้ อาจจะคิดว่า เอาแรง ๆ
ในตอนหลัง จะเอาแต่ นิ่ม ๆ นะครับ
แรง ๆ ได้สะใจ ครับ แต่ นัดสอง ลำบาก
เพราะต้องขืน เพื่อลงแนวยิง
สู้นิ่ม ๆ ยิงสบายครับ....

โดนเป้า ออกอาการ เหมือนกัน

อ่านเล่น แก้เครียดครับ

(http://img67.imageshack.us/img67/466/382sw5.jpg)

(http://img67.imageshack.us/img67/7851/384wt3.jpg)

(http://img235.imageshack.us/img235/5257/61021726lr6.jpg)

(http://img380.imageshack.us/img380/7039/357ex5.jpg)

สถิตินัดเดียวหยุดทันที ผมเอามาจาก inside revolver และ inside pistol
.38 SPL JHP  ได้ 83%
9 MM JHP ได้ 88 %
.45 ACP JHP ได้ 93 %
.357 Magnum JHP ได้ 96 % ครับ

มีข้อมูลที่ไหน/อย่างไรที่ว่า ".38 สเปฯ ให้อำนาจหยุดยั้งที่ดีกว่า" ครับ  ;)

ต้องขอภัยครับ ผมมีความเห็นต่าง อย่างสิ้นเชิงทั้งทางวิชา่การ และในทุกทุกทาง.. บางครั้งการให้ความเห็นส่วนตัว มีความเป็นอิสระ แต่ี่ออกห่างความเป็นจริง
จะทำให้เกิดเชื่อที่คลาดเคลื่อน.. แพร่กระจาย ออกไป ..

การเลือกกระสุนขนาดไหน แบบของหัวกระสุน  มีหลายมิติ หลายปัจจัยเข้ามาเป็นองค์ประกอบ ถ้ามองให้กว้างขึ้น จะเกิดมุมมองที่ไร้อคติ

ไม่เพียงหลงมองเอาปืน ขนาดกระสุนที่ท่านมีใช้อยู่ในมือว่า ดีกว่า ดีที่สุด
จะทำให้ท่านเลือกใช้อาวุธปืน และขนาดกระสุน ได้เหมาะแก่สถานการณ์
เหมาะแก่การป้องกันตัว ที่เหนือชั้น ขึ้นไปอีก.

กรณีนี้ คุณยอด มีความเห็นของเกจิ ทางอาวุธปืน อยู่เยอะ คงได้ทยอยบอกข้อมูลให้ ครับ.  ::002::

กระสุน .38 สเปฯ แบบมาตรฐานจะมีน้ำหนัก 158 เกรน หัวล้วนแบบบราวด์โนส หรือ เรียกกันอีกชื่อว่า โพลีชโหลด
เมื่อยิงจากลำกล้อง 6 นิ้วจะได้ความเร็ว 855 ฟุต / วินาที แรงปะทะต้น 256 ฟุต / ปอนด์ - วินาที เมื่อนำไปยิงในปืน
ลำกล้องที่สั้นลงไปก็จะมีความเร็วลดต่ำลงโดยเฉลี่ย 50 - 75 ฟุต / วินาทีต่อลำกล้องที่สั้นลง 1 นิ้ว
เช่น กระสุน 125 เกรนเมื่อยิงจากลำกล้อง 6 นิ้ว จะได้ความเร็วต้น 1,040 ฟุต / วินาที หรือ ลดลงประมาณ 9 %
แต่เมื่อยิงในลำกล้อง 2 นิ้ว จะลดลงเหลือแค่ 897 ฟุต / วินาที ลดลงจากลำกล้อง 4 นิ้ว 14 % และ 23 % เมื่อเทียบ
กับลำกล้อง 6 นิ้ว

กระสุนมาตรฐานของ 9 มม. พาราฯ คือ 115 เกรนซึ่งให้ความเร็วต้นที่ 1,155 ฟุต / วินาที
และ 124 เกรน ที่ให้ความเร็วต้น 1,110 ฟุต / วินาที แต่ปัจจุบันมีการผลิตหัวกระสุนที่เบาที่สุดคือ 88 เกรน
ที่ให้ความเร็วต้นสูงถึง 1,500 ฟุต / วินาที และ หนักสุด คือ 147 เกรน ให้ความเร็วต้นที่ 990 ฟุต / วินาที

9 mm. น่าจะคมกว่า..

มีfactorหลายตัวมากครับ ไหนจะความยาวลำกล้อง น้ำหนักหัวกระสุน ดินที่charge ลักษณะหัวกระสุน ฯลฯ
เอาเป็นว่าเลือกใช้ที่เหมาะสมกับตัวเองดีกว่าครับ จะ .22 .38 9 หรือ 11 ยิงเข้าเป้าเป็นใช้ได้แล้วครับ  ;)
ลูกแรงๆนัดสองก็ยิงยากกว่าครับ  :D

เทียบแบบนี้ไม่ได้ครับ หัว LRN กับ FMJ การแบะบานก็ต่างกันเยอะแล้วครับ น้ำหนักหัวกระสุนที่บอกมาก็ต่างกันเยอะ  chargeดินเท่าไรก็ยังไม่ทราบ ยิงจากลำกล้องกี่นิ้วก็ยังไม่ทราบเหมือนกัน :D

๙ มม  แรงกว่า ครับ

ใครๆก็บอกว่า 9 มม แรงกว่ามาก    และจากที่ได้ยิงปืนทั้ง .38  และ 9 มม แล้วมันก็เป็นเช่นนั้นจริงๆครับ...

ผมก็คิดเช่นนั้นครับ  9 น่าจะแรงกว่าครับ  ผิดถูกต้องขออภัยครับ

ถ้าว่าตามตัวเลข คำนวณพลังงานกัน 9มม. ลูเกอร์ ให้พลังงานมากกว่า .38Spl
และอำนาจการหยุดยั้งในนัดเดียวของ 9มม. ลูเกอร์ ในภาพรวมก็ดีกว่า

แต่การเลือกกระสุนเป็นตัวแปรสำคัญ
ในแง่การหยุดยั้ง กระสุนที่อยู่ในเกณฑ์ดีของ .38Spl ก็ย่อมดีกว่า กระสุนที่อยู่ในเกณฑ์ด้อยของ 9มม. ลูเกอร์
แต่กระสุน FMJ 9มม. ก็มีโอกาสติดขัดน้อย และทะลุทะลวงได้ดี

ได้มีการเก็บข้อมูลจากเหตุการณ์ที่มีการยิงกันจริง
แล้วเปรียบเทียบว่ากระสุนขนาดไหนแบบไหน การหยุดยั้งในนัดแรกเป็นอย่างไร พอเป็นแนวทางได้ตามลิงค์นี้ครับ

คลิก  ขนาด .38 Special +P (http://www.handloads.com/misc/stoppingpower.asp?Caliber=8&Weight=All)

คลิก  ขนาด 9มม. ลูเกอร์ (http://www.handloads.com/misc/stoppingpower.asp?Caliber=15&Weight=All)

การเลือกปืนเลือกกระสุนขึ้นกับโอกาสของสถานะการณ์ซึ่งแตกต่างกันไปในแต่ละบุคคล
เช่น ปืนติดกาย/ปืนแบคอัพ จนท.บางท่านใช้ .38Spl+P แต่ใช้ปืน 9มม. ลูเกอร์ กับกระสุน FMJ ในการปฏิบัติงาน เป็นต้น

 :)

ที่จริงประเด็นนี้ ไม่ใช่เรื่องที่จะมาถกเถียง กันอีกว่าอะไร แรงกว่า .มันได้ข้อเท็จจริงที่ยุติเป็นสากล
แล้วว่า ๙ พารา เหนือกว่า .๓๘ SPL ต่อให้เป็น +P ไปนานหลายปีดีดัก แล้วครับ ..

เป็นแต่ผมตกใจว่าทำไม ยังมีความเชื่อว่ากระสุน .๓๘ SPL ดีและเหนือกว่า ๙ พารา
ในบอร์ดของคนนิยมปืน อีก. .  :OO

Cartridge          bullet weight, gramms (**)      bullet type           muzzle velocity, m/s (**)      muzzle energy, J (**)
.38 special                    7.15                                    JHP                        288                                        296
.38 special                    10.27                                  JHP+P                    275                                        400  
9mm Parabellum           5.72                                   JHP                         458                                        598  
9mm Parabellum           7.475                                 FMJ                         381                                        543

** - Metric-to-Imperial conversions factors: Mass: 1 grain = 0,068 gramm Velocity: 1 fps = 0,305 m/s Energy: 1 Ft-Lbs = 1,36 J


ตามตัวเลขนะครับ เห็นกันชัดๆ
http://www.world.guns.ru/ammo/am02-e.htm

กระสุนที่มีระดับของความแรง จะเกิดแรงปะทะ ที่ดีตามมาด้วย
กระสุนที่ทะลุร่างกาย  จะต้องตาสว่างมองให้เห็นว่า กระสุนย่้อมทำลายอวัยวะได้มากกว่า
ร่างกายหนา ๙ นิ้ว หัวกระสุน ย่อมได้ทำลาย ได้ ๙ นิ้ว

แต่กระสุนที่ฝังอยู่ในร่างกาย เมื่อเข้าไปได้ ๕ นิ้ว ก็ทำลายร่างกายได้ทาง ๕ นิ้ว เท่านั้น
แล้วอีก ๔ นิ้วไม่ได้ทำอะไรเลย จะบอกว่า มันเหนือว่ากระาสุนที่ทำลาย ๙ นิ่้วได้อย่างไีร

กระสุนที่ฝังย่อมถ่ายเทพลังงาน จะต้องเข้าใจเรื่องการถ่ายเทพลังงาน ว่า  เป็นเพราะหัวกระสุึนมันหมดแรงมุดแล้วจึงหยุด แล้วมันจะถ่้า่ยเทพลังงานทั้งหมดที่มี
ต่อเนื้อเยื่อที่เป็นตัวต้านหัวกระสุน จนหัวกระสุนหมดแรงแล้ว เท่านั้นแหละครับ

ไม่ได้ทำให้เนื้อเยื่อเสียหาย เท่ากับ ๔ นิ้วที่หัวกระสุนทะลุ ทำลายต่อด้วยซ้ำ.

ฝากไว้ให้พิจารณา ครับ.  :)

เห็นด้วยกับคุณยอดครับ ผมว่าที่สำคัญมากกว่าอะไรแรงไม่แรง สำหรับคนใช้ปืนน่าจะเป็น การใช้ปืนอย่างไรให้ปลอดภัยกับชีวิตตัวเองและคนรอบข้างที่ไม่ใช่ผู้ประสงค์ร้าย  มีสติทุกครั้งที่ลั่นไก ทักษะการวางตำแหน่งกระสุนประเภทนัดเดียวอยู่ในเวลาจำกัดได้อย่างมีประสิทธิภาพ อย่ามั่นใจฝีมือกับการยิง x ในเป้ากระดาษให้มากเกินไปถ้าเวลาเจอสถานการณ์จริงอาจทำอะไรไม่ถูกก็ได้ ขอให้ยิงปืนอย่างมีความสุขนะครับ ::011::

ขอบคุณครับ  ::014:: สำหรับข้อมูลที่พี่ๆ ได้นำมาฝากกัน ก็เริ่มทำให้ผมได้เปลี่ยนความคิดจากเดิม  ;D

ถ้า .38 Super ก็แรงกว่า 9 mm.Luger ครับ :D

ถ้า .38 Super ก็แรงกว่า 9 mm.Luger ครับ

อู๊ย.............

อย่างนี้ โดนครับ พี่ Pex Shotgun   อย่างแรง

แต่ถ้าแรงกว่า .38 Super นั่นก็คือ .357 Magnum แน่นอนครับ  ::007::

พูดถึงการทะลุทะลวงผมมีเรื่องจะพูดให้ฟัง
เพื่อนรุ่นน้องผมเป็นตำรวจเล่าให้ฟังว่ามีคดีนึง เขาใช้รถจักรยานยนต์ไล่คนร้ายสองคนที่ใช้รถจักรยานยนต์เหมือนกัน
โดยคนร้ายที่นั้งซ้อนท้ายได้ใช้ขวดเบียร์(ลีโอ)ขว้างใส่ขวดแรกหลบได้(เกือบล้ม)ขวดสองกำลังจะขว้างมาอีกน้องผมตัดสินใจชัก G 19 ออกจากเอวส่งกระสุน 9x19 ใส่คนร้ายแบบยิงปืนนัดเดียวได้นกสองตัว คือ หัวกระสุนได้ทะลุคน
ซ้อนท้ายแล้วไปตุงที่กระเพาะคนขับสาหัสทั้งคู่(ไม่ตายนะครับ)
สุดท้ายน้องผมชนะคดี โดยป้องกันตัวโดยสมควรแก่เหตุครับ

9 มม. นี่แหละกระบอกต่อไป  ;D (ขออภัยที่ไม่เกี่ยวกับคำถาม)

อย่างนี้ก็เป็นการป้องกันตัวสมควรเเก่เหตุ    ขวดเบียร์นี่ขว้างใส่ถูกหัวนี่ถึงตายได้ครับ   อย่างนี้สมควรแล้วครับที่ต้องใช้ปืนยิงป้องกันตัว....

9 มม. ก็มีข้อดีตรงนี้แหละครับ คือ สามารถยิงทะลุทะลวงได้ดีมาก แม้กระทั่งสิ่งกีดขวางที่ไม่ถึงกับหนามาก

บางครั้ง ก็เอาไม่อยู่  ::008::

เอ้าถ้างั้น แรงกว่า .357 Mag ก็ต้อง .357 Maxi แน่นอน ครับ  :~) :~) มากันเป็นทอดๆ  ;D ;D

ถามย้อนลักษณะนี้เจอบ่อยจริงๆในเวป อวป. อ่านดูไม่ใช่การถามเพื่อความรู้ แต่จะออกในทางต่อความยาวสาวความยืดเสียมากกว่า ลองพิจารณาดูครับ


ขอแสดงความเห็นส่วนตัวบ้างนะครับ จะบอกว่าลูก 9*19 หัวบอล(ธรรมดาๆ)นั้นเจาะลึกกว่า .357 หัวรู(125เกรน) ซะอีก จากการทดสอบยิงแผ่นฟิล์มเอ็กเรย์ประมาณ 50 แผ่น แต่มันก็ไม่ได้หมายความว่ากระสุน .357 หัวรูมีอำนาจในการหยุดยั้งน้อยกว่า 9*19 หัวบอล(ถึงจะเจาะลึกน้อยกว่า) ทั้งนี้จะเอาเรื่องการเจาะลึกมาเป็นตัวตัดสินถึงอำนาจในการหยุดยั้งของกระสุนนั้นมิได้ เนื่องจากร่างกายของมนุษย์นั้นเป็นเนื้อเยื่อที่มีของเหลวเป็นองค์ประกอบหลัก กระสุนที่ผ่านเข้าไปจะไปทำให้เกิดโพรงบาดแผลถาวร(คือรูกระสุนที่ปรากฏให้เห็น)และโพรงบาดแผลชั่วคราวที่เกิดถัดจากโพรงบาดแผลถาวรไปรอบๆในบริเวณด้านนอก(ไม่รากฏให้เห็นเนื่องจากเมื่อกระสุนเคลื่อนผ่านไปเนื่อเยื่อที่เป็นโพรงบาดแผลชั่วคราวก็จะคืนตัว) ซึ่งการออกแบบให้หัวกระสุนมีการแบะบาน(แต่เจาะลึกได้น้อยกว่า)ก็เพื่อต้องการให้เกิดโพรงบากแผลขนาดใหญ่รวมถึงถ่ายพลังงานสู่เป้าหมายสร้างโพรงบาดแผลชั่วคราวที่ใหญ่กว่าอีกด้วย หากเกิดโพรงบาดแผลร่างกายจะสูญเสียเลือดทำให้อ่อนแรงและหมดกำลังในการต่อสู้(แต่อาจจะต้องกินเวลาพอสมควร) ส่วนโพรงบาดแผลชั่วคราวที่มีขนาดใหญ่จะทำให้เกิดการล้มเหลวของระบบทำงานต่างๆภายในของอวัยวะร่างกายหรือไฮโดรลิคช็อค ร่างกายเหมือนหยุดทำงานไปชั่วขณะ-หมดความสามารถในทันทีหรือแทบจะทันที
        สรุป คนที่ยังมองภาพไม่ออกอ่านแล้วจะเข้าใจว่ากระสุนที่เจาะลึกดีกว่ากระสุนที่เจาะไม่ลึกเนื่องจากมีการเปลี่ยนรูปร่างเพื่อถ่ายพลังงานเข้าสู่เป้าหมาย ถ้าจะเอาเรื่องระดับความเสียหายของเนื้อเยื่อก็พอจะใช้เรื่องการเจาะลึกได้(บางคนเรียกคิลลิ่งเพาเวอร์) แต่จะใช้การวัดเอาแต่ระดับการเจาะลึกของกระสุนมาตัดสินถึงอำนาจการหยุดยั้ง(บางคนเรียกสตอปปิ้งเพาเวอร์)ไม่ได้

เทียบ ๙ พารา กับ .๓๘ SPL  ไม่ใช่ .๓๕๗ Mag ครับ คุณหนวดหิน.  :D
อย่าไปสลับกัน..  ๙ พารา นั้นระดับต่ำกว่า..แรงปะทะ และเจาะลึกสู้  .๓๕๗ Mag ไม่ได้ครับ  :)

เปล่าครับ..ผมไม่ได้ตอบเพื่อ จขกท ในประเด็น .38 กับ 9*19 ใครแรงกว่ากัน เพราะมันจบไปแล้ว ยัง 9*19 ก็แรงกว่า แต่ผมต่อท้ายกระทู้ของคุณที่เน้นเรื่องการเจาะลึกครับ ลองพิจาณาดู และต้องขออภัย จขกท.ให้ชัดอ่านสรุปที่ผมเขียนดูอีกครั้งครับ

ขออภัยท่านหนวดหินครับ...

1.ผมรู้จักพี่ธำรงและพี่ Ro@d มานานหลายปีครับ...

ทราบว่าพี่ทั้งสองท่านไม่ได้จงใจจะต่อความยาวกับสมาชิกท่านอื่น...

หากแต่ถามในแง่วิชาการจริงๆ ที่ต้องการการอ้างอิงที่เชื่อถือได้ครับ...

2.พี่หนวดหินอ้างอิงจากกระสุนขนาด 9 ม.ม. FMJ เทียบกับ .357 JHP ไม่เหมาะสมครับ...

กระสุนต่างประเภทกัน ถ้าจะให้เหมาะต้องเทียบ FMJ กับ FMJ / JHP กับ JHP ครับ...

3.การอ้างอิงถึง Temporary cavitation หรือ wound นั้น ยังไม่ค่อยถูกต้องนะครับ...

หากจะพูดถึง Temporary cavitation ตัวที่จะบอกชัดๆว่าเกิด/ไม่เกิด และเกิดมาก/เกิดน้อย อยู่ที่น้ำหนักหัวกระสุน, diameter, วัสดุ , การออกแบบ ความเร็วของหัวกระสุนครับ...

เรียนตามตรงว่าข้อความของพี่หนวดหินนั้นผมอ่านแล้วเข้าใจได้ว่าอ้างอิงมาจากนิตยสารฉบับหนึ่ง...

ซึ่งผมก็ได้อ่านครับ และเข้าใจได้ว่าแปลมาจากภาษาต่างประเทศ เพราะมีคำบางคำที่แปลออกมาแล้วแปลกมากๆครับ... ::014::

ครับผม..ที่ได้อ้างตามนั้นเนื่องจากได้ทดลองเช่นนั้นจริง และจะแสดงให้เห็นด้วยว่าในกรณีที่ความเร็วกระสุนต่างกัน(แม้น้ำหนักหัวกระสุนและหน้าตัดจะใกล้เคียงกัน)กระสุนความเร็วต่ำกว่าที่ไม่แบะบานก็ยังเจาะลึกกว่ากระสุนความเร็วสูงกว่าที่แบะบานได้
       และเนื่องจากความเร็วของกระสุนปืนพกเมื่อเทียบกับปืนเล็กยาวหรือปืนไรเฟิลนั้นแตกต่างกันมาก การจะทำให้เกิดโพรงบาดแผลทั้งถาวรและชั่วคราวนั้น นอกเหนือจากเรื่องความเร็วแล้ว จึงต้องอาศัยน้ำหนัก หน้าตัด และลักษณะของหัวกระสุนเข้าช่วย

ความเร็วของกระสุนปืนพกเมื่อเทียบกับปืนเล็กยาวหรือปืนไรเฟิลนั้นแตกต่างกันมาก การจะทำให้เกิดโพรงบาดแผลทั้งถาวรและชั่วคราวนั้น  

การเกิดโพรงบาดแผล สำหรับกระสุนไรเฟิล  มักจะเกิดจากคลื่นอากาศ (ช๊อคเวฟ ) มากกว่าจะเกิดจากตัวหัวกระสุนเอง 
เพราะถ้าเทียบน้ำหนักแล้ว  ในรายกระสุน .๒๒๓  ก็ก่อให้เกิดโพรงบาดแผลที่ขยายใหญ่กว่ามากมาย  ด้วยกล้ามเนื้อขยายเกินกว่าการหดตัว

บทความ ที่กล่าวถึงเรื่องนี้ ผมก็อ่านพบครับ เป็นบทความที่อาศัยแปล นำมาลงในนิตยสาร
สัก ๕-๖ ปีมาแล้ว และมักจะถูกหยิบนำไปอธิบายความ
เพื่อให้เข้าใจกัน และเจตนาจะเน้นไปที่โพรงอากาศ แต่ผมไม่เชื่อถือเท่านั้นเอง  :OO

ผมเข้าใจประเด็นที่ท่านพี่หนวดหินอธิบายครับ...

ขออภัยอีกครั้งที่ผมไม่ค่อยเห็นด้วยกับข้อความที่พี่เล่าว่า Temporary cavitation ซึ่งเกิดจากหัวกระสุนที่แบะบานได้(ผมเข้าใจว่าน่าจะหมายถึง JHP) มากกว่าหัวกระสุนที่ไม่บาน...

อันที่จริงผมมีหลักฐานยืนยันว่ากระสุนที่ก่อให้เกิด Permanent cavitation เล็กแต่ลึกนั้นจะทำให้เกิด Temporary cavitation ได้มากกว่ากระสุนที่เป็น Hollow point (ซึ่งจะก่อให้เกิด Permanent cavitation กว้างแต่ลึกน้อยและมี Temporary cavitation น้อยครับ)ครับ...

แต่เพื่อไม่ให้เป็นการพากระทู้นี้ออกทะเลไปไกล ผมจะไม่เล่านะครับ...(จริงๆแล้วขี้เกียจพิมพ์)...ฮา...::005::

ข้อความของพี่ Yod ถูกต้องครับ...

อันนี้ยังอธิบายถึงเรื่องของ Hydrostatic shock ด้วย...

(ผมเข้าใจว่าคนแปลอ่านผิดเลยกลายเป็น"ไฮโดรลิคช็อค"ไปครับ...)

เสริมอีกนิดครับ Shock Wave ที่พี่ yod เล่านั้น หัวกระสุนต้องวิ่งเร็วกว่า 2,000 ฟุต/วินาที ครับ...:D

วิชาการล้วน ๆ   ถ้ายัง งงเหมื่อนผม ก็คงหายงง ถ้าเข้าใจ    สงกะสัยต้องหาความรู้เพิ่มมากขึ้นแล้วครับผม(หมายถึงผมนะครับไม่ได้หมายถึงใครอย่าเข้าใจผิด)  (มีข้อคิด +ผลการทดสอบ+ประวัตืศาส+เหตุผล)ขอขอบคุณทุกท่านที่ให้คำตอบ ขอให้ทุกท่านที่อยู่ตอบบอรด์ นี้จงอย่าท้อถอย และขอให้ตอบกระถู้อย่างมีเหตุผลอย่างนี้ตลอดไป  เพราะคนที่เพิ่งเริ่มเข้าวงการ จะได้ไม่เข้าใจผิด และนำคำตอบที่ผิดไปใช้ในชีวิตจริง และจะไม่เกิดผลดีตามมา      ::::::::คิดแตกต่าง  แต่อย่าคิดแตกแยก  แล้วจะมีคำตอบ:::::::

ขอบคุณคุณหมอrute ที่ให้เครดิตกับผมและช่วยอธิบายกับคุณหนวดหินว่า ผมไม่ได้จงใจจะต่อความยาวกับสมาชิกท่านอื่น...หากแต่ถามในแง่วิชาการจริงๆ ที่ต้องการการอ้างอิงที่เชื่อถือได้

และผมก็ต้องฟังคุณหมอในเรื่อง Permanent กับ Temporary cavitation .... ก็ผ่ามาเองกับมือนี่นา  ::007::

ขออธิบายกับคุณหนวดหินว่าข้อมูลอ้างอิงที่ผมมี เป็นงานวิจัยของ Evan P. Marshall ที่เก็บข้อมูลจากเหตุการณ์จริง ซึ่งผมอ่านจากตารางได้ว่าโดยภาพรวมการหยุดยั้งในนัดเดียวของกระสุน 9mm Luger ดีกว่า .38Spl+P   แต่เมื่อคุณkon tung kru 91บอกว่า ".38 สเปฯ ให้อำนาจหยุดยั้งที่ดีกว่า ด้วยน้ำหนักหัวกระสุน และหน้าตัดที่ใหญ่กว่านิดหน่อย" ผมจึงต้องถามเหตุผลถามข้อมูล เพื่อให้ได้ความรู้ได้ปัญญา ไม่ติดกับความคิดเดิมของตัวให้เป็นพวกชาล้นถ้วย  ก็เป็นเพียงการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกัน แล้วจากนั้นผมก็ได้นำเสนอความเห็นและข้อมูลของผมในโพสต่อมา ไม่ได้เป็นเพียงการถามเพียงหวังขัดคอหรือกวนบาทาแต่อย่างใด

ก็ต้องขออภัย  ::014:: หากการสนทนาของผมกับคุณkon tung kru 91 ทำให้คุณหนวดหินเห็นว่าไม่เหมาะสม   แต่ก็เป็นไปตามเหตุผลที่ได้เรียนข้างต้น

ผมขอแปะข้อมูลอีกหน่อยเกี่ยวกับกระสุนที่มีข้อมูลว่าหยุดยั้งได้ดีที่สุดในแต่ละคาลิเบอร์ มาให้พิจารณากันครับ

(http://img149.imageshack.us/img149/7805/toploadoneachcaliberhx5.jpg) (http://imageshack.us)

ขอตอบตามที่เจ้าของกระทู้ตั้งคำถามนะครับ ตามประสบการณ์ที่เคยลอง
จากที่ได้ลองยิงกระสุน 9 ม.ม. จากปืนลูกโม่
แรงถีบของปืนมันดีดดิ้นมากกว่ายิงด้วยปืนลูกโม่.38 ครับ
ส่วนอำนาจการหยุดยั้งก็น่าจะเป็นตามข้อมูลอย่างที่หลายๆท่านได้ลงรายละเอียดไว้

    การแสดง ความคิดเห็น ด้วยเหตุ ผล  แสดงหลักฐาน อ้างอิง  ทำให้มีมุมมองที่หลากหลาย 
 
     เหมือนกับเป็นการสัมนา   แต่เป็นการสัมนาในเวป
 
      รอ อ่านต่อ 

     เคารพทุกความคิดเห็น ครับ    ::014::   ::014::  ::014::
  

ขอตอบตามที่เจ้าของกระทู้ตั้งคำถามนะครับ ตามประสบการณ์ที่เคยลอง
จากที่ได้ลองยิงกระสุน 9 ม.ม. จากปืนลูกโม่
แรงถีบของปืนมันดีดดิ้นมากกว่ายิงด้วยปืนลูกโม่.38 ครับ
ส่วนอำนาจการหยุดยั้งก็น่าจะเป็นตามข้อมูลอย่างที่หลายๆท่านได้ลงรายละเอียดไว้  

แล้ว พี่ อรชุน   ไม่คิด จะปล่อย ออกมา บ้างหรือครับ   
เจ้ากระบอกที่ว่าเนี่ย.....::008::

ขอบคุณทุกท่านทุกความเห้นที่เข้าใจและเปิดใจรับฟัง เรื่องเห็นด้วยหรือไม่นั้นเป็นเรื่องธรรมดา อยากให้เอาเหตุผลมาถกกัน  เพราะเชื่อว่าทุกคนก็ล้วนอ่านมา ฟังมา ศึกษามา เหมือนกันเพียงแต่มากน้อยไม่เท่ากัน จึงรู้ไม่เท่า อ่านแล้วประมวลผลได้อย่างไรก็ขอให้เอาประสบการณ์ความรู้มาแป่งปันกัน การแสดงหลักฐานแหล่งอ้างอิงนั้น บางครั้งหลักแหล่งที่ยกมาอ้างก็เปลี่ยนแปลงไปได้เมื่อได้พบองค์ความรู้ใหม่ๆเพิ่มขึ้น ใครมีหลักฐานอย่างไรก็แสดงไป หรือถ้ารู้เห็นอย่างไรก็ให้แสดงไป จะเชื่อหรือไม่ทุกคนล้วนมีดุลพินิจในการกลั่นกรอง การถามย้อนรังแต่จะทำให้เกิดความขัดเคืองเปล่าๆ แม้แต่พุทธองค์ยังสอนให้เชื่อตัวเองเลย

พี่ yod ไม่ทันผมหรอกครับ...

รูเกอร์ Sp 101 ขนาดเก้าพาราของพี่อรชุนผมจองไว้นานแล้ว...::005::

อุ๊ย...

มีหลายคิว ด้วย

อายจัง..................

ขอเป็นตาอยู่แล้วกัน ( ฮา )    ::006::

ดูบัณฑิตเค้าถกกัน...

ติดตามไปเรื่อยๆ

บัวใต้น้ำก็ยังอยู่ใต้น้ำ...

เดี๋ยวว่างๆจะมาค่อยๆอ่านซ้ำอีกซัก2-3รอบ...
(เรื่องบาดแผลถาวร กับ ชั่วคราวอะไรนี่แหละครับ)

เผื่อความรู้จะได้แทงยอดพ้นผิวน้ำบ้างครับ

ขอบคุณทุกท่านครับ...

 สิ่งที่ควร ระวังน้อยคือบาดแผล ชั่วคราว  แต่บาดแผลค้างคืน ระวังให้มากนะครับ เดี๋ยวเมียจับได้แย่เลยนะครับ จะได้บาดแผลถาวรไปแทน    ::007::  ::007::  ::007::  ::007::  ::007::