เว็บบอร์ดสนทนาภาษาปืน

สนทนาภาษาปืน => สนทนาภาษาปืน => ข้อความที่เริ่มโดย: ญาติระอา ที่ กรกฎาคม 21, 2008, 09:54:59 PM



หัวข้อ: แซมมวล โค้ลท์ & จอห์น เอ็ม. เบราว์นิ่งก์
เริ่มหัวข้อโดย: ญาติระอา ที่ กรกฎาคม 21, 2008, 09:54:59 PM
พอดีอ่านเจอในหนังสือ  แล้วยังไม่เข้าใจครับ
ว่าคน 2 คนนี้เขาเกี่ยวข้องกันอย่างไร
ใครเป็นคนคิดออกแบบอะไรกันครับ   ชักจะเริ่ม งง งง

                                                ขอบคุณสำหรับทุกข้อมูลความรู้  ที่จะให้เพิ่มเติมครับ   ::014::
 


หัวข้อ: Re: แซมมวล โค้ลท์ & จอห์น เอ็ม. เบราว์นิ่งก์
เริ่มหัวข้อโดย: มะขิ่น ที่ กรกฎาคม 21, 2008, 10:22:41 PM
แซมมวล โคลท์ ...............เป็นผู้ก่อตั้ง บ.Colt ครับ และเป็นผู้คิดค้นปืนพกลูกโม่ โดยมีแรงบันดาลใจจากพังงาเรือ........ปืนลูกโม่ที่สร้างชื่อเสียงให้แก่ แซมมวล โคลท์ คือ Colt Single Action Army (SAA) ขนาด .45 Colt ...............ซึ่งเข้าประจำการในกองทัพสหรัฐ...............ในยุคปราบอินเดียนแดง จนราบคาบ ..............แซมมวล โคลท์ จึงนำสัญญลักษณ์ ลูกม้าตัวผู้ หักหอกอินเดียนแดงมาเป็นเครื่องหมายการค้าของ Colt .................

จอห์น โมเสส บราวนิ่ง..................เป็นวิศวกรลูกจ้าง บ.Colt เป็นผู้ออกแบบกระสุน .45 ACP ซึ่งดัดแปลงจากกระสุน .45 Colt ...............เพื่อใช้กับปืนพกขนาด .45 ACP แบบ M1911 และได้รับเข้าประจำการในกองทัพสหรัฐฯในปี 1911 ...................และเป็นผู้ออกแบบปืนและกระสุนอีกมากมาย เช่น .38 super .380 ACP 6.35  .50 BMG ...............ปืน Browning Hipower ปืน 9 มม. ลูกดกใช้แม๊กกาซีนสองแถวกระบอกแรกของโลก .....ปืนกล .30 M1919 ปืนกล .50 BMG M1 M2 ฯลฯ...............

ทั้งสองคน เกิดคนละยุคครับ........แต่เกี่ยวพันกับ บ. Colt


หัวข้อ: Re: แซมมวล โค้ลท์ & จอห์น เอ็ม. เบราว์นิ่งก์
เริ่มหัวข้อโดย: ไม่ค่อยแม่น รักในหลวง ที่ กรกฎาคม 21, 2008, 10:28:05 PM
ขอบคุณครับพี่


หัวข้อ: Re: แซมมวล โค้ลท์ & จอห์น เอ็ม. เบราว์นิ่งก์
เริ่มหัวข้อโดย: AI.MAKER ที่ กรกฎาคม 21, 2008, 10:45:54 PM
จอห์น โมเสส บราวนิ่ง. ผมว่าเขาเก่งมากเลย ขวัญใจผม


หัวข้อ: Re: แซมมวล โค้ลท์ & จอห์น เอ็ม. เบราว์นิ่งก์
เริ่มหัวข้อโดย: อู๋ รักในหลวง ที่ กรกฎาคม 21, 2008, 10:53:37 PM
clear เลยครับ ;D

ขอบคุณครับ


หัวข้อ: Re: แซมมวล โค้ลท์ & จอห์น เอ็ม. เบราว์นิ่งก์
เริ่มหัวข้อโดย: rute - รักในหลวง ที่ กรกฎาคม 22, 2008, 12:00:42 AM
John moses Browning
(http://upload.wikimedia.org/wikipedia/en/f/f1/JohnBrowning.jpeg)

น่าจะเรียกว่าเป็นนักออกแบบอาวุธปืนและกระสุนอิสระมากกว่าครับ...

ลองดูผลงานครับ...

Firearms

Colt.M1895 Colt-Browning machine gun
Colt Model 1897
FN Browning M1899/M1900
Colt Model 1900
Colt Model 1902
Colt Model 1903 Pocket Hammer (.38 ACP)
Colt Model 1903 Pocket Hammerless (.32 ACP)
Colt Model 1905, the first .45 ACP
Remington Model 8 (1906), a long recoil semi-automatic rifle
Colt Model 1908 Vest Pocket (.25 ACP)
Colt Model 1908 Pocket Hammerless (.380 ACP)
FN Model 1910
U.S. Model 1911, the first .45 ACP military handgun
Winchester Model 1886 lever-action repeating rifle
Winchester Model 1887 lever-action repeating shotgun
Winchester Model 1890 slide-action repeating rifle (.22)
Winchester Model 1892 lever-action repeating rifle
Winchester Model 1894 lever-action repeating rifle
Winchester Model 1895 lever-action repeating rifle
Winchester Model 1897 pump-action repeating shotgun
Browning Auto-5 long recoil semi-automatic shotgun
U.S. Model 1917 water-cooled machine gun
Model 1919 air-cooled machine gun
Browning Automatic Rifle (BAR) of 1917
Browning M2 .50-caliber heavy machine gun of 1921
 
Cartridges
 
.25 ACP
.32 ACP
.38 ACP
9mm Browning Long
.380 ACP
.45 ACP
.50 BMG

ปืนแบบสุดท้ายที่ John Moses Browning ออกแบบคือ Browning Hi-power ครับ... ;D

อ้างอิงจาก - http://en.wikipedia.org/wiki/John_Browning


หัวข้อ: Re: แซมมวล โค้ลท์ & จอห์น เอ็ม. เบราว์นิ่งก์
เริ่มหัวข้อโดย: rute - รักในหลวง ที่ กรกฎาคม 22, 2008, 12:10:58 AM
ส่วน Samuel Colt นั้น...
(http://upload.wikimedia.org/wikipedia/commons/3/3f/SamuelColt.jpg)

เป็นหลายๆอย่างในคนเดียวกัน ทั้งนักประดิษฐ์ นักการตลาด นักลงทุน ไปจนถึงเจ้าของโรงงานอุตสาหกรรม... ;D

อ้างอิง - http://en.wikipedia.org/wiki/Sam_colt



หัวข้อ: Re: แซมมวล โค้ลท์ & จอห์น เอ็ม. เบราว์นิ่งก์
เริ่มหัวข้อโดย: อ๊อด ดอนแก้ว ที่ กรกฎาคม 22, 2008, 12:18:42 AM
 ;D


หัวข้อ: Re: แซมมวล โค้ลท์ & จอห์น เอ็ม. เบราว์นิ่งก์
เริ่มหัวข้อโดย: สุพินท์ - รักในหลวง ที่ กรกฎาคม 22, 2008, 03:07:05 AM
ดูรูปบราวนิงก่อนตายของคุณหมอรุท แล้วเหี่ยว ๆ ยังไงไม่รู้   ดูตอนวัยรุ่นบ้าง


หัวข้อ: Re: แซมมวล โค้ลท์ & จอห์น เอ็ม. เบราว์นิ่งก์
เริ่มหัวข้อโดย: plo-รักในหลวง ที่ กรกฎาคม 22, 2008, 03:37:25 AM
ผมว่ารูปตอนแก่ปู่บราวนิงดูเข้มมากกว่าตอนหนุ่มนะครับ ;D


หัวข้อ: Re: แซมมวล โค้ลท์ & จอห์น เอ็ม. เบราว์นิ่งก์
เริ่มหัวข้อโดย: shongsiri ที่ กรกฎาคม 22, 2008, 07:09:27 AM
นี้ละครับ...ความรู้ที่ได้รับจากพี่น้องชาว อวป. เป็นประจำ ชอบจริง ๆ   นับถือ..นับถือ...นับถือ


หัวข้อ: Re: แซมมวล โค้ลท์ & จอห์น เอ็ม. เบราว์นิ่งก์
เริ่มหัวข้อโดย: วัฒน์ ที่ กรกฎาคม 22, 2008, 07:59:50 AM
 :) เป็นเรื่องที่น่าแปลกมาก จอห์น เอ็ม. เบราว์นิ่งก์ แรกเริ่มอยู่กับ บ.โคลท์ และร่วมประดิษฐ์ปืนให้โคลท์จนขายดิบขายดี
แต่ชื่อของ จอห์น เอ็ม. เบราว์นิ่งก์ ไม่เคยได้ปรากฎบนตัวปืนโคลท์เลยสักกระบอก ต่อมาในปี 1925 จอห์น เอ็ม. เบราว์นิ่งก์ ได้ออกแบบปืน High Power ให้กับ บ. Fabrique Nationale (FN) ประเทศเบลเยียม กับได้รับการยกย่องพิมพ์ชื่อของเขาลงบนปืนที่ผลิต จนทำให้คนทั่วไปเรียกว่า ปืนเบราว์นิ่งก์


หัวข้อ: Re: แซมมวล โค้ลท์ & จอห์น เอ็ม. เบราว์นิ่งก์
เริ่มหัวข้อโดย: พญาจงอาง +รักในหลวง+ ที่ กรกฎาคม 22, 2008, 08:10:39 AM
..เข้ามาอ่านหาความรู้ครับ.. ::014::


หัวข้อ: Re: แซมมวล โค้ลท์ & จอห์น เอ็ม. เบราว์นิ่งก์
เริ่มหัวข้อโดย: NUTAPHOL ที่ กรกฎาคม 22, 2008, 08:18:50 AM
:) เป็นเรื่องที่น่าแปลกมาก จอห์น เอ็ม. เบราว์นิ่งก์ แรกเริ่มอยู่กับ บ.โคลท์ และร่วมประดิษฐ์ปืนให้โคลท์จนขายดิบขายดี
แต่ชื่อของ จอห์น เอ็ม. เบราว์นิ่งก์ ไม่เคยได้ปรากฎบนตัวปืนโคลท์เลยสักกระบอก ต่อมาในปี 1925 จอห์น เอ็ม. เบราว์นิ่งก์ ได้ออกแบบปืน High Power ให้กับ บ. Fabrique Nationale (FN) ประเทศเบลเยียม กับได้รับการยกย่องพิมพ์ชื่อของเขาลงบนปืนที่ผลิต จนทำให้คนทั่วไปเรียกว่า ปืนเบราว์นิ่งก์
มันแปลกแต่จริงครับ...ถ้าไม่ได้อ่านเรื่องราวมาทีแรกผมเองยังนึกว่า  คุณปู่  จอห์น เอ็ม  เบราว์นิ่งก์นี่เป็นชาวเบลเยี่ยมซะด้วยซ้ำนะครับ...


หัวข้อ: Re: แซมมวล โค้ลท์ & จอห์น เอ็ม. เบราว์นิ่งก์
เริ่มหัวข้อโดย: BADBOY ที่ กรกฎาคม 22, 2008, 09:04:55 AM
ทีแรกผมก็ งง ๆ เหมือนกันครับ  ปืนโคลท์ 1911 ออกแบบโดยจอห์นฯบราวนิงค์ แต่ไหง เป็นชื่อของโคลท์ แต่พอศึกษาประวัติแล้ว ก็เลยร้อง...อ๋อ..... ;D


หัวข้อ: Re: แซมมวล โค้ลท์ & จอห์น เอ็ม. เบราว์นิ่งก์
เริ่มหัวข้อโดย: Daimyo ที่ กรกฎาคม 22, 2008, 09:32:10 AM
:) เป็นเรื่องที่น่าแปลกมาก จอห์น เอ็ม. เบราว์นิ่งก์ แรกเริ่มอยู่กับ บ.โคลท์ และร่วมประดิษฐ์ปืนให้โคลท์จนขายดิบขายดี
แต่ชื่อของ จอห์น เอ็ม. เบราว์นิ่งก์ ไม่เคยได้ปรากฎบนตัวปืนโคลท์เลยสักกระบอก ต่อมาในปี 1925 จอห์น เอ็ม. เบราว์นิ่งก์ ได้ออกแบบปืน High Power ให้กับ บ. Fabrique Nationale (FN) ประเทศเบลเยียม กับได้รับการยกย่องพิมพ์ชื่อของเขาลงบนปืนที่ผลิต จนทำให้คนทั่วไปเรียกว่า ปืนเบราว์นิ่งก์

ความสัมพันธ์ระหว่างบราวนิ้งกับFNน่าจะเกิดขึ้นตอนที่บราวนิ้งยังอยู่กับวินเชสเตอร์....

บราวนิ้งออกแบบลูกซองเซมิ-ออโตฯที่ตอนหลังโด่งดังมากคือA-5....แต่วินเชสเตอร์ไม่สน....

บราวนิ้งเลยหันไปหาบริษัทหนึ่งในเบลเยี่ยม....ฟาบริเก้ นาซิอองนาล(FN).....

FNให้เกียรติบราวนิ้งมาก...จนเอาชื่อมาตั้งเป็นโมเดลปืนเลย....ผิดกับโคลท์...

ผมว่าวินเชสเตอร์ตัดสินใจพลาดอย่างแรงกับปืนลูกซองรุ่นนี้.....



ตอนโคลท์ตาย....บราวนิ้งน่าจะยังเป็นเด็กอายุเลขตัวเดียวอยู่เลยครับ.....


หัวข้อ: Re: แซมมวล โค้ลท์ & จอห์น เอ็ม. เบราว์นิ่งก์
เริ่มหัวข้อโดย: iii>ท่านขุน<iii ที่ กรกฎาคม 22, 2008, 10:13:34 AM
 ::002::อ่านแล้วได้ความรู้จริงๆๆครับ ::002::


หัวข้อ: Re: แซมมวล โค้ลท์ & จอห์น เอ็ม. เบราว์นิ่งก์
เริ่มหัวข้อโดย: RMT_NO.1911A1 ที่ กรกฎาคม 22, 2008, 10:30:18 AM
จะเรียกคุณทวดแซมมวล กับ คุณปู่เบราว์นิ่ง ได้รึเปล่า สองคนนี้ช่างคิดช่างประดิษฐ์เหมือนกัน คนแรกคิดออกแบบปืนจากพังงาเรือ(หนังสือบางเล่มก็ว่ากว้านสมอเรือ ขออภัยครับตรงนี้มิได้มีเจตนาจะขัดแย้งนะครับ) ส่วนคนที่สองในวัยเด็กสามารถซ่อมปืนเก่าที่เกือบใช้การไม่ได้ให้นำกลับมายิงได้ ว่ากันว่า(อ่านจากหนังสือประวัติของเบราว์นิ่ง)อุปกรณ์ติดตัวปู่เบราว์จะมี ดินสอ กระดาษ หมุด และกรรไกร แกนึกอะไรได้ก็จะขีด ๆ เขียน ๆ ตัดและก็ปักไว้ด้วยหมุดเป็นรูปลักษณะของกลไกต่าง ๆ แล้วไปว่าจ้างให้ช่างเหล็กช่วยทำขึ้นตามแบบนั้น ๆ ก็เรื่อยมาจนกลายมาเป็นอาวุธที่ใช้ประหัตประหารกันจนถึงยุคปัจจุบันนี่หละครับ ผิด ถูกขออนุญาตช่วยแก้ไขด้วยครับขอบคุณครับ::014::


หัวข้อ: Re: แซมมวล โค้ลท์ & จอห์น เอ็ม. เบราว์นิ่งก์
เริ่มหัวข้อโดย: Choro - รักในหลวง ที่ กรกฎาคม 22, 2008, 10:38:55 AM
ขอบคุณครับ  ::014::


หัวข้อ: Re: แซมมวล โค้ลท์ & จอห์น เอ็ม. เบราว์นิ่งก์
เริ่มหัวข้อโดย: STeelShoTS ที่ กรกฎาคม 22, 2008, 10:47:43 AM
:) เป็นเรื่องที่น่าแปลกมาก จอห์น เอ็ม. เบราว์นิ่งก์ แรกเริ่มอยู่กับ บ.โคลท์ และร่วมประดิษฐ์ปืนให้โคลท์จนขายดิบขายดี
แต่ชื่อของ จอห์น เอ็ม. เบราว์นิ่งก์ ไม่เคยได้ปรากฎบนตัวปืนโคลท์เลยสักกระบอก ต่อมาในปี 1925 จอห์น เอ็ม. เบราว์นิ่งก์ ได้ออกแบบปืน High Power ให้กับ บ. Fabrique Nationale (FN) ประเทศเบลเยียม กับได้รับการยกย่องพิมพ์ชื่อของเขาลงบนปืนที่ผลิต จนทำให้คนทั่วไปเรียกว่า ปืนเบราว์นิ่งก์

ความสัมพันธ์ระหว่างบราวนิ้งกับFNน่าจะเกิดขึ้นตอนที่บราวนิ้งยังอยู่กับวินเชสเตอร์....

บราวนิ้งออกแบบลูกซองเซมิ-ออโตฯที่ตอนหลังโด่งดังมากคือA-5....แต่วินเชสเตอร์ไม่สน....

บราวนิ้งเลยหันไปหาบริษัทหนึ่งในเบลเยี่ยม....ฟาบริเก้ นาซิอองนาล(FN).....

FNให้เกียรติบราวนิ้งมาก...จนเอาชื่อมาตั้งเป็นโมเดลปืนเลย....ผิดกับโคลท์...

ผมว่าวินเชสเตอร์ตัดสินใจพลาดอย่างแรงกับปืนลูกซองรุ่นนี้.....



ตอนโคลท์ตาย....บราวนิ้งน่าจะยังเป็นเด็กอายุเลขตัวเดียวอยู่เลยครับ.....
และแล้วปืนลูกซองหลายยี่ห้อในอเมริกาก็ซื้อลิขสิทธิ์แบบปืนลูกซอง A5 ของบราวนิ่งไปผลิตขาย  ::007::


หัวข้อ: Re: แซมมวล โค้ลท์ & จอห์น เอ็ม. เบราว์นิ่งก์
เริ่มหัวข้อโดย: Tccd ที่ กรกฎาคม 22, 2008, 12:07:22 PM
ได้ความรู้ครับ

ที่บ้านมีผลผลิตของทั้งสองคนเลย


หัวข้อ: Re: แซมมวล โค้ลท์ & จอห์น เอ็ม. เบราว์นิ่งก์
เริ่มหัวข้อโดย: ญาติระอา ที่ กรกฎาคม 22, 2008, 12:11:19 PM
แลัวลูกโม่สมิธเกิดขึ้นช่วงไหน  ลอกแบบโคลท์มาบ้างหรือเปล่าครับ



หัวข้อ: Re: แซมมวล โค้ลท์ & จอห์น เอ็ม. เบราว์นิ่งก์
เริ่มหัวข้อโดย: Ro@d - รักในหลวง ที่ กรกฎาคม 22, 2008, 12:16:54 PM
เพื่อนคอปืน บอกเล่ามาตั้งเยอะ..  จขกท. ไม่เห็นขอบคุณสักคำ นี่จะถามต่ออีกแล้ว.  8)


หัวข้อ: Re: แซมมวล โค้ลท์ & จอห์น เอ็ม. เบราว์นิ่งก์
เริ่มหัวข้อโดย: NUTAPHOL ที่ กรกฎาคม 22, 2008, 01:08:16 PM
เพื่อนคอปืน บอกเล่ามาตั้งเยอะ..  จขกท. ไม่เห็นขอบคุณสักคำ นี่จะถามต่ออีกแล้ว.  8)
พี่Ro@d ครับสังคมของคนยุคใหม่   เด็กยุคใหม่  ก็เป็นแบบนี้ละครับ  จะเรียกว่าอะไรดีเน้อ.... ::008:: ::008:: ::008::


หัวข้อ: Re: แซมมวล โค้ลท์ & จอห์น เอ็ม. เบราว์นิ่งก์
เริ่มหัวข้อโดย: วัฒน์ ที่ กรกฎาคม 22, 2008, 01:24:19 PM
:) เป็นเรื่องที่น่าแปลกมาก จอห์น เอ็ม. เบราว์นิ่งก์ แรกเริ่มอยู่กับ บ.โค้ลท์ และร่วมประดิษฐ์ปืนให้โคลท์จนขายดิบขายดี
แต่ชื่อของ จอห์น เอ็ม. เบราว์นิ่งก์ ไม่เคยได้ปรากฎบนตัวปืนโคลท์เลยสักกระบอก ต่อมาในปี 1925 จอห์น เอ็ม. เบราว์นิ่งก์ ได้ออกแบบปืน High Power ให้กับ บ. Fabrique Nationale (FN) ประเทศเบลเยียม กับได้รับการยกย่องพิมพ์ชื่อของเขาลงบนปืนที่ผลิต จนทำให้คนทั่วไปเรียกว่า ปืนเบราว์นิ่งก์

 ::014:: ขออภัยเพื่อนสมาชิก ข้อมูลผิดพลาด "จอห์น เอ็ม. เบราว์นิ่งก์ ไม่ได้เคยอยู่กับ บ.โค้ลท์"

 :) ที่ถูกต้อง คือ
- หลังจากการเสียชีวิตชองโจนาธาน เบราว์นิ่งก์ผู้เป็นบิดาเสียชัวิต จอห์น เอ็ม. เบราว์นิ่งก์ กับ แม็ททิว เบราว์นิ่งก์ ก็รับช่วงดำเนินการร้านซ่อมปืน ต่อจากบิดา ต่อมาในปี ค.ศ.1872 ได้เปลี่ยนชื่อใหม่ว่า เบรานิ่งก์ บรอส.คอมปานี (Browning Bros. Company) ต่อมาประสบปัญหาเรื่องเงินทุนไม่สามารถจะขยายโรงงาน อีกทั้ง เบราว์นิ่งก์ เองมีความรู้สึกว่าการผลิตปืนเป็นงานที่น่าเบื่อ ต้องทำงานประจำทุกวัน ไม่มีเวลาคิดออกแบบ และประดิษฐ์ปืนรุ่นใหม่ๆ

- ในปี 1885  จอห์น เอ็ม. เบราว์นิ่งก์ ได้เข้าร่วมงานกับ บ.วินเชสเตอร์ รีพีทติ้ง อาร์ม คอมปานี แบบแปลนปืนส่วนใหญ่ของเขาได้ขายให้กับวินเชสเตอร์ทำการผลิตออกจำหน่าย

- ในปี 1902 สายสัมพันธ์ระหว่าง จอห์น เอ็ม. เบราว์นิ่งก์  กับ วินเชสเตอร์ ก็ขาดลง เมื่อ วินเชสเตอร์ปฏิเสธที่จะผลิตปืนลูกซองระบบออโต้ ของเบราว์นิ่ง ออกจำหน่าย

- จอห์น เอ็ม. เบราว์นิ่งก์ จึงนำปืนลูกซองระบบออโตของเขาไปมอบให้ ฟาบริก เนชั่นแนล เดอ เบลณิก หรือ เอฟเอ็น ซึ่งเป็นช่วงกำลังก่อตั้งกำลังมองหาปืนที่จะนำมาผลิตออกจำหน่ายอยู่พอดี
 


หัวข้อ: Re: แซมมวล โค้ลท์ & จอห์น เอ็ม. เบราว์นิ่งก์
เริ่มหัวข้อโดย: วัฒน์ ที่ กรกฎาคม 22, 2008, 01:40:02 PM
 :) ช่วงที่ บ.โค้ลท์ และ จอห์น เอ็ม. เบราว์นิ่งก์ เกี่ยวพันกัน คือ ในปี ค.ศ.1900 กองทัพสหรัฐฯ ได้มีสัญญากับ บ.โค้ลท์ ผลิตปืนออโต เพื่อนำเข้ามาแทน โค้ลท์ โมเดล 1873 ซิงเกิ้ล แอคชั่น อาร์มี่ เป็นปืนรีวอลเว่อร์ที่เข้าประจำการตั้งแต่ปี ค.ศ.1873 โค้ลท์จึงได้ซื้อแบบของเบราว์นิ่งก์ ไปทำการผลิต เป็นปืนกึ่งอัตโนมัติกระบอกแรกที่ผลิตในสหรัฐ ก่อนจะพัฒนามาเป็น โมเดล 1902 ต่อมาพัฒนาเป็น 1911 ตามลำดับ 


หัวข้อ: Re: แซมมวล โค้ลท์ & จอห์น เอ็ม. เบราว์นิ่งก์
เริ่มหัวข้อโดย: สีอำพัน-รักในหลวง ที่ กรกฎาคม 22, 2008, 01:53:15 PM
เข้ามารับความรู้ครับ ขอบคุณครับผม


หัวข้อ: Re: แซมมวล โค้ลท์ & จอห์น เอ็ม. เบราว์นิ่งก์
เริ่มหัวข้อโดย: ญาติระอา ที่ กรกฎาคม 22, 2008, 02:01:33 PM
ต้องขออภัยเป็นอย่างสูงครับ
ที่บ้านผมไฟฟ้าดับมาตั่ง  แต่ตีสองแล้ว  ตอนนี้ก็ยังไม่มา
กะว่าถ้าไฟมาก็จะพิมพ์ขอบคุณอยู่แลัวละครับ
ตอนนี้ต้องพิมพ์จากโทรศัพท์มือถือกว่าจะได้ีละตัว ลำบากน่าดูเ
ยครับ  และมักจะพิมพ์ผิดด้วย
ถัายังงัยไฟมาเปิดคอมได้จะกล่าวขอบคุณอีกทีครับ


หัวข้อ: Re: แซมมวล โค้ลท์ & จอห์น เอ็ม. เบราว์นิ่งก์
เริ่มหัวข้อโดย: .Nok. ที่ กรกฎาคม 22, 2008, 03:16:06 PM
กระทู้นี้ดีครับ ผมเองอยากให้มีกระทู้แบบนี้ เอากันแบบ เจาะลึกแฟนพันธ์แท้ อะไรประมาณนั้น ผมว่ามันมีประโยชน์มาก ทำให้เรารู้ที่มาที่ไปของ สิ่งต่างๆที่เกี่ยวกับเรื่องราวที่เราสนใจ

ทุกครั้งที่ผมอ่าน อวป.โดยเฉพาะ ท่าน อ.สุพินท์ และ อีกหลายๆท่าน ก่อนเริ่มต้นที่จะกล่าวถึง อวป.ที่ทดสอบ ก็มักจะกล่าวถึงที่มาที่ไปของ อวป.นั้นๆก่อนเสมอ ซึ่งผมชอบมาก

เป็นไปได้ น่าจะมีกระทู้ที่มาของ อวป.แต่ละรุ่น กระสุนแต่ละขนาดบ้างก็ดีนะครับ ::002::


หัวข้อ: Re: แซมมวล โค้ลท์ & จอห์น เอ็ม. เบราว์นิ่งก์
เริ่มหัวข้อโดย: สุพินท์ - รักในหลวง ที่ กรกฎาคม 22, 2008, 03:55:46 PM
:) เป็นเรื่องที่น่าแปลกมาก จอห์น เอ็ม. เบราว์นิ่งก์ แรกเริ่มอยู่กับ บ.โค้ลท์ และร่วมประดิษฐ์ปืนให้โคลท์จนขายดิบขายดี
แต่ชื่อของ จอห์น เอ็ม. เบราว์นิ่งก์ ไม่เคยได้ปรากฎบนตัวปืนโคลท์เลยสักกระบอก ต่อมาในปี 1925 จอห์น เอ็ม. เบราว์นิ่งก์ ได้ออกแบบปืน High Power ให้กับ บ. Fabrique Nationale (FN) ประเทศเบลเยียม กับได้รับการยกย่องพิมพ์ชื่อของเขาลงบนปืนที่ผลิต จนทำให้คนทั่วไปเรียกว่า ปืนเบราว์นิ่งก์

 ::014:: ขออภัยเพื่อนสมาชิก ข้อมูลผิดพลาด "จอห์น เอ็ม. เบราว์นิ่งก์ ไม่ได้เคยอยู่กับ บ.โค้ลท์"

 :) ที่ถูกต้อง คือ
- หลังจากการเสียชีวิตชองโจนาธาน เบราว์นิ่งก์ผู้เป็นบิดาเสียชัวิต จอห์น เอ็ม. เบราว์นิ่งก์ กับ แม็ททิว เบราว์นิ่งก์ ก็รับช่วงดำเนินการร้านซ่อมปืน ต่อจากบิดา ต่อมาในปี ค.ศ.1872 ได้เปลี่ยนชื่อใหม่ว่า เบรานิ่งก์ บรอส.คอมปานี (Browning Bros. Company) ต่อมาประสบปัญหาเรื่องเงินทุนไม่สามารถจะขยายโรงงาน อีกทั้ง เบราว์นิ่งก์ เองมีความรู้สึกว่าการผลิตปืนเป็นงานที่น่าเบื่อ ต้องทำงานประจำทุกวัน ไม่มีเวลาคิดออกแบบ และประดิษฐ์ปืนรุ่นใหม่ๆ

- ในปี 1885  จอห์น เอ็ม. เบราว์นิ่งก์ ได้เข้าร่วมงานกับ บ.วินเชสเตอร์ รีพีทติ้ง อาร์ม คอมปานี แบบแปลนปืนส่วนใหญ่ของเขาได้ขายให้กับวินเชสเตอร์ทำการผลิตออกจำหน่าย

- ในปี 1902 สายสัมพันธ์ระหว่าง จอห์น เอ็ม. เบราว์นิ่งก์  กับ วินเชสเตอร์ ก็ขาดลง เมื่อ วินเชสเตอร์ปฏิเสธที่จะผลิตปืนลูกซองระบบออโต้ ของเบราว์นิ่ง ออกจำหน่าย

- จอห์น เอ็ม. เบราว์นิ่งก์ จึงนำปืนลูกซองระบบออโตของเขาไปมอบให้ ฟาบริก เนชั่นแนล เดอ เบลณิก หรือ เอฟเอ็น ซึ่งเป็นช่วงกำลังก่อตั้งกำลังมองหาปืนที่จะนำมาผลิตออกจำหน่ายอยู่พอดี
 

ความสัมพันธ์ระหว่างบราวนิงกับบริษัทปืนในอเมริกา  ไม่น่าจะใช่แบบที่เรียกว่าเป็นการร่วมงาน หรือรับจ้าง
บริษัทปืน มักจะเดินทางข้ามทวีปมาเยี่ยมบราวนิงที่ ออกเด็น ยูท่าห์   และซื้อแบบปืน แบบเหมา ยกร้าน   จึงไม่ได้ทำสัญญากันมั่นเหมาะเหมือนกับ FN
เมื่อบราวนิงตายในวันที่ 26 พฤศจิกายน ค.ศ.1926   ปีถัดมาจึงได้มีการก่อตั้งบริษัท Browning Arms Company ขึ้นที่เมืองมอแกน (Morgan County) รัฐยูทาห์ ซึ่งต่อมาหลังจากนั้นอีกห้าสิบปี   เอฟเอนของเบลเยี่ยมจึงได้เข้ามาเทโอเวอร์บริษัท Browning Arms Company ไปเป็นของเบลเยี่ยม

(http://img144.imageshack.us/img144/4118/br2pb4.jpg) (http://imageshack.us)
(http://img144.imageshack.us/img144/4118/br2pb4.6c14d5fd55.jpg) (http://g.imageshack.us/g.php?h=144&i=br2pb4.jpg)


หัวข้อ: Re: แซมมวล โค้ลท์ & จอห์น เอ็ม. เบราว์นิ่งก์
เริ่มหัวข้อโดย: ญาติระอา ที่ กรกฎาคม 22, 2008, 06:45:46 PM
ไฟมาแล้วครับ
ก่อนอืนก็ต้องขอขอบคุณท่านสมาชิกทุก ๆ ท่าน  ที่ได้ให้ความกระจ่างในข้อสงสัยของผม  ::014::
ละเอียดเกินคาดเลยครับ  ::002::
ขอบคุณมาก ๆ ครับ


หัวข้อ: Re: แซมมวล โค้ลท์ & จอห์น เอ็ม. เบราว์นิ่งก์
เริ่มหัวข้อโดย: looknoi ที่ กรกฎาคม 24, 2008, 12:07:50 PM
แล้วปัจจุบันปืนบราวน์นิ่ง มีจำหน่ายอยู่ไหมครับอยากรู้จัง หรือเป็นตำนานไปแล้วครับ


หัวข้อ: Re: แซมมวล โค้ลท์ & จอห์น เอ็ม. เบราว์นิ่งก์
เริ่มหัวข้อโดย: NaiMai>รักในหลวง ที่ กรกฎาคม 24, 2008, 12:27:28 PM
แล้วปัจจุบันปืนบราวน์นิ่ง มีจำหน่ายอยู่ไหมครับอยากรู้จัง หรือเป็นตำนานไปแล้วครับ

 ;D มีให้ซื้อใช้อีกเยอะและอีกนานเลยครับ ;D


หัวข้อ: Re: แซมมวล โค้ลท์ & จอห์น เอ็ม. เบราว์นิ่งก์
เริ่มหัวข้อโดย: R 1100 ที่ กรกฎาคม 24, 2008, 08:16:03 PM
หลังจากถูกปฏิเสธจากวินเชสเตอร์ ทาง มิสเตอร์จอห์น บราวนิง ก็นำมาเสนอกับ มิสเตอร์ฮาทเลย์ ประธานบริษัทเรมิงตัน ในขณะนั้น แต่ชีวิตจริงยิ่งกว่านิยายขณะที่พี่น้องบราวนิงนั่งรอในห้องรับแขก  มิสเตอร์ฮาทเลย์ เสียชีวิตกระทันหัน ทางบราวนิงจึงนำแบบไปเสนอกับ เอฟ เอน จนตกลงกันได้ โดยที่เอฟ เอนได้สิทธิผลิตและขายทั่วโลกยกเว้นอเมริกา    นับว่าทางเรมิงตันเสียโอกาสทางการตลาดครั้งใหญ่  เมื่อกลับมาอเมริกาทางบราวนิงเองก็พยายามที่จะดำเนินการผลิตเองแต่ไม่ประสบความสำเร็จ  จึงนำมาเสนอกับทางเรมิงตันคนหลาน อีกครั้ง ซึ่งมิสเตอร์ฮาทเลย์ ดอจ์ด รีบตอบรับด้วยความยินดี   เรมิงตันเริ่มผลิตปืนลูกซองเซมิออโตตามแบบบราวนิง ในปี 1905 และเปลี่ยนชื่อเป็นเรมิงตันโมเดล 11 ในปี 1911 มียอดผลิตจนถึงปี 1948 มากกว่า 850,000 กระบอก


หัวข้อ: Re: แซมมวล โค้ลท์ & จอห์น เอ็ม. เบราว์นิ่งก์
เริ่มหัวข้อโดย: jassada26 ที่ กรกฎาคม 24, 2008, 08:27:23 PM
มารับความรู้ ได้ความรู้มากมายครับ ต้องขอคุณ เจ้าของกระทู้และท่านที่ตอบกระทู้ ทุกท่านครับ


หัวข้อ: Re: แซมมวล โค้ลท์ & จอห์น เอ็ม. เบราว์นิ่งก์
เริ่มหัวข้อโดย: FABBRI ที่ กรกฎาคม 24, 2008, 08:45:10 PM
 เรื่องที่ จะเล่าต่อไปนี้ เป็นประวัติ ของ จอน  บราวนิง ที่ เกือบทุกท่าน หรือ ทุกท่านก็ว่าได้ กำลังใช้ กำลังลูบคลำ หรือ อยู่ใต้เบาะ ใต้หมอน หรือ ข้างเอว คือ ปืนที่ ท่านผู้นี้ ออกแบบอยู่  ไม่ว่าส่วนบุคคลหรือราชการ ส่วนที่จะเล่านี้ได้คัดลอก มาจาก ท่าน วิจิตต์ อีกตามเคย คงจะเก่าแก่ไปหน่อยเพราะ เขียนมาเกือบ 50 ปีแล้ว  แต่ประวัติ ก็คือ ประวัติ เปลี่ยนแปลงไม่ได้ เพียงแต่ คำพูดเป็นแบบเก่าโบราณ ที่หายากแล้วและ สระสลวย กว่าปัจจุบัน     ข้าพเจ้าเลยไม่บังอาจเปลี่ยนแปลง ตามคำสั่งและคำสอนของท่าน จะมีเพิ่มเติมบ้าง จาก หนังสือ 100 ปี FN
ท่านทั้งหลาย นั้น บางท่าน ก็ไม่เคยรู้มาก่อน  รู้บ้าง รู้บางส่วน ก็อ่านก็แล้วกัน แต่ที่ รู้มาก และมากๆ จนเป็น กูรู ของ บราวนิง ก็หลับตาเสีย อย่าอ่านให้เสีย สายตา และความรู้สึก เพราะ มีบ้างที่ไม่เหมือนกันที่ท่านรู้มา ก็ต้องขออภัยมานะที่นี้ด้วย           
    ผลงานที่ลุงจอห์นสร้างไว้ยิ่งใหญ่มหาศาล ถ้าจะรวมประวัติผลงานของท่านผู้สร้างปืนทั้งหมดทุกคน ผลงานที่ได้จาก จอห์น บราวนิง จะปรากฏว่ามากที่สุดในประวัติศาสตร์ ปืนประชาชนไม่ว่าจะเป็นปืนสั้นหรือยาว ที่มีชื่อว่า บราวนิง มิเคยสร้างความผิดหวังให้แก่ผู้ใด
   เมื่อท่านถามนักใช้ปืนว่า “ปืนบราวนิงสร้างที่ไหน?” เขาทั้งหลายจะตอบว่า “สร้างในเบลเยี่ยม” แต่ลองถามเขาต่อไปอีกซิว่า “บราวนิงเป็นใคร? อยู่ที่ไหน? ชนชาติใด? คำตอบที่ท่านได้อันจัดว่าถูกต้องจะปรากฏว่ามีน้อยที่สุด
จอห์น บราวนิง
   ผู้ยิ่งใหญ่ในวงการสร้างปืนเป็นชนชาติอเมริกาเกิดในเมือง Ogden แห่ง Utah กองทัพอเมริกาและนักยิงปืนชาวอเมริกันรู้จักเขาดี แต่ประชาชนชาวอเมริกันส่วนมากไม่รู้จักเขาเลย ชาวอเมริกันทุกคนเมื่อทราบว่า จอห์น บราวนิงเป็นใคร เขาจะไม่มีความดีใจ กลับรู้สึกเสียใจ และเจ็บใจ ละอายใจในระหว่างพวกของเขาเอง
   ชื่อเสียงของเขาก้องกังวานขึ้นครั้งแรกในยุโรป เนื่องาจากบริษัท The Fabrique Nationale D’ Arms de Guerre, near Liege แห่งเบลเยี่ยมได้ยกย่องให้เกียรติ โดยใช้ชื่อสกุลของเขาตีตราเป็นชื่อบนปืนทุกกระบอกซึ่งทางโรงงานได้ผลิตขึ้นโดยอาศัยแบบประดิษฐ์ซึ่งเขาได้คิดค้น
   ในหนังสือนวนิยายต่างๆ ซึ่งเกี่ยวกับการสืบสวนคดีอาชญากรรมของทวีปยุโรป เช่นของประเทศอังกฤษ และของฝรั่งเศส ท่านจะผ่านคำว่า “บราวนิง” เสมอบ่อยๆ เหล่านี้เป็นชื่อของปืนพกโอโตเมติค ซึ่งเป็นผลงานของจอห์น ปืนพกบราวนิงเป็นปืนซึ่งนิยมใช้กันมากในโลกมาหลายปี แต่นี่ก็เป็นเพียงส่วนเล็กน้อยเท่านั้น เมื่อเปรียบกับผลงานซึ่งเขาได้ให้ไว้ในด้านอาวุธ
   เป็นที่แปลกและพิสดารมากในข้อที่ว่า สถานที่กำเนิดของเขาก็เป็นเพียงชนบทซึ่งในสมัยนั้น ยังห่างต่อความเจริญอยู่มาก ยิ่งกว่านั้นเขาเองก็มิเคยผ่านการศึกษาในวิชาเครื่องจักรเครื่องยนตร์แต่ประการใดเลย กลับสามารถจดทะเบียนสงวนแบบในการสร้างอาวุธปืนแบบหนึ่งได้อย่างสมบูรณ์ถูกต้องตามกฎหมายทุกประการ ในเมื่อเขามีวัยเพียง 24 ปี เท่านั้น และปืนแบบนี้ภายหลังแต่นั้นมาสัก 2-3 ปี  ก็ยังปรากฎว่าเป็นปืนซึ่งสร้างความมั่งคั่งมั่นคงในหลักทรัพย์ให้แก่โรงงานสร้างปืน “วินเชสเตอร์”ได้อย่างมหาศาล
      บราวนิง เกิดมาประจวบเหมาะในสมัยที่ชาวอเมริกันทั้งหลายต้องอาศัยปืนเป็นเครื่องคุ้มครองความปลอดภัยเพื่อให้ชีวิตดำรงอยู่ได้ บิดาของจอห์นเป็นช่างอาวุธ ดังนั้นเขาจึงมีโอกาสหยิบปืน จับปืน ยิงปืน และแก้ไขตกแต่งปืนได้อย่างชำนาญตั้งแต่ยังเยาว์วัย นี่ก็จัดได้ว่าเขามีการศึกษาในอาวุธปืนโดยตรงจากวัตถุจริง นี่เป็นข้อพิสูจน์ให้เห็นชัดได้ว่า “ปริญญาบัตรไม่สำคัญเท่าความชำนาญ”
                            โจนาธาน บราวนิง (Jonathan Browning)   ผู้บังเกิดเกล้าของจอห์น เกิดในมลรัฐเทนเนสซี ในปี ค.ศ. 1805 เขาดำเนินอาชีพเป็นช่างสร้างปืนตั้งแต่ในสมัยยังไม่พ้นวัย 20 และได้ย้ายภูมิลำเนาเข้าไปอยู่ในรัฐ “ไอโอวา” ตั้งแต่ปี ค.ศ. 1840 เป็นต้นมา ซึ่งในละแวกนั้นชนทุกชั้นรู้จักปืนของเขาเป็นอย่างดี จนเป็นที่สงสัยกันอย่างมากว่า ปืนพกรีวอลเวอร์ ซึ่ง Samuel Colt ได้จดทะเบียนสงวนแบบไว้นั้นเป็นไฉน จึงมีรูปร่างคล้ายกับปืนไรเฟิลลูกโม่ และปืนพกลูกโม่ซึ่งโจนาธานเป็นผู้สร้างอย่างที่สุด! และก็ยิ่งแปลกขึ้นไปอีกว่าทำไมปืนแบบโยนลำ ( Slide Action ) ซึ่งเขาเป็นคนคิดสร้างจึงไปคล้ายกันกับแบบของ N. Kendal of Windsor ซึ่งก็ได้จดทะเบียนสงวนไว้! นี่เป็นความจริงซึ่งน่าขบคิด
   ในฤดูร้อนของปี ค.ศ.1849 ซึ่ง Brigham Young ได้ค้นสำรวจพบพื้นดินอันอุดมในบริเวณลุ่มทะเลสาบ Salt Lake เขาและบริวารทั้งโจนาธานก็ได้อพยพย้ายที่ทำกินใหม่เข้าไป Ogdon แห่ง Utah โดยการแต่งตั้งโจนาธานให้เป็นกัปตันควบคุมความปลอดภัยของกองคาราวานด้วยคนหนึ่ง
   ปี ค.ศ. 1855 ตรงบริเวณใกล้ๆ เชิงเขา Wasatch ซึ่งได้อพยพมาตั้งรากฐานกันใหม่นี้เป็นปีกำเนิดของ “จอห์น บราวนิง” ผู้ยิ่งใหญ่ในประวัติศาสตร์ปืน
   จอห์นเติบใหญ่เจริญวัยขึ้นมาพอดีกันกับการวิวัฒนาการครั้งใหญ่ในด้านอาวุธปืนประจวบเหมาะกับสมัย กระสุนปลอกโลหะกำลังเริ่มขับไล่การใช้อาวุธปืนแบบประจุปากออกไปสู่ความเสื่อม การย่างก้าวเข้ามาของสมัยใช้กระสุนปลอกโลหะเป็นการส่งเสริม และยังผลให้การใช้ปืนแบบยิงซ้ำวิ่งล้ำรุดหน้าออกไปไกลจนเป็นที่ไว้ใจเชื่อแน่แก่ทุกคนในสหรัฐในสมัยนั้น
   ท่ามกลางเทือกเขาลำเนาไม้ ท่ามกลางเรไรและไก่ป่า จอห์น บราวนิง คิดค้นหลักการสร้างปืนประจุท้ายขึ้นได้ตั้งแต่ยังไม่พ้นวัย 14 และก็เมื่อก่อนวัย 20 จะสุดสิ้นก็ยังสามารถสร้างปืนขึ้นเองได้ด้วยฝีมือของเขาแท้ๆ เขาได้จดทะเบียน ขอสงวนแบบไว้ในปี ค.ศ. 1879 ปีซึ่งบิดาบังเกิดเกล้าของโจนาธานได้จากเขาไปอย่างสุดอาลัยไม่กลับมา
จอห์น บราวนิง และแมทท์น้องชายร่วมสายโลหิต    ได้ดำเนินกิจการสร้างปืนต่อจากบิดาพร้อมด้วยการสนับสนุนของ “เอ๊ด และ “แซม” เครือญาติห่างๆ ในนามของบริษัท The J.M.and M.S. Browning Company.
   แมทท์ และ จอห์นตัดสินใจมุ่งหมายสร้างปืนรวบรวมไว้ในคลังให้มากเสียก่อนจึงจะเริ่มดำเนินการขาย เขาทั้งสองตั้งใจทำการผลิตปืนให้ได้จำนวน 600 กระบอกก่อน และแล้วก็กระทำจริงดังนั้นได้ภายใน 3 ปี พอเริ่มขายก็มีชายหนุ่มผู้หนึ่งนามว่า Thomas Gray Bennett อุตส่าห์เดินทางจาก New Haven, Connecticut มาเยี่ยมเยียนพี่น้องทั้งสองจนถึงที่อาศัย ชายผู้มาใหม่มิใช่ใคร เขาคือบุคคลผู้หนึ่งในคณะกรรมการบริหารงานของโรงงานสร้างอาวุธ “วินเชสเตอร์” หนึ่งในบริษัทสร้างปืนใหญ่ๆ ทั้งหลายในอเมริกา

   


หัวข้อ: Re: แซมมวล โค้ลท์ & จอห์น เอ็ม. เบราว์นิ่งก์
เริ่มหัวข้อโดย: FABBRI ที่ กรกฎาคม 24, 2008, 08:46:40 PM
 

   ในประวัติมิได้กล่าวว่า “เบ็นเนทท์” มีความรู้สึกอย่างไรในขณะที่เขาได้เห็นปืนเหล่านี้ของ จอห์น ซึ่งเราพอจะคาดคะเนได้ในเมื่อพิจารณาถึงความจริงที่ว่าในกาลนั้นโรงงาน “วินเชสเตอร์” เองยังมิได้เคยผลิตปืนแบบนัดเดียวออกจำหน่ายเลยสักหนึ่งกระบอก ปืนแบบยิงซ้ำทั้งหลายซึ่งวินเชสเตอร์ผลิตออกจำหน่ายจนมีชื่อในขณะนั้นก็เป็นเพียงปืนขนาดเบาไม่สามารถปรับปรุงดัดแปลงแก้ไขให้ใช้กระสุนช่วงยาวซึ่งจุดินหนักเกิน 90 เกรนขึ้นไปได้ ซึ่งก็กำลังกล่าวกันว่าปืนของวินเชสเตอร์ มีอานุภาพไม่เทียบเท่าไรเฟิลของบริษัท Sharps ไม่เท่าของบริษัท Remington ไม่เท่าของ Ballard และของ Peabody-Martini Rifles ซึ่งปืนของบริษัทเหล่านี้สามารถสร้างขึ้นมาใช้กระสุนยาวจุดิน 120 เกรน ได้แล้วเพื่อการยิงเป้าที่ระยะไกลๆ ถึง 1,000 หลา อันเป็นเกมการกีฬาของชาวอเมริกันตะวันออก และเพื่อการล่าสัตว์ใหญ่ในอเมริกันตะวันตก แท้จริงวินเชสเตอร์กำลังต้องการสร้างปืนขนาดใหญ่ให้ได้เพื่อการแข่งขันตลาดในขณะนั้น
   หลักการสร้างปืน 600 กระบอกของบราวนิง มีลักษณะคล้ายคลึงกันกับไรเฟิลของ Sharps แต่กลับสวยงาม เรียบร้อยกว่า, แข็งแรงกว่า, มั่นเหมาะกว่า, นี่เองทำให้ “เบ็นเนทท์” ตกลงซื้อปืนทั้งหมดทีเดียวพร้อมทั้งขอซื้อทะเบียนแบบทันทีทันใดโดยให้ราคาอย่างงาม วินเชสเตอร์ได้ผลิตปืนนี้ออกจำหน่ายตีตลาดจากนั้นไปได้อีกถึง 35 ปี และกลับกลายเป็นบริษัทที่มีชื่อที่สุดในโลกในการผลิตปืนไรเฟิลแบบนัดเดียว ซึ่งไม่มีบริษัทใดจะทำลายประวัติการณ์ได้
   เพราะเหตุไร? จอห์น บราวนิงจึงรีบขายปืน 600 กระบอกนั้นพร้อมทั้งทะเบียนแบบไปทันทีทั้งๆ ที่ทราบดี “เบ็นเนทท์” ก็มาจากโรงงานวินเชสเตอร์ซึ่งก็เป็นโรงงานสร้างปืนโรงงานใหญ่มีชื่อเป็นที่ทราบกันทั่วไป ทำไมไม่คิดเฉลียวใจบ้างทีเดียวเชียวหรือว่าปืนของเขาจะมีอนาคตอันไกล (ปัจจุบัน เริ่มมีทำออกมาใหม่อีกครั้ง แต่ ทำในญี่ปุ่นครับ Fabbri)
   ในกรณีดังกล่างนี้ บราวนิงทราบได้ดีทีเดียว แต่บราวนิงถือว่าการขายไปได้ด้วยกำไรงามเป็นโชคดีที่สุด เพราะภายใต้ม้านั่งหลังร้านนั้นเขายังมีปืนอีกแบบหนึ่งซุกซ่อนอยู่ ซึ่งเป็นปืนแบบใหม่, ดีกว่า,สวยงามกว่าซึ่งเขากำลังคิดค้นประดิษฐ์ได้ และก็เป็นความจริงทีเดียวดังเขาคาดการไว้ ปืนนี้เป็นปืนยิงซ้ำแบบ “คานเหวี่ยง” มีรูปร่างลักษณะละม้ายคล้ายคลึงกันกับปืนคานเหวี่ยงของวินเชสเตอร์แบบ 1873 ทีเดียว! และปืนแบบซึ่งซ่อนอยู่ใต้ม้า (ไม่ใช่ใต้ตุ่มอย่างที่นิยมกัน) ก็เป็นปืนดีจริงๆ ซะด้วย
ไม่มีผู้ใดภายนอกทราบแน่ชัดว่าปืนใต้ม้านั่ง นั้น วินเชสเตอร์ตกลงซื้อไปในราคาเป็นมูลค่าเท่าไร? นักค้าปืนผู้ชำนาญหลายท่านคาดว่าคงไม่ต่ำกว่า 10,000 (หนึ่งหมื่นดอลล่าร์) แต่ตามที่กล่าวกันแล้ว, ถึงแม้ราคาจะสูงกว่านั้นอีกสัก 4 ถึง 5 เท่า วินเชสเตอร์ก็ยินดีซื้อ!
   วิเชสเตอร์ได้ผลิตปืนนี้ครั้งแรกในปี ค.ศ. 1885 และก็สามารถหากำไรต่อมาได้อย่างสบาย และจากนั้นอีกถึง 50 ปี วินเชสเตอร์ได้ดัดแปลงรูปร่างภายนอกใหม่ให้เป็นแบบ 71 แต่เครื่องกลไกภายในคงยังรักษาไว้คงเดิม เพราะได้ทดลองเห็นพ้องกันว่าเป็นหลักการสร้างซึ่งเรียบร้อยสมบูรณ์ดีแล้ว
   เบ็นเนทท์พอใจในปืนที่ซื้อไป 2 แบบมาก จนกระทั่งออกปากชักชวน จอห์น บราวนิงให้ไปร่วมงานกับวินเชสเตอร์ด้วยกัน แต่บราวนิงกลับปฏิเสธ เขาชอบความสงบทางใจใน Utah มากกว่า เพราะที่นั้นเขาพร้อมแล้วด้วยอะไรๆ หลายๆ สิ่งหลายๆ อย่าง ในตำบลนั้นเขาเป็นอิสระ ไม่มีใครผู้ใดกวนใจ จะทำการล่าสัตว์เมื่อใดเวลาใดก็ได้ มันเป็นบ้านเกิดเมืองนอนซึ่งให้ความเติบใหญ่และให้ทั้งความมั่งคั่ง นอกจากนั้นยังเป็นผืนดินแห่งเดียวที่บิดา, มารดา, น้องชายและตัวเขาเองได้ย่ำเหยียบย่างก้าวชมไพร ใช้ชีวิตร่วมกันมาอย่างงามสง่าสะดวกสบายในครั้งก่อน.
   แต่อย่างไรก็ตามในปี ค.ศ. 1917 โรงงาน “โคลท์” ก็ยังสามารถมัดเขาเข้าไปร่วมงานจนได้ในเมือง “ฮาร์ทฟอรด์” ในการผลิตปืนเพื่อใช้ในการสงครามแบบหนึ่งซึ่งทั่วโลกรู้จักดี ปืนนั้นได้แก่ปืน “บาร์” BAR. ไรเฟิลโอโตเมติค ซึ่งเริ่มใช้ในสงครามโลกครั้งที่ 1 และก็ใช้กันมากในสงครามโลกครั้งที่ 2 ที่แล้วมายังไม่ทราบว่าจะใช้ในสงครามโลกครั้งที่ 3 หรือไม่ แต่ก็อาจเป็นได้ ปืนนี้มีชื่อเต็มว่าอะไร? เราประชาชนไม่ต้องสนใจ เพราะไม่ใช่ปืนเพื่อการใช้ของเรา ข้าพเจ้าก็ขี้เกียจบอก อยากรู้ลองไปถามทางการทหารดูท่านคงได้คำตอบอย่างง่ายๆ ไม่ต้องเสียเงิน ไม่ต้องถามก็ได้อ่านแล้วคิดดูเอาเองก็คงเข้าใจได้ดีและตีความออก
   เมื่อย้อนกล่าวข้อความกลับไปใหม่ ตั้งแต่ปี ค.ศ.1880ในขณะที่กิจการ ในการค้าปืนของ บราวนิงยังคงดำรงอยู่ใน Utah นับแต่ปีนั้นต่อมาจอห์น มักจะไปในเมือง New Haven ปีละครั้งเสมอ และการไปทุกครั้งก็หมายความว่าเขาต้องไปเยี่ยมโรงงาน “วินเชสเตอร์” ทุกคราวและก็ไม่เป็นการแปลกประหลาดอันใดที่จะกล่าวว่า “วินเชสเตอร์” ได้ตกลงซื้อแบบปืนใหม่ๆ ที่เขาคิดขึ้นได้ทุกปีตลอดระยะเวลาต่อมาอีก 25 ปี จอห์น บราวนิง คิดแบบซึ่ง “วินเชสเตอร์” นำไปใช้ในการผลิตปืนโมเดลต่างๆ ถึง 11 แบบ และก็ยังทำการตกลงซื้อเป็นการกันท่าบริษัทอื่นไว้ แต่มิได้ใช้ในการผลิตถึงเกือบ 20 แบบ ถ้าท่านมีโอกาสไปชมโรงงานวินเชสเตอร์แล้วอย่าลืมเพื่อการศึกษา ท่านจงไปชมดูให้ได้เพราะในจำนวนเกือบ 20 แบบที่วินเชสเตอร์มิได้สร้างขึ้นนั้น มีหลายแบบที่ประณีตดีกว่าแบบต่างๆ ที่ได้ผลิตออกมาจำหน่ายเสียอีกด้วย
          มิใช่แต่ปืนไรเฟิลอย่างเดียวที่ จอห์นคิดสร้างให้แก่วินเชสเตอร์ เขาได้สร้างปืนลูกซองแบบคานเหวี่ยงซึ่งทางโรงงานก็ได้ผลิตขาย แล้วก็สร้างปืนลูกซองแบบโยนลำ Model 1893 ซึ่งภายหลังได้ยกเลิก, แล้วสร้าง Model 1897 ขึ้นมาแทนโดยฝีมือของบราวนิงเอง.
   ในระหว่างการคิดประดิษฐ์ปืนลูกซองแบบต่างๆ ดังกล่าวบราวนิงก็ยังคิดแบบไรเฟิลให้อีกเช่นแบบ 1892. แบบ 1894. ซึ่งใช้กระสุนแบบ 30-30 (Thirty-Thirty) และก็แบบ 1865. ปืนเหล่านี้เป็นแบบยิงซ้ำทั้งสิ้น มีปืนไรเฟิลแบบลูกเลื่อนแต่บรรจุได้ทีละนัดอยู่ 2-3 แบบที่บราวนิงได้ค้นคิด. ซึ่งทาง “วินเชสเตอร์” ได้ผลิตออกจำหน่ายเช่นกัน.
   ในเมื่อราวปีค.ศ. 1910 หรือ 1911 บราวนิงได้มาหาโรงงานวินเชสเตอร์อีกการมาหาครั้งนับได้ว่า เป็นการมาหาครั้งใหญ่ในประวัติศาตร์ด้านอาวุธปืน ซึ่งกลายเป็นแผลใหญ่เรื้อรังในดวงใจของชาวอเมริกันเรื่อยมาไม่มีวันจะเยียวยาให้หายได้จนชั่วกัลปวสานต์
   ในการมาครั้งนี้ จอห์นนำแบบปืนยาวลูกซองแบบกึ่งอัตโนมัติมาด้วย จอห์นได้ใช้ความพยายามอย่างยิ่ง และความชำนาญที่มีทั้งหมดพร้อมด้วยกำลังใจทั้งสิ้นทุ่มเทลงไปในการคิดสร้างปืนนี้
   ท่านผู้อ่านซึ่งยังไม่ทราบซึ้งในปืน ก็ย่อมจะไม่ซึมซาบถึงความยากในการคิดค้นแต่ประการใด และถ้าข้าพเจ้าจะบอกว่าเป็นการยากจริงๆ ท่านก็จะหาว่าข้าพเจ้าอวดตัวคุยเก่งเบ่งว่ารู้ดี
   กระสุนลูกซองในโลกมีมากมายหลายอย่างแรกผลิตออกมาจากต่างๆ โรงงาน ดังนั้นจึงไม่เป็นการแปลกประการใดที่กล่าวว่าการแตกต่างในกำลังขับของดินมีมากมายหลายชั้นหลายแบบ การแตกต่างนี้เองเป็นการยากที่จะให้ปืนกระบอกใดปฏิบัติงานให้เรียบร้อยดีได้โดยใช้กระสุน ไม่ว่าจะเป็นผลิตภัณฑ์ของโรงงานใดๆ ก็ได้ผลดีทั้งนั้น.
บราวนิง ได้ใช้สมองของเขาแก้ปัญหานี้ตกไปได้อย่างฉลาดด้วยการอาศัยอุปกรณ์หักร้างความแตกต่างในกำลังขับดิน (a friction shock Absorber) ซึ่งสามารถปรับได้ทันใดเพื่อให้ปืนนั้นเหมาะสมกับสภาพในกำลังขับของกระสุนที่จะนำมาใช้ยิงกับปืนนั้น.
      เขานำปืนไปให้ “วินเชสเตอร์” พิจารณาดูและกล่าวว่าปืนกระบอกนี้แบบนี้เขาได้คิดประดิษฐ์สร้างขึ้นมาด้วยความยากลำบากแสนเข็ญ ดังนั้นจึงไม่อยากจะขายสิทธิ์ปืนอย่างเด็ดขาดตัดตอนเหมือนอย่างก่อนๆ เขาต้องการข้อสัญญาเป็นเพียงให้เช่าแบบเพื่อผลิต (A Royalty) โดยทางบริษัทคิดปันผลให้เป็นรายกระบอกแล้วแต่จะพิจารณาเห็นสมควร
   ในขณะนั้น “เบ็นเนทท์” เองก็เป็นคนสำคัญในบริษัทวินเชสเตอร์และก็เป็นผู้มีอำนาจสิทธิ์ขาดในการตัดสินปัญหานี้ด้วย เพราะเขาเองก็เปรียบเหมือนผู้สร้างกำลังทุนให้แก่บริษัท เนื่องจากผู้จัดการติดต่อนำแบบการสร้างของบราวนิงมาใช้ในการผลิตอาวุธ
   แต่คำตอบที่ได้คือการปฏิเสธข้อตกลงโดยสิ้นเชิงโดยมิได้เห็นแก่หน้าว่าเป็นเพื่อนใกล้ชิดสนิทกันมานาน และโดยมิได้คำนึงถึงข้อเสียหายซึ่งจะเป็นการอับอายแก่ชนอเมริกันเองไปตลอดกาล เพราะการเห็นแก่ตัวของ “เบ็นเนทท์” เองแท้ๆ จึงสร้างบาดแผลเรื้อรังไว้ไม่สามารถจะรักษาให้หาย
   เมื่อได้รับการปฏิเสธจากวินเชสเตอร์ บราวนิงก็หันหน้าไปหาโรงงานผลิตอาวุธแห่งใหม่ แต่ก็เป็นคราวเคราะห์ร้ายที่เจ้าของโรงงานนั้นเกิดตายเสียอย่างกระทันหัน “เมื่อคืนนี้เอง”
               เดือน ก.พ. 1902 บราวนิงลงเรือมุ่งไปยังเบลเยี่ยมทันที และก็เสนอให้เช่าแบบการสร้างนี้แก่บริษัท The Fabrique Nationale D, Aams de Guerre.  และ เซ็นสัญญา วันที่ 24 มีนา 1902 พร้อม คำสั่งซื้อ 10000 กระบอก
       แน่นอนทีเดียว ชาวเบลเยี่ยมรู้จักเขาดี เพราะในขณะนั้นก็ได้ผลิตปืนพกโอโตเมติคของเขาขายปีละเป็นพันๆ กระบอกอยู่แล้ว จึงรีบรับไว้และช่วยจดทะเบียนแบบให้ในต่างประเทศทั่วโลก ยกเว้นในประเทศอเมริกาแต่เพียงประเทศเดียว
   ท่านผู้อ่านคงแปลกใจว่าทำไมโรงงานเบลเยี่ยมจึงได้ผลิตปืนพกโอโตเมติคของบราวนิงอยู่ก่อนแล้ว ก่อนที่เขาจะนำแบบปืนลูกซองไปให้
   เรื่องมีอยู่ว่า ตลอดระยะเวลาตั้งแต่ปีค.ศ. 1880 มา จอห์น บราวนิงมิได้คิดออกแบบปืนได้เพียงปีละกระบอกเดียวเพื่อขายแก่โรงงานวินเชสเตอร์เท่านั้น เขาคิดได้ปีละหลายๆ แบบ รวมทั้งปืนลูกซอง, ปืนไรเฟิล, ปืนพกและปืนกลด้วย เขาได้นำแบบปืนพกไปให้โรงงานวินเชสเตอร์ด้วยเหมือนกัน แต่ในขณะนั้นทางโรงงานก็ไม่ได้สนใจ เพราะประชาชนในอเมริกามิได้สนใจในการใช้ปืนพกโอโตเมติค ชาวอเมริกานิยมใช้แต่ปืนพกลูกโม่อย่างเดียว เขาจึงได้ขายแบบปืนพกโอโตเมติกให้แก่โรงงานเบลเยี่ยมดังกล่าว
   นอกจากโรงงานในเบลเยี่ยม และโรงงานวินเชสเตอร์ จอห์น ยังสามารถออกแบบขายให้แก่โรงงาน “เรมิงตัน” และโรงงาน “สตีเวน” อีก แต่ชื่อเสียงเขามิได้กึกก้องในอเมริกาเลย เพราะว่าโรงงานในอเมริกันมิได้ใช้ชื่อปืนเหมือนอย่างทางโรงงานเบลเยี่ยม
   จอห์น บราวนิง มิได้มีความสามารถแต่เพียงคิดประดิษฐ์ปืนแบบต่างๆ เพื่อการใช้งานในด้านประชาชนแต่อย่างเดียว ยังสามารถออกแบบปืนขนาดต่างๆ ขายให้รัฐบาลเพื่อการใช้ในการสงครามอีกด้วย
   วันหนึ่งในปี ค.ศ. 1892 ภายหลังที่จอห์นกลับจากการทำนิติกรรมให้เช่าแบบกับโรงงานเบลเยี่ยมแล้ว ก็ออกทำการล่าสัตว์ซึ่งเป็นกีฬาที่ชอบมากเช่นเคย ในบริเวณทุ่งหญ้าใกล้ทะเลสาบในตำบลบ้านที่อยู่ ในขณะยิงปืนเขาสังเกตเห็นย่อมหญ้าบริเวณหน้าลำกล้องเอนโอนโยนปลายลู่ไปตามกำลังของแก๊ส ปฏิกิริยาอย่างนี้มิใช่แต่เพียงเขาเท่านั้นที่ได้พบเห็น นักยิงปืนทุกคนก่อนนั้นและรุ่นราวคราวเดียวกับเขานั้นก็ได้เห็นกันทุกคน แต่ไม่มีใครได้คิดสะกิดใจ และเขาเองก็ได้เห็นแล้วหลายหนแต่ก็เป็นเพียงครั้งนี้ที่เขาได้ความคิดอันเป็นปัจจัยสำคัญในการเปลี่ยนประวัติอาวุธปืน
   แน่นอน จอห์นรีบกลับบ้านทันที เพราะทุกลมหายใจเขาใช้ความคิดไปแต่ในทางการออกแบบสร้างปืน เขาคิดๆ แต่การสร้างปืนเท่านั้น เพราะนั่นเป็นสิ่งที่เขาชอบที่สุด. เป็นสิ่งที่เขารักที่สุด ในขณะที่เขากำลังคิดสร้างปืน เป็นขณะที่คล้ายกับว่าเขาได้อยู่ใกล้ชิดท่านบิดาบังเกิดเกล้าผู้เป็นสุดที่รัก ซึ่งได้จากเขาไปแล้วอย่างใกล้เคียงที่สุดกว่าเวลาใดๆ ในขณะอื่นๆ
   เย็นนั้นเขานำแผ่นเหล็กชิ้นหนึ่งมาเจาะรูมีความกว้างโตพอดีที่กระสุนจะวิ่งลอดผ่านไปได้อย่างสบาย เสร็จแล้วก็วางแผ่นเหล็กนี้ไว้หน้าลำกล้องปืน จนรูในแผ่นเหล็กได้ระดับดีกับรูของลำกล้อง และแล้วก็ยิงปืนปล่อยกระสุนออกไป กระสุนวิ่งผ่านลอดรูไปได้โดยมิได้กระทบกับแผ่นเหล็ก แต่นี่มิใช่สิ่งซึ่งเขาพอใจ สิ่งซึ่งทำให้ดีใจปลื้มใจที่สุดดุจสวรรค์บันดาลก็ได้แก่ ปรากฏว่าแผ่นเหล็กนั้นพลอยลอยตามกระสุนไปด้วย โดยกำลังของแก๊ส
   บราวนิงมิทราบว่า แก๊สที่พุ่งไปกระทบแผ่นเหล็ก มีรูปร่าง ขนาดและอาณาเขตกว้างใหญ่เป็นเช่นประการใด เพราะไม่สามารถจะมองเห็นหรือวัดได้ด้วยสายตา ซึ่งเขาก็มิได้นึกคิดเห็นเป็นสำคัญที่จะใช้ความกว้างใหญ่ของแก๊สนั้นเพื่ออะไรกัน ความต้องการของเขามีจุดหมายแต่เพียงจะเก็บพลังงานที่สูญหายไปไว้ให้กลับคืนมาเพื่อใช้ให้เป็นประโยชน์
   ในขั้นแรก เขาสร้างหลอดดักแก๊สขึ้นอันหนึ่งสวมไว้ที่ปลายลำกล้องแล้วต่อคานอันหนึ่งจากหลอดนี้ไปยังเครื่องกลไกของปืน ด้วยการทดลองอย่างนี้ เขาก็ได้ค้นพบวิธีประดิษฐ์ปืนกึ่งอัตโนมัติซึ่งอาศัยการปฏิบัติงานของแก๊สได้ ในที่สุดเขาก็ตัดสินใจใช้การเจาะรูลำกล้องเข้าไปและประดิษฐ์ลูกสูบขึ้นใช้ดังที่เราได้เห็นกันแพร่หลายในปืนแบบใช้แก๊สต่างๆ ดังกล่าว นี่เป็นหลักการซึ่งคิดได้โดย จอห์น บราวนิง และได้ยึดถือปฏิบัติกันอย่างแพร่หลายทั่วไป
   ด้วยหลักการนี้ ในขั้นแรก จอห์น ก็ได้ขายแบบให้แก่โรงงาน “โคลท์” ใช้ในการสร้างปืนกลให้แก่รัฐบาลสหรัฐฯใช้ในการทำสงครามกับสเปน ที่กล่าวนี้เป็นประโยชน์ขั้นแรกอันยิ่งใหญ่ที่เขาได้สร้างไว้เป็นประเดิมเริ่มแรกในสมัยต้นๆ ทีเดียว
   หลังจากนี้มาอีก 2-3 ปี จอห์นได้คิดประดิษฐ์หลักการใช้แรงสะท้อนถอยหลังสำหรับปืนกล ซึ่งโรงงาน “โคลท์” ใช้สร้างให้กองทัพสหรัฐฯ และโรงงานเบลเยี่ยมก็สร้างให้รัฐบาลเบลเยี่ยมด้วยการปรับปรุงเปลี่ยนแปลงปืนนี้ขึ้นอีกเล็กน้อย ก็สามารถนำไปใช้ในสงครามโลกครั้งที่ 1 และจากการดัดแปลงปรับปรุงใหม่อีกครั้ง ปืนแบบนี้ก็เป็นกำลังสำคัญของหลายประเทศแบบหนึ่งซึ่งใช้ฝ่าฟันหมอกควันของสงครามครั้งที่ 2 จนลุล่วงตลอดไป
ภายหลังสงครามโลกครั้งที่1 ได้สงบลง คณะกรรมการสรรพาวุธของสหรัฐฯ ได้เชิญจอห์น บราวนิง  มาปรึกษาพร้อมทั้งให้พิจารณาปืนต่อสู้รถถังแบบยิงทีละนัดขนาด .50 ซึ่งยึดได้จากเยอรมันกระบอกหนึ่ง คณะกรรมการได้ถาม จอห์น ว่าจะสามารถสร้างปืนขนาดนี้ให้เป็นปืนกลได้หรือไม่ จอห์น รับรองว่าได้. และเขาก็ได้กระทำสำเร็จดังคำพูด ปืนกลแบบ .50  ที่บราวนิงประดิษฐ์ขึ้นใช้กระสุนซึ่งมีน้ำหนักเปรียบเทียบได้ 5 เท่าของน้ำหนักหัวกระสุนของปืนไรเฟิลขนาด .30 ซึ่งใช้ในกองทัพทหารราบ ปัจจุบันเป็นกระสุนที่มีความเร็วและมีอานุภาพอย่างพิสดารซึ่งก็ปกปิดเป็นความลับอย่างมิดชิดไม่ยอมเปิดเผยกัน. แต่รถเกราะในสมัยใหม่ก็แข็งแรงเกินไปกว่าประสิทธิภาพของปืนนี้จะทำลายได้ แต่ถึงอย่างไรปืนก็ยังเหมาะกับการใช้เจาะเกราะของเรือบินได้อย่างดี จึงได้นำปืนนี้ขึ้นมาใช้ในอากาศเป็นอาวุธประจำเครื่องบินของฝ่ายอเมริกาและอังกฤษตลอดสงครามโลกครั้งที่ 2 ความว่องไวในการปฏิบัติงานของปืนสามารถใช้ยิงได้ถึง 500 นัดต่อ 1 นาที ซึ่งก็เหมาะดีกับการใช้ในกองทัพบก แต่ในด้านการใช้งานบนอากาศซึ่งต้องใช้ยิงเป็นเคลื่อนที่ไปในอัตราความเร็วสูงจึงจำเป็นต้องดัดแปลงปรับปรุงใหม่ให้ใช้ยิงได้เป็นจำนวนมากขึ้นไปอีก จึงได้จัดการแก้ไขเปลี่ยนแปลงขึ้นใหม่จนใช้ยิงได้ถึง 1,450 นัดต่อ 1 นาที
   ปืนพกโอโตเมติกกระบอกแรกที่ จอห์นคิดได้และขายให้แก่ บริษัท เบลเยี่ยมไป ประมาณได้ในปี ค.ศ. 1897 ทางโรงงานได้ผลิตปืนแบบนี้ขึ้นเป็นปืนประจำกระเป๋าขนาด .25 (6.35 ม.ม.)(น่าจะเป็นขนาด 7.65x15.5 SR  BRW   Fabbri) และได้ทำการจำหน่ายใจตลาดทั่วไปในปี ค.ศ. 1900 และจากนั้นก็ได้สร้างปืนขนาด 9 ม.ม. โอโตเมติกโดยอาศัยแบบของเขาอีกในปี ค.ศ. 1907 เมื่อบริษัทนี้ได้ผลิตปืนขนาด 9 ม.ม. ดังกล่าวได้ถึงจำนวนที่ 1 ล้านกระบอก ซึ่งเป็นเวลาก่อนหน้าสงครามโลกครั้งที่ 1 เพียงเล็กน้อย ( ปี 1899-1906 ขายได้ 250000กระบอก  500000 กระบอกในปี 1908 และ 1000000 กระบอก เมื่อปี 1912 Fabbri) พระเจ้า Albert แห่งกรุงเบลเยี่ยมก็ประทานราชทินนามให้จอห์นว่า Chevalier de I, Ordre de Leopold (ข้าพเจ้าเองอ่านไม่ได้และก็แปลไม่ถูก)
   ในขณะนั้นโรงงาน “โคลท์” ก็ลงมือสร้างปืนพกจากแบบของบราวนิงเช่นกัน และกองทัพอเมริกาก็ได้สร้างปืนพกขนาด 11 ม.ม. ขึ้นเป็นปืนสงคราม โดยอาศัยแบบของบราวนิงอีก ปืนขนาด 11 ม.ม. ที่กล่าวนี้ก็คือปืนพกที่กองทัพบกของไทยใช้อยู่ประจำในปัจจุบัน ทุกคนทราบดี (ไม่เป็นความลับ) เป็นหลักการสร้างจากสมองของบราวนิงด้วย
   ทำไมจอห์น บราวนิง สมองของบราวนิง จึงสุขุมมาก เป็นอย่างนี้? นี่เป็นสิ่งแปลกที่สุด แต่ข้าพเจ้ากำลังจะบอกกับท่านว่ายังมีความจริงที่แปลกประหลาดยิ่งไปกว่านั้น ท่านทราบไหมว่าอะไร?
   ท่านที่รัก ตัวของบราวนิงเองไม่มีฝีมือในการเขียนแบบเลย เขาเขียนอย่างคนธรรมดาที่ไม่มีการศึกษาในการเขียนแบบได้เท่านั้น และเขาก็ไม่ชอบเขียนมากนัก ปืนทุกอย่างทุกกระบอกที่เขาคิดประดิษฐ์ขึ้นมาได้ไม่เคยอาศัย การเขียนร่างเป็นแบบมาก่อน ซึ่งนับว่าเป็นสิ่งที่นักออกแบบทั้งหลายแทบจะไม่คิดเชื่อเลยว่าจะเป็นไปได้ แต่ก็เป็นไปแล้ว เกิดขึ้นแล้วโดยจริง โดยวิธีของจอห์น บราวนิงที่ใช้มา!
   แต่ครั้งก่อน ในสมัยที่ยังไม่มีชื่อเสียงรุ่งเรืองเลื่องลือเป็นที่รู้ทั่วไปซึ่งเมื่อเปรียบกับคนไทยก็อาจกล่าวได้ว่า ในสมัยที่เขายังเป็นเพียงชั้น “นายจอห์น” หรือตามที่พรรคพวกเพื่อนฝูงมักนิยมเรียกกันว่า “……จอห์น” อยู่ การสร้างปืนของเขาได้สำเร็จลุล่วงไปด้วยแรงงานของ “เอ๊ด” ลูกพี่ลูกน้องห่างๆ   จอห์น และเอ๊ด บราวนิงสร้างปืนขึ้นมาได้โดยไม่ต้องคำนึงถึงว่าปืนที่สร้างขึ้นมานั้นจะเป็นแบบอะไรๆ ก็ไม่แปลก เมื่อเขาต้องการเหล็กสักชิ้นสักแผ่น หรือสปริงสักตัว เขาก็เที่ยวเดินหาไปตามซากรถเก่าๆ ตามบ้านเก่าๆ ที่ผุพังตกค้างเหลือทิ้งไว้ หมุดที่เขาใช้ทำปืนก็คือตะปูตอกพื้นบ้านเป็นส่วนใหญ่ ตะปูเพียงตัวเดียวก็ใช้ทำหมุดได้หลายอัน ต้องการหมุดใหญ่ก็ใช้ตะปูตัวใหญ่ อยากได้หมุดเล็กก็ใช้ตะปูตัวเล็ก ถ้าต้องการหมุดขนาดเล็กลงไปอีกก็ใช้ตะไบกล่อมเกลาลงไปให้ได้ขนาด จอห์นสร้างปืนขึ้นมาในทางปฏิบัติทั้งสิ้น
   ในขณะที่จอห์นกำลังทำงานกับบริษัท “โคลท์” เขาก็รู้สึกสบายขึ้นกว่าอยู่บ้าน เพราะโคลท์มอบห้องทดลองรวมทั้งเศษเหล็กและเครื่องมือต่างๆ ให้เขาทั้งหมดเลยโดยเฉพาะ ซึ่งเขาไม่ต้องเหนื่อยหรือเสียเวลาเที่ยวเดินหาเศษเหล็กตามถนนหรือที่ใดๆ ให้ลำบากต่อไป
   เมื่อในขณะที่อยู่ในห้องทดลองของ “โคลท์” บราวนิง ชอบใช้กรรไกร ดินสอ กระดาษแข็งและเข็มหมุดมาก เมื่อสมองเขาคิดเครื่องกลไกอันใดได้ชิ้นหนึ่งเขาก็เขียนรูปร่างลักษณะของวัตถุชิ้นนั้นลงบนกระดาษแข็ง แล้วตัดออกมาด้วยกรรไกรตามรอยร่างที่เขียนไว้ แล้วใช้เข็มหมุดปักลงบนตรงบริเวณที่คิดว่าควรจะเป็นจุดแกนแห่งการหมุนของเครื่องกลไกนั้นแล้วก็นั่งหมุนไปหมุนมาสังเกตปฏิกิริยาที่เกิดขึ้นต่อไป และในขณะนั้นก็ดูเหมือนว่า เขากำลังนึกวาดภาพว่ากลไกชิ้นต่อไปว่าควรมีรูปร่างลักษณะอย่างไร? และจะรับช่วงกำลังต่อเนื่องกันประสานกันได้อย่างไร? ….ฯลฯ
   เขามักจะมีกรรไกรสองอันติดตัวประจำกระเป๋าเสมอหรืออาจจะกล่าวกันได้ว่าเขาสร้างปืนด้วยกรรไกรนั้นเอง เมื่อเขานึกพอใจในรูปร่างของชิ้นกลไกในมโนภาพของเขาแล้ว เขาก็หยิบมันขึ้นมาตัดกระดาษและนำชิ้นกระดาษไปให้ช่างเหล็กของโรงงานประดิษฐ์ขึ้นเป็นชิ้นกลไกจริงๆ ที่ต้องการ เขาใช้หัวแม่มือและนิ้วชี้ของเขาบอกขนาดหนา บาง กว้าง ใหญ่ ของชิ้นกลไกที่ปรารถนา
   นายช่างมักบอกกับเขาเสมอว่า “เดี๋ยวก่อนจอห์น จะเอาหนาเท่าไรขอให้วัดดูก่อน”  แล้วนายช่างก็จะใช้เครื่องมือวัดความกว้างซึ่งเป็นความถี่ห่างที่หัวแม่มือและนิ้วชี้ของเขาบอกไว้แล้วก็อ่านออกเป็นเช่น “7/8 นิ้ว, โอเค, จอห์นเดี๋ยวมาเอาไป!”
   เมื่อได้ส่วนประกอบครบ และประกอบเป็นปืนหยาบๆ ขึ้นได้แล้ว จอห์นก็จะนำปืนนั้นไปทดลองยิง การยิงของเขาก็กระทำเพียงนัดเดียวก่อน แล้วก็ถอดปืนออกมาดูส่วนต่างๆ ใหม่ สังเกตจาการเสียดสีของเครื่องกลไก ทุกชิ้นทั้งหลายจนละเอียดแล้วจึงตัดสินใจว่าส่วนไหนควรจะชุบให้อ่อนให้แก่แข็งมากน้อยเพียงไร เมื่อทำการปรับปรุงใหม่ได้ตามความปรารถนา เขาก็ประกอบปืนขึ้นใหม่อีกแล้วก็เอาไปยิง ยิง ยิง เรื่อยไปจนเขาพอใจถ้ายังไม่ดีก็ถอดออกดูดัดแปลงใหม่ เขากระทำดังนี้เรื่อยๆ ไปนี่คือวิธีการคิดค้นสร้างปืนของ จอห์น บราวนิง อย่างแท้จริง ซึ่งเย้ยช่างเขียนแบบให้ได้อาย
   การขายแบบของจอห์นก็คือการขายปืนกระบอกนั้นที่เขาทำขึ้นมานั่นเอง มิใช่เป็นการขายแผ่นกระดาษแบบแปลนที่ได้เขียนรอยจารึกลายเส้นไว้ดังได้กระทำกันในสมัยนี้
   บางครั้งเขาคิดไม่ออก เขาใช้ฝ่ามือตบศีรษะของเขาเองแล้วก็หยุดทำงาน ออกไปเที่ยวเดินยิงนก-ตกปลา-ตามความพอใจสัก 3-4 วัน แล้วกลับมานั่งหมุนกระดาษใหม่
   เขามีนิสัยไม่ชอบพูดกับผู้ใดในเรื่องอะไร แต่ถ้าพูดถึงเรื่องปืนแล้วเขากลับชอบใจ มักจะคุยได้ดีและนานมากกว่าใครๆ ( ไม่ใช่แต่ บราวนิง นักออกแบบและช่างทำปืน หลายๆ คนที่รู้จักก็มีนิสัยแบบนี้  Fabbri)
   จอห์น บราวนิง จากไปแล้วเมื่อ แปดสิบปีก่อนโน้น ( ด้วยโรค หัวใจ ในห้องที่ทำงาน ที่รายล้อม ด้วย แบบและชิ้นส่วนอะไหล่ปืน ที่เขาทำขึ้นมา เมื่อปี 1926 ด้วยอายุ 71 ปี 1855-1926 ) เขาสูดกลิ่นไอจากโลกครั้งสุดท้ายที่เมือง “ลีเอจ” แห่งเบลเยี่ยมแต่ปืนของเขายังอยู่ ชื่อของเขาก็ยังอยู่ เหล่านี้ช่วยให้ข้าพเจ้าหาเงินจากการเขียนหนังสือเกี่ยวกับเรื่องปืนผาหน้าไม้ได้มาจนบัดนี้



หัวข้อ: Re: แซมมวล โค้ลท์ & จอห์น เอ็ม. เบราว์นิ่งก์
เริ่มหัวข้อโดย: plo-รักในหลวง ที่ กรกฎาคม 24, 2008, 09:11:15 PM
 ::014::  ขอบคุณครับที่หามาให้อ่าน


หัวข้อ: Re: แซมมวล โค้ลท์ & จอห์น เอ็ม. เบราว์นิ่งก์
เริ่มหัวข้อโดย: ญาติระอา ที่ กรกฎาคม 25, 2008, 07:48:30 AM
ต้องขอขอบคุณเพือนสมาชิกเป็นอย่างสูงครับ
ที่ทำให้เกิดความรู้ที่เพิ่มขึ้นอย่างมากมาย
และทำให้ความคิดที่ว่าเราถูกต้องนั้น  เปลียนแปลงไปโดยสิ้นเชิง ::014:: ::014::


หัวข้อ: Re: แซมมวล โค้ลท์ & จอห์น เอ็ม. เบราว์นิ่งก์
เริ่มหัวข้อโดย: .Nok. ที่ กรกฎาคม 25, 2008, 08:51:06 AM
ยอดเยี่ยมจริงๆ ::002::


หัวข้อ: Re: แซมมวล โค้ลท์ & จอห์น เอ็ม. เบราว์นิ่งก์
เริ่มหัวข้อโดย: ญาติระอา ที่ กรกฎาคม 25, 2008, 08:55:46 AM
ผมนั่งอ่านบทความที่ท่าน FABBRI นำมาลงให้เราได้อ่านกัน  อยู่ 2 รอบ
แล้วมีความรู้สึกว่า  โลกได้สร้างให้  เบราว์นิ่งก์  เกิดมาเพื่อสิ่งนี้จริง ๆ  :~)


หัวข้อ: Re: แซมมวล โค้ลท์ & จอห์น เอ็ม. เบราว์นิ่งก์
เริ่มหัวข้อโดย: Daimyo ที่ กรกฎาคม 25, 2008, 09:26:13 AM
ขอบคุณท่านFabbriมากๆครับ...เนื้อหาข้อมูลมีเกร็ดเบื้องหน้า-หลัง....

สุดยอด...


หัวข้อ: Re: แซมมวล โค้ลท์ & จอห์น เอ็ม. เบราว์นิ่งก์
เริ่มหัวข้อโดย: vinchy ที่ กรกฎาคม 25, 2008, 09:41:54 AM
            ขอบคุณครับ ได้ความรู้มากเลยครับ


หัวข้อ: Re: แซมมวล โค้ลท์ & จอห์น เอ็ม. เบราว์นิ่งก์
เริ่มหัวข้อโดย: RSIA01 - รักในหลวง ที่ กรกฎาคม 25, 2008, 12:55:45 PM
ขอบคุณครับสำหรับความรู้