เว็บบอร์ดสนทนาภาษาปืน

สนทนาภาษาปืน => หลังแนวยิง => ข้อความที่เริ่มโดย: Udomkd ที่ สิงหาคม 26, 2008, 08:45:12 AM



หัวข้อ: ใบสั่ง...
เริ่มหัวข้อโดย: Udomkd ที่ สิงหาคม 26, 2008, 08:45:12 AM
ในที่นี้...คือใบสั่งจราจร...เราจะได้รับมาเมื่อเรากระทำความผิด พรบ. การจราจร

ทราบหรือไม่ว่า การที่จะได้ใบสั่งมา มีความผิด พรบ.การจราจรใดบ้าง ที่มีบัญญัติ อยู่ในตัวใบสั่งของเจ้าพนักงานจราจร

มีหัวข้อที่กำหนดใว้หลักๆอยู่ 4 ข้อกล่าวคืิอ

กระทำผิดฐาน

-.ขับรถ

-.หยุดรถ

-.จอดรถใว้

-.อื่นๆ...........................
.
มีแยกย่อย เขียนใว้กับหัวข้อด้วย

"ขับรถ"

1.ขับรถ ฝ่าฝืนสัญญาณไฟจราจรสีแดง
2.ขับรถ ฝ่าฝืนเครื่องหมายบนพื้นที่
3.ขับรถ ในลักษณะกีดขวางการจราจร
4.ขับรถ ไม่ใกล้ขอบทางด้านซ้าย
5.ขับรถ แซงเมื่อเข้าที่คับขัน

"หยุดรถ"

-หยุดรถ ในลักษณะกีดขวางการจราจร
-หยุดรถ ในเขตห้ามหยุด
-หยุดรถ รอสัญญาณล้ำแนว

"จอดรถใว้"

-จอดรถใว้ ในลักษณะกีดขวางการจราจร
-จอดรถใว้ บนทางเท้า
-จอดรถใว้ ในเขตห้ามจอด.......
-จอดรถไม่ชิดขอบทางด้านซ้าย
-จอดรถใว้ ไม่ชิดขอบทางด้านซ้าย
-จอดรถใว้ ไม่ขนานชิดขอบทาง
-จอดรถใว้ ซ้อนคัน

"อื่น".............................

(ใอ้ข้อิื่นๆนี่ ไม่ทราบว่า อื่นๆอะไร เพราะไม่เห็นมีรายละเอียด)



นี่คือ ฐานกระทำผิดที่แสดงใว้ ว่าหากกระทำผิดตามนี้ ก็คือผิดกฏหมายจราจร ต้องเสียค่าปรับ ตามที่แสดง มันยังมีข้ออื่นๆอีก แต่ไม่นำมากล่าว เอาแค่ส่วนชี้แสดงความผิด มากล่าว

"เรา"(คนขับรถทั้งหลาย) หากหลีกเลี่ยง หรือไม่กระทำในข้อห้ามที่กล่าวมานี้ เราก็จะไม่โดนใบสั่ง ให้ไปเสียค่าปรับ การจราจรบนท้องถนน ก็จะสามารถจราจรกันได้ดี ทุกฝ่าย

"เจ้าหน้าที่ ผู้บังคับใช้กฏหมาย" หากปฏิบัติหน้าที่ได้เสมอภาคกัน และหรือปฏิบัติหน้าที่ได้ตามกฏข้อกำหนด ก็จะเกิดผลดี ทุกฝ่าย การจราจร ก็จะมีผลดีไปด้วย

"ท่าน" เคยทำผิด เข้าข่ายข้อใหนบ้างครับ

ผมทำผิด ฐาน "จอดรถใว้ ในเขตห้ามจอด(ขาวเหลือง)" มาเมื่อวาน โดนใบสั่ง ซ๊ะ ::004::


หัวข้อ: Re: ใบสั่ง...
เริ่มหัวข้อโดย: จอยฮันเตอร์ ที่ สิงหาคม 26, 2008, 09:09:11 AM
ในที่นี้...คือใบสั่งจราจร...เราจะได้รับมาเมื่อเรากระทำความผิด พรบ. การจราจร

ทราบหรือไม่ว่า การที่จะได้ใบสั่งมา มีความผิด พรบ.การจราจรใดบ้าง ที่มีบัญญัติ อยู่ในตัวใบสั่งของเจ้าพนักงานจราจร

มีหัวข้อที่กำหนดใว้หลักๆอยู่ 4 ข้อกล่าวคืิอ

กระทำผิดฐาน

-.ขับรถ

-.หยุดรถ

-.จอดรถใว้

-.อื่นๆ...........................
.
มีแยกย่อย เขียนใว้กับหัวข้อด้วย

"ขับรถ"

1.ขับรถ ฝ่าฝืนสัญญาณไฟจราจรสีแดง
2.ขับรถ ฝ่าฝืนเครื่องหมายบนพื้นที่
3.ขับรถ ในลักษณะกีดขวางการจราจร
4.ขับรถ ไม่ใกล้ขอบทางด้านซ้าย
5.ขับรถ แซงเมื่อเข้าที่คับขัน

"หยุดรถ"

-หยุดรถ ในลักษณะกีดขวางการจราจร
-หยุดรถ ในเขตห้ามหยุด
-หยุดรถ รอสัญญาณล้ำแนว

"จอดรถใว้"

-จอดรถใว้ ในลักษณะกีดขวางการจราจร
-จอดรถใว้ บนทางเท้า
-จอดรถใว้ ในเขตห้ามจอด.......
-จอดรถไม่ชิดขอบทางด้านซ้าย
-จอดรถใว้ ไม่ชิดขอบทางด้านซ้าย
-จอดรถใว้ ไม่ขนานชิดขอบทาง
-จอดรถใว้ ซ้อนคัน

"อื่น".............................

(ใอ้ข้อิื่นๆนี่ ไม่ทราบว่า อื่นๆอะไร เพราะไม่เห็นมีรายละเอียด)



นี่คือ ฐานกระทำผิดที่แสดงใว้ ว่าหากกระทำผิดตามนี้ ก็คือผิดกฏหมายจราจร ต้องเสียค่าปรับ ตามที่แสดง มันยังมีข้ออื่นๆอีก แต่ไม่นำมากล่าว เอาแค่ส่วนชี้แสดงความผิด มากล่าว

"เรา"(คนขับรถทั้งหลาย) หากหลีกเลี่ยง หรือไม่กระทำในข้อห้ามที่กล่าวมานี้ เราก็จะไม่โดนใบสั่ง ให้ไปเสียค่าปรับ การจราจรบนท้องถนน ก็จะสามารถจราจรกันได้ดี ทุกฝ่าย

"เจ้าหน้าที่ ผู้บังคับใช้กฏหมาย" หากปฏิบัติหน้าที่ได้เสมอภาคกัน และหรือปฏิบัติหน้าที่ได้ตามกฏข้อกำหนด ก็จะเกิดผลดี ทุกฝ่าย การจราจร ก็จะมีผลดีไปด้วย

"ท่าน" เคยทำผิด เข้าข่ายข้อใหนบ้างครับ

ผมทำผิด ฐาน "จอดรถใว้ ในเขตห้ามจอด(ขาวเหลือง)" มาเมื่อวาน โดนใบสั่ง ซ๊ะ ::004::

นึกแล้ว ;D ผมส่วนมากในเมืองไม่โดน จะโดนก็แต่ทางหลวง ;D


หัวข้อ: Re: ใบสั่ง...
เริ่มหัวข้อโดย: เอก@ดอยฯ ที่ สิงหาคม 26, 2008, 09:12:29 AM
ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของเจ้าพนักงาน  ;) วันก่อนดูกบนอกกลา เขาว่ามาอย่างนั้นครับ  ;D


หัวข้อ: Re: ใบสั่ง...
เริ่มหัวข้อโดย: Udomkd ที่ สิงหาคม 26, 2008, 09:14:31 AM
ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของเจ้าพนักงาน  ;) วันก่อนดูกบนอกกลา เขาว่ามาอย่างนั้นครับ  ;D

ดุลยพินิจ มาเกี่ยวข้องด้วยหรือ คริๆคำนี้คุ้นๆน๊ะ


หัวข้อ: Re: ใบสั่ง...
เริ่มหัวข้อโดย: lex ที่ สิงหาคม 26, 2008, 10:50:09 AM
ผมทำผิด ฐาน "จอดรถใว้ ในเขตห้ามจอด(ขาวเหลือง)" มาเมื่อวาน โดนใบสั่ง ซ๊ะ

ขาวเหลือง...จอดชั่วคราวครับ (ไม่ค้างคืน)  ห้ามจอดรถทิ้งไว้แล้วเปิดไฟกระพริบ (ไฟขอทาง)
คือแบบว่าต้องมีคนขับอยู่ในรถหนะครับ  รถพร้อมที่จะเคลื่อนย้ายได้ตลอดเวลา
ผมทำแบบนี้ไม่เคยโดนเลย   ::005:: ::005:: ::005::


หัวข้อ: Re: ใบสั่ง...
เริ่มหัวข้อโดย: tip1976 - รักในหลวง ที่ สิงหาคม 26, 2008, 10:58:08 AM
 ผู้โดยสารไม่สวมหมวกนิรภัย 3 ครั้ง
ไม่ชิดขอบทางด้านซ้าย2ครั้ง
ย้อนศร1ครั้ง
ประสบการณ์ขับมอเตอร์ไซค์14ปีครับ :~)


หัวข้อ: Re: ใบสั่ง...
เริ่มหัวข้อโดย: Udomkd ที่ สิงหาคม 26, 2008, 11:06:12 AM
ผมทำผิด ฐาน "จอดรถใว้ ในเขตห้ามจอด(ขาวเหลือง)" มาเมื่อวาน โดนใบสั่ง ซ๊ะ

ขาวเหลือง...จอดชั่วคราวครับ (ไม่ค้างคืน)  ห้ามจอดรถทิ้งไว้แล้วเปิดไฟกระพริบ (ไฟขอทาง)
คือแบบว่าต้องมีคนขับอยู่ในรถหนะครับ  รถพร้อมที่จะเคลื่อนย้ายได้ตลอดเวลา
ผมทำแบบนี้ไม่เคยโดนเลย   ::005:: ::005:: ::005::


ผมไม่เถียงครับ เพราะ "จอด" ไม่ได้ "หยุด" เรารู้ว่าเราผิดอยู่แล้ว จะไปเถียงทำไม คริๆ

แต่เพียงเขาปฏิบัติหน้าที่ แบบใหนดีละ ข้างหน้าผม สัก25เมตร ขาวแดง จอดอยู่คัน ไม่เห็นไปเขียนใบสั่งแปะหน้ารถให้เขา ฝั่งตรงข้าม จอดอยู่บนฟุตบาท ก็ไม่เห็นไปเขียนใบสั่งแปะให้เขา

ผมไม่ได้ซีเรียดอะไร เราทำผิด ก็ไปจ่ายค่าปรับ ตามกฏหมาย จบ


หัวข้อ: Re: ใบสั่ง...
เริ่มหัวข้อโดย: ahu ที่ สิงหาคม 26, 2008, 11:41:08 AM
ผมทำผิด ฐาน "จอดรถใว้ ในเขตห้ามจอด(ขาวเหลือง)" มาเมื่อวาน โดนใบสั่ง ซ๊ะ ::004::

ความผิดเดียวกับผม...ของพี่เขียนค่าปรับเท่าไหร่ครับ  :D


หัวข้อ: Re: ใบสั่ง...
เริ่มหัวข้อโดย: Zeus-รักในหลวง ที่ สิงหาคม 26, 2008, 12:09:13 PM
เคยเจอกับตัวฮาสุดก็ จอดรถย้อนศร ??? จะหัวเราะก็ไม่กล้าได้แต่ยิ้ม ๆ แล้วถามหมู่ว่ามีด้วยหรือครับ หมู่ก็อธิบายว่าจอดรถย้อนศร ผิดเหมือนขับรถย้อนศร...จะเอาใบขับขี่ถ้าเดียวเลยให้ไป แล้วก็คุยไปคุยมาก็ไม่เขียนใบสั่ง คืนใบขับขี่ให้ ;D
ที่ฮากว่าคือมีคนเคยเจอข้อหาสูบบุหรี่บนรถยนต์(ส่วนตัว)...........เรื่อง ของเรื่องคือตีความกฎหมายว่าห้ามสูบบุหรี่ในที่สาธารณะ รถอยู่บนถนนซึ่งเป็นที่สาธารณะ จีงมีความผิด (ฮา)..........สรุปก็เขียนใบสั่งไม่ได้ ;D


หัวข้อ: Re: ใบสั่ง...
เริ่มหัวข้อโดย: เอก@ดอยฯ ที่ สิงหาคม 26, 2008, 12:13:45 PM
ผมทำผิด ฐาน "จอดรถใว้ ในเขตห้ามจอด(ขาวเหลือง)" มาเมื่อวาน โดนใบสั่ง ซ๊ะ

ขาวเหลือง...จอดชั่วคราวครับ (ไม่ค้างคืน)  ห้ามจอดรถทิ้งไว้แล้วเปิดไฟกระพริบ (ไฟขอทาง)
คือแบบว่าต้องมีคนขับอยู่ในรถหนะครับ  รถพร้อมที่จะเคลื่อนย้ายได้ตลอดเวลา
ผมทำแบบนี้ไม่เคยโดนเลย   ::005:: ::005:: ::005::


ผมไม่เถียงครับ เพราะ "จอด" ไม่ได้ "หยุด" เรารู้ว่าเราผิดอยู่แล้ว จะไปเถียงทำไม คริๆ

แต่เพียงเขาปฏิบัติหน้าที่ แบบใหนดีละ ข้างหน้าผม สัก25เมตร ขาวแดง จอดอยู่คัน ไม่เห็นไปเขียนใบสั่งแปะหน้ารถให้เขา ฝั่งตรงข้าม จอดอยู่บนฟุตบาท ก็ไม่เห็นไปเขียนใบสั่งแปะให้เขา

ผมไม่ได้ซีเรียดอะไร เราทำผิด ก็ไปจ่ายค่าปรับ ตามกฏหมาย จบ


ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของเจ้าพนักงาน  ;) วันก่อนดูกบนอกกลา เขาว่ามาอย่างนั้นครับ  ;D

ดุลยพินิจ มาเกี่ยวข้องด้วยหรือ คริๆคำนี้คุ้นๆน๊ะ


เป็นการเลือกปฏิบัติของเจ้าพนักงาน คำนี้ก็ยิ่งคุ้นๆ อีกแล้วครับพี่เข้ม  ;D ;D ;D


หัวข้อ: Re: ใบสั่ง...
เริ่มหัวข้อโดย: Nakin ที่ สิงหาคม 26, 2008, 12:54:25 PM



อืมม์  .........


เพิ่งได้มา  1  ใบ  (  ข้อหา    ไม่ได้รัดเข็มขัดนิรภัย  )    .....    เมื่อต้นเดือน

ผมยังไม่ได้ไปจ่ายค่าปรับ  เลยครับ  .....

กะว่า    จะแกล้งลืม    สักหน่อย       ;D





หัวข้อ: Re: ใบสั่ง...
เริ่มหัวข้อโดย: Choro - รักในหลวง ที่ สิงหาคม 26, 2008, 12:58:39 PM
ขอพูดนะครับ ผมเคยไปจอดรถเพื่อลงไปซื้อปลาที่สวน ตอนจอดตำรวจก็เห็นว่าผมจอดและยืนห่างจากผมไม่เกิน 10 เมตร ตร.สามารถโบกมือไล่ผมก็ได้เพื่อไม่ให้ผมจอดแต่นี่เปล่า ตำรวจยืนเฉยผมเลยนึกว่าจอดได้ ::004:: ผมก็ลงไปซื้อปลา พอซื้อเสร๊จเดินกลับกำลังจะถึงรถก็มีวินมอเตอร์ไซร์เดินตามผมมาแล้วบอกว่ารถพี่ถูกล๊อกล้อ  :OO และจะเหมาราคาไปและกลับเพื่อไปเสียค่าปรับที่โรงพัก 100 บาท ผมงงมากครับ เพาะยังเดินไม่ถึงรถ แล้วมันจะรู้ได้ยังไงถ้ามันไม่รู้กัน  ::009::


หัวข้อ: Re: ใบสั่ง...
เริ่มหัวข้อโดย: ahu ที่ สิงหาคม 26, 2008, 01:19:44 PM
เคยเจอกับตัวฮาสุดก็ จอดรถย้อนศร ??? จะหัวเราะก็ไม่กล้าได้แต่ยิ้ม ๆ แล้วถามหมู่ว่ามีด้วยหรือครับ หมู่ก็อธิบายว่าจอดรถย้อนศร ผิดเหมือนขับรถย้อนศร...จะเอาใบขับขี่ถ้าเดียวเลยให้ไป แล้วก็คุยไปคุยมาก็ไม่เขียนใบสั่ง คืนใบขับขี่ให้ ;D
ที่ฮากว่าคือมีคนเคยเจอข้อหาสูบบุหรี่บนรถยนต์(ส่วนตัว)...........เรื่อง ของเรื่องคือตีความกฎหมายว่าห้ามสูบบุหรี่ในที่สาธารณะ รถอยู่บนถนนซึ่งเป็นที่สาธารณะ จีงมีความผิด (ฮา)..........สรุปก็เขียนใบสั่งไม่ได้ ;D

ตกลงในรถส่วนบุคคล  เป็นสาธารณะหรือส่วนตัวครับ.......สงสัยมานาน  :)


หัวข้อ: Re: ใบสั่ง...
เริ่มหัวข้อโดย: คมขวาน รักในหลวง ที่ สิงหาคม 26, 2008, 05:02:23 PM
        นานมาแล้วเคยได้ใบสั่ง ๑ ใบ
จากการจอดในที่ห้ามจอด
พอไปที่สน.จักวรรดิ  เพื่อเสียตังค์
เจอคนที่เขียนใบสั่งพอดี 
แกบอก  "ขอโทษนะครับพี่
ผมไม่ทราบว่าพี่เป็นข้าราชการ
ผมส่งต้นขั้วให้ร้อยเวรไปแล้ว
ทีหลังพี่ได้ใบสั่ง  พี่ขยำทิ้งไปเลย
ทะเบียนต่างจังหวัดไม่มีปัญหา"
ผมนึกในใจ  เออว่ะไม่เป็นไร  พอๆกันกับเสียค่าจอดรถ
แต่ทุกวันนี้รู้สึกเขาจะแจ้งไปยังขนส่งต่อทะเบียนคงจะมีปัญหา
        อีกครั้งไม่นาน  ที่หาดใหญ่
เอารถเก๋งคู่ชีวิตคันเก่าไปซ่อมกับอู่เจ้าประจำ
ช่างขาดงานหลายคน  เลยลงลุยเองด้วยเสียเลย
ยืมรถมอเตอร์ไซด์เก่าๆของอู่เข้าไปซื้ออะไหล่
เจอเลยเสียงนกหวีดปรี๊ด  จนท.ยส สตท.
พูดจาแบบไม่น่าฟังเลยคงเข้าใจว่าผมเป็นเด็กอู่
"(มีปัญญา)ยืมรดเขาก็(มีปัญญา)หายืมหมวกนิรภัยด้วย"
สั้น-ห้วน-ได้ใจความ
ไปถึงร้อยเวรก็เช่นกัน  โอ้โหพูดจาแบบไม่ค่อยน่าฟังเช่นกัน
นึกในใจ  ถ้าผมใส่ชุดข้าราชการเขาคงพูดจาสุภาพกว่านี้
อันนี้เนื้อตัวสกปรกมอมแมมเปื้อนน้ำมันเครื่อง
        อันนี้ก็เป็นสองประสบการณ์ใบสั่งที่ได้รับการต้อนรับแตกต่างกันมาก



หัวข้อ: Re: ใบสั่ง...
เริ่มหัวข้อโดย: ฝุ่น-รักในหลวง ที่ สิงหาคม 26, 2008, 05:22:27 PM
เคยโดนข้อหาขับรถทับเส้นทึบครับ คือห้ามเปลี่ยนเลน แต่ผมดันทับไปหน่อย

คิดว่าแค่ 2 ล้อหน้า  ส่วน 2 ล้อหลังยังเป็นเส้นประอยู่ ;D

ก็ปรับไป 400 เต็มๆ ก็ ว่ากันไปครับ

แต่มาสะดุดใจตรง :OO

ต้องเซ็นชื่อหลังคำว่า   ผู้ต้องหา  :~) นี่แหละครับ


หัวข้อ: Re: ใบสั่ง...
เริ่มหัวข้อโดย: เบิ้ม ที่ สิงหาคม 26, 2008, 06:37:02 PM
พี่เข้มไม่บอกตร.ล่ะครับ คุณรู้มั้ย..ผมลูกใคร   ::005::  เจี๊ยกก...ไปแร้วว :D


หัวข้อ: Re: ใบสั่ง...
เริ่มหัวข้อโดย: PU45™ ที่ สิงหาคม 26, 2008, 06:44:03 PM
อืมม์  .........
เพิ่งได้มา  1  ใบ  (  ข้อหา    ไม่ได้รัดเข็มขัดนิรภัย  )    .....    เมื่อต้นเดือน
ผมยังไม่ได้ไปจ่ายค่าปรับ  เลยครับ  .....
กะว่า    จะแกล้งลืม    สักหน่อย       ;D

        คงไม่เหมือนกะสาว เค.แบงค์ นะครับน้านาคิน ....... อิ อิ



        เท่าที่ขับรถมาเคยเจอใบสั่ง 2 ครั้ง ...... ครั้งแรกทางหลวงแจ้งข้อหาสัญญาณไฟส่องป้ายทะเบียนชำรุด
                                                                (เสียค่าปรับหลอดขาดไป 400.-)

                                                         ...... ครั้งที่ 2 ฝ่าฝืนสัญญาณไฟจราจร ปรับ 200.- (ฝ่าไฟแดง)



หัวข้อ: Re: ใบสั่ง...
เริ่มหัวข้อโดย: cooper_s # รักในหลวง # ที่ สิงหาคม 26, 2008, 06:57:38 PM


                          ::014::    เคยโดนเรียกเพราะไม่ติดป้ายทะเบียนหน้า  ที่ไม่ติดเพราะว่าชนถังที่หล่นอยู่กลางถนนแล้วมันหลุด

                                          ก็เหน็บป้ายไว้ที่กระจกหน้า  เห็นได้ชัดเจน แต่ยังไม่ได้ไปแจ้งเปลี่ยนป้ายที่ขนส่ง

                                           ปรากฏว่าโดนเรียก ก็อธิบายไปพี่เค้าก็เข้าใจ สุดท้ายบอกผมว่าให้รีบไปแจ้งเปลี่ยนแล้วกัน     :VOV:

                                           แต่ขอดูใบขับขี่ก่อนแล้วจะปล่อยไป....เราก็พาซื่อ.....ให้ไป....พี่เค้ารับปุ๊ปก็เดินจากไปปั๊บ     ::003::

                                          พอวิ่งตามไปก็ถามว่าไหนบอกจะปล่อยผมยังไงครับ.... ::003::    แล้วเอาใบขับขี่ผมไปทำไม.... :~)

                                          พี่เค้าบอกว่าเรียกแล้วต้องโดนสักข้อหาล่ะน่า.... :OO    ผมก็ถามไปว่างั้นผมโดนข้อหาอะไร....

                                            พี่เค้าตอบมาว่า "รถสกปรก"...... :OO :~)     สุดท้ายต้องไปนั่งคุยกับผู้หมวดตั้งนานกว่าจะปล่อยออกมาได้... :~)


หัวข้อ: Re: ใบสั่ง...
เริ่มหัวข้อโดย: wasanami ที่ สิงหาคม 26, 2008, 06:57:46 PM

        คงไม่เหมือนกะสาว เค.แบงค์ นะครับน้านาคิน ....... อิ อิ



        เท่าที่ขับรถมาเคยเจอใบสั่ง 2 ครั้ง ...... ครั้งแรกทางหลวงแจ้งข้อหาสัญญาณไฟส่องป้ายทะเบียนชำรุด
                                                                (เสียค่าปรับหลอดขาดไป 400.-)

                                                         ...... ครั้งที่ 2 ฝ่าฝืนสัญญาณไฟจราจร ปรับ 200.- (ฝ่าไฟแดง)



 :OO :OO :OO


หัวข้อ: Re: ใบสั่ง...
เริ่มหัวข้อโดย: ลูกไพร ที่ สิงหาคม 26, 2008, 06:59:52 PM
แล้วมีใครเคยโดนใบสั่งขับรถความเร็วเกินกฎหมายกำหนดหรือป่าวครับ แบบว่าเครื่องตรวจจับนะครับอยากเห็นและอยากรู้ครับว่าเป็นไง  ::014::


หัวข้อ: Re: ใบสั่ง...
เริ่มหัวข้อโดย: Udomkd ที่ สิงหาคม 26, 2008, 08:08:11 PM
จริงๆแล้ว กระทู้นี้ มิได้มาต่อว่า เจ้าหน้าที่ น๊ะครับ อย่าเข้าใจผิด ไปอย่างนั้น

แค่นำมาบอก ให้พึงสังวร กับกฏหมายจราจร เท่านั้น หากเราไม่ทำผิดซ๊ะคน การทำผิด ก็น้อยลง 1 ข้อ คิดอย่างนี้ น๊ะครับ

ใอ้ผมที่โดน ก็เพราะทำผิด นี่แหละ เลยมาบอกกล่าวกัน เท่านั้นเอง คริๆ ผมชอบเสียอีก ที่คุณจ่าแกปฏิบัติหน้าที่ บังคับใช้กฏหมาย แต่ไม่ชอบตรงที่แกทำไม่หมด หรือว่าแกคงไม่เห็นเนอะ รถคันข้างหน้า กับคันฝั่งตรงข้าม เลยไม่เขียนให้ คริๆ


หัวข้อ: Re: ใบสั่ง...
เริ่มหัวข้อโดย: Ultraman Taro #รักในหลวง# ที่ สิงหาคม 26, 2008, 08:17:47 PM
โหลดหน้า กับเปลี่ยนยางเล็กลงนิดนึงนี้โดนจับด้วยหรอครับ
แล้วพวกหมวกทองมีอำนาจจับรถด้วยหรอครับ นึกว่าหมวกขาวจับได้อย่างเดียว


หัวข้อ: Re: ใบสั่ง...
เริ่มหัวข้อโดย: Srikrabi ที่ สิงหาคม 26, 2008, 08:28:23 PM
โดนเรียก บ้างบางครั้ง แล้วก็จะไม่ยอมให้มันปรับง่ายๆแบบว่าให้มันไป 100 บาท เซ็ง ครับเขาเรียกเราเพื่อต้องการอะไรซักอย่างถ้าไม่อย่างนั้นก็อย่างนี้หาจนได้ ชอบหลบหลังโค้ง พ้นโค้งไปเจอเรียก ประมาณนี้ แอบมุมมืด ดักสิบล้อ ส่วนมาก รถทางหลวงละครับ ตัวดี ทำไมไม่ทำให้เป็นกิจลักษณะไปเลยครับ เซง


หัวข้อ: Re: ใบสั่ง...
เริ่มหัวข้อโดย: ผู้หญิงใช้้ปืน ที่ สิงหาคม 26, 2008, 09:11:27 PM
โดนใบสั่งหลายครั้งค่ะ ไม่รู้ว่าชาติที่แล้วไปทำอะไรไว้กับ วงการตำรวจ   ::005:: ::005:: 
เท่าที่จำได้ ดังเหตุการณ์ข้างล่าง.....
1.อ้างถึงคำถามของคุณ charay_n ค่ะ :  แล้วมีใครเคยโดนใบสั่งขับรถความเร็วเกินกฎหมายกำหนดหรือป่าวครับ แบบว่าเครื่องตรวจจับนะครับอยากเห็นและอยากรู้ครับว่าเป็นไง  ::014::


       โดนใบสั่งขับรถความเร็วเกินกฎหมายกำหนด  ไม่รู้ว่าโดนเครื่องตรวจจับบริเวณไหน ช่วงเวลาตอนบ่าย  ทางตรง ถนนโล่งค่ะ   พอไปถึงที่บริเวณจุดตรวจ  ได้ยินเสียงประกาศทางลำโพงเสียงดังเลยค่ะว่า รถปิคอัพ ป้ายทะเบียน..... ขับด้วยความเร็ว 168 กม./ชม.  :OO :OO :OO  หูยยย เราขับรถไวขนาดนั้นเลยหรือเนี่ยยยย   แหะ แหะ  ยอมจ่ายแต่โดยดีค่ะ  เพราะ ผิดจริง!!!

2. โดนโบกให้หยุดที่ตั้งด่านลอย(นานๆตำรวจมาตั้งจุดตรวจที   ขนาดว่านานๆมาตั้งที  ยังเจออีกแน่ะ คนเรา)  บอกว่าขับรถความเร็วเกินที่กฎหมายกำหนด( เป็นช่วงก่อนเทศกาลสงกรานต์) พร้อมกับเขียนใบสั่งให้ไปจ่ายที่ตำรวจชั้นสัญญาบัตรที่ตั้งโต๊ะอยู่ ในละแวกนั้น พร้อมกับ ตระกร้าซักผ้าใบใหญ่สำหรับเอาไว้ใส่เงินค่าปรับ!!!! ชนิดที่ว่า เข้าคิวรอจ่ายค่าปรับกันเลยค่ะ

3. จอดรถไว้ในเขตห้ามจอด แต่ไม่มีสีขาว-เหลือง     จอดเสร็จ  รีบออกรถไปซื้อของ  จราจรผ่านมาเจอเข้า  เขียนใบสั่งเหน็บไว้หน้ารถและล็อคล้อรถไว้  เห็นชื่อจราจรที่เขียนใบสั่งไว้ ก็คิดว่าคุ้นๆ  ที่ไหนได้ไปถึงบางอ้อเมื่อไปเจอกันที่ สน.  เป็นคนรู้จักกันค่ะ โค ตะ ระ เจ็บใจ  ทำกันได้  ( หลังจากเหตุการณ์วันนั้นแล้ว เจอกันที่ไหน  เขาไม่กล้าสบตาเลย  ฮึ่ม ...ม....ม ฝากไว้ก่อนเถ้อออออ  )   ตอนที่จะจ่ายค่าปรับ เลยอดถามไม่ได้ว่า รถที่จอดข้างหน้าทำไมไม่โดนล็อคล้อ  เขาให้เหตุผลว่า ไม่ใช่เขตห้ามจอด  ส่วนรถเราน่ะ จอดที่ห้ามจอด  เลยถามว่า แล้วมันแบ่งเส้นกันที่ไหนล่ะ  เขาบอกว่าที่คุณจอดน่ะ เป็นขาว- เหลือง    เลยเถียงสุดฤทธิ์เลย ว่ามันไม่มีสีใดๆ ทั้งสิ้น  ไม่เชื่อไปดูได้เลย   สรุปสุดท้าย  ไม่มีสีใดๆ จริงๆ  เพราะ เขากำลังจะทาสีเส้นขอบทางบริเวณนั้นใหม่ สีเก่าเลยโดนขัดออกซะเอี่ยม    แต่ก็โดนปรับอยู่ดี  เลยรีบจ่ายแล้วรีบลงมาจาก สน. คิดเสียว่า จ่ายแค่นี้ช่างมันเหอะ   เพราะ ขืนอยู่นาน อาจจะต้องเสียค่าปรับมากกว่าเดิม เนื่องจากเกรงว่าจะระงับอารมณ์ไม่อยู่   >:( >:( >:(

และเจออีกหลายครั้งค่ะ   แต่ก็เอาตัวรอดได้จากเหตุผลร้อยแปดพันเก้า  ทำให้แคล้วคลาดจากการโดนปรับไปได้ในที่สุด ::008:: ::008::


หัวข้อ: Re: ใบสั่ง...
เริ่มหัวข้อโดย: ahu ที่ สิงหาคม 26, 2008, 10:10:45 PM
ผมทำผิด ฐาน "จอดรถใว้ ในเขตห้ามจอด(ขาวเหลือง)" มาเมื่อวาน โดนใบสั่ง ซ๊ะ ::004::

ความผิดเดียวกับผม...ของพี่เขียนค่าปรับเท่าไหร่ครับ  :D
ผมบอกเลย....เจ้าหน้าที่เขียน 800 บาท
จอดรถในขาวเหลือง....งงเลยครับ.... :o


หัวข้อ: Re: ใบสั่ง...
เริ่มหัวข้อโดย: ฝุ่น-รักในหลวง ที่ สิงหาคม 27, 2008, 07:57:03 AM
ผมทำผิด ฐาน "จอดรถใว้ ในเขตห้ามจอด(ขาวเหลือง)" มาเมื่อวาน โดนใบสั่ง ซ๊ะ ::004::

ความผิดเดียวกับผม...ของพี่เขียนค่าปรับเท่าไหร่ครับ  :D
ผมบอกเลย....เจ้าหน้าที่เขียน 800 บาท
จอดรถในขาวเหลือง....งงเลยครับ.... :o

โอ้โห 800 กะว่ารวยกันเดี๋ยวนั้นเลยนะครับ


หัวข้อ: Re: ใบสั่ง...
เริ่มหัวข้อโดย: powerboy ที่ สิงหาคม 27, 2008, 09:17:29 AM
โดนเรียก บ้างบางครั้ง แล้วก็จะไม่ยอมให้มันปรับง่ายๆแบบว่าให้มันไป 100 บาท เซ็ง ครับเขาเรียกเราเพื่อต้องการอะไรซักอย่างถ้าไม่อย่างนั้นก็อย่างนี้หาจนได้ ชอบหลบหลังโค้ง พ้นโค้งไปเจอเรียก ประมาณนี้ แอบมุมมืด ดักสิบล้อ ส่วนมาก รถทางหลวงละครับ ตัวดี ทำไมไม่ทำให้เป็นกิจลักษณะไปเลยครับ เซง
ผมเจอบ่อย ๆ มักจะเป็นด่านหากิน ซึ่งบางครั้งก็เป็นตำรวจปลอม
ถ้าผมโดนเรียกผมมักจะใช้วิธียกมือถือขึ้นมาถ่ายรูปกวาดไปรอบ ๆ  ให้ตำรวจเห็นว่าเรากำลังถ่ายรูปรอบข้าง
โดยข้อหาที่ผมมักจะได้คือไม่ขับรถชิดซ้าย (รถกระบะป้ายเขียวไม่บรรทุกสิ่งของ) ซึ่งไม่ผิดกฏหมายตาม พรบ ขนส่งทางบก มาตรา 35-36 หรือไม่ก็ขับรถเร็วกว่ากำหนด ทั้ง ๆ ที่ไม่มีเครื่องมือวัดความเร็ว
ถ้ายังคิดจะให้ใบสั่งผมก็ให้เขียนมาแล้วก็กำชับบอกว่าเขียนให้อ่านออก ลงชื่อกับหมายเลขประจำตัวให้ชัด
ถ้ายังคิดจะเขียนใบสั่งผมก็ยินดีให้เขียนแล้วก็จะไปอัดรูปที่ถ่ายบริเวณที่เกิดเหตุไปคุยกับร้อยเวร และก็มักจะไม่โดนปรับเพราะรู้ ๆ กันคือด่านที่ไม่ชอบด้วยกฏหมาย ไม่มีการติดตั้งป้ายไฟเตือนบอกให้เห็นเด่นชัด ไม่มีนายตำรวจชั้นสัญญาบัตร


หัวข้อ: Re: ใบสั่ง...
เริ่มหัวข้อโดย: Udomkd ที่ สิงหาคม 27, 2008, 09:42:24 AM
อืมม์  .........
เพิ่งได้มา  1  ใบ  (  ข้อหา    ไม่ได้รัดเข็มขัดนิรภัย  )    .....    เมื่อต้นเดือน
ผมยังไม่ได้ไปจ่ายค่าปรับ  เลยครับ  .....
กะว่า    จะแกล้งลืม    สักหน่อย       ;D

        คงไม่เหมือนกะสาว เค.แบงค์ นะครับน้านาคิน ....... อิ อิ



        เท่าที่ขับรถมาเคยเจอใบสั่ง 2 ครั้ง ...... ครั้งแรกทางหลวงแจ้งข้อหาสัญญาณไฟส่องป้ายทะเบียนชำรุด
                                                                (เสียค่าปรับหลอดขาดไป 400.-)

                                                         ...... ครั้งที่ 2 ฝ่าฝืนสัญญาณไฟจราจร ปรับ 200.- (ฝ่าไฟแดง)




เห็นไม๊ครับ คุณทำผิด พรบ.การจราจร จึงได้รับใบสั่งมา หากคุณไม่ทำผิดดังกล่าว ก็จะไม่มีใบสั่ง คริๆ


หัวข้อ: Re: ใบสั่ง...
เริ่มหัวข้อโดย: Udomkd ที่ สิงหาคม 27, 2008, 09:45:17 AM
ที่เขียนมานี่ เพียงให้พึงสังวรว่า เราอย่าทำผิด พรบการจราจรเท่านั้น น๊ะครับ แต่หากท่านใด เจออะไรที่ดีๆมา ก็ขอให้จำกัดเฉพาะน๊ะครับ อย่าเหมารวม และอย่าพูดเกินไปจนก้าวร้าว

เรียน วมต ผู้ดูแล หากว่ากระทู้นี้ส่อไปในทางก้าวร้าว ลบได้เลย น๊ะครับ ไม่ต้องสอบถามผม


หัวข้อ: Re: ใบสั่ง...
เริ่มหัวข้อโดย: Udomkd ที่ สิงหาคม 27, 2008, 09:49:22 AM
ผม ประชาชนคนธรรมดา

รักสงสาร เจ้าหน้าที่ที่ดีๆ น๊ะครับ รังเกียจเจ้าหน้าที่ ที่ใช้อำนาจไม่เป็นธรรม

ตำรวจจราจรนี่ เป็นบุคคลที่น่าสงสารเหมือนกัน หรือไม่ระบุว่าหย่วยใหน เอาเป็นว่า เจ้าหน้าที่ที่ตั้งใจทำงาน ก็แล้วกัน ส่วนคนที่ตั้งใจทำแต่เรื่อง ก็ว่ากันไป รักกับไม่รัก มันแยกกันชัดเจน อยู่แล้ว ฉะนัั้นเมื่อพูดถึงอะไร เราอย่าเหมารวม น๊ะครับ แยกออกไป คนนั้นคนนี้ ว่ากันไป แต่หากพูดลอยๆ "ตำรวจ" มันก็เหมาหมด


หัวข้อ: Re: ใบสั่ง...
เริ่มหัวข้อโดย: SingCring ที่ สิงหาคม 27, 2008, 12:08:05 PM

        คงไม่เหมือนกะสาว เค.แบงค์ นะครับน้านาคิน ....... อิ อิ



        เท่าที่ขับรถมาเคยเจอใบสั่ง 2 ครั้ง ...... ครั้งแรกทางหลวงแจ้งข้อหาสัญญาณไฟส่องป้ายทะเบียนชำรุด
                                                                (เสียค่าปรับหลอดขาดไป 400.-)

                                                         ...... ครั้งที่ 2 ฝ่าฝืนสัญญาณไฟจราจร ปรับ 200.- (ฝ่าไฟแดง)



 :OO :OO :OO

 ::007:: ::005:: ::008::



หัวข้อ: Re: ใบสั่ง...
เริ่มหัวข้อโดย: Nakin ที่ สิงหาคม 27, 2008, 01:57:44 PM





ผมไปจ่าย    ค่าปรับ   มาแล้วนะครับ    ........    ที่  สน.  ทองหล่อ       ::013::









หัวข้อ: Re: ใบสั่ง...
เริ่มหัวข้อโดย: ฅนต้นน้ำ ที่ สิงหาคม 27, 2008, 02:46:38 PM
เคยถูกปรับแพงสุด 700 บาทครับ ข้อหาจอดรถกีดขวางทางเลยเวลาครับ ปรกติวันเสาร์ทุกเสาร์(ตั้งแต่เช้าถึงเย็น)ผมจะเดินซื้อของแถว คลองถม-เยาวราช-บ้านหม้อ และเดินดูปืนแถว ดิโอ ทุกครั้ง วันนั้นเหมือนเดิมผมก็ใด้นำรถไปจอดที่เก่าที่จอดประจำทุกเสาร์ที่มาคือ ที่ไก้ล4แยกวรจักร เลยป้อม ตร ไปหน่อย แถวนั้นรถโล่งดี ไม่ต้องเสียเงินค่าจอด..แฮๆ แต่ใด้เดินเพลินๆดูของเพลินไปหน่อย กลับมาที่รถ ::003::เจอจนใด้รถ ถูกล๊อกล้อเสียแล้ว(ก่อนนั้นใด้จอดมาเกือบปีไม่โดนล๊อกล้อ)และมีใบสั่งติดใว้ที่หน้ากระจก (เลยเวลา กำหนดห้ามจอด)เดินเอาใบสั่งไปให้พี่จ่าที่ป้อม 4 แยกดู พี่จ่าบอกว่า ตร.จร.กลางล๊อกล้อ ต้องไปเสียค่าปรับที่นั้น คือที่ บ้านหม้อ ทางเข้า สน.อยู่หน้า ดิโอ ฝั่งตรงข้ามเอารถเข้าไปจอดในห้าง ไปถึง สน.ก็ยื่นใบสั่งให้หมู่ เอาไปให้ร้อยเวรเซ็น ผมก็ไม่พูดอะไร พร้อมเสียค่าปรับอยู่แล้ว สักพักหมู่ก็เอาใบแจ้งค่าปรับมาให้ 2 ใบ อ่านดูใบแรก 200 บาทค่าปรับในการจอดรถกีดขวางทาง แฮๆ ไม่เป็นไร เปิดดูใบที่ 2   :OO::003::ตกใจครับมีข้อความเขียนว่า "ค่าอุปกรล๊อกล้อ" 500 บาท รวมต้องจ่าย 700 บาทครับ แต่ก็จ่ายครับเพราะผิดจริง เลยเวลาห้ามจอดครับ มัวแต่ดูปืนหลังวัง เพลินไปหน่อย ครับ กลับมาที่รถพี่จ่าก็ไวจริงๆ มาถอดล๊อกล้อให้ตั้งแต่เมื่อใหร่ไม่รู้ ตั้งแต่นั้นมาผมไม่เอารถจอดตรงนั้นอีกเลยครับ เพราะค่าจอดแพงครับ เลยเปลี่ยนมาจอดที่ คลองถมเซ็นเต้อรแทนแล้วครับ ค่าจอดไม่ถึง300 บาท แต่ใด้จอดชั้น 4 ทุกที ชั้นล่างเต็ม ครับ ;D


หัวข้อ: Re: ใบสั่ง...
เริ่มหัวข้อโดย: NOOM 19 รักในหลวง ที่ สิงหาคม 27, 2008, 08:23:13 PM
ผมเคยโดนตำรวจเชียงใหม่ด่าตรงตลาด (จำชื่อไม่ได้ครับที่ขายของฝากนะครับ) ตอน 6 โมงเช้าเพราะไม่รู้ว่าห้ามจองตั้งแต่ 6-9.00 น. พี่เขาเอารถมาประกาศด่าอยู่ตั้งนาน ผมก็ฟังภาษาเหนือไม่ค่อยรู้เรื่อง พี่เขาก็พูดเป็นต่อยหอยเลย คนก็เริ่มมอง จับใจความสุดท้ายได้ว่า "อ้ายบ่อายผู้น้อยบ่" โอ้ว!ออกตัวตูดปัดเลยครับ อ้าย!อาย.. ::012:: :~)


หัวข้อ: Re: ใบสั่ง...
เริ่มหัวข้อโดย: นายต้นงิ้ว ที่ สิงหาคม 27, 2008, 11:39:19 PM
ผม ประชาชนคนธรรมดา

รักสงสาร เจ้าหน้าที่ที่ดีๆ น๊ะครับ รังเกียจเจ้าหน้าที่ ที่ใช้อำนาจไม่เป็นธรรม

ตำรวจจราจรนี่ เป็นบุคคลที่น่าสงสารเหมือนกัน หรือไม่ระบุว่าหย่วยใหน เอาเป็นว่า เจ้าหน้าที่ที่ตั้งใจทำงาน ก็แล้วกัน ส่วนคนที่ตั้งใจทำแต่เรื่อง ก็ว่ากันไป รักกับไม่รัก มันแยกกันชัดเจน อยู่แล้ว ฉะนัั้นเมื่อพูดถึงอะไร เราอย่าเหมารวม น๊ะครับ แยกออกไป คนนั้นคนนี้ ว่ากันไป แต่หากพูดลอยๆ "ตำรวจ" มันก็เหมาหมด


 ::002:: เห็นด้วยกับพี่เข้มครับ คนเรามองร้าย จำร้าย มากกว่าดีครับพี่เข้ม ไม่ได้มองว่าไม่มีเขาเราจะทำไง เราจะไปทำหน้าที่แทนเขาไหม


หัวข้อ: Re: ใบสั่ง...
เริ่มหัวข้อโดย: ahu ที่ สิงหาคม 28, 2008, 11:12:53 AM
ผมทำผิด ฐาน "จอดรถใว้ ในเขตห้ามจอด(ขาวเหลือง)" มาเมื่อวาน โดนใบสั่ง ซ๊ะ ::004::

ความผิดเดียวกับผม...ของพี่เขียนค่าปรับเท่าไหร่ครับ  :D
ผมบอกเลย....เจ้าหน้าที่เขียน 800 บาท
จอดรถในขาวเหลือง....งงเลยครับ.... :o

โอ้โห 800 กะว่ารวยกันเดี๋ยวนั้นเลยนะครับ
ตาม  พ.ร.บ.จราจรทางบก  ผมค้นดูไม่เจอจึงไม่ไปเสีย  800 บาท  ::005::     

อัตราค่าปรับ
http://www.highway7.thaipolice.org/FineRate/punish.htm
http://www.nonthaburitraffic.com/index.php?option=com_content&view=article&id=47&Itemid=55

พ.ร.บ.จราจรทางบก 
มาตรา 57 ห้ามมิให้ผู้ขับขี่จอดรถ
(1) บนทางเท้า
(2) บนสะพานหรืออุโมงค์
(3) ในทางร่วมทางแยก หรือในระยะสิบเมตรจากทางร่วมทางแยก
(4) ในทางข้าม หรือในระยะสามเมตรจากทางข้าม
(5) ในเขตที่มีเครื่องหมายจราจรห้ามจอดรถ
(6) ในระยะสามเมตรจากท่อน้ำดับเพลิง
(7) ในระยะสิบเมตรจากที่ดินตั้งสัญญาณจราจร
(8 ) ในระยะสิบห้าเมตรจากทางรถไฟผ่าน
(9) ซ้อนกันกับรถอื่นที่จอดอยู่ก่อนแล้ว
(10) ตรงปากทางเข้าออกของอาคารหรือทางเดินรถ หรือในระยะห้า เมตรจากปากทางเดินรถ
(11) ระหว่างเขตปลอดภัยกับขอบทางหรือในระยะสิบเมตรนับจากปลาย สุดของเขตปลอดภัยทั้งสองข้าง
(12) ในที่คับขัน
(13) ในระยะสิบห้าเมตรก่อนถึงเครื่องหมายหยุดรถประจำทางและเลย เครื่องหมายไปอีกสามเมตร
(14) ในระยะสามเมตรจากตู้ไปรษณีย์
(15) ในลักษณะกีดขวางการจราจร



หัวข้อ: Re: ใบสั่ง...
เริ่มหัวข้อโดย: Udomkd ที่ สิงหาคม 28, 2008, 11:26:45 AM
ใคร คนใหน ที่ใหนทำ ระบุไปเลยครับ อย่าเหมารวม คนดีๆ จะเสียกำลังใจ ผมว่าหากระบุลงไป จะชัดเจน

แล้วใคร คนใหน ที่ใหนเมื่อไหร่ ทำดี เอามาสรรเสริญกันด้วย น๊ะครับ

สังคมมันมีทั้งดีและไม่ดี ปะปนกันไป หากเราส่งเสริมที่ดีๆ ก็จะได้มีสิ่งที่ดีๆ สิ่งที่ไม่ดี มันก็จะแพ้ภัย ไปเอง


หัวข้อ: Re: ใบสั่ง...
เริ่มหัวข้อโดย: wasanami ที่ สิงหาคม 28, 2008, 11:43:06 AM
ทุกครั้งที่ผมโดนใบสั่งหรือปรับ ผมผิดทุกครั้ง..และผมยินดีจ่ายค่าปรับเต็มจำนวน

ครั้งแรก ตอนมีรถเป็นของตัวเองใหม่ๆ ใน กทม. ตรงสี่แยกปทุมวัน(มาบุญครอง) ผมมาจากทางสามย่านจะเข้าสุขุมวิท

ด้วยความที่เป็นคนไม่เคยขับรถเอง เห็นรถเมล์เลี้ยวขวาเราก็เลี้ยวมั่ง  ;D ;D ;D

จราจรเอาใบขับขี่ไป..ผลต้องไปเสียค่าปรับที่ สน. 400 บาท จนท.บริการและอำนวยความสะดวกดีมาก

ต่อมาอีกหลายครั้งโดนจับความเร็ว.. เข้าด่านมีสัญญาบัตร รับทราบข้อกล่าวหา เปรียบเทียบปรับ

แถม จนท. ยังอบรมเราอีกประมาณว่าอย่าขับรถเร็วนะมันอันตราย

จากที่ผมได้เจอกับตัวเอง..ผมยินดีเสียค่าปรับทุกครั้ง  :D :D :D





หัวข้อ: Re: ใบสั่ง...
เริ่มหัวข้อโดย: ลูกไพร ที่ สิงหาคม 28, 2008, 12:49:20 PM
ขออนุญาติลงครับเผื่อเป็นความรู้ ไม่มีที่มาที่ไปครับพอดีเก็บไว้นานมากแล้วครับ
รู้กฎหมายรถยนต์ เอาไว้ต่อสู้ครับ
ทุกคำตอบได้มาจาก พ.ต.ท.ยอดชาย ผู้สันติ รองผกก.2 บก.จร. ฝ่ายประชาสัมพันธ์ บก.02 กองบัญชาการตำรวจนครบาล
ท่อไอเสีย
รถยนตร์ที่มีการเปลี่ยนแปลงขนาดท่อไอเสีย หม้อพัก และปลายท่อด้านท้ายมีขนาดใหญ่กว่าปรกติ มีความผิดหรือไม่ครับ
คำตอบ
ไม่ผิดครับ แต่สำคัญอย่าให้เสียงดังเกินกว่าที่กม.กำหนดไว้ สำหรับรถยนต์ ไม่เกิน 100 เดซิเบล รถจักรยานยนต์ไม่เกิน 95 เดซิเบล
กระจกมองข้าง
กระจกมองข้างถ้าเราติดอันเล็กจะผิดกฎหมายมั๊ยครับ
คำตอบ
การติดกระจกมองข้างอันเล็ก ไม่ผิดกม.ครับ สามารถติดได้ เหตุผลเพราะ พ.ร.บ.รถยนต์พ.ศ.2522 บัญญัติว่า รถยนต์ต้องมีและใช้เครื่องอุปกรณ์สำหรับรถดังต่อไปนี้
- เครื่องมองหลัง เป็นกระจกเงา ติดอยู่ในที่ที่ผู้ขับรถสามารถมองเห็นภาพการจราจรด้านข้างและด้านหลังได้ทุกขณะอย่างชัดเจน เนื่องจากไม่ได้กำหนดจำนวนหรือขนาดของเครื่องมองหลัง ดังนั้นจึงสามารถติดเพิ่มจากเดิมได้โดยไม่ผิดกม.
- กรณีเป็นรถจักรยานยนต์ กม.ก็บัญญัติไว้เช่นเดียวกันครับ
เรื่อง รถโหลด
รถเก๋งโหลดเตี้ยผิดกฏหมายหรือเปล่าครับ หรือมีกฏหมายบังคับให้โหลดได้ไม่เกินเท่าไหร่ เพราะรถบางคันท้ายโด่งมา บางคนโหลดให้ดูพองาม ซึ่งผมโดนตำรวจจับข้อหาดัดแปลงสภาพรถ และรถผมก็เป็นรถมือสอง ซื้อมาใช้สภาพนี้ครับ (ก็ไม่เตี้ยมากครับน่าจะประมาณ 1 - 2 นิ้ว สามารถก้มไปดูใต้ท้องรถได้) อยากรู้ว่า 1. ถ้าผิดกฏหมาย ทำไมถึงปล่อยให้เต๊นท์รถขายรถทำมาหรือดัดแปลงรถได้ครับ และทำไมเวลาตรวจสภาพรถก่อนต่อทะเบียนถึงผ่านละครับ ( แต่เวลาขับถูกจับ) และหนังสือลงโฆษณาขายโช้คโหลดอย่างนู้นอย่างงี้ ปล่อยให้เค้าขายได้อย่างไร(เท่ากับขายของที่ทำให้ผิดกฏหมายนะ) 2. ถ้ารถที่ดัดแปลงสภาพรถผิดกฏหมาย รถที่ใส่ไฮโดรลิค ยืดขึ้นยืดลง ใส่เครื่องเสียงดังๆรบกวนชาวบ้าน (เลียนแบบมอเตอร์โชว์) รถเก๋งเล็กที่ใส่เครื่อง J เทอร์โบ (แรงเกินขนาดของรถ) รถที่ยกสูงถือว่าดัดแปลงสภาพรถหรือเปล่า 3.ตอนผมจอดติดไฟแดงตำรวจมาขอดูใบขับขี่ พอผมยื่นให้ดู กับเดินกลับไปที่รถของเค้าเพื่อเขียนใบสั่ง ทิ้งให้ผมนั่งงงอยู่ในรถ โดยไม่แจงข้อหา ผมต้องขับออกไปแล้วจอดข้างทาง แล้วรีบเดินมาหาเค้าถามว่าเกิดอะไรขึ้นเค้าจึงบอกว่าดัดแปลงสภาพรถ ผมบอกว่าผมซื้อมาสภาพนี้ หรือพูดอย่างไรก็ไม่สนเก็บใบขับขี่เข้ากระเป๋าแล้วให้ไปเสียค่าปรับที่โรงพัก พอไปเสียค่าปรับ จะปรับตั้งพันหนึ่ง (มันความผิดผมเหรอ ผมซื้อมาสภาพนี้น่ะ) ผมว่าบางครั้งตำรวจทำเกินไปในบางครั้งไม่รับฟังเหตุผลบ้าง น่าจะชี้แจงให้เข้าใจว่ามันผิดอย่างนี้ๆนะ ไปแก้ไขซะ ถ้าเจออีกจับแน่นอนอะไรประมาณนี้ 4. คุณว่าการมีส่วนในเรื่องของเงินค่าปรับมีส่วนเกี่ยวข้องไหม มีคนบอกว่า(ซึ่งผมก็เห็นด้วย) พอมีเอี่ยวส่วนแบ่งในเงินค่าปรับทำให้บางคนไม่เคยโดนจับก็โดน(ผมใช้ขับรถมา 2 ปี ไม่เคยโดนจับไปทำธุระหลายจังหวัดเพิ่งมาโดน) บางครั้งผมเห็นว่ามันเอื้อการนำมาใช้หาผลประโยชน์กับคนที่ไม่ค่อยรู้เรื่องกฏหมายมากเกินไป เหมือนดาบมีสองคมใช้ในทางที่ดีก็ดีไป เท่าที่ผมอยากรู้ก็มีเท่านี้ละครับ ซึ่งผมคิดว่าประชาชนทั้งหลายที่ใช้รถ ก็คงอยากจะทราบเหมือนกับผม
คำตอบ
ขออนุญาตแยกตอบเป็นหัวข้อหลักๆ อาจจะข้ามหรือกระโดดไปบ้าง ดังนี้
-- การใช้รถนั้น หากเป็นรถที่ซื้อต่อจากผู้อื่น (รถมือสอง) ผู้ที่ซื้อรถคันดังกล่าวมาหรือผู้ขับขี่รถ (จะเป็นเจ้าของรถหรือไม่ก็ตาม) จะต้องรับผิดชอบทั้งในเรื่องของการขับขี่รถและของตัวรถที่ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจจราจรตรวจพบว่าผิดกม.
สรุปว่า การใช้รถมือสองหรือการยืมรถคนอื่นมาขับ หรือการเป็นลูกจ้างแล้วนายจ้างสั่งให้มาขับรถ เช่นไปส่งของหรือเป็นคนขับรถ หาสกพบว่ามีสิ่งใดสิ่งหนึ่งผิดกม. จะอ้างว่าไม่ใช้เจ้าของรถหรือเป็นรถซื้อต่อมา ย่อมไม่ได้ ยกเว้นจะมีกม.กำหนดไว้เป็ความผิดเฉพาะตัวเจ้าของ
-- รถโหลดเตี้ยหรือรถยกสูงไม่ผิดกม. เว้นแต่ 2.1 รถโหลดเตี้ย หากโหลดแล้ว มีผลต่อเนื่องไปทำให้ส่วนอื่นของรถผิดกม.ก็จะมีความผิดไปด้วย ซึ่งเห็นได้ชัดที่สุดคือ การโหลดเตี้ยทำให้ระดับของไฟหน้ารถผิดไปจากที่กม.กำหนดไว้ ได้แก่ รถยนต์ : ไฟหน้ารถถูกกำหนดให้สูงจากพื้นทางราบถึงจุดศูนย์กลางดวงโคมไม่น้อยกว่า 0.60 ม. แต่ไม่เกิน 1.35 ม. หากนำรถไปโหลดเตี้ยแล้ว ลองเอาไม้บรรทัดวัดดูว่าน้อยกว่า 0.60 ม.หรือไม่ หากน้อยกว่าก็ผิดกม.ครับ
1. รถอยู่ในเต๊นท์ยังไม่ผิดกม.ครับ จอดไว้ในเต๊นท์ยังไม่ผิดจะผิดเมื่อเอาออกไปใช้ขับขี่ ส่วนโชคอัพรถนั้นยิ่งไม่ผิดกม.ใหญ่ เว้นแต่จะผิดตามพ.ร.บ. ผลิตภัณท์มาตรฐานอุตสาหกรรม(มอก.) เกี่ยวคุณสมบัติของโชคอัพ ครับ เท่าที่ทราบ การตรวจสภาพรถผ่านสถานที่ตรวจรถเอกชนไม่ได้ตรวจเรื่องความเตี้ยของรถครับ มีแต่ตรวจเรื่องอุปกรณ์อื่น
2. รถยกสูงหากไฟสูงเกิน 1.35 ม.ก็ผิดกม.เช่นเดียวกันครับ รถใส่เครื่องเทอร์โบ หรือเปลี่ยนเครื่องใหม่ ต้องให้นายทะเบียนกรมการขนส่งทางบกตรวจสภาพก่อน หากตรวจผ่านก็ไม่ผิดครับ
3.ประเด็นว่าเป็นรถมือสองคงเข้าใจดีแล้วนะครับว่า ใช้เป็นเหตุผลในการทำให้พ้นผิดไม่ได้ แต่ประเด็นกรณีที่ตำรวจไม่แจ้งข้อหาหรือความผิดให้ทราบนั้น ไม่ถูกต้อง โดยหลักแล้วต้องแจ้งให้ทราบก่อนว่าผิดอะไร แล้วจึงออกใบสั่ง
4. เรื่องการที่เจ้าหน้าที่ตำรวจผู้จับกุมได้รับเงินรางวัลจากค่าปรับจราจรนั้น เป็นเพราะมีกม.บัญญัติไว้ว่าเงินค่าปรับจราจรร้อยละห้าสิบให้แบ่งให้แก่กรุงเทพมหานคร และเป็นรายได้แผ่นดิน (กระทรวงการคลัง) ส่วนที่เหลือนั้นให้เป็นรางวัลให้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจผู้จับกุม ซึ่งในส่วนของตำรวจจราจรก็มีการเปลี่ยนแปลงกันหลายครั้ง ซึ่งก็น่าจะเป็นเหตุจูงใจที่ทำให้มีการกวดขันจับกุมผู้ฝ่าฝืนกม.มากขึ้น แต่การกระทำความผิดใดๆก็ตาม หากไม่เคยถูกจับมาก่อน ก็ไม่ได้หมายความว่า จะเปลี่ยนสิ่งที่ผิดกม.เป็นสิ่งที่ถูกกม.ไปได้ ไม่ว่าจะไม่เคขถูกจับมา 2 หรือ 3 ปีหรือขับรถผ่านมากี่จังหวัดแล้วก็ตาม
เรื่องไฟตัดหมอก
อยากทราบว่าการเปิดไฟตัดหมอกนั้นผิดกฎหมายไหมครับแล้วถ้าผิดกฎหมายแล้วจะเสียค่าเปรียบเทียบปรับเท่าไหร่
คำตอบ
ขณะนี้กม.เปิดโอกาส ให้รถที่ต้องการติดไฟตัดหมอก
1.สามารถติดได้ที่หน้ารถข้างละหนึ่งดวงอยู่ในระดับเดียวกัน ใช้ไฟแสงขาวหรือแสงเหลือง มีกำลังไฟเท่ากันไม่เกินดวงละ 55 วัตต์ สูงจากพื้นทางราบไม่เกินกว่าระดับโคมไฟแสงพ่งไกล (ไฟสูง) และโคมไฟแสงพุ่งต่ำ (ไฟต่ำ) ศูนย์รวมแสงต้องอยู่ต่ำกว่าแนวขนานกับพื้นทางราบไม่น้อยกว่า 2 องศา หรือ 0.20 เมตรในระยะ 7.50 เมตร และไม่เฉไปทางขวา
2. ไฟตัดหมอกจะเปิดไฟหรือใช้แสงสว่างได้เฉพาะในทางที่จะขับรถผ่าน มีหมอก ควัน หรือฝุ่นละอองจนเป็นอุปสรรค อันอาจเกิดอันตรายในขณะขับรถ และเมื่อไม่มีรถอยู่ด้านหน้าหรือสวนมาในระยะของแสงไฟ ดังนั้น สรุปว่า
1. การติดไฟตัดหมอก มีเงื่อนไขตาม ข้อ 1
2. การใช้ไฟตัดหมอก ต้องปฏิบัติตามเงื่อนไขตาม ข้อ 2
เรื่องการใส่ part รอบคันรถตู้ใส่กันชนรอบคันและมีเสาอากาศอยู่ด้านหลังจะผิดกฏหมายหรือเปล่าครับ
คำตอบ
รถตู้หรือรถอื่นที่ติดกันชนรอบคัน หากพิจารณาจากการติดตั้งแล้ว ไม่น่าจะก่อให้เกิดอันตรายแก่ร่างกายหรือจิตใจของผู้อื่น เช่นไม่ติดยื่นยาวจนเกินไป หรือไม่มีลักษณะเป็นของแหลมคม เมื่อมีคนเดินผ่านรถไปเฉี่ยวถูก ทำให้ได้รับบาดเจ็บ ก็ยังไม่เป็นความผิด การติดเสาอากาศก็เช่นเดียวกัน การติดกันชนรอบคัน แม้จะช่วยป้องกันไม่ให้เกิดความเสียหายกับตัวรถ แต่ก็เสียเงิน และทำให้น้ำหนักรถเพิ่มขึ้นโดยใช่เหตุ เปลืองน้ำมันรถเปล่าๆ กันชนเดิมก็มีอยู่แล้ว
เรื่องฟิมล์กรองแสง
ขอตอบคำถามด้วยบทความดังต่อไปนี้ (ตอนที่ 1)
“ ฟีล์มกรองแสง ปัญหาอยู่ที่กรองแสงหรือสะท้อนแสง ”
ฟีล์มกรองแสง หรือวัสดุกันแสง ช่วยลดปริมาณความร้อนที่จะเข้าไปรถ ทำให้อุณหภูมิภายในห้องโดยสารของรถเย็นเร็วขึ้น ลดอันตราย ที่เกิดจากการแตกกระจายของเศษกระจกได้ดีเยี่ยม รวมทั้งช่วยลดความเสี่ยงของบุคคลภายในรถ (สตรี) ทั้งจากการถูกมอง หรือสังเกต จากภาย นอกโดยเหล่ามิจฉาชีพทั้งหลาย และเพิ่มความเป็นส่วนตัวให้มากขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งในภาวะที่การจราจรติดขัด ยิ่งกว่านั้นเมื่อถึงคราวจำเป็น เร่งด่วน ยังได้อาศัยเป็นห้องแต่งตัวพอแก้ขัดไปได้ และรักษาอุปกรณ์ตกแต่งภายในรถ เช่น คอนโซลหน้า-หลังไม่ให้ซีดหรือแห้งกรอบ ช่วยประ หยัดพลังงานที่เกิดจากการทำงานของเครื่องปรับอากาศ นอกจากนี้ฟีล์ม กรองแสงยังช่วยลดรังสีอุลตราไวโอเล็ต และรังสียูวี ที่สำคัญยังช่วยป้องกันปัญหาทางสุขภาพอนามัย เช่น มะเร็งผิวหนัง ต้อนัยน์ตา และยังช่วยป้องกันรอยขีดข่วยที่อาจเกิดกับกระจกรถได้อีกด้วย ตำรวจเอากม.อะไรมาจับ เอาเหตุผลอะไรมาตอบสังคม ก่อนที่ท่านจะอ่านข้อความต่อไปนี้ ขอให้สูดลมหายใจลึกๆไว้ก่อนครับ
ฟีล์มกรองแสงโดยรวม มี 3 ชนิด คือ
ชนิดที่ 1 ฟีล์มกรองแสงทั่วไป เป็นชนิดไม่มีการเคลือบโลหะ ฟีล์มชนิดนี้มีคุณสมบัติในการลดแสงที่ส่องผ่านกระจก ไม่มีการสะท้อนแสงหรือมีน้อยมาก เพิ่มความเข้มของสีกระจก เนื้อฟีล์มจะบาง ไม่มีความเงามัน
ชนิดที่ 2 ฟีล์มกรองแสงชนิดเคลือบโลหะ มีการพัฒนาคุณสมบัติจากชนิดที่ 1 โดยการผสมโลหะหนัก เช่น ไอสารอลูมินั่ม นิเกิล ทองแดง หรือโลหะอัลลอยด์อื่นๆ ผิวฟีล์มจะมีสีเหลือบเป็นมันเงา สีจะแตกต่างกันตามประเภทของไอโลหะ เนื้อฟีล์มจะหนากว่าชนิดที่ 1 ลดการส่องผ่านของแสงได้มาก มีการสะท้อนแสงได้ดี ค่าการสะท้อนแสงมากน้อยขึ้นอยู่กับส่วนผสมของโลหะที่เคลือบบนผิวฟีล์ม
ชนิดที่ 3 ฟีล์มกรองแสงชนิดใช้กับกระจกอาคาร-สำนักงาน (เรียกกันทั่วไปว่า ฟีล์มฉาบปรอท ทั้งที่ไม่มีส่วนผสมของปรอทเลย แต่เรียกกันตามสีที่คล้ายสีของปรอท ) มีส่วนผสมของโลหะมากที่สุด สะท้อนแสงมากกว่า 50% ไม่เหมาะกับการนำมาติดกับกระจกรถอย่างยิ่ง เนื่องจากค่าของการสะท้อนแสงมีมาก ทำให้เข้าสะท้อนเข้าตาของผู้ขับขี่รถทั้งที่วิ่งสวนทางและตามหลัง
เป็นสาเหตุให้เกิดอุบัติเหตุได้ง่าย และทำให้ทัศนวิสัยในการมองเห็นสิ่งต่างจากภายในรถของผู้ขับขี่รถเสียไป (ฟีล์มชนิดนี้สังเกตุได้ง่าย จะมีการสะท้อนแสงได้มาก จนบางครั้งถึงกับหวีผม หรือบีบสิวได้)
กม.ที่เกี่ยวข้องกับฟีล์มสะท้อนแสง (เฉพาะพ.ร.บ.จราจรทางบกฯ และพ.ร.บ.รถยนต์ฯ)
1. พ.ร.บ.จราจรทางบก พ.ศ. 2522 มาตรา 8 ห้ามมิให้ผู้ใดนำรถที่ไม่อาจแลเห็นทางพอแก่ความปลอดภัยมาใช้ในทางเดินรถ เพื่อประโยชน์แห่งมาตรานี้ ให้อธิบดีมีอำนาจออกระเบียบเกี่ยวกับใช้วัสดุกรองแสงกับรถที่นำมาใช้ในทางเดินรถได้ โดยประกาศในราชกิจจานุเบกษา
- ระเบียบกรมตำรวจ ว่าด้วย การใช้วัสดุกรองแสงกับรถที่นำ มาใช้ในทางเดินรถ พ.ศ. 2541 ลงวันที่ 24 ก.พ. 2541
- ระเบียบสำนักงานตำรวจแห่งชาติว่าด้วย การใช้วัสดุกรองแสงกับรถที่นำมาใช้ในทางเดินรถ (ฉบับที่ 2) พ.ศ.2542 ลงวันที่ 24 ก.ย.2542
- ระเบียบสำนักงานตำรวจแห่งชาติว่าด้วย การยกเลิกการใช้วัสดุกรองแสงกับรถที่นำมาใช้ในทางเดินรถ พ.ศ.2544 ลงวันที่ 1 มิ.ย.2544
2. พ.ร.บ.รถยนต์ พ.ศ.2522 มาตรา 12 รถใดที่จดทะเบียนแล้ว หากปรากฏในภายหลังว่ารถนั้นมีส่วนควบหรือเครื่องอุปกรณ์สำหรับรถไม่ครบ ถ้วนถูกต้องตามที่กำหนดในกฎกระทรวง หรือเพิ่มสิ่งใดสิ่งหนึ่งเข้าไป ซึ่งอาจก่อให้เกิดอันตรายแก่ร่างกายหรือจิตใจของผู้อื่น ห้ามมิให้ผู้ใดใช้รถนั้นจนกว่าจะจัดให้มีครบถ้วนถูกต้องหรือเอาออกแล้ว
ก่อนที่จะมีการบังคับใช้ฟีล์มกรองแสงนั้น ได้มีการต่อต้าน ไม่เห็นด้วยเป็นอย่างมาก ประกอบกับสถานการณ์ในขณะนั้น ไม่เอื้ออำนวยต่อการปฏิบัติเกี่ยวกับการใช้วัสดุกรองแสง กับรถที่นำมาใช้ในทางเดินรถ สมควรที่จะทำการศึกษาความเหมาะสมในเรื่องวัสดุกรองแสงติดรถยนต์ให้เป็นที่ชัดเจนเสียก่อน จึงให้ยกเลิกการใช้วัสดุกรองแสงกับรถที่นำมาใช้ในทางเดินรถ เมื่อปี พ.ศ.2544
ผลของการยกเลิกกม. ทำให้สามารถติดฟีล์มกรองแสงที่รถได้โดยเสรี เนื่องจากไม่มีกม.บังคับไว้ ประกอบกับได้มีการพัฒนาคุณสมบัติของฟีล์มจากชนิดที่ 1 เป็นชนิดที่ 2 โดยมีหลักสำคัญคือ การเคลือบโลหะลงบนแผ่นฟีล์ม เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการลดแสงหรือความร้อนที่จะผ่านเข้าไปภายในรถ ( Visible Light Transmission ) ซึ่งมีระดับค่าตั้งแต่ 8% - 66% และการสะท้อนแสงหรือความร้อน ( Visible Light Reflectance ) ซึ่งมีระดับค่าตั้งแต่ 5% - 43 % และเป็นที่นิยมของผู้ใช้รถอย่างมาก
อย่างไรก็ตาม ปัญหาที่ตามมา คือ ความแตกต่างกันระ –หว่างระดับต่ำสุด ( 5% ) และสูงสุดของค่าการสะท้อนแสง ( 43% ) ทำให้รถติดฟีล์มดังกล่าว มีความหลากหลายและแตกต่างกัน ทั้งรถที่มีการสะท้อนแสงน้อยสุดไปจนถึงมากสุด ประกอบกับมีผู้นำรถติดฟีล์มชนิดที่ 3 (สำหรับอาคารสำนักงาน) และนำออกมาใช้ในถนนเพิ่มขึ้น
ต่อมาในวันที่ 27 ส.ค.2547 ได้มีการร้องเรียนผ่านนายพูลทรัพย์ ปิยะอนันต์ ผู้ตรวจ การแผ่นดินของรัฐสภา ไปยังนายจาตุรนต์ ฉายแสง รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานคณะกรรมการป้องกันอุบัติภัยแห่ง ชาติ กรณีเริ่มมีรถยนต์ติดฟีล์มกันแดดแบบฉาบปรอทสะท้อนแสง ( ชนิดที่ 3 ) ซึ่งเมื่อถูกแสงแดดจะสะท้อนไปเข้าตาผู้ขับรถคันอื่นที่ขับตามมาหรือขับข้างๆ ทำให้ตาพร่า อันก่อให้เกิดอันตรายอย่างยิ่งจากอุบัติเหตุ อีกทั้งง่ายต่อการก่ออาชญากรรม เพราะฟีล์มชนิดดังกล่าวจะไม่เห็นคนข้างใน เนื่อง จากกันสายตาโดยสิ้นเชิง ซึ่งปัญหาอันอาจเกิดภัยอันตรายร้ายแรงดัง กล่าว โดยผู้ตรวจการแผ่นดินของรัฐสภาได้ประสพด้วยตัวเองมาแล้ว
จึงได้มีการสั่งการโดยสำนักงานตำรวจแห่งชาติในฐานะหน่วย งานที่เกี่ยวข้องดำเนินการแก้ไขปัญหา ให้เจ้าหน้าที่ตำรวจจราจรทั่วประ- เทศทำการประชาสัมพันธ์ ขอความร่วมมือผู้ขับขี่รถยนต์ติดฟีล์มกันแดดแบบปรอทสะท้อนแสง ( ชนิดติดอาคารสำนักงาน ) งดใช้ฟีล์มประเภทดัง กล่าว หากพบมีผู้ฝ่าฝืนให้กวดขันจับกุมและดำเนินคดี ในความผิดฐาน เพิ่มสิ่งใดสิ่งหนึ่งเข้าไปที่รถซึ่งอาจก่อให้เกิดอันตรายแก่ร่างกายหรือจิตใจของผู้อื่นตาม มีอัตราโทษปรับ ไม่เกิน 2,000 บาท
ปรากฏว่าในการกวดขันจับกุมตาม พ.ร.บ.รถยนต์ พ.ศ. 2522 มาตรา 12 นั้น เนื่องจากไม่ได้มีการกำหนดมาตรฐานหรือหลักเกณฑ์ของค่าการสะท้อนแสงที่อาจเป็นอันตรายแก่ร่างกายหรือจิตใจของผู้อื่นไว้ คงให้เป็นดุลยพินิจของเจ้าหน้าที่ตำรวจจราจรผู้ปฏิบัติในการพิจารณา ซึ่งอาจมีความแตกต่างกันไปในแต่ละปัจเจกบุคคล รวมทั้งเวลา ตลอดจนสภาพแวดล้อม รวมทั้งความเข้าใจที่คลาดเคลื่อนระหว่างผู้ขับขี่รถที่ถูกตรวจจับกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ในประเด็นการจับกุมความผิดฐาน ติดฟีล์ม กรองแสง ซึ่งได้มีการยกเลิกกม.ไปแล้ว กับความผิดฐาน เพิ่มสิ่งใดสิ่งหนึ่งเข้าไปที่รถซึ่งอาจก่อให้เกิดอันตรายแก่ร่างกายหรือจิตใจของผู้อื่น (สิ่งใดสิ่งหนึ่งในที่นี้ อาจหมายรวมถึงวัสดุอื่นใด เช่น ผ้าม่าน กระดาษ สติกเกอร์โฆษณาต่างๆ มู่ลี่กันแดด ฉากกั้น ฯลฯ )
สำหรับการกำหนดค่ามาตรฐานการสะท้อนแสงของฟีล์ม กรองแสงนั้น ผู้ประกอบการและสำนักงานตำรวจแห่งชาติ จะเป็นผู้ประสานให้สำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (สมอ.)กระทรวงอุตสาหกรรมเป็นผู้กำหนดมาตรฐาน เพื่อใช้กำหนดเป็นแนวทางในการปฏิบัติให้ถูกต้องต่อไป ดังนั้น เพื่อไม่ให้ผู้ใช้รถที่ติดฟีล์มกรองแสงไปแล้ว ได้รับความเดือดร้อนและเกิดความสับสนอันอาจนำไปสู่ปัญหาความขัดแย้งของสังคม ในขณะที่ยังไม่มีการกำหนดค่ามาตรฐานการสะท้อนแสงของฟีล์มกรองแสง ที่อาจก่อให้เกิดอันตรายแก่ร่างกายหรือจิตใจของผู้อื่น สำหรับเป็นแนวทางในการปฏิบัติของเจ้าหน้าที่ตำรวจจราจร ในวันที่ 27 ก.ย.2547 จึงได้มีบันทึกสั่งการของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ให้ใช้มาตรการประชาสัมพันธ์ขอความร่วมมือผู้ขับขี่และร้านค้าผู้ติดฟีล์มที่อาจเกิดอันตรายดังกล่าวไปพลางก่อน
อย่างไรก็ตาม รถที่ติดฟีล์มกันแดดแบบปรอทสะท้อนแสง ( ชนิดติดอาคาร-สำนักงาน ) ซึ่งเป็นชนิดที่อาจก่อให้เกิดอันตรายแก่ร่างกายหรือจิตใจของผู้อื่นอย่างชัดเจน จะมีการกวดขันจับกุมอย่างเข้ม งวดต่อไป ส่วนรถที่ติดฟีล์มกรองแสงชนิดที่ 1 หรือ ชนิดที่ 2 ไปแล้ว ยังไม่มีความจำเป็นที่จะต้องลอกออกในขณะนี้ สามารถใช้ต่อไปได้ จนกว่าจะมีการกำหนดค่ามาตรฐาน หรือมาตรการในการแก้ไขปัญหาก่อน
ปัญหาคือ รถที่กำลังจะติดฟีล์มกรองแสงใหม่ หรือรถใหม่ ยังคงสามารถจะติดฟีล์มได้ แต่ควรทำความเข้าใจในรายละเอียดของฟีล์มที่จะติด ไม่ว่าจะเป็นชนิด ประเภท คุณสมบัติ โครงสร้าง และสิ่งสำคัญที่สุดได้แก่ ค่าการสะท้อนแสง ซึ่งเป็นหน้าที่ของร้านค้าประดับยนต์ที่จะต้องชี้แจงให้ข้อแนะนำกับผู้บริโภคได้เข้าใจอย่างถูกต้อง รวมถึงการให้ร้านค้าผู้ประกอบการออกใบรับรองคุณสมบัติของฟีล์มที่ติด เพื่อไว้ตรวจ สอบในอนาคต อย่างไรก็ตาม เนื่องจากการกวดขันของเจ้าหน้าที่ตำรวจจราจรนั้น ยังอยู่บนพื้นฐานของดุลยพินิจที่กม.กำหนดไว้กว้างๆ อาจจะเกิดความขัดแย้งขึ้นระหว่างเจ้าหน้าที่ตำรวจจราจรผู้ปฏิบัติกับผู้ขับขี่รถบ้าง ดังนั้นเมื่อมีการตรวจจับและออกใบสั่ง หากยังไม่ยอมรับในดุลยพินิจของเจ้าข้าหน้าที่ตำรวจผู้จับกุม ข้อแนะนำคือ ขอให้นำใบสั่งพร้อมรถไปพบพนักงานสอบสวน สารวัตรจราจรหรือ รองผู้กำกับจราจร หรือหัวหน้าสถานีตำรวจ เพื่อตรวจสอบให้เกิดความถูกต้องและลดความขัดแย้งที่จะเกิดขึ้นในที่สุด
สรุป ฟิลม์อะไรก็ได้ไม่ผิดกฎหมาย จะผิดต่อเมื่อ เป็นฟิล์มปรอท หรือติดเกิน25% ของกระจกบานหน้าคับ(ผมสรุปเองจากที่เข้าใจ)
เรื่อง การจับความเร็ว
อยากร่วมรณรงค์ทุกเรื่องเกี่ยวกับกับการใช้รถบนท้องถนน คือผมอยากทราบว่า กฎหมายที่ออกมาบังคับใช้เรื่องกำหนดความเร็ว 90 กม./ชม. เจาะจงพื้นที่หรือไม่
คำตอบ
1. ความเร็วตามที่กฎหมายกำหนดสำหรับประเทศไทยนั้นแบ่งออกได้เป็น 3 ส่วน
1.1 ความเร็วตามที่กม.กำหนด ซึ่งเป็นกฎกระทรวงออกตามพ.ร.บ.จราจรทางบก ฯ ระบุไว้โดยสรุปดังนี้
- รถส่วนบุคคล รถเก๋ง รถแท็กซี่ รถปิคอัพขนาด 1 ตัน
-ใข้ความเร็วในกทม.หรือ เขตเทศบาล ได้ไม่เกิน 80 กม.ต่อชม.
-ใช้ความเร็วนอกเขตกทม.หรือนอกเขตเทศบาลใช้ความเร็วได้ไม่เกิน 90 กม.ต่อชม.
- ซึ่งความเร็วดังกล่าวข้างต้นรวมถึงบนทางด่วนทุกขั้น (ที่อยู่ในเขตกรุงเทพมหานคร) ด้วย
1.2 ยกเว้นทางมอเตอร์เวย์ มีกม.ระบุไว้เป็นการเฉพาะให้วิ่งได้ไม่เกิน 120 กม.ต่อชม. เหตุที่เป็นเช่นนี้เข้าใจว่า เพราะมอเตอร์เวย์เป็นทางในระดับพื้นราบ ไม่มีทางโค้ง หรือจุดที่เกิดอันตรายมาก และส่วนใหญ่เป็นเส้นทางตรงๆ ไม่ค่อยมีทางร่วมหรือทางเชื่อม ทำให้รถสามารถใช้ความเร็วได้มากอย่างปลอดภัย แต่บนทางด่วน มีทางเชื่อม ทางขึ้นลง ทางแยก รวมทั้ง มีทางโค้ง โคงหักศอก เป็นทางยกระดับ ทางลาดชัน อาจเกิดอุบัติเหตุได้ง่ายหากใช้ความเร็วสูง ซึ่งก็มีตัวอย่างให้เห็นบ่อยๆ กรณีรถเกิดอุบัติเหตุแล้ว ตกลงจากทางด่วนลงมาพื้นราบ ทำให้คนไม่รู้เรื่องรู้ราวด้านล่างตายไปหลายกรณีแล้ว
1.3 กรณีการปฏิบัติของเจ้าหน้าที่ตำรวจนั้น ส่วนใหญ่จะบังคับใช้หรือเข้มวงดกับรถที่ขับรถเร็วจนผิด ปกคิ หรือใกล้จุดที่น่าจะเกิดอันตราย เช่น แหล่งชุมชน เป็นต้น และจะมีการใช้เครื่องเรดาห์ในการตรวจจับโดยเครื่องดังกล่าวได้รับการรับรองความมาตรฐานจากกองทัพอากาศ เป็นระยะๆ เพื่อกันปัญหาร้องเรียนเกี่ยวกับการปฏิบัติ โดยเฉพาะอย่างยิ่งบนทางด่วน จะมีการเรียกตรวจจับที่ความเร็วเกินกว่า 110 กม.ต่อชม. โดยผู้ขับขี่จะถูกเรียกเก็บใบอนุญาตขับขี่รถ และออกใบแทน ( ใบสั่ง) ให้รับไป ซึ่งกม.กำหนดอัตราโทษไว้ปรับไม่เกิน 1,000 บาท ส่วนใหญ่พนักงานสอบสวนจะปรับ ไม่เกิน 500 บาท แต่จะถูกยึดใบขับขี่ตามมาตรการบันทึกคะแนน ไว้ 15 วัน หลังจากนั้นมารับใบขับขี่คืนได้โรงพักที่เราเสียค่าปรับ ปกติการจับกุมผู้ขับขี่รถเร็วกว่ากม.กำหนดก็ได้ทำเป็นเหตุการณ์ประจำวันอยู่แล้ว แต่บางสน.ไม่มีพื้นที่ให้จับเนื่องจากไม่มีระยะทางไกลๆในการยิงด้วยเครื่องตรวจจับ เฉลี่ยเดือนละประมาณ 1,000 ราย การขับรถด้วยความเร็วไม่เกิน 90 กม.ต่อชม. อาจดูช้าไปบ้างในเขตกรุงเทพฯ แต่เป็นความเร็วที่เมื่อเกิดอุบัติเหตุจะลดความรุนแรงของความบางเจ็บได้ รวมทั้งเป็นความเร็วที่ประหยัดน้ำมันในยุคพนักงานเชื้อเพลิงมีราคาแพง ส่วนผลต่างของเวลาระหว่าง 90 กม.ต่อชม. กับ 110 ก.ม.ต่อชม. จะไม่มีความแตกต่างกันมากนัก



หัวข้อ: Re: ใบสั่ง...
เริ่มหัวข้อโดย: POL 2519 ที่ สิงหาคม 28, 2008, 01:56:00 PM
      โดนใบสั่งครั้งเดียวครับ ข้อหา ขับรถเกินความเร็วที่กำหนด บนทางด่วน ความเร็ว 178 กิโลเมตร โดนไป 500 บาท อิๆๆ ผิดจริงๆ ยอมรับตามข้อกล่าวหา และต่อมาก็โดน แบบว่า ด่านลอย ก็โดนตั้งแต่ 50-100 บาท ตามพื้นที่ที่โดนครับ


หัวข้อ: Re: ใบสั่ง...
เริ่มหัวข้อโดย: Udomkd ที่ สิงหาคม 28, 2008, 02:52:09 PM
หุๆๆสังเกตุกันดู น๊ะครับ ว่าที่เราโดนนั้น ผิดข้อใหน แล้วเราสมควรทำอย่างไร เพื่อไม่ให้โดนสั่ง 55+

ง่ายนิดเดียว ก็อย่าทำ หากทำ ก็ไม่ต้องเถียง คริๆ

แต่กฏหมายบ้านเรา บางข้อบางอย่าง มันมีมานานแล้ว มันไม่อัพเดตกับความเป็นจริง ฉะนั้น ก็ตต้องระวังๆเอาเอง

ฝากเจ้าหน้าที่ ผู้รักษากฏหมาย ท่านก็กรุณา บังคับใช้ ให้เสมอภาคกัน ...จะได้ยุติธรรม กันทุกฝ่าย

ท่านที่ทำดี อยู่แล้ว ขอให้ความดีนั้น ส่งเสริมท่าน ให้มีชีวิตที่ดี ยิ่งๆขึ้นไป

ส่วนท่านที่ ทำไม่ถูกต้อง เอาเปรียบ ใช้ช่องว่าง หรือเลือกปฏิบัติ ก็ขอให้ท่าน มีความสุขกับการกระทำของท่าน ต่อๆไป เพราะไม่มีใครสามารถเปลี่ยนแปลงท่านได้ นอกจากตัวท่านเอง


หัวข้อ: Re: ใบสั่ง...
เริ่มหัวข้อโดย: Udomkd ที่ สิงหาคม 28, 2008, 03:09:06 PM
เดี๋ยวนี้ รถมันเยอะ ถนนมีที่ว่างน้อย และการขับรถการใช้รถของผู้คนทั่วไป ก็เป็นไปตามความปราถนาของตนเอง เสียมาก

นิสัยคนขับรถส่วนมากแล้ว จะไม่ชอบตามหลังคันอื่น ท่านเป็นแบบนี้หรือไม่ครับ เมื่อขับรถ อิๆ ส่วนใหญ่แล้วมักจะเป็นเช่นนี้ มันเป็นธรรมดา เพราะอยู่ข้างหลัง มันมองไม่เห็นข้างหน้า

หากทุกคนที่ขับรถ เคารพกฏจราจรกันเคร่งครัด ปัญหา จราจรก็จะเกิดน้อยมาก เพราะกฏข้อห้ามต่างๆ มันกำหนดใว้แล้ว ซึ่งความปลอดภัย เช่น

การฝ่าไฟเหลือง...เพียงเพื่อที่จะได้ไม่ต้องติดไฟแดง แต๋.....ฝ่ายตรงข้าม ที่พร้อมจะออก เกิดไม่รอเช่นกัน ออกก่อนไฟเขียว เพื่อกะให้ไฟเขียว ขณะรถออกไปอยู่กลางแยก เพื่ออ้างกฏหมาย ว่ากูเขียวพอดี อะไรจะเกิดขึ้นครับ ...คิดเอาเอง เพราะเห็นกองอยู่กลางแยก บ่อย

บางคนไม่รอละ กูจะไปแล้ว มึงแดงได้แดงไป เพราะไม่เห็นรถฝั่งอื่นจะมีเลย รอทำบ้าอะไรอยู่ ก็ไม่ทราบเหมือนกัน (อันนี้ ดึกๆเปลี่ยวๆ ผมก็ไม่รอครับ ยอมเสียค่าปรับหากถูกจับ อิๆ มิใช่จะมาส่งเสริมให้ฝ่าฝืน แต่เอาความปลอดภัยในชีวิต และทรัพย์สินมาก่อน) ส่วนใอ้ที่ว่ามาก่อนหน้า ก็ในเมืองกลางวันแสกๆ แหละครับ

อันนี้ไม่ได้ว่าใคร แต่พูดถึงว่า สิ่งที่จะเกิด และสิ่งที่เกิด และเกิดขึ้นมาแล้ว มันจะเป็นลักษณะนี้ครับ

ผ่าไฟเหลือง อันตรายสุดๆครับ เช่นฝ่าไฟแดง เพราะมีสิทธิ์โดนชนเหมือนกัน ส่วนกฏหมายไม่ต้องเถียง ผิดแน่นอน เพราะไฟเหลือง หลายคนอาจลืมเลือนไปว่า "ให้เตรียมหยุด" มิใช ไฟเหลือง "ให้รีบไปให้ทัน หรือไปให้พ้นๆ" 55+โครม....ปี้ป่อๆๆๆๆๆๆ หากปฏิบัติบ่อยๆ ก็อาจจะได้ยินได้นอนฟังเสียงนี้ หากชีวิตและความรู้สึก ยังเหลืออยู่

ด้วยความเคารพ ตรงใหนไม่ถูกต้อง ช่วยกันแก้ไข น๊ะครับ่


หัวข้อ: Re: ใบสั่ง...
เริ่มหัวข้อโดย: Udomkd ที่ สิงหาคม 28, 2008, 03:14:50 PM
มองเห็นอะไร ก็คุยกันไปเรื่อยเปื่อยน๊ะครับ อย่าซีเรียด เอาสนุกๆเข้าว่า เรื่องเครียด มีเยอะแล้ว คริๆ

ฝากพวกเราทุกๆท่าน น๊ะครับ เรื่องป้ายเตือนต่างๆ หากใครเห็น ว่าตรงใหน มันไม่เหมาะสม หรือมันผิดพลาดอยู่ จะเกิดจากสาเหตุอะไร ก็แล้วแต่ น่าจะถ่ายรูปมาโชว์กันหน่อย และหาช่องทาง บอกกล่าว ผู้ที่รับผิดชอบ ให้ช่วยกันแก้ไข เพื่อประโยชน์ "ส่วนตน"จะได้ลดน้อยถอยหายไป

เช่นป้ายห้ามต่างๆ ที่มีอะไรๆมันบังอยู่ หรือติดไม่ชัดเจน หรืออาจมีใครแอบแฝงที่ตั้งใจจะทำให้มันดูยาก หรืออะไร ก็แล้วแต่ ที่เห็นว่า ไม่สมควร เผื่ออะไรๆอีกนั่นแหละ จะได้มีอะไรๆที่ดีขึ้น ตกลงว่ามันคืออะไรครับ คริๆๆ


หัวข้อ: Re: ใบสั่ง...
เริ่มหัวข้อโดย: ลูกไพร ที่ สิงหาคม 28, 2008, 04:14:41 PM
พอดีผมไปเจอป้ายนี้มาครับพี่ ไม่รู้ว่าจะปฎิบัติตามหรือป่าวครับ ::005:: ::005::




หัวข้อ: Re: ใบสั่ง...
เริ่มหัวข้อโดย: ลูกไพร ที่ สิงหาคม 28, 2008, 04:18:18 PM
 ::014::ขอโทษครับลงแล้วรูปไม่มาครับ อิอิ ::014::


หัวข้อ: Re: ใบสั่ง...
เริ่มหัวข้อโดย: ลูกไพร ที่ สิงหาคม 28, 2008, 04:23:27 PM
ขออภัยครับลงแล้วรูปไม่มา อิอิไม่รู้ว่าป้ายนี้จัดอยู่ในหมวดไหนครับพี่ ไม่เครียดด้วยคนครับ  ::005::


หัวข้อ: Re: ใบสั่ง...
เริ่มหัวข้อโดย: Srikrabi ที่ กันยายน 13, 2008, 05:06:21 PM
ขออภัยครับลงแล้วรูปไม่มา อิอิไม่รู้ว่าป้ายนี้จัดอยู่ในหมวดไหนครับพี่ ไม่เครียดด้วยคนครับ  ::005::
ของผมก็ไคยมาครับ เค้าลงรูปกันยังงัยครับลองหลายครั้งแล้วครับแต่ยังไม่มา ขอบคุณครับ