เว็บบอร์ดสนทนาภาษาปืน

ที่ระยะ 25 หลา 16 นัด ยิงฉับพลัน 30 วินาที.......วิจารณ์ได้เต็มที่เลยครับ...กระสุนซ้อมไทยอาร์มอายุประมาณ 10 ปีครับ
......เหตุเกิดเพราะคนร้ายปล้นร้านทอง....เลยไปยิงเพิ่มกำลังใจหน่อย...หลังไม่ได้ซ้อมมาเกือบปีครับ
......ทำไมหลวงไม่แจกกระสุน 9 ม.ม.มาให้ซ้อมมือนะ...เวลามีโครงการซ้อมยิงได้ยิงแต่.38.....
......แล้วมันจะคุ้นเคยกับปืนตัวเองได้ยังไง....กระสุนซ้อมไทยอาร์มที่บ้านผมขายนัดละ 25 บาท..
......กระสุนจริงของไทยอาร์มนัดละ 33 บาท...กระสุนหัวรูbulletนัดละ 45บาท...คิคิ

...ยิงกับberetta 92 fs กระบอกนี้....ทำอาร์ดโครมที่ร้านสุพลเมื่อ 9 ปี ที่แล้วครับ
...ซื้อปืนสวัสดิการมาเมื่อปี 39......ราคา 29,000 บาทครับ...............................

ดูจากเป้าแล้วคนร้ายไม่น่ารอดครับ  ;D ;D

หลวงไม่แจกกระสุนมาให้   เนื่องจากปืนหลวงให้ใช้เป็นปืนขนาด  .๓๘  นะซิ

เสียดายปืนเดิม   ไม่น่าไปชุบฮาร์ดโครมเลย    แต่ต่างคนต่างชอบ    ยิงพอใช้ได้ครับ  ตายแน่นอน

..ว่าตามทุกท่าน..ไม่เหลือครับ.. ;D

เห็นเป้าแล้วรับรองครับโจรไม่เหลือแน่ครับพี่

โจรไม่รอดแน่ครับพี่

ขนาดนี้ นับว่าหายห่วงครับ ได้กลุ่มขนาดนี้ดีมากแล้วครับ  ::002::

หากระสุนจริงมาติดปืนนะครับปลอดภัยกว่า

กลุ่มอย่างนี้โจรไม่รอดครับ

ย้ายไปหน้าทดสอบปืน ดีกว่านะครับ

......ที่คุณป้อมทองบอกว่า"เสียดายปืนเดิม   ไม่น่าไปชุบฮาร์ดโครมเลย "จะเล่าย้อนหลังให้ฟังนะครับ
...ปี 2542 ผมดวลกับผู้ต้องหาคดียาเสพติด ตัวผมโดนยิงสามนัด ส่วนผู้ต้องหาคาที่ครับ.................
...ทีนี้ปืนของผมถือว่าเป็นของกลางในคดี ต้องเก็บไว้ที่ห้องคดี...ส่วนตัวผมต้องลากลับไปรักษาตัวที่บ้าน
ประมาณ 3 เดือน...หลังจากสามเดือนกลับมา..ไปขอปืนมารักษาของกลางไว้ เพราะตัวผมเองไม่มีปืน
ไปเข้าสายตรวจ...พอเห็นปืนน้ำตาตกในเลยครับ...จากรมดำกลายเป็นรมแดง(สนิม)ทั้งกระบอก....
ก็เลยไปกรุงเทพ คุยกับคุณสุพลได้ความว่าถ้าจะรมดำใหม่ผิวปืนก็ไม่เหมือนเดิมเพราะเบเร็ตต้า
ไม่ใช่รมดำ....ผมเลยตัดสินใจทำอาร์ดโครมครับ......ส่วนกระสุน ปกติก็ใช้ลูกหัวรูอยู่ไม่เคยมีปัญหาครับ
กระบอกนี้ตั้งแต่ซื้อมาปี 39 ยังยิงไม่เกิน 5 กล่องครับ...ส่วนมากจะซ้อม .38 ของหลวง หลายๆปีต่อครั้งครับ
ไม่ใช่หลายๆครั้งต่อปี.....ตามงบประมาณที่เขาทำโครงการ........เหอๆ....

อยากให้พี่ช่วยเล่ารายละเอียดของเหตุการณ์การเข้าจับกุม และเกิดการปะทะกับคนร้ายว่าเป็นอย่างไรเพื่อจะได้เป็นวิทยาทานแก่ทุกท่านในที่นี้ครับ แต่ถ้าพี่ไม่สะดวกใจก็ไม่เป็นไรครับขอสดุดีในควานกล้าหาญของตำรวจไทยครับ

...เล่าเป็นอุทาหรณ์...
วันที่ 19 ก.พ. 2542 ช่วงค่ำชุดไล่ล่าของโรงพักผมได้ซุ่มตัวหน้าหมู่บ้านแห่งหนึ่ง(ขอสงวนนามครับ) ประมาณ 3 ทุ่มกลุ่มผู้ต้องสงสัยได้ขับรถยนต์มาจอดหน้าบ้าน
ชุุดไล่ล่าก็แสดงตัวจะเข้าตรวจค้น ปรากฎว่ากลุ่มผู้ต้องหาได้วิ่งหลบหนีเข้าไปในบ้าน ชุดไล่ล่าจึงตรวจค้นรถยนต์ของผู้ต้องหาเจอระเบิดเอ็ม 26 ครับ ก็เลยวิทยุขอกำลัง
ตำรวจมาล้อมบ้านที่เกิดเหตุ...ผมได้ยินวิทยุก็มาช่วยล้อมบ้านที่เกิดเหตุ ซึ่งบ้านเป็นห้องแถวชั้นเดียวอยู่ติดกันประมาณ 7 ห้อง สักพักได้ยินเสียงกลุ่มผู้ต้องสงสัยช่วยกันราดน้ำ
ลงในโถส้วม ก็คิดกันว่าผู้ต้องสงสัยคงทิ้งอะไรบางอย่างลงในโถส้วมแล้ว แต่ไม่รู้จะทำยังไงเพราะเข้าบ้านหลังดังกล่าวไม่ได้ อีกสักพักหนึ่งได้ยินเสียงคนปีนขึ้นไปใต้ฝ้าเพดาน
พวกผมเลยไปเคาะประตูให้ชาวบ้าน บ้านข้างๆออกมาเพราะกลัวว่าคนร้ายจะปีนเข้าห้องข้างๆ..และมีการจับตัวประกัน อีกอย่างเป็นการแยกแยะคนร้่ายกับชาวบ้านได้ง่ายขึ้น....
สักพักคนร้ายได้เผาที่นอนห้องข้างๆเพื่อสร้างความวุ่นวายจะได้หลบหนี ทางผู้บังคับบัญชาจึงได้ประสานรถดับเพลิง รถไฟฟ้ามาที่เกิดเหตุ แต่ยังไม่ให้ตำรวจเข้าตรวจค้นในบ้าน
เพราะรู้ว่าคนร้ายมีอยู่ 5 คน พอประมาณตีสี่ของวันที่ 20 ก.พ. 42 (วันที่ผมต้องจดจำตลอดชีวิต) คนร้าย 4 คนได้ออกมามอบตัว สอบถามคนร้ายได้ความว่ายังมีคนร้ายอีก 1 คน หลบอยู่
แต่ไม่รู้ว่าอยู่บ้านหลังใหน ใน 7 หลังนั้น ผู้บังคับบัญขาได้จัดทีมเข้าตรวจค้นขึ้น(ผมดันติดทีมด้วยสิ)โดยมีข้อแม้ว่าต้องให้เจ้าของบ้านแต่ละหลังเดินตามตำรวจเข้าไปในบ้านด้วย
เพื่อป้องกัน ถ้ามีของหายขึ้นมาตำรวจจะได้ไม่โดนด่า ทีมผมเข้าตรวจค้นบ้าน 6 หลังโดยมีเจ้าของบ้านเข้าไปด้วยแต่ไม่เจอคนร้าย.........ที่นี้ก็ถึงหลังที่ 7 ซึ่งอยู่ห่างจากบ้านคนร้าย 2 หลัง
ผมเดินนำหน้า ในมือถือปืน เจ้าของบ้านเดินคนที่ 2 (มือเปล่า) แล้วมีพี่ตำรวจตามหลังมาอีก 2 คน ตรวจค้นห้องแรกไม่มีปัญหาอะไรครับ พอตรวจค้นห้องที่ 2 นี่สิ...................................
ตามยุทธวิธีต้องถีบเปิดแล้วถีบประตูห้องเข้าไปเพราะถ้ามีคนร้ายที่หลังประตู เราจะได้รู้ แต่การที่มีเจ้าของบ้านเดินตามหลังทำให้ผมไม่กล้าถีบประตู(ถ้าไม่มีคนร้ายกลัวโดนเจ้าของบ้านด่าเอาครับ)
ก็เลยผลักประตูจนสุด...(รู้ทีหลังว่าคนร้ายตัวเล็กผอมมาก..ผลักประตูจนสุดก็ยังหลบอยู่ได้) ผมกำลังจะเดินเข้าตรวจค้นตู้เสื้อผ้า ก็ได้ยินเสียงประตู จึงหันกลับเห็นคนร้ายผลักประตูออกมา......
กำลังจะเอาปืนจ่อหัวเจ้าของบ้าน เมื่อคนร้ายเห็นผม คนร้ายก็หันปืน(ลูกโม่ .32)ยิงมาที่ผม กระสุนโดนที่ใต้ราวนมขวาของผม ผมเลยหงายหลังทิ้งตัวนอนยิงสวนไปที่คนร้าย คนร้ายหลังติดฝาบ้านทรุด
ตัวลงนั่งพร้อมทั้งผลักประตูปิด(คุณเจ้าของบ้านพร้อมพี่ๆกระโจนออกจากห้องตั้งแต่ได้ยินเสียงปืนนัดแรกแล้วละครับ...)ผมไม่ต้องเล็งเลยครับจี้ปืนยิงพร้อมทั้งพยายามถีบปืนคนร้าย(ระยะห่างไม่เกินเมตรครึ่ง) ผมยิงโดนคนร้ายที่ลำตัว 6 นัด ด้วย 9 ม.ม. ปรากฎว่ากระสุนจริงหัวธรรมดาไม่มีแรงปะทะ กระสุนทะลุหมด คนร้ายยังยิงผมถูกอีก 2 นัด นัดหนึ่งเข้าข้างขาด้านขวาทะลุหน้าขา อีกนัดเข้าฝ่าเท้าทะลุหลังเท้า เพราะผมพยายามเอาเท้าและขาบังทางปืนคนร้ายไว้ คนร้ายโดนจังๆกับนัดที่ 7 ของผม เข้าที่ขมับขวา....................สรุป 9 ม.ม ลูกธรรมดาไม่มีแรงพอหยุดคนร้ายได้ใน 1 นัด คนร้ายยังสามารถยิงผมถูกอีก 2 นัด หลังจากโดนผมยิงแล้ว......การยิงกัน น่าจะไม่เกิน 15 วินาที ระยะห่าง ไม่เกิน 1.5 เมตร ผมยิง 7 นัด คนร้ายยิง 5 นัด.........หลังจากวันนั้น ผมก็ใช้ลูกหัวรูตลอดและเบเร็ตต้าก็เป็นปืนที่ยังน่าเชื่อถืออยู่.........................................................

ขอบพระคุณครับ... นายสมชายถือว่าท่านคือผู้มีพระคุณต่อประชาชน...

ได้ความรู้ว่ากระสุนหัวบอล 9 พาราฯ ไม่สมอย่างที่สถิติอีวานฯบอกเอาไว้ว่า 66 เปอร์เซ็นต์ สูงกว่าหัวบอล .45 แค่ 58 เปอร์เซ็นต์...

ตัวเลขสถิติ...

น่าสนใจครับ เพราะตอนนี้ตำรวจส่วนใหญ่ที่เห็นๆกันจะใช้ 9 ม.ม. กับ .38
ในกรณีนี้ถ้าเป็นลูกโม่ 5 นัดขนาด 2 นิ้ว กับอีกกรณีเป็นขนาด .45 เรื่องจะเป็นอย่างไรน่าสนใจครับ
และระยะยิงนี่สุดยอดครับ จ่อยิงกันเลย ::014::ใจถึงทั้งคู่ครับ

นายสมชายเองยังใช้ win 115 เกรน หัวบอลติดปืน G19 อยู่ครับ... ภาวนาว่าไม่มีเรื่องต้องให้ใช้งาน...

ส่วนปืนที่ติดตัวเมื่อ"มีเหตุจำเป็นและเร่งด่วนสมควรแก่เหตุการณ์"เป็น 1911 ขนาด .45 ก็ใช้หัวบอล 230 เกรนติดปืนไว้... สถิติของอีวานฯ แค่ 58 เปอร์เซ็นต์เอง... หวังว่าไม่มีเรื่องต้องใช้งานอีกเช่นกันครับ...

น่ากลัวครับ... และโชคดีในโขคร้าย ที่ท่านโดนกระสุนที่หน้าอกขวา เลยเข้าปอด... หากเปลี่ยนเป็นหน้าอกซ้าย หรือชายโครงซ้ายขวาแนวสะดือ คงไม่ได้มาคุยกันผ่านเว็บแล้วครับ...

นั้นสิครับ  :D ระยะยิงนี่สำคัญด้วยนะครับ สถานการณ์แบบนี้ ลักษณะงานตำรวจทั้งฝ่ายสายตรวจและสืบสวนมีโอกาสเจอเหมือนกัน
ทุกวันนี้ใช้กล็อก 26 กับลูกหัวธรรมดา 115 เกรน 10 นัด ก็หวังว่าจะไม่ต้องใช้เช่นกัน :) :)

บวก 1 แต้มครับ สำหรับ จขกท. ที่กรุณาเล่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นให้เพื่อนสมาชิกได้รับทราบ
สำหรับผมเองสงสัยในเรื่องของอานุภาพกระสุนขนาด 9  มม. ในระยะยิงไม่เกิน 2 เมตร
กระสุนคมเกินไปรึปล่าวถึงไม่มีแรงปะทะ...หรือว่าระยะใกล้เกินไป ขอผู้รู้ช่วยกรุณาด้วยครับ
(ขอบคุณท่านจขกท.และขออนุญาตถามต่อเนื่อง)

ขอบพระคุณมากครับพี่ ที่นำประสบการณ์มาเล่าสู่กันฟัง 

ลูกปืนยิ่งใกล้ยิ่งแรงครับ...

ความเชื่อผิดกันว่าระยะห่างลำกล้องลูกปืนจะเร็วขึ้นไม่เป็นความจริงครับ... ที่เห็นไรเฟิ่ลเจาะได้ลึกที่ระยะห่างออกไปนั้น เกิดจากกระสุนหมุนตัวแล้วทรงตัวดีขึ้นไม่ส่ายไปมาเหมือนลูกข่างที่เพิ่งถูกขว้างลงพื้น... ซึ่งทำให้เจาะลึกขึ้น แต่แรงน้อยลงครับ...

อิอิ ข้อมูลดีๆทั้งนั้นเลยครับ ::002:: ::002:: ::002:: ::002::

ขอบคุณมากๆครับ..อย่างนี้ดีกว่ามาอวดตัวว่าเป็นผู้รู้แต่ยิงแค่เป้า-กระดาษซะอีก อยากให้สมาชิกเอาประสบการณ์การใช้ปืนจริงๆแบบนี้มาให้ศึกษากันอีกเยอะๆ ซึ่งผมว่ามีนะครับ แต่คนจริงกลับไม่ชอบคุยเลยไม่เป็นที่รู้จักเท่านั้นเอง อย่างนี้คงตอบคำถามที่หลายคนสงสัยเรื่องโพรงบาดแผลที่เกิดจากลักษณะของหัวกระสุนได้บ้าง ที่บอกว่าแคบแต่ลึกดีกว่า ลึกพอประมาณแต่กว้างนั้นไม่น่าถูกต้องครับเพราะคนร้ายถูกยิงด้วยกระสุนที่ลำตัวหลายนัดกลับไม่สามารถหยุดคนร้ายได้ นัดที่จบคือที่ขมับ ถ้าไม่ได้นัดนี้ผมเชื่อว่าการต่อสู้น่าจะยังไม่จบหรือลงเอยแบบนี้ เพราะที่เคยได้ดูวีดีโอกรณีศึกษา-คนร้ายปล้นร้านทองโดยใช้ปืนเบเรตต้า(ถ้าจำไม่ผิด-ไม่เกี่ยวกับปืนหรอก)ขนาด9*19 โดยเป็นภาพจากกล้องวงจรปิดของร้านคนร้ายเดินมาถึงไม่ได้พูดอะไรเลย ชักปืนออกมายิงเจ้าของร้านที่ยืนอยู่หน้าร้าน(กำลังจะปิดร้าน) ในระยะประชิดทันที 4 นัดติดๆกันบริเวณกลางลำตัว เจ้าของร้านยืนนิ่งไม่ได้ล้มลงคงตกใจหรือตกตะลึงสักอย่าง คนร้ายเดินเข้ามาถึงตัวแล้วจับเจ้าของร้านกดตัวลงกับพื้นยิงอีก 2 นัด แล้วเข้าไปชิงทองในร้าน....อีกกรณีนึงก็กรณีคนร้ายน่าจะมีอาการทางประสาทแย่งปืนตำรวจ แต่ไม่แน่ใจว่าเป็นที่ใดเพราะผ่านมาหลายปีแล้ว เป็นปืนขนาด .357 แล้วไปยืนถือจังก้าอยู่กลางตลาด ตำรวจวางแผนเข้าแย่งปืนโดยเข้าจากข้างหน้า 1 คนและข้างหลัง 1 คน โดยอาศัยจังหวะที่คนร้ายเผลอหันหน้าไปด้านอื่น คนที่เข้าแย่งปืนจากข้างหน้าจึงออกตัววิ่งเข้าหาคนร้ายทันทีพร้อมๆกับตำรวจอีกคนที่วิ่งมาจากด้านหลัง แต่เนื่องจากระยะทางนั้นไกลไป คนร้ายรู้ตัวหันกลับมายิง 1 นัดเข้าบลริเวณลำตัวตำรวจคนแรกหงายหลังล้มลงทันที แต่ในเบื้องต้นยังไม่เสียชีวิตพยายามดิ้นรนยันตัวลุกขึ้นแต่ไม่ไหว เสร็จแล้วคนร้ายตวัดตัวกลับมายิงตำรวจที่วิ่งมาด้านหลังซึ่งถึงตัวแล้วและพยายามแย่งปืน แต่ไม่สำเร็จ โดยคนร้ายก้าวเบียงตัวถอยไปเล็กน้อยแล้วยิงทันทีบริเวณลำตัว 1 นัด ตำรวจคนที่ 2 ก็ล้มลงทันทีเช่นกัน ตำรวจคนที่ 3 ก็วิ่งเข้ามาพร้อมกับยิงปืนใส่คนร้ายไปด้วยแต่ดูวิถีกระสุนจะลงดินเป็นส่วนใหญ่ จากนั้นบรรดาจากตำรวจที่อยู่รอบๆก็ระดมยิงใส่คนร้ายลายนัดจนล้มลง...

คนร้ายรู้ตัวเพราะไทยมุง เป็นผู้หญิงหวีดร้องขึ้นมาครับ... เลยแว้งตัวยิงตำรวจ...

ได้ทราบอีกข้อว่า  ปืนตำรวจเวลาโดนพิสูจน์หลักฐาน

ก็เหมือนกับปืนชาวบ้านครับ ชุ่ยเหมือนกัน สนิมเพียบ

กลุ่มดีมาครับ ขอชม  ::002:: ว่าแต่ทำไมกระสุนแพงจังครับ ที่บ้านผม 21 - 23 บาทครับ

 ;D ซ้อมที่ไหนครับ อ่าวนาง หรือ คลองท่อม วันหลังเจอกันจะได้ ทักทายกันบ้างครับ  ::002::

บวกให้หนึ่งคะแนนครับสำหรับกรณีศึกษา :D
ผมเห็นว่าเจ้าของกระทู้รอดมาได้เพราะคนร้ายใช้ .32 ครับ
เพื่อนเจ้าของกระทู้แมนเหลือเกินครับหนีตั้งแต่คนร้ายยิงนัดแรก :~)

....กรณีศึกษาที่ 2....
........เมื่อประมาณ 4 - 5 ปีที่แล้ว ผมเข้าสายตรวจรถจักรยานยนต์ เวลาประมาณ 5 ทุ่ม ได้รับแจ้งจากพนักงานวิทยุว่า มีผู้ต้องสงสัยพกพาอาวุธปืนจอดรถจักรยานยนต์
อยู่บริเวณ ถ.เมืองเก่า(สมัยนั้นคนกระบี่น่าจะรู้กันดีนะครับว่ามีคาราโอเกะเยอะมาก)  ผมกับคู่บัดดี้เลยไปบริเวณที่รับแจ้ง แต่ยังไม่เข้าไปนะครับ จอดห่างออกมาประมาณ
100 เมตร มองไปบริเวณดังกล่าว เห็นผู้ต้องสงสัย 2 คน นั่งคล่อมรถจักรยานยนต์ติดเครื่องอยู่ เลยสอบถามพนักงานวิทยุว่าคนไหนเป็นคนพกปืน พนักงานวิทยุแจ้งว่า
คนที่เห็นไม่แจ้งมาว่าคนเป็นไหน ผมเลยปรึกษากับบัดดี้ ได้ข้อสรุปว่าน่าจะเป็นคนนั่งซ้อนท้าย เลยวางแผนว่าผมจะขับรถเข้าชาร์จ แล้วให้บัดดี้กระโดดลงล๊อคตัวคนนั่งท้าย
จากนั้นผมขับรถเข้าประชิดรถผู้ต้องสงสัย ผู้ต้องสงสัยพยายามจะออกรถ ผมเลยเบียดรถผู้ต้องสงสัยไว้ทำให้รถผู้ต้องสงสัยล้ม จังหวะนั้นเองคู่บัดดี้ผมก็กระโดดล๊อคตัวคนนั่งท้าย
ส่วนตัวคนขับได้ทิ้งรถออกวิ่ง ผมได้ทิ้งรถวิ่งตาม ระหว่างที่วิ่งนั้นคนร้ายที่วิ่งได้ชักอาวุธปืน(ลูกซองสั้น)ออกมาถืออยู่ในมือ จังหวะนั้นเองผมเห็น ผมกำลังชักปืนออกจากซองมาถือ
คนร้ายได้หันตัวกลับมาพร้อมทั้งเล็งปืนมาทางผม ระยะห่างไม่เกิน 5 เมตร ผมเห็นว่ายิงไม่ทันแล้วเลยหมอบพร้อมทั้งพยายามเล็งปืนไปที่คนร้าย วินาทีนั้นเองคนร้ายหันตัวกลับ ออกวิ่ง
หนีหายไป ส่วนเพื่อนผมวิ่งมาทันจังหวะที่คนร้ายหายไปแล้ว เลยเรียกกำลังมาค้นหาแต่ไม่เจอ.......
.......ข้อคิดและประเด็น..
1. จังหวะที่คนร้ายหันกลับมาเล็งปืนใส่ผมโดยที่ผมยังชักปืนออกจากซองอยู่แล้วกระโดดหมอบแล้วเล็งปืนจะยิง วินาทีนั้นเองคนร้ายหันหลังกลับ แล้วเกิดผมยิงไปด้วยลูกติดพันเข้าบริเวณข้างหลังคนร้าย
วันนั้นผมคงต้องนอนเอามือก่ายหน้าผากแน่ๆ
......คำถาม....
วินาทีนั้นเป็นเพื่อนๆจะทำอย่างไร จะยิงหรือไม่ยิงครับ.......แสดงความคิดเห็นได้เต็มที่เลยครับ
......ข้อสรุปของผม........
.......การยิงปืนนั้นไม่ยากเลย.......แต่การตัดสินใจว่าจะยิงหรือไม่ยิงนั้นยากกว่า

ปล. คุณ khaophanom ครับ ผมไม่ค่อยได้เข้าสนามทั้งอ่าวนางและคลองท่อม ลูกปืนมันแพงครับ อาศัยหลุมดินเก่าๆพอซ้อมมือสัก 4-5 นัดเพิ่มกำลังใจ ดูกลุ่มกระสุนว่ายังใช้ได้อยู่มั้ย
........เหอๆ......ยิงกระสุนเป็นกล่องคิดหนักครับ......ไม่สมดุลกับกระเป๋าตัง...........

 ด.ต บุญส่งเป็นตำรวจโรงพักเดียวกับผม...ยิงดีมากครับ...ยิงแล้วฉาก  ใจถึงมาก แต่มาโดนกับปืนลูกซองสั้นขณะจะวิ่งออกไปหาคนร้ายอีกคน
คนร้ายคนที่ยิงท่านพอยิงเสร็จก็เสียชีวิตเลย.......งานนี้พูดไม่ออกครับ...................................................................................................
..........................................เมื่อวานมีพิธีพระราชทานเพลิงศพ ขอให้วิญญาณด.ต.บุญส่งไปสู่สุขคติครับ................................................

ขอแสดงความเสียใจต่อครอบครัว ของ ด.ต. บุญส่ง เป็นอย่างยิ่ง ท่านเป็นคนดีมาก ผมเจอท่านเสมอเวลาไปซื้อหนังสือ ร้านเส้งโห 

โจรคนที่ ๓ ก็ไม่รอดครับ โดน ตร. กองปราบอีกชุดจัดการได้แถวขนส่งกระบี่

งงครับ หนีไปทางนั้น จะขึ้นเรือหนีหรือยังไงครับ

เสียใจกับด.ต บุญส่ง ด้วยครับ

ทำไมใช้ข้อความแบบนี้ล่ะครับคนจริงไม่จริงดูกันที่ยิงคนมาหรือ่ปล่าอย่างนั้นหรือครับทำไมท่าทางคุณกระหายเลือดจังเลยเจ้าหน้าที่ที่ไม่เคยดวลกับคนร้ายก็มีเยอะแยะและเมื่อเจอเข้าจริงคุณคิดว่าเขาไม่กล้าหรืออย่างไรคนที่ยิงแต่กระดาษก็ดีแล้วที่เป็นการซ้อมกันไปดีกว่ายิงคนไม่ใช่หรือ
กรณีนี้ผมขอยกย่องที่ตำรวจท่านนี้ได้ทำหน้าท่อย่างกล้าหาญครับ

.....เหตุการณ์วันนั้น...ผมมานั่งคิดทบทวนดูแล้ว...มันเป็นสัญชาตญาณการเอาตัวรอดมากกว่า...ไม่เคยอยากให้ใครๆคิดว่าผมบ้าเลือด
.....และผมเชื่อว่าตำรวจทุกท่านหรือแม้แต่ทุกท่านในที่นี้เจอเหตุการณ์เหมือนกับผมก็ต้องทำอย่างผมเพื่อเอาชีวิตตัวเองให้รอดนะครับ
.....การซ้อมกับเป้ากระดาษเป็นสิ่งที่ดี  ทำให้เราคุ้นเคยกับปืน..................เผื่อสักวันต้องเจอเหตุการณ์ที่เราต้องเอาชีวิตรอด.............

 ::014:: ยินดีที่ได้รู้จักท่านครับ ขอให้แคล้วตลาด และเจริญในหน้าที่การงานครับ  ::014::

 แล้วจะได้กินอะไรมะเนี่ยชาตินี้ . ::008::....เห็นช่องว่างนิดหน่อยไม่ได้ต้องแซว  ::008::

ตอบคำถามครับ...

นายสมชายไม่ใช่ตำรวจ เลยไม่ทราบว่าเวลาจับกุมผู้ต้องสงสัยเขาให้ทำกันอย่างไรครับ... การทำอย่างท้องเรื่องในกระทู้เป็นเรื่องเสี่ยงมาก และอาจถูกคนอื่นหลอกให้ปลดอาวุธศัตรูด้วยครับ...

นายสมชายเห็นตำรวจฝรั่ง(ในภาพยนต์)ใช้วิธีเอามือจับด้ามปืนไว้ แล้วเดินไปแสดงตัวขอตรวจค้น... หากหนี หรือแสดงอาวุธ ก็ค่อยว่าไปตามสถานการณ์ครับ...

กรณีตามสถานการณ์แล้ว... มีคนวิ่งข้างหน้าแว้งตัวพร้อมชักปืนใส่แบบนี้ คงไม่ยิง... อย่างที่ท่านทำแหละครับ ดีแล้วครับ... แสดงว่ายังไม่มีเจตนาเอาเราถึงตาย ปล่อยมันไปก่อนครับ...

ที่อยากย้ำคือ...
ตามสูตรทั่วไป เมื่อพบศัตรูมีอาวุธมาด้วย จะแจ้งตำรวจสายตรวจให้ช่วยปลดอาวุธให้ครับ... หลังจากนั้นจะคอยดักทำร้ายเมื่อประกันตัวออกจากโรงพัก ระหว่างทางกลับบ้าน...

ตำรวจคงต้องหาจุดที่พอเหมาะแหละครับ ระหว่าง 1) ทำตามกฏหมายเป๊ะๆแต่พลเมืองดีโดนปลดอาวุธ... กับ 2) จับกุมผู้พกอาวุธเพราะทำผิดกฏหมาย...

เส้นแบ่งคือเป็นคนดีหรือคนร้ายที่พกอาวุธ... ถ้าเป็นคนดีถูกปลดอาวุธ ก็เป็นเหยื่อให้คนร้าย... แต่ในทางกลับกัน การจับกุมคนร้ายได้ ก็ตัดโอกาสไปกระทำผิดเรื่องอื่นที่ใหญ่กว่า และสามารถขยายผลฯได้อีกด้วยครับ...

ขอบคุณครับ ที่พี่ๆได้นำเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น รวมถึงประสบการณ์ต่างๆ ที่นับเป็นอุทาหรณ์  ::014::

ผมก็ใช้ สมิธฯ M3913 กับกระสุน 9 มม. พาราฯ 124 เกรน หัวบอลอยู่ แต่มีความคิดว่า กำลังจะหาเป็น

115 เกรน หัวรู ไว้ติดปืนเหมือนกันครับ

 ::002:: ::002:: ::002:: ::002:: ::002::

สุดยอดครับ  ::002::บวก1ครับ

เรื่องยิงถูกคนร้ายเข้าด้านหลัง  แล้วผู้ยิงไม่มีความผิด   จำได้ว่า เคยมีตัวอย่างคำพิภากษาศาลฎีกา  นะครับ ลงใน อวป. นี้แหละ
คือ  กรณีนั้นคนร้าย  มาเป็นกลุ่ม เวลากลางคืน  ได้ยิงปืนไส่เจ้าบ้าน  เจ้าบ้านยิงสวนเข้าไปใน แหล่งเสียงปืน   ผล  คนร้ายส่วนใหญ่แตกกระจายหนีไป  โดยทิ้งศพเพื่อนไว้ ถูกยิงเข้ากลางหลัง
มีรอยกระสุนของคนร้ายที่ฝาบ้าน

 ::002:: ::002:: ::002:: ::002::

ครบสูตรครับ +1จากใจจริง
จะนำใช้เป็นแนวทาง ::002::