เว็บบอร์ดสนทนาภาษาปืน

ข้าน้อยได้อ่านแล้ว รู้สึกไม่ดี ไม่รู้จะทำอย่างไร  ::004:: ....เลยเอามาให้พี่ๆ อ่านกันนะเจ้าคะ  

http://www.economist.com/opinion/displaystory.cfm?story_id=12724832

เพื่อนผมเมล์ไปประท้วงแล้วครับ

หนังสือฉบัยนี้ ดูเหมือนดี แต่มีมั่ว และห่วยด้วยครับ ตอนมีเรื่องยิงนักเรียนที่เวอร์ เทคฯ มีบท บก. (เกลียดปืน) ว่า "กล๊อก 19 เป็นอาวุธร้ายแรง ที่ประเทศไหนๆ เขามีใช้แต่นการทหาร/ตำรวจ เท่านั้น แต่เมกาปล่อยให้มีได้ ฯลฯ" มั่วๆ

...อ่านแล้วไม่สบายใจเหมือนกันครับ บทวิเคราะห์ที่ถูกเขียนขึ้นมานั้นแสดงให้เห็นถึงการขาดความเข้าใจในวัฒนธรรม ประเพณีของประเทศเราครับ...

คนอยู่นอกถ้ำ มองเข้ามาในถ้ำ แล้วบรรยายตามความเข้าใจครับ  ::008:: ::008::

ภาษาผมไม่แข็งแรงแต่ พอทราบว่า ไอ้หนังสือพิมพ์นี้มันเป็นขี้ข้าไอ้สิงคโปโตก ซิ่งมันเป็นทาสนายเงินของใครอีกคนที่เป็น นช.

มันก็เป็นของมันแบบนี้ตามปกติ

What is the sh!t they say?

ไม่รู้แล้ววิจารณ์พล่อยๆไปเรื่อย

อ่านแล้วรู้สึกไม่ดีครับ

คนที่ไม่ได้อยู่ใต้ร่มพระบารมีของพ่อหลวงแบบพวกเราคงไม่เข้าใจและไม่มีวันเข้าใจหรอกครับ

ที่แน่ๆตอนแรก ผมสองจิตสองใจว่าจะสมัครสมาชิกดีหรือเปล่า เพราะค่ายนี้คาดเดาอะไรไว้
ในข้อเขียนแล้วไม่ค่อยจะตรง แต่ดีตรงที่แยกแยะ ความจริงกับความเห็นอย่างชัดเจน แต่พออ่าน
เรื่องนี้ ตอบได้เลยว่า....ไม่ได้กินเงินเราแน่

ผมก็ยังคงยืนยันว่า บ้านเรา  เราคนไทยต้องเป็นคนปัดกวาด
ช่างหัวฝรั่งมัน
ความเคารพนับถือศรัทธาของคนไทยต่อพระเจ้าแผ่นดินของพวกเขา ฝรั่งไม่มีวันเข้าใจ
ต่อให้ฝรั่งในอังกฤษ ในสวีเดน ในนอร์เวย์ ที่มีพระเจ้าแผ่นดิน ก็ไม่เข้าใจ
สังคมแตกต่างกัน  ประวัติศาสตร์แตกต่างกัน

เสริม...ไอ้ The Economists เนี่ย
ผมเลิกอ่านมาพักนึงแล้ว
ตั้งแต่มันลงเรื่องในเมืองไทย....แบบคนไม่รู้จริง
ผมก็เลยเชื่อว่า มันเขียนเรื่องมาเลเซีย  เรื่องอาร์เจนตินา  เรื่อง ฯลฯ ก็เขียนแบบคนนอก
ไม่รู้จริงเช่นกัน

ย้ำครับ...ช่างหัวฝรั่งมัน

อย่างนั้นแหละ แคร์ไปทำไมฝรั่ง มันก็มุ่งแต่ธุรกิจของมันนั่นแหละ พอเศรษฐกิจเราดีมันก็มาลงทุน
พอมีปัญหามันก็ถอนทุนกลับ เหลือแต่พวกเราคนไทยที่ไม่ทิ้งคนไทยด้วยกัน
+ครับ

ภูมิใจครับที่ผมก็ครอบครองอาวุธสงครามด้วยครับพี่

สงสัยไอ้ บ.ก. นิตยสารเล่นนี้จะส่งบทความให้ข้าราชการ

ในกระทราวงมหาดไทยอ่านด้วย อิๆ

นั่นสิครับ

อือม์ ผมว่าเมื่อก่อนทั้งไทย ทั้งเทศ ไม่มีเรื่องความเห็นแบบนี้หรอกครับ โผล่มาพร้อมๆ กับที่คนหน้าเหลี่ยมขายชาติไทยคนหนึ่งทำเหิมเกริมอยากใหญ่โตนี่แหละ

;D

คอมเม้นท์น่าสนใจครับ...::002::

บ้านเมืองของไทย......วัฒนธรรมของไทย...........การปกครองของไทย...........เป็นเอกลักษณ์ของไทย

จะเปรียบเทียบกับบ้านเมืองอื่่นๆ...วัฒนธรรมอื่่นๆ...การปกครองอื่่นๆ....ไม่ได้หรอก.......

แต่ละชาติ...แต่ละภาษา...แต่ละท้องถิ่น...ยังมีวัฒนธรรมแตกต่างกันไป....

หนังสือพิมพ์ต่างชาติ...มันเขียนในมุมมองของมันเอง...ในสังคมวัฒนธรรมของมันเอง....อ่านไปแล้วรู้ไว้ใช่ว่า..แต่อย่านำมาใส่ใจ...

เหมือนกับคนไทยคนหนึ่งได้ทุนไปเรียนต่างประเทศกลับมา....พูดไทยไม่ได้..ต้องพูดฝรั่ง...แต่ประทานโทษ...สำเนียงเด็กชาวเขายังพูดดีกว่า...แลัววันดีคืนดี...มันก็เนรคุณประเทศชาติ...ผลกรรมที่มันกำลังได้รับ...........ไม่มีแผ่นดินอยู่

ผมไม่แคร์ว่าฝรั่งว่าไง  ตราบใดที่คนไทยเราเองเข้าใจและพยายามช่วยกันแก้ปัญหาครับ  แต่ว่าเรายังมีคนไทยอีกหลายคนที่ไม่เข้าใจ  หรือเข้าใจแต่ตั้งใจทำลายระบบของเราเพราะความอยากเป็นใหญ่  หรืออยากให้บางคนเป็นใหญ่เพื่อประโยชน์ของเจ้านายมันเท่านั้น

ขอบคุณคุณโบว์ที่หาข้อมูลมาให้อ่านครับ   แต่เรื่องแบบนี้ไม่ใหม่หรอกครับ  20 กว่าปีก่อนฝรั่งคิดว่าไทยก็ต้องเป็น คอมมิวนิสต์เหมือนประเทศเพื่อนบ้าน  ผมบอกเพื่อนๆฝรั่งที่เคยอยู่มาเลย์ว่า  พวกมึงไม่เข้าใจคนไทยใช่ไหม  ไม่มีทางที่คนไทยจะเป็นคอมมิวนิสต์เด็ดขาดเพราะเรามีสถาบันที่เราเคารพ   ตอนนี้ก็ไม่มีทางครับ  

เรื่องจะมีระบบอื่นๆน่ะ  ถ้ารากหญ้ารู้เจตนา  ผมก็ว่าไม่มีทางเช่นกัน  มั่นใจในระบบที่เรามีและทำหน้าที่ปกป้องสถาบัน ตั่งแต่ในระดับส่วนตัวอย่างเช่นคุยกับเพื่อนๆ  จนถึงในระดับส่วนรวมเช่นการร่วมถวายความเคารพในที่สาธารณะอย่างเปิดเผย   ไม่มีอีแอบที่ไหนหรือชาติไหนทำอะไรเราได้ง่ายๆหรอกครับ  

ขอบคุณเจ้าค่ะ ตอนนี้รู้สึกดีขึ้นแล้ว.......แรกๆ ก็ไม่สบายใจ เพราะข้อความใน article มันรุนแรงกว่าที่ข้าน้อยคิดไว้มาก

เพราะตั้งแต่ตอนไปบาหลี....เพื่อนชาวต่างชาติ มาคุยกับข้าน้อย สอบถามกันใหญ่ว่าเมืองไทยเป็นอย่างไรบ้าง ให้ระวังตัวด้วย เขาเป็นห่วง อย่างโน่น อย่างนี้....ข้าน้อยยังยิ้ม หัวเราะ แล้วตอบเพื่อนไปว่าไม่ต้องเป็นห่วงหรอก ในประเทศไทยไม่มีอะไรรุนแรงหรอก เพราะคนไทย ยังไงก็เป็นคนไทย เราก็แค่คิดเห็นไม่ตรงกัน แบ่งเป็นฝ่ายคนที่รักทักษิณ กับคนที่ไม่รักทักษิณก็เท่านั้นเอง

แต่หลายๆ คนก็พูดถึงเรื่องที่พระราชินีเสด็จไปงานศพ แล้วเขาก็บอกว่าไม่สมควร ราชวงศ์ไม่ควรยุ่งเกี่ยวกับการเมือง...พอถึงตรงนี้ข้าน้อยก็พูดอธิบายไม่ถูก ภาษาไทยยังพูดลำบาก ให้พูดอังกฤษ เลยไม่พูดดีกว่า ..... ได้แต่บอกว่าคนไทยรักในหลวง ซึ่งตอนนั้นก็มีชาวออสเตรเลียซึ่งเคยมาเมืองไทย พูดขึ้นมาว่า "จริงๆ นะ คนไทยเค้ารัก เคารพในหลวงมากนะ พวกเขาจะใส่เสื้อเหลืองกันวันจันทร์ด้วย เพราะในหลวงชอบสีเหลือง" ข้าน้อยเลยพูดแก้ไขไปว่าไม่ใช่เพราะท่านชอบสีเหลือง แต่เพราะท่านเกิดวันจันทร์ คนไทยจึงใส่สีเหลืองในวันจันทร์ และใส่สีฟ้าในวันศุกร์ เพราะเป็นวันเกิดของพระราชินี...

เท่านั้นแหละ ฝรั่งคนอื่นที่ฟังอยู่หัวเราะขึ้นมา แล้วพูดว่า "ตลกดีนะประเทศนี้ ใส่เสื้อสีเหลืองในวันจันทร์ โดนบังคับใช่ไหม ถ้าไม่ใส่ตำรวจจับหรือเปล่า"....ข้าน้อยตอบว่าไม่ ไม่มีการบังคับ ไม่มีตำรวจจับ ไม่มีอะไรทั้งนั้น คุณจะไม่ใส่ก็ได้ ไม่มีใครว่าอะไรคุณ แต่คนไทยอยากใส่กันเอง เราอยากแสดงให้เห็นว่า คนไทยเรารักในหลวง.........

หลังจากวันนั้น ข้าน้อยก็คิดอยู่ว่าฝรั่งต่างชาติคงไม่เข้าใจหรอกว่าทำไมเราถึงรักในหลวง ทำไมเราถึงทำอะไรอย่างนั้น...แต่ก็ไม่คิดว่าเขาจะเข้าใจระบบกษัตริย์ผิดๆ ถึงขนาดที่เขียนใน article

แต่ตอนนี้ก็รู้สึกดีขึ้นแล้วค่ะ เพราะรู้ว่ามีต่างชาติอีกเยอะแยะมากมายที่เข้าใจ และเทิดทูนในหลวงเขาเรา เพราะเขารู้ว่าในหลวงทำอะไรให้คนไทยเราไว้บ้าง   :)

คนต่างชาติไม่มีวันเข้าใจครับ
ผมเคยมีเพื่อนชาวต่างชาติเป็นชาวปากีสถาน  ระหว่างขับรถพาเขาเที่ยวในกรุงเทพ เขาถามถึงเรื่องเงินปีที่รัฐบาลไทยถวายพระเจ้าอยู่หัว
ผมก็ไม่รู้เหมือนกันว่าเรามีการถวายเงินปีแบบอังกฤษหรือเปล่า แต่ด้วยรูปแบบคำถามและน้ำเสียง...เขาถามเป็นทำนองไม่ให้เกียรติในหลวงเลย
ผมโกรธจนสั่น...แต่ด้วยเห็นว่าเป็นเพื่อน (เพื่อนเมีย)...ผมบอกว่าคนไทยเต็มใจถวายเงินและบอกเขาว่า อย่าได้ถามคำถามทำนองนี้กับคนไทยคนอื่นนะ...มันอันตรายสำหรับตัวยูเอง

ลองหาอ่านคอลัมน์จดหมายของ นสพ. เดอะเนชั่น วันนี้สิครับ  ดร.สุเมธ ชุมสายฯ เขียนตอบโต้คอลัมน์ของ The Economists เอาไว้ (ผมจะลอกมาลงก็ยาวเหลือเกิน)

 :) กระทรวงการต่างประเทศดำเนินการแล้วครับ

(http://www.khonkaenlink.info/upload/uploads/acc5312bd4.jpg) (http://www.khonkaenlink.info/upload)

อ่านแล้วไม่แปลกใจ ใครที่อยู่เบื่องหลัง ที่จ้าง The Economist เขียน
เป็นการกระทำของ หมาจนตรอก จริงๆ ที่ได้แต่เห่า

สื่อรับจ้าง