|
หัวข้อ: ... เนื้อปลาอะไรครับผม ... เริ่มหัวข้อโดย: แจ็ค ที่ ธันวาคม 25, 2008, 02:42:29 PM ... สวัสดีครับ ... เมื่อวันก่อนได้ไปซื้อปลาที่ชำแหละใส่ถุงขายจากร้านขายอาหารทะเล ซึ่งก็จะมาพร้อมกับพวกลูกชิ้น ปลาหมึกสด ปลาเส้น ฯ เอาเป็นว่าชุดสุกี้ครบชุดน่ะครับผม แต่มาสงสัยเอาตรงปลาสดที่คนขายบอกว่าเป็นปลากระพงแดง พอนำมาต้มในหม้อแล้วทำไมถึงได้แข็ง ๆ พอ ๆ กันกับเนื้อหมูด้วยซ้ำไป ไม่นิ่มเหมือนเนื้อปลาทั่วไป รสชาติก็ออกไปทางไหนบอกไม่ถูก จึงอยากเรียนถามพี่ ๆ ทีอยู่แถวทะเล หรือว่าท่านทีมีความรู้เรื่องพวกนี้ว่าเป็นเพราะเหตุใด หรือว่าเขาใส่อะไรมา หรือว่าเป็นปลาอื่นที่ไม่ใช่ปลากระพงแดง แล้วทำไมคนขายจึงพูดอย่างเชื่อมั่นเล่าครับว่า ปลากระพงแดง ช่วงนี้ใกล้เทศกาลปีใหม่แล้ว หลายบ้านคงมีการฉลองกันจะได้ทราบกันไว้ล่วงหน้า ... ครับผม .... หัวข้อ: Re: ... เนื้อปลาอะไรครับผม ... เริ่มหัวข้อโดย: 51 ที่ ธันวาคม 25, 2008, 02:46:42 PM ปลากระพงแดง...เป็นปลาเนื้อแข็งอยู่แล้วครับ ท่านแจ็ค
ยิ่งถ้าเป็น กระพงแดง ขนาดใหญ่ ๆ ตัวละร่วม ๆ 80 กก. ล่ะก็... เนื้อจะค่อนข้างหยาบ และแข็งมากครับ... รสชาติของเนื้อปลากระพงแดง จะแตกต่างไปจากปลากระพงขาวมาก ครับ จากนิ้ว...ที่จิ้มแป้น... หัวข้อ: Re: ... เนื้อปลาอะไรครับผม ... เริ่มหัวข้อโดย: @สิบฤทัย@ ที่ ธันวาคม 25, 2008, 02:48:06 PM ปลากระพงแดง...เป็นปลาเนื้อแข็งอยู่แล้วครับ ท่านแจ็ค แต่ไม่ใช่ปลาปักเป้าทะเลแน่ๆใช่ไหมครับยิ่งถ้าเป็น กระพงแดง ขนาดใหญ่ ๆ ตัวละร่วม ๆ 80 กก. ล่ะก็... เนื้อจะค่อนข้างหยาบ และแข็งมากครับ... รสชาติของเนื้อปลากระพงแดง จะแตกต่างไปจากปลากระพงขาวมาก ครับ จากนิ้ว...ที่จิ้มแป้น... หัวข้อ: Re: ... เนื้อปลาอะไรครับผม ... เริ่มหัวข้อโดย: SingCring ที่ ธันวาคม 25, 2008, 02:50:08 PM ปลากระพงแดง
(http://www.bloggang.com/data/lucky/picture/1203433188.jpg) แต่ยังไงขออย่าให้เป็นปลาปักเป้าละกันครับ ::014:: ::014:: หัวข้อ: Re: ... เนื้อปลาอะไรครับผม ... เริ่มหัวข้อโดย: 51 ที่ ธันวาคม 25, 2008, 02:51:37 PM บางท่าน....บอกว่า เนื้อปลากระพงแดง...นั้น
จะมีกลิ่นนิด ๆ ครับ.... โดยทั่วไปแล้ว....กรณีที่ผมทำอาหารเองที่บ้าน... ผมจะไม่ใช้ปลากระพงแดงเลยครับ.... กรณีหากจะเนื้อปลาไปต้ม..... ผมแนะนำให้ใช้ ปลาเก๋าหรือปลากะรัง...จะได้รสชาติกว่าครับ เพราะเนื้อปลาจะแข็ง...และไม่เละ เวลาโดนความร้อน ครับ หรือท่านจะใช้ปลาเก๋าหรือปลากะรัง ทอด...ก็ได้ครับ....คริ คริ จากนิ้ว...ที่จิ้มแป้น.... หัวข้อ: Re: ... เนื้อปลาอะไรครับผม ... เริ่มหัวข้อโดย: 51 ที่ ธันวาคม 25, 2008, 02:53:53 PM ปลาปักเป้า...นั้น ผมไม่แนะให้ทาน ครับ คริ คริ
ควรหลีกเลี่ยงเป็นอย่างยิ่ง ครับ คริ คริ ขนาด...ในร้านญี่ปุ่น...แถว ๆ ซอยทองหล่อ บางร้านมีใน menu ผมยังมิกล้าสั่งเลย ครับ...ท่านสิบหัวใจ ท่าน SingCring คริ คริ หัวข้อ: Re: ... เนื้อปลาอะไรครับผม ... เริ่มหัวข้อโดย: 51 ที่ ธันวาคม 25, 2008, 02:57:04 PM การใช้ปลากระพงแดง..ในการประกอบอาหาร...
ทั้งใน MK และอื่น ๆ ถือเป็นการลดต้นทุนอย่างหนึ่งครับ... หัวข้อ: Re: ... เนื้อปลาอะไรครับผม ... เริ่มหัวข้อโดย: SingCring ที่ ธันวาคม 25, 2008, 02:58:26 PM ร้านอาหารญี่ปุ่น ยังพอสามารถไม่สั่งมากินได้
แต่ผมกลัวไปเจอแถวร้านหมูกระทะมากกว่าครับ :<< :<< หัวข้อ: Re: ... เนื้อปลาอะไรครับผม ... เริ่มหัวข้อโดย: 51 ที่ ธันวาคม 25, 2008, 03:00:21 PM ไม่ต้องกังวลเลย ครับ ท่าน SingCring
เพราะปักเป้านั้น.......หากทานเข้าไปเยอะ ๆ ในปริมาณมาก ๆ ยิ่งไม่ต้องกังวลใหญ่ครับ คริ คริ เพราะความกังวลจะหมดไป...ครับท่าน หัวข้อ: Re: ... เนื้อปลาอะไรครับผม ... เริ่มหัวข้อโดย: SingCring ที่ ธันวาคม 25, 2008, 03:03:52 PM ไม่ต้องกังวลเลย ครับ ท่าน SingCring เพราะปักเป้านั้น.......หากทานเข้าไปเยอะ ๆ ในปริมาณมาก ๆ ยิ่งไม่ต้องกังวลใหญ่ครับ คริ คริ เพราะความกังวลจะหมดไป...ครับท่าน ::007:: ::007:: หัวข้อ: Re: ... เนื้อปลาอะไรครับผม ... เริ่มหัวข้อโดย: yod - รักในหลวง ครับ ที่ ธันวาคม 25, 2008, 03:05:28 PM แต่ก่อนจะหมดกังวลนี่สิครับ
ปากชา ใจสั่น หัวข้อ: Re: ... เนื้อปลาอะไรครับผม ... เริ่มหัวข้อโดย: 51 ที่ ธันวาคม 25, 2008, 03:06:19 PM หากท่านใด..ต้องการเปรียบเทียบกัน ระหว่างเนื้อปลากระพงแดงกับเนื้อปลาปักเป้า
สามารถ click ได้ที่ ตัวอักษรสีเหลือง ครับ คริ คริ ร๊ากกกก น้อง 51 (http://www.arunsawat.com/board/index.php?topic=4890.msg38276) จากนิ้ว...ที่จิ้มแป้น... หัวข้อ: Re: ... เนื้อปลาอะไรครับผม ... เริ่มหัวข้อโดย: 51 ที่ ธันวาคม 25, 2008, 03:12:32 PM ขอให้ทุกท่านมีความสุข กับ sea food นะครับ
แต่ขอเรียนให้ทราบว่า...ของสด ๆ แทบจะไม่มีอ่ะครับ ช่วงปีใหม่ เพราะ...เรือไม่ได้ออกทะเล ครับ คริ คริ จากนิ้ว...ที่จิ้มแป้น... หัวข้อ: Re: ... เนื้อปลาอะไรครับผม ... เริ่มหัวข้อโดย: SingCring ที่ ธันวาคม 25, 2008, 03:13:52 PM ขอบคุณสำหรับข้อมูลมากครับ :D :D :D ๑ แต้มครับ ;D
หัวข้อ: Re: ... เนื้อปลาอะไรครับผม ... เริ่มหัวข้อโดย: 51 ที่ ธันวาคม 25, 2008, 03:17:20 PM ด้ามขวานและ ซศ. มีความคุ้นเคยกันมาอย่างยาวนาน ครับ
รับใช้ด้วยความยินดีครับ คริ คริ ขอบพระคุณเช่นกันครับ...ท่าน SingCring จากนิ้ว...ที่จิ้มแป้น... หัวข้อ: Re: ... เนื้อปลาอะไรครับผม ... เริ่มหัวข้อโดย: submachine -รักในหลวง- ที่ ธันวาคม 25, 2008, 03:37:10 PM สุภาษิตญี่ปุ่นบอกว่า
"ใครไม่กิน ปลาปักเป้าเป็นคนโง่ ใครกินปลาปักเป้า ก็เป็นคนโง่" หัวข้อ: Re: ... เนื้อปลาอะไรครับผม ... เริ่มหัวข้อโดย: แจ็ค ที่ ธันวาคม 25, 2008, 03:37:38 PM .... กราบขอบพระคุณครับ ที่ตอบมาซะละเอียดยิบเลย สบายใจไปมากเลยครับผม ..... บังเอิญชอบเมนูปลาอยู่แล้วครับ เลยต้องตั้งกระทู้ให้ความกระจ่างหน่อย ... ครับผม ...
(http://www.pixnice.com/upload/files/ndjemkitl5gy2tn03hzu.jpg) (http://www.pixnice.com/upload/) หัวข้อ: Re: ... เนื้อปลาอะไรครับผม ... เริ่มหัวข้อโดย: VENDY ที่ ธันวาคม 25, 2008, 09:01:20 PM เนื้อปลาป๊กเป้า จะคล้ายสันในไก่ค่ะ
เมื่อก่อนจะเอามาขายในร้าน หมูกระทะ ตามตลาดสดพักนึงเอามาขายเรียกปลา เนื้อไก่ ซีลขายถุงละ 2 โล หัวข้อ: Re: ... เนื้อปลาอะไรครับผม ... เริ่มหัวข้อโดย: แจ็ค ที่ ธันวาคม 25, 2008, 09:13:23 PM .... ถ้าอย่างนั้นก็แสดงว่าเนื้อปลาปั๊กเป้า บางชนิดก็ไม่เป็นพิษซิครับ เพราะถ้ามีวางขายได้ตลอดอย่างที่หมอเอ๋ว่า แต่ทำไมพักหลังมานี้จึงเจอแต่ที่เป็นพิษล่ะครับผม .... (http://www.pixnice.com/upload/files/xmn4tuymmz202knzutwn.jpg) (http://www.pixnice.com/upload/) หัวข้อ: Re: ... เนื้อปลาอะไรครับผม ... เริ่มหัวข้อโดย: ชยันโต ที่ ธันวาคม 25, 2008, 09:31:46 PM กินปลาแล้วสายตาไม่สั้น .. อันนี้เขาว่ามา
ผมก็สงสัย แต่เขาก็ให้เหตุผลว่า เคยเห็นแมวใส่แว่นสายตาไหม .. ;D ;D :~) หัวข้อ: Re: ... เนื้อปลาอะไรครับผม ... เริ่มหัวข้อโดย: VENDY ที่ ธันวาคม 25, 2008, 09:32:28 PM เอ๊...อันนี้เอ่ไม่ทราบนะคะพี่แจ๊ค แต่จากที่เห็นตอนนั้นก้ไม่รู้ค่ะว่าปลาปั๊กเป้า
เห็นเขียนว่าปลาเนื้อไก่ และอีกประมาณ 1-2 อาทิตย์ เห็นลงข่าวนะค่ะพี่ว่าเนื้อปลาปั๊กเป้า :OO หัวข้อ: Re: ... เนื้อปลาอะไรครับผม ... เริ่มหัวข้อโดย: แจ็ค ที่ ธันวาคม 25, 2008, 09:47:57 PM .... เรื่องซื้ออาหารทะเลนี้ ต้องระมัดระวังมากเลยครับ เพราะว่าบ้านอยู่ทางเหนือห่างไกลจากทะเล มีอยู่ครั้งหนึ่งซื้อปลาหมึกมาต้มยำน้ำใส กะว่าจะเอาให้อร่อยสุด ๆ สมกับที่อยากมานานเนื่องเพราะเกรงจะมียาหรือสารอย่างอื่นผสมมาน่ะครับ จัดการล้างจนสะอาดีพอใส่น้ำเดือนเท่านั้นแหละครับผม น้ำเป็นสีขาวขุ่น ฟองขาว ๆ เต็มหม้อตักออกก็แล้ว ช้อนออกก็แล้วมีฟองออกมาตลอด จนแม่บ้านมาเห็นไม่ยอมให้กิน เสร็จน้องหมาหมดเลย ..... สอบถามเพื่อน ๆ ก็ตอบเอาสีข้างเข้าถู ไม่รู้จริงแท้กันสักคนแต่คงมียา หรือสารอะไรสักอย่างเพราะต้องเดินทางไกลกว่าจะมาถึง .... เฮ้อ .... เลยอดเลยมื้อนั้น ..... (http://www.pixnice.com/upload/files/5zmjozdgjowiwmlmczi3.jpg) (http://www.pixnice.com/upload/) หัวข้อ: Re: ... เนื้อปลาอะไรครับผม ... เริ่มหัวข้อโดย: -Joke- ที่ ธันวาคม 25, 2008, 10:43:38 PM ทางที่ดีหาไอ้เก๋ามากินดีกว่าครับ
อร่อยกว่ากันเยอะด้วย อิอิอิ ขอบคุณพี่ 51 ด้วยครับ ที่นำข้อมูลมาให้ ^^ หัวข้อ: Re: ... เนื้อปลาอะไรครับผม ... เริ่มหัวข้อโดย: C-bird รักในหลวง ที่ ธันวาคม 26, 2008, 07:51:36 AM เนื้อปลาป๊กเป้า จะคล้ายสันในไก่ค่ะ เมื่อก่อนจะเอามาขายในร้าน หมูกระทะ ตามตลาดสดพักนึงเอามาขายเรียกปลา เนื้อไก่ ซีลขายถุงละ 2 โล ถูกต้องเลยครับ ::002:: ::002:: ผมเลิกทานปลาเนื้อไก่ตามร้านหมูกะทะไปนานแล้ว เพราะเสี่ยงสูงต่อการกินปลาสายันต์ (ปักเป้า) ที่ผู้ชำแหละไม่ผ่านการตรวจสอบ(เผลอๆใบต่างด้าวยังไม่มีเลยครับ ไม่ใช้ใครอื่นหรอก ก็เหล่าพม่า พมอญ เพื่อนบ้านเรานั่นไงครับ) ถามว่าเป็นชนิดเดียวกับที่มีพิษไหมเท่าที่ทราบเป็นกลุ่มเดียวกัน เดี๋ยวไปเช็คให้อีกทีครับของเวลาหน่อย เผลอๆ วันนี้อาจปะหน้าอาจารย์ธรณ์ เดี๋ยวถามท่านดู แม้พวกที่มีพิษถ้าชำแหละโดยไม่โดนพวกเครื่องใน หรือไข่ปลาก็สามารถทานได้ไม่มีปัญหา ปลาสายันต์บางจำพวกก็ไม่มีพิษ เช่นปลาปักเป้าที่มีเกราะหุ้มต้ว (ปลากล่อง: เห็นลูกน้องเอามาย่างกินแกล้มสุรากัน) ประมงท่านพยายามป้องกันผู้บริโภคก็เลยออกกฏหมายรวมๆ กันไปเลยครับว่าห้ามจำหน่ายปลาตระกูลปักเป้า ทางที่ดีหลีกเลี่ยงได้ดีที่สุดครับ สองสามปีที่แล้วผมไปเจอพี่เป้าขี้นท่าเรือประมงประมงที่ปากน้ำชุมพร ร่วมตัน เป็นสายันต์(ปักเป้า)เหลืองครับ และเมื่อปีที่แล้วผู้การกองคดีเศรษฐกิจท่านก็จับได้ที่มหาชัยหลายตันครับ โดยที่วไปเป็นปลามาจากนอกน่านน้ำไทย (อินโด พม่า) บ้านเราปลาเกือบหมดแล้ว พิษปลาปักเป้าเท่าที่ทราบ เป็นพิษกลุ่มที่ทนทานต่อความร้อนครับ :OO :OO ท่าสมาชิกท่านอื่นที่ทราบช่วยเสริมเพิ่มเติมด้วย เพราะกรณีปลาปักเป้าแปรรูปเป็นการกระทบความเชื่อมั่นของผู้บริโภคอย่างแรง ล่าสุดได้ยิน (ต้องย้ำว่าเป็นการลือกันครับ เพราะไม่เห็นด้วยตา) ว่าแปรรูปเป็นทอดมันที่ยังไม่ผ่านการทอด ขายกันเป็นแพ็คที่ตลาดสด รวมทั้งปลาเส้น (คล้ายทาโร่) ที่ขายกันเป็นกิโลๆและไม่มีฉลากติด เท็จจริงอย่างไรผู้ใดทราบก็ช่วยๆกันบอกเพื่อนสมาชิกด้วยครับ หัวข้อ: Re: ... เนื้อปลาอะไรครับผม ... เริ่มหัวข้อโดย: submachine -รักในหลวง- ที่ ธันวาคม 26, 2008, 07:58:46 AM เรื่องของฟุกุ จริงๆ ต้องท่านอนิกิ
ปลาปักเป้า (puffer fish, globe fish, Fugu) พบทั้งในน้ำจืดและน้ำทะเล มีประมาณ 100 ชนิด แต่ที่ทำให้เกิดพิษมีประมาณ 50 ชนิด และพบในประเทศไทยประมาณ 20 ชนิด เนื้อของปลาปักเป้าไม่มีพิษ หรือมีพิษน้อย พิษมีมากที่ไข่ ตับ กระเพาะ ลำไส้ ผิวหนัง และพิษของปลาจะเพิ่มมากขึ้นในฤดูปลาวางไข่ ปลาปักเป้าตามทฤษฎีจะเริ่มสะสม Toxin จากสาหร่ายอื่น ๆ ตัวมันไม่ได้ผลิตเอง เพราะฉะนั้นจึงมีรายงานว่าบางชนิดมีพิษ บางชนิดไม่มีพิษ แต่บางทฤษฎีบอกว่าตอนปลามีไข่อ่อนจะผลิตได้บ้าง ตัวปลาปักเป้าไม่มี Receptor ที่ Sodium channel จึงไม่ Sensitive กับ Toxin สารพิษ สารที่แยกได้จากปลาปักเป้ามี 2 ชนิด คือ Tetrodonine และ Tetrodonic acid ซึ่งเมื่อผ่านกรรมวิธีต่าง ๆ แล้วได้สาร Tetrodotoxin อาการพิษจากสาร Tetrodotoxin จะเกิดขึ้นหลังรับประทานปลาปักเป้าประมาณ 30 นาที ถึงหลายชั่วโมง แล้วแต่ปริมาณที่รับประทาน อาการที่เกิดขึ้นแบ่งเป็น 4 ขั้น คือ ขั้นแรก ชาที่ริมฝีปาก ลิ้น ปลายนิ้วมือ คลื่นไส้ วิงเวียน อาเจียน กระสับกระส่าย ขั้นที่สอง ชามากขึ้น อาเจียนมาก อ่อนเพลีย แขนขาไม่มีแรง ยืนและเดินไม่ได้ ขั้นที่สาม เคลื่อนไหวแขนขาไม่ได้ พูดลำบากจนถึงพูดไม่ได้ เนื่องจากสายกล่องเสียงเป็นอัมพาต ผู้ป่วยยังรู้สึกตัว ขั้นที่สี่ กล้ามเนื้อเป็นอัมพาตทั่วไป หายใจลำบาก เขียวคล้ำ หมดสติ รูม่านตาโตเต็มที่ไม่มีปฏิกิริยาต่อแสง ถ้าไม่ได้รับการ รักษาที่ถูกต้องผู้ป่วยจะเสียชีวิตในเวลาอันรวดเร็ว อาการอาจแรงขึ้นจากขั้นแรกถึงขั้นที่สี่ในเวลาเพียง 10-15 นาทีเท่านั้น การรักษา เนื่องจากยังไม่มียาแก้พิษจึงรักษาตามอาการ และเนื่องจากพิษจะถูกขับทางปัสสาวะ การให้ยาขับปัสสาวะจะช่วยให้พิษถูก ขจัดออกได้เร็วขึ้น ยาเสตียรอยด์มีประโยชน์ในการลดอาการบวมของสมอง คุณสมบัติของสาร Tetrodotoxin ชื่ออื่น ๆ TTX, maculotoxin, sheroidine, tarichatoxin, fugu poison สูตรโครงสร้าง C11H17O8N3 น้ำหนักโมเลกุล 319.28 สารพิษนี้ทนต่อความร้อนสูงกว่า 200° C การต้ม, ทอด, ย่าง ไม่สามารถทำลายสารนี้ได้ ในสภาพ pH เป็นกรด พิษจะอยู่ได้นานแต่จะสลายตัวได้เร็วใน pH ที่เป็นด่าง ค่าความเป็นพิษ LD50 i.p. in mice 8-10 ไมโครกรัมต่อน้ำหนักตัว 1 กิโลกรัม อัตราการตายจากคนที่กินแล้วเกิดอาการ 60% ศูนย์ข้อมูลพิษวิทยา (http://webdb.dmsc.moph.go.th/ifc_toxic/a_tx_2_001c.asp?info_id=168) หัวข้อ: Re: ... เนื้อปลาอะไรครับผม ... เริ่มหัวข้อโดย: C-bird รักในหลวง ที่ ธันวาคม 26, 2008, 08:27:35 AM ::014:: ::014:: ขอบคุณท่านซับมาชีนที่แนะนำครับ ::014:: ::014::
หัวข้อ: Re: ... เนื้อปลาอะไรครับผม ... เริ่มหัวข้อโดย: จอยฮันเตอร์ ที่ ธันวาคม 26, 2008, 08:32:16 AM ปลากระพงแดง...เป็นปลาเนื้อแข็งอยู่แล้วครับ ท่านแจ็ค แต่ไม่ใช่ปลาปักเป้าทะเลแน่ๆใช่ไหมครับยิ่งถ้าเป็น กระพงแดง ขนาดใหญ่ ๆ ตัวละร่วม ๆ 80 กก. ล่ะก็... เนื้อจะค่อนข้างหยาบ และแข็งมากครับ... รสชาติของเนื้อปลากระพงแดง จะแตกต่างไปจากปลากระพงขาวมาก ครับ จากนิ้ว...ที่จิ้มแป้น... หัวข้อ: Re: ... เนื้อปลาอะไรครับผม ... เริ่มหัวข้อโดย: Chayanin-We love the king ที่ ธันวาคม 26, 2008, 10:26:37 AM ถ้าชอบปลา เก๋า กระพงขาว ปลาม้า ลองติดต่อผุ้เลี้ยงปลากระชังดีๆ ให้เขาส่งขึ้นรถทัวร์มาก็ได้
ปลาจากเรือประมง กว่าจะเข้าฝั่ง กว่าจะออกจากแพ กว่าจะมาถึงห้าง ถึงเรา ก็หลายวันอยู่ ส่วนปลากระชังน็อคน้ำแข็งมา ไม่เกินวันถึงเลย หัวข้อ: Re: ... เนื้อปลาอะไรครับผม ... เริ่มหัวข้อโดย: แจ็ค ที่ ธันวาคม 26, 2008, 10:34:40 AM ถ้าชอบปลา เก๋า กระพงขาว ปลาม้า ลองติดต่อผุ้เลี้ยงปลากระชังดีๆ ให้เขาส่งขึ้นรถทัวร์มาก็ได้ ปลาจากเรือประมง กว่าจะเข้าฝั่ง กว่าจะออกจากแพ กว่าจะมาถึงห้าง ถึงเรา ก็หลายวันอยู่ ส่วนปลากระชังน็อคน้ำแข็งมา ไม่เกินวันถึงเลย .... ถ้าอย่างผมนี้ อยู่ทางเหนือมิเป็นหลาย ๆ วันเลยหรือครับ ถึงว่าต้มทีไรเป็นฟองเลย .... ชักกลัวมากกว่าเก่าอีกแล้วครับผม .... (http://www.pixnice.com/upload/files/ifwozdt3jweqgkyni2zo.jpg) (http://www.pixnice.com/upload/) หัวข้อ: Re: ... เนื้อปลาอะไรครับผม ... เริ่มหัวข้อโดย: soveat ชุมไพร ที่ ธันวาคม 26, 2008, 10:46:09 AM น้องเมียผมอยู่มหาชัย บอกว่า ปลาหมึก อาหารทะเลทั้งหลายแหล่นั้นหนา มันเอาเรือเล็กไปทอยมาจากเรือใหญ่อีกที ซึ่งเรือใหญ่นั้นหนอมันออกทะเลทีสามเดือนห้าเดือนกว่าจะเข้าฝั่ง ไม่รู้ว่าของเก่าหรือของใหม่กันที่กินกันอยู่เนี่ย แต่ผมก็กินนะ ::008::
จะให้สดต้องไปไดหมึกกันเลย เย้ ::002:: หัวข้อ: Re: ... เนื้อปลาอะไรครับผม ... เริ่มหัวข้อโดย: Ro@d - รักในหลวง ที่ ธันวาคม 26, 2008, 10:53:48 AM เอ๊...อันนี้เอ่ไม่ทราบนะคะพี่แจ๊ค แต่จากที่เห็นตอนนั้นก้ไม่รู้ค่ะว่าปลาปั๊กเป้า เห็นเขียนว่าปลาเนื้อไก่ และอีกประมาณ 1-2 อาทิตย์ เห็นลงข่าวนะค่ะพี่ว่าเนื้อปลาปั๊กเป้า :OO แกงถุง แถวตลาดปากน้ำ ในช่วงเช้า และแม้แต่ แถวบ้าน คนชอบกินปลา.. จัดการไป ไปหลายสิบถุง แล้วด้วย . ตั้งแต่เป็นข่าวจับยัดคุก . ก็หายไป เลย ครับ :OO หัวข้อ: Re: ... เนื้อปลาอะไรครับผม ... เริ่มหัวข้อโดย: ทัดมาลา ขอเป็นข้ารองพระบาททุกชาติไป ที่ ธันวาคม 26, 2008, 11:16:55 AM ที่ญี่ปุ่นเองร้านที่ขาย พ่อครัวที่ทำปลาปักเป้า ต้องมีใบรับรองครับ
หัวข้อ: Re: ... เนื้อปลาอะไรครับผม ... เริ่มหัวข้อโดย: SAVOK CZ ที่ ธันวาคม 26, 2008, 11:21:40 AM เคยเห็นที่ปัตตานี ชาวบ้านริมทะเลนั่งถลกหนัง งูทะเล ตัวขนาดข้อมือยาวประมาณ 3 - 4 ฟุต เนื้อขาวอมชมพู ถามดูความว่าส่งโรงงานทำลูกชิ้น ช่วงที่จับปลาไม่ได้ ชาวเรือจะไปหาแหล่งช้อนงูทะเล นำมาขาย โลละ หลายบาท ดีกว่าเสียค่าน้ำมันปล่าวๆ http://www.oknation.net/blog/print.php?id=13768
หัวข้อ: Re: ... เนื้อปลาอะไรครับผม ... เริ่มหัวข้อโดย: Udomkd ที่ ธันวาคม 26, 2008, 03:13:21 PM ถ้าชอบปลา เก๋า กระพงขาว ปลาม้า ลองติดต่อผุ้เลี้ยงปลากระชังดีๆ ให้เขาส่งขึ้นรถทัวร์มาก็ได้ ปลาจากเรือประมง กว่าจะเข้าฝั่ง กว่าจะออกจากแพ กว่าจะมาถึงห้าง ถึงเรา ก็หลายวันอยู่ ส่วนปลากระชังน็อคน้ำแข็งมา ไม่เกินวันถึงเลย .... ถ้าอย่างผมนี้ อยู่ทางเหนือมิเป็นหลาย ๆ วันเลยหรือครับ ถึงว่าต้มทีไรเป็นฟองเลย .... ชักกลัวมากกว่าเก่าอีกแล้วครับผม .... (http://www.pixnice.com/upload/files/ifwozdt3jweqgkyni2zo.jpg) (http://www.pixnice.com/upload/) ย้ายมาอยู่ใต้ครับ ท่านผู้จัดการ รับรองสดๆ ดิ้นกระแด่วๆ คริๆ ปล.เนื้อปลาแช่แข็งในห้าง มีให้เลือกเยอะครับ และควรอ่านรายละเอียดให้ดี ก่อนหยิบมา ส่วนมากแล้ว เนื้อปลาแบบนี้ เขาจะใช้ปลาเนื้อแข็งๆมาทำ เพราะหากเอาปลาเนื้อนุ่มๆ(นิยมบริโภคสดๆมากกว่า) มาทำ เวลาเราเอามาปรุง มันจะเปลี่ยนแปลงไปเยอะ และราคาจะสูงด้วย (หรือเปล่าไม่แน่ใจ คิดเอาเอง ) แล้วควรที่จะนำออกมาวางใว้เฉยๆไม่ต้องแช่น้ำ พักใหญ่ เพื่อให้ความเย็นคลายตัวเอง เพราะหากรีบ โดยเอามาแช่น้ำ เนื้อมันจะกระด้าง หัวข้อ: Re: ... เนื้อปลาอะไรครับผม ... เริ่มหัวข้อโดย: แจ็ค ที่ ธันวาคม 26, 2008, 08:43:11 PM ... ขอบคุณครับลุงเข้มที่ชี้แนะ แต่เรื่องที่จะให้ย้ายไปใต้นั้นต้องกราบขอบพระคุณครับ คงไม่ไปครับลุง แต่ถ้าลุงจะมาขอแบ่งที่ผมบนดอยที่พะเยาสัก 5 - 10 ไร่ พอจะแบ่งได้อยู่ครับผม เห็นว่าอีกไม่ช้าไม่นานน้ำจะท่วมหมดแล้วมิใช่หรือ ยิ่งตอนนนี้ท่านกุนซือหยั่งดินฟ้าได้มาบอกว่า อีกไม่เกิน 10 ปี กรุงเตป ฯ เป็นทะเลแน่ .... แฮ่ ... แฮ่ ... ผมจะโก่งราคาลุงเข้มละนะ .... อิ ... อิ ... (http://www.pixnice.com/upload/files/mmzmm4rmijjjlmyg54tm.jpg) (http://www.pixnice.com/upload/) หัวข้อ: Re: ... เนื้อปลาอะไรครับผม ... เริ่มหัวข้อโดย: Chayanin-We love the king ที่ ธันวาคม 29, 2008, 09:24:52 AM ปลาหมอทะเล ปลาชนิดนี้ ถ้าจำไม่ผิดที่เคยกัดฝรั่งที่เกาะพงันเมื่อหลายปีก่อน
ดูแล้วคล้าย ๆ C 130 กำลังทำโซนิคบูม หัวข้อ: Re: ... เนื้อปลาอะไรครับผม ... เริ่มหัวข้อโดย: แจ็ค ที่ ธันวาคม 30, 2008, 01:05:42 PM (http://www.pixnice.com/upload/files/g5jiymywief0ynjz13nu.jpg) (http://www.pixnice.com/upload/)
..... โซนิคบูม ..... เลยนึกถึงภาพนี้ครับผม .... หัวข้อ: Re: ... เนื้อปลาอะไรครับผม ... เริ่มหัวข้อโดย: peerayotk ที่ ธันวาคม 31, 2008, 10:11:40 PM ไม่มีความรู้เรื่องปลามากนักครับ แต่ชอบกินปลามาก มากกว่าสัตย์ทุกชนิด ให้ตายเหอะ ผมกินปลากระพงขาวกระเทียมที่เพิ่งตกขึ้นมาหมาดๆ ใครว่านื้อร่วน ผมเถียงขาดใจ เนื่อเหนียว+นิ่มพอดีต่างหาก แสดงว่าไอที่ผมกินมาตลอดไมสดนี่หว่า เซ็งเลย
หัวข้อ: Re: ... เนื้อปลาอะไรครับผม ... เริ่มหัวข้อโดย: ahu ที่ มกราคม 01, 2009, 02:06:51 PM ผมเคยกินปลาชนิดหนึ่ง หน้าตามันแปลก ๆ ขายถูกมากแถวมหาชัย
คนขายเรียกปลาหมู........ตัวกว้างขนาดกางฝ่ามือ นำมาเสียบไม้ย่างขาย 30 - 40 บาท ไม่ลองไม่รู้ เนื้อแข็ง ไร้รสชาติ แปลกดีเหมือนกันครับ ;D หัวข้อ: Re: ... เนื้อปลาอะไรครับผม ... เริ่มหัวข้อโดย: ปลายฟ้า+รักในหลวง ที่ มกราคม 01, 2009, 05:24:28 PM ปลาปักเป้าพบทั้งในน้ำจืดและน้ำทะเล มีประมาณ 100 ชนิด แต่ที่ทำให้เกิดพิษมีประมาณ 50 ชนิด และพบในประเทศไทยประมาณ 20 ชนิด เนื้อของปลาปักเป้าไม่มีพิษ หรือมีพิษน้อย พิษมีมากที่ไข่ ตับ กระเพาะ ลำไส้ ผิวหนัง และพิษของปลาจะเพิ่มมากขึ้นในฤดูปลาวางไข่
ปลาปักเป้าตามทฤษฎีจะเริ่มสะสม Toxin จากสาหร่ายอื่น ๆ ตัวมันไม่ได้ผลิตเอง เพราะฉะนั้นจึงมีรายงานว่าบางชนิดมีพิษ บางชนิดไม่มีพิษ แต่บางทฤษฎีบอกว่าตอนปลามีไข่อ่อนจะผลิตได้บ้างตัวปลาปักเป้าไม่มี Receptor ที่ Sodium channel จึงไม่ Sensitive กับ Toxin สารพิษ สารที่แยกได้จากปลาปักเป้ามี 2 ชนิด คือ Tetrodonine และ Tetrodonic acid ซึ่งเมื่อผ่านกรรมวิธีต่าง ๆ แล้วได้สาร Tetrodotoxin อาการพิษจากสาร Tetrodotoxin จะเกิดขึ้นหลังรับประทานปลาปักเป้าประมาณ 30 นาที ถึงหลายชั่วโมง แล้วแต่ปริมาณที่รับประทาน อาการที่เกิดขึ้นแบ่งเป็น 4 ขั้น คือ ขั้นแรก ชาที่ริมฝีปาก ลิ้น ปลายนิ้วมือ คลื่นไส้ วิงเวียน อาเจียน กระสับกระส่าย ขั้นที่สอง ชามากขึ้น อาเจียนมาก อ่อนเพลีย แขนขาไม่มีแรง ยืนและเดินไม่ได้ ขั้นที่สาม เคลื่อนไหวแขนขาไม่ได้ พูดลำบากจนถึงพูดไม่ได้ เนื่องจากสายกล่องเสียงเป็นอัมพาต ผู้ป่วยยังรู้สึกตัว ขั้นที่สี่ กล้ามเนื้อเป็นอัมพาตทั่วไป หายใจลำบาก เขียวคล้ำ หมดสติ รูม่านตาโตเต็มที่ไม่มีปฏิกิริยาต่อแสง ถ้าไม่ได้รับการรักษาที่ถูกต้องผู้ป่วยจะเสียชีวิตในเวลาอันรวดเร็ว อาการอาจแรงขึ้นจากขั้นแรกถึงขั้นที่สี่ในเวลาเพียง 10-15 นาทีเท่านั้น การรักษา เนื่องจากยังไม่มียาแก้พิษจึงรักษาตามอาการ และเนื่องจากพิษจะถูกขับทางปัสสาวะ การให้ยาขับปัสสาวะจะช่วยให้พิษถูกขจัดออกได้เร็วขึ้น ยาเสตียรอยด์มีประโยชน์ในการลดอาการบวมของสมอง หัวข้อ: Re: ... เนื้อปลาอะไรครับผม ... เริ่มหัวข้อโดย: อรชุน-รักในหลวง ที่ มกราคม 01, 2009, 07:25:09 PM เรื่องของฟุกุ จริงๆ ต้องท่านอนิกิ ปลาปักเป้า (puffer fish, globe fish, Fugu) พบทั้งในน้ำจืดและน้ำทะเล มีประมาณ 100 ชนิด แต่ที่ทำให้เกิดพิษมีประมาณ 50 ชนิด และพบในประเทศไทยประมาณ 20 ชนิด เนื้อของปลาปักเป้าไม่มีพิษ หรือมีพิษน้อย พิษมีมากที่ไข่ ตับ กระเพาะ ลำไส้ ผิวหนัง และพิษของปลาจะเพิ่มมากขึ้นในฤดูปลาวางไข่ ปลาปักเป้าตามทฤษฎีจะเริ่มสะสม Toxin จากสาหร่ายอื่น ๆ ตัวมันไม่ได้ผลิตเอง เพราะฉะนั้นจึงมีรายงานว่าบางชนิดมีพิษ บางชนิดไม่มีพิษ แต่บางทฤษฎีบอกว่าตอนปลามีไข่อ่อนจะผลิตได้บ้าง ตัวปลาปักเป้าไม่มี Receptor ที่ Sodium channel จึงไม่ Sensitive กับ Toxin สารพิษ สารที่แยกได้จากปลาปักเป้ามี 2 ชนิด คือ Tetrodonine และ Tetrodonic acid ซึ่งเมื่อผ่านกรรมวิธีต่าง ๆ แล้วได้สาร Tetrodotoxin อาการพิษจากสาร Tetrodotoxin จะเกิดขึ้นหลังรับประทานปลาปักเป้าประมาณ 30 นาที ถึงหลายชั่วโมง แล้วแต่ปริมาณที่รับประทาน อาการที่เกิดขึ้นแบ่งเป็น 4 ขั้น คือ ขั้นแรก ชาที่ริมฝีปาก ลิ้น ปลายนิ้วมือ คลื่นไส้ วิงเวียน อาเจียน กระสับกระส่าย ขั้นที่สอง ชามากขึ้น อาเจียนมาก อ่อนเพลีย แขนขาไม่มีแรง ยืนและเดินไม่ได้ ขั้นที่สาม เคลื่อนไหวแขนขาไม่ได้ พูดลำบากจนถึงพูดไม่ได้ เนื่องจากสายกล่องเสียงเป็นอัมพาต ผู้ป่วยยังรู้สึกตัว ขั้นที่สี่ กล้ามเนื้อเป็นอัมพาตทั่วไป หายใจลำบาก เขียวคล้ำ หมดสติ รูม่านตาโตเต็มที่ไม่มีปฏิกิริยาต่อแสง ถ้าไม่ได้รับการ รักษาที่ถูกต้องผู้ป่วยจะเสียชีวิตในเวลาอันรวดเร็ว อาการอาจแรงขึ้นจากขั้นแรกถึงขั้นที่สี่ในเวลาเพียง 10-15 นาทีเท่านั้น การรักษา เนื่องจากยังไม่มียาแก้พิษจึงรักษาตามอาการ และเนื่องจากพิษจะถูกขับทางปัสสาวะ การให้ยาขับปัสสาวะจะช่วยให้พิษถูก ขจัดออกได้เร็วขึ้น ยาเสตียรอยด์มีประโยชน์ในการลดอาการบวมของสมอง คุณสมบัติของสาร Tetrodotoxin ชื่ออื่น ๆ TTX, maculotoxin, sheroidine, tarichatoxin, fugu poison สูตรโครงสร้าง C11H17O8N3 น้ำหนักโมเลกุล 319.28 สารพิษนี้ทนต่อความร้อนสูงกว่า 200° C การต้ม, ทอด, ย่าง ไม่สามารถทำลายสารนี้ได้ ในสภาพ pH เป็นกรด พิษจะอยู่ได้นานแต่จะสลายตัวได้เร็วใน pH ที่เป็นด่าง ค่าความเป็นพิษ LD50 i.p. in mice 8-10 ไมโครกรัมต่อน้ำหนักตัว 1 กิโลกรัม อัตราการตายจากคนที่กินแล้วเกิดอาการ 60% ศูนย์ข้อมูลพิษวิทยา (http://webdb.dmsc.moph.go.th/ifc_toxic/a_tx_2_001c.asp?info_id=168) ปลาปักเป้าพบทั้งในน้ำจืดและน้ำทะเล มีประมาณ 100 ชนิด แต่ที่ทำให้เกิดพิษมีประมาณ 50 ชนิด และพบในประเทศไทยประมาณ 20 ชนิด เนื้อของปลาปักเป้าไม่มีพิษ หรือมีพิษน้อย พิษมีมากที่ไข่ ตับ กระเพาะ ลำไส้ ผิวหนัง และพิษของปลาจะเพิ่มมากขึ้นในฤดูปลาวางไข่ ปลาปักเป้าตามทฤษฎีจะเริ่มสะสม Toxin จากสาหร่ายอื่น ๆ ตัวมันไม่ได้ผลิตเอง เพราะฉะนั้นจึงมีรายงานว่าบางชนิดมีพิษ บางชนิดไม่มีพิษ แต่บางทฤษฎีบอกว่าตอนปลามีไข่อ่อนจะผลิตได้บ้างตัวปลาปักเป้าไม่มี Receptor ที่ Sodium channel จึงไม่ Sensitive กับ Toxin สารพิษ สารที่แยกได้จากปลาปักเป้ามี 2 ชนิด คือ Tetrodonine และ Tetrodonic acid ซึ่งเมื่อผ่านกรรมวิธีต่าง ๆ แล้วได้สาร Tetrodotoxin อาการพิษจากสาร Tetrodotoxin จะเกิดขึ้นหลังรับประทานปลาปักเป้าประมาณ 30 นาที ถึงหลายชั่วโมง แล้วแต่ปริมาณที่รับประทาน อาการที่เกิดขึ้นแบ่งเป็น 4 ขั้น คือ ขั้นแรก ชาที่ริมฝีปาก ลิ้น ปลายนิ้วมือ คลื่นไส้ วิงเวียน อาเจียน กระสับกระส่าย ขั้นที่สอง ชามากขึ้น อาเจียนมาก อ่อนเพลีย แขนขาไม่มีแรง ยืนและเดินไม่ได้ ขั้นที่สาม เคลื่อนไหวแขนขาไม่ได้ พูดลำบากจนถึงพูดไม่ได้ เนื่องจากสายกล่องเสียงเป็นอัมพาต ผู้ป่วยยังรู้สึกตัว ขั้นที่สี่ กล้ามเนื้อเป็นอัมพาตทั่วไป หายใจลำบาก เขียวคล้ำ หมดสติ รูม่านตาโตเต็มที่ไม่มีปฏิกิริยาต่อแสง ถ้าไม่ได้รับการรักษาที่ถูกต้องผู้ป่วยจะเสียชีวิตในเวลาอันรวดเร็ว อาการอาจแรงขึ้นจากขั้นแรกถึงขั้นที่สี่ในเวลาเพียง 10-15 นาทีเท่านั้น การรักษา เนื่องจากยังไม่มียาแก้พิษจึงรักษาตามอาการ และเนื่องจากพิษจะถูกขับทางปัสสาวะ การให้ยาขับปัสสาวะจะช่วยให้พิษถูกขจัดออกได้เร็วขึ้น ยาเสตียรอยด์มีประโยชน์ในการลดอาการบวมของสมอง พี่ แจ็ค ครับ พี่ซับกับคุณ KAMEJIRA ลอกข้อสอบกันครับพี่ ::005:: ::005:: หัวข้อ: Re: ... เนื้อปลาอะไรครับผม ... เริ่มหัวข้อโดย: ปลายฟ้า+รักในหลวง ที่ มกราคม 01, 2009, 08:39:12 PM พี่ แจ็ค ครับ พี่ซับกับคุณ KAMEJIRA ลอกข้อสอบกันครับพี่
;D ;D ;Dอย่าเอ็ดไปสิคะคุณHydra...อายเค้า...เดี๋ยวหาข้อมูลใหม่มาให้ก็ได้ค่ะ ::005:: ::005:: ::005:: ::005:: หัวข้อ: Re: ... เนื้อปลาอะไรครับผม ... เริ่มหัวข้อโดย: submachine -รักในหลวง- ที่ มกราคม 02, 2009, 11:18:47 AM ;D ;D ;D
หัวข้อ: Re: ... เนื้อปลาอะไรครับผม ... เริ่มหัวข้อโดย: แจ็ค ที่ มกราคม 02, 2009, 12:41:31 PM ... เมื่อวันวานไปเดินแถวตลาด เห็นในกระละมังที่แช่อาหารทะเลจำพวกหมึก ทำไมน้ำที่แช่เห็นเป็นสีขาวขุ่นยังไงไม่รู้ครับ ... แต่ก็ซื้อมานะครับ อยากน่ะ .... (http://www.pixnice.com/upload/files/deukzd5zjg32zzna3qjn.jpg) (http://www.pixnice.com/upload/) หัวข้อ: Re: ... เนื้อปลาอะไรครับผม ... เริ่มหัวข้อโดย: 51 ที่ มกราคม 02, 2009, 03:36:51 PM ท่านแจ็ค..ลองซื้อผลิตภัณฑ์...ของพรานทะเล ซิครับ
ผมว่า...ของเค้า ไม่เลวทีเดียวครับ... หัวข้อ: Re: ... เนื้อปลาอะไรครับผม ... เริ่มหัวข้อโดย: 51 ที่ มกราคม 02, 2009, 03:51:39 PM ผมเคยกินปลาชนิดหนึ่ง หน้าตามันแปลก ๆ ขายถูกมากแถวมหาชัย คนขายเรียกปลาหมู........ตัวกว้างขนาดกางฝ่ามือ นำมาเสียบไม้ย่างขาย 30 - 40 บาท ไม่ลองไม่รู้ เนื้อแข็ง ไร้รสชาติ แปลกดีเหมือนกันครับ ;D ปลาหมู (ปลาน้ำเค็ม) มีมากในแถบสมุทรสาคร ครับ...คริ คริ โดยมาก ผมมักเห็นเค้านำมาแปรรูปเป็น ปลาทุบ ครับ... เพราะง่ายต่อการปรุงรสชาติ ครับ (http://e.imagehost.org/0100/0_0001.jpg) |