หัวข้อ: เพิ่มประสิทธิภาพ ปืนได้ จริง หรือ ??? เริ่มหัวข้อโดย: nutta2005 ที่ กุมภาพันธ์ 07, 2009, 03:34:57 PM มีใครทราบเกี่ยวกับ Cryogenic Treatment บ้าง เคยอ่านในเว็ปไซ้ ว่าสามารถเพิ่มประสิทธภาพของ ปืน หรือ โลหะที่ผ่าน กระบวนการชุบดังกล่าว ช่วยบอกที
หัวข้อ: Re: เพิ่มประสิทธิภาพ ปืนได้ จริง หรือ ??? เริ่มหัวข้อโดย: boon(เสือไบ) ที่ กุมภาพันธ์ 07, 2009, 03:51:04 PM บ้านเราไม่แน่ใจว่ามีใครตั้งโรงงานรับทำหรือเปล่า
แต่ในสหรัฐมีโรงงานรับชุบเย็นแบบนี้ ก็มีคนส่งไปทำกันมาก เพื่อนข้างบ้านผมก็สงไปทำครับ เขาก็พอใจกับผลงานที่ได้รับ คุ้มค่ากับเงินที่เสีย ส่วนผมเองมือไม่ถึง เสียดายเงินด้วย เลยรู้สึกเฉย หัวข้อ: Re: เพิ่มประสิทธิภาพ ปืนได้ จริง หรือ ??? เริ่มหัวข้อโดย: อรชุน-รักในหลวง ที่ กุมภาพันธ์ 07, 2009, 04:31:25 PM การชุบเย็นครายโอจินิค (Cryogenic Treatment) คือการชุบต่อจากการชุบแข็งโดยใช้อุณหภูมิต่ำมากคือ --196 C
จะทำให้ออสเทนไนต์ที่เหลือค้าง (Retained austenite) เปลี่ยนเป็นมาร์เทนไซท์ให้มากที่สุด ทั้งนี้เนื่องจากเหล็กกล้าเครื่องมือส่วนใหญ่ผสมธาตุต่างๆในปริมาณสูง ซึ่งเมื่อมีการลดอุณหภูมิมีการเปลี่ยนแปลงจากออสเทนไนต์ไปเป็นมาร์เทนไซท์ ภายหลังการชุบแข็ง (Heat treatment) เหล็กกล้าจากอุณหภูมิออสเตนไนต์ในสารชุบที่อุณหภูมิห้อง ทำให้มีออสเทนไนท์เหลือค้างอยู่จำนวนหนึ่ง อันเป็นผลให้เหล็กมีความแข็งน้อยกว่าที่ควรจะเป็น ออสเทนไนต์เหลือค้างมีโอกาสเปลี่ยนไปเป็น มาร์เทนไซท์ได้เมื่อถูกแรงกดหรือแรงดึงขณะใช้งาน ซึ่งโดยคุณสมบัติทางฟิสิกส์ ออสเทนไนท์จะมีปริมาตรจำเพาะต่ำกว่ามาร์เทนไซท์ ดังนั้นเมื่อเกิดการเปลี่ยนแปลงย่อมจะมีผลโดยตรงกับขนาดชิ้นงาน กล่าวคือมีการขยายตัวก่อให้เกิดความเครียดกับเหล็ก อันเป็นผลให้เกิดการแตกร้าวและอายุการใช้งานสั้นลง ประโยชน์ที่ได้จากครายโอจินิคทรีตเม้นท์ ครายโอจินิคทรีตเม้นท์ เป็นเทคโนโลยีที่มีประโยชน์มากสำหรับอุตสาหกรรม พาณิชย์กรรม การกีฬา และผู้บริโภค กระบวนการนี้กระทำเพียงครั้งเดียวและเป็นการถาวร ประโยชน์ที่ได้อาทิเช่น - เป็นการบำรุงเพียงครั้งเดียว - รูปร่างของวัตถุไม่เปลี่ยนแปลง มีความมั่นคงของมิติ - เพิ่มความหนาแน่นโครงสร้างของโมเลกุล โมเลกุลจัดตัวอย่างมีระเบียบ มีผลทำให้มีผิวสัมพัทธ์มากขึ้น ลดแรงเสียดทาน ทนความร้อน - เปลี่ยนแปลงโครงสร้างทั้งหมด ไม่ใช่การเปลี่ยนโครงสร้างเฉพาะผิว - เปลี่ยนแปลงออสเทนไนท์คงค้างให้เป็นมาร์เทนไซท์เกือบทั้งหมด - เพิ่มความทนทานและเพิ่มอายุการใช้งานเครื่องจักร ลดการบำรุงรักษา ลดเวลาสูญเปล่าของเครื่องจักร - เพิ่มความเหนียว ลดความเปราะ - เพิ่มความคมและทนทาน - ลดความเค้น (Stress) คลายความเครียด (Strain) ของโลหะ - เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมเพราะไม่มีของเสียเกิดขึ้น - สามารถทนทานกับอุณหภูมิที่สูงกว่าโลหะที่ไม่ได้ชุบ ::014:: ::014:: หัวข้อ: Re: เพิ่มประสิทธิภาพ ปืนได้ จริง หรือ ??? เริ่มหัวข้อโดย: submachine -รักในหลวง- ที่ กุมภาพันธ์ 07, 2009, 05:42:51 PM แอหะ แหะ อ่านไปสองรอบ พอได้อะไรมาประดับสมองบ้าง...
ขอบคุณทุกท่านครับ รับไปคนละ1คะแนน หัวข้อ: hidden เริ่มหัวข้อโดย: Daimyo ที่ กุมภาพันธ์ 07, 2009, 05:57:58 PM เฮ้อ....ฟิสิกซ์นี่ผมโยนหนังสือทิ้งก่อนจบมัธยมซะอีก....
แต่ได้ความรู้มาก....ขอบคุณครับ หัวข้อ: Re: เพิ่มประสิทธิภาพ ปืนได้ จริง หรือ ??? เริ่มหัวข้อโดย: อรชุน-รักในหลวง ที่ กุมภาพันธ์ 07, 2009, 06:00:32 PM เฮ้อ....ฟิสิกซ์นี่ผมโยนหนังสือทิ้งก่อนจบมัธยมซะอีก.... แต่ได้ความรู้มาก....ขอบคุณครับ เรื่องงานอบชุบโลหะจะไปลงรายละเอียดในพวกวิชาวัสดุศาสตร์ครับพี่ Daimyo แต่ผมชอบ Takeda Shingen มากกว่านะ ^_^ หัวข้อ: Re: เพิ่มประสิทธิภาพ ปืนได้ จริง หรือ ??? เริ่มหัวข้อโดย: จินตา <Jinta> ที่ กุมภาพันธ์ 07, 2009, 06:13:01 PM ขอบคุณครับที่กรุณาอธิบาย +1 ครับ
ว่าแต่ในวงการปืนบ้านเรา มีท่านใดได้ลองบ้างครับ เอาชิ้นส่วนโลหะไปผ่านวีธีการแล้วได้ผลอย่างไรครับ หัวข้อ: Re: เพิ่มประสิทธิภาพ ปืนได้ จริง หรือ ??? เริ่มหัวข้อโดย: อดิศักดิ์--รักในหลวง-- ที่ กุมภาพันธ์ 07, 2009, 06:41:43 PM + 1 ให้เช่นกันครับ คุณ Hydra :)
หัวข้อ: Re: เพิ่มประสิทธิภาพ ปืนได้ จริง หรือ ??? เริ่มหัวข้อโดย: พลปืน ที่ กุมภาพันธ์ 07, 2009, 06:56:17 PM เก่งครับ สุดยอด
หัวข้อ: Re: เพิ่มประสิทธิภาพ ปืนได้ จริง หรือ ??? เริ่มหัวข้อโดย: PU45™ ที่ กุมภาพันธ์ 07, 2009, 07:00:41 PM ต่อปืนกึ่งอัตโนมัติขนาดฟูลไซด์ เช่น Colt's 1911 หรือ Beretta 92 fs 1 กระบอก ต้องเสียค่าใช้จ่ายสักเท่าไหร่ครับ หัวข้อ: Re: เพิ่มประสิทธิภาพ ปืนได้ จริง หรือ ??? เริ่มหัวข้อโดย: TOSSAPORN-รักในหลวง ที่ กุมภาพันธ์ 07, 2009, 07:44:01 PM เคยเอาลำกล้อง g19 และ เควิน ไปชุบกับไนโตรเจนเหลวเล่นๆ
ที่บ้านคนรู้จักผสมเทียมวัวเลยมีเพียบครับ ที่อีสานน่าจะทำเล่นได้ง่าย แต่ฝีมือยิงปืนผมไม่เห็นความแตกต่างครับ ถ้าปืนยาวติดกล้อง น่าจะเห็นผลชัดเจนกว่าครับ หัวข้อ: Re: เพิ่มประสิทธิภาพ ปืนได้ จริง หรือ ??? เริ่มหัวข้อโดย: chew - รักในหลวง ที่ กุมภาพันธ์ 07, 2009, 07:44:46 PM ต่อปืนกึ่งอัตโนมัติขนาดฟูลไซด์ เช่น Colt's 1911 หรือ Beretta 92 fs 1 กระบอก ต้องเสียค่าใช้จ่ายสักเท่าไหร่ครับ Pricing Handgun barrels: $35.00 Handgun barrels and frame: $45.00 Rifle and Shotgun barrels: $50.00 Double (O/U, SxS)* Shotgun barrels: $65.00 .50 Cal. extra heavy bull barrels: $75.00 Receiver: $10.00 3 Choke tubes: $10.00 หัวข้อ: Re: เพิ่มประสิทธิภาพ ปืนได้ จริง หรือ ??? เริ่มหัวข้อโดย: skajy ที่ กุมภาพันธ์ 07, 2009, 07:57:35 PM กรรมวิธีเป็นภาษาอังกฤษ พังแล้วปวดหัวตึบเลย แต่เท่าที่อ่านดู ว่าต้องชุบแบบเย็น ที่อุณหภูมิ -196 C อย่างนี้เล่นไม่ยาก ง่ายเลย ใช้ไนโตรเจนเหลว เป็นตัวชุบ แต่ว่าจะชุบจะแช่นานเท่าไร จนทำให้ได้คุณสมบัติตามต้องการ ราคาไม่น่าจะแพงมาก ตัวไนโตรเจนเหลว ในเมืองไทย ก็พอหาได้ ;) หัวข้อ: Re: เพิ่มประสิทธิภาพ ปืนได้ จริง หรือ ??? เริ่มหัวข้อโดย: 1911&FISHING ที่ กุมภาพันธ์ 07, 2009, 08:15:50 PM การชุบเย็น”ครายโอจินิค” (Cryogenic Treatment) คือการชุบต่อจากการชุบแข็งโดยใช้อุณหภูมิตำมากคือ --196 C จะทำให้ออสเทนไนต์ที่เหลือค้าง (Retained austenite) เปลี่ยนเป็นมาร์เทนไซท์ให้มากที่สุด ทั้งนี้เนื่องจากเหล็กกล้าเครื่องมือส่วนใหญ่ผสมธาตุต่าง ๆ ในปริมาณสูง ซึ่งเมื่อมีการลดอุณหภูมิมีการเปลี่ยนแปลงจากออสเทนไนต์ไปเป็นมาร์เทนไซท์ ภายหลังการชุบแข็ง (Heat treatment) เหล็กกล้าจากอุณหภูมิออสเตนไนต์ในสารชุบที่อุณหภูมิห้อง ทำให้มีออสเทนไนท์เหลือค้างอยู่จำนวนหนึ่ง อันเป็นผลให้เหล็กมีความแข็งน้อยกว่าที่ควรจะเป็น ออสเทนไนต์เหลือค้างมีโอกาสเปลี่ยนไปเป็น มาร์เทนไซท์ได้เมื่อถูกแรงกดหรือแรงดึงขณะใช้งาน ซึ่งโดยคุณสมบัติทางฟิสิกส์ ออสเทนไนท์จะมีปริมาตรจำเพาะต่ำกว่ามาร์เทนไซท์ ดังนั้นเมื่อเกิดการเปลี่ยนแปลงย่อมจะมีผลโดยตรงกับขนาดชิ้นงาน กล่าวคือมีการขยายตัวก่อให้เกิดความเครียดกับเหล็ก อันเป็นผลให้เกิดการแตกร้าวและอายุการใช้งานสั้นลง ประโยชน์ที่ได้จากครายโอจินิคทรีตเม้นท์ ครายโอจินิคทรีตเม้นท์ เป็นเทคโนโลยีที่มีประโยชน์มากสำหรับอุตสาหกรรม พาณิชย์กรรม การกีฬา และผู้บริโภค กระบวนการนี้กระทำเพียงครั้งเดียวและเป็นการถาวร ประโยชน์ที่ได้อาทิเช่น - เป็นการบำรุงเพียงครั้งเดียว - รูปร่างของวัตถุไม่เปลี่ยนแปลง มีความมั่นคงของมิติ - เพิ่มความหนาแน่นโครงสร้างของโมเลกุล โมเลกุลจัดตัวอย่างมีระเบียบ มีผลทำให้มีผิวสัมพัทธ์มากขึ้น ลดแรงเสียดทาน ทนความร้อน - เปลี่ยนแปลงโครงสร้างทั้งหมด ไม่ใช่การเปลี่ยนโครงสร้างเฉพาะผิว - เปลี่ยนแปลงออสเทนไนท์คงค้างให้เป็นมาร์เทนไซท์เกือบทั้งหมด - เพิ่มความทนทานและเพิ่มอายุการใช้งานเครื่องจักร ลดการบำรุงรักษา ลดเวลาสูญเปล่าของเครื่องจักร - เพิ่มความเหนียว ลดความเปราะ - เพิ่มความคมและทนทาน - ลดความเค้น (Stress) คลายความเครียด (Strain) ของโลหะ - เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมเพราะไม่มีของเสียเกิดขึ้น - สามารถทนทานกับอุณหภูมิที่สูงกว่าโลหะที่ไม่ได้ชุบ ::014:: ::014:: ::002:: ได้ความรู้เพิ่มอีกอย่างแล้ว ขอบคุณมากครับ +1 ครับ หัวข้อ: Re: เพิ่มประสิทธิภาพ ปืนได้ จริง หรือ ??? เริ่มหัวข้อโดย: อรชุน-รักในหลวง ที่ กุมภาพันธ์ 07, 2009, 08:43:08 PM ขอบคุณครับที่กรุณาอธิบาย +1 ครับ ว่าแต่ในวงการปืนบ้านเรา มีท่านใดได้ลองบ้างครับ เอาชิ้นส่วนโลหะไปผ่านวีธีการแล้วได้ผลอย่างไรครับ + 1 ให้เช่นกันครับ คุณ Hydra :) ทอนให้คนล่ะ 1 ครับ ;D ;D เคยเอาลำกล้อง g19 และ เควิน ไปชุบกับไนโตรเจนเหลวเล่นๆ ที่บ้านคนรู้จักผสมเทียมวัวเลยมีเพียบครับ ที่อีสานน่าจะทำเล่นได้ง่าย แต่ฝีมือยิงปืนผมไม่เห็นความแตกต่างครับ ถ้าปืนยาวติดกล้อง น่าจะเห็นผลชัดเจนกว่าครับ ความแม่นยำไม่น่าจะมีผลนะครับ ถ้ามีก็คงน้อยมากๆ เพราะจุดประสงค์ของการอบชุบโลหะคือการเพิ่มหรือลดคุณสมบัติของโลหะนั้นๆ - เพิ่มความทนทานและเพิ่มอายุการใช้งานเครื่องจักร ลดการบำรุงรักษา ลดเวลาสูญเปล่าของเครื่องจักร - เพิ่มความเหนียว ลดความเปราะ - เพิ่มความคมและทนทาน - ลดความเค้น (Stress) คลายความเครียด (Strain) ของโลหะ กรรมวิธีเป็นภาษาอังกฤษ พังแล้วปวดหัวตึบเลย แต่เท่าที่อ่านดู ว่าต้องชุบแบบเย็น ที่อุณหภูมิ -196 C อย่างนี้เล่นไม่ยาก ง่ายเลย ใช้ไนโตรเจนเหลว เป็นตัวชุบ แต่ว่าจะชุบจะแช่นานเท่าไร จนทำให้ได้คุณสมบัติตามต้องการ ราคาไม่น่าจะแพงมาก ตัวไนโตรเจนเหลว ในเมืองไทย ก็พอหาได้ ;) ไม่ง่ายครับอยู่ๆจะเอาชิ้นงานโยนตูมลงไปเลยไม่ได้ ถ้าโลหะกระทบความเย็นดังกล่าวตรงๆและทันทีทันใด โลหะอาจจะแตกหักหรือบิดงอเสียรูป กระบวนการชุบดังกล่าวเรียกว่า ครายโอจินิค (Cryogenic Treatment) ความเย็นที่จะสามารถเปลี่ยนแปลงโครงสร้างของโลหะต้องเป็นความเย็นยิ่งยวดครับ ความเย็นดังกล่าว คือความเย็นที่ 196 C หรือ 300 F ผมเรียกภาษาแบบไทยๆเลยแล้วกันว่า ชุบเย็น คือการชุบที่มีการลดอุณหภูมิอย่างช้ามากๆ เฉลี่ยที่ 0.7F ต่อ 1 นาที ลดลงจากอุณหภูมิห้องลงไปจนที่ 300 F จากนั้นก็ควบคุมอุณหภูมินี้ไปอีกอย่างน้อย 8-12 ชั่วโมง หลังจากนั้นค่อยๆเพิ่มอุณหภูมิกลับไปที่อุณหภูมิห้องเช่นเดิม ต่อจากนั้นยังต้องเพิ่มอุณหภูมิต่อไปที่ +300F แล้วควบคุมอุนภูมินี้ต่อไปอีก 8-12 ชั่วโมงแล้วค่อยๆลดอุณภูมิกลับสู่อุณหภูมิห้องอีกครั้งหนึ่งเป็นอันจบกระบวนการชุบ กระบวนการทั้งหมดที่กล่าวมาแล้วใช้เวลาต่อเนื่องกัน ประมาณ 70 ชั่วโมง หรือ 3 วัน ถ้าทำกันง่ายแบบนั้นก็คงไม่ต้องเรียนวิศวะกันให้หน้ามืด ร้านรับทำก็คงเต็มเมืองแล้วครับ มันไม่เหมือนการทำ Heat Treatment ที่ขั้นตอนและอุปกรณ์ไม่ยุ่งยากมากนัก ::014:: ::014:: หัวข้อ: Re: เพิ่มประสิทธิภาพ ปืนได้ จริง หรือ ??? เริ่มหัวข้อโดย: OO BUCK ที่ กุมภาพันธ์ 07, 2009, 08:43:54 PM ขอเสริมกรรมวิธีการทำนะครับ อ่านดูไม่น่าจะอยากสำหรับระดับโรงงาน แต่ถ้าเป็นระดับมือสมัครเล่นคงเหลือบ่ากว่าแรง มันไม่ง่ายเลยนะครับ (บทความอันนี้เอามาจากเว็ปไทยเลดี้กอลฟ์ครับ).............หลายท่านคงเคยได้ยินคำว่าชุบแข็ง (Heat Treatment) กันมาบ้างแล้ว การชุบแข็ง ก็คือ การชุบโลหะโดยใช้ความร้อนเพื่อที่จะเปลี่ยนโครงสร้างของโลหะให้มีคุณสมบัติที่ดีขึ้นกว่าเดิม เช่น แข็งขึ้น เหนียวขึ้น อ้าวแล้วมันเกี่ยวข้องอะไรกับกอล์ฟด้วยละครับ คำตอบก็คือเกี่ยวครับเนื่องจากไม้กอล์ฟที่ทำจากโลหะนั้นได้ผ่านกระบวนการชุบแข็งมาแล้วทั้งสิ้น แต่สิ่งที่ผมจะเรียนท่านทั้งหลายต่อไปนี้เป็นการชุบแข็งอีกประเภทหนึ่งครับที่แตกต่างไปจากการชุบแข็งที่ก ล่าวมาแล้ว การชุบแข็งที่ว่านี้เป็นการชุบแข็งโดยใช้ความเย็นครับ พอได้ยินอย่างนี้บางท่านคงคิดอย่างฉับไวทันทีว่า งั้นก็เอาไปแช่น้ำแข็งหรือแย่ในตู้เย็นก็คงเปลี่ยนโครงสร้างโลหะอย่างไม้กอล์ฟได้ ครับคงไม่ง่ายอย่างนั้นครับ เพราะความเย็นของน้ำแข็งอยู่ที่ 4C เท่านั้น แต่ความเย็นที่จะสามารถเปลี่ยนแปลงโครงสร้างของโลหะต้องเป็นความเย็นยิ่งยวดครับท่าน หลายท่านคงนึกไม่ออกว่าเป็นอย่างไง เฉลยกันเลย ความเย็นดังกล่าว คือความเย็นที่ 196C หรือ 300 F และกระบวนการชุบดังกล่าวเรียกว่า ครายโอจินิค (Cryogenic Treatment) การชุบแบบครายโอจินิค หลายท่านก็คงมีคำถามอีกว่า ถ้าเอาโลหะ จุ่มเข้าไปในความเย็นขนาดนี้ละก็ โลหะไม่แตกหักหรือบิดงอเสียรูปไปหรือ คำตอบ คือถูกต้องครับถ้าโลหะกระทบความเย็นดังกล่าวตรงๆและทันทีทันใด แต่การชุบแบบ ครายโอจินิค หรือผมเรียกภาษาแบบไทยๆเลยละกันว่า ชุบเย็น คือการชุบที่มีการลดอุณหภูมิอย่างช้ามากๆ เฉลี่ยที่ 0.7F ต่อ 1 นาที ลดลงจากอุณหภูมิห้องลงไปจนที่ 300 F จากนั้นก็ควบคุมอุณหภูมินี้ไปอีกอย่างน้อย 8-12 ชั่วโมง หลังจากนั้นค่อยๆเพิ่มอุณหภูมิกลับไปที่อุณหภูมิห้องเช่นเดิม ต่อจากนั้นยังต้องเพิ่มอุณหภูมิต่อไปที่ +300F แล้วควบคุมอ้นภูมินี้ต่อไปอีก 8-12 ชั่วโมงแล้วค่อยๆลดอุณภูมิกลับสู่อุณหภูมิห้องอีกครั้งหนึ่งเป็นอันจบกระบวนการชุบ กระบวนการทั้งหมดที่กล่าวมาแล้วใช้เวลา ประมาณ 70 ชั่วโมง หรือ 3 วัน
ไม้กอล์ฟที่เราใช้อยู่นี้ก็ได้ผ่านการชุบโลหะแบบการชุบแข็งมาแล้ว ดังนั้นโครงสร้างของโลหะจึงมีการเปลี่ยนแปลงในทางเพิ่มคุณสมบัติมาแล้วอย่างดี แต่ยังมีจุดบกพร่องจากการชุบคือ การจับกันของโครงสร้างยังยาบ ไม่สม่ำเสมอทำให้ประสิทธิภาพของโลหะยังไม่สมบูรณ์เพียงพอ ดังนั้นการชุบโดย cryogenic อีกจึงเป็นคำตอบสุดท้ายคือการชุบแบบ cryogenic จะมีการจัดโครงสร้างของโลหะต่อจากการชุบแข็งอีกทีเพื่อขจัดจุดอ่อนที่เกิดจากการชุบแข็ง นั้นคือการเพิ่มประสิทธิภาพอย่างเต็มที่ให้แก่โลหะ ขอบอกว่าไม่ได้ถึงขนาดเปลี่ยนโลหะจากเกรด Bไปเป็นเกรดA นะแต่จะดึงคุณสมบัติเหล่านั้นให้แสดงประสิทธิภาพออกมาอย่างเต็มที่ ก็คงเทียบได้กับนักกีฬาที่ฟิตเต็มที่ โครงสร้างของไม้กอล์ฟจะจับตัวอย่างมีระเบียบมากยิ่งขึ้น เกรนละเอียดขึ้น สม่ำเสมอขึ้น ท่านจะรู้สึกได้เมื่อได้ลองสัมพัทธ์การตีจากไม้กอล์ฟของท่านที่ผ่านการชุบเย็น Cryogenic ว่าหน้าสัมพัทธ์ราวกับหน้าไม้ที่เนียนและแน่นขึ้น การสั่นจะลดน้อยลง ความมั่นคงในการตีดีขึ้น การควบคุมทิศทางดีขึ้น นั้นก็หมายถึงคุณภาพการตีของท่านจะดีขึ้นนั้นเอง หัวข้อ: Re: เพิ่มประสิทธิภาพ ปืนได้ จริง หรือ ??? เริ่มหัวข้อโดย: rute - รักในหลวง ที่ กุมภาพันธ์ 08, 2009, 12:20:31 AM +1 ให้ท่าน Hydra ครับ...::002::
หัวข้อ: Re: เพิ่มประสิทธิภาพ ปืนได้ จริง หรือ ??? เริ่มหัวข้อโดย: อรชุน-รักในหลวง ที่ กุมภาพันธ์ 08, 2009, 01:20:22 AM +1 ให้ท่าน Hydra ครับ...::002:: ทอนคืนให้ครับพี่หมอ rute หัวข้อ: Re: เพิ่มประสิทธิภาพ ปืนได้ จริง หรือ ??? เริ่มหัวข้อโดย: PEE_PoL - รักในหลวง ที่ กุมภาพันธ์ 08, 2009, 10:30:00 AM ได้ความรู้ ขอบคุณครับ
หัวข้อ: Re: เพิ่มประสิทธิภาพ ปืนได้ จริง หรือ ??? เริ่มหัวข้อโดย: powerboy ที่ กุมภาพันธ์ 08, 2009, 11:38:28 AM เมืองไทยมีตู้ชุบอยู่ครับ เป็นที่ฮิตกันในบรรดาขาเครื่องเสียง hi-end
www.htg2.net ห้อง home theater ตามหาคนชื่อ กัมปนาท เป็นเจ้าของร้าน clef-audio แถว ๆ ลาดพร้าว เข้าจะเปิดตู้อบเย็น ราว ๆ เดือนละครั้ง สามารถไปร่วมแชร์ได้กับพวกเครื่องเสียงครับ หัวข้อ: Re: เพิ่มประสิทธิภาพ ปืนได้ จริง หรือ ??? เริ่มหัวข้อโดย: vanrat ที่ กุมภาพันธ์ 08, 2009, 05:01:39 PM พี่ครับถ้าลองเอาไปทำแค่เข็มแทงชนวนนี่มันจะช่วยให้ทนขึ้นบ้างไหมครับ
หัวข้อ: Re: เพิ่มประสิทธิภาพ ปืนได้ จริง หรือ ??? เริ่มหัวข้อโดย: naisomchai ที่ กุมภาพันธ์ 09, 2009, 11:18:34 AM นายสมชายโง่เลยแฮะ... สรุปแล้วเอาปืนไปชุบแล้วได้อะไรขึ้นมาครับ...
เช่นชุบแล้วปืนแข็งขึ้นพร้อมกับเหนียวขึ้นพร้อมกัน ทำให้ทนขึ้น... หรือทำให้ยิงแม่นขึ้น เพราะโลหะมันทำอะไรซักอย่างนึง ทำให้กระสุนวิ่งคงที่เป็นระเบียบยิ่งขึ้น... หรือเปล่าครับ... คือสงสัยง่ายๆ ว่าทำไปทำไมครับ... และหากไม่ได้ทำ มันจะไม่ดียังไงเล่าครับ ถึงได้ต้องไปทำมันให้เสียเงิน... หัวข้อ: Re: เพิ่มประสิทธิภาพ ปืนได้ จริง หรือ ??? เริ่มหัวข้อโดย: ~ Sitthipong - รักในหลวง ~ ที่ กุมภาพันธ์ 09, 2009, 11:25:47 AM ถ้าไทยมีโรงงานชุบเย็นแบบนี้คิวคงจะยาว :D
หัวข้อ: Re: เพิ่มประสิทธิภาพ ปืนได้ จริง หรือ ??? เริ่มหัวข้อโดย: C.J. - รักในหลวง ที่ กุมภาพันธ์ 09, 2009, 01:54:31 PM +1 ท่าน Hydra... ::002::
หัวข้อ: Re: เพิ่มประสิทธิภาพ ปืนได้ จริง หรือ ??? เริ่มหัวข้อโดย: PED KRUB ที่ กุมภาพันธ์ 09, 2009, 03:21:49 PM เมืองไทยมีตู้ชุบอยู่ครับ เป็นที่ฮิตกันในบรรดาขาเครื่องเสียง hi-end www.htg2.net ห้อง home theater ตามหาคนชืี่่อ กัมปนาท เป็นเจ้าของร้าน clef-audio แถว ๆ ลาดพร้าว เข้าจะเปิดตู้อบเย็น ราว ๆ เดือนละครั้ง สามารถไปร่วมแชร์ได้กับพวกเครื่องเสียงครับ นึกว่ามีเฉพาะในวงการเครื่องเสียงซะอีก พวกขั้วต่อ พวกสายสัญญาณต่างๆ ของเครื่องเสียง hiend ฮิตทำ cryo กันมาพักใหญ่แล้ว ไม่น่าเชื่อว่าจะลามมาถึงวงการปืนแล้ว บางทีเอาไปทำ cryo แล้วเสียงปืนอาจเพราะขึ้นก็ได้นะครับ แบบ เสียงแหลมพริ้ว เสียงทุ้มของปืนอาจลงได้ถึง 20 hZ.เลยทีเดียว..... หัวข้อ: Re: เพิ่มประสิทธิภาพ ปืนได้ จริง หรือ ??? เริ่มหัวข้อโดย: อรชุน-รักในหลวง ที่ กุมภาพันธ์ 09, 2009, 03:47:53 PM นายสมชายโง่เลยแฮะ... สรุปแล้วเอาปืนไปชุบแล้วได้อะไรขึ้นมาครับ... เช่นชุบแล้วปืนแข็งขึ้นพร้อมกับเหนียวขึ้นพร้อมกัน ทำให้ทนขึ้น... หรือทำให้ยิงแม่นขึ้น เพราะโลหะมันทำอะไรซักอย่างนึง ทำให้กระสุนวิ่งคงที่เป็นระเบียบยิ่งขึ้น... หรือเปล่าครับ... คือสงสัยง่ายๆ ว่าทำไปทำไมครับ... และหากไม่ได้ทำ มันจะไม่ดียังไงเล่าครับ ถึงได้ต้องไปทำมันให้เสียเงิน... ทำแล้วประสิทธิภาพเพิ่มขึ้นดังนี้ครับพี่ สมชาย - เพิ่มความหนาแน่นโครงสร้างของโมเลกุล โมเลกุลจัดตัวอย่างมีระเบียบ มีผลทำให้มีผิวสัมพัทธ์มากขึ้น ลดแรงเสียดทาน ทนความร้อน - เปลี่ยนแปลงโครงสร้างทั้งหมด ไม่ใช่การเปลี่ยนโครงสร้างเฉพาะผิว - เปลี่ยนแปลงออสเทนไนท์คงค้างให้เป็นมาร์เทนไซท์เกือบทั้งหมด - เพิ่มความทนทานและเพิ่มอายุการใช้งานเครื่องจักร ลดการบำรุงรักษา ลดเวลาสูญเปล่าของเครื่องจักร - เพิ่มความเหนียว ลดความเปราะ - เพิ่มความคมและทนทาน - ลดความเค้น (Stress) คลายความเครียด (Strain) ของโลหะ ส่วนจะแม่นหรือไม่ผมว่าอยู่ที่คนยิง กับมาตรฐานของปืนมากกว่า ::014:: ::014:: +1 ท่าน Hydra... ::002:: ทอนคืนให้ 1 ครับพี่ ;D หัวข้อ: Re: เพิ่มประสิทธิภาพ ปืนได้ จริง หรือ ??? เริ่มหัวข้อโดย: TOSSAPORN-รักในหลวง ที่ กุมภาพันธ์ 09, 2009, 03:50:16 PM พวกจานไถนา มีดตัดหญ้าก็ทำครับ เขาว่าทำแล้วทนกว่าเดิมมากครับ
ขายแพงกว่าปกติด้วย หัวข้อ: Re: เพิ่มประสิทธิภาพ ปืนได้ จริง หรือ ??? เริ่มหัวข้อโดย: naisomchai ที่ กุมภาพันธ์ 09, 2009, 04:01:15 PM นายสมชายโง่เลยแฮะ... สรุปแล้วเอาปืนไปชุบแล้วได้อะไรขึ้นมาครับ... เช่นชุบแล้วปืนแข็งขึ้นพร้อมกับเหนียวขึ้นพร้อมกัน ทำให้ทนขึ้น... หรือทำให้ยิงแม่นขึ้น เพราะโลหะมันทำอะไรซักอย่างนึง ทำให้กระสุนวิ่งคงที่เป็นระเบียบยิ่งขึ้น... หรือเปล่าครับ... คือสงสัยง่ายๆ ว่าทำไปทำไมครับ... และหากไม่ได้ทำ มันจะไม่ดียังไงเล่าครับ ถึงได้ต้องไปทำมันให้เสียเงิน... ทำแล้วประสิทธิภาพเพิ่มขึ้นดังนี้ครับพี่ สมชาย - เพิ่มความหนาแน่นโครงสร้างของโมเลกุล โมเลกุลจัดตัวอย่างมีระเบียบ มีผลทำให้มีผิวสัมพัทธ์มากขึ้น ลดแรงเสียดทาน ทนความร้อน - เปลี่ยนแปลงโครงสร้างทั้งหมด ไม่ใช่การเปลี่ยนโครงสร้างเฉพาะผิว - เปลี่ยนแปลงออสเทนไนท์คงค้างให้เป็นมาร์เทนไซท์เกือบทั้งหมด - เพิ่มความทนทานและเพิ่มอายุการใช้งานเครื่องจักร ลดการบำรุงรักษา ลดเวลาสูญเปล่าของเครื่องจักร - เพิ่มความเหนียว ลดความเปราะ - เพิ่มความคมและทนทาน - ลดความเค้น (Stress) คลายความเครียด (Strain) ของโลหะ ส่วนจะแม่นหรือไม่ผมว่าอยู่ที่คนยิง กับมาตรฐานของปืนมากกว่า ::014:: ::014:: +1 ท่าน Hydra... ::002:: ทอนคืนให้ 1 ครับพี่ ;D ขอบคุณครับ... ที่นายสมชายสงสัยต่อคือ เมื่อทำให้โลหะไม่มีแรงเครียดสะสมอยู่... กลัวว่ามันจะบิดเบี้ยวจากที่เคยถูกขึ้นรูปเอาไว้หรือเปล่าครับ... ตัวอย่างเช่นลำกล้องถูกทุบร้อนเอาไว้... มันเป็นรูปร่างอยู่ได้ส่วนหนึ่งเกิดจากถูกทุบจนเนื้อเสี้ยนอัดแน่นที่ผิว เมื่อคลายความเครียดออกมามันจะคงรูปเหมือนเดิมหรือเปล่าครับ เพราะคืนรูปแค่จุดทศนิยมตำแหน่งที่สาม ก็คือเปลี่ยนขนาดกระสุนเลยครับ... (เช่น .357 กับ 9 มม.) หัวข้อ: Re: เพิ่มประสิทธิภาพ ปืนได้ จริง หรือ ??? เริ่มหัวข้อโดย: boon(เสือไบ) ที่ กุมภาพันธ์ 09, 2009, 04:09:53 PM นายสมชายโง่เลยแฮะ... สรุปแล้วเอาปืนไปชุบแล้วได้อะไรขึ้นมาครับ... ข้อมูลที่พอหาได้ครับ เช่นชุบแล้วปืนแข็งขึ้นพร้อมกับเหนียวขึ้นพร้อมกัน ทำให้ทนขึ้น... หรือทำให้ยิงแม่นขึ้น เพราะโลหะมันทำอะไรซักอย่างนึง ทำให้กระสุนวิ่งคงที่เป็นระเบียบยิ่งขึ้น... หรือเปล่าครับ... คือสงสัยง่ายๆ ว่าทำไปทำไมครับ... และหากไม่ได้ทำ มันจะไม่ดียังไงเล่าครับ ถึงได้ต้องไปทำมันให้เสียเงิน... http://www.nitrofreeze.com/stress_relief.html (http://www.nitrofreeze.com/1113205515_IMG_8010.jpg) Guns and Firearms Cryogenic Treatment of Gun Barrels Every gun barrel produced today is bored and machined which causes stress in the microstructure of the metal. Guns are created from forgings and castings that cool at different rates, inducing residual stress. Your gun may shoot well, but it is not shooting to its potential. If you cryogenically treat your gun barrel, you will see several immediate results. Cryogenic treatment utilizes liquid nitrogen to bring the temperature of your gun barrel down to -300°F. The gun is then kept at this level for 24 hours, which relieves the residual stresses. When fired, a gun barrel heats up and distorts or warps everytime you pull the trigger. This results in lost accuracy. Once a gun barrel is cryogenically treated, you will see improved shot groupings. This improvement will last the life of the gun as cryogenic treatment is a one time permanent process. Several shotgun manufacturers have incorporated cryogenic treatment in their manufacturing processes. They found that shotgun the shot groupings of non-treated guns shifted as much as 10" to 12". After the same gun was cryogenically treated, the groupings shifted less than 1" (.075") . Therefore, accuracy is always dramatically improved after cryogenic treatment. (See BenelliUSA for more info) Benefits of cryogenic treatment of your gun barrel: Increased wear resistance for easier cleaning Reduced friction, heat, and wear for an improved barrel life Improved shot groupings resulting in improved accuracy Increased velocity of about 50-60 feet per second Recently the Cryogenic Institute of New England, Inc. cryogenically treated 19 Remington 700 Light Tactical Rifles for Sgt. William Keith of the Maine State Police. The Maine State Police had these sniper rifles processed for improved accuracy in hostage situations. หัวข้อ: Re: เพิ่มประสิทธิภาพ ปืนได้ จริง หรือ ??? เริ่มหัวข้อโดย: อรชุน-รักในหลวง ที่ กุมภาพันธ์ 09, 2009, 04:20:48 PM นายสมชายโง่เลยแฮะ... สรุปแล้วเอาปืนไปชุบแล้วได้อะไรขึ้นมาครับ... เช่นชุบแล้วปืนแข็งขึ้นพร้อมกับเหนียวขึ้นพร้อมกัน ทำให้ทนขึ้น... หรือทำให้ยิงแม่นขึ้น เพราะโลหะมันทำอะไรซักอย่างนึง ทำให้กระสุนวิ่งคงที่เป็นระเบียบยิ่งขึ้น... หรือเปล่าครับ... คือสงสัยง่ายๆ ว่าทำไปทำไมครับ... และหากไม่ได้ทำ มันจะไม่ดียังไงเล่าครับ ถึงได้ต้องไปทำมันให้เสียเงิน... ทำแล้วประสิทธิภาพเพิ่มขึ้นดังนี้ครับพี่ สมชาย - เพิ่มความหนาแน่นโครงสร้างของโมเลกุล โมเลกุลจัดตัวอย่างมีระเบียบ มีผลทำให้มีผิวสัมพัทธ์มากขึ้น ลดแรงเสียดทาน ทนความร้อน - เปลี่ยนแปลงโครงสร้างทั้งหมด ไม่ใช่การเปลี่ยนโครงสร้างเฉพาะผิว - เปลี่ยนแปลงออสเทนไนท์คงค้างให้เป็นมาร์เทนไซท์เกือบทั้งหมด - เพิ่มความทนทานและเพิ่มอายุการใช้งานเครื่องจักร ลดการบำรุงรักษา ลดเวลาสูญเปล่าของเครื่องจักร - เพิ่มความเหนียว ลดความเปราะ - เพิ่มความคมและทนทาน - ลดความเค้น (Stress) คลายความเครียด (Strain) ของโลหะ ส่วนจะแม่นหรือไม่ผมว่าอยู่ที่คนยิง กับมาตรฐานของปืนมากกว่า ::014:: ::014:: +1 ท่าน Hydra... ::002:: ทอนคืนให้ 1 ครับพี่ ;D ขอบคุณครับ... ที่นายสมชายสงสัยต่อคือ เมื่อทำให้โลหะไม่มีแรงเครียดสะสมอยู่... กลัวว่ามันจะบิดเบี้ยวจากที่เคยถูกขึ้นรูปเอาไว้หรือเปล่าครับ... ตัวอย่างเช่นลำกล้องถูกทุบร้อนเอาไว้... มันเป็นรูปร่างอยู่ได้ส่วนหนึ่งเกิดจากถูกทุบจนเนื้อเสี้ยนอัดแน่นที่ผิว เมื่อคลายความเครียดออกมามันจะคงรูปเหมือนเดิมหรือเปล่าครับ เพราะคืนรูปแค่จุดทศนิยมตำแหน่งที่สาม ก็คือเปลี่ยนขนาดกระสุนเลยครับ... (เช่น .357 กับ 9 มม.) อ่านเต็มๆเลยครับพี่ ;D ;D ประโยชน์ที่ได้จากครายโอจินิคทรีตเม้นท์ ครายโอจินิคทรีตเม้นท์ เป็นเทคโนโลยีที่มีประโยชน์มากสำหรับอุตสาหกรรม พาณิชย์กรรม การกีฬา และผู้บริโภค กระบวนการนี้กระทำเพียงครั้งเดียวและเป็นการถาวร ประโยชน์ที่ได้อาทิเช่น - เป็นการบำรุงเพียงครั้งเดียว - รูปร่างของวัตถุไม่เปลี่ยนแปลง มีความมั่นคงของมิติ - เพิ่มความหนาแน่นโครงสร้างของโมเลกุล โมเลกุลจัดตัวอย่างมีระเบียบ มีผลทำให้มีผิวสัมพัทธ์มากขึ้น ลดแรงเสียดทาน ทนความร้อน - เปลี่ยนแปลงโครงสร้างทั้งหมด ไม่ใช่การเปลี่ยนโครงสร้างเฉพาะผิว - เปลี่ยนแปลงออสเทนไนท์คงค้างให้เป็นมาร์เทนไซท์เกือบทั้งหมด - เพิ่มความทนทานและเพิ่มอายุการใช้งานเครื่องจักร ลดการบำรุงรักษา ลดเวลาสูญเปล่าของเครื่องจักร - เพิ่มความเหนียว ลดความเปราะ - เพิ่มความคมและทนทาน - ลดความเค้น (Stress) คลายความเครียด (Strain) ของโลหะ - เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมเพราะไม่มีของเสียเกิดขึ้น - สามารถทนทานกับอุณหภูมิที่สูงกว่าโลหะที่ไม่ได้ชุบ หัวข้อ: Re: เพิ่มประสิทธิภาพ ปืนได้ จริง หรือ ??? เริ่มหัวข้อโดย: C.J. - รักในหลวง ที่ กุมภาพันธ์ 09, 2009, 04:35:06 PM คงจะมีการจัดเรียงตัวของอะตอมดีขึ้น... ;D
ผมคุ้นแต่ PWHT... เย็นๆ แบบนี้ไม่รู้จัก ;D ฝรั่งบอกแม่นขึ้นนิ ==> http://www.cryogenicsinternational.com/shooting.htm หัวข้อ: Re: เพิ่มประสิทธิภาพ ปืนได้ จริง หรือ ??? เริ่มหัวข้อโดย: naisomchai ที่ กุมภาพันธ์ 09, 2009, 05:02:44 PM โอ้...
ขอบคุณพี่บุญกับคุณไฮดร้าครับ... นายสมชายทราบแล้วครับ... สรุปคือผิวแข็งขึ้น และทำให้เนื้อโลหะลำกล้องเคลื่อนไหวขณะกระสุนวิ่งผ่าน ได้เป็นระเบียบคงที่แน่นอนในแต่ละนัดด้วยครับ... ตามข้อความภาษาอังกฤษของพี่บุญฯ นายสมชายสรุปได้ทำนองว่าขณะกระสุนผ่านในลำกล้อง ตัวลำกล้องเองจะเคลื่อนไหวเหมือนสายยางรดน้ำต้นไม้แหละครับ... ไม่ฮา... เพียงแต่มันเร็วมาก วาร์ป... ออกไปเลย... หัวข้อ: Re: เพิ่มประสิทธิภาพ ปืนได้ จริง หรือ ??? เริ่มหัวข้อโดย: Tanate(รักในหลวง) ที่ กุมภาพันธ์ 09, 2009, 06:55:21 PM ท่านที่ไม่ได้เรียนโลหะวิทยามาคงงงแน่เลยว่า อะไรคือออสเทนไนต์ อะไรคือมาเทนไซต์ ;D
ขอบคุณจขกท. และคุณไฮดร้า ที่ทำให้ผมรู้ว่าตำราเรียนโลหะวิทยาผมหายครับ :~) หาไม่เจอเลยไม่ได้เพิ่มเติมข้อมูลบ้าง ขอบคุณสำหรับความรู้ใหม่ๆครับ ::014:: หัวข้อ: Re: เพิ่มประสิทธิภาพ ปืนได้ จริง หรือ ??? เริ่มหัวข้อโดย: อรชุน-รักในหลวง ที่ กุมภาพันธ์ 09, 2009, 07:29:04 PM ท่านที่ไม่ได้เรียนโลหะวิทยามาคงงงแน่เลยว่า อะไรคือออสเทนไนต์ อะไรคือมาเทนไซต์ ;D ขอบคุณจขกท. และคุณไฮดร้า ที่ทำให้ผมรู้ว่าตำราเรียนโลหะวิทยาผมหายครับ :~) หาไม่เจอเลยไม่ได้เพิ่มเติมข้อมูลบ้าง ขอบคุณสำหรับความรู้ใหม่ๆครับ ::014:: พี่ๆคนไหนสนใจเรื่องเกี่ยวกับเหล็กและเหล็กกล้าเบื้องต้นตามไปอ่านได้ที่นี่ครับ เหมือนตำราพื้นฐานวิศวะเด๊ะๆ ;D ;D โลหะวิทยาเป็นวิชายากที่ผมชอบที่สุด โดยเฉพาะตอนเทสคุณสมบัติ :VOV: http://www.elecnet.chandra.ac.th/learn/courses/5513101/termwork/iron/iron2.html http://www.kongpitukthum.th.gs/web-k/utu/bbb2.htm หัวข้อ: Re: เพิ่มประสิทธิภาพ ปืนได้ จริง หรือ ??? เริ่มหัวข้อโดย: bymanshop ที่ กุมภาพันธ์ 09, 2009, 09:01:20 PM เหล็กมันคงน่าจะหดตัวจากความเย็นนะครับ ถ้าชุบลำกล้องน่าจะดีมากๆ :VOV:
หัวข้อ: Re: เพิ่มประสิทธิภาพ ปืนได้ จริง หรือ ??? เริ่มหัวข้อโดย: BAI ที่ กุมภาพันธ์ 09, 2009, 10:25:25 PM ละเอียดยิบครับ
หัวข้อ: Re: เพิ่มประสิทธิภาพ ปืนได้ จริง หรือ ??? เริ่มหัวข้อโดย: ธำรง ที่ กุมภาพันธ์ 09, 2009, 10:28:57 PM นายสมชายโง่เลยแฮะ... สรุปแล้วเอาปืนไปชุบแล้วได้อะไรขึ้นมาครับ... เช่นชุบแล้วปืนแข็งขึ้นพร้อมกับเหนียวขึ้นพร้อมกัน ทำให้ทนขึ้น... หรือทำให้ยิงแม่นขึ้น เพราะโลหะมันทำอะไรซักอย่างนึง ทำให้กระสุนวิ่งคงที่เป็นระเบียบยิ่งขึ้น... หรือเปล่าครับ... คือสงสัยง่ายๆ ว่าทำไปทำไมครับ... และหากไม่ได้ทำ มันจะไม่ดียังไงเล่าครับ ถึงได้ต้องไปทำมันให้เสียเงิน... คำถามนี้ ::002:: หัวข้อ: Re: เพิ่มประสิทธิภาพ ปืนได้ จริง หรือ ??? เริ่มหัวข้อโดย: kamet ที่ กุมภาพันธ์ 10, 2009, 05:39:11 PM ที่ KRM performance ของเวป คนรักมีด เรามีอุปกรณ์นี้ครับ ใช้ในการชุบแข็ง สำหรับมีด ที่กลุ่มคนรักมีผลิตขึ้นครับ
ลองเข้าไปคุยได้ที่ konrakmeed.com ครับ ท่านสมชาย(ฮา) ถ้าเจอ อ.pex ให้แกเอามีด ที่KRM performance ทำขึ้น มาลองเล่นดูได้ครับ หัวข้อ: Re: เพิ่มประสิทธิภาพ ปืนได้ จริง หรือ ??? เริ่มหัวข้อโดย: Luzefer ที่ กุมภาพันธ์ 10, 2009, 06:09:31 PM ตามลิงค์นี้ครับ
http://www.htg2.net/index.php?topic=43251.0 ราคาไม่แพงมากนะครับ น่าสนใจดี หัวข้อ: Re: เพิ่มประสิทธิภาพ ปืนได้ จริง หรือ ??? เริ่มหัวข้อโดย: BIGFISH ที่ กุมภาพันธ์ 10, 2009, 07:46:32 PM ขอแจมด้วยคนครับ (เป็ดทุกเรื่อง)
อยากโม้ว่าโลหะวิทยา ได้คะแนน Top ของห้องจริงๆ ประมาณว่าให้วาดรูปผลึกเจ้ามาเมนไซต์ที่ตอนนั้นเป็น Hero ของผม อธิบายคุณสมบัติ ประโยชน์ทำที่ตักดินของรถขุแมคโคร แต่ยังไม่ดีพอ คุณครูท่าน (น.อ.ผศ.ดร.ไกรพ กมลนาวิน) ::014::ให้ B+ ไม่ดีพอสำหรับ A น่าสงสาร ก่อนสอบคุณครูท่านเก็งข้อสอบให้ เรื่องนี้อัตนัย อ อ่าง อย่าเอ็ดไป เรื่องนี้ก็ อ อ่าง อ อ่างเกือบทุกเรื่อง เก็งให้อย่างนี้ คุณครูบอกคำเดียวว่าท่องทั้งเล่มก็ได้ครับ ขออนุญาตเรียนด้วยความเคารพว่า เรื่องที่คุณครูเก็งให้กับเรื่องที่คุณครูออกสอบน่ะมันไม่ตรงกันนะครับ ออกจากห้องสอบ เกือบทุกคนส่ายหน้าหมด ทดลองเอาหัวไม้ไปชุบเย็นมาแล้ว แต่อาศัยฝีมือที่เป็นประสิทธิภาพประจำตัวยังไม่สามารถรู้สึกถึงประสิทธิภาพล้ำเลิศของอุปกรณ์อะไรได้ ประโยชน์ที่ได้ชัดๆคือเมื่อเล่าจบจะเพิ่มเรื่องฮาให้เพื่อนอีกเรื่อง สุดท้ายไม่ได้ใช้ เปลี่ยนมาใช้อันใหม่ที่ก้านแข็งกว่า น่าสงสารมากๆ สุดท้าย ที่นี่ ข้อมูลสุดยอดจริงๆ ชอบครับ ::002:: หัวข้อ: Re: เพิ่มประสิทธิภาพ ปืนได้ จริง หรือ ??? เริ่มหัวข้อโดย: ใหญ่_ขอนแก่น ที่ กุมภาพันธ์ 10, 2009, 10:00:15 PM มีข้อมูลเพิ่มเติม ฝากให้ท่านที่สนใจ....ติดตามขยายความดูอีกเรื่องคือ เรื่อง ไอออน อิมพลานเตชั่น
เป็นข่าวเก่าๆจาก ศูนย์เทคโนโลยีโลหะและวัสดุแห่งชาติ พอดีเคยผ่านตา เลยเก็บไว้ ดังนี้ครับ... Ion Implantation คือการฝังไอออนที่ผิวของวัสดุ เป็นหนึ่งในกระบวนการปรับผิวหน้าวัสดุให้มีสมบัติ เชิงกายภาพดีขึ้น เหมาะสำหรับนำไปใช้ในงานพิเศษด้านต่าง ๆ ในกระบวนการนี้ไอออนของธาตุต่าง ๆ เช่น ไนโตรเจน โบรอน ถูกยิงไปฝังบนผิวของวัสดุ พลังงานของไอออนส่วนใหญ่มีค่าอยู่ในเรือน 100 keV ขึ้นไป ไอออนจะฝังลึกลงไปในผิวประมาณ 0.1 ไมครอน กระบวนการทั้งหมด ดำเนินไปในห้องที่มีความดันบรรยากาศต่ำ สมบัติเชิงกายภาพที่ผิวซึ่งเกิดการเปลี่ยนแปลงหลังจากการฝังด้วยไอออนจำนวนหนึ่งคือ ความแข็ง การสึกหรอ การเสียดทาน และการเป็นสนิม เป็นต้น เครื่องไอออนอิมพลานเตชั่นประกอบด้วย เครื่องกำเนิดไอออนระบบเร่งอนุภาค ระบบกรองอนุภาค(beam analyser), ระบบ นำลำอนุภาค(beam transport system) และห้องแขวนเป้า(target chamber) โดยที่ส่วนประกอบ ทั้งหมดนี้อยู่ในระบบสูญญากาศ เครื่องกำเนิดไอออนเป็นแหล่งผลิตไอออนให้แก่ระบบ ไอออนจากเครื่องกำเนิด จะถูกทำให้มีพลังงานตามที่ต้องการด้วยระบบเร่งอนุภาค โดยทั่วไปแล้วไอออนที่ผลิตจากเครื่องกำเนิดไอออน มีหลายชนิด เมื่อไอออนเหล่านี้ผ่านเข้าไปในส่วน beam analyser ไอออน ชนิดที่ไม่ต้องการก็จะถูกคัดออก ทำให้ได้ลำไอออนที่บริสุทธิ์ออกมา หลังจากนั้นลำไอออนจะถูกนำส่งไปยังพื้นผิวของวัสดุที่วางอยู่ใน target chamber ในบรรดาส่วนประกอบของเครื่องไอออนอิมพลานเตชั่นที่กล่าวมาแล้วนั้น เครื่องกำเนิดไอออนเป็นส่วนที่ซับซ้อนที่สุด ซึ่งอาจถือได้ว่าเป็นหัวใจของเครื่องอิมพลานเตชั่น ในขณะที่ beam analyser และ beam transport system ซึ่งเป็นระบบแม่เหล็กไฟฟ้า ก็นับว่าเป็นเทคโนโลยีที่มีความสำคัญไม่แพ้กัน ไอออนอิมพลานเตชั่นเป็นเทคนิคของการเคลือบแข็งแบบใหม่ที่มีลักษณะโดดเด่นเฉพาะตัว คือ - เคลือบวัสดุ โดยไม่เปลี่ยนแปลงขนาดของวัสดุนั้น, - ไม่มีปัญหาเกี่ยวกับการติดแน่นของสารเคลือบกับวัสดุ, - ไม่มีปัญหา Thermal distortion ผิวชิ้นงานได้รับการขัดไปในตัว - การฝังตัวของอะตอมเป็นกระบวนการระดับจุลภาค ดังนั้น การรวมตัวกับธาตุเดิมจึงกลมกลืนที่สุด นอกจากนี้วิธีไอออนอิมพลานเตชั่นยังเป็นการเปลี่ยนแปลงสมบัติผิวของวัสดุ ซึ่งขึ้นกับชนิดของไอออนที่ใช้ด้วย แหล่งข้อมูลเพิ่มเติม : Web Sites - ION IMPLANTATION : http://www.rpi.edu/dept/chem-eng/WWW/faculty/cale/cl./SMP/lecture8/sld001.htm ปัจจุบันผมยังไม่อัพเดทเรื่องนี้ครับ.... หัวข้อ: Re: เพิ่มประสิทธิภาพ ปืนได้ จริง หรือ ??? เริ่มหัวข้อโดย: อรชุน-รักในหลวง ที่ กุมภาพันธ์ 11, 2009, 04:23:47 PM มีข้อมูลเพิ่มเติม ฝากให้ท่านที่สนใจ....ติดตามขยายความดูอีกเรื่องคือ เรื่อง ไอออน อิมพลานเตชั่น เป็นข่าวเก่าๆจาก ศูนย์เทคโนโลยีโลหะและวัสดุแห่งชาติ พอดีเคยผ่านตา เลยเก็บไว้ ดังนี้ครับ... Ion Implantation คือการฝังไอออนที่ผิวของวัสดุ เป็นหนึ่งในกระบวนการปรับผิวหน้าวัสดุให้มีสมบัติ เชิงกายภาพดีขึ้น เหมาะสำหรับนำไปใช้ในงานพิเศษด้านต่าง ๆ ในกระบวนการนี้ไอออนของธาตุต่าง ๆ เช่น ไนโตรเจน โบรอน ถูกยิงไปฝังบนผิวของวัสดุ พลังงานของไอออนส่วนใหญ่มีค่าอยู่ในเรือน 100 keV ขึ้นไป ไอออนจะฝังลึกลงไปในผิวประมาณ 0.1 ไมครอน กระบวนการทั้งหมด ดำเนินไปในห้องที่มีความดันบรรยากาศต่ำ สมบัติเชิงกายภาพที่ผิวซึ่งเกิดการเปลี่ยนแปลงหลังจากการฝังด้วยไอออนจำนวนหนึ่งคือ ความแข็ง การสึกหรอ การเสียดทาน และการเป็นสนิม เป็นต้น เครื่องไอออนอิมพลานเตชั่นประกอบด้วย เครื่องกำเนิดไอออนระบบเร่งอนุภาค ระบบกรองอนุภาค(beam analyser), ระบบ นำลำอนุภาค(beam transport system) และห้องแขวนเป้า(target chamber) โดยที่ส่วนประกอบ ทั้งหมดนี้อยู่ในระบบสูญญากาศ เครื่องกำเนิดไอออนเป็นแหล่งผลิตไอออนให้แก่ระบบ ไอออนจากเครื่องกำเนิด จะถูกทำให้มีพลังงานตามที่ต้องการด้วยระบบเร่งอนุภาค โดยทั่วไปแล้วไอออนที่ผลิตจากเครื่องกำเนิดไอออน มีหลายชนิด เมื่อไอออนเหล่านี้ผ่านเข้าไปในส่วน beam analyser ไอออน ชนิดที่ไม่ต้องการก็จะถูกคัดออก ทำให้ได้ลำไอออนที่บริสุทธิ์ออกมา หลังจากนั้นลำไอออนจะถูกนำส่งไปยังพื้นผิวของวัสดุที่วางอยู่ใน target chamber ในบรรดาส่วนประกอบของเครื่องไอออนอิมพลานเตชั่นที่กล่าวมาแล้วนั้น เครื่องกำเนิดไอออนเป็นส่วนที่ซับซ้อนที่สุด ซึ่งอาจถือได้ว่าเป็นหัวใจของเครื่องอิมพลานเตชั่น ในขณะที่ beam analyser และ beam transport system ซึ่งเป็นระบบแม่เหล็กไฟฟ้า ก็นับว่าเป็นเทคโนโลยีที่มีความสำคัญไม่แพ้กัน ไอออนอิมพลานเตชั่นเป็นเทคนิคของการเคลือบแข็งแบบใหม่ที่มีลักษณะโดดเด่นเฉพาะตัว คือ - เคลือบวัสดุ โดยไม่เปลี่ยนแปลงขนาดของวัสดุนั้น, - ไม่มีปัญหาเกี่ยวกับการติดแน่นของสารเคลือบกับวัสดุ, - ไม่มีปัญหา Thermal distortion ผิวชิ้นงานได้รับการขัดไปในตัว - การฝังตัวของอะตอมเป็นกระบวนการระดับจุลภาค ดังนั้น การรวมตัวกับธาตุเดิมจึงกลมกลืนที่สุด นอกจากนี้วิธีไอออนอิมพลานเตชั่นยังเป็นการเปลี่ยนแปลงสมบัติผิวของวัสดุ ซึ่งขึ้นกับชนิดของไอออนที่ใช้ด้วย แหล่งข้อมูลเพิ่มเติม : Web Sites - ION IMPLANTATION : http://www.rpi.edu/dept/chem-eng/WWW/faculty/cale/cl./SMP/lecture8/sld001.htm ปัจจุบันผมยังไม่อัพเดทเรื่องนี้ครับ.... ผมลองไปหารายละเอียดอ่านดู พบว่าขั้นตอนและอุปกรณ์ยุ่งยากต้องใช้บุคลากรและใช้เทคโนโลยีค่อนข้างสูงมากทีเดียว เกินระดับที่ผมเรียนไปเยอะเลยครับ(ความรู้ไม่ถึงขั้น ::005:: ) ไม่ทราบว่ามหาวิทยาลัยในประเทศไทยจะมีใช้กันกี่เครื่อง นอกจากที่ ม.ช. กับศูนย์เทคโนโลยีอิเล็กทรอนิกส์และคอมพิวเตอร์ แต่ก็เป็นเทคโนโลยีที่น่าสนใจมากทีเดียว แต่เห็นราคาอุปกรณ์แต่ล่ะชิ้นแล้วหน้ามืด :OO :OO http://thep-center.org/src/activity.html http://www.nectec.or.th/rd/electronics/bs304-45/bs304-45.php หัวข้อ: Re: เพิ่มประสิทธิภาพ ปืนได้ จริง หรือ ??? เริ่มหัวข้อโดย: cn021 รักในหลวง ที่ กุมภาพันธ์ 11, 2009, 07:59:43 PM การชุบเย็นครายโอจินิค (Cryogenic Treatment) คือการชุบต่อจากการชุบแข็งโดยใช้อุณหภูมิตำมากคือ --196 C จะทำให้ออสเทนไนต์ที่เหลือค้าง (Retained austenite) เปลี่ยนเป็นมาร์เทนไซท์ให้มากที่สุด ทั้งนี้เนื่องจากเหล็กกล้าเครื่องมือส่วนใหญ่ผสมธาตุต่าง ๆ ในปริมาณสูง ซึ่งเมื่อมีการลดอุณหภูมิมีการเปลี่ยนแปลงจากออสเทนไนต์ไปเป็นมาร์เทนไซท์ ภายหลังการชุบแข็ง (Heat treatment) เหล็กกล้าจากอุณหภูมิออสเตนไนต์ในสารชุบที่อุณหภูมิห้อง ทำให้มีออสเทนไนท์เหลือค้างอยู่จำนวนหนึ่ง อันเป็นผลให้เหล็กมีความแข็งน้อยกว่าที่ควรจะเป็น ออสเทนไนต์เหลือค้างมีโอกาสเปลี่ยนไปเป็น มาร์เทนไซท์ได้เมื่อถูกแรงกดหรือแรงดึงขณะใช้งาน ซึ่งโดยคุณสมบัติทางฟิสิกส์ ออสเทนไนท์จะมีปริมาตรจำเพาะต่ำกว่ามาร์เทนไซท์ ดังนั้นเมื่อเกิดการเปลี่ยนแปลงย่อมจะมีผลโดยตรงกับขนาดชิ้นงาน กล่าวคือมีการขยายตัวก่อให้เกิดความเครียดกับเหล็ก อันเป็นผลให้เกิดการแตกร้าวและอายุการใช้งานสั้นลง ประโยชน์ที่ได้จากครายโอจินิคทรีตเม้นท์ ครายโอจินิคทรีตเม้นท์ เป็นเทคโนโลยีที่มีประโยชน์มากสำหรับอุตสาหกรรม พาณิชย์กรรม การกีฬา และผู้บริโภค กระบวนการนี้กระทำเพียงครั้งเดียวและเป็นการถาวร ประโยชน์ที่ได้อาทิเช่น - เป็นการบำรุงเพียงครั้งเดียว - รูปร่างของวัตถุไม่เปลี่ยนแปลง มีความมั่นคงของมิติ - เพิ่มความหนาแน่นโครงสร้างของโมเลกุล โมเลกุลจัดตัวอย่างมีระเบียบ มีผลทำให้มีผิวสัมพัทธ์มากขึ้น ลดแรงเสียดทาน ทนความร้อน - เปลี่ยนแปลงโครงสร้างทั้งหมด ไม่ใช่การเปลี่ยนโครงสร้างเฉพาะผิว - เปลี่ยนแปลงออสเทนไนท์คงค้างให้เป็นมาร์เทนไซท์เกือบทั้งหมด - เพิ่มความทนทานและเพิ่มอายุการใช้งานเครื่องจักร ลดการบำรุงรักษา ลดเวลาสูญเปล่าของเครื่องจักร - เพิ่มความเหนียว ลดความเปราะ - เพิ่มความคมและทนทาน - ลดความเค้น (Stress) คลายความเครียด (Strain) ของโลหะ - เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมเพราะไม่มีของเสียเกิดขึ้น - สามารถทนทานกับอุณหภูมิที่สูงกว่าโลหะที่ไม่ได้ชุบ ::014:: ::014:: |