เว็บบอร์ดสนทนาภาษาปืน

สนทนาภาษาปืน => หลังแนวยิง => ข้อความที่เริ่มโดย: BIGFISH ที่ กุมภาพันธ์ 16, 2009, 05:26:03 PM



หัวข้อ: โทษของนมถั่วเหลือง ???
เริ่มหัวข้อโดย: BIGFISH ที่ กุมภาพันธ์ 16, 2009, 05:26:03 PM

ต้องออกกำลังกาย ใส่ใจอาหาร หาความสำราญให้ชีวิต และตั้งจิตอุเบกขา

หัวข้อนี้เป็นเรื่องใส่ใจอาหารครับ

เมื่อวานนี้ป้อนนมเจ้าไพธอนน้อย เป็นนมถั่วเหลือง ช่วงเช้าตัวเองดื่มนมถั่วเหลือง ยิ่งผสมงาดำนี่ชอบมาก

อ่านบทความเรื่องโทษของนมถั่วเหลืองจากมติชน แล้วคาใจ เราไม่สามารถรู้ความจริงของธรรมชาติทั้งหมด  เหมือนกับอีกหลายเรื่องที่มีด้านที่เป็นคุณ และอีกด้านที่เป็นโทษ โดยเฉพาะอย่างยิ่งที่มากเกินพอดี จน สุดโต่ง  ดังนั้น ขณะนี้ยังหาข้อสรุปไม่ได้ การเผยแพร่ข้อมูลนี้ คงไม่ถึงขั้นสร้างความตื่นตระหนก แต่ในทางปฏิบัติ รอดูความชัดเจนก่อนก็ดี โดยเฉพาะบ้านที่มีเด็ก อย่าให้ดื่มนมถั่วเหลืองอย่างเดียว 

แต่ก่อนคิดว่าเรื่องเอสโตรเจน ฮอร์โมนเพศจะมีผลกับเราสักแค่ไหนเชียว ไม่ได้ใส่ใจ
 ตอนนี้นมถั่วเหลืองถูกตั้งข้อหาร้ายแรงอีกเช่นเดียวกัน

1. ไม่แน่ใจตั้งแต่กระบวนการผลิตที่ใช้ด่างและกรด ซึ่งทำให้พบปริมาณอลูมิเนียมสูงกว่าเป็น 100 เท่า มีผลต่ออัลไซเมอร์ การหมักที่ถูกต้องจะปลอดภัยกว่า
2. มีเอมไซม์ยับยั้ง Growth ฮอร์โมน ชาวเอเซียชาติที่กินเต้าหู้แล้วตัวเล็ก โทษเจ้าเต้าหู้
3. ทดลองในหนู ปรากฏการเร่งความเป็นหนุ่มเป็นสาว
4. หากใช้เลี้ยงทารก การขาดไขมันนมมีผลต่อการพัฒนาสมองและระบบประสาท
5. มะเร็งตับโตเร็ว??


http://www.rense.com/health/soydanger.htm



ใช้กูเกิลค้นหา แล้วใช้โปรแกรมช่วยแปล พออ่านได้ครับ
ขอคำแนะนำเพิ่มเติมด้วยครับ

มีหลายทางให้เลือกทาน ต้องเลือกอาหารให้ถูกต้อง


หัวข้อ: Re: โทษของนมถั่วเหลือง ???
เริ่มหัวข้อโดย: NaiMai>รักในหลวง ที่ กุมภาพันธ์ 16, 2009, 05:50:11 PM
 ;D คิดมากเดี๋ยวกินอะไรไม่ได้เลย คนโบร่ำโบราณเขากินมายังไง ผมก็กินไปอย่างนั้นครับ ;D
 ;D สังเกตุไหมครับ ว่าปัจจุบันดูเหมือนว่าเราน่าจะมีความเป็นอนามัยสูง แต่ทำไมอายุถึงสั้นลง เมื่อเทียบกับคนเก่าคนแก่คนรุ่นโบราณ ???


หัวข้อ: Re: โทษของนมถั่วเหลือง ???
เริ่มหัวข้อโดย: ozero++รักในหลวงมากค่ะ++ ที่ กุมภาพันธ์ 16, 2009, 05:51:16 PM
โอดื่มแหลกค่ะ :D~


หัวข้อ: Re: โทษของนมถั่วเหลือง ???
เริ่มหัวข้อโดย: coda ที่ กุมภาพันธ์ 16, 2009, 05:55:18 PM
...ถ้าไม่ได้ดื่มมากมาย ไม่น่าจะมีปัญหาอะไรครับ

...รับประทานอาหารหลากหลายชนิดที่มีประโยชน์ ไม่ทานซ้ำซาก หากเป็นไปได้ (ผมพูดถึงอาหารและเครื่องดื่มนะครับ)


หัวข้อ: Re: โทษของนมถั่วเหลือง ???
เริ่มหัวข้อโดย: NaiMai>รักในหลวง ที่ กุมภาพันธ์ 16, 2009, 05:58:18 PM
โอดื่มแหลกค่ะ :D~

 ;D เชื่อครับ ทั้งดื่ม ทั้งกิน แหลกหมด สำหรับ "เจ้โอ มูลิเนกซ์" :DD :DD :DD


หัวข้อ: Re: โทษของนมถั่วเหลือง ???
เริ่มหัวข้อโดย: soveat ชุมไพร ที่ กุมภาพันธ์ 16, 2009, 06:13:57 PM
  ผมไม่เคยกลัวถั่วเหลืองครับ  กลัวแต่ถั่วดำ   :OO :OO


หัวข้อ: Re: โทษของนมถั่วเหลือง ???
เริ่มหัวข้อโดย: บาร์ท รักในหลวง ที่ กุมภาพันธ์ 16, 2009, 06:24:07 PM
;D คิดมากเดี๋ยวกินอะไรไม่ได้เลย คนโบร่ำโบราณเขากินมายังไง ผมก็กินไปอย่างนั้นครับ ;D
 ;D สังเกตุไหมครับ ว่าปัจจุบันดูเหมือนว่าเราน่าจะมีความเป็นอนามัยสูง แต่ทำไมอายุถึงสั้นลง เมื่อเทียบกับคนเก่าคนแก่คนรุ่นโบราณ ???
จริงครับ คนสมัยนี้ห่วงสุขภาพมากขึ้น แต่การห่วงสุขภาพของคนสมัยนี้ส่วนใหญ่คือการกินอาหารเสริม ใช้วิตามินสารพัดชนิด ยาบำรุงสารพัดยี่ห้อ แต่ดูๆแล้วก็ไม่เห็นว่าจะมีผลดีทำให้สุขภาพดีขึ้นกว่าเดิมตรงไหน ??? วิตามิน อาหารเสริม ที่คนสมัยนี้ฮิตกัน กินเข้าไปมันก็เหมือนเดิม สุขภาพใช่ว่าจะแข็งแรงกว่าเดิม หรืออายุยืนกว่าเดิม


  ผมไม่เคยกลัวถั่วเหลืองครับ  กลัวแต่ถั่วดำ   :OO :OO
พี่กวางเคยกินมาแล้วเหรอครับ ;D ;D







ชะแว้บบบบบบบบบบ :DD


หัวข้อ: Re: โทษของนมถั่วเหลือง ???
เริ่มหัวข้อโดย: ozero++รักในหลวงมากค่ะ++ ที่ กุมภาพันธ์ 16, 2009, 06:40:16 PM
โอดื่มแหลกค่ะ :D~

 ;D เชื่อครับ ทั้งดื่ม ทั้งกิน แหลกหมด สำหรับ "เจ้โอ มูลิเนกซ์" :DD :DD :DD

 ::006::


หัวข้อ: Re: โทษของนมถั่วเหลือง ???
เริ่มหัวข้อโดย: รพินทรนาถ -รักในหลวงและสยามประเทศ ที่ กุมภาพันธ์ 16, 2009, 07:31:00 PM
คนสมัยนี้อนามัยจัดเลยเปราะไปหมดครับ แถมสิ่งแวดล้อมก็แย่กว่าเมื่อก่อนอีก พอเจอเชื้อโรคเจออะไรแปลกๆเข้าไปหน่อยเดียวก็ล้มหนอนเสื่อแล้ว

ถ้าน้ำเต้าหู้ไม่ดีจริงแล้วที่ย่าผมทานมาตั้งแต่สาวๆจนตอนนี้อายุ 80 จะ 90 ปีแล้ว ทำไมท่านไม่เห็นเป็นอะไรเลยครับ แถมอาม่า อากงแถวบ้านผมก็ทานน้ำเต้าหู้ เต้าฮ้วยกันให้พรึ่บ ไม่ยักกะมีอาการอะไรเลยสักคน  ::002::


หัวข้อ: Re: โทษของนมถั่วเหลือง ???
เริ่มหัวข้อโดย: Pter ที่ กุมภาพันธ์ 16, 2009, 07:40:20 PM
ผมว่าน้ำเต้าหู้สมัยนี้มันน่ากลัว เพราะใส่มาในถุงพลาสติกนะครับ แม้มันจะเป็นถุงร้อนก็เถอะ  ::012::


หัวข้อ: Re: โทษของนมถั่วเหลือง ???
เริ่มหัวข้อโดย: Audy452 ♥ รักในหลวง ที่ กุมภาพันธ์ 16, 2009, 07:43:01 PM
  ผมไม่เคยกลัวถั่วเหลืองครับ  กลัวแต่ถั่วดำ   :OO :OO

 :OO ชอบเพลงนี้รึเปล่ายะ "....กล้วยบวชชีขายดีตอนหัวค่ำ....ตกสองยามถั่วดำขายดี....."  ::005::



หัวข้อ: Re: โทษของนมถั่วเหลือง ???
เริ่มหัวข้อโดย: Peerapat - รักในหลวง ที่ กุมภาพันธ์ 16, 2009, 08:33:58 PM


       ขอบคุณ จขกท. และ ทุกๆท่านที่ให้ความรู้ครับ  ::014::


       ส่วนตัวผมไม่ชอบดื่มนมถั่วเหลือง ชอบเป็นนมสดหรือนมวัวเสียมากกว่าครับ เพราะเคยดื่มไวตามิ้ลค์แล้วรู้สึกเวียนศรีษะไม่รู้เกิดจากอะไรเหมือนกันครับ
 ::012::


หัวข้อ: Re: โทษของนมถั่วเหลือง ???
เริ่มหัวข้อโดย: ~ Sitthipong - รักในหลวง ~ ที่ กุมภาพันธ์ 16, 2009, 08:38:30 PM
อย่าเชื่อฝรั่งมาก  จะเหมือนกับน้ำมันมะพร้าวที่บอกว่าไม่ดี  ให้กินน้ำมันถั่วเหลืองแทน (หลอกเรามาหลายสิบปี)  :<<


หัวข้อ: Re: โทษของนมถั่วเหลือง ???
เริ่มหัวข้อโดย: supreme ที่ กุมภาพันธ์ 16, 2009, 08:57:02 PM
คิดว่าคนสมัยนี้ก็อายุยืนเหมือนกัน  แต่ยืนแบบไม่แข็งแรง อาจเป็นเพราะไม่ค่อยออกกำลังกาย กับกินแหลก และโรคใหม่ๆและโรคเก่า(ดื้อยา) แถมมีข้อมูลสารพัดมาทำให้เครียด ฝรั่งบอกกินไข่ไม่ดี แล้วก็มีฝรั่งอีกคนบอกกินได้ไม่เป็นไร หรือกินโน้นแล้วมีโอกาสเป็นมะเร็ง คนที่ขายก็ออกมาโต้ว่า ก็คุณเล่นให้หนูมันกินขนาดนั้น  มันน่าจะท้องแตกตายก่อนเป็นมะเร็งแล้วจ้า

ส่วนตัวผมว่าถ้าอยากอายุยืน ก็ทานแบบธรรมดาไม่มากเกินไป ของอันตรายก็กินพอหอมปากหอมคอ ออกกำลังกาย และมองโลกในแง่ดีบ้าง อะไรที่ไม่สำคัญก็ปล่อยวางบ้าง ไม่ต้องเสริมด้วยอาหารวิเศษหรือศาสตร์ลึกลับอะไรทั้งนั้น


หัวข้อ: Re: โทษของนมถั่วเหลือง ???
เริ่มหัวข้อโดย: โทน73 -รักในหลวง- ที่ กุมภาพันธ์ 16, 2009, 09:06:51 PM
อย่าเชื่อฝรั่งมาก  จะเหมือนกับน้ำมันมะพร้าวที่บอกว่าไม่ดี  ให้กินน้ำมันถั่วเหลืองแทน (หลอกเรามาหลายสิบปี)  :<<

จริงครับ  สมัยหลังสงครามโลกครั้งที่สองจบลงใหม่ๆ  อเมริกันบอกว่า น้ำมันถั่วเหลือง มีคุณประโยชน์มากกว่าน้ำมันปาล์ม  เหตุผลแท้จริง ตอนนั้นอเมริกามี ผลผลิตถั่วเหลืองจำนวนมาก  ต้องการระบายออกมากกว่า

เรื่องน้ำมันมะพร้าวก็ ใช้ผลจะการวิจัยยุคโน้น โดยผู้วิจัยหลังๆต่อยอดเพียงความคิดอย่างเดียว ไม่ได้ตรวจทาน

ให้ตั้งข้อสงสัยไว้เลยว่า ข่าวสารต่างๆ จะมีผลประโยชน์ทางการตลาดแอบแฝงมาเสมอ  อย่างกระแส ดื่มชา หรือชาเขียว ก็จะมีบทความเชิงวิชาการ ลงตีพิมพ์ประโคมข่าวอยู่หลายปี   ....... จนมารู้ว่า มีการเตรียมผลิตภัณฑ์ออกขายหลายสิบชนิดในภายหลัง

ตอนกระแสชีวจิตใหม่ๆ ก็ มีการบอกว่า คาแฟอีน และแทนนิน ใน ชา กาแฟ  ไม่ดีต่อสุขภาพ อาจเป็นสารก่อมะเร็ง  ต่อมาก็มีข่าวมาอีกว่า  ในกาแฟ ชา มีสารต้านอนุมูลอิสระ  .... เอากะเขาสิ   :P

การศึกษาไม่นิ่งคงต้องค้นคว้าต่อไป  ของที่ไม่ดีในวันนี้ อาจค้นพบคุณประโยชน์ในวันข้างหน้าก็ได้   .....แต่ยังไงก็ให้ระวังเรื่องตกเป็นเหยื่อทางการตลาดให้มากที่สุด  


หัวข้อ: Re: โทษของนมถั่วเหลือง ???
เริ่มหัวข้อโดย: บาร์ท รักในหลวง ที่ กุมภาพันธ์ 16, 2009, 09:45:55 PM
ขออนุญาตเล่าประสพการณ์ที่เพิ่งเจอมาไม่นานนี่ดีกว่า


ผมโดนชักชวนให้เข้าร่วมทำกิจการ แค่ทำหน้าที่เผยแพร่ข้อมูล บริโภคสินค้าของเค้า และดึงคนเข้ามาร่วมทำธุรกิจกับเรา

สินค้าที่ว่าก็คือ Agel ครับ ไม่รู้ว่ารู้จักกันหรือเปล่า

Agel เป็นวิตามินในรูปของเจล บรรจุซองพร้อมดื่ม เหมือนเยลลี่ที่เด็กๆกินน่ะแหละครับ

มันถูกแบ่งออกเป็นหลายชนิด หลายจุดประสงค์ ใช้สำหรับต้านอนุมูลอิสระ, บำรุงร่างกาย, ควบคุมน้ำหนัก, เพิ่มพลังงาน ฯลฯ โดยแต่ละผลิตภัณฑ์ก็จะแบ่งยิบย่ิิอยลงไปอีกว่ามีสรรพคุณอะไรต่อมิอะไร

เค้าโฆษณาว่าสกัดมาจากผลไม้และพืชต่างๆที่หายากมากๆในโลก ผมดูๆแล้วก็สงสัยว่าหายากตรงไหน  มังคุด, ว่ายหางจระเข้, ผลไม้จำพวกเบอรี่ต่างๆ, ทับทิม ฯลฯ

เค้าพยายามจะชวนผมให้ร่วมทำเพราะอะไร?  เค้าก็พูดเหมือนหวังดีนะ ว่าอยากให้ลองทำงานแบบนี้ ได้เงินดี เอาโน่นเอานี่มาอ้าง เช่นบริษัทจะให้รถเบนซ์ถ้าทำยอดขายดี, ทำแป๊บเดียวก็ได้ทุนคืน แถมได้กำไรด้วย, บลา บลา บลา  สารพัดจะชักชวน  และเหตุอีกผลหนึ่งก็คือ ถ้าเค้าหาคนได้ครบตามเป้าแล้ว เค้าจะได้เลื่อนตำแหน่งไปเป็นผู้จัดการ...โฮ่ๆๆๆ

แรกๆผมก็ว่าน่าสนใจดี เพราะเป็นงานอิสระ และมีรายได้ดี(ตามที่เค้าโฆษณา) และเป็นงานที่ทำง่ายๆ ไม่ยากอะไร แค่หาลูกค้า, ทดลองใช้สินค้า  ฟังดูเหมือนง่าย แต่ก็ไม่ง่ายแน่นอน    และที่สำคัญที่ทำให้ผมคิดที่จะไม่ลงทุนทำในส่วนนี้ก็คือ ผมจะต้องเริ่มต้นลงทุนโดยการใช้เงินตัวเองจำนวน 1,000 เหรียญออสเตรเลีย หรือประมาณ 23,000-30,000 บาท (แล้วแต่ช่วงระยะเวลาที่ค่าเงินผันผวน) แต่เค้าก็บอกว่าจะได้กำไรภายในไม่ช้า  เดือนนึงก็ได้แล้ว อะไรทำนองนั้น

หลักการของการทำตลาดก็คือ 1 กระจายเป็น 2, 2 กระจายเป็น 4,  4กระจายเป็น 8 ก็คือผมต้องไปหาคนอีก 2 คน แล้วสองคนนั้น ต่างคนก็จะไปหาอีกคนละ 2 คน ก็กลายเป็น 4   กระจายแบบนี้ไปเรื่อยๆ แล้วเค้าก็บอกว่าคนระดับบนๆสบาย ได้เงินดี เพราะคนที่เราหาเค้าก็ไปหาต่อ เหมือนกับ Hierarchy (คงนึกภาพกันออกนะครับ) ก็หมายความว่าเราควบคุมดูแลแค่ 2 คน แล้วก็ปล่อยให้ระดับถัดลงไปจากเราดูแลคนที่ถัดเค้าลงไปอีก

ผมเล่าแค่นี้ดีกว่า

สรุปคือ มันก็คือการตลาดอย่างหนึ่งครับ ซึ่งพึ่งเอาผลิตภัณฑ์ดูแลสุขภาพเข้ามาช่วย ผมมองว่าเหมือนการหลอกขายคนอื่นไปเรื่อยๆ แล้วก็ให้เค้าเอาไปหลอกขายคนอื่น เป็นทอดๆไปแบบนี้ เพื่อที่จะให้เราได้มีตำแหน่ง มีรายได้ดีๆ  ผมเชื่อว่าของแบบนี้อาจขายได้ในบางกลุ่มคน แต่สำหรับบางกลุ่ม เราเจาะตลาดไม่ได้แน่ๆ(อย่างเช่นผมเป็นต้น)

อีกอย่าง คนที่ชวนผมทำนั้น เป็นศิษย์วัดขนาดใหญ่วัดหนึ่งแถวๆปทุมธานีที่เคยเป็นข่าวดังเมื่อหลายปีก่อน ผมเองไม่ศรัทธาในวัดนี้เป็นการส่วนตัวครับ พูดก็พูดตรงๆเลย   ผมเคยไปสัมผัสมาด้วยตัวเองแล้ว ไปครั้งแรกก็รับรู้ได้เลยว่าบิดเบือนสุดๆ  และหลักการของวัดนี้ก็อย่างที่เห็นๆกัน คือเค้าพยายามจนถึงที่สุด ที่จะดึงคนเข้าวัดให้มากที่สุด ถึงขนาดจัดรถรับส่งอำนวยความสะดวกเพื่อให้คนไปวัดให้ได้ และหลักการที่เค้าดึงคนเข้าวัดก็คือหลักการที่เป็นไปในเชิงการตลาด เหมือนกับ Agel นี่แหละครับ ก็คือบอกปากต่อปาก และพยายามดึงจนถึงที่สุด และการทำบุญด้วย "เงิน" เป็นหลัก ซึ่งผมไม่ค่อยชอบซักเท่าไร ไม่ใช่สิ ไม่ชอบเลย หลักการแบบนี้ บิดเบือนสุดๆครับ

เมื่อเอามาเปรียบเทียบกันแล้ว ภาพลักษณ์มันเหมือนกันครับ สำหรับการกระจายตลาดของ Agel และวัดที่ว่านี้ คือพยายามหาสมาชิกให้ได้มากที่สุด หาไปเรื่อยๆ ยิ่งมากยิ่งดี อะไรทำนองนั้น เพื่อให้ได้มาซึ่งตำแหน่ง หน้าตา และอะไรต่างๆนานา

ตอนนี้ผมเงียบเรื่องนี้กับเค้าไปละครับ พยายามจะไม่พูดถึง เดี๋ยวเข้าตัวแล้วจะยุ่งเปล่าๆ ;D



ที่เล่าก็เพื่อที่จะแชร์ประสพการณ์ครับ เพราะทุกอย่างมันเกี่ยวข้องกับผลประโยชน์ทางการตลาดอย่างที่พี่โทนกล่าว บางทีถ้าเราฟังมาผิวเผิน อย่างเช่นบริโภคนั่นดี นี่ไม่ดี  ทำอย่างนั้นดี แบบนี้ไม่ดี โดยที่ไม่มีบทพิสูจน์ที่แน่ชัดหรือเรายังไม่ได้เข้าไปพิสูจน์ด้วยตัวเอง มันก็ยังไม่น่าเชื่อถือซักเท่าไรครับ มันก็เป็นแค่สมมุติฐาน(หรือบางทีผมเรียกว่าสร้างวิมานในอากาศ อย่างเคส Agel ที่ผมเล่าไป) แค่นั้นเองครับ


หัวข้อ: Re: โทษของนมถั่วเหลือง ???
เริ่มหัวข้อโดย: PU45™ ที่ กุมภาพันธ์ 16, 2009, 09:48:10 PM

        ขอบคุณครับน้าบาร์ท



หัวข้อ: Re: โทษของนมถั่วเหลือง ???
เริ่มหัวข้อโดย: MP 436 ที่ กุมภาพันธ์ 16, 2009, 10:56:22 PM
ถั่วเหลืองไม่กลัว กลัวถั่วดำเหมือนกัน  :OO :<><>


หัวข้อ: Re: โทษของนมถั่วเหลือง ???
เริ่มหัวข้อโดย: soveat ชุมไพร ที่ กุมภาพันธ์ 17, 2009, 10:58:40 AM
  ผมไม่เคยกลัวถั่วเหลืองครับ  กลัวแต่ถั่วดำ   :OO :OO
พี่กวางเคยกินมาแล้วเหรอครับ ;D ;D







ชะแว้บบบบบบบบบบ :DD
[/quote]


  หายไปไหนแล้วฟระ  เร็วจริงๆ     >:( >:( >:(


หัวข้อ: Re: โทษของนมถั่วเหลือง ???
เริ่มหัวข้อโดย: Don Quixote ที่ กุมภาพันธ์ 17, 2009, 11:47:52 AM
เรื่องกิน ผมว่ามากไป น้อยไป จำเจไป ก็ไม่ดีทั้งนั้นครับ

เคยนั่งที่โต๊ะอาหารถามว่าต้องจิกเนื้อซาลาเปาที่แต้มสีทิ้งก่อนหรือเปล่า? ญาติผมเป็นหมอบอกว่าคิดมากไปเสียสุขภาพมากกว่าครับ อิ อิ ไม่ได้ซักว่าพูดจริงพูดเล่น แต่คนบอกเป็นจิตแพทย์ครับ

อาทิตย์ที่แล้วเจอฝรั่งคนนึง พี่แกไม่กินอาหารทั่วไป พกอาหารส่วนตัว เป็นสารสังเคราะห์ชั้นวิเศษ ฉีกผสมน้ำดื่มทุก 4 ชั่วโมง แกว่าดูแลสุขภาพทุกอย่าง เนิ้อแดงเลกกินแล้ว กินปลาอาทิตย์ละ 4 มื้อ...

ความสุขของลิ้นช่วยให้ชีวิตมีคุณภาพครับ อิ อิ


หัวข้อ: Re: โทษของนมถั่วเหลือง ???
เริ่มหัวข้อโดย: จอยฮันเตอร์ ที่ กุมภาพันธ์ 17, 2009, 11:55:17 AM
  ผมไม่ชอบถั่วเหลืองครับ  แต่ชอบถั่วดำ   :OO :OO
เรื่องเชื่อถือได้ ::005::


หัวข้อ: Re: โทษของนมถั่วเหลือง ???
เริ่มหัวข้อโดย: submachine -รักในหลวง- ที่ กุมภาพันธ์ 17, 2009, 01:23:02 PM
มัชฌิมาปฏิปทาครับ

เดินสายกลางเถิด


หัวข้อ: Re: โทษของนมถั่วเหลือง ???
เริ่มหัวข้อโดย: JUNGLE ที่ กุมภาพันธ์ 17, 2009, 02:23:23 PM
นมถั่วเหลืองที่ขายตามตลาด... ผมว่าน่ากลัวตรงน้ำตาลครับ... ใส่ทีเกือบครึ่งถุง... น่ากลัวเบาหวานครับ...


หัวข้อ: Re: โทษของนมถั่วเหลือง ???
เริ่มหัวข้อโดย: ~ Sitthipong - รักในหลวง ~ ที่ กุมภาพันธ์ 17, 2009, 03:19:44 PM
ซื้อเครื่องทำน้ำเต้าหู้มาทำเอง ปลอดภัยที่สุดครับ  ราคาเครื่องก็ไม่สูงมาก  :D


หัวข้อ: Re: โทษของนมถั่วเหลือง ???
เริ่มหัวข้อโดย: sneaker ที่ กุมภาพันธ์ 23, 2009, 12:46:47 AM
ขอบคุณครับ


หัวข้อ: Re: โทษของนมถั่วเหลือง ???
เริ่มหัวข้อโดย: จอยฮันเตอร์ ที่ กุมภาพันธ์ 23, 2009, 08:13:41 AM
  ผมไม่ชอบถั่วเหลืองครับ  แต่ชอบถั่วดำ   :OO :OO
เรื่องเชื่อถือได้ ::005::
มัชฌิมาปฏิปทาครับ

เดินสายกลางเถิด
ไม่ทราบว่าความหมายท่านซับ หมายถึงได้ทั้งสองอย่างใช่มั้ยครับ ::005::


หัวข้อ: Re: โทษของนมถั่วเหลือง ???
เริ่มหัวข้อโดย: BIGFISH ที่ กุมภาพันธ์ 23, 2009, 08:14:50 AM
  ผมไม่ชอบถั่วเหลืองครับ  แต่ชอบถั่วดำ   :OO :OO
เรื่องเชื่อถือได้ ::005::
มัชฌิมาปฏิปทาครับ

เดินสายกลางเถิด
ไม่ทราบว่าความหมายท่านซับ หมายถึงได้ทั้งสองอย่างใช่มั้ยครับ ::005::


กระทู้แปลงกายแล้ว จ๊าก  :<><>


หัวข้อ: Re: โทษของนมถั่วเหลือง ???
เริ่มหัวข้อโดย: Steel90 ที่ กุมภาพันธ์ 23, 2009, 09:35:39 AM
โอดื่มแหลกค่ะ :D~

ทุกท่านมิต้งห่วง อะไรก็ไม่สามารถ ทำร้ายเจ้โอได้


หัวข้อ: Re: โทษของนมถั่วเหลือง ???
เริ่มหัวข้อโดย: cups ที่ กุมภาพันธ์ 23, 2009, 10:20:25 AM
ถึงอย่างไรก็น่ากลัวน้อยกว่าเหล้าและบุหรี่ที่หลายๆคนดื่มและสูบทั้งๆที่รู้ถึงโทษภัยของมันที่เห็นได้ชัดกว่ามาก แต่ก็ยังเลือกที่จะดื่มและสูบสิ่งนั้นๆโดยไม่คิดถึงผลเสียของสิ่งเหล่านั้นเลย


หัวข้อ: Re: โทษของนมถั่วเหลือง ???
เริ่มหัวข้อโดย: Southlander ที่ กุมภาพันธ์ 23, 2009, 11:29:39 AM
เดี๋ยวนี้มีนักวิชาการที่อ้างเอาผลวิจัยอะไรแปลกใหม่ๆมาหักล้างความเชื่อเดืมอยู่เสมอจนผมหรือชาวบ้านไม่รู้จะเชื่อใครดี
เช่น เราได้รับการบอกกล่าวมาตั้งแต่เด็กว่าใข่เป็นอาหารที่ดีต่อสุขภาพ
จำได้ใหมเมื่อไม่นานมานี้มีนักวิจัยออกมาบอกว่าบริโภคใขแล้วไม่ดีจนสับสนไปหมด
อาหารหรือเครื่องดื่มอะไรก็แล้วแต่สมัยนี้ต้องโฆษณาว่าประกอบด้วยสารต้านอนุมูลอิสระหรือไม่ก็ชาเขียวยันเลยแล้วจะขายดี
 วันหนึ่งไอ้ตัวเล็กถามผมว่า *สารต้านอนุมูลอิสระ* คืออะไรผมกำลังเอียนๆของพวกนี้อยู่เลยตอบไปว่า
สารต้านอนุมูลอิสระ คือ ขี้ก้อนเล็กๆที่กระจายไปตามอำเภอใจ หัวร่อกันงอหงายทั้งแม่ทั้งลูก
ผมเลยบอกว่า จริงไม๊ล่ะลองแปลตัวต่อตัวดูซิ


หัวข้อ: Re: โทษของนมถั่วเหลือง ???
เริ่มหัวข้อโดย: submachine -รักในหลวง- ที่ กุมภาพันธ์ 23, 2009, 11:46:18 AM
โอดื่มแหลกค่ะ :D~

ทุกท่านมิต้งห่วง อะไรก็ไม่สามารถ ทำร้ายเจ้โอได้
พริกสักสองเม็ดในจานส้มตำ โอก็พ่นไฟแล้วพี่


หัวข้อ: Re: โทษของนมถั่วเหลือง ???
เริ่มหัวข้อโดย: โทน73 -รักในหลวง- ที่ กุมภาพันธ์ 23, 2009, 12:56:20 PM
ใจเย็นๆ  ตอนนี้ผู้ผลิตเครื่องดื่มหลายรายกำลังเข็น  น้ำนมข้าว  น้ำข้าวงอก  ฯลฯ  จ่อออกตลาดแล้วครับ   ::008::

เลยไม่แน่ใจว่า ข้อมูลข่าวสาร เป็นตัวกำหนดพฤติกรรมการบริโภค
หรือ  นักการตลาด เป็นตัวกำหนดข้อมูลข่าวสาร เพื่อเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมการบริโภค


หัวข้อ: Re: โทษของนมถั่วเหลือง ???
เริ่มหัวข้อโดย: E_mail ที่ กุมภาพันธ์ 23, 2009, 01:24:05 PM
สมัยเด็กๆกินเกือบทุกวันครับกินจนจบม.ปลาย  นมที่รร.วันละ2กล่อง น้ำเต้าหู้ใส่ไข่1ถ้วยตอนค่ำๆ


หัวข้อ: Re: โทษของนมถั่วเหลือง ???
เริ่มหัวข้อโดย: ~ Sitthipong - รักในหลวง ~ ที่ กุมภาพันธ์ 23, 2009, 02:25:16 PM
อ่านข่าวในหนังสือพิมพ์บอกว่า รร.แถวภาคใต้เจอนมปลอมระบาดครับ   :<<


หัวข้อ: Re: โทษของนมถั่วเหลือง ???
เริ่มหัวข้อโดย: Ramsjai ที่ มีนาคม 01, 2009, 01:17:39 PM
ประโยชน์ของนมถั่วเหลือง

"นมถั่วเหลือง" เป็นผลิตภัณฑ์ทางการแพทย์ชนิดหนึ่งที่ผลิตจากโปรตีนถั่วเหลือง ดังนั้นในนมชนิดนี้จึงไม่มีน้ำตาลแลกโตส แต่จะใช้มาลโตเด็กซ์ทรินอย่างเดียว หรือร่วมกับน้ำตาลทรายแทน ส่วนของไขมันที่ใช้เติมก็มักใช้น้ำมันถั่วเหลืองร่วมกับน้ำมันพืชชนิดอื่น ๆ ค่ะ

โดยทั่วไปโปรตีนจากถั่วเหลือง จะขาดกรดอะมิโนที่จำเป็นต่อร่างกายไปชนิดหนึ่ง นั่นคือ กรดอะมิโนที่ชื่อว่า "เมทธิโอนีน" ดังนั้นบางยี่ห้อจึงมีการเติมสารเมทธิโอนีนลงไปด้วย ปัจจุบันนมถั่วเหลืองที่ขายอยู่ในท้องตลาดขณะนี้มีเพียง 4 ยี่ห้อด้วยกันคือ นิวตริโซยา ไอโซมิล โปรโซบี และอัลซอย สำหรับราคาของนมชนิดนี้นะคะก็สูงกว่านมธรรมดาเล็กน้อยค่ะ

ในการใช้ผลิตภัณฑ์นมถั่วเหลืองนี้ ท่านควรใช้ตามคำแนะนำของแพทย์หรือใช้เมื่อมีความจำเป็นบ่งชี้ดังนี้ค่ะ คือ

กรณีที่เด็กแพ้นมวัวหรือโปรตีนจากวัว
ภาวะที่ขาดเอนไซม์แลกเตส ซึ่งภาวะนี้มักเกิดขึ้นชั่วคราวจากการท้องเสียในผู้ป่วยบางราย ทำให้ร่างกายไม่สามารถย่อยน้ำตาลแลกโตสได้ เมื่อกินนมธรรมดาที่มีน้ำตาลแลคโตสจะยิ่งทำให้ท้องเสียมากขึ้น จึงจำเป็นจะต้องใช้นมที่ไม่มีน้ำตาลแลคโตสซึ่งก็คือนมถั่วเหลืองเข้าไปแทน อาการจึงจะดีขึ้น
ส่วนนมถั่วเหลืองในอีกความหมายหนึ่ง ก็คือน้ำเต้าหู้ที่ทำจากถั่วเหลือง ซึ่งถือว่าเป็นเครื่องดื่มเสริมสุขภาพที่มีประโยชน์ไม่น้อย เหมาะสำหรับทุกคนในครอบครัวหาซื้อได้ง่ายและราคาก็ถูกด้วยค่ะ


ที่มา - www.healthcorners.com

- - - - - - - - - -  - - - - - - - - - - - - - --- - - - - - - - - - - - - - - - - - - - -  - - - - - - - - - -
นมถั่วเหลือง

สำหรับผู้หญิงนั้น นมถั่วเหลืองเหมาะที่สุด เพราะในนมถั่วเหลืองนอกจากจะได้โปรตีนจากพืชซึ่งเป็นโปรตีนที่ถูกต้องแล้วในนมถั่วเหลืองก็มีแคลเซียม และที่สำคัญมีฮอร์โมนเอสโตรเจน ซึ่งเป็นเป็นฮอร์โมนเพศหญิง จะทำให้ผู้หญิงมีผิวพรรณดี โดยเฉพาะผู้หญิงวัยใกล้หมดประจำเดือน ซึ่งปริมาณเอสโตรเจน ในร่างกายจะลดลงนั้นการดื่มนมถั่วเหลือง จะช่วยเพิ่มระดับฮอร์โมนเอสโตรเจน ทำให้โอกาสที่จะเกิดอาการผิดปกติต่าง ๆ ในวัยใกล้หมดประจำเดือนลดน้อยลง

ปริมาณที่เหมาะสมสำหรับการดื่มนมถั่วเหลือง คือวันละหนึ่งแก้วและหากจะให้ได้ ประโยชน์สูงสุดควรดื่มในเวลาที่ท้องว่าง คือก่อนหรือหลังอาหาร 2 ชั่วโมง ควรดื่มในเวลาท้องว่างเพราะในนมถั่วเหลืองจะมีไฟเบอร์ชนิดหนึ่งที่แข็งแรงมาก ฉะนั้น ถ้ากินพร้อมมื้ออาหารจะทำให้การย่อยและการดูดซึมสารอาหารในมื้อนั้น ๆ ลดลง

อย่างไรก็ตามนมถั่วเหลืองอาจไม่เหมาะที่จะให้ผู้ชายดื่มทุก ๆ วัน เนื่องจากเป็นการเพิ่มฮอร์โมนเอสโตรเจนซึ่งเป็นฮอร์โมน เพศหญิงให้กับผู้ชายในปริมาณมากเกินไป จะส่งผลต่อการทำงานของฮอร์โมนเพศชายทำให้ผลิตสเปิร์มน้อยลงและ มีลูกยาก

ที่มา http://www.nautilus.co.th

- - - - - - - - -- - - - - - - - - - - - -- - - - -  - - - -  - -- - - - - - - -- -- - - - -  -

หน่อยว่าอาหารอะไรก็ตาม ถ้าทานในปริมาณมากเกินไป ก็อาจจะมีโทษแก่ร่างกายของเราได้ทั้งนั้น

ทางที่ดี ทานให้ครบหมู่ ทานให้พอดี ให้ถูกกับคน ถูกเวลา ถูกกับโรค กับสุขภาพของเราจะดีกว่า  :D