เว็บบอร์ดสนทนาภาษาปืน

 :<< ผมคิดไว้ครับ ผมมีปืน ออกนอกบ้านก็กลัวตำรวจค้นเจอแหละ ๑  พอรอดจากตรงนั้น ก็คงเป็นพวกคนร้าย ขโมย โจร ผู้ไม่หวังดี ประสงค์ร้ายต่อชีวิต ทรัพย์สิน
แต่เมื่อมีปืนก็อุ่นใจ หากคนร้ายจะเข้ามาแม้มันมีมีด ไม้ ปืน จะเข้ามาทำเรา ก็ยังคิดจะใช้ปืนยิงสวนป้องกันเป็นอาวุธป้องกันตัวเองได้ อย่างไม่กลัวว่าจะผิดมากมายนัก
เพราะได้อ่านศึกษากระทู้ความรู้กฎหมายจากเวปนี้มาพอสมควร 

แต่ที่กลัวและไม่อยากเจอก็คือ กรณีที่คนร้าย ไม่มีอาวุธใดๆติดมือมา แล้วจะเข้ามาทำร้าย ชกต่อย เตะ กระทืบ เรา  แต่เรามีปืน  หากยิงขู่ก็แล้วมันก็ยังไม่หยุด
เดินเข้ามาอีก  แล้วเราจะทำยังไง  จะยิง ดีไหมเกินกว่าเหตุเปล่า เพราะมันไม่มีอาวุธ อันนี้ผมคิดตลอดครับว่าถ้าเจอแบบนี้จะเอาไงกัน

เคยเจอนะครับ ผมเคยไปเห็นคนมีเรื่องกันในงานวัดมาครั้งหนึ่ง  ไอ้คนหนึ่งเอาปืนจ่อหัวอีกคนหนึ่งแล้ว  บอกให้หยุด ปรากฎว่ามันไม่กลัวไม่หยุด หันไปชกหน้า
คนที่เอาปืนจ่อหัวเฉยเลย   ..จนปืนหลุดแล้วฟัดกัน จนมีคนมาห้าม แยกย้าย  อันนี้ผมสิกลัวครับ

มีใครคิดเเบบผมเปล่า  / แล้วถ้าเจอคนบ้า ( ขอเรียกแบบนี้ ) เรามีปืนอยู่ด้วย ยิงขู่ก็ไม่หยุด  เราจะจัดการยังไง

ก่อนชักปืน ก่อนยิงขู่ ประเมินสถานการณ์ก่อนครับ

หรือว่า เราต้องลุยกับมันตัวต่อตัว แบบไม่ต้องใช้อาวุธ

      ตอบยากจัง.......  อิอิอิ ....... ส่วนตัวมีความเชื่อลึก ๆว่า 

เปอร์เซ็นการใช้ปืนที่มาจากการ  ทะเลาะวิวาทมีมากกว่า

การประทุษร้ายต่อทรัพย์ของเหล่ามิชฉาชีพ  คนเราเวลาโกรธ

มีเรื่องทะเลาะกันผมว่ามันลืมทุกอย่าง  คิดอย่างเดี๋ยว

ทำให้ฝ่ายตรงข้ามเจ็บให้หนักที่สุด เท่าที่จะทำได้   

                และโดยปกติวิสัยมนุษย์ ย่อมแสวงหาความได้เปรียบเสมอ 

ทุกวันนี้ เราซื้อปืนเล่นปืนกัน ก็เพราะต้องการได้เปรียบ เหล่ามิชฉาชีพ

หรืออย่างน้อยเท่าเทียมกัน ก็ยังดี   ......  (อย่างที่ แซมมวลโคล์ท  บอกไว้ )

           ทีนี้ถามว่าถ้ามีเรื่องกัน ให้ยืนซดกันอยู่ตรงนั้น  เป็นผมจะไม่ทำ

เพราะผมตัวเล็ก (ตัวเท่าลูกหมา) กลัวเจ็บ ต้องชิงความได้เปรียบเสมอ

( ถ้าสามารถเลือกได้ )  ถามว่าถ้า ....  ถูกเตะต่อยแล้วเราชักปืนออกมาเขาไม่หยุด

 .... ผมไม่ค่อยเชื่อ  ยกเว้นฝ่ายตรงข้ามกำลังหน้ามืดตามัวด้วยความโกรธ

ถ้าเป็นเช่นนั้น ทำเสียงดัง ๆเกิน 120 db สักครั้งคงพอจะปลุกสติเขาขึ้นมาได้ .....อิอิอิ

แต่ที่ผมกลัวคือพอมีสติเขาไปหยิบปืน( ถ้าเขามี ) เรื่องมันจะไปกันใหญ่หรือเปล่า 

จากแค่เรื่องทะเลาะวิวาท ธรรมดา  (ตรงนี้แล้วแต่ดวง และความมีสติของแต่ละคน

ที่จะประเมินสถานการณ์ก่อนเกิดเหตุและการแก้ไข   )

               ส่วนในกรณีเหตุุที่เกิดจากคนร้ายที่ประสงค์ต่อทรัพย์สิน  คิดว่าแค่เห็นด้ามปืน

มันก็คงเผ่นไปไกลแล้ว  และถ้าหนักขึ้น ในกรณีถ้าคนร้ายประสงค์ต่อชีวิต

มันก็คงไม่มามือเปล่า  ซึ่งตรงนั้นเรามีเหตุผลในการใช้ปืนอยู่แล้วครับ

  โนคอมเม้นท์..................อย่าถามในสิ่งที่เป็นไปได้ยาก  เพราะจะทำให้คนตอบๆยากครับ...ใครตอบได้และตอบถูกผมว่าเกินมนุษย์ครับ

 ::002:: ::002:: ชอบคำตอบนี้จังเลย 

อย่าลืมนะครับ  ลูกล่อลูกชน เล่ห์เหลี่ยม เชิงนักเลง ใช้เอาตัวรอดได้เสมอ  ...... แม้กะทั้ง การยกมือไหว้ ชวนคุยอย่างสนใจ  เลี้ยงเครื่องดื่มสักแก้ว  (แล้วรีบหนีกลับ)   ซัดกันตรงๆ ......

   สถานการณ์บางครั้งเราไม่ใช่ผู้กำหนดชะตากรรมครับ  สิ่งที่เกิดสุดยากจะคาดเดา  เอาสิ่งที่เกิดขึ้น ณ. ตอนนั้นตัดสินดีกว่า  แม้บางสิ่งบางอย่างมีการซักซ้อมอย่างดี  พอเกิดขึ้นจริงๆก็ยากที่จะนำสิ่งที่ซักซ้อมมาปฏิบัติให้ลุล่วง
ที่ผมพูดคงไม่ผิด  หากไม่ถูกต้องขออภัยเพราะใจผมคิดและเชื่อมั่นแบบนั้นจริงๆ

ถูกใจครับ.  ผมขอมาเติมให้ในแนวทาง ของกฎหมาย.

ตามที่ถามขึ้นอยู่กับข้อเท็จจริง ขอแยกเป็น ๒ กรณี

๑. ในกรณีวิวาท.. ท่านต้องไม่ใช่ผู้ร่วมอยู่ในการทะเลาะวิวาท แต่เป็นผู้ห้าม ปราม และพฤติการณ์อีกฝ่าย
กลับไม่สนใจ และต้องเข้าจะทำร้ายท่าน. 
ขอให้พิจารณาตรงนี้ ครับว่า.. ถ้ามันไม่กลัวปืนยังเข้ามาหา และท่านไม่อาจหนีมันไปได้..ถ้ามันแย่งปืนไปจากท่านได้่ ท่าน ก็ซี้แหง๋ .. ท่านคงเข้าใจตรงนี้ นะครับ.

ถ้าท่านเข้าใจข้อเท็จจริงตรงนี้.. ฉะนั้น ยัดเข้าไปที่ จุดที่พอจะยับยั้งมันได้ ก็ตรงระดับต่ำกว่าเชิงกรา่น
จะเป็นแข้งขา.. ให้เห็นเจตนาของท่านว่า เพื่อจะหยุดไม่ให้เข้ามาแย่งปืนและทำอันตรายท่าน 
ก่อนยิงท่านควร ยิงขู่ไปสักนัดหนึ่งก่อน .

พฤติกา่รณ์จะได้ชัดเหมือนอย่างที่บอกไปครับ.  แต่อย่าเล็งยิงเข้าจุดตายนะครับ. อาจจะเป็นการกระทำเกินกว่าเหตุ

๒.กรณีคนร้ายหวังประทุษร้าย ปรกติถ้าเป็นการชิงทรัพย์ หรือปล้นทรัพย์ คนร้ายจะต้องมีอาวุธ ถ้ามันเห็นอาวุธปืน
แล้วหันหลังหนี อย่้าไปยิงเข้านะครับ จะ้เป็นการกระทำเกินกว่าเหตุ .. แต่ถ้ามันไม่หนีและตรงเข้าหาท่าน
ก็ตัดสินใจ กระทำตา่มข้อ ๑. ครับ

และขอให้พิจารณา สิ่งนี้ไปพร้อมกันด้วย คืิอการทิ้งระยะอย่าให้เข้ามาใกล้  ใช้เท้า หรือเอามือยันไว้
หรือหาสิ่งกีดขวาง เพื่อจะลดไม่ให้คนร้ายทำอันตรายกับท่านได้ .

คนเมื่อถูกเจ็บ ใจมันจะเสีย ความกลัวตายจะพุ่งสูง..มันจะผละจากท่านไปเอง.. และอย่าได้หันหลังให้คนร้ายนะครับ.

ข้อเท็จจริงอย่างนี้ ประจักษ์พยานมีเยอะ ขอให้ท่านชวนคนที่เห็นเหตุการณ์ รีบไปแจ้งความทันที อย่้าได้หนีนะครับ  ::002::

สวัสดีครับ ::014::
ได้เห็นหน้าแล้ว...ตัวจริงเสียงจริงหรือเปล่าเนี่ย..หล่อมิใช่น้อยๆ

ขอบคุณมากครับ คุณ Gunchon.. ภาพนี้ ถ่ายไว้ราว  ๒ ปีมาแล้ว.  :D

ขอบคุณครับพี่ Ro@d ชัดเจนครับ...

แต่เดิมผมคิดเอาง่ายๆแค่ว่า...

ปืนไม่ได้มีไว้ขู่ ตัดสินใจชักแปลว่าต้องจบ...

ตอนนี้พอเข้าใจมากขึ้นแล้วครับ...::014::

ประเมินสถานการณ์+สติ...สู่การตัดสินใจ ;)

อ่านแล้วเก็บไปเป็นแนวทางครับ....ขอบคุณ ::014::

ถ้าต้องรักษาชีวิต.ถ้ามีใช้แน่ๆ ::014:: ::014:: ::014::

เก็บเข้าคลังสมองเอาไว้ใช้ยามจำเป็นครับ

ขอบคุณครับ

ถ่ายแบบว่าไม่ต้องวางมาดใบหน้าเลยมัน  แต่หล่อสมวัยและทรงผมมีรสนิยมมากครับ/ปลื้มท่านพี่ Ro@d อยู่นะครับ 

..พูดยาก.ครับต้องเจอเหตุการ.จริงๆคนๆนั้นจะเป็นผู้.ตัดสินใจเองครับ... ;D

อยากโดนมั่งไหม๊หละ...น้า ;D ;D ;D

พูดเพราะๆกับมันครับ ว่า พี่/น้อง  หยุดอยู่ตรงนั้น  กลับหลังหันเดินเดินกลับไปซะ ถ้าก้าวมาอีกก้าว รับรองว่าคืนนี้มีงานศพ

สมมตินะครับ แบบหนังไทยเป๊ะเลย แต่ถ้าหากเป็นเหตุการณ์จริงคงไม่ลังเลที่จะยิงแบบไม่ให้มันทรมาน สมมติครับ สมมติ

ว๊า...ผมมาไม่ทันดูรูป ::005::

ขอบคุณครับน้า Ro@d จะจำไว้เป็นแนวทางครับ

ถ้าถึงขนาด ต้องชักปืนนี่ก็แสดงว่าเหตุการณ์ ใกล้ถึงจุดแตกหัก ถ้าพูดกันดี ๆ แล้วยังไม่หยุดก็ต้อง ชักออกมาว่าผมมีปืนนะ
ถ้ายังไม่หยุด อีกยิงขึ้นฟ้า 1 นัด ว่านี่ปืนจริงนะ ถ้ายังไม่หยุดอีก ยิงท่อนล่างครับ แต่ถ้าเขามีปืนและพยายามจะชักปืนออกมาต่อสู้กับเรานี่ แล้วแต่ใจของท่านแล้วละครับ ว่าจะนิ่งในการตัดสินใจแค่ใหน

กรณี คนร้าย มีอาวุธ แยกเป็น ๓ ลักษณะ ว่าตามข้อเท็จจริง ที่จะเข้า ตาม ป.อาญา ม.๖๘  นะครับ

๑.    ถ้าเป็นไม้ คมแฝก ท่อนเหล็ก ไม้เบสบอล ดูระยะสักนิด ยิงข่ม ไล่ไปก่อน ถ้าไม่หยุด..ตรงเข้าใ่ส่ ยัดเข้าระดับ
เชิงกรานก็อยู่ครับ โดยลักษณะของไม้ฯ  มันสู้ปืนไม่ได่

๒.    ถ้าคนร้ายมีมีด อีโต้ ซามูไร ให้ดูระยะปลอดภัยไว้ เลือก ข้อ ๑. หรือ ข้อ ๒. ก็สุดแต่สถานการณ์ ครับ 

๓.    ถ้าคนร้าย มีอาวุธปืน ท่านอย่าได้คิดยิงขู่ ไม่จำเป็น ครับ เป้าจับที่หน้าอกได้เลย 

ในระยะ ๕ เมตร +/-ถ้าจะยิงให้ตายก็ย่อมกระทำได้ แต่เลือกยิง ในระดับต่ำและไม่ใช่อวัยวะสำคัญที่เรียกว่าจุดตาย   

ย่อมให้เห็นเจตนาว่า เพียงต้องการให้คนร้ายหยุด ยับยั้งไม่ให้ทำอันตรายต่อได้อีก  โดยไม่ได้
คิดประสงค์ต่อชีวิต มิฉะนั้น ย่ิอมยิงให้ตายได้ในกระสุนนัดเดียว..  :OO

ซึ่งแตกต่้่างจาก กรณีที่มีส่วนร่วมในการวิวาท หรือทำร้ายร่างกาย ถ้ายิงโดนส่วนใด ของร่างกาย
หรือยิงไม่โดน ก็จะต้องโดยข้อหา พยายามฆ่า .. นะครับ  :OO

ขอย้ำอีกครั้งคนถูกยิง..  สภาพร่างกายแม้จะัไม่เจ็บปวด รวดร้าวในขณะนั้น ความจริงนั้น อาการของคนถูกยิงส่วนใหญ่ คือชา.. แต่ถ้าเขารู้ตัวว่าถูกยิง นอกจากจะกลัวตายแล้ว สภาพร่างกาย จะเสียสมดุึล  ::002::

ถ้าไม่มีปืนอยู่ในมือ หรือถึงจะมี ตัวเขาย่อมเป็นเป้า ในนัดที่ ๒ ได้ง่ายขึ้นอีก ขอให้อย่าประมาท เท่านั้นนะครับ.  ::002::

ขอบคุณมากครับชอบคำตอบ แนวทางวิธีของพี่ Ro@d มากครับ ..
หากวันใดเจอสถานการณ์แบบนี้คนอย่างนี้..แนวทางนี้น่าจะเป็นหลักให้ได้บ้าง  ::014:: ::002::

และนี่ก็อีก 1 ครับที่ชอบ ::014:: ::014::+๑

ขอบคุณครับพี่โรส  ::014::

::002:: ::002::เห็นด้วยครับ ลูกล่อลูกชน เล่ห์เหลี่ยม มีปืนแต่ก็ไม่จำเป็นแค่หนีหรือต้องยิง

ส่วนนี่เป็นแนวทางเวลาต้องใช้ปืน ::002:: ::002:: ขอบคุณครับ ::014::

ผมว่าตัวอย่างเหตุการณ์นี่เกิดได้ยากเพราะสมมติว่าเป็นคนร้าย แต่ถ้าเป็นเมายาหรือคนบ้าล่ะก็ผมว่ามีโอกาสได้แน่ ส่วนตัวผมเองเคยคิดเหมือนกันว่าถ้ามีคนบ้าอาละวาดในที่
ทำงานจะทำไงเพราะเราหนีก็ไม่ได้ ไปยิงก็ไม่ได้ อยู่ก็โดนมันชก ::003:: เลยคิดคร่าวๆว่าถ้าเกิดเหตุต้องใช้ไม้หรืออุปกรณ์อะไรมาช่วยเพื่อไม่ให้รุนแรงเกินไป จนไปอ่านพบข้อเขียนถึงเหตุการณืในต่างประเทศ มีคนเมายาตัวโตอาละวาดในห้องฉุกเฉินร.พ. ตำรวจกับบุรุษพยาบาลสามคนจับไม่อยู่โดนมันชกซะ :<< สุดท้ายHero กลับเป็นพยาบาลไปหยิบถังดับเพลิงCO2มาฉีดใส่หน้าปรากฏว่าหยุดได้เพราะมันแสบตาแล้วพอหมดฤทธิ์ก็ไม่มีอันตรายใดๆ ผมเองรู้สึกทึ่งในความคิดของคุณพยาบาลครับ( เป็นห่วงสามีเหมือนกัน) ::005::  อาวุธไม่จำเป็นต้องปืน มีด ไม้ เสมอไปครับ :)

+1ครับพี่.ขอบคุณครับ ::014::