|
หัวข้อ: --- สาระความรู้ : ตอน ตำนานดาบปลายปืน --- เริ่มหัวข้อโดย: Siri_Pat รักในหลวง ที่ มีนาคม 28, 2009, 04:48:13 PM เครดิต ภาพและความรู้จากคุณ "เจไดหนุ่ม" แห่ง Pantip ครับ ;D
หลายคนคงเคยสงสัยกันอยู่ว่า ดาบปลายปืน มีที่มาอย่างไร ใครเป็นต้นคิด และปัจจุบัน ยังมีความจำเป็นอยู่หรือไม่ วันนี้เรามาดูกัน เจ้าดาบปลายปืนหรือว่า "Bayonet" นั้นมีการริเริ่มใช้กันมาในยุโรปตั้งแต่สมัยศตวรรษที่17 โดยนักประวัติศาสตร์หลายคนเชื่อว่าความจริงแล้วเจ้าดาบปลายปืนที่ทหารยุโรปใช้นั้นมีต้นกำเนิดมาจากเมือง "Bayonne" ที่อยู่ทางตอนใต้ของประเทศฝรั่งเศส โดยผู้คนในเมืองซึ่งเป็นชนกลุ่มน้อย "Basques" ในสมัยนั้นได้ขาดแคลนดินปืนแลกระสุนดินดำที่จะนำมาใช้กับปืนคาบศิลาของตนเอง พวกเขาจึงได้ดัดแปลงเอาอาวุธมีคมจำพวกมีดล่าสัตว์มาติดเอาไว้กับกระบอกปืนเพื่อการรบในระยะประชิด จนต่อมาวัฒนธรรมการติดดาบไว้ที่ปลายปืนจึงแพร่หลายไปทั่วกองทัพของประเทศในแถบยุโรปนั่นเอง.... จากภาพ รูปดาบปลายปืนของทหารฝรั่งเศสในยุคแรกๆ (ประมาณปลายศตวรรษที่17) (http://61.19.248.235/uploads/d1c427d405.jpg) (http://imagehost.compgamer.com/getimg.php?img=d1c427d405.jpg) หัวข้อ: Re: --- สาระความรู้ : ตอน ตำนานดาบปลายปืน --- เริ่มหัวข้อโดย: Siri_Pat รักในหลวง ที่ มีนาคม 28, 2009, 04:52:47 PM โดยเหตุผลหนึ่งที่ทำให้วัฒนธรรมการติดดาบปลายปืนนี้แพร่หลายไปอย่างรวดเร็วก็เพราะว่าในสมัยก่อนปืนที่ทหารเขาใช้กันจะเป็นปืนคาบศิลา
ซึ่งเจ้าปืนคาบศิลาจะมีกลไกการทำงานไม่เหมือนปืนสมัยนี้ เพราะการจะยิงได้แต่ละนัดนั้นจำเป็นต้องใช้เวลาในการบรรจุนานพอสมควร ยิ่งสมัยที่พวกทหารยุโรปยังใช้ระบบ "ฟรินทซ์ล็อค" หรือ "วิลล็อค" ซึ่งทหารจำต้องเทดินปืนกรอกลงไปที่ปลายกระบอกแล้วนำกระสุนพร้อมกระดาษใส่ก่อนจะนำเหล็กมากระทุ้งอัดจึงจะยิงได้ แม้ต่อมาจะได้มีการพัฒนามาใช้แก๊ปซึ่งบรรจุทุกอย่างไว้ในซองเดียวกันครบเซ็ททหารเพียงกัดฉีกตรงปากซองแล้วยัดๆๆแยงๆๆก็ใช้ยิงได้ แต่ยังไงทุกรูปแบบก็ล้วนต้องเสียเวลาในการบรรจุลูกเพื่อเตรียมยิงในแต่ละครั้งนานพอสมควร นั่นจึงเป็นช่องให้ทหารม้าของข้าศึกมีโอกาสพุ่งเข้าชาร์จใส่แถวทหารปืนคาบศิลาจนแตกกระบวน เลยทำให้สมัยก่อนเวลารบกันด้วยปืนในยุคแรกๆ นั้นกองพลปืนจึงจำเป็นต้องมีทหารราบติดอาวุธยาวจำพวกหอกคอยคุ้มกันไปด้วยเพื่อปกป้องกำลังพลของฝ่ายตนเองจากทหารม้าข้าศึกนั่นเอง.... รูปดาบปลายปืนที่นิยมใช้กันในช่วงปลายยุคศตรวรรษที่19 (http://61.19.248.235/uploads/76a4243bf9.jpg) (http://imagehost.compgamer.com/getimg.php?img=76a4243bf9.jpg) หัวข้อ: Re: --- สาระความรู้ : ตอน ตำนานดาบปลายปืน --- เริ่มหัวข้อโดย: Siri_Pat รักในหลวง ที่ มีนาคม 28, 2009, 05:01:36 PM ช่วงยุคนี้ดาบปลายปืนจะเริ่มมีด้ามจับแบบมีดแล้วและใช้วิธีล็อคติดกับแกนด้านล่างของปืน ต่างกับสมัยก่อนหน้าที่มักจะทำเป็นรูกลวงไว้ตรงปลายเพื่อเอาไว้สอดล็อคตรงลำกล้องปืน
ซึ่งเป็นที่แน่นอนว่าพวกทหารหอกนั้นถึงจะสามารถต่อกรกับทหารม้าได้ดีแค่ไหน แต่สุดท้ายแล้วพลทหารราบติดหอกก็เปรียบเสมือนเป้าชิ้นโตให้พลปืนข้าศึกสอยร่วงดีๆนั่นเอง เพราะยุคนั้นเสื้อเกราะที่สามารถทนทานต่ออำนาจการทะลุทะลวงของปืนคาบศิลาได้นั่นยังไม่ค่อย แพร่หลายและมีต้นทุนการผลิตที่ค่อนข้างสูงมาก ดังนั้นแนวคิดที่จะรวมพลปืนคาบศิลาเข้ากับพลหอกเข้าด้วยกันจึงมาสำเร็จเอาด้วยเจ้าดาบปลายปืนนี่แหละครับ ที่ทหารสามารถนำมันมาติดกับปืนคู่กายใช้เพื่อต่อกรกับม้าของข้าศึกได้ (ดาบปลาบปืนสมัยก่อนจะค่อนข้างยาวครับ ถึงแม้จะเกะกะแต่ก็เหมาะอย่างยิ่งในการรับมือกับทหารม้าข้าศึก) จากภาพ แสดงถึงกองทหารของยุโรปในสมัยก่อน....จะเห็นว่ามีทหารถือหอกยืนอยู่ด้วย (http://61.19.248.235/uploads/fc33917397.jpg) (http://imagehost.compgamer.com/getimg.php?img=fc33917397.jpg) ดังนั้นโดยการรบด้วยปืนคาบศิลาในสมัยก่อนจึงมีแนวคิดในการจัดแถวและสับเปลี่ยนรูปขบวนมากมายหลายหลาก เหตุผลหนึ่งก็เพราะการบรรจุลูกกระสุนแต่ละครั้งนั้นค่อนข้างช้าแถมกระสุนที่ยิงออกไปก็ยังเอาแน่เอานอนหาความแม่นยำไม่ค่อยจะได้ ดังนั้นการจัดทัพการยิงให้เหมาะสมถูกจังหวะและเวลาจึงเป็นตัวชี้วัดผลการรบได้เลย ซึ่งโดยส่วนมากแล้วประเทศในยุโรปมักใช้วิธีจัดทัพแบบทรงจัตุรัสหรือสี่เหลี่ยมผืนผ้าตอนลึก กล่าวคือพอทหารแถวแรกยิงเสร็จปุ๊ป! ก็จะรีบวิ่งไปต่อท้ายด้านหลังสุด (ถ้ายังไม่ตายซะก่อน) ก่อนจะเปิดโอกาสให้แถวต่อไปได้ยิงทันทีซึ่งกว่าที่แถวต่อมาจะยิงจนเสร็จทหารแถวแรกที่วิ่งไปต่อท้ายก่อนใครเพื่อนนั้นก็จะบรรจุกระสุนเสร็จและพร้อมยิงต่อทันทีโดยไม่ติดขัด เพียงแต่มันจะมีอยู่ประเทศหนึ่งที่แปลกกว่าคนอื่นเขานั่นก็คือพวกอังกฤษ ที่มักจะจัดการยิงแถวแค่สองแถว (แถวหน้านั่งยองแถวหลังยืน) เป็นแนวยาวหรือจัดแบบสี่เหลี่ยมผืนผ้าที่ไม่เน้นความลึก.... นั่นก็เพราะพวกอังกฤษถือว่าทหารแต่ละคนของตนนั้นล้วนเป็นทหารอาชีพซึ่งมีฝีมือสูง ซึ่งเรื่องนี้ก็ไม่แปลกที่เขาจะโอ้อวดแบบนี้ได้ เพราะทหารราบอังกฤษในสมัยก่อนนั้นจำเป็นต้องฝึกหนักมากกว่าที่จะออกรบได้จริง นั่นจึงทำให้พวกเขาสามารถทำเวลาในการบรรจุกระสุนได้รวดเร็วมาก ดังนั้นการจัดแถวแค่สองแถวจึงเพียงพอแล้ว แต่พอมาเจอพวกกองโจรชาวอาณานิคมอเมริกันในการรบเพื่อประกาศอิสรภาพที่อเมริกา กองทหารเสื้อแดงของอังกฤษก็ต้องแพ้ร่นไม่เป็นท่าเหมือนกัน หัวข้อ: Re: --- สาระความรู้ : ตอน ตำนานดาบปลายปืน --- เริ่มหัวข้อโดย: Siri_Pat รักในหลวง ที่ มีนาคม 28, 2009, 05:04:04 PM ส่วนในสมัยปัจจุบันนี้เมื่อาวุธปืนได้พัฒนาไปจนถึงขั้นสามารถเชื่อใจในความแม่นยำและแน่นอนอีกทั้งยังไม่ต้องใช้เวลามากมายในการบรรจุกระสุนเหมือนเมื่อก่อน
ดาบปลายปืนจึงค่อยๆ เลือนหายไปจากการสู้รบ โดยดาบปลายปืนสมัยนี้จะถูกลดขนาดลงมาจนกลายสภาพเป็นมีดพกของทหารที่สามารถนำมาติดไว้ที่กระบอกปืนด้วยอุปกรณ์เสริมมากกว่าครับ รูปภาพเจ้า "OKC-3S" หรือมีดพกM9รุ่นล่าสุดของทหารอเมริกา ที่ถูกพัฒนาโดยเหล่านาวิกโยธินเพื่อนำมาใช้ติดตั้งกับปืนไรเฟิล (http://61.19.248.235/uploads/1fba013245.jpg) (http://imagehost.compgamer.com/getimg.php?img=1fba013245.jpg) หัวข้อ: Re: --- สาระความรู้ : ตอน ตำนานดาบปลายปืน --- เริ่มหัวข้อโดย: Siri_Pat รักในหลวง ที่ มีนาคม 28, 2009, 05:06:00 PM ภาพการฝึกใช้ดาบปลายปืนของทหารเยอรมันในสมัยสงครามโลกครั้งที่ 1
(http://61.19.248.235/uploads/1a54b658ea.jpg) (http://imagehost.compgamer.com/getimg.php?img=1a54b658ea.jpg) หัวข้อ: Re: --- สาระความรู้ : ตอน ตำนานดาบปลายปืน --- เริ่มหัวข้อโดย: Siri_Pat รักในหลวง ที่ มีนาคม 28, 2009, 05:08:30 PM ในยุคปัจจุบัน
รูปนาวิกโยธินของกองทัพไต้หวันกำลังฝึกการต่อสู้ด้วยดาบปลายปืน (http://61.19.248.235/uploads/5dc14e9e07.jpg) (http://imagehost.compgamer.com/getimg.php?img=5dc14e9e07.jpg) (http://61.19.248.235/uploads/f249a6523e.jpg) (http://imagehost.compgamer.com/getimg.php?img=f249a6523e.jpg) หัวข้อ: Re: --- สาระความรู้ : ตอน ตำนานดาบปลายปืน --- เริ่มหัวข้อโดย: Siri_Pat รักในหลวง ที่ มีนาคม 28, 2009, 05:11:14 PM คราวนี้ มาดูเมืองต้นกำเนิดของดาบปลายปืนกันบ้าง....
รูปเมือง "Bayonne" ทางตอนใต้ของฝรั่งเศสในปัจจุบัน ซึ่งเชื่อกันว่าเป็นต้นกำเนิดของเจ้าดาบปลายปืน "Bayonet" นั่นเอง (http://61.19.248.235/uploads/cb35612bde.jpg) (http://imagehost.compgamer.com/getimg.php?img=cb35612bde.jpg) หัวข้อ: Re: --- สาระความรู้ : ตอน ตำนานดาบปลายปืน --- เริ่มหัวข้อโดย: Siri_Pat รักในหลวง ที่ มีนาคม 28, 2009, 05:13:07 PM สินค้าขึ้นชื่อของเมือง "Bayonne" นี้ก็คือผลิตภัณท์จำพวก "ช็อคโกแลตโฮมเมด" ซึ่งชาวเมืองทำกันขึ้นมาขายเอง
เป็นเวลานานถึง500กว่าปีแล้ว และสิ่งสำคัญซึ่งขาดไม่ได้เลยก็คือ "Bayonne ham" ซึ่งเป็นหมูแฮมรมควันแห้งสูตรพิเศษที่เวลาขาย ยกชิ้นจะต้องได้รับการประทับตราชื่อเมืองลงไปด้วยทุกครั้งว่าผลิตจากที่นี่จริงๆครับ (รูปหมูแฮมสูตรพิเศษประจำเมืองที่ไม่ใช่หมูแฮมหงิก) (http://61.19.248.235/uploads/4856566f8e.jpg) (http://imagehost.compgamer.com/getimg.php?img=4856566f8e.jpg) หัวข้อ: Re: --- สาระความรู้ : ตอน ตำนานดาบปลายปืน --- เริ่มหัวข้อโดย: Siri_Pat รักในหลวง ที่ มีนาคม 28, 2009, 05:15:49 PM ยังไม่หมดครับของกินอีกอย่างที่ทำให้เมืองนี้มีชื่อเสียงมากก็คือเจ้าซอส "Bayonnaise" หรือที่คนไทยบ้านเราเรียกติดปากกันว่า "มายองเนส" นั่นเองครับ
โดยต้นกำเนิดของเจ้าซอสสัญชาติฝรั่งเศสมายองเนสนั้นล้วนมีมากมายหลากหลายอย่างครับ แต่นาย "Carame" ซึ่งเป็นพ่อครัวมือหนึ่งผู้เป็นต้นกำเนิดตำราศิลปะการทำอาหารของฝรั่งเศสกลับแย้งว่า เจ้าซอสมายองเนสนั้นความจริงแล้วมันมีต้นกำเนิดในเมือง "Bayonne" นี่เอง ซึ่งเขาเชื่อว่าตอนแรกชาวเมืองจะเรียกเจ้าซอสสีครีมนี้ว่า "Bayonnaise" ตามชื่อเมืองแต่ต่อมาได้เพี้ยนกลายเป็น "Mayonnaise"(มายองเนส)นั่นเอง (http://61.19.248.235/uploads/9b5b108792.jpg) (http://imagehost.compgamer.com/getimg.php?img=9b5b108792.jpg) หัวข้อ: Re: --- สาระความรู้ : ตอน ตำนานดาบปลายปืน --- เริ่มหัวข้อโดย: rute - รักในหลวง ที่ มีนาคม 28, 2009, 05:34:27 PM ขอบคุณครับ...:D
หัวข้อ: Re: --- สาระความรู้ : ตอน ตำนานดาบปลายปืน --- เริ่มหัวข้อโดย: IQ zeroรักในหลวง ที่ มีนาคม 29, 2009, 12:11:54 AM ขอบคุณสำหรับความรู้ดีๆครับ
หัวข้อ: Re: --- สาระความรู้ : ตอน ตำนานดาบปลายปืน --- เริ่มหัวข้อโดย: สีอำพัน-รักในหลวง ที่ มีนาคม 29, 2009, 12:22:48 PM ขอบคุณครับ
หัวข้อ: Re: --- สาระความรู้ : ตอน ตำนานดาบปลายปืน --- เริ่มหัวข้อโดย: Don Quixote ที่ มีนาคม 29, 2009, 01:15:55 PM ช่วงยุคนี้ดาบปลายปืนจะเริ่มมีด้ามจับแบบมีดแล้วและใช้วิธีล็อคติดกับแกนด้านล่างของปืน ต่างกับสมัยก่อนหน้าที่มักจะทำเป็นรูกลวงไว้ตรงปลายเพื่อเอาไว้สอดล็อคตรงลำกล้องปืน ซึ่งเป็นที่แน่นอนว่าพวกทหารหอกนั้นถึงจะสามารถต่อกรกับทหารม้าได้ดีแค่ไหน แต่สุดท้ายแล้วพลทหารราบติดหอกก็เปรียบเสมือนเป้าชิ้นโตให้พลปืนข้าศึกสอยร่วงดีๆนั่นเอง เพราะยุคนั้นเสื้อเกราะที่สามารถทนทานต่ออำนาจการทะลุทะลวงของปืนคาบศิลาได้นั่นยังไม่ค่อย แพร่หลายและมีต้นทุนการผลิตที่ค่อนข้างสูงมาก ดังนั้นแนวคิดที่จะรวมพลปืนคาบศิลาเข้ากับพลหอกเข้าด้วยกันจึงมาสำเร็จเอาด้วยเจ้าดาบปลายปืนนี่แหละครับ ที่ทหารสามารถนำมันมาติดกับปืนคู่กายใช้เพื่อต่อกรกับม้าของข้าศึกได้ (ดาบปลาบปืนสมัยก่อนจะค่อนข้างยาวครับ ถึงแม้จะเกะกะแต่ก็เหมาะอย่างยิ่งในการรับมือกับทหารม้าข้าศึก) จากภาพ แสดงถึงกองทหารของยุโรปในสมัยก่อน....จะเห็นว่ามีทหารถือหอกยืนอยู่ด้วย (http://61.19.248.235/uploads/fc33917397.jpg) (http://imagehost.compgamer.com/getimg.php?img=fc33917397.jpg) ดังนั้นโดยการรบด้วยปืนคาบศิลาในสมัยก่อนจึงมีแนวคิดในการจัดแถวและสับเปลี่ยนรูปขบวนมากมายหลายหลาก เหตุผลหนึ่งก็เพราะการบรรจุลูกกระสุนแต่ละครั้งนั้นค่อนข้างช้าแถมกระสุนที่ยิงออกไปก็ยังเอาแน่เอานอนหาความแม่นยำไม่ค่อยจะได้ ดังนั้นการจัดทัพการยิงให้เหมาะสมถูกจังหวะและเวลาจึงเป็นตัวชี้วัดผลการรบได้เลย ซึ่งโดยส่วนมากแล้วประเทศในยุโรปมักใช้วิธีจัดทัพแบบทรงจัตุรัสหรือสี่เหลี่ยมผืนผ้าตอนลึก กล่าวคือพอทหารแถวแรกยิงเสร็จปุ๊ป! ก็จะรีบวิ่งไปต่อท้ายด้านหลังสุด (ถ้ายังไม่ตายซะก่อน) ก่อนจะเปิดโอกาสให้แถวต่อไปได้ยิงทันทีซึ่งกว่าที่แถวต่อมาจะยิงจนเสร็จทหารแถวแรกที่วิ่งไปต่อท้ายก่อนใครเพื่อนนั้นก็จะบรรจุกระสุนเสร็จและพร้อมยิงต่อทันทีโดยไม่ติดขัด เพียงแต่มันจะมีอยู่ประเทศหนึ่งที่แปลกกว่าคนอื่นเขานั่นก็คือพวกอังกฤษ ที่มักจะจัดการยิงแถวแค่สองแถว (แถวหน้านั่งยองแถวหลังยืน) เป็นแนวยาวหรือจัดแบบสี่เหลี่ยมผืนผ้าที่ไม่เน้นความลึก.... นั่นก็เพราะพวกอังกฤษถือว่าทหารแต่ละคนของตนนั้นล้วนเป็นทหารอาชีพซึ่งมีฝีมือสูง ซึ่งเรื่องนี้ก็ไม่แปลกที่เขาจะโอ้อวดแบบนี้ได้ เพราะทหารราบอังกฤษในสมัยก่อนนั้นจำเป็นต้องฝึกหนักมากกว่าที่จะออกรบได้จริง นั่นจึงทำให้พวกเขาสามารถทำเวลาในการบรรจุกระสุนได้รวดเร็วมาก ดังนั้นการจัดแถวแค่สองแถวจึงเพียงพอแล้ว แต่พอมาเจอพวกกองโจรชาวอาณานิคมอเมริกันในการรบเพื่อประกาศอิสรภาพที่อเมริกา กองทหารเสื้อแดงของอังกฤษก็ต้องแพ้ร่นไม่เป็นท่าเหมือนกัน ขอบคุณมากครับ ขออนุญาติเสริมครับ คือในรูปวาดนี้ไม่ได้เป็นตัวอย่างของกองทัพมาตรฐาน แต่เป็นรูปกองกำลังในเหตุการณ์เรียกร้องทางการเมิองของฝรั่งเศส ป้ายที่ถืออยู่เขียนว่า Live free or die สังเกตุได้ว่าไม่ได้แต่งเครื่องแบบกัน และโดยเฉพาะคนที่ถือหอก เสื้อผ้าตามสบายที่สุด จากแฟชั่นควรจะเป็นเหตุการณ์ในปี 1789 ช่วงปฏิวัติพระเจ้าหลุยส์ที่ 16 มากกว่าเหตุการณ์ปฏิวัติในปี 1830 เหตุผลอย่างหนึ่งที่ไม่ได้นำดาบมาติดปืนก่อนสมัยปืนคาบศิลาคือก่อนหน้านั้นเป็นปืนคาบชุด และ Wheel lock ซึ่งมีน้ำหนักมาก ขนาดเวลายิงต้องมีขาตั้ง คิดดาบไปจึงเทอทะเกิน |