เว็บบอร์ดสนทนาภาษาปืน

สนทนาภาษาปืน => หลังแนวยิง => ข้อความที่เริ่มโดย: rambo1th ที่ มีนาคม 28, 2009, 06:36:45 PM



หัวข้อ: กรมราชองครักษ์ แจกปืนสั้น-ลูกซอง4.7พันกระบอก "ครู-อาสาสมัคร" ชายแดนใต้
เริ่มหัวข้อโดย: rambo1th ที่ มีนาคม 28, 2009, 06:36:45 PM
กรมราชองครักษ์เป็นห่วงประชาชนผู้บริสุทธิ์ ถูกผู้ก่อความไม่สงบฆ่าโดยไม่มีอาวุธต่อสู้ สั่งซื้อปืนสั้น-ลูกซองยาวกึ่งอัตโนมัติ 4,700 กระบอกแจก ครู ทหาร ตำรวจ อาสาสมัครรักษาหมู่บ้าน ให้มหาดไทยออกใบอนุญาต เป็นปืนส่วนบุคคล หวั่นฝ่ายตรงข้ามยึดได้ไปโฆษณาชวนเชื่อ

ผู้สื่อข่าว"มติชนออนไลน์"รายงานเมื่อวันที่ 26 มีนาคม 2552 ว่า  กรมราชองรักษ์ได้หาเงินบริจาคสั่งซื้ออาวุธปืนพกสั้นกึ่งอัตโนมัติ ขนาด 9 มม. ยี่ห้อ STEYR PISTOL รุ่น M-A1 และอาวุธปืนยาวลูกซองกึ่งอัตโนมัติ ยี่ห้อ BAIKAL รุ่น MP 153  รวม 4,700  กระบอก  เพื่อให้ ครู ทหาร ตำรวจ และสมาชิกราษฎรอาสารักษาหมู่บ้าน (อรบ.) อรบ. ในจังหวัดชายแดนภาคใต้ยืมไว้ป้องกันตนเองและหมู่บ้านโดยให้กระทรวงมหาดไทยอำนวยความสะดวกในการขออนุญาตมีและใช้อาวุธปืนเหล่านั้น 


แต่ยังมีปัญหาในข้อกฎหมายและอาจถูกฝ่ายตรงข้ามยึดไปโฆษณาชวนเชื่อ กระทรวงมหาดไทย จึงหารือกับคณะกรรมการกฤษฎีกาถึงแนวทางการใบอนูญาตให้มีและใช้อาวุธปืนตาม พ.ร.บ.อาวุธปืน เครื่องกระสุนปืน วัตถุระเบิด ดอกไม้เพลิง และสิ่งเทียมอาวุธปืน พ.ศ. 2490 ให้แก่กลุ่มบุคคลดังกล่าวซึ่งคณะกรรมการพิจารณาเห็นว่า นายทะเบียนท้องที่อาจพิจารณาออกใบอนุญาตให้มีและใช้อาวุธปืนให้แก่ผู้รับโอนอาวุธปืนจากกรมราชองครักษ์ได้โดยให้รัฐมมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยมีอำนาจในการสั่งห้ามหรือจำกัดการออกใบอนุญาตดังกล่าวได้เพื่อความสงบเรียบร้อย(เรื่องเสร็จที่ 262/2552)


ผุ้สื่อข่าวรายงานว่า กรณีดังกล่าว อธิบดีกรมการปกครองในฐานะนายทะเบียนอาวุธปืนท้องที่กรุงเทพมหานครว่า กรมราชองครักษ์ขอความอนุเคราะห์กระทรวงมหาดไทยอำนวยความสะดวกในการขออนุญาตมีและใช้อาวุธปืนให้กับครู ทหาร ตำรวจ และ อรบ.เนื่องจากเหตุการณ์ไม่สงบในจังหวัดชายแดนภาคใต้ ประชาชนผู้บริสุทธิ์และครูถูกฆ่าโดยไม่มีอาวุธที่จะต่อสู้


กรมราชองรักษ์จึงได้หาเงินบริจาคสั่งซื้ออาวุธปืนพกสั้นกึ่งอัตโนมัติ ขนาด 9  มม. ยี่ห้อ STEYR PISTOL รุ่น M-A1 จำนวน 700  กระบอก เพื่อให้ครูและเจ้าหน้าที่ยืมใช้ป้องกันตัว และอาวุธปืนยาวลูกซองกึ่งอัตโนมัติ ยี่ห้อ BAIKAL รุ่น MP 153 จำนวน 4,000  กระบอก เพื่อให้ อรบ. ยืมไว้ป้องกันตนเองและหมู่บ้าน โดยกรมราชองครักษ์จะควบคุมด้วยการตรวจสอบประวัติผู้ยืม ยิงปืนทดสอบ เก็บประวัติอาวุธปืน ฝึกอบรมการใช้อาวุธปืน จัดทำใบยืมอาวุธปืน ซึ่งจะมีการเรียกผู้ยืมและอาวุธปืนมาตรวจสอบเพื่อต่ออายุใบยืม ปีละหนึ่งครั้ง รวมทั้งให้เจ้าหน้าที่ ทหาร และตำรวจในพื้นที่รับรู้การขึ้นทะเบียนและกำกับดูแลการใช้ปืน

 

ต่อมา กรมราชองครักษ์พิจารณาเห็นว่า การให้ยืมอาวุธปืนอาจมีปัญหาในอนาคต จึงมีความประสงค์จะโอนอาวุธปืนทั้งสองรายการดังกล่าวให้กับผู้ยืม และให้มีการอนุญาตให้ถูกต้องตาม พ.ร.บ.อาวุธปืน เครื่องกระสุนปืน ฯ จึงขอหารือไปยังกรมบัญชีกลางเพื่อขอยกเว้นหรือผ่อนผันไม่ปฏิบัติตามระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี ว่าด้วยการพัสดุ พ.ศ.2535  ซึ่งต่อมากรมบัญชีกลางได้แจ้งให้กรมราชองครักษ์ทราบว่า คณะกรรมการว่าด้วยการพัสดุ (กวพ.) ได้อนุมัติยกเว้นให้กรมราชองครักษ์ไม่ต้องปฏิบัติตามข้อ 157 ของระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี ว่าด้วยการพัสดุฯ  โดยให้กรมราชองครักษ์สามารถโอนอาวุธปืนทั้งสองรายการ จำนวน 4,700  กระบอก แก่บุคคลที่ได้รับการพิจารณาและให้ยืมใช้อาวุธปืนอยู่แล้วได้เป็นกรณีพิเศษเฉพาะราย  แต่ต้องดำเนินการให้เป็นไปตามที่มีกฎหมาย ระเบียบ ข้อบังคับ หรือมติคณะรัฐมนตรี


กระทรวงมหาดไทยพิจารณาแล้วเห็นว่า อาวุธปืนของกรมราชองครักษ์ จำนวน4,700  กระบอก ที่จะโอนให้แก่ ครู ทหาร ตำรวจ และ อรบ. เป็นอาวุธปืนของราชการทหารซึ่งได้รับการยกเว้นไม่อยู่ในบังคับของ พ.ร.บ.อาวุธปืนฯ  นายทะเบียนท้องที่จึงไม่สามารถออกใบอนุญาตให้มีและใช้อาวุธปืนได้  จึงขอหารือข้อกฎหมายและแนวทางปฏิบัติ ในกรณีดังกล่าวต่อคณะกรรมการกฤษฎีกา
 

คณะกรรมการกฤษฎีกา (คณะที่ 11)  เห็นว่า แม้ว่าการที่กรมราชองครักษ์ได้นำเข้าอาวุธปืนตามข้อหารือมาใช้ในราชการ ซึ่งอาวุธปืนดังกล่าวไม่ตกอยู่ภายใต้บังคับของ พ.ร.บ.อาวุธปืนฯ  แต่เมื่อกรมราชองครักษ์ได้รับอนุญาตจากคณะกรรมการว่าด้วยการพัสดุ (กวพ.) ยกเว้นให้ไม่ต้องปฏิบัติตามข้อ 157 ของระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี ว่าด้วยการพัสดุ ฯ  โดยให้กรมราชองครักษ์สามารถดำเนินการโอนอาวุธปืนทั้งสองรายการ ให้แก่บุคคลที่ได้รับการพิจารณาและให้ยืมใช้อาวุธปืนอยู่แล้วได้เป็นกรณีพิเศษเฉพาะราย


ฉะนั้น เมื่อกรมราชองครักษ์ได้โอนอาวุธปืนให้แก่ครู ทหาร ตำรวจ และ อรบ. เแล้ว อาวุธปืนเหล่านั้นก็จะตกเป็นของผู้รับโอนและไม่เป็นอาวุธปืนของทางราชการอีกต่อไป โดยต้องถือว่า อาวุธปืนนั้นเป็นอาวุธปืนส่วนบุคคลอันนายทะเบียนท้องที่สามารถจะนำบทบัญญัติว่าด้วยอาวุธปืนส่วนบุคคลของ พ.ร.บ.อาวุธปืนฯ มาใช้บังคับกับอาวุธปืนนั้นได้ นายทะเบียนท้องที่จึงอาจพิจารณาออกใบอนุญาตให้มีและใช้อาวุธปืนให้แก่ผู้รับโอนอาวุธปืนดังกล่าวได้


อย่างไรก็ตาม หากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยเห็นว่า มีความจำเป็นเพื่อรักษาความสงบเรียบร้อยของประชาชนสมควรควบคุมปริมาณและการใช้อาวุธปืนก็อาจอาศัยอำนาจตาม พ.ร.บ.อาวุธปืนฯในการออกคำสั่งห้ามหรือจำกัดการออกใบอนุญาตและอาจกำหนดให้ใช้บังคับในบางท้องที่หรือทั่วราชอาณาจักรได้

   http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1238059519&grpid=04&catid=01


 เรื่องนี้มีจุดให้ศึกษา หลายเรื่องนะครับ 1) ข้อกฎหมายที่กฤษฎีกาตีความ และความเห็นของมหาดไทย
                                                       2) รุ่น และขนาด ของอาวุธ ที่เลือกซื้อ และจำนวน  ( 2 ยี่ห้อนี้ราคาถูกและสามารถส่งของได้เลยหรือเปล่า ถึงโดนใจ)
                                                       3) แนวทางการดำเนินการของส่วนราชการ

                      *********แต่ก็เป็นจุดหนึ่งที่ดีในการป้องกันตัวให้กับกับประชาชน + การฝึกที่ดี  ก็จะมีประสิทธิภาพได้ ************
                                                       


หัวข้อ: Re: กรมราชองครักษ์ แจกปืนสั้น-ลูกซอง4.7พันกระบอก "ครู-อาสาสมัคร" ชายแดนใต้
เริ่มหัวข้อโดย: RO 05 ที่ มีนาคม 28, 2009, 06:56:07 PM
www.gunsandgames.net/smf/index.php?topic=69808.0

กระทู้นี้ เพื่อนสมาชิก ตั้งไว้ก่อนหน้าีนี้  มีเนื้อหาเป็นเช่นเดียวกันครับ