เว็บบอร์ดสนทนาภาษาปืน

เอาอะไรตัดสินครับว่าเราควรขอเขาแต่งงานได้แล้ว หรือว่าคนที่เราควรจะแต่งงานด้วยคือคนคนนี้

ถามทุกท่านที่โสด หรือไม่โสดด้วยครับ  แต่ท่านที่เป็นเกย์ ผมขอไม่ทราบความเห็นท่านนะครับ

 เรื่องแบบนี้ต้องถาม อาจารย์ยอด............

ใช้หัวใจ :VOV: :VOV: :VOV:






และบรรยากาศพาไป :~)

สงสัยกำลังจะมีข่าวดี...คริๆ ;D ;D

จงทำท่าจะมีข่าวดี อาศัยประสบการณ์เกือบจะแต่งมาตอบละกัน

ข้อพิจารณา

1 รับควมเป็นตัวตนของเขาได้ รับครอบครัวเขาได้
2 เขารับความเป็นตัวตนของเราได้ เขารับครอบครัวเราได้ รับเพื่อนเราได้(ผู้ชายมักขาดเพื่อนไม่ได้)
3 รู้สึกว่าเราขาดเขาไม่ได้ หรือเขากำลังจะถูกแย่ง

มี 3 ข้อนี้แต่งไปเลย หากพลาดไป การเริ่มศึกษากันใหม่กับใครสักคนอาจเกิดข้อเปรียบเทียบว่าทำไม่ไม่เหมือนเขา ทำไมแตกต่างจากเขาแล้วจะมานั่งเสียใจทีหลัง

ถ้าความพร้อมมี โอกาศดีๆมีไม่นานนะครับ ถามใจตัวเองให้ดีหากไม่คว้าไว้เราจะมานั่งเสียใจภายหลังตอนเขเดินคู่กับคนอื่นหรือปล่าว

ขอให้โชคดีในการตัดสินใจนะจง

ปล พี่ยังครองโสด

ผู้มีประสพการณ์ โชกโชน ;D

http://www.gunsandgames.com/smf/index.php?topic=69910.0

  กระทู้นี้อาจทำให้ จขกท. ตัดสินใจได้...............  ผมออกความเห็นไม่ได้ เพราะเข้าเงื่อนไขของ จขกท.  ::005::

..ของแบบนี้.เวลามา.มันจะมาเองแหละครับ.น้ากระจง... ;D

มันเป็นไปตามธรรมชาติครับ จะรู้เองว่าใครที่เราจะอยู่ด้วย ไม่มีใครรู้เท่าตัวเราเองนะครับ

ถ้ามีสัญญาณเตือนดังนี้ อาทิเช่น
1. พี่คะ พ่อแม่หนูอยากพบอยากคุยกับพี่ด้วย (อันนี้เคยโดนมากับตัว ใจแป๊วตกไปอยู่ตาตุ่มเลย  ::012:: )
2. พี่คะ ประจำเดือนหนูไม่มา 2 เดือนแล้วคะ  ::003::
3. พี่คะ หมู่นี้หนูเหม็นเปรี้ยว เหม็นหอม เหม็นกระเทียมจัง ไม่รู้เป็นอะไร   ::011::
ฯลฯ
แปลว่าในไม่ช้าท่านต้องได้จัดงานวิวาห์แน่ๆ และท่านจำต้องรีบจัดการตบแต่งโดยพลันมิชักช้า มิเช่นนั้นอาจจะได้จัดงานศพแทน (แฮะๆ อันนี้ผมล้อเล่นครับ  ::014:: )

จริงๆคนจะบอกได้ว่าสมควรแต่งงานได้แล้วหรือยังคือตัวคุณเจ้าของกระทู้กับแฟนคุณมากกว่าครับ จะให้คนนอกอย่างพวกเรามาบอกหรือตัดสินใจให้ก็คงยากจะได้คำตอบ

คุณรู้ไหมกว่าผมจะขอแฟนแต่งงานได้ ผมขอไปตั้งหลายครั้งเชียวนะ แฟนคนนี้ผมคบมาตั้งแต่เรียนม.ปลายแล้ว จำได้ว่าผมขอไปประมาณ 4 ครั้ง ทั้งๆที่พ่อตาแม่ยายผมเปิดทางสะดวกให้แล้ว แต่แฟนผมบอกเราไม่พร้อมมั่ง ติดงานไปต่างประเทศมั่ง จนครั้งที่ 4 ผมวางแผนพาไปเที่ยวภูหินร่องกล้า ที่อ.นครไทย จ.พิษณุโลกตอนเดือนตุลาคม แล้วขอแต่งงานตรงลานหินแตก (กะว่าปฏิเสธไม่แต่งจะผลักมันลงหน้าผาเสียเลย อุ๊ย! ผมล้อเล่น  ;D ) เธอคงกำลังอินบรรยากาศมั้งเลยตอบตกลง เย็นนั้นผมก็รีบโทรมาบอกแม่ให้จัดสินสอดเตรียมไปหมั้นเลย

ของแบบนี้มันอยู่ที่จังหวะ เวลา และใจของทั้งสองคนครับ  :VOV:

ถามตัวเองว่าต้องการหรือยัง ส่วนอื่นๆค่อยไปหาเอาข้างหน้า เพราะถ้ารอให้พร้อม ความพร้อมของแต่ละคนไม่เหมือนกัน คงอีกนานกว่าจะได้แต่ง

คราวนี้พอคิดได้ก็แต่งเลย

จะทำให้รู้ว่า...........................................................................









นรกมีจริง........55555555555555555555..............อ่ะ!!!!!!ล้อเล่น  ::014:: ::014:: ::014::

 ;D ;D ;D ตอนนี้ยื่นใบผ่อนผันอยู่ คาดว่าจะยืดออกไปได้ไม่นาน  :~) :~) :~)

แกล้งถามอ้อมๆไปก่อนเช่นว่า เห็นคู่คนอื่นเขาแต่งงานกันแล้วคิดอย่างไรบ้างทำนองนี้ แล้วดูอาการเขาว่าจะมีผลออกมาอย่างไรบ้าง  ;D ;D

ท่านลูกเหล็กแปลว่า...แปลว่า...เอ่อ... :OO

เมื่อเขามากระซิบบอกว่า
.
.

.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
จ.ป.ด. ไมมา 2 เดือนแล้วค่ะ

คุณหมออย่าเอ็ดไป....เดี๋ยวไก่ตื่น ลูกปรายเหล็กเขิน....... ;D

แมนรับบ่ดั้ยยย  :<<

พี่ชายผมคบกับแฟนเค้าปีเดียว แต่งงานแล้วครับ
ไม่รู้ว่าตัดสินยังไง คงคิดว่า ขาดกันไม่ได้

ในที่สุดก็เผยตัวตนที่แท้จริงออกมาวันนี้เอง  ::005:: ::005::

แม่แฟนจับได้ว่ามีอะไรกัน    :~) :~)

ไม่ทราบจริงๆครับ  :)

เขาจับได้ตั้งนานแล้วครับ

แปลว่า วันนั้นเมา...ฮา...::005::

ใจคุณนั่นแหละค่ะที่จะตัดสิน  ถ้ายอมรับได้ว่า...
การแต่งงาน เป็นการประกาศชีวิตคู่ โดยมีผู้ใหญ่แต่ละฝ่ายเป็นพยาน
ว่าต่อไปนี้ข้าพเจ้านายนี้ และนางนี้ จะอยู่กินเป็นสามีและภรรยากัน
เธอเป็นของฉัน ฉันเป็นของเธอ ประกาศตีตราจอง ห้ามมีเพศสัมพันธ์กับใครอื่นอีก
มีสุขร่วมเสพ มีทุกข์ ร่วมต้าน ขยายเผ่าพันธุ์ จะดูแลซึ่งกันและกันจนตราบชีวิตจะหาไม่
ก็แต่งเถอะค่ะ...

ผมมองว่าความพร้อมก็สำคัญ แต่ถ้ามัวรอให้พร้อมไปหมด บางทีจะไม่ทันกาลนะครับ รอฐานะ รอการงาน รอรถ รอบ้าน รอ...ฯลฯ  ส่วนใหญ่เลิกกันซะก่อนครับ เพราะมันนานเกินไป สมัยนี้ความรักมันเร็วปานADSL  รักก็Connect บทจะเลิกก็Deleteกันซะง่ายๆ ผู้หญิงสมัยนี้ไม่อดทนด้วยนะ มัวยึกยัก ความสาวมันมีหมดอายุนะครับ  ::005::

เห็นเยอะที่อยู่กัน ต่อสู้ด้วยกัน มีลูกมีเต้า มีความสุขดี พวกรอโน้น รอนี่ สุดท้ายจะแห้วครับ  :~) ;D

ช่วงก่อนแต่งผมเมาจนเบื่อเลยครับพี่หมอ เมาจนแฟนสงสาร

แต่การแต่งของผมมันไม่ได้มีการตัดสินใจอะไรกันเลย มันเป็นไปเอง ..... เหมือนกับคบกันไปเรื่อยๆแล้วก็ถึงวันที่รู้สึกว่า เรามาแต่งงานกันเหอะเอาดื้อๆ

จะว่าพร้อมก็คงไม่ได้พร้อมมาก แค่มีงานทำกิจการก็ไม่ได้เป็นเรื่องเป็นราวอะไรนักหนา บ้านก็ยังเช่า รถก็โกโรโกโส

ตอนแฟนกลับไปบอกที่บ้านเค้าว่าผมจะให้ผู้ใหญ่ไปสู่ขอ ทางบ้านแฟนเค้ายังอึ้งๆกันอยู่เลย เพราะผมยังทำตัวกร๊วกขนาดหนัก เหมือนคนไม่มีหัวนอนปลายเท้า แค่เคยกินข้าวกันไม่กี่ครั้ง ที่ยอมก็เพราะมีโอกาสให้ผมได้ทำคะแนนอยู่หลายครั้ง

จนตอนที่ผู้ใหญ่ทางผมยกขบวน(ไปกัน18คน+ใหญ่กันพอตัว)ไปสู่ขอนั่นแหละถึงได้ใจชื้นกันขึ้นมามั่ง ว่าใครเป็นใคร แต่ก็แอบเห็นว่าที่พ่อตาทำท่างงๆ ว่าตกลงไอ้นี่มันกร๊วกจริงหรือเปล่า(วะ)

ตอนวันแต่ง ญาติผู้ใหญ่ของผมเค้าก็สนุกสนานกันใหญ่ อารมณ์ประมาณมาช่วยกันคล้องช้างกลับเข้าคอกได้สำเร็จ.....แต่งคืนนี้ รุ่งขึ้นผมโดนเรียกไป(รุม)คุย ว่าเลิกดื้อเลิกตะลอนได้แล้ว กลับมาได้แล้ว ไม่ได้ตัวคนเดียวแล้ว(  ::006:: ) มีคนมาฝากชีวิตไว้ด้วยแล้วฯลฯ

แต่งไม่ถึงสัปดาห์ร้านเนตที่ข้างม.อ.+ร้านอาหารที่หาดใหญ่ก็ต้องขายโดยปริยาย แล้วผมก็มาโผล่ในเวบอวป.นี่แหละ  ::005::

อืม...จริง ;D

  :VOV: :VOV:  ดูรูปสมบัติ คุณสมบัติ และทรัพย์สมบัติ ประกอบด้วยครับ... แต่หลักๆต้องมี มีคุณลักษณะอันพึงประสงค์ด้วย  อยู่กันแล้วมีความสุขน่ะ  ระหว่างทดลองงานต้องถอดหน้ากากทั้ง2ฝ่าย อย่าแกล้งดี  แล้วประเมินดู  อย่ารักจนตาบอดนะครับ..ขอให้โชคดีครับ :VOV: :VOV:

      ถ้าคิดว่าใช่กับคนนี้ ที่เหลือก็คืออยู่ที่ความพร้อมครับ... กำลังทรัพย์มิใช่ตัวแปรหากต้องการมีชีวิตคู่ สำคัญอยู่ที่ใจในการต่อสู้ในชีวิตอนาคตครับ

แล้ว ...จ.ป.ด. ไมมา 2 เดือนแล้วค่ะ
แปลว่าอะไรค่ะ

ป.จ.ด มั่งครับ

 ::007:: ::007:: ::007:: ::008::
::003:: ::003:: ::003:: ::003:: ::003::

ทำเป็นหัวเราะนะอาจาย์ต้น.... เดี๋ยวเจอกัน จะขำไม่ออก  ;D

 ;D ::007::

อืม ว่ากันว่า ความรัก ในทางเคมีแล้วมีอายุ สั้นสุดประมาณ 2 สัปดาห์ นานสุดประมาณ 2 ปี จากนั้นจะเปลี่ยนเป็นความผูกพัน หากความผูกพันลดน้อยลงไป
ชีวิตคู่ก็จบ ผมว่าดังนั้นหากพร้อมด้านทรัพย์ แต่งเลยครับ ไม่ต้องเป็นกังวล เพราะแต่งได้ก็เลิกได้ และการแต่งงานไม่ได้เป็นเครื่องผูกมัดใคร ถ้าใจเขาไม่อยู่กับเราอะไรก็รั้งเขาไว้ไม่ได้ ผมคบกันมาอยู่ด้วยกันมา 7 ปี(ไม่ได้แต่ง)เขายังจากไปครับ อย่ารอนานเกินไปแบบผม

 ;D ขอบคุณค่ะ ชอบกระทู้นี้ค่ะ ตลกดี  ::005::

 ::005:: ::005:: ::005:: ::005:: ::005:: ::005:: สู้ต่อไป ๆ ๆ ๆ  ::005:: ::005:: ::005:: ::005:: ::005:: ::005::

อยากเห็นหน้า อยากอยู่ด้วยใกล้ชิด ( ไม่ใช่ ยาสีฟัน นะ )

อยากมีเธอและฉัน

เราสองคน  ( มีเพียงหาดสายทะเลสายลม กับ สองเรา )

อยากทราบหรือไม่ว่า ความรักของเรานั้นเป็นรักแท้หรือเปล่า วันนี้เรามีบทพิสูจน์รักแท้มาบอก
1. ต้องมีความรู้สึกได้สัมผัสกับความสุขร่วมกับคนๆ นั้น เมื่ออยู่ด้วยกันก็จะมีความสุขมาก ไม่เคยเบื่อที่มีเขาอยู่ใกล้ ๆ และเมื่อยามที่เขาห่างไกล ไม่ได้เห็นหน้า ก็จะรู้สึกเหงา ๆ และคิดถึง
2. ต้องให้ความเคารพนับถือคน ๆ นั้น ถ้าจะรักใครสักคน ถ้าเราตั้งหน้าตั้งตาดูถูกและไม่เคยให้ความเคารพในความเป็นเขา แล้วคนอื่น ๆ จะเคารพคน ๆ นั้นของเราได้อย่างไร และเราจะภูมิใจหรือ กับการที่ได้รักใคร่กับคนที่ใคร ๆ เขาดูถูก
3. ต้องรู้สึกว่าคน ๆ นั้นเป็นที่พึ่งได้ เมื่อเกิดวิกฤตการณ์ขึ้นในชีวิต มั่นใจว่าเขาจะอยู่เคียงข้างเพื่อคอยช่วยเหลือ ไม่ใช่ว่าเรากำลังจะตกตึก ก็ไม่ยื่นมือเข้ามาช่วยฉุด
4. ต้องเชื่อมั่นว่าถ้ามีปัญหาใด ๆ เกิดขึ้นไม่ว่าจะรุนแรงแค่ไหนสัมพันธภาพก็ยังคงดำเนินต่อไปเพราะคนเราย่อมผิดพลาดกันได้ ถ้ารู้จักอภัยกันมันก็อยู่กันทน
5. ต้องเข้าถึงความต้องการอารมณ์และความรู้สึกของคน ๆ นั้นอย่างถ้ารู้ว่าชอบจะอยู่คนเดียวตามลำพังบ้าง ก็ควรเปิดโอกาสได้อยู่กับตัวเองด้วยความเต็มใจ
6. ต้องมีความรู้สึกต้องตาต้องใจในสรีระของคน ๆ นั้น
7. ต้องรู้สึกว่าเราสามารถจะพูดคุยกับคน ๆ นั้นได้ทุกเรื่อง  คุยอย่างเปิดอก สามารถที่จะขุดความรู้สึกส่วนลึกในหัวใจ ขึ้นมาพูดได้ ไม่ใช่ต้องปิดบังความรู้สึกส่วนนั้นไว้ เพราะกลัวว่าถ้าพูดออกมาแล้ว เราจะอับอายหรือไม่ ก็กลัวว่าเขาได้ยิน แล้วจะผงะหงายแล้วเดินหายไปจากชีวิต
8. ต้องรู้สึกว่าคน ๆ นั้นเป็นของมีค่าในมือ ถ้าไม่มีเขาสักคนชีวิตของเราก็สูญของมีค่าไป
9. ต้องรู้สึกเต็มใจที่มีส่วนร่วมกับคน ๆ นั้นในหลาย ๆ ด้าน ทั้งความคิดอารมณ์และเวลาแต่ไม่ใช่ร่วมกับเขาไปหมด จนเขาไม่เหลือความเป็นตัวของตัวเอง
10. ต้องรู้สึกอยากมีส่วนร่วมอยากรับฟังทุกอย่าง ไม่ว่าสิ่งนั้นมันเป็นสิ่งที่ดีหรือเป็นสิ่งที่ทุกข์ ที่เรียกว่าร่วมทุกข์ร่วมสุข เพราะคนที่ต้องการแต่จะร่วมสุข นั่นหมายถึงว่าเป็นคนที่ไม่ได้มีรักแท้

ไม่ใช่ผู้สันทัด ส่วนตัวถือว่าเป็นผู้ล้มเหลว แต่เมื่อเรื่องมาถึง ผมทำไฟล์ Excel ให้เพื่อนสาวคนหนึ่งที่ชอบโทรมาปรับทุกข์หรือร้องไห้เรื่องหัวใจไปประเมินเองได้เลย โดยใช้ค่าเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักซึ่งแต่จะคนจะให้น้ำหนักความสำคัญของแต่ละเกณฑ์ได้ตามใจชอบ แล้วให้คะแนนเต็ม 10 ของแต่ละข้ออีกครั้งหนึ่ง

ผลที่ออกมาประมาณนี้ ถ้าสนใจจะส่ง ไฟล์ไปให้

=IF(C13>89,"ความรัก ความหลงปิดบังดวงตาน้องนกหมดแล้ว",IF(C13>79,"รีบสละโสดเถอะ นกเป็นหญิงที่โชคดีมากๆ", IF(C13>69,"ความจริงมีอยู่ว่า ไม่มีสิ่งใดสมบูรณ์แบบ รักก้อเป็นเช่นนี้ แต่ OK น่ะ",IF(C13>59,"รักดิบๆ สุก ไม่มีดีกว่า อย่าหาเรื่องใส่ตัว"," "))))

(http://www.uppicth.com/pics/320c5a9c7f6adbc567c34425e75c9bcc.jpg) (http://www.youtube.com/watch?v=qWgDkDZG5NI)

ลิงค์

ถ้าความต้องการตรงกัน อยากมีสายสัมพันธ์ยาวตลอดมองไปถึงการสร้างครอบครัว

มานึกถึงตัวเองยังงงอยู่ว่าเเต่งกับเเฟนได้ยังไง

ผมคบกันมาเจ็ดเเปดปีตั้งเเต่เรียนมหาลัย  จนทำงานมีรายได้มีค่าสินสอดมีปัญญาส่งลูกเรียนได้

เเฟนมาบอกว่าคบกันนานเเล้วนะเเก  เเต่งได้เเล้วนะ  ด้วยความกลัวไปบอกพ่อเเม่ไปขอให้หน่อย

ตั้งเเต่นั้นมาเเฟนสั่งอะไรทำตามหมดเลย  เมื่อเจอคำถามนี้ยังสงสัยว่าตรูเเต่งงานได้ไง  ตรูกลัวเมียป่าวหว่า...555

 ::012:: ::012:: ::012:: ::012:: ::005:: ::005:: ::005:: ::005:: ::012:: ::012:: ::012:: ::012::

ลืมบอกว่าก่อนเป็นเเฟนก็เป็นเพื่อนในกลุ่มกันมาก่อน  คบกันเเบบเปิดอกสุดๆคุยได้เเฟร์ๆ  รู้ไส้รู้พุงรู้ใจ  จนเรื่องในบ้านเเละเรื่องรายรับจ่ายผมยกให้จัดการหมดเลย

เรื่องดังกล่าวถ้าผมจัดการเองหละก็เละเเน่  เงินมีเท่าไหร่ก็ซื้อของหมด  คิดไม่ผิดเลยที่ได้เเต่งกันเเละได้เธอมาเป็นเเม่ของลูกครับ

มานั่งรอการ์ดงานแต่อยู่ครับ  ท่านกระจงตัดสินใจเลือกฤกษ์ดีได้หรือยังเอ่ย :D