เว็บบอร์ดสนทนาภาษาปืน

คือเริ่มแรกเลยเอ๋ได้ปลาหมอสีจากเพื่อนมาไม่มีความรู้เรื่องเลี้ยงปลามาก่อนเลยและไม่เคยเลี้ยงด้วย

ได้มาปั๊ปไปซื้อตู้ขนาด 36 นิ้ว ฝาปิด หิน ใยแก้ว เลี้ยงได้สามวันอยู่ดีๆตาที่เคยแดงกลับขุ่นพอดึกๆว่ายแบบไม่ทรงตัวแล้วตื่นเช้ามา

ตายอยู่ก้นตู้  ::004:: จากนั้นทิ้งน้ำไว้สามวันใส่ยาฆ่าเชื้อลงไปจากนั้นความที่เสียดายตู้ที่ลงทุนไป เอาอีกได้ ปอมปาดัว มาหลายคู่

ซื้อหนอนแดงแช่เเข็งมาเตรียมไว้เลยค่ะสามแพ็ค 100 ที่ใส่อาหารไม่น่าเชื่อพอกลับมาถึงเอาใส่ตู้นั่งดูเพลินเลยสวยมากไม่ถึงชั่วโมง

ตัวแรกว่ายเอียงข้างถลาไปกับน้ำเลยแล้วก็ตัว สอง-สาม จนหมด  ::003:: ตอนนี้ตายหมดแล้วไม่ทราบว่าเป็นเพราะอะไรคะ

เห็นพ่อบอกว่าเลี้ยงปลาหมอสีที่ว่าทนๆยังตายอย่าไม่ต้องเลี้ยงแล้วปลาอ่ะ อยากเลี้ยงให้ไปซื้อปลาหางนกยูงมาเลี้ยง   ::009::

อยากจะกลับมาเลี้ยง ปอมปาดัว อีกพี่ๆท่านใดเคยเลี้ยงแนะนำด้วยค่ะหรือปลาอะไรก็ได้ที่ทนๆสวยๆไม่เอาปลาหางนกยูงนะคะ    ::014::

ใช้น้ำประปา คลอรีนมากครับ ตายเกลี้ยง  :~)
ผมไม่เลี้ยงปลาครับ  :D

คงโดนคลอรีนที่ค้างอยู่ในน้ำประปาครับ   ต้องพักน้ำเอาไว้สัก2-3วันก่อนถึงนำปลาลงได้ครับอ้อ  ควรใส่เกลือสมุทรด้วยสัก3-4กำมือครับ
ขอให้มีความสุขในการเลี้ยงนะครับ

เอาน้ำใส่กะละมังทิ้งใส่น้ำยาฆ่าคลอรีน ทิ้งไว้สัก 2 วัน
จากนั้นค่อยนำมาใช้ ส่วนตู้ และ หิน รวมของตกแต่งเอาออกไปตากแดดแรง ๆ สัก 2 วัน
จากนั้น เอาทั้งหมดมาใส่รวมกันใส่ยาฆ่าเชื้อสัก 10 หยด ใส่เกลือสัก 3 กำมือ 
ทิ้งไว้อีกสัก 1 วัน จากนั้นนำปลามา ก่อนที่จะปล่อยปลาเข้าตู้ ให้เอาถุงปลาทั้งถุง
แช่น้ำไว้สัก 10 นาทีจากนั้นค่อยเปิดปากถุงให้น้ำภายนอกไหลเข้าไปในถุงอย่างช้า ๆ
พอน้ำเต็มถุงก็ปล่อยให้ปลาว่ายออกไปเองครับ อ้อ.. อย่าลืมเช็คสายอ๊อกซีเจนด้วยว่า
พ่นออกมาในน้ำเป็นฟองปุ๊ง ๆๆ ไหม ถ้าไม่พ่น ไล่ตรวจเช็คให้มันพ่นออกมาด้วยนะครับ
ถ้าไม่มี อ๊อกซีเจน ให้ไปซื้อมาใส่เพิ่มครับ แล้วอย่าลืมเปลี่ยนน้ำทุก ๆ 7 วันหรือ 15 วันครั้ง
โดยสังเกตจากความขุ่น ถ้าขุ่นเร็วก็ให้เปลี่ยนเร็ว โดยการเปลี่ยนน้ำแต่ละครั้งให้ดูดน้ำออก
จากตู้ปลาไปประมาณ 3 ส่วน จาก 4 ส่วน หรือ ประมาณ 75% โดยส่วนที่เหลืออีก 1 ส่วนนั้น
ให้เหลือทิ้งไว้ในตู้ แล้วก็เติมน้ำใหม่เข้าไปให้เต็มเหมือนเดิม จากนั้น ใส่ยาฆ่าคลอรีนแล้วก็
ใส่ยาฆ่าเชื้อสัก 10 หยด แล้วใส่เกลือสัก 2 - 3 กำ โดยไม่ต้องเอาปลาออกจากตู้ครับ
เปลี่ยนน้ำบ่อย ๆ ตู้สะอาด ปลาแข็งแรงครับ

:D

ลองอ่านนี่ดูด้วยนะครับ

http://www.thaigoodview.com/library/studentshow/st2545/4-5/no20/index.html

 :OO น่ากลัวปลาจะปรับสภาพไม่ทัน เท่าที่อ่านดูเมื่อปลาชุดแรกตายก็ไม่ได้เปลี่ยนน้ำหรือครับ ควรจะเซ็ตเรื่องน้ำให้ดีก่อน
อีกทั้งควรศึกษา ปลาที่จะนำมาเลี้ยง ว่าตามธรรมชาติอยู่อย่างไร อาหาร นิสัย ต้องเตรียมให้พร้อมครับ ถ้าไม่เคยเลี้ยงปลามาก่อน
ให้ลองเลี้ยงปลาง่ายๆก่อนครับ ปอมปาดัวร์เป็นปลาที่เลี้ยงค่อนข้างยากสำหรับมือใหม่ เพราะมีตัวแปรหลายอย่างเช่น น้ำ อุณหภูมิ

ลองศึกษาดูตามเว็บนี้นะครับ มีความรู้มากมาย อ่านกฏ กติกาของเจ้าบ้านให้ละเอียดนะครับ (ปลาและสัตว์เลี้ยง)
http://www.genepoolaquarium.com/
อีกเว็บครับอันนี้แนว ปลา ไม้น้ำ กุ้งและอื่นๆครับ
http://aqua.c1ub.net/forum/

ลองศึกษาดูครับ ;D

ผมเคยใช้วิธีการต้มน้ำแทนการพักน้ำ
ใช้ได้เหมือนกันครับ

 อิอิอิ .........  ตอนต้มให้ใส่ปลาลงไปด้วยเหรือเปล่าพี่  ............  อิอิอิ

แม้แต่ปลาหางนกยูงผมยังเลี้ยงให้ตายได้เลยครับ ทั้งที่ดูแลสุดๆ (หมา-แมวที่บ้านมันชอบกินน้ำในอ่างทำให้มีคราบไขมันลอยอยู่บนผิวน้ำ) สงสารปลาเหมือนกัน แต่ไม่รู้จะทำยังไงให้มันรอด....

อ่านกระทู้ที่ผ่านมา รู้สึกเป็นประโยชน์จัง
อยากเลี้ยงปลาหมอสี เหมือนกันค่ะ
เห็นคนอื่นเขาเลี้ยง มันฉลาด ขี้เล่นดีค่ะ
เอานิ้วจุ่มลงไป มันก็ว่ายมาสีนิ้วไป สีนิ้วมา น่ารักดี
อยากเลี้ยง แต่ก็กลัวมันตาย เพราะไม่มีเวลาดูแล
 

หึ หึ หึ

เลี้ยงปลาดุกดิ  ทนดี จับขึ้นมาตากแดด ยังไม่ค่อยยอมตายเลย

เธอคงจะเลี้ยงรอดหรอก

หึ หึ หึ

ปกติปลาในตระกูลปลาหมอ cichlid จะทนที่สุดแล้วครับ แล้วปลาปอมปาดัวเป็นปลาที่ผู้เลี้ยงต้องรู้จักเค้ามากซักนิดหน่อยครับ

คือ ต้องรู้จักการเตรียมน้ำ จำนวนและอัตราการถ่ายน้ำ การเซตเครื่องกรองโดยใช้ซัปเตรด  ไม่อยากครับถ้าอยากเลี้ยง

ความรักปลาจะทำให้ทุกอย่างดูง่ายในทันทีครับ 

ท่านใดเคยเลี้ยงแนะนำด้วยค่ะหรือปลาอะไรก็ได้ที่ทนๆสวยๆไม่เอาปลาหางนกยูงนะคะ    

ผมขอแนะนำปลาหมอสีครับ ไม่ใช้พวกผสมข้ามพันธุ์นะครับ แต่เป็นพันธุ์แท้ครับ สวย ทน มีเอกลัษณ์

ลองเค้าที่ http://www.genepoolaquarium.com แล้วเข้าห้องแนะนำปลาจ๊าบบบบบ ครับ น่าจะมีที่น่าสนใจอยู่บ้างครับ

หรือ http://www.nicaonline.com/fish.htm ครับ  ::014::

น้ำยาฆ่าคลอรีน ต้องระวังเรื่องคุณภาพด้วยนะครับ

ผมเคยซื้อมาใช้ ครั้งแรกอยู่ดีๆน้ำก็ขุ่น เลยเปลี่ยนน้ำใหม่ งงๆว่าเป็นเพราะอะไร

ครั้งสองก็เป็นอีก   ครั้งนี้ปลาทองผมตายยกตู้เลยครับ.......เลี้ยงมาตั้ง2ปี จากตัวเล็กๆจนใหญ่........ แง

ตอนนี้เลี้ยงปลาหมอถูกๆ แทนแล้วครับ

************

ผมว่าการเตรียมน้ำสำคัญมากครับน้องเอ๋ ยิ่งตู้ใหม่ๆ ต้องทิ้งน้ำไว้หลายๆวัน แล้วเปลี่ยนใหม่หลายๆรอบครับ

ก่อนนำปลาลงแบบที่พี่ๆแนะนำมาแล้วครับ ;)

เลี้ยงหมอไม่เป็นนี่เอง...

 :) ปลาปอมปาดัวร์ เลี้ยงยากนะครับ ต้องดูแลเอาใจใส่ค่อนข้างมาก ทั้งเรื่องค่าความด่างของน้ำ และอุณหภูมิ ....

(http://www.upfile.us/i/jpg/ae3d3a8.jpg) (http://www.upfile.us)

สงสัยเอ๋ต้องหาปลาแบบใหม่มาเลี้ยงแล้วแหละ
พี่วัฒน์แนะนำหน่อยครับ

ตู้ที่ซื้อ ได้ถามทางร้านว่าประกอบไว้นานหรือยัง  หรือเปล่าครับ ถ้าประกอบใหม่ๆ ซิลิโคลนอาจทำให้ปลาตายได้เหมือนกันครับ
ผมสั่งตู้ใหม่ทิ้งไว้เป็นเดือนถึงจะใช้ครับ
ที่สำคัญควรใช้เกลือใส่เพื่อฆ่าเชื้อโรคด้วย (ร้านปลามีขายเป็น กิโล ๆ) ใสเยอะๆเลยครับไม่ต้องกลัวปลาเค็ม
อีกอย่างน้ำเย็นมากไหมครับ (น้ำร้อนปลาเป็น น้ำเย็นปลาตาย อันนี้เรื่องจริง) ถ้าอยู่ห้องแอร์ โดนแอร์เป่า น้ำเย็นมากของผมเคยตายครับ
ต้องไปซื้อฮีตเตอร์ มาใส่ให้เค้า
หรือสุดท้ายอาจเป็นเชื้อรามากับปลาเลย ควรมี ยาฟังกัส ติดไว้

ปลาที่ผมเคยเลี้ยงมา... อึดๆ ก็ปลาออสการ์ครับ... ขนาดไล่กัดกันจนหางขาดก็ยังไม่ตาย...


...แต่จะเอาปลาที่อึดที่สุด... แนะนำปลาหมอนาครับ... จับมาวางตากแดดเป็นวันยังไม่ตายก็มีครับ... ::005:: ::005:: ::005::

    โธ่...ปลายังตาย แล้วคนจะไปเหลืออะไร๊... ::005::


     เลี้ยงตัวนี้เหอะ  อึดดี... ::007::

  (http://img228.imageshack.us/img228/3751/158pms.jpg) (http://img228.imageshack.us/my.php?image=158pms.jpg)

ปลาซัคเกอร์เป็นเอเลี่ยน ไม่ควรเลี้ยง

แนะนำปลาไทยๆ อย่างปลาสลิด  (เอ๋สมควรรุ้ว่าไปหาได้ที่ไหน  ;D)

หรืออีกชนิดที่แนะนำ

(http://www.freewebs.com/nextmonster/1150632133.jpg)

ปลาเสือตอครับ (แต่ถ้าต้องการเลี้ยงอโรวาน่าก็ไม่ว่ากัน  ;D )


(http://www.iclickfish.com/articlesimages/tigerfish1.jpg)

ข้อมูลเบื้องต้นปลาเสือตอ (http://www.iclickfish.com/articles/index.php?topic=6)

    เอาพี่ซับไปเลี้ยงก็ได้ครับ  กินจุหน่อย แต่ไม่ค่อยเลือกกิน ...  ;D

เสือตอ ต้องขออนุญาตเลี้ยงหรือเปล่าพี่ซับ

ที่เห็นเลี้ยงๆกันก็ไม่ต้องขออนุญาต

มีความผิด ปรับไม่เกิน 40,000 บาท และจำคุกไม่เกิน 4ปี หรือทั้งจำและปรับครับพี่

ท่านซับเคยเลี้ยงแต่น้องปลา น้องกุ้งครับ ;D

ใช้แล้วค่ะพี่ปลาชุดแรกตายไม่ได้เปลื่ยนน้ำเลยแต่ใส่ยาฆ่าเชื้อแทน อุปกรณ์ไม่ได้ตากแดดใส่เกลือเลยไม่ได้ทำตามขั้นตอนที่บอกเลย  ::012::

การที่จะเลี้ยงปลา DISCUS หรือปลาปอมปาดัวร์ นั้น ก่อนอื่นควรที่จะเสร็จนำ้ใส่ตู้ไว้ก่อน
อย่างน้อย 7-10 วันก่อนนำปลาลงปล่อย ต้องอดทนรอหน่อยนะครับ ปลาปอมปาดัวร์ เป็นปลาที่บอบบาง
ตามรูปร่างของปลา หรือควรที่จะมีเครื่องกรองนำ้ก่อนปล่อยนำ้เข้าตู้ ในกรณีที่มีเครื่องกรองนำ้หลังปล่อยนำ้เข้าตู้แล้ว
ควรที่จะพักนำ้ก่อนนำปลาลงตู้ 2 วัน
การเตรียมนำ้ควรจะใส่เกลือลงไปด้วยเพื่อเป็นการฆ่าเชื่อโรคบางชนิดและเป็นการฆ่าเชื้อรา
ซึ่งจะเป็นการป้องกันไม่ให้ปลาที่จะนำมาลงติดโรคไปได้ขั้นหนึ่งครับ ปริมาณที่จะใส่ไม่ควรใส่เยอะนะครับ ถ้าตู้ขนาด 36 นิ้ว
ก็ควรที่จะใส่ในปริมาณ 1-2 กำมือโดยโรยให้ทั่วตู้

เครื่องปั๊มอากาศ เป็นเครื่องที่จะช่วยทำให้นำ้ในตู้มีปริมาณออกซิเจนเพิ่มขึ้น

ฮีทเตอร์ เป็นอีกหนึ่งปัจจัยของการเลียงปลาปอมปาดัวร์ ฮีทเตอร์จะช่วยเพิ่มอุณหภูมิในนำ้ ปลาปอมปาดัวร์เป็นปลาที่ชอบอยู่ในอุณหถูมิ
ที่อุ่น 28-30 Cํ ในกรณีที่บ้านเรามีอากาศที่เปลี่ยนแปลงบ่อยในช่วงหน้าร้อน หน้าฝน และ หน้าหนาว หรือ แม้กระทั้งช่วงที่เราๆท่านๆเปิด แอร์
ที่มีความเย็นมากก็จะทำให้มีผลต่อการเลี้ยงปลาปอมปาดัวร์ได้ ดังนั้น ฮีทเตอร์ คงเป็นอีกหนึ่งปัจจัยในการเลียงปลาปอมปาดัวร์ครับ

ฮีทเตอร์มีหลายแบบหลายราคาควรที่จะเลือกอย่างดีหน่อย ควรเลือกยี้ห้อที่สามารถควบคุมอุณหภูมิได้ในตัว

การจัดต้นไม้นำ้ลงไปในตู้ปลาที่จะเลียงปลาปอมปาดัวร์ นั้นส่วนตัวผมวาไม่เหมาะสม ต้นไม้นำ้ส่วนใหญ่มักจะมีหอย
หรือไข่ของหอยติดมาด้วย จะทำให้ตู้ปลานั้นไม่สวยงาม เราไม่สามารถใส่ปลาที่มีลักษณะที่จะกำจัดหอยหรือไข่หอย
ที่ติดมากับต้นไม้นำ้นั้นๆได้

การซื้อปลาปอมปาดัวร์ ควรซื้อมาในคราวเดียวกันไม่ควรแยกซื้อจากหลายร้านเพราะจะทำให้เราไม่ทราบว่าที่มาของปลาที่ใด
บ้างที่มีเชื้อโรคติดมากลับปลา ปลาทีมาจากร้านเดียวกันหรือฟาร์มเดียวกันจะมีภูมที่ใกล้กันการดูแลรักษา (เลี้ยง) ก็จะง่ายกว่าที่มา
จากหลายแหล่ง

ทางคุณ Vendy รอฟังความเห็นจากท่านอื่นดูด้วยนะครับ

พี่โป้งเอ๋ใช้น้ำกรองจากเครื่องค่ะ พอเต็มตู้ใส่ยาฆ่าครอลีนยาฆ่าเชื้อไปอีกตอนตัวแรกตายก็ไม่ได้เปลี่ยนน้ำเพียงแต่ใส่ยาฆ่าเชื้อไปไม่รู้เกี่ยวเปล่า

ฟังจากพี่ๆหลายๆคนไม่ใช่เรื่องง่ายซะแล้ว ที่เค้าแนะนำมาตอนแรกเพียงแต่เปลี่ยนน้ำบ่อยๆนี่มาวันแรกยังไม่ทันชั่วโมงว่ายตะแคงข้างหมดเลย แต่จะต้องเลี้ยงต่อให้ได้ค่ะ

สู้ๆครับน้องเอ๋ :)

เอาปลาดุกมาเลี้ยงก็หมดเรื่อง  ตลาดเยอะแยะ

เอาสันมีดทุบ  ยังไม่ค่อยอยากจะตายเลย ;D

รายชื่อที่ยกอ้างมานี่ ฝากไว้ก่อนนะตอนนี้กำลังเครียด   ::006::


ขอบคุณพี่ๆที่ให้คำแนะนำค่ะ พอจะเข้าใจขึ้นเยอะเหมื่อนกันค่ะ  ::014::

อ่า...เอ๋มีความคิดใหม่แล้วเพื่อไม่ให้เสียดายตู้ เปลื่ยนมาเลี้ยงปลาทะเลดีกว่าม่ะ  :P

หิวๆ ยังจับมาย่างกินกับน้ำปลาหวาน สะเดา

โอ๊ยยยย  เด็ด :D~

ปลาหมอยังตาย  แล้วปลาทะเลจะเหลือเหรอแม่คุณ.....

ตกลงปลาหมอเนี่ย  ตายเพราะพยาบาลเหรอเนี่ย

[/color]

เรื่องเปลี่ยนนำ้บ่อยๆนั้น เป็นการทำใ้ปลาที่เราเลี้ยงโตไวขึ้นครับ อาจจะเปลี่ยนนำ้ทุกๆ 2-3 วัน ถ่ายนำ้ทีละ 3 ใน 5 ส่วนของตู้ถ้าทำได้
แต่นำ้ที่เติมเข้าไปแทนที่ควรผ่านเครื่องกรองคลอรีนก่อนนะครับ และ ควรที่จะใส่เกลือด้วยอีกทุกครั้งที่มีการถ่ายนำ้ 1-2 กำมือ ครับ

โอ๊ย..ไม่มีแรงจะเถียงว่ะก้อน ตอนนี้ท้อแท้ซื้อตู้มาใหม่เลี้ยงปลาไปสองพันธ์แล้วตัวแรกสามวัน ปอมปาดัว 1 ชั่วโมง

ถ้าจะเลี้ยงครั้งต่อไปนี่ ควรจะถ่ายน้ำเก่าที่อยู่ในตอนนี้ออกให้หมดเลยใช่มั้ยคะพี่และต้องตากแดดหรือเปล่าคะ

 ;D ;D ;D  ชนะ  ;D ;D ;D

ไปล่ะ  แว๊ปปปป

สู้ๆครับ ตอนนี้ยังไม่มีปลาใหม่

ใจเย็นๆ เตรียมตู้เตรียมน้ำให้ดีก่อนครับ ผมว่าปัญหามาจากตู้ใหม่ครับ

ต้องเปลี่ยนน้ำหลายๆครั้งล้างสารฯตกค้างต่างๆให้หมดครับ

 

ค่ะพี่โป้งเอ๋จะเลี้ยงต่อจะทำตามคำแนะนำของพี่ๆที่บอกมา มันจะเกี่ยวกับที่เอ๋เอามาใส่ตู้ช้าไปด้วยเปล่าไม่รู้คือเมื่อวานพอได้มาตอน 5 โมง

เอ๋ก็ไปทำงานตามปกติไว้ในรถในถุงใส่อ๊อกมาด้วยประมาณเที่ยงคืนถึงบ้านก็เทใส่ตู้เลย ถ้ามีส่วนซื้อครั้งต่อไปจะได้รีบเอามาใส่เลย

  แนะนำว่าให้เลี้ยงปลาเล้กที่สวยงามจากแถวๆ อเมซอน พวกนีออน ม้าลาย อะไรพวกนี้ครับ  เลี้ยงเป็นฝูงสักชนิดละ20ตัว สามชนิดพอ  เลือกเอาที่นิสัยการอาศัยต่างกันหน่อย  แล้วจัดพวกพรรณไม้น้ำ  ให้แจ่มๆ   สวยเด้งมากมาย ขอบอกกกกก   ::008::

ปลาทองก็สวยนะครับ  ;D ;D ;D ;D ;D ;D ;D

[/color]


ถ่ายนำ้ออกให้หมดเลยครับ ถ้ามีก้อนหินห้อนกรวดก็ควรจะนำมาตากแดดไว้สัก 2-3 วันก่อนใส่กลับครับ
หรือมีอีกวิธีให้หาด่างทับทิมมาใส่ในปริมาณที่เข้มข้นแล้วแช่หินและกรวดไว้สัก 1-2 วันก่อนล้างตู้ทั้งใบให้สะอาส
ระหว่างล้างตู้ให้กวนหินและกรวดไปมาหลายๆรอบจนนำ้ในตู้ไม่มีสีของด่างทับทมเหลืออยู่ครับ ข้อควรระวัง เวลา
กวนหินหรือกรวดในตู้ ถ้าทำหรือกวนแรงไปตู้ปลาที่เป็นกระจกจะเกิดลอยขีดข่วนขึ้นครับ

ต้อง ปอมปาดัว เท่านั้นค่ะพี่ตอนนี้เอ๋ต้องทำให้ได้เพราะ พ่อ กับ น้อง ปรามาศเอ๋อยู่เยอะมากว่าเลี้ยงไรก็ตายตอนนี้ถ่ายน้ำทิ้งแล้วเตรียมไว้อีก
สักอาทิตย์เอ๋จะไปเอามาเลี้ยงใหม่ทำตามคำแนะนำพี่ๆเค้า


ช่าย.หุ่นเหมื่อนสิงห์เลย  ;D

ยุ่งกว่าเดิมจ้า....
ต้องรักษาระดับความเค็มของน้ำด้วย

แต่ทำไม ไม่ชอบปลาหางนกยูงล่ะ
เวลาออกลูกมาเยอะๆ ช้อนเอามาคลุกเครื่องห่อใบตองหมกไฟอ่อนๆ

หย่อยมากๆ  ขอบอก... :D~ :D~ :D~

 :OO :OO :OO

หินนี่ต้องใช้ด่างทับทิมด้วยใช่มั้ยคะ เพราะตอนแรกซื้อมาแค่ใส่น้ำล้างๆๆอย่างเดียวเองแล้วน้ำต้องใส่ฆ่าเชื้อตัวยาสีฟ้าๆอีกหรือเปล่าคะ
เพื่อความชัวร์

อ้างตัวเองนี่เเหละเอา  รูปการจัดตู้ปลาครับ  ปลาก้างพระร่วงก็สวยนะ

อ้อ...แล้วมีเดิมพันติดปลายนวมกะน้องกะพ่อไว้หรือเปล่าล่ะ

ท่าทางตั้งใจเกินเหตุ  ;D ;D ;D

พี่ซับเคยไปตรงร้านพระราม 4 เปล่าชื้อ ดุสิต มั้งเมื่อวานเข้าไปซื้อไรแดงเค้าว่าเดี๋ยวนี้ไม่ต้องแล้วซื้อน้ำไปใส่เลี้ยงได้เลย ลิตรละ 1.50
เห็นเค้าว่าตอนนี้เพาะได้ปลาทนกว่าเดิมเลี้ยงง่ายขึ้นเยอะ เค้าว่านะไม่ใช่เอ๋เลี้ยงปลาหมอยังตายเดี๋ยวจะหาว่ามาคุย

การจัดตู้สวยๆอีกรูป  :VOV:

สวยดีค่ะพี่แต่ตอนล้างยุ่งยากแน่เลย



ได้เลยเดี๋ยวจะเดิมพันปืนคนละกระบอกเลย ถ้าชนะต้องซื้อให้เอ๋สิ้นปี เอ่แพ้เดี๋ยวยก tph ให้

เดี๋ยวนี้ เทคโนโลยีไปไกลเลย

หรืออีกวิธี วานพี่วัฒน์ หาภาพScreen หน้าจอที่เป็นตู้ปลาอควาเรี่ยมสวยๆมาทำwallpaperหน้าจอแทน

น่าจะเอาปลาถูกๆมาทดสอบน้ำดูก่อนนะครับ เช่น ปลาเทวดา

ถ้าไม่เป็นไรแล้วค่อยซื้อปลาที่อยากเลี้ยงมาเลี้ยงครับ

[/color]

ส่วนใหญ่ไม่ค่อยนิยมใช้พวกสารเคมีในตู้ปลาครับ โดยเฉพาะถ้าเป็นตู้ใหม่ไม่เคยเลี้ยงปลามาก่อน แข้ล้างด้วยนำ้เกลืออย่างเดียวครับ
ใช้ด่างทับทิมในการแช่หินและกรวดน่าจะพอแล้วครับแต่แช่ในปริมาณที่เข็มข้นหน่อยนะครับ แต่ถ้าเป็นหินและกรวดใหม่ก็ไม่
จำเป็นต้องแช่ แข้ล้างให้สะอาสก็ใช้ได้แล้วครับ ล้างมากๆหน่อยเวลาใส่เข้าไปในตู้แล้วเติมนำ้ตามเข้าไปนำ้จะได้ไม่ขุ่นมากครับ

จิ๊บๆ..ครับ...เคยหมดกับปลาทะเลเป็นแสนแล้วกับตู้เดียว............

เลี้ยงปลาไม่ยากอยา่งที่คิด......ไม่ต้องทำอะไรมากให้วุ่นวาย
1. หินที่ซื้อมา......เป็นหินแม่น้ำหรือหินทะเล
    หินแม่น้ำ......เทใส่กะละมังทิ้งไว้ สองถึงสามวัน
    หินทะเล.......ใส่กะละมังทิ้งไว้อย่างน้อยสองอาทิตย์ เพื่อล้างความเค็มจากทะเล
2. นำหินเหล่านั้นจัดเรียงในตู้..ตามความชอบของเรา
3. ปล่อยน้ำเข้าตู้ให้เต็ม
4. นำเกลือแกง...ที่ขายกันถุงละบาทใส่ตู้หลายๆถุง
5. .ใส่ยาจำพวก ฆ่าเชื้อ หรือน้ำใส ลงไป
6. หนึ่งอาทิตย์ผ่านไป.......นำปลาลงตู้.........แต่ก่อนที่จะนำปลาลงตู้..เอาปลาใส่ถุงวางในตู้อย่างน้อยครึ่งชั่วโมง เพื่อให้ปลาปรับตัวเข้ากับอุณหภูมิของน้ำในตู้

ยาที่ควรเตรียมไว้ในบ้าน มีจำพวกยาเหลืองที่ขายเป็นซอง อ่านไม่ออกเพราะเป็นรูปปลาคราพกับภาษาญี่ปุ่น แต่ให้ซื้อเป็นขวดราคาจะถูกกว่า เอาไว้รักษาปลาเมื่อมันเป็นโรค เช่นเกล็ดพอง วิธีการรักษาต้องเอาปลาตัวนั้นออกจากตู้แยกเลี้ยงโปะยาตัวนี้ไป..ไม่เกินอาทิตย์..ปลาจะหาย
ยาจำพวกฆ่าเห็บหนอนสมอ
ยาน้ำใส..ซื้อขวดใหญ่ถูกกว่าซื้อขวดเล็ก ยาตัวนี้เอาไว้ปรับสภาพน้ำและทำให้เกิดการตกตะกอนต่างๆที่อยู่ในน้ำ ทำให้น้ำใสสะอาดตลอดเวลา

อุปกรณ์์เสริม...
ถ้าเลี้ยงปลาที่ไวต่อการเปลี่ยนแปลงของอุณหภูมิน้ำ ต้องมีตัวชิลเล่อร์..แนะนำให้ซื้อของใหม่..ราคาแพงกว่าแอร์บ้าน
ถ้าเลี้ยงปลาที่มันชอบขับเมือกทำให้น้ำสกปรก ควรจะมีเครื่องสกีมเมอร์ มีหลายราคาและขึ้นกับขนาดตู้ปลาที่ใช้อยู่
ใยแก้ว..หาซื้อได้ทั่วๆไป..หลีกเลี่ยงการซื้อในจตุจักรเพราะแพงกว่ามาก ร้านขายส่งจำพวกเบาะรถยนต์จะมีขาย เมตรหนึ่งใช้ได้เกือบปี คือเอามาตัดให้ขนาดพอดีกับเครื่องกรอง เปลี่ยนทุกๆเดือน อย่าไปเสียดายมัน ไอ้นี้แหละตัวสะสมเชื้อโรคยิ่งกว่าดอกเบี้ยเงินกู้อีก

ปลาที่จะเลี้ยง ควรสอบถามกับร้านขายว่าปลาชนิดไหนอยู่ด้วยกันได้ด้วยนะครับ สำคัญมาก บังเอิญไปซื้อปลาหมอสีมาเลี้ยงกับปลาทอง ได้ดูสงครามกันทั้งวัน

ขอให้สนุกกับการเลี้ยงปลาครับ

ขอบคุณครับพี่กบ ขอนำไปใช้บ้างครับ

"...ไอ้นี้แหละตัวสะสมเชื้อโรคยิ่งกว่าดอกเบี้ยเงินกู้อีก..."

ฮ่า ฮ่า ฮ่า ขอบวก 1 ครับพี่

(http://www.aro4u.com/forums/uploads/post-2-1171668113.jpg) ;D

ขอบคุณครับ........ขอทันสมัยหน่อย............

แนะนำให้คุณเอ๋ถ่ายน้ำออกให้หมด...

นำตู้ปลาและของตบแต่งไปตากแดดทิ้งไว้หนึ่งถึงสองวัน...

ยกกลับเข้าบ้าน...

จัดเรียงตู้ปลาให้สวยสมใจ...

ปล่อยปลาลงไป...

ปิดฝาตู้ให้แน่น...

เท่านี้เองครับ...

ก็ไม่ตายแล้ว...





























ปล. ผมหมายถึงปาทังก้าน่ะครับ...::005::

(http://agriqua.doae.go.th/plantclinic/clinic/other/patanga/image/patanga1.jpg)

อึดดี เหมาะกับคุณเอ๋...

ทอดกินได้ด้วย...:D~

เอ๋เลี้ยงปลาช่อนดิ รับรองทนสุดๆ  ::005:: พอตัวโตๆก็ทุบหัวซะะะะะะะ  :D~

  ปลาบู่ดีกว่า  โตมา นึ่งซีอิ้ว... :~) :~) :~)

ผมกำลังจะแซวพี่หมออยู่พอดีว่ายังไม่ได้ใส่น้ำเลย

......สุดท้ายก็ปาทังก้า555555

 เลี้ยงปลาอยู่ที่คุณภาพน้ำครับ อ่านแล้วอยากกลับมาเลี้ยงเหมือนกัน  ของผมก็ตายไปปีกว่าแล้วครับ
 

  ปลาดุกอร่อยกว่า

หอมมัน

เลี้ยงปลาปอมปาดัวต้องคุมอุณหภูมิน้ำให้ได้อย่าให้ต่ำ-สูงกว่า ๒๗-๒๙ องศาและอาหารต้องให้หนอนแดง/ลูกน้ำแบบที่เป็นตัวแก่ใกล้จะเป็นยุงและที่สำคัญน้ำต้องนิ่ง ห้ามทำให้ปลาตกใจ
เลี้ยงปลาเล็กๆตระกูลเตดตร้า ทน สวย เลี้ยงง่ายและเลี้ยงไม้น้ำไปพร้อมกัน
ล้างอุปกรณ์ที่จะใส่ในตู้ให้สะอาด ไม่ต้องใส่ยาฆ่าใดๆ ล้างจนน้ำทิ้งใส
น้ำใช้น้ำประปาดีที่สุด  ใส่ในตู้แล้วใส่เกล็ดฆ่าคลอรีนสัก ๘-๑๐เกล็ด ทิ้งไว้ ๑๐นาที ปล่อยปลาได้เลย
เกล็ดฆ่าคลอรีนขอซื้อที่ร้านถ่ายรูป ๑๐บาทใช้ได้จนเบื่อ
ปลาหมอตัวแรกเข้าใจว่าติดเชื้อมาจากร้านขายอยู่แล้ว  เมื่อไม่เปลี่ยนน้ำ ปอมปาดัวชุดที่๒โดนเชื้อจากปลาหมอย่อมทนไม่ได้ และอาจช็อคน้ำก็เป็นได้

คนเลี้ยงปลาต้องทำใจหน่อยครับ ตู้ปลาครือโลงแก้วดี ๆ นี่เอง เลี้ยงดีแค่ไหน สักวันมันก็ต้องตาย

ปลา/ไม้น้ำ

ปลาคาดินันด์-ไม้น้ำ

ขอบคุณพี่ๆมากค่ะ วันนี้นั่งล้างตู้ถ่ายน้ำเก่าออกหมดและตากแดดอย่างพี่ๆว่าแล้วค่ะโทรไปถามร้านมาได้ความว่าปลาเค้าไม่เคยโดนยาที่ฆ่าเชื้อเลย อาจเป็นไปได้ที่เอ๋ใส่ยาฆ่าเชื้อไว้ทำให้มันน็อคและไม่ได้แช่น้ำไว้เปิดถุงได้เทใส่ตู้เลย เอาใหม่ต้องศึกษาใหม่เอาจริงจังเลยทำตามที่พี่ๆแนะนำทุกแบบ

นัดไว้แล้วค่ะว่าจะไปเอามาอีก 12 ตัว อีกประมาณสักสี่วัน อ๋อ ตอนนี้มีผลแจ้งค่ะ ณ.ตอนนี้ปลาเอ๋รอดอยู่ 1 ตัวจาก 8 ตัวเป็นตัวที่เอ๋แยกไว้อีกตู้ตัวแรกเลยคือพอลงไปปั๊ปเจ้าตัวนี้ทำท่าแย่กว่าเพื่อนเลยช้อนออกมาไว้อีกตู้แต่กลับท่าจะรอดค่ะ   

พี่ๆท่านไหนมีคำแนะนำอีกโปรดชี้แนะด้วยค่ะตั้งใจแล้วว่าต้องเลี้ยง ปอมปาดัว ให้ได้   ::014::

เริ่มต้นเหมื่อนคนเลี้ยงมืออาชีพเลย อจ กวนอ่ะ    ::009::

                          (http://www.pixnice.com/upload/files/to3xjwmnj5wemuomdnyg.gif) (http://www.pixnice.com/upload/)

ตกลงตอนนี้เหลือกี่ตัวคะเอ๋  :D

1 ตัวค่ะพี่หน่อย อีกสามสี่วันเตรียมน้ำกับตู้พร้อมจะเอามาอีก 11 ตัวค่ะให้เป็นคู่คราวนี้ต้องให้รอดให้ได้  :D

แนะนำให้เลี้ยงปลาหางนกยูงดีไหมเอ๋ ที่บ้านพี่ปล่อยไว้หน้าบ้านพ่อพี่เอาน้ำจากก็อกใส่ลงไปยังไม่เป็นอะไร ตอนนี้มีลูกปลาเยอะแยะเลย

http://www.pantown.com/board.php?id=2888&area=4&name=board6&topic=21&action=view

   ** มาทำความรู้จัก กับ "สับเตรท" กันเน๊อะ !!!

http://www.pantown.com/board.php?id=2888&area=4&name=board6&topic=36&action=view
 
   ** โรคจากเชื้อไวรัสที่พบบ่อยในปลาสวยงาม

ผมไปเอาลิงค์มาให้ครับ เพื่อพี่สนใจ

 

มือใหม่หัดเลี้ยงก็แบบนี้แหละครับ .............คำแนะนำของหลายๆท่านดีแหละที่ควรทำตาม

ใจเย็นๆครับ เลี้ยงปลาครั้งแรกเล่นของแพงเลี้ยงยากต่างหาก ก็แบบนี้แหละครับ.............

ผมเลี้ยงๆเลิกๆมาหลายรอบแล้ว ทั้งอโรวาน่า เสือตอ หมอสี ปลาทอง หรือปลาเล็กๆแบบเป็นฝูง ไม้น้ำก็เคยเลี้ยง หมดไปหลายอยู่.............มาตอนนี้ตู้ 60 นิ้วยังอยู่ที่บ้านเลย ใส่น้ำไว้เฉยๆ ลูกชายก็เลี้ยงเล่นอยู่ 2 ตู้เล็กๆจนาด 20 นิ้ว เป็นหางนกยูงฟอร์มดีๆตู้หนึ่ง กับพวกกระดี่ไฟ อีกตู้หนึ่ง ................

อย่าใจร้อนเรื่องเอาปลาลงตู้ครับ ............. ตายภายใน 1 วันมาเยอะแล้ว ใจเย็นๆ เตรียมตู้ให้พร้อม แล้วค่อยลงปลา

ท่านซับไปแนะนำให้เลี้ยงเสือตอ ..........รู้หรือเปล่าว่าตัวเท่าไหร่ โดยเฉพาะลายใหญ่

[quote author=VENDY link=topic=69943.msg1896966#msg1896966 date=1238617020

1 ตัวค่ะพี่หน่อย อีกสามสี่วันเตรียมน้ำกับตู้พร้อมจะเอามาอีก 11 ตัวค่ะให้เป็นคู่คราวนี้ต้องให้รอดให้ได้  :D
[/quote]

ปลาที่เหลืออยู่หนึ่งตัว ยังไม่ควรที่จะนำกลับไปใส่ในตู้ใบหลักนะครับ ให้เลี้ยงแยกไว้อย่างนี้ก่อนสัก 1 เดือน
ก่อนนำกลับไปเลี้ยงรวมกับปลาที่ซื้อมาใหม่ครับ เพื่อให้แน่ใจว่าปลาที่มาจากคงละแหล่งหรือมาจากคนละช่วงเวลา
สามารถเข้ากับสภาพแวดล้อมได้ครับ

สงสัยผมจะมีกรรมแต่ปางก่อนกับบรรดา สัตว์เลี้ยง ต้นไม้ ต่างๆที่บ้านเสมอ
พอสมาชิกในบ้านคนไหนชอบอะไรเขาจะไปหามา...พอเบื่อก็ตกเป็นภาระให้ผมดูแลต่อ..ทั้งๆที่ไม่ได้อยากกับเขาเลย
  ไอ้ตัวเล็กชอบปลาหลากสีตัวเล็ก...เอ้าเขาได้มาเลี้ยงไปสักพักเบื่อ น้ำไม่เปลี่ยน อาหารไม่ให้ ผมต้องล้างตู้ให้ เปลี่ยนน้ำให้
จนมันตายหมดหมดเวรหมดกรรมไป
 ไม่นานเอาอีก..ซื้อหางนกยูงมาอีก...อีหรอบเดิมอีก
ตัวแม่ชอบกล้วยไม้ บัว หามาแขวนเต็มสวน...แต่เจ้าตัวไม่อยู่บ้านนะกลับทุกศุกร์ อ่างบัวปล่อยจนน้ำแห้ง ผมอีกคอยเติมน้ำ
รดน้ำ....หมาเจ้าตัวไม่ชอบนะ  แต่เอามา ผมเลี้ยงจนโตตัวที่4นะ ติดผมจนนึกว่าผมเป็นเจ้านายตัวจริงไปแล้วสามตัวแรกบุญไม่พอ มีตัวเดียวคือบางแก้วที่ผมหามาเองที่เป็นสัตว์เลี้ยงของผมเองจริงๆ
   นีไอ้ตัวเล็กสั่งมาอีกแล้ว หนูไปโรงเรียนพ่อต้องทำระบบรดน้ำกล้วยไม้อัตโนมัติให้หนู

หลักการเลี้ยงปลาสวยงาม
« เมื่อ: 15/09/2008, [11:48:09] »   

หลักการเลี้ยงปลาสวยงาม
การเลือกปลาที่จะเลี้ยง
      เมื่อได้เตรียมการขั้นตอนต่างๆ ไว้พร้อมแล้ว ก็ถึงตอนจัดหาปลาที่จะเลี้ยงมาลงตู้ปลา เรื่องนี้ไม่จำเป็นต้องรีบร้อนค่อยๆ เลือกไปและต้องใจเย็นเพราะผลที่จะเกิดเป็นความเพลิดเพลินเจริญตาเจริญใจยิ่งนัก สำหรับนักเลี้ยงปลาตู้ เพราะถ้าขาดความรอบคอบไม่ระมัดระวังก็อาจจะได้ปลาที่อ่อนแอขี้โรค หรือบางที่ปลาอาจจะต้องเดินทางไกลกว่าจะถึงมือผู้เลี้ยง อาจทำให้เกิดความเครียดอ่อนเพลียและอาจกลายเป็นปลาขี้โรคได้เหมือนกันฉะนั้นการจัดหาปลามาเลี้ยงมีสิ่งที่ควรคำนึงถึง คือ
      1. ขนาดของปลา เมื่อปลาโตเต็มที่ ปลาส่วนใหญ่ที่อยู่ในตู้ของผู้ขายเป็นปลาวัยรุ่นเมื่อนำมาเลี้ยงในตู้ปลาของเราเวลาปลาโตเต็มที่อาจมีขนาดยาวถึง 5 นิ้วฟุต หรือบางชนิดเมื่อโตเต็มที่อาจมีขนาดยาวเพียง 1-5 นิ้วฟุต ถ้านำปลามาเลี้ยงรวมกัน ปลาใหญ่ก็จะรักแกปลาเล็ก เพราะฉะนั้นเวลาซื้อปลาควรถามเจ้าของให้รู้แน่เสียก่อนว่าปลามีขนาดเท่าใดขณะโตเต็มที่และไม่ควรเลี้ยงปลาที่ขนาดต่างกันมาไว้ในตู้เดียวกัน ปลาที่อยู่ในตู้เดียวกันจะต้องเป็นปลาที่มีขนาดใกล้เคียงกันเมื่อโตเต็มที่
      2. ประเภทของปลา ควรระวังในการซื้อปลา เพราะหากผู้เลี้ยงไม่มีความรู้เกี่ยวกับประเภทของปลา อาจซื้อปลาที่ออกหากินเวลากลางคืน ในเวลากลางวันมันจะหมกซ่อนตัวอยู่ตามต้นพืชและลังก้อนหินตลอดเวลา แทนที่จะได้ชมเล่นในเวลากลางวันกลับไม่ได้เห็นปลาเลย
ประเภทของปลาตู้
ปลาที่เลี้ยงกันตามตู้เลี้ยงปลาทั่วไป แบ่งออกเป็น 3 ประเภทใหญ่ๆ ดังนี้
           1. ปลาที่ชอบรวมกลุ่มกันอยู่ ได้แก่ ปลาหางนกยูง ปลาเทวดา ปลาหางดาบ ปลาม้าลาย เป็นต้น เมื่อซื้อปลาประเภทนี้ จึงไม่ควรซื้อ 1-2 ตัว แต่ควรซื้อมาเลี้ยงอย่างน้อย 5-6 ตัว
          2. ปลาที่ชอบอยู่ตามโขดหิน ได้แก่ ปลาจำพวกซิลลิค ส่วนมากจะเป็นปลาพื้นเมืองแอฟริกา ชอบอยู่ตามโขดหินในน้ำที่มีน้ำกระด้าง จึงไม่เหมาะที่จะนำมาเลี้ยงในตู้ปลาเท่าใดนัก
          3. ปลาที่ต้องแยกพวกเลี้ยง ปลาพวกนี้ต้องการตู้เลี้ยงพิเศษ เพราะส่วนมากไม่ชอบรวมกลุ่ม ได้แก่ ปลาปอมปาดัวร์ลายน้ำเงิน ปลาออสการ์ ปลาหางพิณ และปลาลายตลก เป็นต้น บางชนิดก็เป็นปลาที่ชอบเก็บตัวในเวลากลางวัน ถ้าจะเลี้ยงปลาประเภทนี้ต้องแยกพวกเลี้ยงในตู้ปลาต่างหาก อย่าเลี้ยงรวมกับปลาที่ชอบอยู่รวมกันเป็นกลุ่ม
วิธีสังเกตปลาที่สมบูรณ์ดี
     ปลาน้ำจืดส่วนใหญ่ถ้าสมบูรณ์ดีไม่มีโรค จะมีครีบหลังตั้งเสมอขณะว่ายน้ำ ถ้าปลาตัวใดว่างน้ำโดยมีครีบหลังตกแสดงว่าปลากำลังเป็นโรค และปลาที่สมบูรณ์ดีควรจะมีตัวอิ่มเต็ม ครีบหลังไม่แตก สีควรเข้ม ถ้าเป็นปลาที่มีลายสีหรือแต้มลายสี แต้มควรจะเด่น ไม่มีลายและแต้มที่พร่ามัว เวลาว่ายน้ำควรจะคล่องแคล่วปราดเปรียว นอกจากนี้ ควรจะสามารถลอยน้ำในน้ำลึกได้ทุกระดับโดยปราศจากอาการทะลึ่งขึ้นสู่พื้นน้ำ หรือจมดิ่งลงสู่กันอ่างในลักษณะที่ไม่ขยับตัว
      ปลาที่มีลักษณะบกพร่อง รวมทั้งปลาที่มีครีบหางขาด และมีจุดที่แสดงว่าเป็นแผล ไม่ใช้ปลาที่สมบูรณ์ดี
การเคลื่อนย้ายตัวปลาและปล่อยปลาลงตู้
      ตามปกติการเคลื่อนย้ายปลาจากที่ซื้อไปถึงบ้าน จะนิยมใส่ถุงพลาสติกและจะต้องทำโป่งบรรจุอากาศเหนือพื้นน้ำพอสมควร ถ้าซื้อปลาในฤดูหนาวกว่าที่ปลาจะถึงบ้านน้ำในถุงอาจจะเย็นลง ดังนั้นจึงควรนำกระดาษหนังสือพิมพ์หุ้มถุงไว้อีก เพื่อป้องกันมิให้อากาศเย็นภายนอกกระทบถุงพลาสติกและทำให้น้ำเย็นลงโดยเร็วได้ หรือถ้าจะให้ดีควรเอาถุงไว้ในกล่องกระดาษแข็งที่อากาศเข้าไม่ได้ ก็จะช่วยให้ปลาที่เราเคลื่อนย้ายไม่กระทบกระเทือนความเย็นได้
      เมื่อนำปลาที่ต้องการไปถึงบ้านแล้ว อย่ารีบปล่อยปลาลงตู้ทันที เพราะน้ำในถุงกับน้ำในตู้เลี้ยงปลาอาจมีอุณหภูมิต่างกัน ดังนั้น การปล่อยปลาลงตู้จะต้องแน่ใจว่าน้ำในถุงกับน้ำในตู้มีอุณหภูมิใกล้เคียงกัน โดยการเอาถุงปลาลอยแช่น้ำไว้ในตู้ปลาสักครู่ เมื่ออุณหภูมิของน้ำได้ระดับเดียวกันแล้วจึงปล่อยปลาออกจากถุงพลาสติกได้
      ขณะปล่อยปลาลงตู้ปลา ให้ค่อย ๆ ทำด้วยอาการสงบที่สุด เพื่อมิให้ปลาตื่นและถ้าตู้ปลามีหลอดไฟฟ้าก็ควรจะปิดไฟเสียก่อน เหลือไว้เฉพาะแสงสว่างของธรรมชาติเท่านั้น เพื่อปลาจะได้คุ้นกับสภาวะแวดล้อมใหม่ได้ง่ายถ้าตู้ปลาสว่างมากเกินไปปลาอาจจะตกใจ และเมื่อปลาคุ้นกับสภาพแวดล้อมดีแล้วจึงค่อยเปิดไฟ
      การนำปลามาปล่อยในตู้ปลาขณะที่มีปลาอื่นอยู่แล้ว เราควรให้อาหารเพื่อล่อปลาที่อยู่ก่อนไม่ให้ไปสนใจกับปลาใหม่มากนัก ไม่เช่นนั้นปลาใหม่อาจจะตื่นและว่ายหนีไปหาที่ซุกซ่อนตัว ซึ่งเราจะต้องจัดที่กำบังหลบซ่อนไว้ให้ด้วย จนเมื่อปลาใหม่คุ้นกับสภาพแวดล้อมในตู้ปลาดีพอก็จะเริ่มออกมาหาอาหารเองได้
รูปลักษณะอวัยวะปลา
      ในการเลือกหาปลาเพื่อเลี้ยงนั้นควรจะมีความรู้ในรูปลักษณะของปลาพอสมควรซึ่งจะเป็นการช่วยให้การเลือกปลาได้ดียิ่งขึ้นปลาแต่ละชนิดไม่ได้มีรูปลักษณะเพรียวยาวเหมือนกันทุกตัว บางชนิดก็มีลำตัวป้อม สั้น บางชนิดตัวแบน บางชนิดตัวกลม ทั้งนี้ สุดแต่นิสัยความเป็นอยู่และการเลี้ยงชีพของปลาแต่ละชนิด ปลาที่มีลำตัวเพรียวยาว แสดงว่าปลาชนิดนั้นว่ายน้ำเร็ว ปลาพวกนี้จะมีครีบใหญ่ มีปากและฟันซี่โต เป็นปลาที่ชอบหากินในที่โล่ง ส่วนปลาเทวดามีลำตัวแบนรู้สี่เหลี่ยมว่ายน้ำได้อย่างเชื่องช้า ชอบอาศัยอยู่ตามกอหญ้าใต้น้ำ ลักษณะของปลามักจะบอกถึงระดับของน้ำที่ปลาอยู่โดยทั่ว ๆ ไป เช่น
      ปลาที่มีปากแบน แสดงว่าปลาชนิดนั้นอาศัยอยู่ใต้พื้นน้ำเพียงเล็กน้อยเพราะต้องลอยตัวคอยกินแมลงตามผิวน้ำ ปลาจำพวกนี้ตามปกติมีครีบหลังตรงพื้นครีบไม่โก่งงอ
      ปลาที่มีปากยื่นตรง ตามทางนอนในแนวเดียวกันกับกึ่งกลางตัวจะเป็นปลาที่อาศัยอยู่ในระดับน้ำกลาง ๆ เพราะปลาพวกนี้จะงับกินแต่อาหาร ที่ตกถึงพื้นเป็นส่วนใหญ่ แม้ว่ามันอาจจะขึ้นกินอาหาร หรือดำลงกินที่ก้นน้ำได้ก็ดี
      ปลาที่มีปากห้อย เป็นปลาที่ชอบอยู่กับก้นน้ำ เพาะกินอาหารตามพื้นผิวดินใต้น้ำเป็นหลัก ปลาจำพวกนี้ชอบกินตะไคร่น้ำตามพื้นดินและที่อยู่ในตู้ปลามันอาจไม่ลงถึงก้นตู้แต่ชอบแอบตามข้างตู้เพื่อกินตะไคร่น้ำที่ติดตามข้างตู้กินเป็นอาหาร ปลาประเภทนี้มักมีหนวดด้วย เพราะหนวดจะไประโยชน์ในการเสาะหาอาหาร
เกล็ดปลา
      เกล็ดปลามีทั้งชนิดแข็งและอ่อนซึ่งนอกจากจะทำหน้าที่ป้องกันอันตรายแก่ตัวปลาแล้ว ยังทำหน้าทั่วเป็นเครื่องรับแรงดันของอากาศด้วย เพราะฉะนั้นถ้าปลามีรอยถลอก หรือเป็นแผลก็แสดงว่าแรงดันของอากาศภายในผิดปกติปลาจึงเป็นโรค
ครีบ
      ปลาใช้ครีบเพื่อการทรงตัว และเคลื่อนไหวในบางกรณีก็จะใช้เป็นเครื่องช่วยในการออกไข่ด้วย ซึ่งอาจเป็นตอนผสมพันธุ์ หรือตอนฟักไข่เป็นตัว
สีสันของปลา
      สีสันของปลานอกจากสร้างความสวยงามแล้ว ยังบอกลักษณะเฉพาะของชนิดโดยทั่วไป บอกเพศโดยเฉพาะ และเป็นสีที่อาจลวงตาศัตรูให้พร่าพราว ช่วยให้มันหนีได้โดยสะดวก หรืออาจทำให้ศัตรูเกิดสำคัญผิดในเป้าหมายที่จะโจมตีก็ได้ หรือสำคัญว่าเป็นสิ่งมีพิษก็ได้ นอกจากนี้ สีอาจบอกอารมณ์ของปลาในเวลาตกใจ หรือเวลาโกรธอีกด้วย
      สีบอกเพศ ความเข้มของสีปลามักจะมีมากขึ้นในปลาตัวผู้ในระยะผสมพันธุ์ ทั้งนี้เพื่อให้สะดุดตาตัวเมียและล่อตัวเมียให้เข้าหา หรือเป็นสัญญาณให้ตัวเมียยอมคลอเคลียด้วย
      เราอาจรู้เพศของปลาที่ออกลูกเป็นตัวได้ โดยดูที่ครีบทวาร ซึ่งครีบตัวผู้จะมีรูปย้วยกว่าครีบตัวเมีย ส่วนปลาที่ออกลูกเป็นไข่ ตัวผู้จะมีตัวเรียวกว่า
อาหารปลา
      เรารู้กันมาว่า ลูกน้ำ ไรน้ำ และแมลงบางชนิดเป็นอาหารของปลาทั่วไปแต่ปลาต่างชนิด ต่างก็ชอบอาหารผิดกันไป บางชนิดชอบกินลูกน้ำ บางชนิดชอบกินพืชพวกตะไคร่น้ำ เราจะรู้ได้อย่างไรว่าปลาชนิดไหนชอบกิจอาหารจำพวกไหน ปัจจุบันนี้ปัญหาการให้อาหารปลาไม่มีแล้ว เพราะได้มีการทำอาหารปลาขายกันในท้องตลาดอย่างกว้างขวางในรูปลักษณะต่าง ๆ กันไม่ว่าจะเป็นอาหารสำหรับปลาที่ชอบกินสัตว์หรือกินพืช ซึ่งอาหารสำเร็จรูปที่ทำกันขึ้นมาจำหน่ายนั้น จะเป็นรูปลักษณะที่เป็นเกล็ดบ้าง เป็นเม็ดบ้าง เป็นน้ำบ้าง เป็นผงบ้า ตลอดจนเป็นก้อนก็มี อาหารเหล่านี้ทำขึ้น เพื่อให้เหมาะสำหรับใช้เลี้ยงปลาทุกขนาดตั้งแต่ตัวอ่อน ซึ่งจำเป็นต้องกิจอาหารขนาดใหญ่ ๆ ได้อย่างสบาย แม้ว่าอาหารที่ผลิตออกจำหน่าย จะเป็นชนิดดีมีคุณค่า ควรแก่การเลี้ยงปลาก็ดี แต่การเลี้ยงปลาชนิดเดียว จำเจ ก็อาจทำให้ปลาเบื่ออาหารชนิดนั้น อันตรายที่สำคัญก็คือการให้อาหารเกินขนาด ทั้งนี้มิได้หมายความว่าจะทำให้ปลาอ้วนเหมือนคนที่กินจุ แต่ปัญหาอยู่ที่ว่า การให้อาหารจำเจก็ดี การให้อาหารเกินขนาดก็ดี จะทำให้อาหารเหลือตกค้างแล้วทำให้น้ำเน่าเสีย
      หลักสำคัญก็คือ การให้อาหารแต่พอกินโดยให้ทีละน้อย เพื่อให้ปลากินอาหารให้หมดทันทีอย่าให้เหลือ และควรให้อาหารปลาในตอนเช้า - กลางวัน - เย็น และกลางคืนตามลักษณะนิสัยของปลาแต่ละชนิด
อาหารปลาตู้
การให้อาหารปลาที่เลี้ยงในตู้กระจกเป็นสิ่งจำเป็นมากสำหรับผู้เลี้ยงปลาตู้ที่จะต้องให้ความสำคัญและสนใจ ซึ่งเราจะแบ่งออกได้เป็น 3 กลุ่มใหญ่ๆ คือ
       1. กลุ่มอาหารเป็น ได้แก่ สัตว์เล็กๆ ที่มีชีวิต และใช้เป็นอาหารได้ เช่น
          ไรแดง เป็นสัตว์น้ำขนาดเล็กมีสีแดงพบมากในน้ำครำหรือคูน้ำโดยใช้สวิงตาถี่ ช้อนตามผิวน้ำในตอนเช้า และมีจำหน่ายตามร้านขายปลาตู้เป็นอาหารที่เหมาะกับปลาสวยงามขนาดเล็ก
          ลูกน้ำ เป็นตัวอ่อนของยุง พบได้ทั่วไปตามแหล่งน้ำขังต่างๆ จับได้โดยใช้สวิงตาถี่ช้อนตักตามผิวน้ำ ซึ่งลูกน้ำลอยตัวอยู่
          หนอนแดง เป็นตัวอ่อนของริ้นน้ำจืด มีสีแดง พบได้ทั่วไปตามพื้นที่ที่มีน้ำขังเป็นเวลานาน การจับต้องตักดินใส่ตะแกรงตาถี่และร่อนในน้ำสะอาดจนเศษดิน ผง หรือขยะหลุดออก ก็จะเห็นหนอนแดงค้างอยู่ ร้านขายปลาตู้มักจะนำมาขายโดยใส่ไว้ภาชนะที่มีน้ำใส
          กุ้งฝอย เป็นกุ้งน้ำจืดที่มีขนาดเล็ก พบอยู่ตามบ่อ สระน้ำ หรือตามท้องนา มีจำหน่ายตามท้องตลาดสด เป็นอาหารที่เหมาะกับปลาตู้ขนาดใหญ่ที่เป็นปลาประเภทกินเนื้อสัตว์
          ไส้เดือนดิน เป็นอาหารที่เหมาะกับปลาตู้ชนิดหนึ่ง ถ้าเป็นไส้เดือนขนาดใหญ่ ก่อนให้ปลาควรสับให้เป็นชิ้นที่มีขนาดพอเหมาะก่อนจึงใช้เป็นอาหารปลา
           ตัวอ่อนหรือดักแด้ ของแมลงอีกหลายชนิด ก็สามารถนำมาใช้เป็นอาหารปลาตู้ได้
      2. กลุ่มอาหารแห้ง เป็นอาหารสำเร็จรูปที่ผลิตขึ้นมาด้วยกรรมวิธีต่างๆ โดยใช้วัสดุต่างๆ จากผลิตผลทางการเกษตรหลายๆ ชนิดและทำให้เป็นอาหารที่มีคุณค่าตรงกับความต้องการของปลาที่มีรูปแบบต่างๆ กัน เช่น
           ชนิดเม็ดจม เป็นผลิตภัณฑ์ที่มีลักษณะค่อนข้างกลม มีเส้นผ่าศูนย์กลางของเม็ดแตกต่างกันไปตามชนิดและขนาดปลา แต่ว่าจะจมน้ำเหมาะสำหรับปลาตู้ที่หากินตามพื้นผิวดิน อาหารชนิดเม็ดจนได้มีการพัฒนา จนมีคุณสมบัติพิเศษ สามารถยึดติดหรือแตะไว้ข้างฝาตู้เป็นเวลานานและปลาจะมารุมกินหรือตอดกินอาหารประเภทนี้เป็นฝูงๆ
           ชนิดเม็ดลอย เป็นผลิตภัณฑ์เช่นเดียวกับเม็ดจมน้ำ แต่มีคุณสมบัติพิเศษที่สามารถลอยน้ำได้ และคงสภาพรูปเดิมอยู่ในน้ำได้เป็นเวลานาน ส่วนใหญ่เป็นอาหารสำหรับปลารุ่น หรือปลาใหญ่
           ชนิดผง เป็นผลิตภัณฑ์ที่มีลักษณะเป็นผงเล็กๆ มีขนาดไล่เลี่ยกับขนาดของนมผง ละลายน้ำได้ดี ส่วนใหญ่ทำจากสาหร่ายเกลียวทองหรือจากไข่เวลาใช้ก็โดยการนำเอาอาหารผงมาละลายน้ำและใส่ลงตู้ให้ลูกปลากิน เป็นอาหารที่ออกแบบมาเพื่อใช้กับลูกปลาวัยอ่อนโดยเฉพาะ ชนิดแผ่น เป็นผลิตภัณฑ์ที่ส่วนใหญ่ทำขึ้นจากไข่ หรือตัวของสัตว์ในตระกูลกุ้ง มีลักษณะเป็นแผ่นเล็กๆ ใช้มือบี้หรือขยี้อาหารชนิดนี้ให้เป็นชิ้นเล็กก่อนนำไปให้เป็นอาหารปลาตู้
        3. กลุ่มผักสด หมายถึง พรรณไม้น้ำหรือผักบางชนิดที่จะใช้เป็นอาหารให้ปลาตู้ได้ ซึ่งโดยปกติแล้ว ปลาตู้ซึ่งเป็นปลากินเนื้อและพืชชอบกินพวกผักและปลาบางชนิดก็ต้องการอาหารที่มีผักสดผสมอยู่เป็นประจำ พวกพืชสดที่นิยมใช้ ได้แก่ ถั่วงอก ถั่วหัวโต ผักกาดหอม กะหล่ำปลี ผักกาดขาด ผักบุ้ง แหนเป็ด
การให้อาหารปลาตู้
      ปลาตู้ก็เหมือนสัตว์อื่นๆ ที่ต้องการอาหารเพื่อการเจริญเติบโตและการเจริญพันธุ์ การให้อาหารที่ดีและถูกวิธีจะบรรลุถึงความต้องการของผู้เลี้ยงซึ่งก็คือปลามีสุขภาพดี แข็งแรง สีสดใส ทำให้ผู้เลี้ยงมีความสุข ก่อนอื่นเราจะต้องทำความเข้าใจก่อนว่าปลาที่เลี้ยงเป็นปลาชนิดอะไร ประเภทไหนเพราะเราสามารถแบ่งปลาออกเป็น 3 ประเภท คือ ปลากินเนื้อ ปลากินเนื้อและพืช และปลากินพืช ซึ่งทั้ง 3 ประเภทนี้จะมีความต้องการอาหารแตกต่างกันไป ดังนี้
         1. ปลากินเนื้อ เป็นปลาที่ชอบกินอาหารเป็น ถ้าเราเลี้ยงโดยอาหารอื่นๆ มักจะหงอยซึม มีสุขภาพไม่ดี และอาจตายในที่สุด อาหารที่ให้แต่ละครั้งจึงควรให้อาหารเป็นและมีจำนวนมากพอที่จะกินอิ่มในครั้งเดียว ให้อาหารเพียงครั้งเดียวใน 1 วัน และงดอาหาร 1 วัน เมื่อเลี้ยงไปได้ 3-4 วัน
        2. ปลากินเนื้อและพืช เป็นปลาที่ยอมรับอาหารสำเร็จรูปหรืออาหารแห้งได้ดี ให้อาหารวันละ 1-2 ครั้ง แต่ควรเสริมด้วยอาหารผักสดบ้างเป็นครั้งคราว ประมาณเดือนละ 2 ครั้ง จะทำให้ปลามีสุขภาพดี
        3. ปลากินพืช เป็นปลาที่เลี้ยงด้วยอาหารสำเร็จรูปได้ดี และอาหารนั้นควรมีส่วนผสมของผลิตภัณฑ์จากพืช การให้อาหารควรให้วันละ 1-2 ครั้ง โดยฝึกให้ปลากินอาหารซ้ำที่เดิมทุกครั้ง ซึ่งจะทำให้ปลาเคยชินโดยเฉพาะปลาที่กินอาหารช้าจะสามารถเรียนรู้ตำแหน่งอาหารที่กินได้ การให้อาหารแห้งหรืออาหารผักสดนั้น ผู้เลี้ยงจะต้องพึงระลึกได้เสมอว่าอาหารที่ให้เหล่านี้หากปลากินไม่หมดจะเหลือตกค้างอยู่ในตู้ และเน่าเสีย เป็นเหตุให้คุณสมบัติของน้ำในตู้ไม่ดี ส่งผลต่อสุขภาพของปลาเป็นอย่างยิ่ง จึงควรระมัดระวังอย่าให้อาหารมากเกินไป
โรคปลาตู้และวิธีการป้องกันรักษา
       โรคปลาตู้เกิดขึ้นได้ด้วยสาเหตุหลายประกาน เช่น เกิดจากเชื้อโรค พวกปรสิต บัคเตรีและเชื้อรา สภาพแวดล้อมในตู้ปลาที่ไม่เหมาะสม เช่น มีออกซิเจนในน้ำน้อยไป อุณหภูมิของน้ำเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว หรือให้อาหารมากจนหรือทำให้น้ำเน่าเสียหรือไม่ก็ไม่ยอมเปลี่ยนถ่ายน้ำ เมื่อปลาขับถ่ายของเสียออกมามาก ทำให้น้ำมีแอมโมเนียสูง สาเหตุต่างๆ เหล่านี้หากไม่รุนแรงนักจะไม่ทำให้ปลาตายโดยตรงแต่จะเป็นสาเหตุที่ทำให้ปลาเครียดทำให้ปลาอ่อนแอไม่สมบูรณ์เท่าที่ควร และยังมีภูมิต่างทานโรคลดน้อยลงทำให้เกิดโรคต่างๆ ได้ง่าย เท่าที่พบในปัจจุบัน คือ
        1. โรคจุดขาว เป็นโรคที่เกิดขึ้นเป็นประจำกับปลาตู้ และระบาดได้รวดเร็วมาก การป้องกันรักษา ใช้ฟอร์มาลีนเข้มข้น แช่ติดต่อกัน 3-5 วัน จึงเปลี่ยนน้ำในตู้ปลา
        2. โรคสนิม ถ้าส่องกล้องจุลทรรศน์จะเห็นเหมือนมีฟองสบู่อยู่มากกมายมักเกาะอยู่ตามบริเวณเหงือกและผิดหนัง ถ้ามีมากจะเหมือนกำมะหยี่สีเหลืองปนน้ำตาล กระจายเป็นหย่อมๆ เป็นอันตรายมากกับลูกปลาขนาดเล็ก ปัจจุบันพบมากในปลาตาแดงและปลาทรงเครื่อง
        การป้องกันรักษา ควรใช้เกลือแกงเข้มข้น 1 % แช่ปลาไว้นาน 24 ชั่วโมง และทำช้ำทุก 2 วัน จนกว่าโรคจะหาย
       3. โรคเห็บระฆัง มักจะพบตามบริเวณลำตัว ครีบ และเหงือก โดยจะทำให้เกิดเป็นแผล มีเมือกมาก ผิวหนังเกิดเป็นหวงขาวๆ เกล็ดหลุด ครีบขาดกร่อน เหงือกถูกทำลาย มีอันตรายต่อปลามาก ถ้าเป็นปลาขนาดเล็ก อาจทำให้ปลาตายได้ในระยะเวลาสั้น การป้องกันรักษา ใช้ฟอร์มาลีนเข้มข้น แช่นานตลอดไปจนกว่าปลาจะหาย
      4. โรคที่เกิดจากปลิงตัวใส มีขนาดเล็ก 2-3 มิลลิเมตร ส่วนหัวเป็นแฉก ส่วนท้ายจะเป็นอวัยวะยึดเกาะมีหนามเล็กรอบๆ เมื่อเกาะที่ตัวปลาบริเวณใด ผิวหนังของปลาบริเวณนั้นจะเกิดเป็นแผล ถ้าเกาะมากๆ เข้าก็อาจทำให้ปลาตายได้ โดยเฉพาะปลาขนาดเล็ก การป้องกันรักษา ใช้ฟอร์มาลีนเข้มข้น แช่ไปตลอดจนกว่าปลิงตัวใสจะตายหมด
       5. โรคที่เกิดจากหนอนสมอ หนอนสมอมีลักษณะเป็นรูปทรงกระบอกขนาด 1-4 มิลลิเมตร ส่วน หัวคล้ายสมอทำหน้าที่ยึดเกาะตัวปลา ทำให้บริเวณที่เกาะเกิดเป็นแผลที่อาการตกเลือด เนื่องจากหนอนสมอมีขนาดค่อนข้างใหญ่ จึงสามารถจับหนอนสมอออกได้ แต่ส่วนหัวจะขาดฝังอยู่ใต้ผิดหนังของปลา การป้องกันรักษา ใช้ Dipterex เข้มข้น แช่นาน 24 ชั่วโมง เว้น 5-6 วัน ให้แช่น้ำยาดังกล่าวซ้ำอีก 3-4 ครั้ง
      6. โรคที่เกิดจากเห็บปลา เห็บปลามีขนาดใหญ่สามารถมองเห็นได้ด้วยตาเปล่า ลำตัวแบนกลม ด้านหลังโค้งมนแบ่งเป็นปล้องเชื่อมติดต่อกัน ปากทำหน้าที่ดูดเกาะ มักพบกับปลามีเกล็ด ไม่เกาะอยู่กับที่แต่จะเคลื่อนที่ไปเรื่อยๆ หรือออกจากปลาตัวหนึ่งไปเกาะปลาอีกตัวหนึ่ง การป้องกันรักษา ใช้ Dipterex เข้มข้น แช่นาน 24 ชั่วโมง
      7. โรคที่เกิดจากบัคเตรี ปลาจะมีลักษณะตกเลือดบริเวณผิดหนังและอวัยวะภายใน เช่น ตับ ไต หรือผิวหนังจะเป็นรอยด่างและเริ่มเป็นขุยยุ่ยเหงือกเน่า การป้องกันรักษา ใช้ยาปฏิชีวนะ เช่น ออกซิกาตราไซคลิน หรือคลอแรมพินิคัล ผสมลงในน้ำตู้ปลา หรือใช้เกลือแกงผสมลงในน้ำก็ได้ โดยประมาณ
      8. โรคที่เกิดจากไวรัส ปลาจะเกิดเป็นตุ่มนูนของเนื้อเยื่อเกี่ยวพัน ทั้งบนลำตัวและครีบ พบมากกับปลาน้ำกร่อย โรคนี้ไม่ต้องรักษาก็สามารถหายเองได้ถ้าสภาพแวดล้อมภายในตู้ปลาดีขึ้น เช่น เปลี่ยนถ่ายน้ำเป็นประจำ หรือมีแสงเข้าถึงเป็นเวลา เป็นต้น
      9. โรคเนื้องอกในปลา พบมากในปลาทอง และปลาไน ลักษณะอาการมักเห็นเป็นกลุ่มเซลล์เจริญขึ้นมาเป็นปุ่มปมขนาดใหญ่ ตามบริเวณลำตัวหรือเกิดภายในช่องท้อง ตุ่มนี้มักจะนิ่ม สาเหตุการเกิดยังไม่ทราบแน่ชัด แต่สันนิษฐานว่าสภาวะแวดล้อมที่เสื่อมโทรม สารมลพิษจะไปกระตุ้นทำให้เชลล์เกิดการแบ่งตัวอย่างผิดปกติ ยังไม่มีวิธีรักษาที่ได้ผลเคยมีการทดลองตัดตุ่มที่เกิดขึ้นตามบริเวณผิดหนังออก แต่ปรากฏว่าต่อมาก็จะเจริญขึ้นมาใหม่ และจำนวนปุ่มปมจะเพิ่มจำนวนขึ้นมากอย่างรวดเร็ว
การดูแลรักษาตู้ปลา
      การเลี้ยงปลาตู้ เพื่อให้คงความสวยงามอยู่ตลอดไปนั้น ควรจะต้องเอาใจใส่ดูแลรักษาอุปกรณ์พันธุ์ไม้น้ำและส่วนประกอบอื่น ๆ ที่มีอยู่ภายในตู้ปลาเพื่อมิให้เกิดความสกปรก หลักสำคัญในการดูแลรักษาที่ถูกต้อง มีดังนี้
      ควรหมั่นตรวจเช็คดูรอยรั่วซึม บริเวณรอยต่อกระจกไม่ว่าจะเป็นตู้ปลาแบบเก่า หรือแบบใหม่ เพราะมักพบว่ามีรอยรั่วซึมของน้ำอยู่เสมอ สาเหตุเกิดจากชันหรือกาวซิลิโคนเสื่อมคุณภาพ หรือบริเวณที่ติดตั้งตู้ปลาได้รับแสงแดดและความร้อนจัด หรือเกิดจากการกระทบกระแทกกับวัตถุอื่น ๆ จึงควรระมัดระวัง แต่ถ้าตู้ปลาเกิดการรั่วซึมต้องปล่อยน้ำทิ้งให้หมด เช็ดทำความสะอาดแล้วผึ่งลมให้แห้งสนิท จากนั้นก็นำมาซ่อมแซมโดยการใช้ชัน หรือกาวซิลิโคนทารอยรั่วให้เรียบร้อย ปล่อยทิ้งไว้นานพอประมาณ จนมั่นใจว่าติดสนิทดีแล้วจึงใส่น้ำลงตู้ปลา สังเกตรอยรั่วซึมของน้ำอีกครั้ง ถ้าไม่มีรอยรั่วซึมแล้วจึงเริ่มจัดตู้ปลาพร้อมปล่อยปลาลงได้
การดูแลรักษาเครื่องกรองน้ำ
      เมื่อใช้เครื่องกรองน้ำไปได้ระยะหนึ่ง ประสิทธิภาพการกรองสิ่งสกปรกต่าง ๆ ก็จะลดลง ไม่สามารถแยกสิ่งสกปรกภายในตู้ปลาได้ดีเท่าที่ควรอันเป็นเหตุให้สภาพของน้ำไม่สะอาดพอ จึงจำเป็นต้องคอยดูแลรักษาความสะอาดของตู้ปลา ให้ดีอยู่เสมอ ดังนี้
        - ควรใช้สายยางดูดเอาสิ่งสกปรกต่าง ๆ ภายในตู้ปลาอยู่เสมอ
        - ควรเลี้ยงปลาจำพวก catfish หรือปลาเทศบาล ช่วยเก็บเศษอาหารอีกด้านหนึ่ง
        - ทำความสะอาดระบบกรองน้ำใต้ทราย เช่น แผ่นกรอง หลอดพ่นน้ำ และตรวจเช็คอุปกรณ์บางส่วนที่เกี่ยวข้องกับแผ่นกรองน้ำอยู่เสมอ
การดูแลรักษาโลหะที่สัมผัสกับน้ำ
     โลหะที่ติดมากับตู้ปลาทุกส่วนที่สัมผัสกับน้ำภายในตู้ปลานั้น บางชนิดก่อให้เกิดอันตรายกับสิ่งมีชีวิต เช่น โลหะจำพวกทองเหลืองชุบโครเมียม ตะกั่ว ดีบุก และเหล็ก ถ้าจะให้ดีควรเลือกใช้โลหะประกอบตู้ปลาที่หุ้มพลาสติกจะปลอดภัยที่สุด หากพื้นที่ตู้ปลาเป็นแผ่นเหล็ก ผู้จัดตู้ปลาควรใช้กระจกปูทับก่อนแล้วใช้ชัน หรือกาวซิลิโคนอุดยาตามซอกมุมต่าง ๆ ให้แน่นมิให้น้ำรั่วซึมลงไปได้ จะช่วยให้ปลอดภัยแก่สิ่งมีชีวิตดียิ่งขึ้นและง่ายต่อการทำความสะอาด
การดูแลรักษาพันธุ์ไม้น้ำ
     ที่จำเป็นต้องคำนึงถึง คือ
      1. แสง มีส่วนเกี่ยวข้องกับการเจริญเติบโต และเปลี่ยนแปลงรูปร่างลักษณะพันธุ์ไม้น้ำมาก เพราะแสงเป็นตัวช่วยให้เกิดปฏิกิริยาการสังเคราะห์ด้วยแสง เมื่อแสงสว่างผ่านน้ำลงไป แสงจะเกิดการหักเห พืชใต้น้ำจะได้รับแสงสว่างผิดจากความเป็นจริง พืชที่อยู่ในน้ำระดับต่าง ๆ ก็จะได้รับปริมาณแสงสว่างที่แตกต่างกันไปด้วย ดังนั้นการจัดตู้ปลา จึงควรคำนึงถึงทิศทางและความต้องการแสงของพันธุ์ไม้แต่ละชนิดด้วย
      2. อุณหภูมิภายในตู้ปลา จะมีอุณหภูมิเปลี่ยนแปลงอยู่เสมอ แต่ไม่มากนักและค่อนข้างคงที่ ดังนั้นพันธุ์ไม้น้ำจึงไม่ค่อยมีผลกระทบมากนัก
      3. แก๊ส ปริมาณแก๊สที่สำคัญที่สุดกับพันธุ์ไม้น้ำ คือ แก๊สคาร์บอนไดออกไซด์ (co2) ซึ่งพืชทุกชนิดจำเป็นต้องใช้ในการสังเคราะห์แสง ในขณะเดียวกันพันธุ์ไม้น้ำก็คายออกซิเจน (O2) ออกมา ถ้าภายในตู้ปลามีทั้งพันธุ์ไม้น้ำ และสัตว์อยู่ด้วยกัน อัตราการคายออกซิเจนของพันธุ์ไม้น้ำ พอเหมาะกับอุตราการคายแก๊สคาร์บอนไดออกไซด์ของสัตว์ สภาพแวดล้อมภายในตู้ปลาก็จะมีสิ่งมีชีวิตอาศัยอยู่รวมกันได้อย่างสมดุล
      4. ความหนาแน่น หลังจากการตกแต่งพันธุ์ไม้น้ำเรียบร้อยแล้วเมื่อปลาได้รับอาหาร และแสงสว่างที่พอเหมาะ ก็จะเจริญเติบโตอย่างรวดเร็วทำให้เกิดความหนาแน่น ซึ่งสภาพอย่างนี้ อาจก่อให้เกิดการเสียความสมดุลระหว่างสิ่งมีชีวิตด้วยกันจำเป็นที่จะต้องตัดแต่ง หรือเคลือบย้ายพันธุ์ไม้น้ำที่เสียรูปทรง หรือหนาแน่นเกินไปออกจากตู้ปลา นำไปเพาะเลี้ยงบำรุงดูแลในที่แห่งใหม่ต่อไป

การเปลี่ยนน้ำ
     การเปลี่ยนน้ำมีความจำเป็น เพราะน้ำที่ใช้เลี้ยงปลาและพันธุ์ไม้น้ำ แร่ธาตุบางชนิดจะถูกนำไปใช้ หรือแลกเปลี่ยนไปบ้าง โดยปลาหรือพันธุ์ไม้น้ำหรือของเสียที่เกิดขึ้น ดังนั้น จึงควรมีการตรวจเช็คเพื่อปรับสภาพน้ำตามสมควรทุก ๆ 1-2 เดือน อาจเปลี่ยนน้ำเมื่อปรากฏว่า ในตู้ปลามีตะไคร่น้ำหรือน้ำขุ่น
    *****  ข้อควรระวัง *****
           การเปลี่ยนน้ำจะต้องระมัดระวังอย่างยิ่ง เกี่ยวกับค่าความด่างของน้ำในตู้ปลากับน้ำใหม่ที่เติมลงไป ว่ามีความเป็นกรดเป็นด่าง อุณหภูมิ และปริมาณสารบางตัวแตกต่างกันมากเกินไปหรือไม่ ถ้าเป็นน้ำประปาควรปรับความแตกต่างของสารคลอรีนให้ใกล้เคียงกันก่อนที่จะเติมลงในตู้ปลา และอีกประการหนึ่ง ที่เก็บน้ำถ้าปิดด้วยภาชนะนาน ๆ ในกลางแจ้ง ออกซิเจนในน้ำอาจมีน้อยหรือไม่มีเลย เมื่อนำไปเลี้ยงปลาโดยไม่มีพันธุ์ไม้น้ำตกแต่งอยู่ด้วยปลาที่เลี้ยงไว้อาจตายได้

ที่มา http://aqua.c1ub.net/forum/index.php?topic=33454.0 จากกระทู้ของคุณethan  ::014::

 ;Dศึกษาข้อมูลเยอะๆครับแล้วปลาจะตายน้อยลงครับ ;D

[ขอบคุณพี่ๆมากค่ะ เป็นประโยชน์ที่จะนำไปปฎิบัติต่อไปค่ะ  ::014::

ได้เดิมพันยัง หนูเอ๋...

วันอาทิตย์ว่างๆ ตอนเช้าก็ไปทำบุญใส่บาตรอุทิศส่วนกุศลถึงตัวที่จากไปแล้วด้วยนะครับ  ;)

 :D~ :D~ :D~
เอารูปสวยๆมายั่วครับ  เซฟมาเว็บนะครับ ไม่ใช้ปลาผม ราคาค่าตัวเค้า..... :~) :~) :~)

รูปปลาสวยมากครับขอเซฟไว้ดูนะครับ
จ่ายค่าแรงให้ด้วย+

เพื่อนเลี้ยงอโรวาน่าอยู่แถว สามกอง  ภูเก็ต 

แหะ แหะ  จิ้งจกหมดบ้านเลยครับ

ไปดูปลา อโรวาน่า สีแดงมาตอนแรกอยากได้ค่ะพี่แต่ถามราคาแล้วไม่น่าเชื่อ 15000 ทั้งที่สียังไม่ออกแดงเลยไม่รับประกันด้วย  :~)

พี่เอ๋มีข้อมูลการเตรียมมาให้ฟัง

1 ตู้ตอนนี้ล้างใหม่หมดเอาหินเก่าทิ้งไปเลยซื้อหินใหม่มาแล้ว

2 หินใหม่ที่ซื้อมาล้างแล้วหลายๆๆๆๆรอบแช่น้ำทิ้งไว้อีกสามวันตอนนี้ลงตูแล้ว

3 น้ำไม่มีน้ำประปาเลยใช้น้ำเก่าที่เก็บไว้ในแทงค์กับน้ำกรอง ใส่ลงตู้แล้ว

4 ตัวใยแก้วไบโอบอลทิ้งอันเก่าหมดซื้อใหม่เพราะอันเก่ามีตัวยาฆ่าเชื้อสีฟ้าๆที่เอ๋ใส่ไปครั้งก่อนค้างอยู่

5 ทำตามที่พี่ๆบอกใส่น้ำแล้วเอาเกลือใส่ไปกำมือ

6 เมื่อวานเอาเครื่องทำ โอโซน ของแม่มาเปิดหย่อนไปในตู้ไม่รู้ทำทำไมแต่น่าฆ่าเชื้ออะไรบางอย่างได้บ้าง

7 เอ๋เตรียมไว้หมดแล้วแต่เพื่อความแน่ใจจะเอาปลาลงหลัง สงการณ์

ปล. ถ้ายังตายอยู่เอ๋จะเลิกเลี้ยงปลาตลอดชีวิต

หึ หึ หึ

เป็นไปได้สูง

หึึ หึ หึ

เชอะ..คอยดูละกันนังก้อนตอนนี้ชั้นมีข้อมูลเยอะพอเฟ้ย พนันกันป้าวววววว   ::006::

สงกรานต์จ้า

อย่าทะนุถนอมมากนะ  เดี๋ยวเกิดอาการกลับด้าน

;D ขอบคุณครับ +1 คืนเช่นกันครับ...อิอิ

ตอนนี้จะงอกตู้เพิ่ม ใจอยากเลี้ยงปลาตะพัดของไทยครับ พันธ์อโรวาน่าเขียว สายพันธ์ทางใต้บ้านเรานี่เอง
ผมอยากได้สายพันธ์ไทยแท้ๆ ตอนนี้กำลังศึกษาข้อมูลอยู่ รู้สึกว่าเดี๋ยวนี้หายาก เมื่อสมัยสิบกว่าปีที่แล้ว
มาดูปลาที่ตลาดจตุจักร ตอนกลางคืน เห็นขายตัวละไม่เท่าไหร่  :~)
แต่เดี๋ยวนี้หาข้อมูลดูจะเป็นปลาแถวเขมรซะมาก

ปลาสวยๆแบบในรูปก็ชอบครับ แต่บางตัวเด่นๆนี่ราคาน่ากลัวครับ ;D (ว่าแล้วแถมอีกรูปครับ   ::005:: )

(http://i419.photobucket.com/albums/pp275/BC_1980/58fc7fbd.jpg)

ตอนนี้เอ๋ว่าตัวเองจิตตกในการเลี้ยงปลาอย่างแรงเลยพี่ เพราะเลี้ยงมาปลาหมอสีที่ว่าทนก็ตาย ปอมปาดัวร์ ก็ตายเลยทำตามที่พี่ๆสามชิกว่าทุกขั้นตอนมีตัวนึงที่รอดตอนนี้ก็เปลี่ยนน้ำให้ทุกวันแต่ไม่ได้เปลี่ยนหมดนะเปลี่ยนใน 10 % ของน้ำในตู้อ่ะ

พี่ EAK1980 คือสงสัยมากค่ะเกี่ยวกับพันธ์ของ อโรวาน่า เพราะเห็นมีตัวยาวๆกับป้อมๆสั้นๆแต่ดูตัวสั้นๆป้อมๆจะสวยกว่าเรียกเหมื่อนกันหรือเปล่าคะ  ::014::

กระทู้นี้ดี ชอบปลาเหมือนกัน ;D ;D ;D จตุจักรยังมีขายปลาส่งตอนกลางคืนไหมครับ วันไหน หรือเดี๋ยวนี้เปิดทุกวัน

 ;D เอาง่ายน่ะครับ
เอาแค่ ที่พบง่ายๆมานะครับ ส่วนใหญ่อโรวาน่า จะมีหลายสายพันธ์ ที่พบเห็นบ่อยๆในบ้านเราคือ อโรวาน่าเงิน ตัวจะยาวๆตามนี้ครับ มาจากลุ่มน้ำอเมซอน
ราคาไม่แพง พบคบหา  :VOV:

(http://i419.photobucket.com/albums/pp275/BC_1980/02.jpg)



ปลาอโรวาน่าสายพันธ์เอเชีย หรือปลาตะพัด เช่นของไทยก็มี ตะพัดเขียว  พบทางใต้ สุราษฯ สตูลฯ ตามแหล่งน้ำจืด ตามรูปครับ

(http://i419.photobucket.com/albums/pp275/BC_1980/1bc29766.jpg)
 (http://i419.photobucket.com/albums/pp275/BC_1980/03.jpg)
:VOV: :VOV: :VOV:ตัวนี้เขาก็ว่าเขียวของไทยครับ :D~ :D~ :D~

แถบเพื่อนบ้านก็มี ทองอินโด ทองมาเลย์ แดงอินโด หลายพันธ์ครับ

(http://i419.photobucket.com/albums/pp275/BC_1980/126.jpg)

(http://i419.photobucket.com/albums/pp275/BC_1980/02-1.jpg)

โดยความคิดส่วนตัวครับ ผมว่าสายพันธุ์แถบบ้านเราสวยกว่าครับ ในด้านรูปร่างครับ :VOV:

มีอีกหลายพันธ์ครับ แต่ไม่กล้าตอบครับต้องหาข้อมูลเพิ่ม

ว่ามาเลยหนู

แต่อย่าหนีอีกแล้วกัน

หึ หึ หึ

ช่วยแนะนำครับจากประสบการณ์ที่พ่อเป็นหัวหน้ากรมประมง เรื่องถ่ายน้ำ ทำความสะอาดตู้ ใส่เหลือ ผ่านเเล้วเห็นหลายท่านโพส ยังมีอีกเรื่องที่ไม่ควรมองข้ามไปคือ อย่านำปลาที่ได้มาใหม่เทลงใส่ตู้เลย เพราะจะทำให้ปลาเกิดอาการช๊อคตายได้เนื่องจากปรับอุณหภูมิสภาพน้ำไม่ทัน
เมื่อซื้อปลามาปลาจะอยู่ในถุงให้เอาทั้งถุงใส่ลงไปในตู้ปลาทิ้งไว้ 5 นาที อย่าพึ่งเปิดปากถุง ผ่านไป 5 นาทีให้แกะปากถุงออกแล้วตักน้ำจากในตู้ใส่เข้าไปในถุง พอประมาณของน้ำที่มีในถุง มัดปากถุงเเล้วทิ้งไว้ในตู้อีก 5 นาทีจึงค่อยปล่อยปลาลงในตู้ เพื่อให้ปลาได้ปรับสภาพน้ำใหม่และอุณหภูมิ

เอาใจช่วยครับ

ปลาน้ำจืดผมใช้น้ำประปาใส่ยาฆ่าคลอรีน ทิ้งไว้๑๐ นาที เพราะน้ำประปาสะอาดปลอดเชื้อเกือบ๙๕% ใช้เลี้ยงปลาดีครับ
ถ้าเปิดระบบไว้แล้วยังไม่ได้ปล่อยปลา แนะนำให้ใส่หัวเชื้อแบททีเรียสักขวดหรือซอง  ตู้ที่มีแบททีเรียเยอะๆปลามีความสุขครับ

ส่วนปลาทะเลใช้น้ำดื่มชนิดถัง ๑๘ ลิตรครับ

  :D~ :D~ :D~
ปลาทะเลสีสวยดีครับ

 เมื่อก่อนผมเลี้ยง อโรวะน่า สายพันธุ์ ออสเตรเลีย ครับ  ขุนตั้งแต่ตัวยาวสองนิ้ว ราคาแปดร้อยจนโตเกือบสิบนิ้ว  แต่อยู่ดีๆก็ตายครับ   :~)ตอนเลี้ยงเจ้าทองเนื้เก้า(เมียผมเรียก ;D) ถูกหวยสี่ห้าครัง  ล็อตเตอรี่เลขท้ายสามตัวอีก สามครั้ง  พอตาย  ไม่เคยถูกเลย  แต่มีเฉียดรางวัลที่1 อยู่ครั้งนึง   :~)

[/color]

ตามที่ทางคุณ VENDY เล่ามาผมว่า OK แล้วครับ ตัวลูกใบโอบอลอันเก่าจริงๆแล้วถ้าล้างให้สะอาสก็สามารถ
นำกลับมาใช้ใหม่ได้ไม่เปลืองครับ ส่วนใยแก้วเปลี่ยนเลยก็ดีครับ
เครื่องทำโอโซนผมว่าไม่น่าจะนำมาใช้นะครับ ไม่จำเป็น  เกลือที่ใส่อยู่ก็พอแล้วครับ
เที่ยวนี้น่าจะเลี้ยงได้แล้วครับไม่น่ามีปัญหาอีก

ข้อสำคัญน้ำที่นำมาใช้ควรผ่านการกรองหรือเก็บกักไว้ก่อนอย่างน้อย3-4วันครับ

 ;Dเอ๋ เลี้ยงหางนกยูงอย่างบ้านพี่ดิ ;D ;D

[/color]

การเปลี่ยนน้ำถ้าไม่เลี้ยงเพื่อขยายพันธ์ก็ไม่จำเป็นต้องเปลี่ยนน้ำทุกวันก็ได้ครับ
การเปลี่ยนน้ำทุกๆ 2 วันก็เพียงพอแล้ว การเปลี่ยนน้ำบ่อยๆจะทำให้ปลาเติบโตได้ไวขึ้น
การเปลี่ยน้ำถ้ามีเครื่องกรองที่ดีเราสามารถเปลี่ยนน้ำทีละ 3ใน5 ส่วนของตู้ได้ ( บางท่านเปลียนน้ำทีละ 4ใน5ส่วนของตู้ครับ )
ควรใส่เกลือ 2 กำมือทุกครั้งที่เปลี่ยนน้ำใหม่โดยให้โรยให้ทั้วตู้ปลา จะช่วยเรื่องลดความเครียดของปลาได้ดีครับ

เข้าใจเลยค่ะพี่ขอบคุณมากค่ะ  ::014::  :D

 ;D ;D ;D

อย่าเพิ่งจิตตก อย่าเพิ่งเสียความมั่นใจ

คลิกที่ภาพเลยครับ

(http://covers.openlibrary.org/b/olid/OL3429295M-M.jpg?default=false) (http://www.se-ed.com/eshop/Products/Detail.aspx?No=9789747884142)


อีกลิ้งค์
http://www.fisheries.go.th/extension/public/journal.htm (http://www.fisheries.go.th/extension/public/journal.htm)

คนเนี่ยะน่ารักตลอดเลย  :VOV:

พี่เอ๋ เลี้ยงปลาแล้วตาย เลี้ยงน้องดีกว่าพี่ อยู่ทน ทนมือทนเท้า อิอิอิ

ผมเคยเลี้ยงแต่ปลาหางนกยูง กับ ซัคเกอร์ น่ะครับ

นี่เลยครับคุณเอ๋.....ปลาหมอหลากสีของผม ;D

เลี้ยงง่าย 4-5 เดือนค่อยเปลี่ยนน้ำทีหนึ่งครับ..........เย้(คนเลี้ยงขี้เกียดครับ ::012::  )

(http://img21.imageshack.us/img21/1159/dscn0002c.jpg) (http://img21.imageshack.us/my.php?image=dscn0002c.jpg)

ไม่มีความรู้ จะมาแนะนำได้ แต่ขอเอาใจช่วยคนเลี้ยง..

เอาใจช่วย ปอมปาดัวร์ ที่ถูกเลี้ยง ให้อยู่รอดปลอดภัย นะครับ. 
แต่กว่า จขกท. จะกลับเข้าเวป ก็ คงหลัง ๑๕ เมษา . ไปแล้ว.  ;)