เว็บบอร์ดสนทนาภาษาปืน

คือ
นายสมชายมีบุตรสามคน คือ สมบัตร สมบูรณ์ และสมเบี้ย
นายสมชายมีอาวุธปืนถูกต้องตามกฏหมายจดทะเบียน ต่อมานายสมชายได้ยกอาวุธปืนนั้นให้แก่นายสมบัตรลูกชายคนโต ต่อมานายสมชายตาย นายสมบัตรมีภรรยาจดทะเบียนสมรสถูกต้องตามกฏหมาย ต่อมานายสมบัตร ก็ตายอีก ปืนก็ตกมาอยู่ที่นางสมฤดี ภรรยานายสมบัตร

ปัญหาอยู่ที่ว่า ถ้าหากนายสมบูรณ์น้องชายของนายสมบัตร จะมาทวงปืนจากนางสมฤดี ภรรยาของนายสมบัตรได้หรือไม่ เพราะนายสมบูรณ์กล่าวว่า ปืนยังเป็นของพ่อเพราะพ่อได้จดทะเบียน ตอนที่นายสมบัตรใช้แค่ได้มาแต่ไม่ได้จดทะเบียนโอน (นายสมชายตายนานแล้ว นายสมบัตรก็ตายนานแล้ว)

และนางสมฤดีจะมีข้อต่อสู้ที่จะไม่ให้ปืนแก่นายสมบูรณ์น้องชายของนายสมบัตรได้หรือไม่ อย่างไรคะ


ขอบคุณพี่ๆทุกคนที่ช่วยตอบคำถามนะคะ
ขอบคุณมากค่ะ
(เชื่อว่าพี่ๆทุกคนในบอร์ดนี้ใจดี ^____^ )

ข้อเท็จจริงก็คือ ปืนยังไม่ได้โอน ยังอยู่ในชื่อของผู้เป็นบิดา จึงเป็นสมบัติของบิดา
ตามปกติ หากผู้ตายไม่มีพินัยกรรม จะต้องตั้งผู้จัดการมรดก มาเป็นผู้ดูแลจัดการให้ถูกต้องตามกฎหมาย
แม้ลูกชายเอาปืนไปครอบครอง แต่ก็ไม่ได้เป็นของตัวเอง
ดีไม่ดีอาจทำผิดกฎหมาย มีอาวุธที่ไม่ได้รับอนุญาตในการครอบครอง
หากไม่มีใครเอาไปแจ้งตำรวจ ก็ดีไป
โชคดีที่ลูกชายตายก่อน แต่คนที่จะซวยคือเมียที่ครอบครองปืน
ปืนกระบอกเดียว ถ้ามีอยู่แล้วไม่สบายใจ หรือมีแล้วทำให้ไม่สบายใจ
ก็ปล่อยไปให้คนอื่นเถอะ

นางสมฤดีต้องคืนปืนทรัพย์มรดกนั้นแก่ทายาทของนายสมชายครับ

เพื่อที่จะไปจัดการขอรับโอนกันต่อไป

ขอบคุณพี่ๆทุกคนมากๆเลยค่ะ

^________________^

นายสมชายเป็นเจ้ามรดก นายสมบัตร นายสมบูรณ์ นายสมเบี้ย คือผู้รับมรดก  ปืนถือเป็นมรดก
นายสมบัตรถึงแม้จะตายไปแล้ว แต่ตายหลังจากได้รับมรดก ย่อมมีสิทธิในส่วนแบ่งปืนด้วย
เมื่อนางสมฤดีเป็นภรรยาจดทะเบียนของนายสมบัตรและยังเป็นทายาทผู้รับมรดกจากนายสมบัตร
นางสมฤดีย่อมได้รับส่วนแบ่งจากปืนดังกล่าวด้วย ๑ ใน ๓  ครับผม

          ปัญหาอยู่ที่ว่าผู้ตายยกให้ลูกชายคนโตนั้น มีเอกสารยืนยันหรือเปล่า เช่นพินัยกรรมระบุไว้ชัดเจน

          ถ้ามีกรรมสิทธิ์ก็ตกของภรรยาลูกชายคนโตโดยสมบูรณ์แล้ว  แต่ถ้าไม่มีต้องหาพยานมายืนยันว่า

          นายสมชายออกปากยกปืนกระบอกนี้ให้นายสมบัตรจริง  ซึ่งคงยากยิ่งนักสำหรับพยานบอกเล่า

หลังรับปืนมาจากพ่อ หากนายสมบัตรตอนยังไม่ตายโดนตำรวจตรวจพบปืน ก็แสดงว่าปืนผิดมือไหมครับ