เว็บบอร์ดสนทนาภาษาปืน

สนทนาภาษาปืน => หลังแนวยิง => ข้อความที่เริ่มโดย: RUGER ที่ เมษายน 27, 2009, 09:23:34 AM



หัวข้อ: เดี๋ยวก็วัว ..เดี๋ยวก็นก ...คราวนี้หมู
เริ่มหัวข้อโดย: RUGER ที่ เมษายน 27, 2009, 09:23:34 AM
WHOยอมรับ ไข้หวัดหมูอาจกลายพันธุ์อันตรายมากขึ้น

06:17 น.

    นายเคนจิ ฟูคูดะ รักษาการณ์ผู้ช่วยผู้อำนวยการองค์การอนามัยโลก หรือ WHO ฝ่ายสาธารณสุข ความปลอดภัยและสภาพแวดล้อม แถลงที่นครเจนีวาของสวิตเซอร์แลนด์เมื่อวันอาทิตย์ตามเวลาท้องถิ่น ยอมรับว่ามีความเป็นไปได้ที่ไวรัสไข้หวัดหมูซึ่งทำให้มีผู้เสียชีวิตจำนวน มากที่เม็กซิโก อาจกลายพันธุ์เป็นสายพันธุ์ที่อันตรายยิ่งขึ้นได้ WHO เห็นว่าสถานการณ์มีความรุนแรง (Serious) และจะตัดสินใจในวันอังคารตามเวลาท้องถิ่นว่าสมควรเพิ่มระดับการเตือนภัยหรือ ไม่ เพราะยังจำเป็นต้องทราบข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับพฤติกรรมของไวรัสเหล่านี้ เพื่อทำความเข้าใจให้มากยิ่งขึ้นเสียก่อน แต่หากมีการยกระดับการเตือนภัย โลกมีการเตรียมตัวดีขึ้นมากกว่าในอดีต
    ถ้อบแถลงของเขามีขึ้นหนึ่งวันหลังจาก นางมาร์กาเร็ต ชาน ผู้อำนวยการองค์การอนามัยโลก ออกมาเตือนว่า เห็นได้ชัดเจนว่าไวรัสนี้มีศักยภาพที่จะระบาดไปทั่วโลก แต่บรรดาผู้เชี่ยวชาญที่
    WHO จะรอจนถึงวันอังคาร ก่อนจะประชุมตัดสินใจว่าจะเพิ่มระดับการเตือนภัยจากระดับ 3 เป็น 4 หรือไม่ ซึ่งหมายความว่า "มีความเสี่ยงเพิ่มขึ้นเป็นอย่างมากที่จะเป็นโรคระบาดไปทั่วโลก" ทั้งนี้การเพิ่มระดับการเตือนภัยมีความสำคัญเพราะเป็นการส่งสัญญานถึงรัฐบาล ชาติต่างๆ ว่าสมควรเพิ่มการตรวจตรา เตรียมความพร้อมที่จะรับมือ และประเมินอย่างจริงจังเรื่องขั้นตอนต่างๆที่จะใช้รับมือหากโรคนี้ระบาดไป ทั่วโลก
    หลังเกิดการระบาดของโรคทางเดินหายใจเฉียบพลันรุนแรง หรือ SARS เมื่อปี 2546 ที่ทำให้มีผู้เสียชีวิตเกือบ 800 คน และท่ามกลางรายงานข่าวเรื่องแพร่รับาดของไข้หวัดนก ประเทศต่างๆได้เพิ่มการเตรียมพร้อมรับมือกับโรคระบาดใหญ่ในช่วงไม่กี่ปีมา นี้ รวมทั้งการมียุทธศาสตร์ระดับชาติเพื่อรับมือ และการเก็บสำรองยาแอนตี้ไวรัส ซึ่งนายฟูกูดะกล่าวด้วยว่า WHO มีวัคซีนแอนตี้ไวรัส"ทามิฟลู" อยู่ประมาณ 5 ล้านชุด ในขณะที่กลุ่มผู้ผลิตได้เพิ่มขีดความสามารถในการผลิตอย่างมาก ทำให้สามารถผลิตเพิ่มได้หากมีความต้องการ


ข่าวจาก  http://breakingnews.nationchannel.com/read.php?newsid=377168&lang=T&cat=


หัวข้อ: Re: เดี๋ยวก็วัว ..เดี๋ยวก็นก ...คราวนี้หมู
เริ่มหัวข้อโดย: RUGER ที่ เมษายน 27, 2009, 09:24:14 AM
คิดเหมือนผมหรือเปล่าเดี๋ยวนี้โรคแปลก ๆเยอะเหลือเกิน 
 
และที่แปลกยิ่งกว่าคือวนเวียนกับสัตว์ที่เป็นอาหารของเรา

ก่อนหน้านั้น ก็วัวบ้า  ...... ทำเอาวัวเนื้อขายไม่ได้ไปนาน

ถัดมาก็นก เล่นเอาสัตว์ปีก พวกเป็ด/ไก่ ตายไปเพียบ

มาคราวนี้ ก็หมู  ...... เห็นว่าตายไปเยอะพอสมควร 


              ผมคิดเลยเถิดไปแบบเดาสุ่ม เป็นเพราะอะไรกันแน่

-ธรรมชาติเอาคืนลงโทษเรา จะได้ไม่มีอะไรกิน  ...... 

-เป็นเพราะบริษัทยา แกล้งปล่อยเชื้อโรคออกมาเพื่อขายยา

-เป็นเพราะ มหาอำนาจ วิจัยเชื่อโรคแล้วคุมมันไม่อยู่

                 ฯลฯ

เฮ้อ ..... แล้วต่อไปกินอะไรดี  .... โชคดียังมี สัตว์น้ำ  .....อิอิอิ

อีกทีคือกินเจ หรือกินมังสวิรัติ  ผักล้วน กับโปรตีนเกษตร

หรือไม่ก็น้ำพริกผักจิ้ม ...อันนี้ผมชอบ แต่ขอสูตรเจ๊กกินได้ เผ็ดน้อย ๆ ผักเยอะ ๆ


หัวข้อ: Re: เดี๋ยวก็วัว ..เดี๋ยวก็นก ...คราวนี้หมู
เริ่มหัวข้อโดย: บาร์ท รักในหลวง ที่ เมษายน 27, 2009, 09:32:25 AM
เฮ้อ ..... แล้วต่อไปกินอะไรดี  .... โชคดียังมี สัตว์น้ำ  .....อิอิอิ

อีกทีคือกินเจ หรือกินมังสวิรัติ  ผักล้วน กับโปรตีนเกษตร

หรือไม่ก็น้ำพริกผักจิ้ม ...อันนี้ผมชอบ แต่ขอสูตรเจ๊กกินได เผ็ดน้อย ๆ ผักเยอะ ๆ
สัตว์น้ำก็น่ากลัวว่าจะกินไปไม่ได้อีกนาน เดี๋ยวจะมีนักวิจัยจิตไม่นิ่งออกมาโวยวายว่ามีสารตะกั่ว ปรอทในสัตว์น้ำเพราะน้ำเน่าเสียซะอีก ผักหญ้าก็จะว่าฉีดยา ใช้ยาฆ่าแมลงจนเกิดอันตราย......ตายละโว้ยยย กินอะไรได้ล่ะนี่


หัวข้อ: Re: เดี๋ยวก็วัว ..เดี๋ยวก็นก ...คราวนี้หมู
เริ่มหัวข้อโดย: Don Quixote ที่ เมษายน 27, 2009, 09:33:51 AM
ท่านรูเกอร์

ผมว่าอีกเรื่องคือทำการเกษตรแบบอุตสาหกรรมมากเกินไปครับ เลี้ยงสัตว์ ให้อาหารผิดธรรมชาติ ตอนวัวบ้า สาเหตุเรื่องหนึ่งที่เขาถกกันคือเอาของรีไซเคิลมาเป็นอาหารวัวมากเกินไป มีโปรตีนจากเศษเนื้อแกะอะไรด้วย วุ่นวายครับ ::013::

สัตว์น้ำสมัยนี้ก็น่ากลัว น้ำเสียจะแย่ แถมการเป็นระหว่างทางอาจใช้สารเคมีร้ายแรงอีก ::009::

สรุปว่า คิดมากเสียสุขภาพจิต ตายเร็วมากกว่าครับ ...ฮา ::007::


หัวข้อ: Re: เดี๋ยวก็วัว ..เดี๋ยวก็นก ...คราวนี้หมู
เริ่มหัวข้อโดย: Don Quixote ที่ เมษายน 27, 2009, 09:36:00 AM
และเจ้าเก่า ไข้หวัดคน ระบาดหลังสงครามโลกครั้งที่ 1 คนตายมากกว่าในสงครามโลกอีก


หัวข้อ: Re: เดี๋ยวก็วัว ..เดี๋ยวก็นก ...คราวนี้หมู
เริ่มหัวข้อโดย: thitipun-รักในหลวง ที่ เมษายน 27, 2009, 09:38:22 AM
ถ้าไม่ตระหนกเกินเหตุต้องทำให้สุกก่อนบริโภคและที่สำคัญ...................อาจทำให้หมูราคาลงนะขอรับ :D~ :D~ ::014::


หัวข้อ: Re: เดี๋ยวก็วัว ..เดี๋ยวก็นก ...คราวนี้หมู
เริ่มหัวข้อโดย: EAK1980 รักในหลวง ที่ เมษายน 27, 2009, 09:43:46 AM
 ;Dโดนข่าวนี้หมูถูกแน่นอน.............แต่ไก่ถ้าจะแพง ::011::


หัวข้อ: Re: เดี๋ยวก็วัว ..เดี๋ยวก็นก ...คราวนี้หมู
เริ่มหัวข้อโดย: PU45™ ที่ เมษายน 27, 2009, 09:45:21 AM

     ขุนสารอาหารทางเคมีมากเกินไป  ทำให้ขาดภูมิต้านทาน ...... ไทยเรามีของดีดั้งเดิมเป็นภูมิปัญญาท้องถิ่นอยู่แล้ว

     แต่รัฐเห็นแก่ผลประโยชน์ที่จะได้จากต่างชาติ จึงส่งเสริมให้นำเข้า แทนที่จะส่งเสริมของดีๆราคาถูก ..... มันเรื่องของผลประโยชน์นายทุน



หัวข้อ: Re: เดี๋ยวก็วัว ..เดี๋ยวก็นก ...คราวนี้หมู
เริ่มหัวข้อโดย: Hang ที่ เมษายน 27, 2009, 09:47:24 AM
อีกหน่อยคงมีไข้หวัดปลา  อิอิ ::005::


หัวข้อ: Re: เดี๋ยวก็วัว ..เดี๋ยวก็นก ...คราวนี้หมู
เริ่มหัวข้อโดย: sorrachat - รักในหลวง ที่ เมษายน 27, 2009, 09:51:16 AM
มันไม่ได้มาทางเนื้อหมูไม่ใช่เหรอครับ เห็นข่าวบอกว่าทานได้แต่ต้องทำให้สุกก่อน


หัวข้อ: Re: เดี๋ยวก็วัว ..เดี๋ยวก็นก ...คราวนี้หมู
เริ่มหัวข้อโดย: Don Quixote ที่ เมษายน 27, 2009, 09:51:55 AM
อีกหน่อยคงมีไข้หวัดปลา  อิอิ ::005::

..ก็น่าจะเป็นหวัดครับ เปียกน้ำอยู่ทั้งวันทั้งคืน


หัวข้อ: Re: เดี๋ยวก็วัว ..เดี๋ยวก็นก ...คราวนี้หมู
เริ่มหัวข้อโดย: naisomchai ที่ เมษายน 27, 2009, 10:06:41 AM
อีกหน่อยคงมีไข้หวัดปลา  อิอิ ::005::

..ก็น่าจะเป็นหวัดครับ เปียกน้ำอยู่ทั้งวันทั้งคืน

เวลาปลาเป็นหวัด มันจะไอ บุ๋งๆๆ ครับ... หากพบอาการดังกล่าว ให้รีบเอาขึ้นจากน้ำ ห่มผ้าให้อบอุ่นครับ...


หัวข้อ: Re: เดี๋ยวก็วัว ..เดี๋ยวก็นก ...คราวนี้หมู
เริ่มหัวข้อโดย: โป้ง*กันบอย - รักในหลวง ที่ เมษายน 27, 2009, 10:08:13 AM
วัวก็ใช้สารเคมี/ยา

ไก่ก็ใช้สารเคมี/ยา

หมูก็ใช้สารเคมี/ยา

เพื่ออะไร โตเร็วผิดธรรมชาติ เนื้อเยอะผิดธรรมชาติ ฯลฯ

ถึงเวลาธรรมชาติเอาคืน.....บ้าง...........แง :~)





หัวข้อ: Re: เดี๋ยวก็วัว ..เดี๋ยวก็นก ...คราวนี้หมู
เริ่มหัวข้อโดย: Don Quixote ที่ เมษายน 27, 2009, 10:08:51 AM
...ขึ้นจากน้ำ เช็ดตัวให้แห้ง ทาแป้ง ลงน้ำมันเลยครับพี่ :D~


หัวข้อ: Re: เดี๋ยวก็วัว ..เดี๋ยวก็นก ...คราวนี้หมู
เริ่มหัวข้อโดย: Choro - รักในหลวง ที่ เมษายน 27, 2009, 10:10:48 AM
อีกหน่อยคงมีไข้หวัดปลา  อิอิ ::005::

..ก็น่าจะเป็นหวัดครับ เปียกน้ำอยู่ทั้งวันทั้งคืน

เวลาปลาเป็นหวัด มันจะไอ บุ๋งๆๆ ครับ... หากพบอาการดังกล่าว ให้รีบเอาขึ้นจากน้ำ ห่มผ้าให้อบอุ่นครับ...

 ::005::  ::005:: จะได้สบายตัวครับ


หัวข้อ: Re: เดี๋ยวก็วัว ..เดี๋ยวก็นก ...คราวนี้หมู
เริ่มหัวข้อโดย: น้องโด่ง ที่ เมษายน 27, 2009, 10:11:48 AM
...ขึ้นจากน้ำ เช็ดตัวให้แห้ง ทาแป้ง ลงน้ำมันเลยครับพี่ :D~
  ::007:: พาผมไปกินด้วยซิครับพี่


หัวข้อ: Re: เดี๋ยวก็วัว ..เดี๋ยวก็นก ...คราวนี้หมู
เริ่มหัวข้อโดย: Don Quixote ที่ เมษายน 27, 2009, 10:12:25 AM
เฮ้อ ..... แล้วต่อไปกินอะไรดี  .... โชคดียังมี สัตว์น้ำ  .....อิอิอิ

อีกทีคือกินเจ หรือกินมังสวิรัติ  ผักล้วน กับโปรตีนเกษตร

หรือไม่ก็น้ำพริกผักจิ้ม ...อันนี้ผมชอบ แต่ขอสูตรเจ๊กกินได เผ็ดน้อย ๆ ผักเยอะ ๆ
สัตว์น้ำก็น่ากลัวว่าจะกินไปไม่ได้อีกนาน เดี๋ยวจะมีนักวิจัยจิตไม่นิ่งออกมาโวยวายว่ามีสารตะกั่ว ปรอทในสัตว์น้ำเพราะน้ำเน่าเสียซะอีก ผักหญ้าก็จะว่าฉีดยา ใช้ยาฆ่าแมลงจนเกิดอันตราย......ตายละโว้ยยย กินอะไรได้ล่ะนี่

กินเบียร์สิครับ บรรจุถูกอนามัย สารอาหารสูง ฆ่าเชื้อแล้ว แถมรสขมช่วยให้เข้าถึงสัจธรรมของการบริโภค ::002::


หัวข้อ: Re: เดี๋ยวก็วัว ..เดี๋ยวก็นก ...คราวนี้หมู
เริ่มหัวข้อโดย: ART ที่ เมษายน 27, 2009, 10:12:41 AM
การระบาดไข้หวัดหมู คราวนี้ฟังข่าววิทยุ MCOT  100.5 บอกว่าติดแบบ คนต่อคน ต้องคุณหมอประจำ เวปเราอธิบายนะครับ ผมไม่มีความรู้ 8)


หัวข้อ: Re: เดี๋ยวก็วัว ..เดี๋ยวก็นก ...คราวนี้หมู
เริ่มหัวข้อโดย: ART ที่ เมษายน 27, 2009, 11:06:02 AM
รู้จักไข้หวัดหมู  จากผู้จัดการ ASTV

บีบีซี นิวส์ - บรรดาผู้เชี่ยวชาญด้านการควบคุมโรคติดต่อต่างกำลังเฝ้าติดตาม และประเทศต่างๆ ก็ออกมาตรการเฝ้าระวัง ภายหลังมีรายงานเรื่องการแพร่ระบาดของเชื้อไข้หวัดใหญ่หมู (swine flu) ที่ประเทศเม็กซิโก ซึ่งทำให้ผู้คนเสียชีวิตไปหลายสิบคน นอกจากนั้นยังพบผู้ป่วยจำนวนหนึ่งในสหรัฐฯด้วย
       
       **ไข้หวัดใหญ่หมูคืออะไร?**
       
        ไข้หวัดใหญ่หมูเป็นโรคระบบทางเดินหายใจที่ติดต่อในหมู เกิดจากเชื้อไข้หวัดใหญ่ชนิด A ซึ่งปกติมีการแพร่ระบาดอยู่ในฝูงหมู โรคดังกล่าวมีระดับอาการรุนแรงแต่มักไม่ค่อยเป็นอันตรายถึงชีวิต การแพร่ระบาดมักเกิดในช่วงฤดูใบมิผลิและฤดูหนาว แต่ก็พบว่ามีการระบาดในช่วงอื่นๆ ด้วยเช่นกัน
       
        ไข้หวัดใหญ่หมูมีเชื้อหลายประเภท และก็เช่นเดียวกับไข้หวัดใหญ่ในมนุษย์ นั่นคือลักษณะการติดเชื้อก็มีการเปลี่ยนแปลงอยู่เสมอ
       
       **ไข้หวัดใหญ่หมูติดต่อถึงคนได้หรือไม่?**
       
        โดยปกติแล้วไข้หวัดใหญ่หมูไม่ติดต่อถึงคน แต่นานๆ ครั้งก็อาจพบการติดต่อดังกล่าวบ้าง ซึ่งมักจะเกิดกับผู้ที่อยู่ใกล้ชิดกับหมู นอกจากนั้น ยังมีรายงานเกี่ยวกับการแพร่กระจายเชื้อไข้หวัดหมูจากคนสู่คนด้วย แต่ก็พบกรณีเช่นนี้น้อยมากเช่นกัน
       
        การแพร่กระจายเชื้อไข้หวัดใหญ่หมูจากคนสู่คนนั้น คาดว่ามีลักษณะเดียวกับการแพร่ระบาดของไข้หวัดใหญ่คน นั่นคืออาศัยการไอหรือจาม
       
       สำหรับในการแพร่ระบาดครั้งล่าสุดนี้ เป็นที่ชัดเจนแล้วว่าเกิดการการแพร่กระจายเชื้อไข้หวัดใหญ่หมู่ ในแบบจากคนสู่คน
       
       **ไข้หวัดใหญ่หมูที่กำลังระบาดอยู่นี้เป็นเชื้อชนิดใหม่ใช่หรือไม่?**
       
        องค์การอนามัยโลกยืนยันแล้วว่า อย่างน้อยมีผู้ป่วยบางรายที่มีเชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่ชนิด "เอช1เอ็น1" (H1N1) ซึ่งเป็นสายพันธุ์ย่อยของเชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่ชนิด A ทว่าเชื้อเอช1เอ็น1ในหมู่ผู้ป่วยเหล่านี้ เป็นเวอร์ชั่นที่ไม่เคยพบเห็นกันมาก่อน
       
        อันที่จริงเชื้อ "เอช1เอ็น1" ก็เป็นสายพันธุ์ย่อยของเชื้อไข้หวัดใหญ่ที่พบในคน และมีการระบาดอยู่เป็นประจำ
       
       ทว่าใน "เอช1เอ็น1" เวอร์ชั่นล่าสุดนี้ มีความแตกต่างออกไป กล่าวคือมีสารทางพันธุกรรมที่พบในสายพันธุ์ต่างๆ ของไวรัสที่ติดต่อในคน, นก, และหมูด้วย
       
       **มีผู้ติดเชื้อกี่รายแล้วจากการแพร่ระบาดครั้งล่าสุดนี้?**
       
        รัฐบาลเม็กซิโกยืนยันแล้วว่ามีผู้เสียชีวิตจากไวรัสไข้หวัดใหญ่หมูครั้งนี้ 20 ราย และกำลังตรวจสอบผู้เสียชีวิตอีกมากกว่า 50 รายว่าเกิดจากสาเหตุเดียวกันหรือไม่
       
        ส่วนในสหรัฐฯ ยืนยันว่าพบผู้ติดเชื้อแล้ว 8 รายในแคลิฟอร์เนียและเทกซัส และเป็นเชื้อที่มีลักษณะทางพันธุกรรมเหมือนกับกรณีที่พบในเม็กซิโก นอกจากนั้นมีการยืนยันว่าพบผู้ติดเชื้ออีก 2 รายที่แคนซัส แม้ว่ายังไม่ทราบแน่ชัดว่าเป็นเชื้อที่มีพันธุกรรมแบบเดียวกันหรือไม่
       
        ทางการนิวยอร์กเองก็รายงานว่ามีผู้ป่วย 8 รายที่อาจติดเชื้อไข้หวัดใหญ่หมู ในขณะที่พบเด็กๆ อีกเกือบ 100 คนมีอาการที่ส่อว่าอาจติดเชื้อนี้ด้วยเช่นกัน อย่างไรก็ตาม กรณีผู้ป่วยในสหรัฐฯ จนถึงเวลานี้ยังคงมีอาการป่วยเพียงเล็กน้อยเท่านั้น โดยไม่มีผู้ใดเสียชีวิต
       
       **การรับประทานเนื้อหมูจะปลอดภัยหรือไม่?**
       
        ปลอดภัยแน่นอน ขณะนี้ยังไม่มีหลักฐานว่าเชื้อไข้หวัดใหญ่หมูสามารถแพร่กระจายโดยการรับประทานเนื้อหมูที่ติดเชื้อดังกล่าว อย่างไรก็ตาม ควรรับประทานเนื้อหมูที่ปรุงสุกดี ความร้อนที่ระดับอุณหภูมิ 70 องศาเซลเซียสจะทำลายเชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่ได้
       
       **คนทั่วไปควรวิตกกังวลกับโรคไข้หวัดใหญ่หมูแค่ไหน?**
       
        เมื่อมีการค้นพบเชื้อไข้หวัดสายพันธุ์ใหม่ที่สามารถแพร่กระจายจากคนสู่คนได้ เราก็จำเป็นต้องเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิด เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดการแพร่ระบาดไปในอย่างกว้างขวาง ทั้งนี้องค์การอนามัยโลกได้เตือนว่า เมื่อพิจารณาจากกรณีผู้ป่วยที่พบในเม็กซิโกและสหรัฐฯ แล้ว มีแนวโน้มเป็นไปได้ว่าจะเกิดการแพร่ระบาดไปทั่วโลกด้วย จึงได้เน้นย้ำว่าสถานการณ์ดังกล่าวน่าวิตกอย่างยิ่ง แต่ขณะนี้ก็ยังเร็วเกินกว่าจะประเมินสถานการณ์ทั้งหมดได้อย่างถูกต้อง
       
        องค์การอนามัยโลกระบุว่าในปัจจุบันโลกมีแนวโน้มสูงที่จะเกิดการแพร่ระบาดของไข้หวัดใหญ่ครั้งใหญ่อีกหากนับตั้งแต่ปี 1968 เป็นต้นมา โดยมีระดับความเสี่ยงอยู่ที่ระดับ 3 จากมาตรวัดความเสี่ยงที่มีตั้งแต่ระดับ 1-6 โดยระดับ 6 คือเสี่ยงสูงสุด
       
        แม้จะยังไม่มีใครรู้ว่าการแพร่ระบาดของโรคจะรุนแรงมากที่สุดแค่ไหน แต่ผู้เชี่ยวชาญก็เตือนว่าอาจมีผู้คนหลายล้านคนทั่วโลกติดเชื้อดังกล่าว โดยก่อนหน้านี้ในปี 1918 เคยเกิดการแพร่ระบาดของไข้หวัดใหญ่สเปนมาแล้วครั้งหนึ่ง และมีผู้เสียชีวิตไปนับล้านคน โดยไข้หวัดดังกล่าวก็เกิดจากไวรัสสายพันธุ์ "เอช1เอ็น1" เช่นกัน
       
        อย่างไรก็ตาม การที่พบว่าผู้ป่วยในสหรัฐฯ ส่วนใหญ่มีอาการไม่รุนแรงก็เป็นข้อมูลที่น่าสนใจอย่างยิ่ง เพราะแสดงให้เห็นว่าระดับความรุนแรงของโรคที่แพร่ระบาดในเม็กซิโกนั้นอาจเป็นผลสืบเนื่องมาจากตัวแปรจำเพาะในเชิงภูมิศาสตร์บางอย่าง และอาจจะไม่ส่งผลให้เกิดการแพร่ระบาดรุนแรงไปทั่วโลกก็ได้
       
        ทว่าจากข้อมูลที่พบว่าผู้ป่วยส่วนใหญ่เป็นคนหนุ่มสาว ก็ชี้ให้เห็นถึงความผิดปกติบางอย่างด้วยเช่นกัน เพราะโดยปกติแล้วผู้สูงอายุมีแนวโน้มจะติดไข้หวัดใหญ่มากกว่า
       
       **จะรักษาอย่างไร มีวัคซีนป้องกันหรือไม่?**
       
       ทางการสหรัฐฯบอกว่ายารักษาไข้หวัดใหญ่ที่ใช้กันทั่วไปและมีประสิทธิภาพดีในขณะนี้ก็คือทามิฟลู (Tamiflu) และรีเลนซา (Relenza) แต่ยังไม่เป็นที่ชัดเจนว่าวัคซีนไข้หวัดใหญ่ที่มีอยู่ในปัจจุบันจะมีประสิทธิภาพเพียงพอในการป้องกันไวรัสหวัดหมูสายพันธุ์ใหม่นี้ได้หรือไม่ เพราะเป็นไวรัสที่มีลักษณะทางพันธุกรรมแตกต่างไปจากไวรัสสายพันธุ์อื่นๆ
       
        นักวิทยาศาสตร์ในสหรัฐฯ กำลังพัฒนาวัคซีนตัวใหม่อยู่ แต่คงต้องใช้เวลาอีกระยะหนึ่งกว่าที่จะนำออกมาใช้ได้จริง รวมทั้งผลิตยาให้ได้มากพอกับจำนวนผู้ป่วยที่คาดว่าจะมีจำนวนมหาศาลได้

 
 


หัวข้อ: Re: เดี๋ยวก็วัว ..เดี๋ยวก็นก ...คราวนี้หมู
เริ่มหัวข้อโดย: Army - รักในหลวงครับ ที่ เมษายน 27, 2009, 02:12:59 PM
สงสัยต้องทานมังสวิรัติกันแล้วมั้งครับ  :D


หัวข้อ: Re: เดี๋ยวก็วัว ..เดี๋ยวก็นก ...คราวนี้หมู
เริ่มหัวข้อโดย: indojeen@รักในหลวง ที่ เมษายน 27, 2009, 02:25:13 PM
 ::014:: อย่ามาเมืองไทยละกัน ::014::


หัวข้อ: Re: เดี๋ยวก็วัว ..เดี๋ยวก็นก ...คราวนี้หมู
เริ่มหัวข้อโดย: submachine -รักในหลวง- ที่ เมษายน 27, 2009, 03:02:00 PM
อืม..ม.ม..ม...
สงสัยต่อไปผมต้องกินแบบชาวท่าแร่.......


หัวข้อ: Re: เดี๋ยวก็วัว ..เดี๋ยวก็นก ...คราวนี้หมู
เริ่มหัวข้อโดย: PU45™ ที่ เมษายน 27, 2009, 03:10:30 PM
อืม..ม.ม..ม...
สงสัยต่อไปผมต้องกินแบบชาวท่าแร่.......

         กินแบบไหนครับน้า .....



หัวข้อ: Re: เดี๋ยวก็วัว ..เดี๋ยวก็นก ...คราวนี้หมู
เริ่มหัวข้อโดย: น้องโด่ง ที่ เมษายน 27, 2009, 03:12:45 PM
อืม..ม.ม..ม...
สงสัยต่อไปผมต้องกินแบบชาวท่าแร่.......

         กินแบบไหนครับน้า .....


:~) กินคล้ายๆกับชาวทุ่งเสี้ยวอำเภอจอมทองเลยครับ...............................  :~) ไอ้ตัวที่เห่าโฮ้งๆนั่นแหละครับพี่  :OO


หัวข้อ: Re: เดี๋ยวก็วัว ..เดี๋ยวก็นก ...คราวนี้หมู
เริ่มหัวข้อโดย: boon(เสือไบ) ที่ เมษายน 27, 2009, 03:20:18 PM
ผมคงต้องแยกห้องนอน กลัวจะติดหวัด ;D


หัวข้อ: Re: เดี๋ยวก็วัว ..เดี๋ยวก็นก ...คราวนี้หมู
เริ่มหัวข้อโดย: PU45™ ที่ เมษายน 27, 2009, 03:22:25 PM
ผมคงต้องแยกห้องนอน กลัวจะติดหวัด ;D

              ::007:: ::007::

            ลุงบุญนอนดึกนะครับ



หัวข้อ: Re: เดี๋ยวก็วัว ..เดี๋ยวก็นก ...คราวนี้หมู
เริ่มหัวข้อโดย: โซ้ยตี๋ ที่ เมษายน 27, 2009, 03:26:05 PM
ต่อไปคงต้อง..ปลูกพริก ปลูกกระเพรา เลี้ยงไก่ เอง

ไว้กินกระเพราไก่ ไข่ดาวครับ

 ;D ;D ;D


หัวข้อ: Re: เดี๋ยวก็วัว ..เดี๋ยวก็นก ...คราวนี้หมู
เริ่มหัวข้อโดย: INTERCEPTER - รักในหลวง ที่ เมษายน 27, 2009, 04:54:31 PM
เป็นแผนสกัดหมูแพงหรือเปล่าครับ....^_^


หัวข้อ: Re: เดี๋ยวก็วัว ..เดี๋ยวก็นก ...คราวนี้หมู
เริ่มหัวข้อโดย: ^-^ภูพาน~รักพ่อหลวง^-^ ที่ เมษายน 27, 2009, 05:10:21 PM
CP รวยเหมือนเดิมเพราะเลี้ยงในฟาร์มปิด ::004::


หัวข้อ: Re: เดี๋ยวก็วัว ..เดี๋ยวก็นก ...คราวนี้หมู
เริ่มหัวข้อโดย: tap206_รักในหลวง ที่ เมษายน 27, 2009, 06:31:45 PM
ที่กลัวไข้หวัดหมูกันมากก็เพราะว่า....
ไข้หวัดนกไม่สามารถติดต่อระหว่างคนกับคน ยกเว้นคนที่ภูมิต้านทานอ่อนแอ
หมูเป็นสัตว์ที่มี DNA ใกล้เคียงกับคนมากที่สุด....
ถ้าหากหมูติดเชื้อไข้หวัดนก(จากไ ก่หรือนก) และติดไข้หวัดจากคน
หมูก็จะเป็นตัวผสมเชื้อไข้หวัดสองชนิดเข้าด้วยกัน ทำให้มันกลายพันธ์
สามารถติดต่อระหว่างคนสู่คนได้
ก็จะมีคนตายมากกว่าไข้หวัดสเปน......หลังสงครามโลกครั้งที่ 2
ซึ่งมีคนตายประมาณ 20-40 ล้านคน....ซึ่งตอนนั้นการคมนาคมไม่สะดวกขนาดนี้



หัวข้อ: Re: เดี๋ยวก็วัว ..เดี๋ยวก็นก ...คราวนี้หมู
เริ่มหัวข้อโดย: jakrit97 - รักในหลวง - ที่ เมษายน 27, 2009, 11:27:30 PM
ดูข่าวล่าสุด เห็นข่าวบอกให้เรียกว่า "ไข้หวัดใหญ่ สายพันธุ์เมกซิโก" ครับ ....



หัวข้อ: Re: เดี๋ยวก็วัว ..เดี๋ยวก็นก ...คราวนี้หมู
เริ่มหัวข้อโดย: RUGER ที่ เมษายน 27, 2009, 11:44:06 PM
ขอบพระคุณทุกท่านที่ร่วมแสดงความคิดเห็นครับ  ::014:: 


หัวข้อ: Re: เดี๋ยวก็วัว ..เดี๋ยวก็นก ...คราวนี้หมู
เริ่มหัวข้อโดย: Southlander ที่ เมษายน 27, 2009, 11:49:37 PM
เฮ้อ ..... แล้วต่อไปกินอะไรดี  .... โชคดียังมี สัตว์น้ำ  .....อิอิอิ

อีกทีคือกินเจ หรือกินมังสวิรัติ  ผักล้วน กับโปรตีนเกษตร

หรือไม่ก็น้ำพริกผักจิ้ม ...อันนี้ผมชอบ แต่ขอสูตรเจ๊กกินได เผ็ดน้อย ๆ ผักเยอะ ๆ
สัตว์น้ำก็น่ากลัวว่าจะกินไปไม่ได้อีกนาน เดี๋ยวจะมีนักวิจัยจิตไม่นิ่งออกมาโวยวายว่ามีสารตะกั่ว ปรอทในสัตว์น้ำเพราะน้ำเน่าเสียซะอีก ผักหญ้าก็จะว่าฉีดยา ใช้ยาฆ่าแมลงจนเกิดอันตราย......ตายละโว้ยยย กินอะไรได้ล่ะนี่

กินเบียร์สิครับ บรรจุถูกอนามัย สารอาหารสูง ฆ่าเชื้อแล้ว แถมรสขมช่วยให้เข้าถึงสัจธรรมของการบริโภค ::002::

งั้นผมก็เข้าถึงสัจธรรมบ่อยแต่แปลก...ไม่เคยบรรลุซะที...เลยต้องเข้าซ้ำๆซากๆอยู่นั่นแหละ


หัวข้อ: Re: เดี๋ยวก็วัว ..เดี๋ยวก็นก ...คราวนี้หมู
เริ่มหัวข้อโดย: ทัดมาลา ขอเป็นข้ารองพระบาททุกชาติไป ที่ เมษายน 28, 2009, 02:59:24 AM
เฮ้อ ..... แล้วต่อไปกินอะไรดี  .... โชคดียังมี สัตว์น้ำ  .....อิอิอิ

อีกทีคือกินเจ หรือกินมังสวิรัติ  ผักล้วน กับโปรตีนเกษตร

หรือไม่ก็น้ำพริกผักจิ้ม ...อันนี้ผมชอบ แต่ขอสูตรเจ๊กกินได เผ็ดน้อย ๆ ผักเยอะ ๆ
สัตว์น้ำก็น่ากลัวว่าจะกินไปไม่ได้อีกนาน เดี๋ยวจะมีนักวิจัยจิตไม่นิ่งออกมาโวยวายว่ามีสารตะกั่ว ปรอทในสัตว์น้ำเพราะน้ำเน่าเสียซะอีก ผักหญ้าก็จะว่าฉีดยา ใช้ยาฆ่าแมลงจนเกิดอันตราย......ตายละโว้ยยย กินอะไรได้ล่ะนี่

กินเบียร์สิครับ บรรจุถูกอนามัย สารอาหารสูง ฆ่าเชื้อแล้ว แถมรสขมช่วยให้เข้าถึงสัจธรรมของการบริโภค ::002::

กลไกธรรมชาติทรงพลังจริงๆ....แต่เราก็ก็พยายามฝืนธรรมชาติ..ให้อยู่นานขึ้น

ยาซับซ้อนขึ้น เชื้อโรคก็พัฒนาตาม.....

ถ้าคิดในแง่ธรรมชาติ....ก็คือการจำกัดปริมาณของสิ่งมีชีวิตให้อยู่ในปริมาณที่เหมาะสม


.
.
.
.
.

นอกเรื่องไวรัส.....

แต่ถ้าอยากทานเบียร์ให้อร่อย.....

ใส่ใจมองข้างขวดสักนิด ดูวันเดือนปีที่ผลิต...

หลีกหนีขวดที่บรรจุเกิน 6 เดือน เพราะรสมันจะเปลี่ยนไป

เบียร์อายุน้อยๆ รสดีที่สุด.....ถ้าได้ในช่วง 1 เดือนละแหล่มเลย

ลองทดสอบด้วยลิ้นคุณเอง ด้วยยี่ห้อเดียวกันแต่ต่างล็อต...

รสจะตกลงเรื่อยๆตามอายุครับ......


ป.ล. มาแก้ไขที่พิมพ์ผิดครับ
เริ่มเบื่อ Google chrome เพราะพิมพ์ภาษาไทยเด้งไปเด้งมา


หัวข้อ: Re: เดี๋ยวก็วัว ..เดี๋ยวก็นก ...คราวนี้หมู
เริ่มหัวข้อโดย: RUGER ที่ เมษายน 28, 2009, 09:09:02 AM
เสริมเรื่องเบียร์นิดเดียว  ...... ส่วนใหญ่ผมจะเจอเย็นจัดคือแช่จนเป็นน้ำแข็ง

(ก่อนที่ขวดจะระเบิด ) อันนั้นก็ทำให้รสชาติเปลี่ยนไปหลังจากที่มันละลายแล้ว

 :D~ :D~ :D~ :D~ :D~ :D~ :D~ :D~ :D~ :D~ :D~ :D~ :D~ :D~ :D~


หัวข้อ: Re: เดี๋ยวก็วัว ..เดี๋ยวก็นก ...คราวนี้หมู
เริ่มหัวข้อโดย: พญาจงอาง +รักในหลวง+ ที่ เมษายน 28, 2009, 10:52:04 AM
..อิอิ.. ;D ::005:: ::007::


หัวข้อ: Re: เดี๋ยวก็วัว ..เดี๋ยวก็นก ...คราวนี้หมู
เริ่มหัวข้อโดย: submachine -รักในหลวง- ที่ เมษายน 28, 2009, 11:04:24 AM
ปกติ กินเบียร์จริงๆ  สูตรของฝรั่งจะไม่เย็นเป็นวุ้นครับ

บ้านเราอาจเมืองร้อน

บางคนใส่น้ำแข็งเข้าไปให้เบียร์กร่อยซะอีกแน่ะ


หัวข้อ: Re: เดี๋ยวก็วัว ..เดี๋ยวก็นก ...คราวนี้หมู
เริ่มหัวข้อโดย: Southlander ที่ เมษายน 28, 2009, 12:00:21 PM
ผมว่าคนเราวิตกจริตเรื่องสารพิษจนเกินไปในบางครั้ง..เหมือนพี่สาวแฟนคนหนึ่งไปเรียนรู้เรื่องเห็ดหลินจือมาจะกินอะไรก็กลัวสารพิษไปหมด...สุดท้ายไม่ค่อยกล้าซื้ออะไรมากิน....เลยกินแต่หยวกกล้วย
 ลองคิดดูนะครับอายุโดยเฉลี่ยของคนไทยในปัจจุบันมีแต่จะเพิ่มยืนยาวขึ้นจากเมื่อก่อนที่ราวๆ60ปี
เดียวนี้รู้สึกจะ80ปี(ข้อมูลไม่ยืนยันแต่ไกล้เคียง)
ถ้าอะไรๆก็มีพิษ...ตายกันเป็นเบือไปแล้วผมกินอะไรที่อยากกิน ไม่กลัว ไม่เลือก ตายช่างมัน ดีกว่าเลือกมากเรื่องกินเพราะกลัวตาย
แต่ขับมอไซค์ไปฟาดสะพานตายเฉย...ไม่คุ้ม...อิ  อิ  อิ






ความเห็นข้างๆคูๆผมนะครับ...โปรดใช้วิจารณญาญของท่านเองครับ


หัวข้อ: Re: เดี๋ยวก็วัว ..เดี๋ยวก็นก ...คราวนี้หมู
เริ่มหัวข้อโดย: โซ้ยตี๋ ที่ เมษายน 28, 2009, 12:11:39 PM

นอกเรื่องไวรัส.....

.............

อายุน้อยๆ รสดีที่สุด.................

ลองทดสอบด้วยลิ้นคุณเอง ...........................


 ;D ;D ;D ;D ;D ;D ;D ;D ;D ;D ;D ;D

แปลงสารเล่น หนุกๆ อย่าคิดมาก.......อิอิอิ


หัวข้อ: Re: เดี๋ยวก็วัว ..เดี๋ยวก็นก ...คราวนี้หมู
เริ่มหัวข้อโดย: ทัดมาลา ขอเป็นข้ารองพระบาททุกชาติไป ที่ เมษายน 28, 2009, 02:05:24 PM

นอกเรื่องไวรัส.....

.............

อายุน้อยๆ รสดีที่สุด.................

ลองทดสอบด้วยลิ้นคุณเอง ...........................


 ;D ;D ;D ;D ;D ;D ;D ;D ;D ;D ;D ;D

แปลงสารเล่น หนุกๆ อย่าคิดมาก.......อิอิอิ

คิดตามแล้ว......อิอิอิอิ.....คิดไม่ออกน้าโซ๋ยตี๋พูดเรื่องอะไรนะ


หัวข้อ: Re: เดี๋ยวก็วัว ..เดี๋ยวก็นก ...คราวนี้หมู
เริ่มหัวข้อโดย: Don Quixote ที่ เมษายน 28, 2009, 02:06:43 PM
...ขึ้นจากน้ำ เช็ดตัวให้แห้ง ทาแป้ง ลงน้ำมันเลยครับพี่ :D~
  ::007:: พาผมไปกินด้วยซิครับพี่

อ่า ปลาชุบแป้งทอดนะครับ มิใช่อะไรอื่น อิ อิ


หัวข้อ: Re: เดี๋ยวก็วัว ..เดี๋ยวก็นก ...คราวนี้หมู
เริ่มหัวข้อโดย: Don Quixote ที่ เมษายน 28, 2009, 02:09:01 PM
เฮ้อ ..... แล้วต่อไปกินอะไรดี  .... โชคดียังมี สัตว์น้ำ  .....อิอิอิ

อีกทีคือกินเจ หรือกินมังสวิรัติ  ผักล้วน กับโปรตีนเกษตร

หรือไม่ก็น้ำพริกผักจิ้ม ...อันนี้ผมชอบ แต่ขอสูตรเจ๊กกินได เผ็ดน้อย ๆ ผักเยอะ ๆ
สัตว์น้ำก็น่ากลัวว่าจะกินไปไม่ได้อีกนาน เดี๋ยวจะมีนักวิจัยจิตไม่นิ่งออกมาโวยวายว่ามีสารตะกั่ว ปรอทในสัตว์น้ำเพราะน้ำเน่าเสียซะอีก ผักหญ้าก็จะว่าฉีดยา ใช้ยาฆ่าแมลงจนเกิดอันตราย......ตายละโว้ยยย กินอะไรได้ล่ะนี่

กินเบียร์สิครับ บรรจุถูกอนามัย สารอาหารสูง ฆ่าเชื้อแล้ว แถมรสขมช่วยให้เข้าถึงสัจธรรมของการบริโภค ::002::

งั้นผมก็เข้าถึงสัจธรรมบ่อยแต่แปลก...ไม่เคยบรรลุซะที...เลยต้องเข้าซ้ำๆซากๆอยู่นั่นแหละ

จงมีความเพียร ครับ:)

แต่คงต้องระวังบรรลุไปทาง เมาขับจับคุม หรือ เมากลับรับมะเหงก นะครับ


หัวข้อ: Re: เดี๋ยวก็วัว ..เดี๋ยวก็นก ...คราวนี้หมู
เริ่มหัวข้อโดย: Don Quixote ที่ เมษายน 28, 2009, 02:11:47 PM
เฮ้อ ..... แล้วต่อไปกินอะไรดี  .... โชคดียังมี สัตว์น้ำ  .....อิอิอิ

อีกทีคือกินเจ หรือกินมังสวิรัติ  ผักล้วน กับโปรตีนเกษตร

หรือไม่ก็น้ำพริกผักจิ้ม ...อันนี้ผมชอบ แต่ขอสูตรเจ๊กกินได เผ็ดน้อย ๆ ผักเยอะ ๆ
สัตว์น้ำก็น่ากลัวว่าจะกินไปไม่ได้อีกนาน เดี๋ยวจะมีนักวิจัยจิตไม่นิ่งออกมาโวยวายว่ามีสารตะกั่ว ปรอทในสัตว์น้ำเพราะน้ำเน่าเสียซะอีก ผักหญ้าก็จะว่าฉีดยา ใช้ยาฆ่าแมลงจนเกิดอันตราย......ตายละโว้ยยย กินอะไรได้ล่ะนี่

กินเบียร์สิครับ บรรจุถูกอนามัย สารอาหารสูง ฆ่าเชื้อแล้ว แถมรสขมช่วยให้เข้าถึงสัจธรรมของการบริโภค ::002::

กลไกธรรมชาติทรงพลังจริงๆ....แต่เราก็ก็พยายามฝืนธรรมชาติ..ให้อยู่นานขึ้น

ยาซับซ้อนขึ้น เชื้อโรคก็พัฒนาตาม.....

ถ้าคิดในแง่ธรรมชาติ....ก็คือการจำกัดปริมาณของสิ่งมีชีวิตให้อยู่ในปริมาณที่เหมาะสม


.
.
.
.
.

นอกเรื่องไวรัส.....

แต่ถ้าอยากทานเบียร์ให้อร่อย.....

ใส่ใจมองข้างขวดสักนิด ดูวันเดือนปีที่ผลิต...

หลีกหนีขวดที่บรรจุเกิน 6 เดือน เพราะรสมันจะเปลี่ยนไป

เบียร์อายุน้อยๆ รสดีที่สุด.....ถ้าได้ในช่วง 1 เดือนละแหล่มเลย

ลองทดสอบด้วยลิ้นคุณเอง ด้วยยี่ห้อเดียวกันแต่ต่างล็อต...

รสจะตกลงเรื่อยๆตามอายุครับ......


ป.ล. มาแก้ไขที่พิมพ์ผิดครับ
เริ่มเบื่อ Google chrome เพราะพิมพ์ภาษาไทยเด้งไปเด้งมา

เฮ้อ ..... แล้วต่อไปกินอะไรดี  .... โชคดียังมี สัตว์น้ำ  .....อิอิอิ

อีกทีคือกินเจ หรือกินมังสวิรัติ  ผักล้วน กับโปรตีนเกษตร

หรือไม่ก็น้ำพริกผักจิ้ม ...อันนี้ผมชอบ แต่ขอสูตรเจ๊กกินได เผ็ดน้อย ๆ ผักเยอะ ๆ
สัตว์น้ำก็น่ากลัวว่าจะกินไปไม่ได้อีกนาน เดี๋ยวจะมีนักวิจัยจิตไม่นิ่งออกมาโวยวายว่ามีสารตะกั่ว ปรอทในสัตว์น้ำเพราะน้ำเน่าเสียซะอีก ผักหญ้าก็จะว่าฉีดยา ใช้ยาฆ่าแมลงจนเกิดอันตราย......ตายละโว้ยยย กินอะไรได้ล่ะนี่

กินเบียร์สิครับ บรรจุถูกอนามัย สารอาหารสูง ฆ่าเชื้อแล้ว แถมรสขมช่วยให้เข้าถึงสัจธรรมของการบริโภค ::002::

กลไกธรรมชาติทรงพลังจริงๆ....แต่เราก็ก็พยายามฝืนธรรมชาติ..ให้อยู่นานขึ้น

ยาซับซ้อนขึ้น เชื้อโรคก็พัฒนาตาม.....

ถ้าคิดในแง่ธรรมชาติ....ก็คือการจำกัดปริมาณของสิ่งมีชีวิตให้อยู่ในปริมาณที่เหมาะสม


.
.
.
.
.

นอกเรื่องไวรัส.....

แต่ถ้าอยากทานเบียร์ให้อร่อย.....

ใส่ใจมองข้างขวดสักนิด ดูวันเดือนปีที่ผลิต...

หลีกหนีขวดที่บรรจุเกิน 6 เดือน เพราะรสมันจะเปลี่ยนไป

เบียร์อายุน้อยๆ รสดีที่สุด.....ถ้าได้ในช่วง 1 เดือนละแหล่มเลย

ลองทดสอบด้วยลิ้นคุณเอง ด้วยยี่ห้อเดียวกันแต่ต่างล็อต...

รสจะตกลงเรื่อยๆตามอายุครับ......


ป.ล. มาแก้ไขที่พิมพ์ผิดครับ
เริ่มเบื่อ Google chrome เพราะพิมพ์ภาษาไทยเด้งไปเด้งมา


ขอบคุณครับ อือม์ ผมนั่งดื่มเบียร์ยี่ห้อเดียวกัน ล๊อตเดียวกัน ขวดที่ 1 - 2 - 3 ก็รู้สึกรสชาดต่างกันแล้วครับ กลมกล่อม - อร่อย - อร่อยมาก - จืด - ชืด - เบียร์ปลอมเรอะ? - อีกขวด! อิ อิ


หัวข้อ: Re: เดี๋ยวก็วัว ..เดี๋ยวก็นก ...คราวนี้หมู
เริ่มหัวข้อโดย: Don Quixote ที่ เมษายน 28, 2009, 02:14:18 PM
เข้าเรื่องหน่อยครับ ผมว่าสร้างเสริมสุขภาพแบบง่ายๆ ก็ดีครับ จะได้ลดความเสี่ยง นอนมากๆ เปิดหน้าต่างเป่าพัดลมระบายอากาศในห้องแอร์ทุกวัน กินวิตามินซี ฯลฯ


หัวข้อ: Re: เดี๋ยวก็วัว ..เดี๋ยวก็นก ...คราวนี้หมู
เริ่มหัวข้อโดย: Southlander ที่ เมษายน 28, 2009, 02:19:33 PM
ใช่ครับเบียร์ที่หอม นุ่ม ต้อเป็นเบียร์ใหม่ๆเท่านั้นครับ...โดยเราต้องไปซื้อยกลังมาจากห้าง...เท่านั้นกรั๊บ.ท่าน..กรั๊บ.
แนะแมคโคร..กรั๊บ...ของเขาหมุนเวียนเร็วไม่ค้างสต็อคนาน.....กรั๊บ.ท่าน..กรั๊บ.

จากการชิมหลากหลายยี่ห้อของ ไทย+เยอรมัน เบียร์สิงห์รสดั้งเดิมถือว่าได้รสชาตเหมือนเบียร์เยอรมันที่สุด.....กรั๊บ.ท่าน..กรั๊บ.



หัวข้อ: Re: เดี๋ยวก็วัว ..เดี๋ยวก็นก ...คราวนี้หมู
เริ่มหัวข้อโดย: Don Quixote ที่ เมษายน 28, 2009, 02:28:45 PM
โอ้ ยกลังเลยหรือกรั๊บ เป็นลังๆ ผมบริโภคไม่ค่อยทัน อิ อิ

สำหรับเบียร์สิงห์ ผมว่าถ้าการตลาดต่างประเทศดีๆ น่าไปได้ไกลในโลกกว้างมากกว่า ไทเกอร์ หรือ ซาน มิเกล นะกรั๊บ 


หัวข้อ: Re: เดี๋ยวก็วัว ..เดี๋ยวก็นก ...คราวนี้หมู
เริ่มหัวข้อโดย: Southlander ที่ เมษายน 28, 2009, 03:34:23 PM
โอ้ ยกลังเลยหรือกรั๊บ เป็นลังๆ ผมบริโภคไม่ค่อยทัน อิ อิ

สำหรับเบียร์สิงห์ ผมว่าถ้าการตลาดต่างประเทศดีๆ น่าไปได้ไกลในโลกกว้างมากกว่า ไทเกอร์ หรือ ซาน มิเกล นะกรั๊บ 

อิ...อิ...สิงห์มี บรูมาสเตอร์ (Brewmaster ) ชาวเยอรมัน ประจำโรงงานหลายคนขอรับ
และจากการสังเกตดูเพื่อนชาวเยอรมัน
ทุกคนเมื่อได้ชิมเบียร์สิงห์ ต่างยกนิ้วให้ว่า.เบียร์สิงห์ . (ซุปเปอร์) ซู๊ด ยอดครับ

ผมเคยเห็นเบียร์สิงห์ วางจำหน่ายในเยอรมันด้วย ไม่แน่ใจว่าผมเคยทราบมาว่า สิงห์ ไปตั้งโรงงานที่ เยอรมันด้วย

http://www.singha.com/

http://www.giggog.com/technology/cat8/news2722/

เหมือนกระทิงแดงที่ขี้เมาชาวออสเตรียมาเที่ยวพัทยาติดใจซื้อลิขสิทธ์ไปผลิตจนร่ำรวย

ซาน มิเกล ของฟิลลิปปินส์ครับมาซื้อโรงงานเก่าของไทยที่เคยผลิต คลอสเตอร์ ตราหัวสิงห์

ที่ฟิลลิปปินส์เป็นบริษัทใหญ่แต่มาเมืองไทยตีของเราไม่แตกหรอก


หัวข้อ: Re: เดี๋ยวก็วัว ..เดี๋ยวก็นก ...คราวนี้หมู
เริ่มหัวข้อโดย: JOKER48111 **รักเมืองไทย_รักในหลวง** ที่ เมษายน 28, 2009, 04:21:16 PM
น่ากลัวนะครับยังไงแล้วพี่ๆน้องๆชาวเวปอาวุธปืนก็รักษาสุขภาพด้วยนะครับ


หัวข้อ: Re: เดี๋ยวก็วัว ..เดี๋ยวก็นก ...คราวนี้หมู
เริ่มหัวข้อโดย: ตึก ที่ เมษายน 28, 2009, 07:38:31 PM
ที่เป็นๆมามีแต่ของที่คนบริโภคเป็นส่วนใหญ่ ต่อไปต้องเป็นไข้หวัดปลาแน่เลย....ว่าแต่ปลาเป็นสัตว์เลือดเย็นจะเป็นหวัดได้ไงเนี่ย ::010::


หัวข้อ: Re: เดี๋ยวก็วัว ..เดี๋ยวก็นก ...คราวนี้หมู
เริ่มหัวข้อโดย: coda ที่ เมษายน 28, 2009, 07:40:42 PM
...ไม่ได้น่ากลัวมากกว่าหวัดนก หรือซาร์ส ครับ เพียงแต่ว่าคราวนี้เกิดในเม๊กซิโก และสหรัฐ ข่าวเลยมากหน่อยตามความกลัวของประชาชนสหรัฐ


หัวข้อ: Re: เดี๋ยวก็วัว ..เดี๋ยวก็นก ...คราวนี้หมู
เริ่มหัวข้อโดย: TOTO*รักในหลวง ที่ เมษายน 28, 2009, 10:55:00 PM
ไข้หวัดแม๊กซิโก   อยู่ใกล้ๆ  ประเทศนิคารากัว  ถ้าทักษิณ ไปแถวๆนั้น   คนไทย มี เฮ..ครับ


หัวข้อ: Re: เดี๋ยวก็วัว ..เดี๋ยวก็นก ...คราวนี้หมู
เริ่มหัวข้อโดย: SOAP47 รักในหลวง ที่ เมษายน 29, 2009, 03:52:53 AM
ธรรมดา ครับ คนเรายังปรับตัวเพื่ออยู่รอด แล้วทำไม่เชื้อโรคมันจะไม่ทำมั่งละครับ ไม่ค่อยน่ากลัวเท่าไหร่ ถ้าเป็นอีโบล่าที่มีระยะฟักตัวนานๆล่ะน่ากลัวครับ
คือกลัวจะรู้ว่าติดเชื้อก็แพร่ให้คนอื่นไปหลายคนแล้ว


หัวข้อ: Re: เดี๋ยวก็วัว ..เดี๋ยวก็นก ...คราวนี้หมู
เริ่มหัวข้อโดย: จอยฮันเตอร์ ที่ เมษายน 29, 2009, 07:48:26 AM
ข่าวออกวันนี้ว่า หากเกิดการระบาดในไทย เรามียาป้องกันเพียง 400,000 ชุด ที่เหลืออีก 63,600,000 คน ก็ตัวใครตัวมันครับ ::004::


หัวข้อ: Re: เดี๋ยวก็วัว ..เดี๋ยวก็นก ...คราวนี้หมู
เริ่มหัวข้อโดย: PU45™ ที่ เมษายน 29, 2009, 07:52:33 AM
ข่าวออกวันนี้ว่า หากเกิดการระบาดในไทย เรามียาป้องกันเพียง 400,000 ชุด ที่เหลืออีก 63,600,000 คน ก็ตัวใครตัวมันครับ ::004::

           คิดไปใย ... คิดมากไปเซ็กส์เสื่อมนะเออ



หัวข้อ: Re: เดี๋ยวก็วัว ..เดี๋ยวก็นก ...คราวนี้หมู
เริ่มหัวข้อโดย: จอยฮันเตอร์ ที่ เมษายน 29, 2009, 08:05:20 AM
ข่าวออกวันนี้ว่า หากเกิดการระบาดในไทย เรามียาป้องกันเพียง 400,000 ชุด ที่เหลืออีก 63,600,000 คน ก็ตัวใครตัวมันครับ ::004::

           คิดไปใย ... คิดมากไปเซ็กส์เสื่อมนะเออ


ผมเป็นคนขี้อาย คงจะยากครับลุงปู ::007:: ::007:: ::007::


หัวข้อ: Re: เดี๋ยวก็วัว ..เดี๋ยวก็นก ...คราวนี้หมู
เริ่มหัวข้อโดย: submachine -รักในหลวง- ที่ เมษายน 29, 2009, 08:09:20 AM
...ไม่ได้น่ากลัวมากกว่าหวัดนก หรือซาร์ส ครับ เพียงแต่ว่าคราวนี้เกิดในเม๊กซิโก และสหรัฐ ข่าวเลยมากหน่อยตามความกลัวของประชาชนสหรัฐ
usa เป็นhubการบินของแถวนั้น ไปทั่วโลกครับ


หัวข้อ: Re: เดี๋ยวก็วัว ..เดี๋ยวก็นก ...คราวนี้หมู
เริ่มหัวข้อโดย: Don Quixote ที่ เมษายน 29, 2009, 09:31:01 AM
โอ้ ยกลังเลยหรือกรั๊บ เป็นลังๆ ผมบริโภคไม่ค่อยทัน อิ อิ

สำหรับเบียร์สิงห์ ผมว่าถ้าการตลาดต่างประเทศดีๆ น่าไปได้ไกลในโลกกว้างมากกว่า ไทเกอร์ หรือ ซาน มิเกล นะกรั๊บ 

อิ...อิ...สิงห์มี บรูมาสเตอร์ (Brewmaster ) ชาวเยอรมัน ประจำโรงงานหลายคนขอรับ
และจากการสังเกตดูเพื่อนชาวเยอรมัน
ทุกคนเมื่อได้ชิมเบียร์สิงห์ ต่างยกนิ้วให้ว่า.เบียร์สิงห์ . (ซุปเปอร์) ซู๊ด ยอดครับ

ผมเคยเห็นเบียร์สิงห์ วางจำหน่ายในเยอรมันด้วย ไม่แน่ใจว่าผมเคยทราบมาว่า สิงห์ ไปตั้งโรงงานที่ เยอรมันด้วย

http://www.singha.com/

http://www.giggog.com/technology/cat8/news2722/

เหมือนกระทิงแดงที่ขี้เมาชาวออสเตรียมาเที่ยวพัทยาติดใจซื้อลิขสิทธ์ไปผลิตจนร่ำรวย

ซาน มิเกล ของฟิลลิปปินส์ครับมาซื้อโรงงานเก่าของไทยที่เคยผลิต คลอสเตอร์ ตราหัวสิงห์

ที่ฟิลลิปปินส์เป็นบริษัทใหญ่แต่มาเมืองไทยตีของเราไม่แตกหรอก


ขอบคุณครับ อ้าว แล้วคลอสเตอร์ยังมีโรงงานในไทยหรือเปล่าครับ ที่จริงผมว่าจืดไปหน่อย แล้วไม่เคยเห็นที่อื่นเลยครับ ได้ข่าวว่าซานมิเกลขายดีในสเปนด้วย พวกเครือเดียวกัน จุดนี้เมืองไทยเสียเปรียบอดีตอาณานิคม อิ อิ


หัวข้อ: Re: เดี๋ยวก็วัว ..เดี๋ยวก็นก ...คราวนี้หมู
เริ่มหัวข้อโดย: Southlander ที่ เมษายน 29, 2009, 10:05:55 AM
โอ้ ยกลังเลยหรือกรั๊บ เป็นลังๆ ผมบริโภคไม่ค่อยทัน อิ อิ

สำหรับเบียร์สิงห์ ผมว่าถ้าการตลาดต่างประเทศดีๆ น่าไปได้ไกลในโลกกว้างมากกว่า ไทเกอร์ หรือ ซาน มิเกล นะกรั๊บ 

อิ...อิ...สิงห์มี บรูมาสเตอร์ (Brewmaster ) ชาวเยอรมัน ประจำโรงงานหลายคนขอรับ
และจากการสังเกตดูเพื่อนชาวเยอรมัน
ทุกคนเมื่อได้ชิมเบียร์สิงห์ ต่างยกนิ้วให้ว่า.เบียร์สิงห์ . (ซุปเปอร์) ซู๊ด ยอดครับ

ผมเคยเห็นเบียร์สิงห์ วางจำหน่ายในเยอรมันด้วย ไม่แน่ใจว่าผมเคยทราบมาว่า สิงห์ ไปตั้งโรงงานที่ เยอรมันด้วย

http://www.singha.com/

http://www.giggog.com/technology/cat8/news2722/

เหมือนกระทิงแดงที่ขี้เมาชาวออสเตรียมาเที่ยวพัทยาติดใจซื้อลิขสิทธ์ไปผลิตจนร่ำรวย

ซาน มิเกล ของฟิลลิปปินส์ครับมาซื้อโรงงานเก่าของไทยที่เคยผลิต คลอสเตอร์ ตราหัวสิงห์

ที่ฟิลลิปปินส์เป็นบริษัทใหญ่แต่มาเมืองไทยตีของเราไม่แตกหรอก


ขอบคุณครับ อ้าว แล้วคลอสเตอร์ยังมีโรงงานในไทยหรือเปล่าครับ ที่จริงผมว่าจืดไปหน่อย แล้วไม่เคยเห็นที่อื่นเลยครับ ได้ข่าวว่าซานมิเกลขายดีในสเปนด้วย พวกเครือเดียวกัน จุดนี้เมืองไทยเสียเปรียบอดีตอาณานิคม อิ อิ

จริงๆคลอสเตอร์เป็นเบียร์พรีเมี่ยมระดับดีมีบรรดาแฟนานุแฟนติดใจอยู่เดียวนี้ไม่ทราบยังผลิตอยู่ไม๊หรือใครมาซื้อลิขสิทธิ์ไปผลิตขายต่อ
คลอสเตอร์สดุดขาตัวเองล้มครับสมัยก่อนตอนที่ยังขายดีนั้นเขาทำการตลาดแบบดิสทริบิวเตอร์ต้องวิ่งมาหาโรงงานเองเพื่อเอาเบียร์ไปขาย
ภายหลังมีเบียร์ใหม่หลายยี่ห้อเปิดตัวในบ้านเราเขามีเซลล์วิ่งเข้าดิสทริบิวเตอร์เองทั้งขายพ่วง ขายลด เสนอผลประโยชน์มากกว่า
ก็เป็นธรรมดาที่ต้องล้มหายตายไปเมื่อไม่สามารถปรับตัวเข้าแข่งขันได้ทัน