หัวข้อ: ขอความรู้เกี่ยวกับ DOG TAG คล้องคอหน่อยนะครับ เริ่มหัวข้อโดย: AEY@1911 ที่ พฤษภาคม 13, 2009, 04:59:55 PM คืออยากทราบว่าป้าย DOG TAG ที่ทหาร คล้องคอ มี 2 อัน ไม่ทราบว่าสองแผ่นนั้นโดยทั่วไปใส่ข้อมูลอะไรไว้บ้างครับ....ถ้าใครมีรูปตัวอย่างขอชมหน่อยนะครับ ขอบคุณมากครับ.. ::014::
หัวข้อ: Re: ขอความรู้เกี่ยวกับ DOG TAG คล้องคอหน่อยนะครับ เริ่มหัวข้อโดย: Audy452 ♥ รักในหลวง ที่ พฤษภาคม 13, 2009, 06:26:37 PM เมื่อวานผมได้ของสุนัขมา 2 อันครับ....เทศบาลแถมมาให้พร้อมวัคซีนครับ
หัวข้อ: Re: ขอความรู้เกี่ยวกับ DOG TAG คล้องคอหน่อยนะครับ เริ่มหัวข้อโดย: PU45™ ที่ พฤษภาคม 13, 2009, 06:29:33 PM หมดกัน น้าไก่อู ::007:: ::007::
หัวข้อ: Re: ขอความรู้เกี่ยวกับ DOG TAG คล้องคอหน่อยนะครับ เริ่มหัวข้อโดย: PU45™ ที่ พฤษภาคม 13, 2009, 06:32:04 PM (http://www.khonnaruk.com/images/announce/kapook/35-dog-tag.jpg) dog tag
ประวัติเอกบุคคลบนแผ่นป้ายเหล็ก ฮิปฮอปสร้างกระแสฮิต dog tag "สมัยสงครามเวียดนาม ทหารสหรัฐฯทุกคนนำไปแขวนห้อยคอ ๒ แผ่นและที่ผูกไว้กับรองเท้าทั้ง ๒ ข้าง ข้างละอัน รวมทั้งหมดมีติดตัวอยู่ ๔ แผ่น เป็นวิธีการแก้ไขปัญหาหากเกิดกรณีทหารถูกสะเก็ดระเบิด จำนวนทหารที่ตายในสมรภูมิมีเป็นจำนวนมาก การสู้รบยังติดพัน ไม่สามารถจัดส่งศพทหารที่เสียชีวิตกลางสมรภูมิสู่มาตุภูมิได้ จึงทำการนำแผ่นด็อกแท็กใส่ไว้ในปาก ๑ แผ่นพร้อมกับนำอีกแผ่นกลับประเทศแม่" "สำหรับ ๒ แผ่นที่ผูกแนบกับเชือกผูกรองเท้า ใช้ในกรณีที่ด็อกแท็กห้อยคอหลุดร่วง จากการถูกทำลายของฝ่ายตรงข้าม นได้รับความเสียหาย จะใช้ ๒ อันที่เหลือแยกส่งกลับและใส่ไว้ในปากของทหารที่เสียชีวิต หากมีโอกาสกลับไปด็อกแท็กที่ใส่ไว้ในปาก ซึ่งสลักหมายเลขประจำตัวของทหารแต่ละนาย กลุ่มเลือด สังกัดช่วยให้สามารถล่วงรู้ได้ว่าศพที่ฝังอยู่ใต้ผืนดินบริเวณนั้นคือใคร ทหารจำนวนมาก ห้อยด็อกแท็ก ๒ อัน เวลากระทบกันก่อให้เกิดเสียง จึงมีการนำเอาขอบยางมาหุ้มไว้กันเสียงกระแทก" "บ้านเราทหารไม่เคยมีป้ายแขวนจริงๆจังๆ บางโอกาส เท่าที่เคยเห็นและเคยได้ยินมาว่าสมัยสงครามโลก รบกับญี่ปุ่น ทหารจะแขวนแผ่นป้ายวงกลม เจาะรู ๒ ข้างซ้ายขวา ข้างในสลักปี และหมายเลขประจำตัวทหารแต่ละนาย กึ่งกลางทำเป็นรอยประ สามารถหักครึ่ง แยกใส่ปากและอีกส่วนส่งกลับคืนสังกัดทหารได้" หัวข้อ: Re: ขอความรู้เกี่ยวกับ DOG TAG คล้องคอหน่อยนะครับ เริ่มหัวข้อโดย: PU45™ ที่ พฤษภาคม 13, 2009, 06:32:35 PM อำนวย โสมสำราญ เจ้าของร้านรับทำป้าย dogtag โครงการที่ ๑๒ วัย ๔๕ ปี ทำมานาน ๑๔ ปี เริ่มต้นตั้งแต่ปี ๒๕๓๔ ควบคู่กับการเปิดร้านขายเครื่องอุปกรณ์สนาม แคมปิ้ง เล่าที่มาของด็อก แท็กซึ่งถูกนำมาใช้ในกองทัพทหารสหรัฐฯ มานาน สำหรับบ้านเรายังไม่เป็นที่นิยม ยกให้เป็นเรื่องของความสำคัญมากนัก
อำนวยกล่าวถึงคุณประโยชน์เพิ่มเติมจากเดิมต่อไปว่านอกจากจะสลักชื่อ ที่อยู่ และหมายเลขบัตรประจำตัวประชาชนแล้ว สำหรับบุคคลที่มีโรคประจำตัวต่างๆ ในกรณีที่เกิดเหตุฉุกเฉิน เจ้าตัวไม่สามารถเอ่ยปากขอความช่วยเหลือได้ ผู้ที่พบเห็นป้ายสามารถให้ความช่วยเหลือได้ทันที หรือแพทย์สามารถจ่ายยาที่ไม่เสี่ยงต่อการแพ้ยาให้ได้ทันที ถ้ามีคนตาย สภาพศพจำไม่ได้ เหลือแต่โครงกระดูก ถ้ามีป้ายสามารถระบุได้ว่าคนคนนั้นเป็นใคร มาจากไหน อำนวยแจงข้อดีต่อไปว่าเอื้อประโยชน์ได้หลายทาง บางคนเอาไปทำเป็นพวงกุญแจ อย่างผมเองทำเป็นพวงกุญแจ เคยทำหาย แล้วมีคนโทรศัพท์ให้ไปรับคืน ถือเป็นประโยชน์อีกอย่าง บางคนที่บ้านมีรถหลายคันนำไปห้อยติดกุญแจรถ สลักบอกชื่อรถ ทะเบียน เพื่อให้จำได้ง่าย บางคนทำเป็นพวงกุญแจรีสอร์ต บางคนสั่งทำเป็นป้ายคล้องกล้อง ทำเป็นป้ายรหัสตู้เซฟ ป้ายสลักหมายเลขบัญชี แหวกแนวหน่อยทำเป็นต่างหู สร้อยข้อมือ "ต่างประเทศให้ความสำคัญสำหรับทหาร คนทั่วไปทำได้แต่ร้านรับทำมีน้อย และมีราคาแพง พอมาเห็นในบ้านเรา ชาวต่างประเทศส่วนใหญ่จึงให้ความสนใจ สั่งออเดอร์กันครั้งละมากๆ ส่วนใหญ่นิยมตอกเป็นประวัติของคนๆนั้น ตั้งแต่ชื่อ นามสกุล บัตรประจำตัว กลุ่มเลือด คนไทยแค่เดินเข้ามามองๆ บางคนมองว่าทำไปทำไม เป็นการแช่งตัวเองเปล่าๆ" หัวข้อ: Re: ขอความรู้เกี่ยวกับ DOG TAG คล้องคอหน่อยนะครับ เริ่มหัวข้อโดย: PU45™ ที่ พฤษภาคม 13, 2009, 06:33:20 PM (http://www.khonnaruk.com/images/announce/kapook/35-dog-tag2.jpg)
"ป้ายทหารบอกชื่อยศ นามสกุล กลุ่มเลือด วันเดือนปีเกิด หมายเลขบัตรประจำตัว สังกัดทหารมีหมายเลขประจำตัว ๑๐ ตัว คนที่มาสั่งทำป้ายทั่วไปไม่มีแบบเฉพาะ เขียนได้ ๕ บรรทัด มีทั้งเขียนเป็นกลอน หมายเลขบัตรประจำตัวประชาชน มีหมายเลขทั้งหมด ๑๓ ตัว แผ่นป้ายสามารถรองรับตัวอักษรได้มากที่สุด ๑๖ ตัว แผ่นเปล่าแผ่นละ ๖๐ บาท แผ่นที่ตอกแผ่นแล้ว ๑๒๐ บาท มีขอบยางเพิ่มขอบละ ๒๐ บาท " "ที่มีมาแปลกๆ เขียนเป็นวลีต่างๆ อย่างบางคน ให้สลักชื่อ บรรทัดถัดมาเขียนว่าอั้งยี่ ยากูซ่า แมงดาเห็นแล้วก็อดขำไม่ได้ บางคนสลักเป็นวลีสุดฮิตอย่าง ไอ เลิฟ ยู หรืออาจจะสลักเป็น ฟอร์เก็ต มี นอตก็มี" "เหมาะสำหรับเด็กและคนแก่ทำห้อยคอ เผื่อเวลาหลงทาง ถ้าไม่โดนระเบิด หรือสูญหายสามารถเก็บไว้ได้นาน เพราะเป็นสเตนเลสไม่เป็นสนิม เดี๋ยวนี้ทำตามแฟชั่น อย่างเด็กฮิปฮอป เล่นสเกต นำไปแขวนห้อยเป็นเครื่องประดับไปแล้ว เป็นอมตะไม่มีวันตาย เหมือนกางกางยีนส์ ตราบใดที่ยังมีทหารอยู่" ถัดจากโครงการที่ ๑๒ เดินตามทางจนถึงโครงการที่ ๑๔ ซึ่งเป็นที่ตั้งของร้ายทำป้ายแขวนคอ หรือด็อกแท็กอีกร้านหนึ่ง ระวิทย์ สุรสกุลวัฒน์ เจ้าของร้านวัย ๓๖ ปี เปิดร้านมาได้ ๕ ปีโดยก่อนหน้านี้ขายอุปกรณ์สนามควบคู่ เมื่อได้งานประจำจึงเหลือเพียงหันมาทำป้ายด็อกแท็ก ระวิทย์ ชายหนุ่มรูปร่างบึกบึน ท่าทางดุดันพูดถึงกระแสความนิยมด็อกแท็กในบ้านเราเป็นที่ต้องการอยู่เรื่อยๆ กระทั่ง ๓ เดือนที่ผ่านมาด็อกแท็กได้รับความนิยมอย่างมากในกลุ่มเด็กฮิปฮอป "ด็อกแท็กบ่งบอกความเป็นตัวคนทำ นิยมมากว่า ๑๐ ปี ยังนิยมเรื่อยๆ ไม่ตกรุ่น ๓๐-๔๐ ปียังอยู่ได้ ส่วนใหญ่ไม่ใช่เป็นแฟชั่น นึกถึงตัวเอง สลักชื่อ-สกุล ถ้าเป็นลมล้มช่วยตัวเองไม่ได้คนที่มาช่วยดูเห็นแผ่นช่วยแก้ไขได้ ๓ เดือนที่ผ่านมาเด็กฮิปฮอป แนวอัลเทอร์นิยม กระแสมาจากศิลปินเพลงสไตล์ลินคินปาร์ค ทำให้มีลูกค้ากลุ่มนี้เข้ามา แต่ก่อนทำเป็นแฟชั่นแค่ ๑๐% เดี๋ยวนี้เพิ่มเป็น ๓๕% ปกติทำได้วันละ ๓๐ ชุดช่วงหนังจีไอเจนฟีดแบ็กแรงเพิ่มเป็น ๘๐ ชุด" "เด็กวัยรุ่น คนบางกลุ่มไม่เข้าใจในการใช้งาน ไม่รู้ว่าเดิมมีที่มาที่ไปยังไง ใช้ในคนกลุ่มไหน รู้แค่ว่าในแผ่นเป็นชื่อบ่งบอกความเป็นตัวของคนๆนั้นเอง อย่างสึนามิไม่ต้องไปตรวจดีเอ็นเอ ลดค่าใช้จ่าย ความยุ่งยากในการพิสูจน์ บางทีไม่อยากพูดถึงสึนามิปวดใจ และไม่ได้คิดว่าจะเอาโอกาสจากตรงนั้นมาหากิน หรืออย่างเดินไปแพ้แดด คนอื่นเห็นสามารถช่วยได้ แพทย์รู้ว่าแพ้ยาอะไรสามารถช่วยได้จุดนี้" "ลูกค้าเฉลี่ยอายุไม่ต่างกัน ผู้ปกครองทำให้ลูก วัยรุ่นสั่งทำเป็นป้ายรับน้อง สถานีวิทยุทำแจกแฟนเพลง ทำไปแขวนให้สุนัข เรียกว่ามีทุกกลุ่มทุกวัย ราคาเทียบต่างประเทศถูกกว่า อันละ ๑๘๐ บาท ชุดใหญ่มี ๒ อันราคา ๒๘๐ บาท ราคาครึ่งต่อครึ่ง ชีวิตเค้าประโยชน์ของคนคือกำไรของผม ไม่เยอะมาก ถามว่าคุ้มไหมถ้าไม่หาย เก็บได้ตลอดชีวิต" หัวข้อ: Re: ขอความรู้เกี่ยวกับ DOG TAG คล้องคอหน่อยนะครับ เริ่มหัวข้อโดย: PU45™ ที่ พฤษภาคม 13, 2009, 06:33:41 PM อำนวยบอกว่าอุปกรณ์นำเข้าจากอเมริกาเท่านั้น บ้านเราหรือแถบเอเชียไม่มีผลิต ราคาเครื่องละ ๔,๕๐๐ เหรียญ มีหลายรุ่น ทั้งแบบกะทัดรัด สามารถถอดเป็นชิ้นยกไปไหนต่อไหนได้ หรือแบบโบราณยกทีใช้คนช่วย ๔-๕ คน ส่วนระวิทย์บอกว่าอุปกรณ์ของเขาตกเครื่องละแสนห้า มองระยะสั้นถือว่าไม่คุ้ม มองผลระยะยาว เครื่องเหล็กอยู่ได้นาน เมื่อถามว่าด็อกแท็กมีที่มาอย่างไร ระวิทย์คาดเดาว่าน่าจะเป็นแสลง มาจากครั้งแรกใช้กับสุนัข ต่อมาหน่วยทหารนำไปใช้ จึงนำมาเปรียบเหมือนป้ายห้อยคอสุนัข
"จุดประสงค์ให้ทหารออกไปรบ เผื่อได้รับบาดเจ็บ พกติดตัว ๓ แผ่น ห้อยคอ ๒ แผ่นอีกแผ่นแนบกับรองเท้าบูท เผื่อถูกฝ่ายตรงข้ามทำลายสถานะป้ายบ่งบอก ในหมู่ทหารสหรัฐฯ จะรู้กันว่าถ้าป้าย ๒ แผ่นห้อยคอถูกทำลาย ยังเหลืออีกแผ่นร้อยแนบไว้กับเชือกรองเท้า ทหารบ้านเราเท่าที่ผ่านมาใช้ในเวลาไปราชการสงครามที่เกาหลี เวียดนาม ลาวและล่าสุดที่สงครามอิรัก องค์การสหประชาชาติเป็นฝ่ายจัดทำให้ สุนัขสงครามก็ใส่ ผู้คุมสุนัขเสียชีวิต สุนัขหลงทางพอเห็นคนในชุดทหาร ความเคยชินจากการถูกฝึก มักวิ่งเข้าหา พอทหารเห็นป้าย ช่วยให้รู้ว่าเป็นสุนัขสังกัดกรมไหน" หัวข้อ: Re: ขอความรู้เกี่ยวกับ DOG TAG คล้องคอหน่อยนะครับ เริ่มหัวข้อโดย: salinee19 ที่ พฤษภาคม 13, 2009, 06:33:54 PM หมดกัน น้าไก่อู ::007:: ::007:: ::011:: ::011:: ::011:: ::011:: ::011:: ::011:: ยิ้มอย่างเดียว ::011:: ::011:: ::011:: ::011:: ::011:: หัวข้อ: Re: ขอความรู้เกี่ยวกับ DOG TAG คล้องคอหน่อยนะครับ เริ่มหัวข้อโดย: PU45™ ที่ พฤษภาคม 13, 2009, 06:34:42 PM ที่มา และ อ่านต่อที่นี่ http://www.khonnaruk.com/html/announce/kapook/35-dog-tag.html ขอบคุณครับ หัวข้อ: Re: ขอความรู้เกี่ยวกับ DOG TAG คล้องคอหน่อยนะครับ เริ่มหัวข้อโดย: Padet ที่ พฤษภาคม 13, 2009, 06:36:45 PM ในป้ายจะมีข้อมูลดังนี้ - ชื่อ นามสกุล - หมายเลขประจำตัว - ศาสนา - กลุมโลหิต -สังกัด คนหนึ่งมี 2 แผ่น หัวข้อ: Re: ขอความรู้เกี่ยวกับ DOG TAG คล้องคอหน่อยนะครับ เริ่มหัวข้อโดย: Audy452 ♥ รักในหลวง ที่ พฤษภาคม 13, 2009, 06:47:18 PM หมดกัน น้าไก่อู ::007:: ::007:: :~) ผมผิดไปแล้วครับลุงปู ::014:: หัวข้อ: Re: ขอความรู้เกี่ยวกับ DOG TAG คล้องคอหน่อยนะครับ เริ่มหัวข้อโดย: a lone wolf ที่ พฤษภาคม 13, 2009, 07:18:38 PM ผมทำห้อยคอไว้เหมือนกัน แต่ว่ามีแค่อันเดียว
จุดประสงค์ 1. เอาเท่ห์ มันดูแมนดีครับ 2. คือถ้าเดินทางด้วยเครื่องบินแล้วเครื่องดันตก...หากมันไม่กระเด็นหลุดจากคอไปเสียก่อน เมียผมจะได้เสียเวลาไม่มากนักตอนที่ต้องดีลกับสายการบิน หรือเจ้าหน้าที่พิสูจน์เอกลักษณ์ศพ (ตั้งใจไว้จริงๆเลยนะครับเนี่ย) เพิ่งรู้เหมือนกันจากข้อมูลที่โพสต์ไว้ว่าที่ทหารห้อยคอไว้สองอันมันเหมือนกันแต่อันหนึ่งเอาไว้ใส่ปาก...ตอนหาไม่แล้ว ขอบคุณครับ หัวข้อ: Re: ขอความรู้เกี่ยวกับ DOG TAG คล้องคอหน่อยนะครับ เริ่มหัวข้อโดย: JUNGLE ที่ พฤษภาคม 13, 2009, 09:40:49 PM เมื่อวานผมได้ของสุนัขมา 2 อันครับ....เทศบาลแถมมาให้พร้อมวัคซีนครับ แบบนี้... เด็กๆ แถวโรงเรียนผมมันไปแย่งมาจากคอหมาเลยครับ... แล้วเอามาห้อยคอตัวเอง... เรื่องจริงเลยครับ... ;D ;D ;D ...ส่วน Dog tag แบบที่น้า PU45 โพสต์ไว้... ตั้งใจไว้ว่าถ้ามีเงินเหลือเก็บ... จะไปสั่งร้านทองทำเป็นทองคำทั้งแผ่นทั้งสร้อย... แล้วคล้องคอแทนสร้อยทองครับ... ถ้าเหลือน้อยหน่อยก็อาจเปลี่ยนเป็นเงินแท้... แต่ตอนนี้... วาสนาได้แค่สแตนเลสครับ... ::005:: ::005:: ::005:: หัวข้อ: Re: ขอความรู้เกี่ยวกับ DOG TAG คล้องคอหน่อยนะครับ เริ่มหัวข้อโดย: -Joke- ที่ พฤษภาคม 13, 2009, 10:11:03 PM เครดิตโดย เวป taharn.net ครับ
Dog tags ป้ายห้อยคอทหารเขาไม่ได้ใช้ห้อยคอเพื่อความเท่ย์เพียงอย่างเดียว ............... หลาย ๆ ท่านที่เคยชมภาพยนต์สงครามของอเมริกันตั้งแต่เรื่องที่เกี่ยวข้องกับสงครามโลกครั้งที่ ๒ เป็นต้นมาจะเห็นว่ามีหลายตอนที่ท่านจ ะสังเกตุเห็นสิ่งที่ห้อยคอทหารอเมริกันอยู่ หรือสำหรับท่านที่เป็นทหารบางท่านอาจจะเคยเห็นของจริงมาแล้ว โดยมีลักษณ ะเป็นแผ่นสี่เหลี่ยมกว้างประมาณ ๑ นิ้ว ยาว ๒ นิ้ว มี ๒ แผ่น และมีสร้อยที่ลักษณะเป็นเม็ด ๆ มาต่อกันเส้นแรกเอาไว้คล้องคอ โดยมีป้ายแขวนอยู่ด้วย ๑ อัน ส่วนอีก ๑ อันนั้นจะแขวนกับสร้อยเส้นสั้น ๆ อีกเส้นหนึ่ง แล้วเอาสร้อยเส้นสั้นนั้นแขวนกับสร้อยเส้นยาวที่คล้องคออีกที่หนึ่ง บนแผ่นป้ายทั้ง ๒ อันจะเขียนโดยการปั๊มลงไปเหมือนกัน คือ ยศ ชื่อ นามสกุล หมายเลขประจำตัวทหาร ศาสนาและกรุปเลือด ของบุคคลนั้น ๆ ซึ่งทหารอเมริกันจะได้รับแจกทุกนาย สำหรับของไทยเรานั้นถ้าจะทำเอาแบบอเมริกันเลยจะประมาณ ๒๕๐ - ๓๐๐ บาทต่อชุด หลาย ๆ ท่าน รวมทั้งเพื่อน ๆ ผมเคยถามว่าทำไมทหารอเมริกันถึงต้องทำแบบนั้น ทำเป็นบัตรประจำตัวหรือปักติดเสื้อไม่ได้หรือแล้วก็เขียนด้วยภาษาไทยก็น่าจะ ดีกว่าเพราะถ้าตายขึ้นมาก็จะมีทหารไทยเท่านั้นที่ไปเก็บศพ ซึ่งผมเองได้เล่าให้ฟังว่าป้าย Dog tags ที่เขาคิดขึ้นมานั้น เนื่องจากเมื่อมีสงครามเกิดขึ้นในอดีตที่ผ่านมานั้น ประชาชนได้ถูกเกณฑ์ไปรบ และล้มตายเป็นจำนวนมากผสมปนเปกันระหว่างทหารศัตรูและชาติเดียวกัน ทำให้แยกศพได้ลำบากเพราะบางที่ศพถูกทิ้งไว้เป็นเดือน ๆ ซึ่งเกิดความยุ่งยากในการแจ้งการสูญเสียให้แก่หน่วย ปและญาติผู้เสียชีวิตได้ทราบ เขาจึงได้ออกแบบสิ่งที่จะเข้ามาแก้ไขปัญหานี้ โดยออกแบบตามประสบการณ์การรบที่เคยเกิดขึ้นมาในอดีตและตามกฎของสงครามที่ทำกันแบบสากล ซึ่งก็คือ เจ้า Dog tags ที่ผมว่านี่แหละครับ โดยสามารถที่จะอธิบายตามเหตุผลในรายละเอียดที่เขาคิดขึ้นมาได้ดังนี้ # ก่อนอื่นเรามาทราบวิธีการใช้เสียก่อนนะครับ ในระหว่างการทำการรบทหารที่เข้าทำการรบจะต้องมีป้ายแขวนคอทุกนาย เมื่อใดที่ได้เจอศพทหารฝ่ายเดียวกัน หรือเห็นว่าเพื่อนที่อยู่ด้วยกันได้เสียชีวิตลง แต่ภารกิจที่ได้รับมอบมายังไม่สำเร็จ สิ่งแรกที่ต้องทำหลังจากที่ปลอดภัยแล้ว คือการล้วงเข้าไปที่อกเสื้อเพื่อดูว่าป้ายห้อยคอมีใครเอาไปหรือยังถ้ายัง อยู่ก็กระตุกสร้อยเส้นยาวที่ร้อยอยู่ที่คอของศพทหารฝ่ายเดียวกัน แล้วเก็บป้ายหนึ่งอันไว้ที่กระเป๋าเสื้อด้านซ้ายของตนเอง ต่อไปให้เอาป้ายอีกอันที่ร้อยอยู่กับสร้อยเส้นสั้นนั้นยัดใส่ปากของศพไว้ สุดท้ายก็คือล้วงไปที่กระเป๋าเสื้อด้านซ้ายของศพว่า มีป้ายที่เขาเก็บมาจากศพอื่นก่อนหน้านี้หรือไม่ ถ้ามีก็ย้ายมาเก็บไว้ที่กระเป๋าเสื้อด้านซ้ายของเราเอง หลังจากนั้นก็ปฏิบัติภารกิจต่อไป สรุปว่าถ้าการรบในครั้งนั้นทั้งกองร้อยทหารราบรอดตายอยู่คนเดียวคนสุดท้าย ที่เหลืออยู่ก็จะมีป้ายแขวนคอของเพื่อน ๆ ในกองร้อย ๒๐๖ อัน สำหรับศพนั้นเมื่อเจ้าหน้าที่เก็บศพมาถึงก็จะล้วงเข้าไปในปากของศพถ้าไม่พบ ป้ายห้อยคอของศพ ซึ่งถ้าพบว่าอยู่ในปากก็จะนำมาผูกร้อยที่เชือกรองเท้าของศพ แล้วจับศพมานอยเรียงกันเพื่อให้เจ้าหน้าที่บันทึกมาดำเนินการต่อไป หรือถ้ารองเท้าไม่มีก็เอามาห้อยที่นิ้วเท้าของศพเพื่อดำเนินกรรมวิธีต่อไป สำหรับผู้ที่รอดตายก็จะนำเอาป้ายแขวนคอที่รวบรวมได้นั้นมาส่งให้ผู้บังคับ บัญชาเพื่อจะได้แจ้งให้ญาติพี่น้องของตนเองได้ทราบว่าทหารคนนั้นได้เสีย ชีวิตไปแล้ว ซึ่งอาจจะหาศพเจอหรือไม่ หรือว่าหาเจอแล้วจะส่งกลับประเทศหรือไม่ก็แล้วแต่สถานการณ์ในขณะนั้น มีเกร็ดเพิ่มเติมอยู่นิดหนึ่งว่าในปัจจุบันนี้จะไม่มีการแถลงชื่อผู้ที่บาด เจ็บล้มตายในสนามรบแก่สื่อมวลชนใด ๆ จนกว่าที่ญาติพี่น้องของคนตายจะได้รับรู้ว่าทหารผู้นั้นได้เสียชีวิตลงแล้ว ต่อไปลองมาดูเหตุผลเล็ก ๆ น้อย ๆ กันครับดังต่อไปนี้ # ทำไมเขาถึงต้องทำป้ายห้อยคอ ก็เพราะว่าในการทำสงครามนั้นทหารที่เขาทำการรบนั้นต้องมีคนบาดเจ็บล้มตาย ซึ่ง ถ้ามีการรบแบบนองเลือดมีการตายเป็นพัน ๆ หมื่น ๆ คน ซึ่งคนเจ็บคนตายไม่สามารถให้ข้อมูลตนเองได้ กว่าที่จะมีใครมาเก็บศพหรือนำตัวไปรักษานั้นก็อาจจะไม่สามารถแยกแยะได้ว่า ใครเป็นใครซึ่งทำให้ไม่สามารถนำศพนั้น ๆ ส่งไปให้ญาติที่อยู่แนวหลังได้ถูกต้อง แบบเดียวกับตอนเครื่องบินตกทั่วๆ ไป ที่ยากยิ่งที่จะเก็บศพแล้วพิสูจน์ได้ว่าใครเป็นใครใครได้ # ทำไมต้องเขียนยศชื่อ นามสกุลลงไป ก็เพราะต้องการให้คนที่มาเก็บศพแยกแยะได้ว่าใครเป็นนายทหาร นายสิบหรือพลทหาร และชื่ออะไร เพราะในการตายแต่ละครั้งนั้นข้อมูลของผู้เสียชีวิตในสงครามโดยเฉพาะการรบที่ ดุเดือด เขาจะได้นำไปเอาชื่อต่าง ๆ เหล่านั้นพร้อมกับวีรกรรมที่คนรอดชีวิตเล่าถึงพฤติกรรมที่กล้าหาญของคนเหล่า นั้น เพื่อนำไปตั้งชื่อ ค่าย ชื่ออาคาร ชื่อถนน หรือทำเป็นอนุสาวรีย์ ให้ ที่ค่ายทหารต่าง ๆ ในสหรัฐเพื่อเป็นเกียรติประวัติ และเป็นตัวอย่างแห่งความกล้าหาญให้แก่ลูกหลานสืบไป ซึ่งถ้าใครได้เคยไปตามค่ายทหารสหรัฐก็จะเห็น ชื่อ ของพลทหาร นายสิบ และนายทหารที่เสียชีวิตจากการบเป็นชื่อของอาคาร สถานที่และถนนต่าง ๆ โดยทั่วไป # ทำไมต้องเขียนกลุ่มเลือดลงไปด้วย ก็เพื่อเมื่อมีการบาดเจ็บ เจ้าตัวไม่สามารถพูดได้ และต้องการเลือดก็สามารถดำเนินการการได้ทันที โดยไม่ต้องรอเวลาพิสูจน์กลุ่มเลือดอีก หรือถ้าไม่ได้บาดเจ็บแต่ต้องการบริจาคเลือดให้คนบาดเจ็บก็สามารถบริจาคได้ ทันที # ทำไมต้องเขียนศาสนา ศาสนาเป็นสิ่งที่ทุกชาติมีและเชื่อถือ ในการทำสงครามทหารที่มาร่วมนั้นถือว่าเป็นผู้มีเกียรติ มิใช่ฆาตรกร ดังนั้นเมื่อเสียชีวิตแล้ว ก็จะได้รับเกียรติ จากทุกฝ่าย ไม่ว่าจะเป็นฝ่ายเดียวกัน ฝ่ายข้าศึกหรือฝ่ายเป็นกลาง ในการดำเนินพิธีกรรมทางศาสนาแก่ผู้ที่เสียชีวิตนั้นๆ ตามความเชื่อทางศาสนาของบุคคลนั้น แม้ว่าเขาจะเสียชีวิตไปแล้ว # ทำไมต้องเป็นภาษาอังกฤษถ้าเราทำเราจะเป็นภาษาไทยดีกว่าไหม ทำได้แต่ไม่ดีเพราะ ในการทำสงครามนั้นการดำเนินการด้านการศพนั้น ไม่จำกัดว่าฝ่ายเดียวกันต้องดำเนินการ ฝ่ายข้าศึกก็ดำเนินการได้ เช่นเดียวกับศพข้าศึก ซึ่งถ้าไม่มีใครดำเนินการฝ่ายเราก็ต้องดำเนินการ ซึ่งอย่างที่กล่าวว่าทหารไม่ใช่ฆาตรกร การสังหารนั้นเป็นหน้าที่ที่ได้รับคำสั่งและกระทำอย่างมีเกียรติมิได้กระทำ เพราะความเหี้ยมโหดของจิตใจ ดังนั้นเมื่อเสียชีวิตลงจึงควรได้รับการปฎิบัติอย่างมีเกียรติจากทุกฝ่าย ตามความเชื่อของผู้ที่เสียชีวิต ซึ่งจะสามารถอ่านและเข้าใจได้จาก ป้ายห้อยคอ ซึ่งเขียนด้วยภาษาที่คนส่วนใหญ่ของโลกเข้าใจก็คือภาษาอังกฤษนั่นเอง # ทำไมต้องทำด้วยอลูมิเนียมแล้วใช้การปั๊มแทนที่จะใช้สีเขียน การที่ทำด้วยแผ่นอลูมิเนียมก็เพื่อป้องกันการกระทบกระแทกเวลาหมอบลุก คลุกคลาน จะได้ไม่ทำให้เกิดการบาดเจ็บ สำหรับที่ใช้การปั๊มนั้นก็เพื่อมั่นใจได้ว่าจะไม่มีการลบลอกเมื่อใช้เป็น เวลานาน แม้ว่าจะอ่านยากอยู่สักหน่อย แต่แผ่นอลูมิเนียมนั้นสามารถที่จะทนความร้อนได้ดีกว่าป้ายผ้าหรือกระดาษ ในกรณีที่ศพอาจจะถูกไฟไหม้ เช่น ติดอยู่ในรถ หรือเครื่องบินตก # ทำไมต้องทำสร้อยเป็นแบบเม็ดแล้วต้อง ๒ เส้น เส้นสั้นกับเส้นยาว ก็เพื่อเมื่อเวลาเพื่อน ๆ ในสนามรบจะต้องมาเก็บป้ายเอาไปหนึ่งอัน ซึ่งต้องรีบเก็บด้วยการกระชากออกจากคอ ซึ่งทำให้ขาดได้ทันที่ แต่เวลาปกตกติตะไม่ขาดง่ายและไม่เป็นเชื้อราเหมือนกับเชือกร่ม และที่ต้องทำเส้นยาวนั้นก็เพื่อเอาไว้ห้อยคอ แต่เส้นสั้นนั้นเอาไว้ตอนที่เขาเอาศพมาเรียงกัยมาก ๆ เขาจะใช้เส้นสั้นร้อยกับเชือกรองเท้า หรือ คล้องปลายนิ้วเท้าไว้ หัวข้อ: Re: ขอความรู้เกี่ยวกับ DOG TAG คล้องคอหน่อยนะครับ เริ่มหัวข้อโดย: JJ-รักในหลวง ที่ พฤษภาคม 13, 2009, 10:18:39 PM เป็นอีกสิ่งหนึ่งที่ผมไม่เคยคิดจะแขวนเลยครับ
หัวข้อ: Re: ขอความรู้เกี่ยวกับ DOG TAG คล้องคอหน่อยนะครับ เริ่มหัวข้อโดย: ทิดเป้า ที่ พฤษภาคม 13, 2009, 11:26:40 PM ::002::
หัวข้อ: Re: ขอความรู้เกี่ยวกับ DOG TAG คล้องคอหน่อยนะครับ เริ่มหัวข้อโดย: rute - รักในหลวง ที่ พฤษภาคม 13, 2009, 11:48:25 PM ผมสั่งทำไว้สองอัน...
ให้ลูกห้อยคอคนละอัน... ใส่ชื่อลูกกับเบอร์โทรศัพท์ไว้... ลูกๆผมจะรู้เลย หากวันไหนได้ห้อยด๊อกแท็ก แปลว่าได้ไปเที่ยว...::005:: หัวข้อ: Re: ขอความรู้เกี่ยวกับ DOG TAG คล้องคอหน่อยนะครับ เริ่มหัวข้อโดย: JUNGLE ที่ พฤษภาคม 14, 2009, 08:56:32 AM ผมสั่งทำไว้สองอัน... ให้ลูกห้อยคอคนละอัน... ใส่ชื่อลูกกับเบอร์โทรศัพท์ไว้... ลูกๆผมจะรู้เลย หากวันไหนได้ห้อยด๊อกแท็ก แปลว่าได้ไปเที่ยว...::005:: เยี่ยมเลยครับคุณหมอ... ผมขออนุญาตลอกแบบครับ... หัวข้อ: Re: ขอความรู้เกี่ยวกับ DOG TAG คล้องคอหน่อยนะครับ เริ่มหัวข้อโดย: ธำรง ที่ พฤษภาคม 14, 2009, 09:21:07 AM ผมสั่งทำไว้สองอัน... ให้ลูกห้อยคอคนละอัน... ใส่ชื่อลูกกับเบอร์โทรศัพท์ไว้... ลูกๆผมจะรู้เลย หากวันไหนได้ห้อยด๊อกแท็ก แปลว่าได้ไปเที่ยว...::005:: ตอน(หนุ่มๆ)ผมเป็นRoad runner วิ่งjoggingตามถนนดูบ้านดูเมืองดูชีวิตชาวบ้าน ไม่มีเส้นทางแน่นอน ก็เอาdog tagคล้องคอครับคุณหมอ เผื่ออุบัติเหตุ หรือหัวใจวาย :~) หัวข้อ: Re: ขอความรู้เกี่ยวกับ DOG TAG คล้องคอหน่อยนะครับ เริ่มหัวข้อโดย: hare ที่ พฤษภาคม 14, 2009, 10:30:28 AM ;D ขอบคุณสำหรับข้อมูลครับ ;D ผมสั่งไปแล้ว 3 อัน ;D
หัวข้อ: Re: ขอความรู้เกี่ยวกับ DOG TAG คล้องคอหน่อยนะครับ เริ่มหัวข้อโดย: kengx (นิยมความรุนแรงชั่วคราว) ที่ พฤษภาคม 14, 2009, 11:03:15 AM ผมทำไว้ใส่คอหมาที่บ้าน ระบุที่อยู่ เบอร์โทรศัพท์ (เจ้าของ)
และดูท่าทางมันพึงพอใจมากครับ หัวข้อ: Re: ขอความรู้เกี่ยวกับ DOG TAG คล้องคอหน่อยนะครับ เริ่มหัวข้อโดย: AEY@1911 ที่ พฤษภาคม 14, 2009, 07:11:20 PM เมื่อวานผมได้ของสุนัขมา 2 อันครับ....เทศบาลแถมมาให้พร้อมวัคซีนครับ หมดกัน.... :~) เอ้า +1 ที่มา และ อ่านต่อที่นี่ http://www.khonnaruk.com/html/announce/kapook/35-dog-tag.html ขอบคุณครับ ในป้ายจะมีข้อมูลดังนี้ - ชื่อ นามสกุล - หมายเลขประจำตัว - ศาสนา - กลุมโลหิต -สังกัด คนหนึ่งมี 2 แผ่น เครดิตโดย เวป taharn.net ครับ ขอบคุณครับพี่ helldiver....+1 ครับพี่... ::014::Dog tags ป้ายห้อยคอทหารเขาไม่ได้ใช้ห้อยคอเพื่อความเท่ย์เพียงอย่างเดียว ............... หลาย ๆ ท่านที่เคยชมภาพยนต์สงครามของอเมริกันตั้งแต่เรื่องที่เกี่ยวข้องกับสงครามโลกครั้งที่ ๒ เป็นต้นมาจะเห็นว่ามีหลายตอนที่ท่านจ ะสังเกตุเห็นสิ่งที่ห้อยคอทหารอเมริกันอยู่ หรือสำหรับท่านที่เป็นทหารบางท่านอาจจะเคยเห็นของจริงมาแล้ว โดยมีลักษณ ะเป็นแผ่นสี่เหลี่ยมกว้างประมาณ ๑ นิ้ว ยาว ๒ นิ้ว มี ๒ แผ่น และมีสร้อยที่ลักษณะเป็นเม็ด ๆ มาต่อกันเส้นแรกเอาไว้คล้องคอ โดยมีป้ายแขวนอยู่ด้วย ๑ อัน ส่วนอีก ๑ อันนั้นจะแขวนกับสร้อยเส้นสั้น ๆ อีกเส้นหนึ่ง แล้วเอาสร้อยเส้นสั้นนั้นแขวนกับสร้อยเส้นยาวที่คล้องคออีกที่หนึ่ง บนแผ่นป้ายทั้ง ๒ อันจะเขียนโดยการปั๊มลงไปเหมือนกัน คือ ยศ ชื่อ นามสกุล หมายเลขประจำตัวทหาร ศาสนาและกรุปเลือด ของบุคคลนั้น ๆ ซึ่งทหารอเมริกันจะได้รับแจกทุกนาย สำหรับของไทยเรานั้นถ้าจะทำเอาแบบอเมริกันเลยจะประมาณ ๒๕๐ - ๓๐๐ บาทต่อชุด หลาย ๆ ท่าน รวมทั้งเพื่อน ๆ ผมเคยถามว่าทำไมทหารอเมริกันถึงต้องทำแบบนั้น ทำเป็นบัตรประจำตัวหรือปักติดเสื้อไม่ได้หรือแล้วก็เขียนด้วยภาษาไทยก็น่าจะ ดีกว่าเพราะถ้าตายขึ้นมาก็จะมีทหารไทยเท่านั้นที่ไปเก็บศพ ซึ่งผมเองได้เล่าให้ฟังว่าป้าย Dog tags ที่เขาคิดขึ้นมานั้น เนื่องจากเมื่อมีสงครามเกิดขึ้นในอดีตที่ผ่านมานั้น ประชาชนได้ถูกเกณฑ์ไปรบ และล้มตายเป็นจำนวนมากผสมปนเปกันระหว่างทหารศัตรูและชาติเดียวกัน ทำให้แยกศพได้ลำบากเพราะบางที่ศพถูกทิ้งไว้เป็นเดือน ๆ ซึ่งเกิดความยุ่งยากในการแจ้งการสูญเสียให้แก่หน่วย ปและญาติผู้เสียชีวิตได้ทราบ เขาจึงได้ออกแบบสิ่งที่จะเข้ามาแก้ไขปัญหานี้ โดยออกแบบตามประสบการณ์การรบที่เคยเกิดขึ้นมาในอดีตและตามกฎของสงครามที่ทำกันแบบสากล ซึ่งก็คือ เจ้า Dog tags ที่ผมว่านี่แหละครับ โดยสามารถที่จะอธิบายตามเหตุผลในรายละเอียดที่เขาคิดขึ้นมาได้ดังนี้ # ก่อนอื่นเรามาทราบวิธีการใช้เสียก่อนนะครับ ในระหว่างการทำการรบทหารที่เข้าทำการรบจะต้องมีป้ายแขวนคอทุกนาย เมื่อใดที่ได้เจอศพทหารฝ่ายเดียวกัน หรือเห็นว่าเพื่อนที่อยู่ด้วยกันได้เสียชีวิตลง แต่ภารกิจที่ได้รับมอบมายังไม่สำเร็จ สิ่งแรกที่ต้องทำหลังจากที่ปลอดภัยแล้ว คือการล้วงเข้าไปที่อกเสื้อเพื่อดูว่าป้ายห้อยคอมีใครเอาไปหรือยังถ้ายัง อยู่ก็กระตุกสร้อยเส้นยาวที่ร้อยอยู่ที่คอของศพทหารฝ่ายเดียวกัน แล้วเก็บป้ายหนึ่งอันไว้ที่กระเป๋าเสื้อด้านซ้ายของตนเอง ต่อไปให้เอาป้ายอีกอันที่ร้อยอยู่กับสร้อยเส้นสั้นนั้นยัดใส่ปากของศพไว้ สุดท้ายก็คือล้วงไปที่กระเป๋าเสื้อด้านซ้ายของศพว่า มีป้ายที่เขาเก็บมาจากศพอื่นก่อนหน้านี้หรือไม่ ถ้ามีก็ย้ายมาเก็บไว้ที่กระเป๋าเสื้อด้านซ้ายของเราเอง หลังจากนั้นก็ปฏิบัติภารกิจต่อไป สรุปว่าถ้าการรบในครั้งนั้นทั้งกองร้อยทหารราบรอดตายอยู่คนเดียวคนสุดท้าย ที่เหลืออยู่ก็จะมีป้ายแขวนคอของเพื่อน ๆ ในกองร้อย ๒๐๖ อัน สำหรับศพนั้นเมื่อเจ้าหน้าที่เก็บศพมาถึงก็จะล้วงเข้าไปในปากของศพถ้าไม่พบ ป้ายห้อยคอของศพ ซึ่งถ้าพบว่าอยู่ในปากก็จะนำมาผูกร้อยที่เชือกรองเท้าของศพ แล้วจับศพมานอยเรียงกันเพื่อให้เจ้าหน้าที่บันทึกมาดำเนินการต่อไป หรือถ้ารองเท้าไม่มีก็เอามาห้อยที่นิ้วเท้าของศพเพื่อดำเนินกรรมวิธีต่อไป สำหรับผู้ที่รอดตายก็จะนำเอาป้ายแขวนคอที่รวบรวมได้นั้นมาส่งให้ผู้บังคับ บัญชาเพื่อจะได้แจ้งให้ญาติพี่น้องของตนเองได้ทราบว่าทหารคนนั้นได้เสีย ชีวิตไปแล้ว ซึ่งอาจจะหาศพเจอหรือไม่ หรือว่าหาเจอแล้วจะส่งกลับประเทศหรือไม่ก็แล้วแต่สถานการณ์ในขณะนั้น มีเกร็ดเพิ่มเติมอยู่นิดหนึ่งว่าในปัจจุบันนี้จะไม่มีการแถลงชื่อผู้ที่บาด เจ็บล้มตายในสนามรบแก่สื่อมวลชนใด ๆ จนกว่าที่ญาติพี่น้องของคนตายจะได้รับรู้ว่าทหารผู้นั้นได้เสียชีวิตลงแล้ว ต่อไปลองมาดูเหตุผลเล็ก ๆ น้อย ๆ กันครับดังต่อไปนี้ # ทำไมเขาถึงต้องทำป้ายห้อยคอ ก็เพราะว่าในการทำสงครามนั้นทหารที่เขาทำการรบนั้นต้องมีคนบาดเจ็บล้มตาย ซึ่ง ถ้ามีการรบแบบนองเลือดมีการตายเป็นพัน ๆ หมื่น ๆ คน ซึ่งคนเจ็บคนตายไม่สามารถให้ข้อมูลตนเองได้ กว่าที่จะมีใครมาเก็บศพหรือนำตัวไปรักษานั้นก็อาจจะไม่สามารถแยกแยะได้ว่า ใครเป็นใครซึ่งทำให้ไม่สามารถนำศพนั้น ๆ ส่งไปให้ญาติที่อยู่แนวหลังได้ถูกต้อง แบบเดียวกับตอนเครื่องบินตกทั่วๆ ไป ที่ยากยิ่งที่จะเก็บศพแล้วพิสูจน์ได้ว่าใครเป็นใครใครได้ # ทำไมต้องเขียนยศชื่อ นามสกุลลงไป ก็เพราะต้องการให้คนที่มาเก็บศพแยกแยะได้ว่าใครเป็นนายทหาร นายสิบหรือพลทหาร และชื่ออะไร เพราะในการตายแต่ละครั้งนั้นข้อมูลของผู้เสียชีวิตในสงครามโดยเฉพาะการรบที่ ดุเดือด เขาจะได้นำไปเอาชื่อต่าง ๆ เหล่านั้นพร้อมกับวีรกรรมที่คนรอดชีวิตเล่าถึงพฤติกรรมที่กล้าหาญของคนเหล่า นั้น เพื่อนำไปตั้งชื่อ ค่าย ชื่ออาคาร ชื่อถนน หรือทำเป็นอนุสาวรีย์ ให้ ที่ค่ายทหารต่าง ๆ ในสหรัฐเพื่อเป็นเกียรติประวัติ และเป็นตัวอย่างแห่งความกล้าหาญให้แก่ลูกหลานสืบไป ซึ่งถ้าใครได้เคยไปตามค่ายทหารสหรัฐก็จะเห็น ชื่อ ของพลทหาร นายสิบ และนายทหารที่เสียชีวิตจากการบเป็นชื่อของอาคาร สถานที่และถนนต่าง ๆ โดยทั่วไป # ทำไมต้องเขียนกลุ่มเลือดลงไปด้วย ก็เพื่อเมื่อมีการบาดเจ็บ เจ้าตัวไม่สามารถพูดได้ และต้องการเลือดก็สามารถดำเนินการการได้ทันที โดยไม่ต้องรอเวลาพิสูจน์กลุ่มเลือดอีก หรือถ้าไม่ได้บาดเจ็บแต่ต้องการบริจาคเลือดให้คนบาดเจ็บก็สามารถบริจาคได้ ทันที # ทำไมต้องเขียนศาสนา ศาสนาเป็นสิ่งที่ทุกชาติมีและเชื่อถือ ในการทำสงครามทหารที่มาร่วมนั้นถือว่าเป็นผู้มีเกียรติ มิใช่ฆาตรกร ดังนั้นเมื่อเสียชีวิตแล้ว ก็จะได้รับเกียรติ จากทุกฝ่าย ไม่ว่าจะเป็นฝ่ายเดียวกัน ฝ่ายข้าศึกหรือฝ่ายเป็นกลาง ในการดำเนินพิธีกรรมทางศาสนาแก่ผู้ที่เสียชีวิตนั้นๆ ตามความเชื่อทางศาสนาของบุคคลนั้น แม้ว่าเขาจะเสียชีวิตไปแล้ว # ทำไมต้องเป็นภาษาอังกฤษถ้าเราทำเราจะเป็นภาษาไทยดีกว่าไหม ทำได้แต่ไม่ดีเพราะ ในการทำสงครามนั้นการดำเนินการด้านการศพนั้น ไม่จำกัดว่าฝ่ายเดียวกันต้องดำเนินการ ฝ่ายข้าศึกก็ดำเนินการได้ เช่นเดียวกับศพข้าศึก ซึ่งถ้าไม่มีใครดำเนินการฝ่ายเราก็ต้องดำเนินการ ซึ่งอย่างที่กล่าวว่าทหารไม่ใช่ฆาตรกร การสังหารนั้นเป็นหน้าที่ที่ได้รับคำสั่งและกระทำอย่างมีเกียรติมิได้กระทำ เพราะความเ***้ยมโหดของจิตใจ ดังนั้นเมื่อเสียชีวิตลงจึงควรได้รับการปฎิบัติอย่างมีเกียรติจากทุกฝ่าย ตามความเชื่อของผู้ที่เสียชีวิต ซึ่งจะสามารถอ่านและเข้าใจได้จาก ป้ายห้อยคอ ซึ่งเขียนด้วยภาษาที่คนส่วนใหญ่ของโลกเข้าใจก็คือภาษาอังกฤษนั่นเอง # ทำไมต้องทำด้วยอลูมิเนียมแล้วใช้การปั๊มแทนที่จะใช้สีเขียน การที่ทำด้วยแผ่นอลูมิเนียมก็เพื่อป้องกันการกระทบกระแทกเวลาหมอบลุก คลุกคลาน จะได้ไม่ทำให้เกิดการบาดเจ็บ สำหรับที่ใช้การปั๊มนั้นก็เพื่อมั่นใจได้ว่าจะไม่มีการลบลอกเมื่อใช้เป็น เวลานาน แม้ว่าจะอ่านยากอยู่สักหน่อย แต่แผ่นอลูมิเนียมนั้นสามารถที่จะทนความร้อนได้ดีกว่าป้ายผ้าหรือกระดาษ ในกรณีที่ศพอาจจะถูกไฟไหม้ เช่น ติดอยู่ในรถ หรือเครื่องบินตก # ทำไมต้องทำสร้อยเป็นแบบเม็ดแล้วต้อง ๒ เส้น เส้นสั้นกับเส้นยาว ก็เพื่อเมื่อเวลาเพื่อน ๆ ในสนามรบจะต้องมาเก็บป้ายเอาไปหนึ่งอัน ซึ่งต้องรีบเก็บด้วยการกระชากออกจากคอ ซึ่งทำให้ขาดได้ทันที่ แต่เวลาปกตกติตะไม่ขาดง่ายและไม่เป็นเชื้อราเหมือนกับเชือกร่ม และที่ต้องทำเส้นยาวนั้นก็เพื่อเอาไว้ห้อยคอ แต่เส้นสั้นนั้นเอาไว้ตอนที่เขาเอาศพมาเรียงกัยมาก ๆ เขาจะใช้เส้นสั้นร้อยกับเชือกรองเท้า หรือ คล้องปลายนิ้วเท้าไว้ หัวข้อ: Re: ขอความรู้เกี่ยวกับ DOG TAG คล้องคอหน่อยนะครับ เริ่มหัวข้อโดย: AEY@1911 ที่ พฤษภาคม 14, 2009, 07:14:24 PM ที่สงสัยคือเห็นในหนังฝรั่งเขาแขวนกันคนละสองอัน ไม่เคยรู้ว่าทั้งสองอันนั้นมีข้อมูลเดียวกัน ..... ::002::
หัวข้อ: Re: ขอความรู้เกี่ยวกับ DOG TAG คล้องคอหน่อยนะครับ เริ่มหัวข้อโดย: Zeus-รักในหลวง ที่ พฤษภาคม 14, 2009, 08:08:25 PM ผมเคยมีเพื่อคนหนึ่งห้อยดอกแท๊กไว้ที่คอ....เป็นด๊อกแท๊กอันเดียวไม่ใช้ 2 อันแบบที่คนอื่น ๆ เขาห้อยกัน........คนที่ทราบก็จะรู้ว่าเพราะอะไรเด็กหนุ่มคนนี้จึงมีด๊อกแท๊กห้อยแค่อันเดียว.........ไม่ได้ห้อยสองแบบคนอื่นตามสมัยนิยม......เพราะด๊อกแท็กชิ้นนั้นถูกส่งกลับมาพร้อมกับพ่อของเขา
หัวข้อ: Re: ขอความรู้เกี่ยวกับ DOG TAG คล้องคอหน่อยนะครับ เริ่มหัวข้อโดย: at75 ที่ พฤษภาคม 15, 2009, 12:29:17 AM ผมเคยคุยกัยร้อยเอก ท่านนึงซึ่งท่านผ่านมาหลาย สนามรบ ท่านบอกผมว่า ไม่เคยสนใจด๊อกแท๊ก เพราะท่านสัก รายละเอียด ที่จำเป้น ของทหาร ไว้ที่แขน2ข้าง ขา2สองข้าง ที่คอ และบน อก(แล้วเปิดให้ดู) เผื่อวันนึง ต้องเก้บท่านใส่ถุงศพกลับบ้าน ชิ้นส่วนจะได้ไมหลงกับคนอื่น ฟังดูแล้วก้เป็นการ ปลงสังขารกับความตาย สำหรับคนที่ผ่านสงคราม มามาก แต่ ท่านเอง ก็มีชีวิตรอด มาจนเกษียณ ราชการ
|