หัวข้อ: ผมกำลังจะซื้อปืนโครงการฯ พอได้อ่านข่าวนี้แล้วชักจะไม่แน่ใจ? เริ่มหัวข้อโดย: zumphol ที่ พฤษภาคม 17, 2009, 04:55:20 PM ธุรกิจค้าอาวุธปืนเฟื่อง ยื่นขอตั้งบริษัทเพิ่ม เปิดทางกลุ่มขรก.ซื้อเก็งกำไรแถมโอนเปลี่ยนมือได้ !! ตลาดค้าอาวุธปืนเฟื่องฟู หลังกรมการปกครอง เปิดช่องให้หน่วยงานรัฐมีสิทธิซื้อปืนได้อย่างกว้างขวาง แม้แต่พนง.รัฐวิสาหกิจ องค์กรอิสระ และศาล แถมโอนเปลี่ยนมือหลังครอบครอง 5 ปี วงในแฉขบวนการปั่นราคา หักค่าหัวคิวให้เครือญาตินักการเมือง ผู้สื่อข่าว "ประชาชาติธุรกิจ" รายงานว่า ในช่วงเดือนเมษายนที่ผ่านมาได้มีผู้ยื่นขอจดทะเบียนนิติบุคคลเพื่อประกอบกิจการซื้อขายอาวุธปืน เครื่องกระสุนปืน และเครื่องอะไหล่ปืนทุกชนิดต่อกรมพัฒนาธุรกิจ กระทรวงพาณิชย์ ประมาณ 50 กว่าราย เป็นที่น่าสังเกตว่า ที่ตั้งสำนักงานใหญ่ของนิติบุคคลที่ยื่นขอจดทะเบียนเกือบทั้งหมดจะอยู่ในย่านถนนจักรเพชร ถนนบ้านหม้อ ถนนทรัพย์สิน ถนนเจริญกรุง ถนนบูรพา และดิ โอลด์สยามพลาซ่า ที่อยู่ในแขวงวังบูรพาภิรมย์ เขตพระนคร แหล่งข่าวฝ่ายความมั่นคงเปิดเผย "ประชาชาติธุรกิจ" ว่า การเพิ่มขึ้นของร้านปืนในปัจจุบันส่วนหนึ่งมาจากโครงการสินเชื่อสวัสดิการเพื่อการจัดหาอาวุธปืนสำหรับข้าราชการและพนักงานของรัฐที่ดำเนินการโดยกรมการปกครอง กระทรวงมหาดไทย ได้รับความสนใจอย่างมาก โดยมีการสั่งซื้อปืนจำนวนมาก ขณะเดียวกันได้มีการยื่นขอจดทะเบียนเปิดร้านจำหน่ายอาวุธปืนเพิ่มมากขึ้นอย่างเห็นได้ชัด สาเหตุส่วนหนึ่งเกิดจากการเปิดช่องให้เจ้าหน้าที่ของรัฐหลายหน่วยงานซื้อปืนได้ นอกจากนี้ยังมีการปลดล็อกให้ผู้ซื้อสามารถโอนเปลี่ยนมือได้ใน 5 ปี นอกจากนี้ยังสามารถสั่งซื้อได้หลายรุ่นอีกด้วย ที่ผ่านมาราคาปืนในตลาดทั่วไปมีราคาค่อนข้างสูง กระบอกละประมาณ 80,000-100,000 บาทขึ้นไป แต่หากใช้สิทธิซื้อปืนสวัสดิการราคาจะลดลงเกือบ 1-2 เท่าตัว แหล่งข่าวระบุว่า ปัจจุบันตลาดค้าปืนเติบโตขึ้นกว่าเดิม เพราะประชาชนมีความกังวลเรื่องความไม่ปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน และประชาชนทั่วไปก็สามารถขออนุญาตซื้อปืนได้ รวมทั้งความนิยมในการแข่งขันยิงปืนเพิ่มสูงขึ้นด้วย ผู้สื่อข่าว "ประชาชาติธุรกิจ" ตรวจสอบพบว่าหน่วยงานที่มีสิทธิสั่งซื้ออาวุธปืนได้ ประกอบด้วยข้าราชการสังกัดกรมการปกครอง กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน แพทย์ประจำตำบล สารวัตรกำนัน สมาชิก อส. ผู้บริหาร สมาชิกและพนักงานองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น รวมทั้งข้าราชการพนักงานรัฐวิสาหกิจในสังกัดกระทรวงมหาดไทย รวมถึงข้าราชการสังกัดกระทรวงยุติธรรม สำนักงานปลัดกระทรวงยุติธรรม สำนักงานศาลยุติธรรม และผู้พิพากษา สำนักงานอัยการ และสำนักงานอัยการสูงสุด บุคลากรองค์กรอิสระตามรัฐธรรมนูญ สำนักข่าวกรองแห่งชาติ กรมป่าไม้ กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช กรมสรรพสามิต กรมศุลกากร กรมสรรพากร กรมราชทัณฑ์ สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง กรมการขนส่งทางน้ำและพาณิชยนาวี องค์กรอิสระและศาลก็มีสิทธิซื้อปืน เช่น สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) สำนักงานป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.) สภาความมั่นคงแห่งชาติ สำนักงานศาลปกครอง สำนักงานตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ตุลาการศาลปกครอง และผู้พิพากษา สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง แม้แต่หน่วยงานรัฐวิสาหกิจ เช่น การประปานครหลวง การประปาส่วนภูมิภาค การไฟฟ้านครหลวง การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค องค์การตลาด การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) บริษัท การท่าอากาศยานแห่งประเทศไทย จำกัด การปิโตรเลียมแห่งประเทศไทย การทางพิเศษแห่งประเทศไทย องค์การสงเคราะห์ทหารผ่านศึก บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) อย่างไรก็ตามแหล่งข่าวจากสมาคมผู้ประกอบธุรกิจค้าอาวุธปืนเปิดเผย "ประชาชาติธุรกิจ" ว่า โครงการปืนสวัสดิการมีมากขึ้นจนทำให้ปืนในท้องตลาดมีราคาสูงขึ้นมากกว่าปกติ เดิมทีการซื้อขายปืนจะเอาราคาตลาดเป็นราคาอ้างอิง แต่ตอนนี้ราคาปืนในท้องตลาดสูงมากกว่าปกติ จึงทำให้มีการทำปืนสวัสดิการมากขึ้น "ตัวอย่างปืนกล็อกที่มีต้นทุนนำเข้าจากต่างประเทศเพียงกระบอกละประมาณ 2 หมื่นบาท เมื่อนำมาเข้าเป็นปืนโครงการสวัสดิการให้ข้าราชการ เจ้าหน้าที่ จะมีราคาอยู่ที่ 4.5 หมื่นบาท แต่ทางร้านขายปืนกล็อกกระบอกละ 1.2 แสนบาท ทำให้ราคาปืนสวัสดิการอยู่ที่กระบอกละ 7-8 หมื่นบาท ถามว่า ราคาสูงขนาดนี้มีคนซื้อหรือเปล่า ผมตอบได้เลยว่ามี เพราะหลังจากที่มีการปลดเงื่อนไขปืนในโครงการสินเชื่อสวัสดิการเพื่อจัดหาอาวุธปืนฯที่มีล็อกอยู่ว่า เมื่อซื้อปืนสวัสดิการไปแล้วห้ามโอนตลอดชีวิต เป็นห้ามโอนภายใน 5 ปี ทำให้ความต้องการซื้อปืนมีมากขึ้น" แหล่งข่าวเปิดเผยว่า ต้นเหตุที่ทำให้ราคาปืนมีราคาสูงมากขึ้นจนผิดปกติเป็นเพราะมีเครือญาติของนักการเมืองผู้หนึ่งเป็นผู้มีส่วนในการกินค่าหัวคิว ในราคากระบอกละ 6,500 บาท โดยสามารถเอาใบอนุญาตพกพาปืน (แบบ ป.2) ไปได้เลย แหล่งข่าวจากวงการปืนอีกผู้หนึ่งให้ความเห็นไปในทำนองเดียวกันว่า การปลดล็อก 5 ปี ทำให้เกิดความต้องการซื้อปืนเพิ่มมากขึ้น ถึงไม่มีความต้องการ แต่เมื่อปืนสวัสดิการราคา 5 หมื่นบาท ส่วนในตลาดราคา 1 แสนบาท ซื้อมาใส่กล่อง 5 ปีแล้วนำมาขายอย่างไรก็ได้กำไร ทำให้ข้าราชการขวนขวายที่จะซื้อไว้ในแง่การลงทุน หรือแม้แต่ประชาชนที่มีความต้องการซื้อปืนก็ไปจ้างให้ข้าราชการที่มีโควตาสวัสดิการไปซื้อแทน ก็มีโอกาสที่เป็นไปได้ในอนาคต แหล่งข่าวกล่าวอีกว่า ร้านค้าที่เดิมมีโควตาขายปืนปีละ 30-50 กระบอก ก็ตระเวนซื้อโควตาจากแหล่งอื่นๆ เพื่อที่จะนำมาขายในตลาดในราคาแพง เพราะรู้ว่าสามารถขายได้ในราคาสูง ทำให้คนที่มีโควตาก็โก่งราคาโควตาได้แพงขึ้น คนทำโครงการสวัสดิการก็พอใจ เพราะราคาปืนในโครงการมีราคาถูกกว่าในท้องตลาด จึงทำให้ปืนราคาสูงขึ้นมากในปัจจุบัน ที่มา: ประชาชาติธุรกิจ ออน์ไลน์ http://www.matichon.co.th/prachachat/news_detail.php?id=3404&catid=2 วันที่ 17 พฤษภาคม 2552 - เวลา 15:07:45 น. หัวข้อ: Re: ผมกำลังจะซื้อปืนโครงการฯ พอได้อ่านข่าวนี้แล้วชักจะไม่แน่ใจ? เริ่มหัวข้อโดย: Audy452 ♥ รักในหลวง ที่ พฤษภาคม 17, 2009, 05:15:00 PM ผมที่จองไปแล้วก็มั่นใจส่วนหนึ่งครับว่าจะได้รับปืน...ถ้าหากโครงการไม่ล่ม
ผมว่าปืนโครงการจะมีนอกมีในกันก็อาจจะอยู่ที่ขั้นตอนการขึ้นทะเบียนออกใบป.4 บางที่มีข่าวลือว่าขอให้ออกป.4โดยไม่มีการปั๊มห้ามโอนได้ด้วยครับ หรืออีกขั้นตอนก็คือการช่วยให้ขออนุญาตพกพาปืนได้ตามข่าวนั่นเอง หัวข้อ: Re: ผมกำลังจะซื้อปืนโครงการฯ พอได้อ่านข่าวนี้แล้วชักจะไม่แน่ใจ? เริ่มหัวข้อโดย: Beer Hunter ที่ พฤษภาคม 17, 2009, 05:24:44 PM อยากให้เสนอข่าวออกมาอย่างต่อเนื่องเรื่อยๆ เซ็งความไม่เท่าเทียมกันมานานแล้ว ปืนแพงไม่แก้ต้นเหตุ กลับเอามาเป็นเหตุในการทำปืนสวัสดิการเพื่อคนกลุ่มหนึ่ง
ประชาชนทั่วไปที่รายได้น้อยกว่าข้าราชการแต่ต้องการมีปืนก็มีนะครับ >:( หัวข้อ: Re: ผมกำลังจะซื้อปืนโครงการฯ พอได้อ่านข่าวนี้แล้วชักจะไม่แน่ใจ? เริ่มหัวข้อโดย: hs9nwp ที่ พฤษภาคม 17, 2009, 05:34:21 PM ประชาชาติ ธุรกิจ ;D ::009::
หัวข้อ: Re: ผมกำลังจะซื้อปืนโครงการฯ พอได้อ่านข่าวนี้แล้วชักจะไม่แน่ใจ? เริ่มหัวข้อโดย: PRIVACY ที่ พฤษภาคม 17, 2009, 05:34:35 PM เอาล่ะสิยังไงดี?
ไอ้เรามันก็คนไม่มีสิทธิ แบบนี้มีแนวโน้มว่าปืนสำหรับประชาชนไม่มีสิทธิซื้อสวัสดิการ จะราคาถูกลงไหม กำลังจะซื้อปืนราคาแสนแพง สงสัยคงต้องรอดูความเคลื่อนไหวก่อนดีไหมเนี่ย? หัวข้อ: Re: ผมกำลังจะซื้อปืนโครงการฯ พอได้อ่านข่าวนี้แล้วชักจะไม่แน่ใจ? เริ่มหัวข้อโดย: ธำรง ที่ พฤษภาคม 17, 2009, 07:09:13 PM เรื่องปืนของมหาดไทยสัปดาห์นี้ตกที่นั่งผีซ้ำดั้มพลอย........... http://www.dailynews.co.th/web/html/popup_columns/default.aspx?CategoryID=107&NewsType=2 เดลินิวส์ 17-5-52 หน้า 5 แหย่ว่า......... ++ กลิ่นชักไม่ดี งบซื้อปืนเอ็ม16ชนิดสั้น หมื่นกระบอกๆ ละแสน จู่ๆเปลี่ยนมาซื้อ อาก้า กระบอกละ60,000 แทน ด้วยงบก้อนเดิม ของเท่าเดิม ไม่รู้ เงินทอน400ล้าน ตกใส่กระเป๋าใครในมหาดไทย นายกฯมารก์ ช่วยดูหน่อยเถอะ.++ :OO :OO หัวข้อ: Re: ผมกำลังจะซื้อปืนโครงการฯ พอได้อ่านข่าวนี้แล้วชักจะไม่แน่ใจ? เริ่มหัวข้อโดย: modjod-รักในหลวง ที่ พฤษภาคม 17, 2009, 07:38:22 PM ก็ว่ากันไปครับ...
หัวข้อ: Re: ผมกำลังจะซื้อปืนโครงการฯ พอได้อ่านข่าวนี้แล้วชักจะไม่แน่ใจ? เริ่มหัวข้อโดย: Choro - รักในหลวง ที่ พฤษภาคม 17, 2009, 07:42:54 PM ไปๆ มาๆ จะแพงทั้งสวัสดิการทั้งพาณิชย์ ::013::
หัวข้อ: Re: ผมกำลังจะซื้อปืนโครงการฯ พอได้อ่านข่าวนี้แล้วชักจะไม่แน่ใจ? เริ่มหัวข้อโดย: CT_Pro4 ที่ พฤษภาคม 17, 2009, 09:14:20 PM ไปๆ มาๆ จะแพงทั้งสวัสดิการทั้งพาณิชย์ ::013:: ...ผมก็คิดเช่นนั้นครับ โดยเฉพาะในเวลาที่อุปสงค์มีมากกว่าอุปทานเยอะมากๆ อย่างเช่นในเวลานี้ครับ กลไกทางการตลาดไม่สามารถหาราคาจุดอ้างอิงได้เลยครับ... ::004:: ::004:: ::004:: หัวข้อ: Re: ผมกำลังจะซื้อปืนโครงการฯ พอได้อ่านข่าวนี้แล้วชักจะไม่แน่ใจ? เริ่มหัวข้อโดย: rute - รักในหลวง ที่ พฤษภาคม 17, 2009, 10:03:15 PM ล่มก็ล่มครับ...
ผมทำใจได้...:~) หัวข้อ: Re: ผมกำลังจะซื้อปืนโครงการฯ พอได้อ่านข่าวนี้แล้วชักจะไม่แน่ใจ? เริ่มหัวข้อโดย: Steel90 ที่ พฤษภาคม 17, 2009, 11:43:27 PM แหลางข่าวที่ว่าก็คงออกมาจากร้านปืนนั่นแหละครับ
มองกันง่าย ๆ ใครได้รับผลกระทบถ้าราคาปืนถูกลง ต่อไปเรา ๆ ท่าน ๆ จะซื้อปืนแต่ละกระบอกต้องิดให้หนักล่ะครับ ถ้าถูกจับขึ้นมาล่ะก็ ไม่รู้ว่ากี่มือ ต่อกี่มือ ที่จะได้ปืนไปยิงเล่นฟรี ๆ เหตุนี้เกิดมาแล้วในท้องที่ สภอ.หนึ่ง ในจังหวัด ระนอง ครับ หัวข้อ: Re: ผมกำลังจะซื้อปืนโครงการฯ พอได้อ่านข่าวนี้แล้วชักจะไม่แน่ใจ? เริ่มหัวข้อโดย: JUNGLE ที่ พฤษภาคม 17, 2009, 11:59:44 PM เนื้อหาข่าวมันทะแม่งๆ นะครับ... เดี๋ยวนี้สามารถจดทะเบียนเปิดร้านค้าปืนได้ด้วยเหรอครับ... แล้วแบบ ป.๒ กลายเป็นใบพกพาไปได้อย่างไรกัน... เขียนข่าวเอามันส์.... พอๆ กับตอนที่มีข่าวมีปืนในประเทศกว่าสี่ล้านกระบอก... แถมใครๆ ก็ซื้อได้... ไม่รูว่าคนเขียนเป็นคนเดียวกันรึเปล่า... ::005:: ::005:: ::005::
...อยากให้ปืนราคาถูก... ง่ายนิดเดียว... แค่ปลดล๊อคระบบโควต้าออก... กับยอมให้เปิดร้านปืนเพิ่ม... แค่นี้ร้านก็จะแข่งกันลดแลกแจกแถม... หัวข้อ: Re: ผมกำลังจะซื้อปืนโครงการฯ พอได้อ่านข่าวนี้แล้วชักจะไม่แน่ใจ? เริ่มหัวข้อโดย: FORD-TECH-CHI-CHI รักในหลวง ที่ พฤษภาคม 18, 2009, 12:17:33 AM ธุรกิจค้าอาวุธปืนเฟื่อง ยื่นขอตั้งบริษัทเพิ่ม เปิดทางกลุ่มขรก.ซื้อเก็งกำไรแถมโอนเปลี่ยนมือได้ !! ตลาดค้าอาวุธปืนเฟื่องฟู หลังกรมการปกครอง เปิดช่องให้หน่วยงานรัฐมีสิทธิซื้อปืนได้อย่างกว้างขวาง แม้แต่พนง.รัฐวิสาหกิจ องค์กรอิสระ และศาล แถมโอนเปลี่ยนมือหลังครอบครอง 5 ปี วงในแฉขบวนการปั่นราคา หักค่าหัวคิวให้เครือญาตินักการเมือง ผู้สื่อข่าว "ประชาชาติธุรกิจ" รายงานว่า ในช่วงเดือนเมษายนที่ผ่านมาได้มีผู้ยื่นขอจดทะเบียนนิติบุคคลเพื่อประกอบกิจการซื้อขายอาวุธปืน เครื่องกระสุนปืน และเครื่องอะไหล่ปืนทุกชนิดต่อกรมพัฒนาธุรกิจ กระทรวงพาณิชย์ ประมาณ 50 กว่าราย เป็นที่น่าสังเกตว่า ที่ตั้งสำนักงานใหญ่ของนิติบุคคลที่ยื่นขอจดทะเบียนเกือบทั้งหมดจะอยู่ในย่านถนนจักรเพชร ถนนบ้านหม้อ ถนนทรัพย์สิน ถนนเจริญกรุง ถนนบูรพา และดิ โอลด์สยามพลาซ่า ที่อยู่ในแขวงวังบูรพาภิรมย์ เขตพระนคร แหล่งข่าวฝ่ายความมั่นคงเปิดเผย "ประชาชาติธุรกิจ" ว่า การเพิ่มขึ้นของร้านปืนในปัจจุบันส่วนหนึ่งมาจากโครงการสินเชื่อสวัสดิการเพื่อการจัดหาอาวุธปืนสำหรับข้าราชการและพนักงานของรัฐที่ดำเนินการโดยกรมการปกครอง กระทรวงมหาดไทย ได้รับความสนใจอย่างมาก โดยมีการสั่งซื้อปืนจำนวนมาก ขณะเดียวกันได้มีการยื่นขอจดทะเบียนเปิดร้านจำหน่ายอาวุธปืนเพิ่มมากขึ้นอย่างเห็นได้ชัด สาเหตุส่วนหนึ่งเกิดจากการเปิดช่องให้เจ้าหน้าที่ของรัฐหลายหน่วยงานซื้อปืนได้ นอกจากนี้ยังมีการปลดล็อกให้ผู้ซื้อสามารถโอนเปลี่ยนมือได้ใน 5 ปี นอกจากนี้ยังสามารถสั่งซื้อได้หลายรุ่นอีกด้วย ที่ผ่านมาราคาปืนในตลาดทั่วไปมีราคาค่อนข้างสูง กระบอกละประมาณ 80,000-100,000 บาทขึ้นไป แต่หากใช้สิทธิซื้อปืนสวัสดิการราคาจะลดลงเกือบ 1-2 เท่าตัว แหล่งข่าวระบุว่า ปัจจุบันตลาดค้าปืนเติบโตขึ้นกว่าเดิม เพราะประชาชนมีความกังวลเรื่องความไม่ปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน และประชาชนทั่วไปก็สามารถขออนุญาตซื้อปืนได้ รวมทั้งความนิยมในการแข่งขันยิงปืนเพิ่มสูงขึ้นด้วย ผู้สื่อข่าว "ประชาชาติธุรกิจ" ตรวจสอบพบว่าหน่วยงานที่มีสิทธิสั่งซื้ออาวุธปืนได้ ประกอบด้วยข้าราชการสังกัดกรมการปกครอง กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน แพทย์ประจำตำบล สารวัตรกำนัน สมาชิก อส. ผู้บริหาร สมาชิกและพนักงานองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น รวมทั้งข้าราชการพนักงานรัฐวิสาหกิจในสังกัดกระทรวงมหาดไทย รวมถึงข้าราชการสังกัดกระทรวงยุติธรรม สำนักงานปลัดกระทรวงยุติธรรม สำนักงานศาลยุติธรรม และผู้พิพากษา สำนักงานอัยการ และสำนักงานอัยการสูงสุด บุคลากรองค์กรอิสระตามรัฐธรรมนูญ สำนักข่าวกรองแห่งชาติ กรมป่าไม้ กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช กรมสรรพสามิต กรมศุลกากร กรมสรรพากร กรมราชทัณฑ์ สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง กรมการขนส่งทางน้ำและพาณิชยนาวี องค์กรอิสระและศาลก็มีสิทธิซื้อปืน เช่น สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) สำนักงานป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.) สภาความมั่นคงแห่งชาติ สำนักงานศาลปกครอง สำนักงานตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ตุลาการศาลปกครอง และผู้พิพากษา สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง แม้แต่หน่วยงานรัฐวิสาหกิจ เช่น การประปานครหลวง การประปาส่วนภูมิภาค การไฟฟ้านครหลวง การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค องค์การตลาด การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) บริษัท การท่าอากาศยานแห่งประเทศไทย จำกัด การปิโตรเลียมแห่งประเทศไทย การทางพิเศษแห่งประเทศไทย องค์การสงเคราะห์ทหารผ่านศึก บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) อย่างไรก็ตามแหล่งข่าวจากสมาคมผู้ประกอบธุรกิจค้าอาวุธปืนเปิดเผย "ประชาชาติธุรกิจ" ว่า โครงการปืนสวัสดิการมีมากขึ้นจนทำให้ปืนในท้องตลาดมีราคาสูงขึ้นมากกว่าปกติ เดิมทีการซื้อขายปืนจะเอาราคาตลาดเป็นราคาอ้างอิง แต่ตอนนี้ราคาปืนในท้องตลาดสูงมากกว่าปกติ จึงทำให้มีการทำปืนสวัสดิการมากขึ้น "ตัวอย่างปืนกล็อกที่มีต้นทุนนำเข้าจากต่างประเทศเพียงกระบอกละประมาณ 2 หมื่นบาท เมื่อนำมาเข้าเป็นปืนโครงการสวัสดิการให้ข้าราชการ เจ้าหน้าที่ จะมีราคาอยู่ที่ 4.5 หมื่นบาท แต่ทางร้านขายปืนกล็อกกระบอกละ 1.2 แสนบาท ทำให้ราคาปืนสวัสดิการอยู่ที่กระบอกละ 7-8 หมื่นบาท ถามว่า ราคาสูงขนาดนี้มีคนซื้อหรือเปล่า ผมตอบได้เลยว่ามี เพราะหลังจากที่มีการปลดเงื่อนไขปืนในโครงการสินเชื่อสวัสดิการเพื่อจัดหาอาวุธปืนฯที่มีล็อกอยู่ว่า เมื่อซื้อปืนสวัสดิการไปแล้วห้ามโอนตลอดชีวิต เป็นห้ามโอนภายใน 5 ปี ทำให้ความต้องการซื้อปืนมีมากขึ้น" แหล่งข่าวเปิดเผยว่า ต้นเหตุที่ทำให้ราคาปืนมีราคาสูงมากขึ้นจนผิดปกติเป็นเพราะมีเครือญาติของนักการเมืองผู้หนึ่งเป็นผู้มีส่วนในการกินค่าหัวคิว ในราคากระบอกละ 6,500 บาท โดยสามารถเอา อ้างถึง ใบอนุญาตพกพาปืน (แบบ ป.2) ไปได้เลย แหล่งข่าวจากวงการปืนอีกผู้หนึ่งให้ความเห็นไปในทำนองเดียวกันว่า การปลดล็อก 5 ปี ทำให้เกิดความต้องการซื้อปืนเพิ่มมากขึ้น ถึงไม่มีความต้องการ แต่เมื่อปืนสวัสดิการราคา 5 หมื่นบาท ส่วนในตลาดราคา 1 แสนบาท ซื้อมาใส่กล่อง 5 ปีแล้วนำมาขายอย่างไรก็ได้กำไร ทำให้ข้าราชการขวนขวายที่จะซื้อไว้ในแง่การลงทุน หรือแม้แต่ประชาชนที่มีความต้องการซื้อปืนก็ไปจ้างให้ข้าราชการที่มีโควตาสวัสดิการไปซื้อแทน ก็มีโอกาสที่เป็นไปได้ในอนาคต แหล่งข่าวกล่าวอีกว่า ร้านค้าที่เดิมมีโควตาขายปืนปีละ 30-50 กระบอก ก็ตระเวนซื้อโควตาจากแหล่งอื่นๆ เพื่อที่จะนำมาขายในตลาดในราคาแพง เพราะรู้ว่าสามารถขายได้ในราคาสูง ทำให้คนที่มีโควตาก็โก่งราคาโควตาได้แพงขึ้น คนทำโครงการสวัสดิการก็พอใจ เพราะราคาปืนในโครงการมีราคาถูกกว่าในท้องตลาด จึงทำให้ปืนราคาสูงขึ้นมากในปัจจุบัน ที่มา: ประชาชาติธุรกิจ ออน์ไลน์ http://www.matichon.co.th/prachachat/news_detail.php?id=3404&catid=2 วันที่ 17 พฤษภาคม 2552 - เวลา 15:07:45 น. ขออนุญาตครับ ผมไม่แน่ใจว่าข้อมูลที่ จขกท ให้มาถูกต้องรึเปล่า ใบอนุญาตพกพา ป.2 หรือ ป.12 ครับ งง งง..ไม่แน่ใจครับ ::005:: หัวข้อ: Re: ผมกำลังจะซื้อปืนโครงการฯ พอได้อ่านข่าวนี้แล้วชักจะไม่แน่ใจ? เริ่มหัวข้อโดย: ธำรง ที่ พฤษภาคม 18, 2009, 05:21:28 AM น่าจะเป็นใบอนุญาตให้สั่ง หรือ นำเข้าฯ ตามแบบ ป.2 นะครับ :)
หัวข้อ: Re: ผมกำลังจะซื้อปืนโครงการฯ พอได้อ่านข่าวนี้แล้วชักจะไม่แน่ใจ? เริ่มหัวข้อโดย: ธำรง ที่ พฤษภาคม 18, 2009, 05:47:41 AM เนื้อหาข่าวมันทะแม่งๆ นะครับ... เดี๋ยวนี้สามารถจดทะเบียนเปิดร้านค้าปืนได้ด้วยเหรอครับ... แล้วแบบ ป.๒ กลายเป็นใบพกพาไปได้อย่างไรกัน... เขียนข่าวเอามันส์.... พอๆ กับตอนที่มีข่าวมีปืนในประเทศกว่าสี่ล้านกระบอก... แถมใครๆ ก็ซื้อได้... ไม่รูว่าคนเขียนเป็นคนเดียวกันรึเปล่า... ::005:: ::005:: ::005:: ...อยากให้ปืนราคาถูก... ง่ายนิดเดียว... แค่ปลดล๊อคระบบโควต้าออก... กับยอมให้เปิดร้านปืนเพิ่ม... แค่นี้ร้านก็จะแข่งกันลดแลกแจกแถม... จดทะเบียนนิติบุคคลโดยมีวัตถุประสงค์ลอยๆไว้สักข้อว่าเพื่อค้าอาวุธปืนน่าจะทำได้นะครับ เมื่อก่อนอาจค้าจริงไม่ได้...... เพราะจำนวนโควต้าแต่ละปีจะอนุญาตให้กับรายที่มท.อนุญาตไว้เดิมเท่านั้น ตามนโยบายไม่เพิ่มร้านฯ ตอนนี้โครงการสน.สก.นำร่อง ....ให้ใครก็ได้มาร่วมดำเนินโครงการปืนสวัสดิการ จึงไม่เกี่ยวกับโควต้าปืนร้าน ...ถ้างั้นแล้วทำไมต้องจดฯกันใหม่...ก็(เดา)มองข้ามชอตไปว่า...ต่อไปหากปรับโควต้าปืนร้าน ร้านใหม่ก็อาจได้สิทธิ โดยพิจารณาจัดสรรโควต้า จากปริมาณการค้าที่ทำร่วมกับสน.สก. มีควันก็ย่อมมีไฟ ไม่มีมูลฝอย..... :~) เห็นด้วยตามคุณjungle ...... อยากให้ปืนถูกง่ายนิดเดียว ......... ทำไม๊ไม่ทำ :-\ หัวข้อ: Re: ผมกำลังจะซื้อปืนโครงการฯ พอได้อ่านข่าวนี้แล้วชักจะไม่แน่ใจ? เริ่มหัวข้อโดย: Beer Hunter ที่ พฤษภาคม 18, 2009, 09:16:41 AM ;D ;D หัวข้อ: Re: ผมกำลังจะซื้อปืนโครงการฯ พอได้อ่านข่าวนี้แล้วชักจะไม่แน่ใจ? เริ่มหัวข้อโดย: Daimyo ที่ พฤษภาคม 18, 2009, 09:33:51 AM ...อยากให้ปืนราคาถูก... ง่ายนิดเดียว... แค่ปลดล๊อคระบบโควต้าออก... กับยอมให้เปิดร้านปืนเพิ่ม... แค่นี้ร้านก็จะแข่งกันลดแลกแจกแถม... เห็นด้วยตามคุณjungle ...... อยากให้ปืนถูกง่ายนิดเดียว ......... ทำไม๊ไม่ทำ :-\ ผมว่า...ที่ไม่ทําเพราะหม้อข้าวจะแตกครับ....คนอื่นทุบยังพอทําใจได้...ทุบเองนี่สิ.... หัวข้อ: Re: ผมกำลังจะซื้อปืนโครงการฯ พอได้อ่านข่าวนี้แล้วชักจะไม่แน่ใจ? เริ่มหัวข้อโดย: Beer Hunter ที่ พฤษภาคม 18, 2009, 10:06:17 AM ผมว่า...ที่ไม่ทําเพราะหม้อข้าวจะแตกครับ....คนอื่นทุบยังพอทําใจได้...ทุบเองนี่สิ.... ประโยคนี้ผมตีความว่ามีการทุจริตเชิงนโยบายแบบชงเองกินเองในกระทรวงเกิดขึ้น หัวข้อ: Re: ผมกำลังจะซื้อปืนโครงการฯ พอได้อ่านข่าวนี้แล้วชักจะไม่แน่ใจ? เริ่มหัวข้อโดย: ธำรง ที่ พฤษภาคม 25, 2009, 03:44:58 PM เห็นข่าวอีกรอบ...มั่นใจว่าไปได้แน่..............แบ็คแข็งแรง ทีมแข็งแกร่ง แต่ประชาชนเต็มขั้น(อย่างผม)อ่านแล้วเศร้าชมัด ::004:: ที่มา : http://www.matichon.co.th/prachachat/prachachat_detail.php?s_tag=02pol02250552&day=2009-05-25§ionid=0202 วันที่ 25 พฤษภาคม พ.ศ. 2552 ปีที่ 32 ฉบับที่ 4108 ชำแหละปืนสวัสดิการ เงินนอกระบบสะพัด 800 ล้าน ชั่วโมงนี้ วงการค้าปืนสุดคึกคัก มีร้านปืนเปิดใหม่กว่า 50 แห่ง ยอดนำเข้าปืนก็พุ่งสูงขึ้น สาเหตุส่วนหนึ่งมาจากกระทรวงมหาดไทยเปิดช่องให้หน่วยงาน 36 แห่ง ซื้อปืนได้ นอกจากนี้ยังมีการปลดล็อกห้ามโอนปืนก่อน 5 ปี ทำให้ตลาดค้าปืนมีเงินสะพัดทั้งบนดินและใต้ดินนับพันล้าน และที่สำคัญมีการปั่นราคาขายปืนอย่าง ไม่เคยเป็นมาก่อน ล่าสุดยังมีข่าวสะพัดเรื่องไอ้โม่งกินหัวคิวกระบอกละ 6,500 บาท ภายหลังกระทรวงมหาดไทยเข้ามามีบทบาทควบคุมดูแลการซื้อขายปืนโครงการสวัสดิการ ตาม พ.ร.บ.อาวุธปืนฯมาตรา 71 บัญญัติให้อำนาจรัฐมนตรีกระทรวงมหาดไทยจำกัดจำนวนร้านค้าและกำหนดจำนวนชนิดและขนาดอาวุธปืน เครื่องกระสุน ฯลฯ ประเด็นที่น่าสนใจคือ ข้อกำหนดตามกฎหมาย 4 ประการ หนึ่ง ให้ร้านปืนสั่ง ปืนสั้นเข้ามาขายได้ปีละ 30 กระบอก ปืนยาวปีละ 50 กระบอกต่อ 1 ร้าน และมีการออกใบอนุญาตให้ตั้งร้านค้าปืนเป็นจำนวน 337 ใบอนุญาต 70% อยู่ใน กทม. ที่เหลือกระจายกันอยู่ในต่าง จังหวัด ซึ่งมีผลทำให้มีการนำเข้าปืนสั้น เข้ามาขายในประเทศได้ปีละ 10,110 กระบอก สอง ห้ามนายทะเบียนออกใบอนุญาตให้กับบุคคลธรรมดาสั่งปืนสั้นเข้ามาใช้เอง สาม การจัดทำปืนโครงการสวัสดิการ ก็คือการขอยกเว้นการปฏิบัติตามคำสั่ง มท.ที่ 108/2535 นั่นเอง และที่ผ่านมาจะมีค่าใช้จ่ายไม่พึงเปิดเผยในการ "ยกเว้น" กระบอกละ 2,000 ถึง 3,500 บาท แล้วแต่ว่าจะขอขึ้นมามากหรือน้อย รวมทั้งขึ้นอยู่กับว่าเป็นสวัสดิการของหน่วยงานใด เช่น ของสำนักงานศาลยุติธรรม ค่าใช้จ่ายค่อนข้างต่ำ สี่ โครงการล่าสุดของสำนักการสอบสวนและนิติการ กรมการปกครอง (สน.สก.) เป็นการริเริ่มโดยทีมงานที่ปรึกษา มท.1 และข้าราชการภายใน สน.สก.เอง ตัวเลขนี้ขึ้นไปที่ 6,500 บาท แต่มีข้อตกลงห้ามโอนเพียง 5 ปี และผู้เข้าร่วมโครงการไม่จำเป็นต้องมีหนังสือแต่งตั้งให้เป็นผู้แทนจำหน่าย แหล่งข่าวในวงการค้าปืนกล่าวว่า วิธีการจัดโครงการสวัสดิการ มีขั้นตอนต่างๆ ก่อนที่ผู้ซื้อจะได้รับอนุญาตให้ซื้อปืน 7 ขั้นตอน "ตามขั้นตอน ผู้ขายจะมีการจ่ายเงินให้กับระดับข้าราชการประจำอีก 300-1,000 บาท โดยปืนที่ผู้ซื้อดำเนินการทางเอกสารเองจะจ่ายประมาณ 300 บาท ส่วนปืน ที่ผู้ขายดำเนินการให้กับผู้ซื้อก็จะเพิ่มขึ้นบ้าง โดยถ้าเป็นการโอนออกไปยังสำนักงานทะเบียนต่างจังหวัดตามภูมิลำเนา ของผู้ซื้อ จะมีค่าใช้จ่ายประมาณ 1 พันบาท" ในปี 2535 มีการนำปืนสั้นเข้ามาจำหน่ายจำนวน 10,110 กระบอก ต่อปี จัดว่าเหมาะสมกับตลาด แต่เมื่อเวลาผ่านไป ประชากรเพิ่มมากขึ้น ทำให้ปืนสั้นเริ่มมีราคาสูงขึ้นอย่างผิดปกติ โดยในปี 2545 มีการขายปืนสั้นในราคาสูงกว่าต้นทุนการนำเข้าประมาณ 2.5 ถึง 3 เท่า และในปัจจุบันเกณฑ์นี้ได้เพิ่มขึ้นเป็น 5 ถึง 6 เท่าตัว "ตัวอย่างเช่นกล็อก 19 ปืนยอดนิยม ร้านปืนจะสั่งซื้อในราคากระบอกละ 325 เหรียญสหรัฐ เมื่อบวกค่าขนส่ง รวมทั้งภาษีอากรต่างๆ ทั้งสิ้นทั้งปวงแล้วก็จะอยู่ที่ประมาณ 22,000 บาท แต่ใน ท้องตลาดปัจจุบันจะขายกันที่ราคา 120,000 บาท" "ตามหลักเศรษฐศาสตร์ รัฐควรปรับสมดุลเพื่อป้องกันมิให้มีการลักลอบนำเข้าอาวุธปืนเถื่อนเข้ามาขาย แต่ก็หาได้ทำเช่นนั้นไม่ เนื่องจากเจ้าหน้าที่ผู้รับผิดชอบมีผลประโยชน์ทับซ้อนระหว่างงานในหน้าที่กับประโยชน์ส่วนตัว" นับจากปี 2546 กระทรวงมหาดไทยได้แต่งตั้งให้อธิบดีกรมการปกครองเป็น นายทะเบียนอาวุธปืน กทม. ทำให้ช่องทางหาผลประโยชน์จากราคาปืนสั้นที่เพิ่มสูงขึ้น โดยได้มีการจัดตั้งโครงการจัดหาปืน เพื่อเป็นสวัสดิการให้แก่ข้าราชการกรมการปกครอง ซึ่งต่อมาได้แพร่ขยายออกไปยังหน่วยงาน 36 แห่งทั้งที่ จำเป็นและไม่จำเป็นต้องใช้ปืน "มีการยกเว้นคำสั่งกระทรวงมหาดไทยที่ 108/2535 เพื่อสั่งปืนสั้นเข้ามาในโครงการมาแล้วประมาณ 2 แสนกระบอก ซึ่งเป็นจำนวนอันน่าตกใจที่ในระยะเวลา 6 ปีมีสั่งซื้อปืนสั้นจำนวน 2 แสนกระบอกเข้ามาให้กับเจ้าหน้าที่ของรัฐ 4 ล้านคน ในขณะที่ร้านปืนทั้งประเทศสั่งเข้ามาขายประชาชน 65 ล้านคนเพียงปีละ 10,110 กระบอกเท่านั้น" "ปืนสวัสดิการจะมีต้นทุนสูงกว่าปืนร้าน เนื่องจากต้องเสียภาษีมูลค่าเพิ่มเต็มตามจำนวนราคาขายโดยไม่มีโอกาสหลบเลี่ยง และยังต้องเสียเงินค่าอนุมัติให้ยกเว้นคำสั่ง 108/2535 ซึ่งเป็นเงินที่ต้องจ่ายแบบไม่มีใบเสร็จรับเงินอีกด้วย" "ว่ากันว่าโครงการแรกของกรมการปกครองนั้น เงินค่าอนุมัตินี้จะอยู่ที่ 2,000-3,500 บาทต่อกระบอก กับจ่ายให้กับข้าราชการประจำที่เกี่ยวข้องอีกประมาณ 1,000 บาท จึงเกิดเงินนอกระบบขึ้น 800 ล้านบาท และทำให้ปืนกล็อก 19 ขายในโครงการสวัสดิการได้กระบอกละ 6,000 บาท โดยพ่อค้าได้กำไรกระบอกละ 6,000 บาท" คนในวงการค้าปืนผู้หนึ่งกล่าวว่า โครงการสวัสดิการที่ดำเนินการโดย สน.อส. (สำนักอาสารักษาดินแดน) ตั้งแต่ปี 2546 ก็ยังเป็นโครงการที่มี หลักการ และวิธีดำเนินการที่ดีพอสมควร เนื่องจากให้ส่วนราชการถือเงินกับ เก็บปืนเอาไว้ พ่อค้าจะได้รับเงินต่อมา เมื่อผู้ซื้อปืนได้รับปืนไปเรียบร้อยแล้วเท่านั้น และยังมีการ คัดกรองพ่อค้าที่เข้าร่วมโครงการว่าจะต้องมีหนังสือแต่งตั้งจากโรงงานผู้ผลิตอาวุธปืน มีข้อตกลงห้ามโอนขายปืนที่ซื้อไปอย่างเด็ดขาด ยกเว้นแต่เป็นการตกทอดทางทรัพย์มรดก "เมื่อนักการเมืองกลุ่มเสื้อสีน้ำเงินเข้ายึดกุมกระทรวงมหาดไทย ก็ได้สั่งการให้กรมการปกครอง โดย สน.สก.เปิด โครงการสวัสดิการขึ้นอีกโครงการหนึ่ง คาดว่ามีเป้าหมายที่จะขายปืนให้ได้ 1 แสนกระบอก แต่ราคาปืนในโครงการจะแพงกว่าโครงการเดิมที่ดำเนินการโดย สน.อส.ประมาณ 3-4 พันบาท" "สาเหตุที่ต้องขายแพงกว่า มาจากการที่ฝ่ายการเมืองเรียกร้องค่าอนุมัติในอัตรากระบอกละ 6,500 บาท ทำให้พ่อค้าต้องผลักภาระนี้มายังผู้บริโภค แต่เพื่อให้แข่งขันกับโครงการของ สน.อส.ได้ ก็เลยวางข้อกำหนดห้ามโอนไว้ 5 ปี หลังจากที่ซื้อปืนไปแล้ว 5 ปีสามารถโอนหรือขายให้กับผู้ใดก็ได้ ต่างจากโครงการของ สน.อส.ที่ห้ามโอนในขณะที่ผู้ซื้อยังมีชีวิตอยู่ ทั้งๆ ที่เป็นโครงการของกรมการปกครองด้วยกัน" แหล่งข่าวกล่าว ชั่วโมงนี้ แต่ละกระทรวงมีเรื่องทึบแสงมากมาย ไม่ว่าจะเป็นกระทรวงคมนาคม กระทรวงพาณิชย์ รวมถึงกระทรวงมหาดไทยที่มีทั้งเงิน มีทั้งปืน ปัญหามีเพียงว่า ใครจะกล้าแตะ ! หัวข้อ: Re: ผมกำลังจะซื้อปืนโครงการฯ พอได้อ่านข่าวนี้แล้วชักจะไม่แน่ใจ? เริ่มหัวข้อโดย: ธำรง ที่ พฤษภาคม 25, 2009, 03:51:28 PM และนี่ก็น่าสนใจ...ว่ามีใครบ้างในธุรกิจนี้ครับ ;) ที่มา : http://www.matichon.co.th/prachachat/prachachat_detail.php?s_tag=02pol03250552&day=2009-05-25§ionid=0202 วันที่ 25 พฤษภาคม พ.ศ. 2552 ปีที่ 32 ฉบับที่ 4108 รายชื่อผู้นำเข้าอาวุธปืน (ม.ค.-เม.ย.2552) กองทัพเรือ โดยกรมพลาธิการทหารเรือ, ส่วนราชการกรมสรรพาวุธทหารบก, กองทัพอากาศ โดยกรมขนส่งทหารอากาศ กองบัญชาการสนับสนุนทหารอากาศ, หจก.ปืนเอกภัทร, ศูนย์อำนวยการสร้างอาวุธ, บจก.ยี.เอ็ช. อินเตอร์เนชั่นแนล, ศูนย์ปฏิบัติการกองทัพบก, บจก.บุลเล็ท มาสเตอร์, หจก.พ.ห้างปืนวังบูรพา, หจก.ไพบูลย์เศรษฐกิจ, บจก.รอยัล ดีเฟนส์, บจก.รอยัล แอมมูนิชั่น, หจก.ไทยเนชั่นแนลการค้า, บจก.สายทองอามส์, บจก.ชัยเสรี (กรุงเทพ), หจก.สมานชีพ, หจก.ปืนไพศิษฐ หจก.ปืนโอลิมปิก, หจก.ปืนเอราวัณ, หจก.ปืนนครหลวง, หจก.ปืนอุณากรรณ์, หสน.ห้างค้าปืนอินโดไทย, บจก.เซอุส อินเตอร์เนชั่นแนล,หจก.ปืนราชา, หจก.ปืนสี่พระยา, บจก.ยี.พี. อินเตอร์อาร์ม, สมาคมยิงเป้าบินแห่งประเทศไทย, หสน. ปืนธีรพงษ์, หจก.พัฒนาอุปกรณ์, หจก.ปืนสุกัญญา, หจก.ปืนอำนาจ, บจก.มาร์ซัน, หจก.ปืนเกษม หจก.ปืน พ.พาณิชย์, หจก.ปืนธรรมวัฒน์, หจก.ปืนดำริห์การค้า, หจก. ปืนประโยชน์, บจก.ไทยอามส์, หจก.ปืนปนัดดา, หจก.ปืนเทเวศร์, หจก.จำรัสวัฒนา, หจก.ปืนมิตรภาพ, หจก.มานิตย์ยนต์, หจก.ปืนโสภาพรรณ, หจก.ปืนปราการ, หจก.ปืนอนุรักษ์, หจก.ปืนก่อเกียรติ, หจก.ปืนรวีวรรณ, หจก.ปืนอินฟินิตี้ หจก.ปืนนาค, หจก.สนั่นการค้า, บจก.ปืนถาวร, หจก.ปืนสุชาติและเพื่อน, ร้านนายสุชาติ บุณยะชัย, หจก.ปืนพยนต์, หจก.ปืนดวงเด่น, หจก.ปืนชาตรี, หจก.สันทนา, หจก.ปืนสุวิมล, หจก.ปืนฐานิศร, หจก.โกลเบิ้ลอิมเป๊กซ์, หจก.ปืนกังวาน, หจก.ปืนสองพี่น้อง, ร้านนางยินดี เลี้ยงมาด หจก.ปืนสุชาติ, หจก.ปืนสมบูรณ์นครชุม, หจก.ปืนปตินันท์, หจก.ปืนชัยชัชวาล, หจก.ปืนพีระชัย, หจก.ตั้งเจียบหลี, หจก.ปืนวันมีลาภ, หจก.ปืนนิธิ, หจก.ปืน ศ.ธนพล, หจก.เป็นสุริวงศ์, หจก.ปืนสายลม, หจก.มันตาภรณ์, หจก.ปืนธานินทร์, หจก.ปืนวิชชา, หจก.ปืนสาริน, หจก.ปืนนวลน้อย หจก.ปืนยิ่งเจริญ, หจก.ปืนชาญ, หจก.ม.ฮะกีมี, หจก.ปืนรุ่งเรือง, หจก.สิงห์ทองไฟร์อาร์ม, หจก.ปืนวรัตน์, หจก.ปืนรุ่งรัตน์, หจก.ปืนยุทธนา, หจก.ปืนเศตมาศ, หจก.อรสา, หจก.ปืนแชมเปี้ยน, หจก.เอนกและบุตร, หสน.ส.พาณิชยการ, หจก.ปืนสมพล, หจก.ปืนรุ่งโรจน์ หจก.ปืนพีพีซี, หจก.ปืนรุ่งอรุณ, บจก.เค.ท็อปไลน์, PRAPHA ARMS R.O.P, หจก.ไกอาร์ม, หจก.สมประสงค์และเพื่อน, หจก.ปืนหมู่ชั้น, หจก. ิกซ์เทค, หจก.ปืนธง, หจก.ปืนโยธิน, หจก.นิวปืนสุขเสมอ, หจก.ปืนวิโรจน์, หจก.ปืนคลองโพ, หจก.ปืนเอนกและเพื่อน, หจก.ปืนสายฟ้า, ร้านนางสาว สุวรรณา เลาหเพียงศักดิ์ หจก.อินโดไทยสปอร์ต, การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย, หจก. พรมีลาภ, หจก.ปืนบ้านหม้อ, หจก. มิลพอยท์ เทรดดิ้ง, หจก.ปืนอาภา, บจก.หลุยส์ ตี.เลียวโนเวนส์ (ประเทศไทย), บจก.หะรินพาณิชย์, บจก.ยูซีไอ คอร์ปอเรชั่น, บจก.ทีเพค อินเตอร์เนชั่นแนล, หจก.กรยุทธ, หจก.ปืนเพชรกำธร (2509), บจก.เจเนล อินเตอร์เทรด, หจก.สหเทพอินเตอร์เนชั่นแนล, หจก.เอส แอนด์ พี พัฒนาธุรกิจ บจก.วิริยะกิจ (1995), บจก.เฟดเดอรัล เอ็กซ์เพรส (ประเทศไทย), บจก.เพชรประภา อินเตอร์เทรดดิ้ง, บจก.คาซ่า เมียร์ อิมปอร์ต เอ็กซ์ปอร์ต, บจก.ไทยผลิตผลรุ่งเรือง, บจก.มังกรทอง เอ็น.จี, บจก.แม็ค คอนเนล ดูเวล คอนสตรัคเตอร์ ไทย, บจก.มูราตะ อิเล็กทรอนิกส์ (ประเทศไทย), บจก.วิศวกิจพัฒนา หัวข้อ: Re: ผมกำลังจะซื้อปืนโครงการฯ พอได้อ่านข่าวนี้แล้วชักจะไม่แน่ใจ? เริ่มหัวข้อโดย: วายุ - รักในหลวง ที่ พฤษภาคม 25, 2009, 04:00:26 PM อู้หู.... :o :o :o
หัวข้อ: Re: ผมกำลังจะซื้อปืนโครงการฯ พอได้อ่านข่าวนี้แล้วชักจะไม่แน่ใจ? เริ่มหัวข้อโดย: นายขม รักในหลวง ที่ พฤษภาคม 25, 2009, 04:07:40 PM ได้แต่ ;D อย่างเดียว
|