เว็บบอร์ดสนทนาภาษาปืน

G19 กับ SIG228 เลือกอย่างไหนดีครับ 77K แพงไหมครับสภาพ95UP
และข้อดีข้อเสียด้วยครับ ขอบคุณครับ

ซิกครับ....มีนกซ้อมดรายไฟร์ง่ายกว่าครับ.....แถมมีระบบความปลอดภัยมากกว่ากล๊อก

ถ้าราคาเท่ากัน เลือก SIG P228 แบบไม่ต้องคิดมากครับ ....

ถ้าผมจำไม่ผิด SIG P228 เข้าประจำการในกองทัพสหรัฐอเมริกา ในชื่อ M11 ครับ

(อ้างอิง http://en.wikipedia.org/wiki/SIG_P226#P228 )

ราคาเท่ากัน เลือกsigครับ

ราคา ต่างกันไม่เกิน 20k  ผมก็เลือกซิกครับ

sig ด้วยคนครับ ลองขอเจ้าของไปยิงดูที่สนามพร้อมกันครับ แล้วจะพบ

ครับราคาเท่ากัน สภาพพอกันเลือกซิกครับ

sig อีกเสียงครับ  :)

......................   ::002::       :D  ผมก็เหมือนกัน ครับ.

แต่ราคาปืนมือสอง ทั้ง ๒  น่าจะอยู่ที่ ๗๐,๐๐๐ .+/- ๕,๐๐๐ . -  นะครับ   :D

เลือก SIG อีกเสียงครับ คุ้มค่า  ::002::

เลือก SIG P228ครับ.. ;D

ถ้าเอาชอบผมชอบกล็อค แต่ถ้าเลือกเอาคุ้มผมเลือกซิกครับ อิ อิ ;D

ซิก ซาวเออร์ 228 สิครับ คุ้มค่ากว่า

ต่างยืนยัน ซิก เป็นเสียงเดียว ผมด้วย คอนเฟิร์ม ในชั้นปืนต่อสู้ ของเขาดีจริง

ตอนนี้ราคา SIG ก็คงจะเริ่มสูงขึ้นอีกครับ
ผมเลือก SIG เหมือนกันครับ

 :)

ตะก่อนนั้น Sig ๙ พารา ต้องเป็น Sig ๒๒๖  และ  Glock ๙ พารา ต้องเป็น Glock ๑๗

ผมสลับกัน เลยชวด สองร้อย ซาวแปด  ไปเลือกคบ สองร้อย ซาวหก แทน ทั้งที่มีโอกาสได้เลือกแล้ว  :~)
ทุกวันนี้ ยังอยากมี ๒๒๘  อยู่เลยครับ ของใหม่ไม่มีเข้ามาในบ้านเรานานมากแล้ว

และก็ได้ เลือก ๑๙  แทน  ๑๗  ..  ::005::

ผมเลือก SIG ครับ  ::002::

ถ้าเป็นไปได้ผมเลือก Sig ครับ แต่ตอนนี้ใช้ Glock อยู่ครับ

ซิก ฯ ด้วยคนครับ  ..สวย..มองไม่เบื่อ.. ใช้งานป้องกันตัวก็อยู่ในระดับดี ...ผมหา 228 ไม่ได้  ก็เอา 229 ไว้แทนแล้ว  :D

แน่นอนอยู่แล้วครับ เป็นผมก็ต้องเลือก sig228 ราคาต่างประเทศก็ต่างกันเป็นเท่าแล้วครับ :VOV: :VOV:

ถ้าราคาชนิดสูสี ไม่ถูกหรือแพงต่างกันมาก ผมเลือก SIG 228 อย่างไม่คิดมาก  ::002:: 

ไม่ต้องเลือกครับ  sig  กระบอกเดียว   :D~

ผมยังอยากได้เลย :~)

ตระกูล Glock ก็เหมือน ตระกูล Cz   เกิดได้และติดตลาด เพราะราคาถูก แต่มีคุณสมบัติหลัก ที่ปืนชั้นดี มี

คือ แม่นยำ และไม่เลือกลูก ไม่ขัดลำ .. การขัดลำต้องเกิดจา่กกระสุนปืนที่ห่วย ไม่ใช่เกิดจากตัวปืน

คุณสมบัติตลาดล่าง เรื่องความแม่นยำ ของ Glock, Cz นี้ ทำให้หลายท่าน เข้าใจผิดกลายเป็นมองว่า
ปืนพวกนี้แม่นยำกว่า พวกราคาสูง ตลาดบนไปเสียฉิบ . ;D

ตะก่อน ปืนผ่านมือผมมาพอสมควร .. แต่มียี่ห้อหนึ่ง ไม่ว่า จะเป็นผม หรือเพื่อนผมที่ยิงปืนเป็น แบบมือลูกทุ่ง
ยิงเร็ว ๆ พอวาดปืนทาบเป้า ก็กด เป้าคือขวดเบียร์ หรือขวดเหล้า ที่ไม่ถูกส่งโรงน้ำปลา.. 
ระยะ ๒๐ เมตร +/-  ๑ ขวด/๑ นัด

ปืนกระบอกนั้น คือ Sig ๒๒๖  และทำให้ผม รีีบซื้อไว้มาแทน Colt super  ทันที .. ซึ่งกับปืนยี่ห้ออื่นในตอนนั้น
แม้แต่ Colt super ยังทำได้ไม่ดีเท่า .  ::002::

เลือก228ครับ ห่างชั้นกันเหลือหลาย  ;)

กล็อกหมดค่าตั้งแต่ราคาเกิน60,000แล้วครับ ซื้อกล็อก75,000ได้ก็ซื้ออูซี่140,000ได้....เหมือนกันเด๊ะ

สนับสนุุน 1 เสียงครับ
 ;D ;D ;D ;D

โห เปรียบซะเห็นภาพเลยครับ 

ถ้าเอาราคามาวัด  ปืนซิก ในสายตาคนไทย ปัจจุบัน ถือว่าเข้าขั้น ปืนไฮโซ  ในขณะที่กล็อค ในสายตาคนไทย คือปืนใช้งาน ราคาถูก ปืนลุย ว่างั้นเหอะ
เมื่อเอาปืนไฮโซ มาเทียบกับปืนลุย แล้วเอาราคามาเป็นตัวตัดสินใจ  เลือกซิกฯ ดีกว่าครับ เพราะว่า ท่านจะได้ปืนสวยงามไว้ใช้

แต่ถ้ามองถึงความสมบุกสมบันแล้ว กล็อคชนะขาด
ผมเคยเห็นฝรั่งพวกหนึ่ง ซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่ฝรั่ง อเมริกันนั่นแหละ 
เมื่อปี 2538-2540 ฝรั่งอเมกันพวกนี้ อยู่ระหว่างยุคของการสับสน กล่าวคือ
ในหน่วยเดี่ยวกันแท้ๆ กับซื้อปืน 2 อย่าง
อย่างที่ 1 คือ ซิก พี 226 และ 228
อย่างที่ 2 คือ บาเร็ตต้า คอมแพ็ค หน้าตาเหมือน 92 แต่สั้นกว่าหน่อย
เวลาฝึกซ้อมยิงกัน ต้องแบ่งเป็นสองทีม เพราะกลไกปืนไม่เหมือนกัน เขาไม่ให้มายิงปนกัน
4-5 ปี ผ่านไป ฝรั่งอเมริกันพวกนี้ ปรากฎตัวอีกครั้ง พร้อมกับ กล็อค .40 ที่เอว  และ กล็อค 26 ที่หน้าแข้ง
และจนถึงวันนี้ เวลานี้ ฝรั่งอเมริกันพวกนี้ ก็ยังคงเหมือนเดิม คือ กล็อค .40 ที่เอว  กล็อค 26 ที่หน้าแข้ง

เพราะฝรั่งพวกนี้ เขาซื้อปืนพวกนี้มาใช้ เพราะเขาเน้นการใช้งานเป็นหลัก เขาไม่ได้เน้นสวยงาม ค่านิยมอะไร เขาเน้น ความอดทนสมบุกสมบันของปืนเป็นหลัก

แล้วท่านละ ท่านคิดจะซื้อปืนครั้งนี้ มาเพื่อทำอะไรครับ
ถ้าท่านคิดว่าจะซื้อมาเป็นปืนกระบอกแรก ดูสวยงามน่าชม  ก็ ซิก
แต่ถ้าท่านคิดจะซื้อมาแล้วใช้งานจริงๆ ขอย้ำ ซื้อมาใช้ ไม่ใช่ซื้อมาชม กรุณ ซื้อกล็อค
แม้ราคาจะเท่ากัน มองดูเหมือนซื้อกล็อค สงสัยจะแย่ แต่ถ้าคิดในแง่ประโยชน์ใช้สอยแล้ว กล็อค ดีกว่า

ซิก 228 ไม่มีข้อเสียอะไรเด่นชัด  แต่เวลาเข้าสนาม ผมเคยเห็นน๊อตด้ามมันหล่นหายในสนามหญ้า เกณฑ์กำลังหากันแทบตาย  ถ้ารักปืนเสียหน่อย ก่อนจะไปยิง ก็กวดขันสกูรด้ามซักนิด ก็ไม่เป็นอย่างที่ผมว่า  แต่บางครั้ง ก็ลืมกวดขัน
ส่วนกล็อค ลืมปัญหาเรื่องนี้ ไปได้เลย

โครงปืนอัลลอยด์ ของซิก ก็มีความอ่อนนุ่ม พอสมควร ถ้าใช้แบบถนอม ก็ไม่มีปัญหา
แต่ถ้าคิดใช้แบบลุยๆ ล่ะก็ อย่าเสี่ยง ริ้วรอย ลึกๆ อาจเกิดขึ้นที่ผิวได้อย่างสบายๆ หากครูด หรือตกกระทบกับพื้นผิวแข็งๆ เช่น หิน เป็นต้น พอเป็นรอยก็เสียสวย

สรุปสุดท้าย ถ้าคิดว่า เอาราคามาเป็นตัวจับในการตัดสินใจ การตัดสินใจซื้อซิกคราวนี้ ถือว่า ได้กำไร ซื้อกล็อคขาดทุน
แต่ถ้าคิดจะเลือกเทคโนโลยี่ใหม่  ที่ล้ำสมัยในอนาคต ต่อๆ ไป ก็เลือกกล็อค เพราะราคาไม่น่าตัดสินซื้อเท่าไหร่

ไปเอาฝั่่งเมกา มาเทียบ กับบ้านเราไม่ได้หรอกครับ

เ้มกา ราคาปืน มันไม่กี่ตังค์ Glock ๑๙  ๖๐๐ USD +/- 
ในขณะที่ Sig  ๙ พารา ราคา ๘๐๐-๙๐๐ USD +/-

บ้านเขา ซื้อแล้วได้ปืนที่สมราคา  ก็ต้องเลือก ปืนที่ราคาต่ำกว่า แล้วได้ คุณภาพ แม่นยำ การย่อยกระสุนไม่ต่างกัน
ลองให้ Glock มีราคา อยู่ที่ ๘๐๐ USD ซิครับ Glock เป็นเดี้ยง ทันที  ราคา Glock จึงยังต่ำกว่า ถึง ๒๐๐ USD
ในเมกา ถือว่า ส่วนต่างสูงมากครับ และชี้ให้เห็นว่า เป็นปืนคนละตลาด

แต่บ้านเรา ต้นทุกต่ำกว่า มาตีเทียบปืนราคาสูง เ้พราะการปั่นราคา ในบ้านเรา
จะไปส่งเสริม ให้นกเอี้ยงเกาะไหล่ อยู่ทำไม ครับ. :OO   

ขออนุญาตพี่โร้ด หัวเราะหน่อยนะครับ...............

 ::005::

 :D :D :D :D.. 

ผมใช้ Sig ๒๒๖ มากว่า ๑๓ ปี  และตามหา Sig ๒๒๘ จองซื้อเงินสด แต่สวัสดิการล้มซะก่อน

แต่ก็ตามมาหลายปีและไม่ได้ตัว  จึงเ้ลือกซื้อ Glock ๑๙ ไว้ในราคา ๔๓,๐๐๐.
เหตุผลเพราะเป็น Compact เบา กระทัดรัด ไม่เรื่องมาก และราคาถูกเท่านั้น การยิงนั้นหรือ Sig ชัวร์ แน่นอน ไม่เป็นรองใคร

Glock กับ Sig จากมหาอำนาจการผลิตอาวุธปืน.. เยอรมันนั้น ชื่อชั้นเหนือกว่า มากครับ.  ::002::

โยธินเปิดจองครับ  เดี๋ยวคิดว่ากลางเดือนหน้าจะพาพี่เขยไปจองครับ

  ราคาเท่ากันเลือกซิกแน่นอนครับ...

Sig 228 ครับ

ปืนไม่มีเซฟเหมือนๆ กัน แต่กล็อกแม่นกว่า   ::005::

ตามนี้ครับ ท่านประธานครับ

แต่ระบบของSigสมบูรณ์กว่า  ::001::


ถ้าคุณเต่าได้เคยเห็นSphinxของผม คุณเต่าจะไม่แบ่งแยกปืนใช้งาน-ปืนไฮโซฯด้วยความเนี๊ยบจากโรงงานครับ  ;D

เคยเห็น Sphinx ในหน้าสีโฆษณามันช่างงดงามหยดย้อยดีเป็นตัวสแตนเลสเนื้อขาวสวยระยับเลย

..................  ::005::
ผมรวบมาทั้ง Sig ๒๒๖,  Glock ๑๙,  Cz ๗๕ Compact . อุดช่องไว้แล้ว

ทั้งอัลลอยด์ โพลิเมอร์ และเหล็กทั้งแท่ง เว้นแต่ สเตลเลส เท่านั้น  ::008::

Sphinxขาวแต่ในตู้ครับ ออกจากตู้ปุ๊บเหลืองอ๋อยปั๊บ เหลือแต่ว่าจะมีตกกระแถมให้ด้วยหรือเปล่า  ::012::

รสนิยมส่วนตัวไม่ชอบ ซิก ครับ  :)

ไม่เสมอไปครับ  อย่าเหมารวม  อย่ามั่วครับ

สรุปให้ครับ ชอบตัวไหน เอาตัวนั้นครับ ดีๆ ทั้งนั้น  ;D ;D

เหมือนนักการเมืองไทยเลย ..............


 ::005:: ::005:: ::005::

ผมจำไม่ได้ว่าหน่วย Seal ของอเมริกา กับ หน่วย SAS ของอังกฤษ ใช้ปืนขนาด 9 มม.พาราฯ รุ่นอะไรครับ? .............

ปืนไม่มีเซฟผมไม่มีสักกระบอก   ปืนพลาสติกผมก็ไม่มีสักกระบอก   ทุกวันนี้ผมยังทำใจไม่ได้ครับปืนพลาสติก ก.ก ละร่วมแสน.....ครับพี่

::006:: จริงๆร้านเค้าขายเท่ากันต่างหาก  ::006:: แต่กาแฟแก้วล่ะ 70,000 ย๊ะ  ::005::

ราคาเท่ากัน ผมเลือก อัลลอย(sig 228) ไม่เลือกพลาสติก ครับ

อ๋อ.....คืองี้ครับ ผมก็ไม่ได้เหมารวมไปหมดหรอกครับว่า ฝรั่งมะริกัน จะต้องใช้กล็อคกันทุกหน่วย เพียงแต่ทราบข่าวมาว่า ปืนกล็อค ที่ราคาถูกๆ แบบนี้แหละ กำลังระบาดไปทั่วสหรัฐ เท่านั้นเอง ผมก็แค่เจอบางหน่วยเท่านั้น ไม่ได้เจอทุกหน่วย  ผมเห็นมาอย่างไร ก็ว่าไปตามที่เห็นมานั่นแหละครับผม ..........
เท่านั้นยังไม่พอ เวลาดูข่าวต่างประเทศ ผมก็ชอบดูที่เอวของตำรวจต่างประเทศ ทุกวันนี้ ก็เห็นกล็อค หนาตาขึ้นทุกวัน
เรื่องราคากล็อค ว่าเป็นปืนราคาถูก แล้วฝรั่งนิยมใช้กัน อันนี้ ก็พอจะเป็นเหตุผลได้เหมือนกัน เพราะฝรั่งชอบของราคาถูก ........ก็เป็นไปได้  แต่ถ้าราคาถูกแล้ว ใช้ไม่ได้เรื่อง ผมว่า มันก็ไม่น่าจะนิยมกันถึงขนาดนี้นะครับ ......

แล้วมันเกี่ยวอะไรกับที่ผมถามคุณ .40 S&W ครับ.........................

พอดีลืมอ่านไป วันนี้ มีเวลาบ้าง จะมาต่อให้ ไม่ทราบท่านเจ้าของกระทู้จะยังอยู่หรือเปล่า
เอางี้แล้วกัน เรื่องราคา ผมคิดว่า ถ้าปืนสองกระบอกนี้ ราคาเท่ากัน  ถ้ามองในแง่ของราคา ถ้าซื้อซิก ถือว่ากำไรนะครับ
เพราะซื้อปืนที่ราคาในเมืองไทยสูงลิ่ว เท่ากับปืนกล็อค ซึ่งราคาในเมืองไทยเทียบชั้นราคาค่านิยมกับซิก ไม่ได้หรอกครับ  ซิกแพงกว่าเยอะ
กล็อคราคาถูกกว่าซิก มากนัก ชนิดเทียบกันไม่ติด ..............
เมื่อมีโอกาสซื้อปืนซิก ในราคาเดียวกับปืนกล็อค  หากตัดสินใจ ซื้อซิก จะถือว่าได้กำไร ในเชิงของการซื้อขาย
ซื้อกล็อค จะถือว่าขาดทุนในการซื้อขาย เพราะซื้อปืนโพลิเมอร์ ในราคาสูงเกินไป เมื่อเทียบกับ ค่าเงินของต่างประเทศแล้ว ก็ยอมรับว่า กล็อค ซื้อมาถูก เอามาขายกันแพงๆ ร้านปืน กำไรกันถ้วนหน้า
เอาละครับ ทั้งหมดที่กล่าวเป็นเรื่องของการตลาด  ผมยอมรับ................................................
แต่ท่านถามถึงข้อดี ข้อเสีย มาด้วย ว่าเป็นอย่างไร สำหรับ มวยคู่นี้ ที่ท่านวางมวยไว้ให้พวกเราเปรียบมวย
ผมจะลองเปรียบมวย เรื่องจุดต่างๆ ในปืนสองกระบอกนี้ ให้ท่านลองรับไปพิจารณา
ผมไม่ได้เชียร์ ให้ท่านซื้อกล็อค ในวันนี้ แต่ผมอยากจะชี้นำให้ท่านเห็นข้อแตกต่างระหว่างปืน สองกระบอกนี้ เท่านั้นเอง ซึ่งท่านไม่จำเป็นต้องเชื่อ ขอให้ท่านค่อยๆ ศึกษาไป แล้วท่านก็จะเข้าใจเอง ลองฟังดูครับ ....
1.ลำเลื่อน  หรือ สไลด์
1.1 เรื่องวัสดุ  ปืนทั้งสองยี่ห้อนี้ ใช้วัสดุเหมือนกันคือ ใช้เหล็ก ทำเป็นสไลด์ปืน จึงไม่แตกต่างกัน
1.2 เรื่องผิวรมดำ  ปืนทั้งสองยี่ห้อนี้  สไลด์สีดำ รมดำ เหมือนกัน  แต่ดูเหมือนว่า า การรมดำของกล็อค กันสนิมได้ดีกว่า ซิกนะครับ เพราะผมเคยเห็น ซิก 228 นี่แหละ ขึ้นสนิมเก่งเอาการ แต่กล็อค ขึ้นสนิมยากเอาการ
1.3 เรื่องลักษณะการผลิตของสไลด์   สไลด์ของซิก 228 จำได้ว่า เขาทำเป็นสองชิ้น มาประกอบกัน โดยชุดหน้าลูกเลื่อน จะเป็นเหล็กอีกชิ้นหนึ่ง นำมาสอดใส่ไว้ในสไลด์ แล้วร้อยไว้ด้วยสลัก   ...... ส่วนกล็อค เป็นเหล็ก ขึ้นรูปมาทั้งแท่ง  อันนี้ ผมให้ท่านพิจารณาเอาเถอะครับว่า ความแข็งแรง จากสายตาของท่าน อันไหนมันจะแข็งแรงกว่ากัน ผมบอกไม่ได้หรอกครับ
1.4 เรื่องความแข็งของเนื้อเหล็กสไลด์  อันนี้เปรียบเทียบกันลำบาก เพราะว่า มันไม่ได้มีการเปรียบเทียบกันโดยตรง กล่าวคือ  ในการตอกทะเบียนปืนที่กองทะเบียน หรือ วังไชยา  การตอกทะเบียนปืนกล็อค ในอดีตนั้น เนื่องจากมีแนวคิดว่า โครงปืนเป็นพลาสติก อาจทำการเปลี่ยนแปลงเครื่องหมายทะเบียนของทางราชการได้โดยง่าย อย่ากระนั้นเลย ตอกทะเบียนมันที่สไลด์นี่แหละ เป็นเหล็ก มั่นคงดี เปลี่ยนแปลงยากดี  
ผลปรากฎว่า เจ้าหน้าที่ตอกทะเบียน ตอกกันไม่ค่อยจะลง เป็นแค่ตัวเลขไทย ลางๆ เท่านั้น ช่างปืนอาวุโสหลายท่าน ยอมรับว่า สไลด์ของกล็อค แข็ง มากๆ จะตอกเครื่องหมายทั้งที ต้องมีศิลปะ คือเอาเหลี่ยมของตัวอักษร ค่อยๆ หมุนตอกทีละมุม ถ้าตอกลงไปตรงๆ เต็มหน้าตัวอักษรละก็ กินปืนกล็อคไม่ค่อยจะลง

แต่การตอกทะเบียนของซิก 228 ส่วนใหญ่ ตอกที่โครงปืนที่เป็นอัลลอยค์ ดังนั้น ประเด็นนี้ จึงเปรียบเทียบกันไม่ได้ จึงแค่เล่าให้ฟังเฉยๆ
ขออนุญาตส่งก่อนซักรอบ เดี๋ยวมาต่ออีก

SAS ใช้ซิก 226 ดูเหมือนจะเรียกว่า L105 A1  ส่วน SEAL ใช้เบเร็ตต้า 92 กับซิก 228

ขอบคุณครับพี่  ::014::

 ::005::

1.5 เรื่องศูนย์ หน้า และศูนย์หลัง อันนี้ วัสดุ ก็แตกต่างกันอย่างเห็นได้ชัด คือ ซิก เป็นศูนย์เหล็ก แต่กล็อค ของเดิมแท้ๆ จากโรงงาน เป็นพลาสติก ขอเอาปืนโรงงานมาพูดแล้วกันนะ
-เรื่องความคมชัด ศูนย์เหล็กของซิก ย่อมได้เปรียบ เพราะเป็นเหล็ก เหลี่ยมคมชัดเจนดี ศูนย์ของกล็อค เป็นโพลิเมอร์ บางกระบอก บางรุ่น บวมๆ ตุ่ยๆ อย่างไงชอบกล ไม่ค่อยจะคม ไม่ถูกใจคนชอบปั้นเอ็กซ์ซักเท่าไหร่
-เรื่องการจับเป้าเร็ว ในการยิงเร็ว เล็งเร็วยิงเร็ว อันนี้ แล้วแต่ถนัด ศูนย์ของซิก มีแต้มขาว ตรงกลางศูนย์หลัง
ให้เอายอดศูนย์หน้ามาวางให้สีขาวมันต่อๆ กัน
แต่ของกล็อค ศูนย์หลังเป็นรูปตัวยู สีขาว ศูนย์ หน้าเป็นวงกลม สีขาว เอาวงกลมมาใส่ตัวยู แล้วลั่นไกเลย ผมรู้สึกถนัดดี อันนี้ แล้วแต่ถนัด ดังนี้ หากสนใจ ลองหยิบปืนสองกระบอกนี้ ขึ้นมาเล็ง แล้วลองถามตัวเองว่า ถนัดแบบไหน
-เรื่องการซ่อมแซม หรือเปลี่ยนแปลงศูนย์ ปืนกล็อค ออกแบบมาให้เปลี่ยนศูนย์ปืนได้อย่างง่ายดาย สามารถเปลี่ยนตามร้านขายปืน ก็ยังได้ ผมเคยเห็นร้านปืนสิงห์ทอง หลังวัง เขาเปลี่ยนศูนย์ปืนกล็อค ด้วยเครื่องมือพิเศษเฉพาะที่กล็อคผลิตออกมาขาย ซึ่งใช้เวลาในการเปลี่ยนเพียงเล็กน้อย ผู้ปฏิบัติ ไม่ต้องเป็นช่างอาชีพ เพราะคนเปลี่ยนที่ผมเห็นคือ เถ้าแก่ นายห้างนั่นแหละ เป็นคนเปลี่ยนให้ ง่ายมาก และไม่มีอัตราการเสี่ยงให้เกิดความเสียหายต่อผิวรมดำของปืน
ในขณะที่ซิก ศูนย์หน้าหลัง เป็นเหล็ก และใช้วิธีการสอดเข้าไปในบากหางเหยี่ยว ที่ทำไว้ที่สไลด์ การถอดเข้าออก เพื่อซ่อมแซม หรือเปลี่ยนแปลง ตกแต่ง ศูนย์ปืนโดยประการใดๆ  ต้องใช้ ผู้ที่มีความชำนาญในการตอก และต้องใช้เครื่องมือตอกที่เป็นเฉพาะ มิฉะนั้น หากพลาดพลั้ง อาจทำให้ตัวศูนย ฐานศูนย์ ชำรุด หรือเป็นร่องรอย เสียหายได้
หมดเรื่องบนสไลด์แล้ว ขอส่งอีกซักที

วันนี้ หมดเวลา  แล้วเจอกันใหม่ นะครับท่าน

ขอบคุณครับสำหรับความรู้ที่ท่านทั้งหลายตอบมา ::014:: ::014::

ผมจำได้ว่า SIG ที่ทำสไลด์สองชิ้น เพราะเผื่อสำหรับขนาด .40 ด้วย ............. คือรุ่น 229 ไม่ใช่ 228 ซึ่งเป็นชิ้นเดียว.................แต่ในรุ่น 229 ก็แข็งแรง

ส่วนเรื่องศูนย์ปืนเป็นพลาสติคนั้น.............ในแง่ของวัสดุ ผมถือว่าใช้วัสดุชั้นต่ำเกินไป ทำปืนทั้งที เอาศูนย์พลาสติคมาใส่..............เพราะในปืนต่อสู้ หากมีเหตุจำเป็นที่จะต้องขึ้นสไลด์มือเดียว.............. การเอาศูนย์หลังที่เป็นเหล็กล้วนๆ ไถกับสิ่งของหยาบๆ เช่นเบาะหลัง หรือขอบกางเกง หรือแม้กระทั่งสันโต๊ะ เพื่อดันสไลด์ให้ถอยหลังนั้น.............ง่ายและเรือนศูนย์หลังที่เป็นเหล็ก ย่อมมีความทนทานและคลาดเคลื่อนน้อยกว่าศูนย์พลาสติค.................

ส่วนเรื่องความยากง่ายในการซ่อมนั้น.............ปืนดีๆ เขาไม่ต้องซ่อมกันบ่อยอยู่แล้ว ไม่ต้องยกมาก็ได้ อย่างปืน P7 ถ้าถอดทั้งหมด หรือถอดมาซ่อม โคตรยุ่งยากกว่าปืนแบบอื่น แต่ตอนนี้ก็ใช้มามาก ยิงมาก็เยอะ ยังไม่เห็นต้องซ่อมอะไรเลย................ดังนั้นประเด็นซ่อมง่ายซ่อมยาก ไม่น่าที่จะนำมากล่าวอ้างว่าปืนกระบอกไหนน่าใช้ .................

เลือกเอาครับว่า จะใส่คาสิโอ หรือใส่มิโด้................

ปล. ผมว่าแถวนี้น้ำเริ่มท่วมแล้ว เพราะแม่น้ำไหลมาร่วมๆ 5 สาย ::005::

ขอไส่ มิโด้ ครับ คาสิโอไม่เอา.... :VOV: :VOV:

SIG 228 ครับ

อ้อ..ครับที่เคยเห็นหน่วยใดครับ  DEA เหรอครับ
ทาง DEA เพิ่งจะอนุญาตให้ทาง agent พกปืน S&W M&P ในเวลานอกราชการได้
ตำรวจเองก็ไม่ใช่ว่าจะชอบ Glock กันซะทุกคน  แต่เนื่องด้วยทางต้นสังกัดซื้อ Glock ให้ก็ต้องใช้ไป   แต่ถ้าจะใช้อย่างอื่นก็ได้แต่ต้องซื้อเอง  แล้วต้องผ่านการ qualification ก่อน 
ฝรั่งไม่ใช่จะบ้าแต่ Glock ไปซะหมดนะครับ

คนไทยก็ไม่บ้าหมดเหมือนกันครับคุณเจษ ..........  ::002::

เห็นมีบ้าก็คนเดียวล่ะครับ  ::005::

ก็ไหนๆ ท่านถามมา ผมก็จะเล่าเรื่องเปรียบเทียบให้ฟังต่อไป ท่านลองรับฟังดูแล้วกันนะครับ
2.โครงปืน
- วัสดุในการผลิต  ก็เป็นทราบกันดีว่า ซิก 228 ใช้อัลลอยด์ ในการผลิตโครงปืน  ส่วนกล็อค ใช้โพลิเมอร์ ในการทำโครงปืน แม้โพลิเมอร์ จะดูไม่แข็งแรง เพราะหน้าตาของมันเหมือนพลาสติกธรรมดาๆ นี่เอง  แต่เมื่อดูประโยชน์ใช้สอยแล้ว การที่กล็อค กล้าที่จะนำโพลิเมอร์ มาผลิต เป็นโครงปืน ก็เพราะเห็นว่า ชิ้นส่วนโครงปืนในบางจุดนั้น ไม่มีความจำเป็นต้องใช้โลหะเลย เช่น ครอบกันฝุ่นด้านหน้า ด้ามปืน โกร่งไกปืน หรือผิวโครงปืนด้านนอก ชุดเหล่านี้ ไม่ต้องรับน้ำหนักอะไร ไม่ต้องเสียดสีอะไร ก็ใช้โพลิเมอร์ รับหน้าที่กันไป   
- แต่พอมาดูจุดที่ต้องรับการเสียดสี รุนแรง ก็คือ ราง ที่ติดอยู่กับโครงปืน ไว้สำหรับสอดเข้ากับร่องของสไลด์  กล็อค ได้ใส่โลหะอะไรก็ไม่รู้ มีอยู่ 4 จุด เท่านั้นเอง ในการที่เหนี่ยวรั้งสไลด์ ให้ติดกับโครงปืน สไลด์ สามารถวิ่งไป วิ่งมา บนโครงปืน
จริงๆ ก็เป็น โลหะเล็กๆ 4 จุด ดูแล้วเหมือนไม่แข็งแรง แต่กล็อคก็ผ่านการทดสอบการยิงติดต่อกันเป็นเรือนหมื่นๆ นัดได้อย่างสบาย โดยไม่มีปัญหาในจุดดังกล่าว
โครงอัลลอยด์ของซิก 228 เวลาใช้ ต้องถนุถนอม พอสมควร กล่าวคือ โครงปืนเป็นสีดำ มิใช่รมดำนะครับ เป็นกรรมวิธี ทำให้อัลลอยด์ กลายเป็นสีดำ สีดำที่ติดโครงปืนอยู่นี้ หากถูกขูดขีด ด้วยของมีคม ของแข็ง สีดำนี้อาจถลอก เห็นเนื้ออัลลอยด์ สีขาว  ตัดกับสีดำส่วนที่เหลืออย่างชัดเจน  เสียสวย เสียหล่อ ได้ง่ายๆ
แต่โครงปืนกล็อค ช่างมันเหอะครับ มันเป็นโพลิเมอร์ อะไรขูดๆ ขีดๆ เข้าบ้าง ก็ช่างมัน เพราะตัวโครงปืนมันเป็นลายๆ อยู่แล้ว ดูไม่ค่อยจะออกถึงรอยขูดขีด ใช่แบบลุยๆ ได้เลย ไม่ต้องกังวลอะไร
อันนี้ ก็แล้วแต่ท่านว่าจะซื้อปืนมาถนอม หรือซื้อปืนมาใช้แบบลุยๆ ลองตัดสินใจดูครับ

- ประโยชน์ของวัสดุโครงปืน
โครงปืนอัลลอยด์นั้น ในห้วงการผลิตปืน ก่อนหน้าที่จะมีการบูม การนำโพลิเมอร์ มาผลิตเป็นโครงปืนนั้น ถือว่า โครงปืนอัลลอยด์ นั้น เป็นวัสดุที่เบาที่สุดแล้ว สามารถลดน้ำหนักปืนพกไปได้มากเลยทีเดียว นอกจากนั้น ยังปลอดสนิม สามารถบำรุงรักษาได้ง่ายกว่าโครงปืนเหล็กเป็นไหนๆ  แต่พอมาถึงยุคที่มีการคิดนำโพลิเมอร์ มาทำโครงปืนแล้ว โครงปืนโพลิเมอร์ กลับกลายเป็นวัสดุ ที่เบากว่าอัลลอยด์ สามารถลดน้ำหนักปืนพกให้มากกว่าปืนอัลลอยด์ ไปเสียอีก อีกทั้งไม่ต้องยุ่งเกี่ยวก้บสนิมด้วยเช่นกัน (ก็พลาสติกน่ะครับ มันจะเป็นสนิมได้ไงล่ะครับ)
และก็ที่ยอมรับกันโดยทั่วไปว่า โครงปืนโพลิเมอร์ นั้น สามารถทำให้เกิดความรู้สึกว่า แรงสะท้อนถอยหลังที่เกิดจากการยิง ลดลง ..........อันนี้ เป็นความรู้สึกที่คนยิงกล็อค พูดกัน ท่านควรลองยิงเปรียบเทียบด้วยตนเอง แล้วลองหาคำตอบให้กับตนเองดูครับ ....

 ::005::...

ผมก็เห็นครับ..  อะไรที่มันเกินพอดี เพราะ กลัวการเสียหน้า มันก็จะทำให้คนเสียคน   ::005:: ::005::   ::006::

 ::005::

ถามใจตนเองดูครับชอบแบบไหนก็เลือกเลยครับ

ไปค้นมา... :D

In active service

M9 (Beretta 92FS, 9x19mm)
M11 (SIG P228, 9x19mm)
Heckler & Koch P9S (9x19mm) (Navy SEALs)
Heckler & Koch P11 ZUB (Underwater weapon) (Navy SEALs)
Mk 24 Mod 0 (SIG P226 Navy, 9x19mm) (Navy SEALs)
M9A1 (9x19mm) (USMC)
MEU(SOC) pistol (.45 ACP) (MEU(SOC))
SIG P229R DAK (.40 S&W) (USCG)

http://en.wikipedia.org/wiki/List_of_individual_weapons_of_the_U.S._armed_forces


----

M11

The M11 Sig Sauer P-228 was introduced in 1989. It is a compact version of the Sig P-226, just 7.1 inches long and only 1.5 inches wide. The Navy SEALs and Special Boat Teams consider it a favorite, and use it as their standard carry pistol as it is small, light, durable, accurate and easy to conceal. The M11 is a recoil-operated, semi-automatic pistol that fires a 9mm NATO round in both single- and double-action modes from a 13-round magazine.

In 2004, SIGARMS of Exeter, NH released a limited edition of specially serialized P-226 pistols produced to the exact same specifications as those which have been the official sidearm of the Navy SEALs since 1986. Designated SIG P226-9-NAVY, this unique version includes special phosphate corrosion-resistant finish on internal parts, contrast sights, a slide engraved with an anchor to designate them as Naval Special Warfare pistols, a unique serial # starting with NSW 0001, and certificate of authenticity.

The manufacturer raised over $100,000 for the Special Operations Warrior Foundation through the sale of these NSW serialized pistols. Established in 1980, the Foundation provides support, primarily scholarships, to ensure that all the children of Special Operations personnel who have given their lives in service to our country, will be able to go to college.

Specifications:

Manufacturer: Sigarms
Caliber: 9mm
Weight w/o magazine: 1.10 lbs.
Length: 7.1 in.
Barrel Length: 3.9 in.
Capacity: 13+1
http://www.navyseals.com/m11

----


Sig P228


Country of Origin: Switzerland
Designation: Pistol
Calibre: 9mm Luger, .357 SIG, .40 SW
Dimensions: 
Length: 180mm
Weight: 770g
Capacity: 12 rounds

When it comes to Close Quarters Battle the SAS use the Sig P228, it is lighter and slightly shorter than the Browning meaning that it can be manoeuvred more easily and aiming is that little bit quicker and steadier.

It's worth noting that you don't want a really powerful gun when in close quarters, the weight of the gun means you can't snap around as quickly, which means you take longer to aim and the weight of the gun makes your aim less steady, and there is also a much greater recoil which messes up your aim.


You also have to face the possibility that when you shoot a bad guy your bullet needs to stay in them and doesn't go through them and harm any hostages behind, or bounce of the wall, the SAS actually use special rounds when storming (planes particularly) that explode on impact, so that stray fire doesn't bounce off and hit a hostage (loaded in the Heckler and Koch's as well as handguns.)


The trooper will use the double tap method, firing twice very quickly before moving onto the next target. He will aim for the mouth, doing so cuts the spinal cord and blows out part of the brain (messy!) which prevents the brain sending the 'pull the trigger' signal to the gunman's finger.
http://www.sasspecialairservice.com/sas-guns-handguns.html

----

Semi-automatic pistols are the most popular sidearms. Examples may include, but are not limited to: M1911 pistol series  Sig Sauer series (especially the Sig P226 and Sig P229) Beretta 92 series , Glock pistols and H&K USP series.
http://en.wikipedia.org/wiki/SWAT#Weapons

 ::005::

คนยิง HK USP หรือปืนโครงโพลิเมอร์ยี่ห้ออื่นๆก็รู้สึกเหมือนกันแหละครับ....................ไม่ใช่รู้สึกแค่ยี่ห้อเดียว

ยิ่ง STI ยิ่งนิ่ม ...................... คุณเต่ายิง STI ด้ามโพลิเมอร์บ้างหรือยังครับ  ปืนโครงเหล็กด้ามพลาสติค ยิงนิ่มกว่าปืนโครงพลาสติคทั้งโครงอีก

ไปเอาฝั่่งเมกา มาเทียบ กับบ้านเราไม่ได้หรอกครับ

เ้มกา ราคาปืน มันไม่กี่ตังค์ Glock ๑๙  ๖๐๐ USD +/- 
ในขณะที่ Sig  ๙ พารา ราคา ๘๐๐-๙๐๐ USD +/-

บ้านเขา ซื้อแล้วได้ปืนที่สมราคา  ก็ต้องเลือก ปืนที่ราคาต่ำกว่า แล้วได้ คุณภาพ แม่นยำ การย่อยกระสุนไม่ต่างกัน
ลองให้ Glock มีราคา อยู่ที่ ๘๐๐ USD ซิครับ Glock เป็นเดี้ยง ทันที  ราคา Glock จึงยังต่ำกว่า ถึง ๒๐๐ USD
ในเมกา ถือว่า ส่วนต่างสูงมากครับ และชี้ให้เห็นว่า เป็นปืนคนละตลาด

แต่บ้านเรา ต้นทุกต่ำกว่า มาตีเทียบปืนราคาสูง เ้พราะการปั่นราคา ในบ้านเรา
จะไปส่งเสริม ให้นกเอี้ยงเกาะไหล่ อยู่ทำไม ครับ. :OO  

เห็นด้วยอย่างแรงครับ ไม่เห็นด้วยกับการปั่นราคาครับ :( :(

[/quote]

ผมคิดว่า ปืน 2 กระบอกนี้ ต่างกันที่ระบบการทำงานนะครับ
GLOCK เหมาะกับการยิงไว ชักแล้วยิงเลย
SIG ถ้าลดนกไว้ ยังมีโอกาศให้ได้ตัดสินใจอีกที เพราะไกจะแข็ง นัดแรก อาจใช้ในการยิงขู่ไปก่อน
ส่วนตัว ชอบ SIG ครับ

มาต่อกันอีกนิดหนึ่ง
3.แนวลำกล้องปืน
การออกแบบปืนออโต้นั้น ก็มีความพยายามที่จะทำให้การจับปืนของผู้ยิงนั้น สามารถจับปืนได้สูงที่สุด สูงเข้าใกล้แนวลำกล้องได้เท่าไหร่ก็ยิ่งดี  ยิ่งทำให้ง่ามมือที่จับปืนเข้าใกล้แนวลำกล้องมากเท่าไหร่ ก็จะทำให้ปืนสะบัดเงยน้อยลงมากเท่านั้น
ปืนยี่ห้อที่ทำให้จับปืนได้สูงๆ เข้าใกล้ลำกล้องมากๆ ยี่ห้อหนึ่ง ก็คือ เอชเค พี7 ซึ่งยิงแล้วจะรู้สึกว่า ไม่ค่อยสะบัดเงย เท่าไหร่
ที่นี้ มาดูสองยี่ห้อ ที่ท่านถามคือ ซิก 228 กับ กล็อค
ดูด้วยสายตาแล้วก็เห็นว่า  แนวลำกล้องของ ซิกนั้น สูงกว่าแนวลำกล้องของกล็อค  ดังนั้น จึงเชื่อว่า เมื่อผู้ยิง จับปืนให้สูงสุดแล้ว  ง่ามมือของผู้ยิง จะเข้าใกล้แนวลำกล้องได้มากกว่า ซิก กล็อคจึงน่าจะสะบัดเงยในขณะทำการยิง น้อยกว่า ซิก  ในขณะที่ใช้กระสุน 9 มม.พาราเหมือนกัน
ข้อแตกต่าง ก็มีประมาณนี้แหละท่านเอ๋ย........เชิญท่านเจ้าของกระทู้ พิจารณาเอาเอง ...นะครับท่าน
ขอให้โชคดี เลือกปืนได้ถูกใจ ก็แล้วกันนะ ........ด้วยความปรารถนาดีจากผม......เต่า  บางเขน

ตกลงจขกท.เลือกซิกไปแล้วหรือยังครับ  ;D

เพราะมันเป็นป้ากกะติก ::010::สุดท้ายก็sig ::010::khwanphet1911 ::008::

ขอบคุณครับตกลงผมเลือกSIGมาแล้วครับ  แล้ว77K แพงไหม95UP(อยู่ไกล้บ้าน)

ต่อลองลงอีกสัก นิด ถ้าได้สัก ๗๐,๐๐๐. +/- กำลังดีครับ 

ถ้าคนขายเป็นมือหนึ่ง..  ก็ต้องได้กำไร พอสมควรแล้วครับ. :D

ในราคาเท่าๆ กันนี้ จขกท. เลือก กล็อค๑๙ ดีกว่าครับ  ::002::

.

.

.

ส่วนซิก๒๒๘  ส่งผ่านมาทางผมครับ  ::008:: ::008::
.