เว็บบอร์ดสนทนาภาษาปืน

> >
> >> สำหรับคุณผู้หญิง
> >>
> >> โปรดจดจำเรื่องราวนี้ไว้และส่งให้เพื่อนสาวและเพื่อนร่วมงานของคุณที่อาจต้องเดินทางคนเดียว
> >> ส่วนคุณ
> >> ผู้ชาย โปรดนำไปเล่าต่อให้พี่น้องผู้หญิงและสตรีทุกคนที่คุณรู้จัก
> >>
> >> ฉันเป็นคนที่ชอบสั่งอาหารเช้าจากเมนูที่โรงแรมมักจะแขวนไว้ที่ลูกบิดประตู
> >> เวลาที่ฉันเดินทางไปทำธุรกิจ
> >>
> >> ไม่นานมานี้ ฉันได้เข้าพักในโรงแรมชื่อดังแห่งหนึ่ง
> >> สั่งอาหารเช้าสำหรับเช้าวันรุ่งขึ้นบนเมนูแขวน แล้ว
> >> นำไปแขวนไว้ที่หน้าประตู
> >> บนใบสั่งนี้ คนที่สั่งต้องเขียนชื่อตนเอง จำนวนคนที่จะรับประทานอาหารนั้น
> >> หมายเลขห้อง เวลาที่ให้นำ
> >> อาหารมาสั่ง ฯลฯ ฉันได้แขวนมันไว้ที่หน้าประตูเพื่อให้พนักงานมานำไป
> >> และนั่นคือความผิดพลาดแท้ๆ เพราะฉันได้ให้ข้อมูลกับใครบางคนไปเสียแล้ว
> >> แล้วใครคนนั้นก็ได้ชื่อและหมายเลขห้องของฉันไป
> >> เขาไปบอกที่ฟร้อนท์โรงแรมว่าเป็นสามีของฉัน
> >> (จำได้ไหมว่าบนเมนูนั้นมีชื่อผู้หญิงเพียงคนเดียว)
> >> และเขาต้องการกุญแจใหม่ พนักงานคนนั้นก็ให้กุญแจเขาไป
> >> โดยไม่ถามหาบัตรประจำตัวหรือโทรมาถาม
> >> ฉันก่อนเลยสักนิด
> >>
> >> ตอนตี 2 ฉันตื่นเมื่อได้ยินเสียงประตูเปิด
> >> (โชคดีที่ฉันสับบาร์นิรภัยไว้อีกชั้น) และมีมือผู้ชายกำลังพยายาม
> >> จะงัดบาร์นิรภัยที่สับไว้ออก
> >> ฉันจึงตะโกนใส่ไปว่าฉันกำลังพูดโทรศัพท์อยู่กับตำรวจ
> >> มันจึงปิดประตูแล้วหนีไป
> >> ฉันโทรไปที่ล้อบบี้หาพนักงานที่ฟร้อนท์ ฉันต้องการแจ้ง รปภ.
> >> ถึงเรื่องที่เกิดขึ้น
> >>
> >> พนักงานคนนั้นตอบฉันว่า "โอ๊ะ เสียใจด้วยนะครับ" แล้วก็วางไปเลย
> >> เอาเป็นว่าฉันทั้งกลัวทั้งโกรธไป
> >> ทั้งคืน
> >>
> >> เช้าวันรุ่งขึ้น ฉันได้คุยกับผู้จัดการโรงแรมที่ตาแทบหลุดออกมานอกเบ้า
> >> เมื่อได้รู้ว่าพนักงานของเขาได้ให้กุญแจห้องฉันกับคนแปลกหน้าโดยไม่รู้ว่าเขาเป็นใครด้วยซ้ำ
> >>
> >> ฉันดีใจที่ยังรอดมาเล่าเรื่องนี้ให้พวกคุณได้ฟัง โดยมีลูกอายุ 2
> >> ขวบของฉันนั่งอยู่บนตักได้
> >> ฉันไม่อยากจะคิดเลยว่าอะไรจะเกิดขึ้น
> >> ถ้าฉันไม่ได้ล้อคโซ่/บาร์นิรภัยไว้อีกชั้นหนึ่ง
> >>
> >> ขอให้ทุกท่านส่งต่อเรื่องนี้ให้ครอบครัวหรือเพื่อนของท่านที่เป็นสตรีด้วย
> >> ปลอดภัยไว้ก่อนดีกว่า จะได้ไม่
> >> ต้องเสียใจภายหลัง

อันตรายมากครับ  ::014::

 :OO ::012:: ::012::

      ขอบคุณครับน้าคาร์  แต่ไม่เข้าใจเรื่องระบบสั่งการอาหารของโรงแรมหรูห้าดาว (มักพักแต่จิ้งหรีด)

ภัยจากโรงแรมมีหลายรูปแบบครับ บางครั้งบรรดาแม่บ้านนั่นแหละตัวดี ส่วนมากพวกนี้จะมี มาสเตอร์คีย์ สามารถเข้าได้ทุกห้อง ;D

ล้วงมือเข้ามาแบบนั้นก็สนุกซิ กระโดดถีบประตูเอาให้มือหักไปเลย ;D

สมัยนี้น่ากลัวครับ เมื่อวันก่อนข้างร้านแฟนเป็นร้านขายก๊วยเตี๋ยว ลูกค้าเขานั่งอยู่ แล้ววางวกระเป๋าไว้ที่เก้าอี้อีกตัว มันเดินมาถึงคว้าแล้ววิ่งเลยครับ จับไม่ได้ ต้องระมัดระวังกันเองเป็นพิเศษแล้วครับ ::003:: ::004::

เป็นผมน่ะผมจะวิ่งสุดแรงเกิดไปกระูแทกประตู โดยเล็งจังหวะที่มือยังพยายามปลดล๊อกประตูจากข้างในโดยไม่ให้รู้ตัวครับ
ลองคิดครับน้ำหนักคุณผู้หญิงราว ๆ 45 กิโล วิ่งกระแทกประตูเต็มแรง จะมีโมเมนตั้มเท่าไหร่
ผมว่าได้เห็นนิ้วหรือข้อมือหลุดหล่นมากองในห้องให้สยองเล่นบ้างครับ ต้องเอาให้เข็ดครับคนพวกนี้อย่าให้ได้ไปกระทำกับคนอื่น
ส่วนคำให้การกับตำรวจไม่ยากครับ ตกใจพยายามจะวิ่งไปปิดประตู แต่ด้วยความรีบร้อนจึงสะดุดทำให้ตัวล้มใส่ประตู
 

ตั้งใจจะวิ่งไปเปิดให้ แต่เบรคไม่ทัน ;D

 ::008:: ::008::   ผมเป็นชาย อยากแขวนป้ายเป็นสื่อ แต่กลัวกระเทยเคาะ แล้วถ่มถุย..โธ่ไอ้เฒ่า
ขอบคุณข้อมุลมีประโยชน์มากครับ... ::002:: ::002:: ::002::

เคยเจอในโรงแรมมานรูดครับ เรื่องของเรื่องคือไม่อยากเสียเงินแยะเพราะกว่าจะได้นอนก็ปาเข้าไปหลังเที่ยงคืนแล้วเลยไปนอนโรงแรมมานรูดแทบงามวงศ์วาน ด้วยสันดานที่เวลาล๊อกประตู จะล๊อกหมดทั้งลูกบิด และอื่น ๆ เช่นมีกลอนก็ล๊อกกลอน มีสายคล้องก็ล๊อกสายคล้อง โรงแรมที่ว่าเป็นลูกบิดกับสายคล้องครับ เห่อ ๆ ตอนเช้ากำลังหลับฝันดี ก็มีคนมาเปิดประตู ไขกุญแจลูกบิดได้แต่ติดสายล๊อก ผมสะดุ้งตืน ลุ้กขึ้นมาดู ก็ไม่เห็นมีใครครับ คงจะวิ่งหนีไปแล้ว..............ถามทางโรงแรมก็บอกว่าไม่ได้ให้คนไปเปิด......เสียดายครับ แหม่นึกว่าจะมีลาภลอยมาตกถึงท้อง ;D

ขอบคุณครับพี่

อิ อิ อิ .... ::005::

กระโดดถีบประตูซะคงสนุกครับ คราวนี้ตามตัวง่ายแน่นอน

เวลาผมนอนโรงแรม มีกุญแจอะไรใส่ไว้หมดครับ

..ขอบคุณครับลุงคาร์... ;D

นายสมชายว่าโรงแรมกระจอกครับ... มีอย่างที่ไหนไม่มีอาหารเช้าฟรีๆ ที่ห้องอาหารข้างล่าง...

อาหารเช้าฟรีๆ ที่คิดตังค์รวมกับค่าห้องไปแล้วน่ะ สำหรับนายสมชายเป็นปัจจัยหลักสำหรับเลือกโรงแรมเชียวครับ... คือมันเป็นอาหารที่เราทำเองที่บ้านไม่ได้ และหากไปสั่งแยกต่างหากแต่ละจานมันก็แพง ได้กินแค่อาหารอย่างเดียว หากอยากกินหลายอย่างแบบอาหารเช้าฟรีๆ เราก็ต้องซื้อบัตรบุฟเฟต์ ซึ่งสำหรับโรงแรมหรูๆ นี่หลายร้อยอยู่ครับ... เย้

อีกอย่างนึง... หากเราต้องการสั่งอาหารพิเศษ เราสามารถโทรสั่งทางโทรศัพท์ได้ครับ สั่งได้หลายอย่างมากแม้แต่สั่งให้โทรปลุกเวลากี่โมง...

สำหรับเรื่องการป้องกันภัยเวลาเข้าพักแรมต่างถิ่น... นอกจากม้าแก่ตัวดั้งเดิมของนายสมชายวางไว้ในระยะมือเอื้อมถึงแล้ว(ไม่ใช่ใต้หมอน) นายสมชายยังมี Motion Detector ตัวเก่าดั้งเดิมวางดักตามประตูหน้าต่างอีกสองตัวครับ... สิ่งมีชีวิตเข้ามาใกล้ระยะเมื่อไหร่ได้ร้องดังลั่นเชียวครับ...  แต่ที่แสบที่สุดคือเสียงของไอ้เจ้านี่มันร้องเหมือนสัญญาณไฟไหม้... ฮา

 ::011:: น่ากลัว... ::011:: ขอบคุณน้าคาร์ค่ะ  ::011::

ไม่น่าเป็นไปได้มากเท่าไร แต่ก็อาจเป็นไปได้ โดยปรกติเวลาเช็คอินจะต้องบอกจำนวนคนที่พัก พนักงานถึงจะออกบัตรกุญแจให้ได้
เมื่อบอกว่ากุญแจหาย พนักงานต้องขอดูบัตร์ประชาชน หรือบัตร์ที่สามารถแสดงถึงตัวตนของผู้ขอบัตร์ ว่าตรงกับชื่อคนพักบนห้องได้
ถ้าบอกว่าบัตร์หรือกระเป๋าเอกสารอยู่บนห้อง ซิเคียวริตี้ จะเป็นผู้เปิดประตูให้ และต้องรอดูบัตร์ว่าตรงกับชื่อเจ้าของห้องหรือเปล่า
เมนูอาหารเช้า จะมีรายการอาหาร เวลาที่ต้องการเสริฟ  และเลขห้องเท่านั้น ไม่มีช่องใส่ชื่อเจ้าของห้องครับ เพราะพนักงานโรงแรม
สามารถตรวจสอบชื่อเจ้าของห้องได้จากคอมของแผนกรูมเซอวิส ;D