เว็บบอร์ดสนทนาภาษาปืน

เจอที่สนามมาครับ เห็นแปลกดีเลยขอถ่ายรูป
ไม่ทราบว่าเป็นปืนรุ่นใด ผลิตมาเมื่อไร ?
(http://www.pixnice.com/upload/files/jnzzhm25zizworjtmzim.jpg) (http://www.pixnice.com/upload/)
(http://www.pixnice.com/upload/files/jehingg4zzlno5ugmtzw.jpg) (http://www.pixnice.com/upload/)

ขอบคุณครับ

Browning Hi-Power

The Browning Hi-Power is a single-action, 9 mm semi-automatic handgun. It is based on ideas conceived and patented in 1922 by American firearms inventor John Browning, and later patented by Fabrique Nationale (FN) of Herstal, Belgium. Browning died in 1926, before he had finished developing a production version. The design was fully developed and realized by Belgian arms designer Dieudonné Saive, working at FN.

The Hi-Power pistol was named for its 13-round magazine capacity, which was almost twice that of contemporary designs such as the Luger or Mauser 1910. The Hi-Power had the first functional double-column magazine of 9 mm rounds, and was capable of holding 13 cartridges, with a 14th loaded in the chamber. Flush-fit 15 round magazines are now available, as well as higher capacity magazines which extend past the end of the butt.

The pistol is often referred to as an HP (for "Hi-Power" or "High-Power") or as a GP (for the French term, "Grande Puissance"). The term P-35 is also used, based on the introduction of the pistol in 1935. Another common nickname is the "King of Nines." It is most often called the "Hi-Power", even in Belgium. It is also known as the BAP (Browning Automatic Pistol), particularly in Irish service.

(http://upload.wikimedia.org/wikipedia/commons/thumb/c/c2/Browning_High-Power_9mm_IMG_1526.jpg/800px-Browning_High-Power_9mm_IMG_1526.jpg)

Type                                       Semi-automatic pistol
Place of origin                          Belgium
                                               United States

Service history
Used by                                  See Users

Production history
Designer                                 John Browning, Dieudonné Saive
Designed                                1921–1935

Specifications
Length                                   200 mm (7.87")
Barrel length                           118mm (4.64")
Cartridge                                7.65x21mm Parabellum
                                              9x19mm Parabellum
                                              .40 S&W
                                              .357 SIG
Action                                     Short recoil operated
Muzzle velocity                        1,148 ft/s (350 m/s)
Feed system                           13-round box magazine

ข้อมูลจาก http://en.wikipedia.org/wiki/Browning_Hi-Power    ::014:: ::014::

พี่ครับ...
เสียงในฟิล์ม ผมไม่ใช่ฟังออก  ;D ;D
อีกอย่าง..ด้านขวาของปืนมันมีคันโยกอะไร ทะแม่งๆ

ผมก็อ่านได้แค่คร่าวๆครับ
ออกแบบโดย John Browning (คนเดียวกับที่ออกแบบ Colt 1911)  เมื่อปี 1921 เป็นต้นแบบของปืน เซมิออโต้ลูกดก อีกเพียบที่อ่านออกแต่แปลไม่ได้ครับ  :~) :~)  แต่หาอ่านได้ในหนังสืออาวุธปืน  ::005:: ::005::
ส่วนคันโยกทางขวาผมก็ไม่ทราบครับว่าคืออะไร  ??? ???

.............. ::008:: สงสัยเจ้าคันโยก ที่เห็นจะเป็นตัวปรับชุดยิง แบบ ฟลูออโต มั้งครับ  :OO :OO :OO :OO

ในช่วงสงครามโลกครั้งที่2  บลาวนิ่งP35 ได้มีการติดชุดลั่นไก ที่ยิงกลได้ออกมาจากโรงงานครับ โดยจะติดมากับปืนรุ่นที่มีพานท้ายต่อที่ด้ามได้ครับ ถ้าปืนกระบอกนี้ มีที่ติดพานท้ายด้วย น่าจะเจอของดีที่หายากมากเข้าแล้วครับเพราะมีผลิตขึ้นมาไม่มากเหมือนเมาเซอร์รุ่นที่ยิงกลได้ ครับ จากดูที่ด้ามด้านซ้าย ผมเองคิดว่าน่าจะใช้ของแท้ครับ เพราะด้ามตรงบริเวญปุ่มปลดแม๊ก มันนูนขึ้นมามากกว่ารุ่นปรกติครับ ถ้าเลขปืนยังเป้นเลขเดิมอยุ่ ผมถือว่าสุดยอดเลยครับ

 :OO :OO :OO ในประเทศไทย หาได้อีกเหรอครับ รุ่นนี้ ถ้ามีอยู่ก็ถือว่า สุดยอดแล้ว อิอิอิอิ ถ้าท่านเจ้าของไม่ว่า อยากรับมาดูแลต่อจังเลยครับ   :VOV: :VOV: :VOV:

ปืนพกกล เสียอย่างเดียวยิงที่ละ3นัดไม่ได้

ยิงรัวได้นี่ถ้าเจอด่านตรวจคงจะเคลียร์ยากนะครับต่อให้มีใบป4. ก็เถอะ  หมวดหนุ่มๆเดี๋ยวนี้เก่งเรื่องอาวุธปืนกันเยอะ ผมจึงอยากเรียนถามพี่ road และท่านผู้รู้อื่นๆครับ กรณีนี้จะโดนข้อหามีอาวุธสงครามในครอบครองหรือไม่ครับ ::014::

ขอบคุณครับ ;D

เมื่อมี ป. ๔ ถือว่าปืนกระบอกนี้ เจ้าของ ป.๔ คือผู้ได้รับอนุญาต ให้มีและใช้โดยถูกต้อง

แต่การจดทะเบียนหรือโอนเปลี่ยนมือตะก่้อนนั้น ไม่เคร่งครัดนัก อาจไม่ได้มีการตรวจสภาพปืนเหมือน ใน กทม.

ฉะนั้น หากชุดยิงกล ยังทำงานได้ การโอนเปลี่ยนมือ เมื่อตรวจสภาพ ไม่น่าจะผ่าน
แต่ทางแก้ คือ ต้องถอดชิ้นส่วน ที่โยงกลไก การยิงกล นั้นออกเสีย และยืนยันกับ นายทะเบียนฯว่า ไม่มีติดมาด้วย
และปืนกระบอกนี้ ยิงได้ทีละนัด แบบกึ่งอัตโนมัติ  ไม่ใช่ทีละ ๓ นัด หรือพรวดเดียวจบ .  ;D

อย่าได้เสี่ยงนะครับ ตัวอาวุธปืน อาจถูกยึด ป.๔ อาจถูกเพิกถอนได้เชียวครับ  :D

ส่วนข้อหา มีอาวุธปืนที่นายทะเบียน ไม่สามารถออกใบอนุญาตให้ได้ (มีอาวุธสงครามในครอบครอง)

ผู้ขอรับโอน ถือว่าขาดเจตนาในการกระทำผิด..ไม่น่านะจะโดนความผิดฐานนี้ เพราะ ป.๔ ช่วยคุ้มครอง
และ  พฤติการณ์ของผู้รับโอน เป็นไปโดยสุจริต ครับ

ป.๔ อาจต้องถูกเพิกถอน.. และตัวอาวุธปืนอาจต้องถูกยึด หรือริบ   ครับ   :~)

ขอบคุณพี่Road มากครับ ::014::  ถ้าอย่างนั้นปืนกระบอกนี้ก็อย่าไปมีเรื่องมีเหตุอะไรกับโจรกับขโมยเชียวนะครับ โดนถอนป 4 แถมยึดปืนอีก :~)

ไม่เป้นไรครับพี่ ผมเองไม่เคยเห้นของจริง เคยเห้นจากในหนังสือเมืองนอก ซึ่งก็หายากมากครับ เพราะแทบไม่เคยเห้นภาพให้นิตยาสารปืนในเมืองนอกเลย นอกจากภาพเก่าๆ ซึ่งจริงๆแล้วปืนรุ่นนนี้ ได้รับการออกแบบจาก บลาวนิ่ง ก่อนสงครามโลกครั้งที่สองเสียอีกครับ แถมพานท้ายเป้นโครงเหล็กพับเก้บได้ด้วย(ต้นแบบ) ซึ่งผมว่า น่าจะหายากมากๆครับ ปืนรุ่นนี้น่าจะติดมากับกองทัพฝรั่งเศษ ตอนมารบที่เวียดนามพร้อมๆกับ วอลเทอร์ P38 โครงเหล็ก กับแม๊ปฝั่งเศษ ยุคๆนั้น เพราะ กองทัพฝรั่งเศษเองได้ปืนเหล่านี้มาจากเยอร์มันตอนแพ้สงครามเยอะมากทีเดียวก่อนขนมาทิ้งไว้ที่เวียดนาม สมัยก่อนผมเคยเจอปืนพวกนี้บ่อยๆเพราะผ่านชายแดนแถบอิสานเข้ามา ซึ่งก็มากับมือสหายในพื้นที่สีแดง ซึ่งบางกระบอกก้มีสภาพดีอยู่มากครับ ลองสังเกตุดูบริเวณรังเพลิงด้านนอกตรงช่องคายปลอก กับ หน้าเลขประจำปืนดุครับ ว่ามีตรา นกอินทรีเหยียบ สวัสดิกะ หรือปล่าว ถ้ามีก็เจอของหายากมากเลยครับ ถ้ามีเลขเดิมด้วย ก้ขอบอกว่า สุดยอดของสุดยอดเลยครับ

คราวหน้าจะถ่ายไว้ทุกมุม เก็บเป็นแกลลอรี่ซะเลย
แล้วจะส่ง PM ไปให้ชมครับ

ขอบคุณอีกครั้ง