เว็บบอร์ดสนทนาภาษาปืน

อยากทราบความคิดเห็นของผู้รู้ครับ  HK33  เปรียบเทียบกับ  m16A2
1.โอกาสที่จะขัดลำ
2.ความแม่นยำ
3.ถ้าคุณต้องใช้ในงานสนามคุณจะเลือกกระบอกใด
ถ้าเป็นไปได้ขอให้อาจารย์มะขิ่นกับอาจารย์ป้อมทองช่วยไขข้อข้องใจให้หน่อยครับ(ขอขอบพระคุณล่วงหน้าครับ)

 ;D ;D อยากรู้รายละเอียดเหมือนกันครับ HK33 ปืนเก่าหลายปีแล้วนะครับ ถ้าเป็นผม M16A2 ดีกว่าครับ ส่วนการใช้งานภาคสนามต้องรอผู้รู้มาตอบครับ ;D ;D

ผมไม่ได้สัมผัส M16A2 บ่อยนัก ได้มีโอกาสทดสอบยิงแค่ ไม่กี่ครั้ง...........ส่วนใหญ่ชำนาญกับ M16 และ M16A1

พูดถึงปืนทั้งสองแบบ ระบบปฏิบัติการต่างกันครับ M16 เป็น ระบบ gas-Operrate ส่วน HK33 เป็น Recoli ...............

โอกาสที่จะมีการขัดลำ มีเปอร์เซ็นต์พอๆกัน หากปืนไม่ได้รับการดุแล ทำความสะอาดดีๆ

ความแม่นยำ................พูดตรงๆว่า พอกัน ในการยิงศูนย์รบ(ระยะ 250 เมตรลงมา)...............HK33 ต้องใช้เครื่องมือพิเศษปรับศูนย์ ส่วน M16 ใช้แค่หัวกระสุนกดสลัก ปรับเท่านั้น สะดวกกว่ากัน

การใช้ในสนาม................ถ้ามีโอกาสเลือก ผมเลือก M16 ครับ เพราะ นน.เบากว่า ใช้งานได้คล่องกว่า(สำหรับผม)..........

แต่จริงๆที่ผ่านมา ผมใช้ AK47S ครับ

ขอบคุณอ.มะขิ่นครับ   ครือว่า ไอ้เจ้าAK47sที่อ.มะขิ่นใช้มันไม่หนักหรือคับ   ผมเคยเห็นทหารพรานแถวใต้(นราธิวาสบ้านผม)เค้าใช้กัน มันดูเหมือนเหล็กตันๆยังไงชอบกล  พี่ท่านบอกผมว่าเอาปืนขึ้นมาจากน้ำแล้วสามารถยิงได้โดยลำกล้องไม่แตก(ซึ่งถ้าเป็นM16มันแตก)จริงเท็จแค่ไหนคับ    แล้วตัวsที่ห้อยท้ายมันมีความหมายว่าอย่างไรคับ   แล้วAK47น่าใช้ยังไงคับอยากให้อ.มะขิ่นเล่าประสบการณ์ที่ได้คลุกคลีกับอาวุธพวกนี้(น่าอิจฉาจังอะ)

จริง ๆ แล้วผมชอบรูปร่างของ HK G3 (ปู่ของ HK33 ขนาด .308) แต่ถ้าให้เลือกใช้เลือก M16 เพราะน้ำหนักเบากว่าครับ

(http://www.hkpro.com/image/g3a3.jpg)
G3

(http://www.hkpro.com/image/33cover.jpg)
HK33

เคยยิง HK33 และ M16A1 แค่ไม่กี่ครั้ง ความประทับใจคือ

1. เอ็ม ถีบน้อยกว่าทั้งที่ปืนเบากว่า คงเป็นเพราะแนวลูกเลื่อนขนานกับพานท้ายพอดี

2. ไก เอ็ม เบากว่า แต่ไม่เบาเิกินไป กำลังดี ไม่รู้ว่าเป็นเฉพาะกระบอกที่ผมยิงหรือเปล่านะครับ?

3. เอ็มขึ้นลำง่ายกว่า ไม่ต้องแงะคันรั้งออกมาก่อนดึง แถมดึงสะดวกกว่า

4. เอ็ม กระสุนหมดแล้วลูกเลื่อนค้าง บรรจุแมกใหม่กดปุ่มปล่อยลูกเลื่อนได้เลย ไม่ต้องดึงคันรั้งใหม่

5. ปรับปุ่มระบบการยิงสะดวกกว่า ไม่ต้องเลื่อนมือ

6. เอ็ม เบากว่า คล่องตัวกว่า

สรุป ถ้าต้องใช้ ขอใช้ เอ็ม ครับ

 ;D ขออนุญาตตอบนะครับ บังเอิญว่าได้มีโอกาศลองยิงทั้งสองรุ่นพร้อมกันมาครั้งหนึ่ง ผมชอบ M16A2 มากกว่าครับ ด้วยเหตุผลว่าน้ำหนักน้อยกว่า สามารถเล็งยิงได้ถนัดกว่า ศูนย์เล็งง่ายกว่า และความรู้สึกถึงแรงรีคอยล์น้อยกว่า ซึ่งเป็นรีคอยล์ที่ถอยหลังตรง ๆ ลำกล้องไม่สะบัดมากนัก ส่วน HK33 ต้องก้มหัวเพื่อเล็งยิงมากกว่า ศูนย์เล็งยากกว่า ลำกล้องจะสะบัดขึ้นมากกว่า และสุดท้ายจากการทดสอบวันนั้นผมยิง M16A2 ได้กลุ่มดีกว่า HK33 ครับ แต่ทั้งนี้เป็นการยิงแบบกึ่งอัตโนมัตินะครับ ไมได้ยิงกล ;D

ปกติ ปืนออโต  เซมิ-ออโตทั้งสั้นและยาวทุกชนิด ................จะมีแนวลำกล้อง แนวทางวิ่งของลูกเลื่อน และแนวรีคอยสปริง เป็นแนวเดียวกัน.......................เพียงแต่ว่าปืนแต่ละแบบ จะวางรีคอยสปริงไว้ตรงไหน

ปืนไรเฟิลโจมตี ตระกูล AR15 (M16) ถือได้ว่าเป็นปืนไรเฟิลโจมตี ที่มีรูปร่างเหมาะสมกับการยิงในสนามรบมากที่สุด ไม่ว่าจะเป็นการยิงแบบประณีต ยิงเร็วแบบฉับพลันทำรองรบ...................เนื่องจากการวางแนวลำกล้อง แนวทางเดินของลูกเลื่อน และแนวรีคอยสปริง เป็นแนวเดียวกัน แบบเรียงกันไป...................ทำให้แนวปืนเป็นแนวเดียวกันทั้งกระบอก เหมือนแท่งไม้ตรงๆ..............

ปืนตระกูลนี้ จึงไม่สามารถพับฐานให้สั้นได้ ทำได้เพียง ยืด-หดพานท้ายให้สั้นลงโดยการทดระยะรีคอยสปริง..............และรีคอยสปริง ไปอยู่บริเวณสันพานท้าย ทำให้ต้องทำหูหิ้วบริเวณกระดหลกปืน เพื่อติดตั้งศูนย์หลัง.................และต้องยกศูนย์หน้าขึ้นเป็นเรือนสูงรูปสามเหลี่ยม (ตามที่เห็นๆกัน) โดยใส่รูระบายแก๊ส และวางแนวท่อแก๊สจากปากลำกล้อง มาที่กระโหลกปืนอีกด้วย ...................ซึ่งเป็นการออกแบบที่ชาญฉลาดมากๆ

ลองสังเกตุรูปร่างของปืนตระกูลนี้ดู

ส่วนปืนตระกูลอื่นๆ ไม่ว่าจะเป็น HK AK ล้วนแต่วางแนวรีคอยสปริงไม่ต่อจากท้ายลูกเลื่อน...............แนวสันพานท้ายเลยไม่เป็นแนวเดียวกับลำกล้องและลูกเลื่อน....................๗งเหลือพื้นที่ที่พานท้าย จนกระทั่งสามารถตัดออก และใส่พานท้ายแบบพับฐานได้ เช่น ในปืน HK33K AK47S MC51 (G3 ตัวสั้น) ฯลฯ...........

ปืน AK47S เป็นปืนโบราณครับ...................ออกแบบพื้นฐานมาจากปืน SGT44 Stromgewahe ขนาด 7.92 ของเยอรมัน......................ออกแบบพื้นฐานง่ายๆ โดนใช้โครงลูกเลื่อนขนาดใหญ่ ที่ทำหน้าที่กระบอกสูบในตัว..............ทำให้ระบบแก๊สของ AK47 เป็นชิ้นส่วนใหญ่ๆ เมื่อมีน้ำหรือวัสดุแปลกปลอมหลุดเข้าไป ทำให้เอาออกหรือ กระเด็นหลุดออกมาเองได้ง่าย.....................ซึ่งเป็นคุณสมบัติเด่นในการใช้งานในสนาม...................ทำให้ทนทานมาก แต่การยิงจริงๆแล้ว ไม่แม่นยำถึงระดับครับ แต่แม่นยำในระดับต่อสู้เท่านั้น ซึ่งเพียงพอแก่การใช้ในการรบ....................

ปืน HK33 อย่างที่กล่าว เป็นปืนที่ยิงแม่นยำมากๆ ถ้าได้รับการปรับศูนย์ด้วยเครื่องมือพิเศษอย่างถูกต้อง.....................ผมเคยยิงระยะ 25 เมตร (สนาม 1000นิ้ว) เป้าตาวัวมาตรฐาน ทบ. 5 นัด ร้อยรูเสีย 3 นัด ในวง 5 .........................ซึ่งปืน M16 ก้สามารถทำได้สบายๆเช่นกัน.............

ส่วน AK47 ยิงให้เต็ม วง 5 คะแนนได้ครับ แต่ไม่เคยยิงร้อยรูได้เลย(สำหรับผม)...................

ถ้าให้ผมเลือก ผมเลือก M 16 ครับ ทั้ง ขนาด รูปร่าง คุณสมบัติ เหมือน ท่านมะขิ่นบอกไว้ โดยเฉพาะเสียงของมัน ดังแน่นอกแน่นใจดีครับ ไม่มากไปไม่น้อยไป พอขลุกขลิก  :-X

ผมก็ขอเลือก เอ็ม 16 ครับ  เพราะมีปืนในครอบครองที่ใกล้เคียงกันคือ AR-15, ak-47, G-3  ที่ยิงถูกใจที่สุดก็ AR-15 ละครับ
เลยขอเลือก M-16 A 2 เป็นคำตอบสุดท้าย ;D

HK33 มีปัญหาเรื่องโครงสร้าง  โครงปืนบริเวณท้ายลำกล้องจะร้าว   และ HK  ก็เลิกทำปืน.223 ระบบดีเลย์โบล์วแบ็ค ขัดกลอนด้วยลูกกลิ้งไปแล้ว  ปืนออกแบบใหม่เป็นระบบแกสอ็อปเปอร์เรททั้งหมด

ถามต่อนะคับผู้การสุพินธ์   แล้วอย่างนี้การที่ยิงไปมากๆอาจทำให้โครงปืนร้าวและเป็นอันตรายต่อผู้ยิงแล้วปืนhk33ที่ทางราชการใช้อยู่ตอนนี้มีการปรับปรุงหรือแก้ปัญหาอย่างไรบ้างคับ  ที่สำคัญยิงไปมากเท่าไหร่จึงจะออกอาการอย่างว่าครับผม

ผมชอบทั้งสองตัว  H&k บำรุงรักษาง่ายกว่า แต่หนักกว่า ปืน HK 33 และ G3 มีปัญหาถ้ายิงมากๆแล้วไม่ล้างจะทำให้ ไม่สลัดปลอก เพราะที่รังเพลิงจะร่องตามยาวอยู่ไว้ช่วยให้ลูกเลื่อนดึงปลอกที่ยิงแล้วออก ถ้าเขม่าปืนอุดร่องนี้เต็ม ลูกเลื่อนจะดึงปลอกไม่ออก หรือถ้าสกปรกมากๆ ปลอกขาดคารังเพลิงได้
อีกอย่างที่เกิดบ่อยคือตัวเตะปลอกสึก ทำให้ตอนลูกเลื่อนถอยหลังมาแล้ว ตัวเตะปลอกกระดกขึ้นสูงไม่พอ ทำให้ปลอกไม่ชนตัวแตะปลอก
เรื่องท้ายลำกล้องร้าวผมยังไม่เคยเห็นหรือได้ยิน  ที่ท้ายลำกล้อง( รังเพลิง) จะถูกกดเข้าตัวที่เรียกว่า trunnion  แล้วขัดด้วย หมุด เอาไว้ ตัว trunnion จะเชื่อมติดกับโครงปืนอีกทีนึง ตัว trunnion จะมีห้องให้ ลูกเลื่อนและ ตัว roller  ขัดค้างไว้ ตรงนี้จะได้รับการกระแทกมาก ถ้าตัว trunnion เปราะคงแตกได้
ความรู้สึกในการยิง ระหว่าง M16 กับ HK33 จะต่างกัน และ HK 33 น่าจะให้ความรู้สึกกับ การแรงรีคอลย์ ที่น้อยกว่า M16 เพราะตัวปืนหนักกว่า และระบบ delayed blowback  เวลายิงจะรู้สึกเหมือนกับ เวลาลูกลั่นไปแล้ว ลูกเลื่อนไม่ถอดหลังเร็วทันทีเหมือน M16   ปืน M16 ยิงได้เร็วกว่า
HK 33 เลิกพัฒนาไปนานแล้ว แต่ M16 ยังมีการปรับปรุงอยู่ตลอกเวลา

[ไฟล์แนบถูกลบโดยผู้ดำเนินการ]

ไม่มีอันตรายหรอกครับ  จะเริ่มที่หมื่นห้าพันนัด และค่อยเป็นค่อยไป  บางกระบอกเริ่มร้าว ก็ยิงต่อไปได้อีกเป็นร้อยนัด   ส่งซ่อมได้ที่กรมสรรพาวุธ  จะเปลี่ยนโครงปืนให้ใหม่เลย
ปืนที่ผลิตในเยอรมัน ก็ร้าวเหมือนกัน

ผู้การครับ ที่ร้าวนี่ตรงโคนลำกล้องหรือที่ trunnion ครับ

ร้าวที่โครงปืน  เลยท้ายลำกล้องมาประมาณ 10 มม.   แต่.308 ในตระกูล G3 ไม่เคยได้ยินว่ามีปัญหา

ครับผม   ขอบคุณครับ ผมยังนึกว่าถ้าปืนร้าวแบบนั้นล่ะ เรื่องใหญ่เลยครับ เพราะถ้าต้องซื้อโครงปืนใหม่ก็เท่ากับซื้อปืนอีกกระบอกนึงเลยครับ ซึ่งโครงปืนรุ่น HK 91/G3 ทำใน เยอรมัน หาไม่ได้แล้วครับมีแต่ ทำใน เมกา ครับบางบริษัทก็ใช้ได้คุณภาพดี บางเจ้าก็ ฮ่วยแตกครับ

ไม่ได้ Made in USA หรอกครับ   สปริงฟิลด์สั่งจากโรงงาน HK ในกรีก

ปืน HK 91( G3) , HK 94 ( MP5 ) ที่เข้ามาขายจะมีทั้งที่ส่งมาจาก germany และที่ทาง Springfield สั่งเข้ามาจาก กรีก ครับ ทาง Springfiled ริ่มสั่งเข้ามาหลังจากที่ทาง H&K เลิกส่งเข้ามาขายมาครับ โครงปืนผมเป็นของ โปรตุเกส ซึ่งคุณภาพเทียบเท่าของ HK  ปืนที่ Springfield นำเข้ามาขายก็คุณภาพเหมือนของ HK ครับ

ผมกับวิกกี้เคยยิงของเพื่อนคล้ายๆHK33แต่ใช้กระสุน308ยิงแม่นดีครับ แต่ปืนหนัก จับไม่ค่อยถนัด สู้AR15ไม่ได้

เรียกว่า Cetme ทำใน  สเปญ ครับพี่ ต้นตระกลูของ HK อีกที

Cetme  มีสองยุค  ตอนแรกวิศวกรเมาเซอร์ ที่หลบเข้าไปในสเปญเริ่มผลิตขึ้นก่อน  แต่ไม่เวิร์ค  ใช้กระสุนแรงสูงไม่ได้   ต่อมาทหารรัสเซียถอยออกจากเมืองที่เป็นโรงงานเมาเซอร์  วิศวกรพวกนี้ก็เลยกลับไปเยอรมัน  ส่วนหนึ่งทำงานกับเมาเซอร์ต่อ  แต่คนหนุ่มกลุ่มหนึ่งแยกตัวออกมาทำ HK ก็อยู่ที่เดียวกัน แต่ขึ้นเขาไปหน่อย   หลังจากพัฒนา G3 ได้แล้ว ก็แก้ไข cetme ให้ใช้กระสุน.308 ได้

;) ;) ;) ;)

อ่านไม่ได้ศัพท์ ผมก็จับมากระเดียดครับ อิอิ
โครงปืน HK91(G3) , 31(33) ,94( MP5) ที่ทำใน USA ตอนนี้มีอยู่ 4 บริษัทครับ ด้วยเหตุผลที่ ห้ามนำ Assult weapons เข้ามาขาย
เลยสั่งแต่ ชุด kit อะไหล่เข้ามา แล้วทำโครงปืนเองครับ รุ่นแรกๆฮ่วยมาก แต่รุ่นใหม่นี่ใช้ได้ครับ 

ข้างล่างเป็นตัวโครงปืน ที่ผลิตใน US ของสามบริษัท  ตัวบนฮ่วยที่สุด รูปที่สองเป็นโครง สแตนเลสหล่อ  รูปสามรูปสี่ คุณภาพดีที่สุด ครับ

[ไฟล์แนบถูกลบโดยผู้ดำเนินการ]

.

[ไฟล์แนบถูกลบโดยผู้ดำเนินการ]

แล้วปืนของ  Century Arm ล่ะครับ? เห็นมีมาขายตามงาน  Gun Show เยอะแยะเลย  ปืนของผม...ใครทำ  เดี๋ยวต้องวิ่งขึ้นไปดู

ปืน HK 91 ผลิตโดย Century Arms ใช้โครงที่ทำจากบริษัท Hasse ซึ่งคุณภาพไม่ค่อยดีนัก ไม่ได้สเป็คของ HK บางกระบอกจะไม่มีปัญหา บางกระบอกเจ้าของต้องส่งคืนโรงงาน

ผมเชื่อว่าไม่ได้ทำโครงใหม่ใน USA ทั้งโครงหรอกครับ  เป็นการเอาโครงปืนทหารมาดัดแปลง   เพราะมีปืน G3 แบบ surplus ในตลาดหลายล้านกระบอก   ขนาดพม่ายังเลิกใช้ เปลี่ยนเป็น.223 เลยครับ

ด้วยความเคารพครับ  โครงปืน G3 ตามกฎหมายนำเข้าไม่ได้ครับ เพราะถือว่าเป็นปืน Full auto กระบอกนึง จะต้องมีใบอนุญาตซื้อขายแลกเปลี่ยนอาวุธ Class III   โครงปืนที่ผลิตขายในนี้ ทำใน US. ครับ จึงจะประทับว่า Made in USA ได้
อย่างโครงปืนที่เป็น เหล็ก สแตนเลส หล่อของบริษัท Special Weaponsเป็นต้น  หลังจากที่ Springfield เลิกนำปืนเข้ามาขายจาก กรีก ก็ไม่มีใครนำเข้ามาอีก แต่เริ่มมีชุด kit เข้ามาขายแต่ก็ยังไม่มีโครงปืนใส่  จนกระทั่งมีบริษัทนำโครงปืนที่ผลิตใน โปตุเกส โดยเครื่องจักรตัวปั๊มขึ้นรูปมาจาก เยอรมันนี  เข้ามาขายในราคาแพง $450-$500 ซึ่งในขณะเดียวกันภายในประเทศ ก็เริ่มมีคนทำโครง HK 91 ออกมาขายโดยบริษัท Hasse ทำออกมาก่อน คุณภาพต่ำมา เหล็กไม่ดี ไม่ได้ชุบ รอยเชื่อมก็หยาบมาก จนมีอีกสองสามบริษัทเริ่มทำออกมาขาย และก็เริ่มดีขึ้นเรื่อยๆราคาก็เริ่มถูกลงครับ  ยังโครงปืนที่หล่อตัวอลูมินั่มทั้งตัวด้วยครับ ทาง Springfeild ก็ประกอบออกมาขายตีตรา Springfield แต่ไม่ได้รับความนิยม เพราะดูเทอะท่ะน่าเกลียดครับ  ผมขออนุญาตยืนยันอีกทีว่า ทำในนี้ครับ  โครงปืน HK G3 กับ HK 91 ( และ clone) ต่างกันที่เดียวเองครับ

เพิ่มเติมครับ โครงที่ทำขายกันในนี้ ทำขึ้นมาก่อนที่ กฎหมาย assult weapon ban จะหมดอายุลง การที่จะประกอบปืนจำพวก assult waepons ขึ้นมาได้ต้องมีชิ้นส่วนปืนเดิมจากชุด kit ตามที่กฏหมายบังคับไว้ ชิ้นส่วนที่ต้องใช้เพิ่มจะต้องเป็นของที่ผลิตใน USA สำหรับโครงปืน HK91 ( clone) ที่ผลิตใน US จึงนับได้ว่าเป็น 1 ชิ้นครับ  ปืนผมประกอบจากโครงที่ทำใน โปตุเกส  ผมจึงต้องใช้ชิ้นส่วนอย่างอื่นที่ทำใน US ให้ครบตามที่กฏหมาย ระบุไว้ไม่งั้นจะถือว่าเป็นปืนนำเข้าซึ่งผิดกฏหมายครับ 
นอกจากโครงปืน ตระกลู G3 ที่ยิงได้แค่ semi-auto แล้วยังมีโครงปืน HK 94( MP5) clone, HK 33 ( semi auto ) clone , UZI , AK47 , AK74 , Galil อีกครับที่ทำในนี้

นี่เป็นหลักการ
แต่ผมมีข้อมูลว่าพ่อค้าปืนในอเมริกา  ซื้อ G3 เก่าไปครั้งละเป็นแสนกระบอก  ยังไม่รวม FAL อีกเป็นแสน  เขาเอาไปไว้ที่ไหนละครับ  และการซื้ออาวุธสงครามแบบนี้  ถ้าไม่เสนอแผนทางธุรกิจไปด้วย  ไลเซ่นทั้งขาออก กับขาเข้า ไม่มีทางออกได้หรอกครับ

ที่เข้ามาเป็น parts kit ถ้ามีโครงปืนติดมาด้วยต้องตัดออกเป็นชิ้นๆ ตามกฎของ ATF ไม่เฉพาะ G3 หรือ FAL อย่างเดียวมีทั้ง AK , UZI ,Galli  และอีกหลายๆยี่ห้อ เกลื่อนตลาดครับ  โครงปืน FAL ก็ทำในนี้แล้วครับ   ข้อมูลพวกนี้เป็นที่รู้กันโดยทั่วไปครับ  หารายละเอียดได้จากเว็ปของ ATF สำหรับพวกที่ประกอบปืนแบบ assult weapons เองจะต้องรู้และศึกษากฎข้อบังคับก่อนจะประกอบขึ้นมาได้ ไม่งั้นก็ผิดกฎหมาย
ผมขอสรุปว่าผลิตในนี้จริง ครับ ผมขอจบแค่นี้ เพราะจะกลายเป็นผมไม่ให้ความเคารพ กับผู้การ เป็นการไม่เหมาะสมครับ เพราะผมก็ให้ความเคารพนับถือผู้การ เหมือนเป็นครูประจำเว็ปท่านนึงครับผม
จากใจครับ

ผมชอบข้อมูลแบบนี้ของคุณ USP40  มากครับ  อยากให้เสนอต่อไปเรื่อย ๆ
ส่วนที่บอกว่าตัดโครงปืน  บางแบบอาจจะไม่ใช่การตัดทิ้งไปทั้งหมด (ทิ้งเฉพาะส่วนที่มี Sr.No)  แต่เป็นการตัดต่อ  ผมเคยเอาปืนสั้นเมาเซอร์ แบบออโต มาลง อวป.กระบอกหนึ่ง  เจ้าของซื้อมาจากอเมริกา  เป็นการตัดด้ามที่ต่อพานท้ายได้ทิ้งไป แล้วเชื่อมของใหม่เข้าไปแทน  และเปลี่ยนระบบลั่นไก ตัดระบบออโตออก