เว็บบอร์ดสนทนาภาษาปืน

สอบถาม .45 และ 9 มม พอดีจะ ขอ ปืน กระบอกแรก ครับ อยาก ทราบว่า .45 ขอยากมากไหม ครับ อยู่ กทม ครับ เพราะที่คุย กับ พนักงาน ที่นางเลิ้ง แล้ว ต้องมี ใบ รับรองความประพฤติ และ ต้องใช้ ซี 6 เซ็นรับรอง ถึงได้ แต่ ผมไม่ได้รู้จัก ใคร เลย ซี 6 แต่ ก็ มี วิธีคือให้ ตำรวจ ส่งเรื่องตรวจสอบประวัติ ไม่รู้นาน ไหม ครับ เริ่ม ถอดใจ จะ เอา 9 แล้ว ของ่าย กว่า เยอะ แต่ใจ รัก .45 พอ มีใคร ช่วยได้ไหม ครับ อยู่ คลองเตย ครับ เห็นบอก ต้องมี หลังทรัพย์ ต้องมีเงินเท่าไรใน บัญชี อะ ถึงพอ แต่ ที่ดิน บ้าน กิจการ ผมอยู่ จังหวัด สุราษ ประกอบกิจการมี ใบจดทะเบียนการค้า มี ที่ดิน ใบสมาชิกสนามยิงปืน แต่ทุกอย่าง เป็นของจังหวัด สุราษ หมดเอามาใช้ได้ไหม ครับ เนื่องจากไป ประกอบกิจการที่นั้น แต่ บ้านเกิด คน กรุงเทพ เขตคลองเตย ครับ ผู้รู้แนะนำด้วย ครับ จะเอา .45 ไป ยิง ปั้น X และ เฝ้าบ้าน และ สวนยาง สวนปาล์ม ด้วย ครับ

ผู้รู้ช่วยตอบหน่อยครับ รอดูด้วย

เพิ่มเติม ครับ ลืมถามอีกเรื่อง ครับ สำคัญมาก ว่า .45 ต้องเสียค่าบำรุงทองที่ เท่าไร ครับ เพราะ ที่สุราษ เคยถาม แล้ว นายอำเภอ เอา 15 K ผม หงายท้องเลย สงสัย จะ แบ่งกันถึง ภารโรง เลย ครับ เอา ขนาดนี้ แพง เวอร์ สัก 10 K ยังพอ ทำใจ ได้ เพราะ ปืน .45 ที่มอง ไว้ มี Kim Team Matc กับ Colt Gold Cup ราคา ก็ 100 - 135 K แล้ว เจอ ค่าบำรุงทองที่ อีก คง อ้วก แตก เลย ครับ

                       ถ้าเป็นบุคคลที่มีคุณสมบัติครบถ้วนตามกฎหมาย มีวุฒิภาวะ มีความพร้อมที่จะรับผิดชอบต่อปืน (ต้องไม่ให้ทำร้ายใครโดยมิชอบ)  ผมขออธิบายในเข้าใจ คือ
1. นโยบายให้สั้น 1 ยาว 1 เท่านั้น
    เป็นเพียงการกำหนดแนวทางในการใช้ดุลพินิจของนายทะเบียนเท่านั้น นายทะเบียนสามารถใช้ดุลพินิจที่จะพิจารณาว่าผู้ขอมีเหตุผลและความจำเป็นที่จะได้รับอนุญาตให้มีและใช้อาวุฒิปืนหรือไม่
2. มีสั้น 1 กระบอก ก็เพียงพอต่อการป้องกันชีวิตและทรัพย์สินแล้ว
    ตามความเห็นของผม กฎหมายไม่ได้ห้ามไว้ ขึ้นอยู่กับความจำเป็นและเหตุผล
3. มี  9 มม. แล้ว 1 กระบอก จะขอ 9  มม. อีกไม่ได้ นโยบายไม่ให้มีซ้ำขนาด
    ปืนขนาดเดียวกันก็จริง แต่ความเหมาะสมที่ใช้งานต่างกัน ขึ้นอยู่กับความจำเป็นและเหตุผล
4. .45 .357 เป็นอาวุธสงคราม ออกให้ประชาชนธรรมดาไม่ได้
     กฎกระทรวงฉบับที่ 11 ไม่ได้ห้ามไว้ สามารถออกใบอนุญาตได้
สรุปก็คือ ถ้ามีคุณสมบัติครบถ้วนตามกฎหมาย มีเงินซื้อ มีปืนขาย (เพราะมีการจำกัดการนำเข้า) ก็สามารถขออนุญาตได้

   ตกลงทะเบียนบ้านของคุณอยู่ กทม หรือ สุราษครับ ...   ถ้าใน กทม จะได้ เพื่อการกีฬา วิธีการก็ไปสมัคร สมาชิกสนามยิงปืนซะหน่อยและลงอบรม ยิงปืนไปด้วยเลย พอจบ การขอใบรับรองจากทางสนามพร้อมทั้งให้นายสนามเป็นผู้รับรองจะง่ายขึ้น  ทีนี้ก็ค่อยเตรียมเอกสาร พวกทะเบียนบ้าน บัตรประชาชน ใบรับรองเงินเดือน statement หรือถ้าจะให้ดี ถ่ายสำเนา บัญชี ธนาคารต่างๆ สำเนาทะเบียนรถ สำเนาโฉนดที่ดินที่เป็นชื่อของคุณ หรือพูดง่ายๆมีอะไรที่เป็นทรัยย์สินของคุณใส่ไปให้หมด  ส่วนใหญ่ในกทม จะไม่ค่อยมีปัญหาครับ
ขอแค่เอกสารให้พร้อม และไม่ค่อยยึกยัก แต่กว่าจะได้ ป.3 นี่ก็45วันทำการ
   แต่ถ้าตามต่างจังหวัดอันนี้ก็แล้วแต่พื้นที่แล้วครับ เท่าที่ จขกท โดนก็ 15000 แล้ว.....

เลือกตามใจของท่าน ที่ท่านพอใจ  อาวุธปืน ต่างมีวัตถุประสงค์หลัก คือ เพื่อป้องกันภัย

ท่านสะดวกอย่างไร ชอบอะไร  ก็เลือกคบตามใจของท่าน เลยครับ..

และนั่นจะเป็นการสะท้อน ความเป็นตัวตนของท่านด้วย  ::002::

จะเอาขนาดอะไรก็ต้องมีใบรับรองความประพฤติเหมือนกันครับ

ใช้วิธีสอบประวัติก็ไม่นานเกินรอครับ ::002:: ::002:: ::002::

หอบหลักฐานและเอกสารของท่านทั้งหมดที่กล่าวมานั้นไปยื่นขอได้เลยถึงจะเป็นสุราษมันก็ยังเป็นกิจการและทรัพย์สินของท่านไม่ต้องกังวลและไม่ต้องคิดจะจ่ายเงินใต้โต๊ะครับทำไปตามขั้นตอน ถ้าท่านอยู่ กทม.จริง ก็ไขอที่วังไชยยาครับขอให้โชคดีครับ

      ขนาดที่ท่านเจ้าของกระทู้จะได้รับอนุญาติหรือไม่ ผมขอเพิ่มเติมจากประสบการณ์ที่ผ่านตรง
จุดนั้นมานะครับ
      นายทะเบียน (นายอำเภอหรือปลัดอำเภอ)ที่สัมภาษณ์ถึงเหตุผลในการขอมีและใช้อาวุธปืน
ท่านจะพิจารณาว่า ท่านมีความรู้และเข้าใจเกี่ยวกับ พรบ.อาวุธปืนเพียงใด จริงๆถ้าท่านใจเย็นๆ
ไปสมัครเป็นสมาชิกสนามยิงปืนสักแห่งทิ้งไว้ให้ครบ 6 เดือนเสียก่อน แล้วค่อยกลับมาขอใบป. 3
โดยขอใบรับรองจากนายสนามฯ แล้วตรงไปหานายอำเภอ แจ้งความประสงค์กับท่านว่า ผมมาขอ
ใบป.3 ขนาด.45 เพื่อใช้ในการกีฬา
       คนที่มีจิตวิทยาสูงอย่างนักปกครองจะรู้โดยสัญชาติญาณทันทีว่า นี่คือการทำตามกฎหมายที่
พรบ.อาวุธปืนกำหนดคุณสมบัติไว้
       ผมเคยถามนายอำเภอที่บ้านผมเรื่องไม่อนุญาติขนาด.45 กับบางคน ท่านให้คำตอบว่า บุคคล
คนนั้นไม่ได้ยื่นเพื่อการกีฬา และไม่เข้าใจข้อกฎหมายที่ดีพอเกี่ยวกับพรบ. อาวุธปืน
      ทำให้พอจะสรุปได้ว่า คนที่จะขอขนาด.45 จะต้องรู้และเข้าใจในข้อกฎหมายเกี่ยวกัยอาวุธปืน
พอสมควร แต่สิ่งสำคัญที่สุดคือการปฏิบัติตามขั้นตอนอันดับแรกคือ ไปสมัครเป็นสมาชิกสนามยิงปืน
วิธีนี้ ผมใช้ได้ผลมาแล้วครับ ไม่มีเสียใต้โต๊ะแม้แต่บาทเดียว