เว็บบอร์ดสนทนาภาษาปืน

สนทนาภาษาปืน => หลังแนวยิง => ข้อความที่เริ่มโดย: flyingkob-รักในหลวง ที่ กรกฎาคม 23, 2009, 08:50:26 AM



หัวข้อ: รักหมอคนนี้จัง
เริ่มหัวข้อโดย: flyingkob-รักในหลวง ที่ กรกฎาคม 23, 2009, 08:50:26 AM
(http://upload.sodazaa.cc/image.php?id=AA09_4A67C1C6&jpg) (http://upload.sodazaa.cc/share.php?id=AA09_4A67C1C6)



Q: Doctor, I've heard that cardiovascular exercise can prolong life. Is this true?
คุณหมอครับ ผมเคยได้ยินว่าการออกกำลังแบบคาร์ดิโอ (ออกแบบเหือกๆ แบบหนักๆ ต่อเนื่องๆ เหงื่อซกๆๆๆ) สามารถทำให้ชีวิตยืนยาวขึ้นได้จริงไหมครับ
A: Your heart is only good for so many beats, and that's it...  don't waste them on exercise. Everything wears out eventually.  Speeding up your heart will not make you live longer; that's like saying you can extend the life of your car by driving it faster.  Want to live longer?  Take a nap. 
นี่คุณ หัวใจน่ะ มันใช้ได้ดีสำหรับเต้นตึ๊กๆๆๆ ไม่กี่ครั้งเองนะ พูดง่ายๆ ก็คือ อย่าไปเสียเวลาออกกำลังเลย ทุกสิ่งทุกอย่างยิ่งใช้ๆ เข้ามันก็หมดเกลี้ยงนะ ฉะนั้น การทำให้หัวใจเต้นเร็วขึ้นบ่อยๆ น่ะไม่ได้ช่วยให้อายุยืนหรอก ก็เหมือนๆ กับถ้าคุณจะพูดว่าขับรถเร็วๆ จะทำให้รถของคุณคงทนขึ้นอย่างนั้นน่ะเหรอ? ถ้าอยากอยู่นานๆ ก็งีบหลับซะเหอะ

Q: Should I cut down on meat and eat more fruits and vegetables?
ผมควรจะลดปริมาณการกินเนื้อ แล้วเพิ่มการกินผักผลไม้ไหมครับ?
A: You must grasp logistical efficiencies.  What does a cow eat?   Hay and corn.   And what are these?  Vegetables.  So a steak is nothing more than an efficient mechanism of delivering vegetables to your system.   Need grain?   Eat chicken.   Beef is also a good source of field grass (green leafy vegetable).   And a pork chop can give you 100% of your recommended daily allowance of vegetable products.
ใช้วิจารณญาณเชิงตรรกะเหตุผลเอาละกันคุณ วัวมันกินอะไรล่ะ? ก็หญ้าแห้งและก็ข้าวโพด ซึ่งไอ้สองอย่างนี่มันคืออะไรล่ะ? ก็ผักไง! ฉะนั้น การกินเนื้อสเต๊กเนี่ย มันก็คือหนทางที่มีประสิทธิภาพในการส่งผักเข้าสู่ร่างกายเรานั่นล่ะ ต้องการธัญพืชเหรอ? ก็กินไก่สิ! ยิ่งกว่านั้นนะคุณ เนื้อวัวน่ะยังเป็นแหล่งผักใบเขียวที่ดีด้วย (ก็วัวมันกินหญ้าเขียวๆ) และพอร์คช็อปน่ะสามารถให้คุณค่าทางอาหารจากพืชที่เพียงพอต่อความต้องการของคุณในวันนึงเลยทีเดียว

Q: Should I reduce my alcohol intake? 
ผมควรจะลดปริมาณการดืื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ลงไหมครับ
A:  No, not at all.  Wine is made from fruit.  Brandy is distilled wine, that means they take the water out of the fruity bit so you get even more of the goodness that way.   Beer is also made out of grain.  Bottoms up!

ไม่ ไม่จำเป็นเลย ไวน์น่ะทำมาจากผลไม้ บรั่นดีก็คือไวน์ที่กลั่นแล้ว นั่นหมายความว่าส่วนที่เป็นน้ำถูกเอาออกไปจากส่วนผลไม้ มันก็ยิ่งดีเข้าไปใหญ่เลยน่ะสิ เบียร์ก็มาจากธัญพืช........เอ้า...........หมดแก้ว!!!!

Q: How can I calculate my body/fat ratio?
ผมจะคำณวนอัตราส่วนไขมันต่อร่างกายได้อย่างไรครับ
A: Well, if you have a body and you have fat, your ratio is one to one.  If you have two bodies, your  ratio is two to one, etc.
ง่ายจะตาย ก็ถ้าคุณมีร่างกาย และก็มีไขมัน.....อัตราส่วนก็คือหนึ่งต่อหนึ่งไง และถ้าคุณมีสองร่าง อัตราส่วนก็จะกลายเป็นสองต่อหนึ่งไงล่ะ

Q: What are some of the advantages of participating in a regular exercise program?
ประโยชน์ของการออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอคืออะไรครับ?
A: Can't think of a single one, sorry.  My philosophy is: No Pain...Good!
หมอเองยังคิดไม่ออกสักข้อเลยคุณ เสียใจด้วยนะ ปรัชญาของหมอคืออะไรที่ไม่ทรมาน ก็ดีทั้งนั้นแหล่ะ!

Q:  Aren't fried foods bad for you? 
อาหารทอดๆ นี่มันไม่ดีสำหรับร่างกายใช่ไหมครับ?
A:  YOU'RE NOT LISTENING!!! .....  Foods are fried these days in vegetable oil.  In fact, they're permeated in it.  How could getting more vegetables be bad for you? 
คุณนี่หูแตกรึไง!! ปัจจุบันนี้อาหารทอดก็ถูกทอดในน้ำมันพืชทั้งนั้นแหล่ะ และน้ำมันพืชก็อยู่ในอาหารพวกนั้นนี่นา แล้วการกินพืชมากขึ้นมันไม่ดีตรงไหนวะ?

Q:  Will sit-ups help prevent me from getting a little soft around the middle?
การซิท-อัพช่วยป้องกันไขมันรอบหน้าท้องได้ไหมคะ๋?
A: Definitely not! When you exercise a muscle, it gets bigger. You should only be doing sit-ups if you want a bigger stomach. 
ไม่มีทาง! เวลาคุณออกกำลังกล้ามเนื้อมันก็จะใหญ่ขึ้น ถ้าคุณอยากมีพุงใหญ่ๆ ก็ซิท-อัพไปเหอะ

Q:  Is chocolate bad for me? 
ช๊อกโกแล๊ตนี่ไม่ดีใช่มั๊ยคะ
A:  Are you crazy? HELLO Cocoa beans! Another bean!!! Beans are good for you. It's the best feel-good food around!
บ้ารึเปล่าคุณ? โว้ยยยยยยยย ก็เมล็ดโกโก้ไงเล่า!!!! แล้วธัญพืชมันก็ดีสำหรับคุณ ช๊อกโกแล๊ตน่ะมันเป็นอาหารที่เยี่ยมที่สุด!

Q:  Is swimming good for your figure? 
การว่ายน้ำดีต่อรูปร่างมั๊ยคะ?
A:  If swimming is good for your figure, explain whales to me.
ก็ถ้ามันดีจริง ไหนอธิบายซิว่าปลาวาฬหุ่นดีแค่ไหนกันเชียว

Q:  Is getting in-shape important for my lifestyle? 
การมีรูปร่างดีๆ สำคัญต่อชีวิตมั๊ยคะ?
A:  Hey!  'Round' is a shape! 
โธ่เว้ย! แล้วทรงกลมๆ มันก็เป็น "รูปร่าง" ไม่ใช่เรอะ

Well, I hope this has cleared up any misconceptions you may have had about food and diets.
เอาล่ะ นี่คงแก้ปัญหาความเข้าใจที่ผิดๆ เรื่องโภชนาการที่ดีได้แล้วนะ

And  remember: และก็จำไว้ด้วยว่า
'Life should NOT be a journey to the grave with the intention of arriving safely in an attractive and well preserved body, but rather to skid in sideways - Chardonnay in one hand - chocolate in the other - body thoroughly used up, totally worn out and screaming 'WOO HOO, What a Ride'   
 ชีวิตน่ะมันไม่ใช่การฝังจิตฝังใจเอาไว้กับการระมัดระวังเพื่อรักษารูปร่างให้ดีๆ ไว้ แต่มันควรเป็นเหมือนการเล่นสไลเดอร์ มือข้างนึงไวน์ชาร์ดองเน่ไว้ และถือช๊อกโกแล๊ตไว้ในมืออีกข้าง ใช้ร่างกายทั้งหมดให้คุ้มๆ แหกปากกู่ก้อง เว้ยเฮ้ยยยยยย!!!! สนุกอะไรอย่างนี้!!

 AND.....แล้วก็นะ....

For those of you who watch what you eat, here's the final word on nutrition and health. It's a relief to know the truth after all those conflicting nutritional studies. 

สำหรับพวกที่ต้องคอยดูแล้วดูอีกว่ากินอะไรเข้าไปยังไงบ้าง อ่านด้านล่างนี่ซะ นี่คือข้อสรุปเกี่ยวกับโภชนาการและสุขภาพ อ่านแล้วจะโล่งเอามากๆ เลยที่ได้รู้ความจริงหลังจากที่ผลวิจัยทางโภชนาการเขาถกเถียงกันมานาน

1. The Japanese eat very little fat and suffer fewer heart attacks than Americans.

คนญี่ปุ่นบริโภคไขมันน้อย และก็มีภาวะหัวใจวายน้อยกว่าคนอเมริกัน

2. The Mexicans eat a lot of fat and suffer fewer heart attacks than Americans.
คนแม๊กซิกันบริโภคไขมันเยอะโคดๆ  แต่ก็มีภาวะหัวใจวายน้อยกว่าคนอเมริกัน

3. The Chinese drink very little red wine and suffer fewer heart attacks than Americans.

คนจีนไม่ค่อยดื่มไวน์แดง และมีภาวะหัวใจวายน้อยกว่าคนอเมริกัน

4. The Italians drink a lot of red wine and suffer fewer heart attacks than Americans. 

คนอิตาเลี่ยนดื่มไวน์แดงเยอะมากๆ แต่ก็มีภาวะหัวใจวายน้อยกว่าคนอเมริกัน

5. The Germans drink a lot of beers and eat lots of sausages and fats and suffer fewer heart attacks than Americans.

คนเยอรมันตะบี้ตะบันดื่มเบียร์ แถมยังยัดทะนานกินไส้กรอกและก็พวกอาหารไขมัน แต่ก็มีภาวะหัวใจวายน้อยกว่าคนอเมริกัน

CONCLUSION ข้อสรุปก็คือ........

Eat and drink what you like. ชอบอะไรก็กินๆ ดื่มๆ มันเข้าไปเหอะ
Speaking English is apparently what kills you.  เพราะการพูดภาษาอังกฤษต่างหากล่ะ ที่ทำให้คุณตาย!


หัวข้อ: Re: รักหมอคนนี้จัง
เริ่มหัวข้อโดย: PU45™ ที่ กรกฎาคม 23, 2009, 09:18:51 AM

        ๕๕๕๕๕   ขอบคุณครับน้ากบ ...... ผมคงเชื่อครึ่ง ไม่เชื่อครึ่งครับ ...... หมายถึงเดินสายกลางอะ  อิ อิ (มีข้ออ้างในการดื่มแล้ว)



หัวข้อ: Re: รักหมอคนนี้จัง
เริ่มหัวข้อโดย: ~ Sitthipong - รักในหลวง ~ ที่ กรกฎาคม 23, 2009, 09:44:56 AM
 ::005::  ขอบคุณครับ


หัวข้อ: Re: รักหมอคนนี้จัง
เริ่มหัวข้อโดย: submachine -รักในหลวง- ที่ กรกฎาคม 23, 2009, 10:01:21 AM
เชื่อมั่นเสมอว่า การโภชนาการเกี่ยวพันกับการใช้ชีวิต อาชีพ Life Style ของแต่ละคน
Life Style ไม่เหมือนกัน การโภชนาการย่อมต่างกัน


หัวข้อ: Re: รักหมอคนนี้จัง
เริ่มหัวข้อโดย: supreme ที่ กรกฎาคม 23, 2009, 10:02:03 AM
สรุปแล้ว มันเป็นเพราะ ภาษาอังกฤษหรือนี่  :OO


หัวข้อ: Re: รักหมอคนนี้จัง
เริ่มหัวข้อโดย: ไม่ค่อยแม่น รักในหลวง ที่ กรกฎาคม 23, 2009, 10:08:36 AM
 ::007:: ::007:: ::007::


หัวข้อ: Re: รักหมอคนนี้จัง
เริ่มหัวข้อโดย: X_ รักในหลวงครับ ที่ กรกฎาคม 23, 2009, 10:13:53 AM
 ::005:: ::005::


หัวข้อ: Re: รักหมอคนนี้จัง
เริ่มหัวข้อโดย: คมขวาน รักในหลวง ที่ กรกฎาคม 23, 2009, 10:19:31 AM
        ผมเป็นคนที่ห่วงใยสุขภาพคนหนึ่ง
ทำตามคำแนะนำของคุณหมอทุกอย่าง
-ออกกำลังกายสม่ำเสมอ  
-พักผ่อนให้เพียงพอ
-ทานอาหารที่มีประโยชน์
-หลีกเหลี่ยงอะไรที่หวาน ๆ
-หลีกเลี่ยงอะไรที่เค็ม ๆ
-ที่ทำไม่ได้เลยคือ  "งดอะไรที่มัน มัน(ส์)ๆ"
 ::005:: ::005:: ::005::


หัวข้อ: Re: รักหมอคนนี้จัง
เริ่มหัวข้อโดย: Southlander ที่ กรกฎาคม 23, 2009, 10:28:20 AM
สุดยอด

รับรองถ้าเจอคุณหมอคนนี้ผมจะชวนแกนั่งแท็กซี่ไปโรงเบียร์สดเยอรมันแล้วเลี้ยงเบียร์สดชนแก้วกับแก
ซด ซด จนกลิ้งกันไปข้างหนึ่ง.....ไม่ต้องขับสั่งเด็กให้เรียกแท็กซี่ตอนปิดร้านไว้เลย


หัวข้อ: Re: รักหมอคนนี้จัง
เริ่มหัวข้อโดย: S.V ที่ กรกฎาคม 23, 2009, 10:33:10 AM

   ;D ;D ;D


หัวข้อ: Re: รักหมอคนนี้จัง
เริ่มหัวข้อโดย: วัฒน์ ที่ กรกฎาคม 23, 2009, 11:33:06 AM
 ::005:: รีบเข้ามาดูนึกว่า คุณ.กบ จะพูดถึงหมออ้อย...


หัวข้อ: Re: รักหมอคนนี้จัง
เริ่มหัวข้อโดย: hare ที่ กรกฎาคม 23, 2009, 11:43:31 AM
 ;D  ::005::  ;D


หัวข้อ: Re: รักหมอคนนี้จัง
เริ่มหัวข้อโดย: NaiMai>รักในหลวง ที่ กรกฎาคม 23, 2009, 01:25:21 PM
 ;D เมื่อเร็ว ๆ นี้มีหมอใหญ่ท่านหนึ่งป่วยและเสียชีวิต ลูกค้าผมที่ไปงานศพท่านมาแล้วมานั่งดื่มต่อที่ร้านบอกว่า "แดกไปเถอะเหล้าน่ะ หมอยังตาย นับประสาอะไรกับกู" :DD


หัวข้อ: Re: รักหมอคนนี้จัง
เริ่มหัวข้อโดย: E_mail ที่ กรกฎาคม 23, 2009, 01:47:35 PM
 ::007:: ถูกใจ  ::007::


หัวข้อ: Re: รักหมอคนนี้จัง
เริ่มหัวข้อโดย: rute - รักในหลวง ที่ กรกฎาคม 23, 2009, 05:15:52 PM
เป็นแนวคิดที่น่ารักดีครับ...:D


หัวข้อ: Re: รักหมอคนนี้จัง
เริ่มหัวข้อโดย: SOAP47 รักในหลวง ที่ กรกฎาคม 23, 2009, 06:56:04 PM
::005:: รีบเข้ามาดูนึกว่า คุณ.กบ จะพูดถึงหมออ้อย...
อุย....

อิอิ


หัวข้อ: Re: รักหมอคนนี้จัง
เริ่มหัวข้อโดย: Audy452 ♥ รักในหลวง ที่ กรกฎาคม 23, 2009, 07:17:00 PM
ผมเชื่ออย่างนี้ครับ

1.You are what you eat.

2.คนบางคนใช้ฟันขุดหลุมฝังศพให้ตัวเองได้

ก็แค่อีกมุมมองหนึ่งอะครับ อิ อิ


หัวข้อ: Re: รักหมอคนนี้จัง
เริ่มหัวข้อโดย: ชยันโต ที่ กรกฎาคม 23, 2009, 08:30:19 PM
ยังชั่งใจ .. ว่าจะนำไปใช้ดีไหมนี่  :D ;D ;D ;)


หัวข้อ: Re: รักหมอคนนี้จัง
เริ่มหัวข้อโดย: Zeus-รักในหลวง ที่ กรกฎาคม 24, 2009, 02:39:15 PM
ถูกใจครับ ::002::
เคยได้ยินมาประโยคหนึ่ง
ไอติม ช๊อกโกเลต เหล้า ไวน์ เบียร์เป็นอาหารไม่ส่งเสริมให้สุขภาพกายแข็งแรง แต่ส่งเสริมให้จิตใจมีความสุขเวลากิน ;D


หัวข้อ: Re: รักหมอคนนี้จัง
เริ่มหัวข้อโดย: จินตา <Jinta> ที่ กรกฎาคม 24, 2009, 07:52:14 PM
ขอบคุณครับ.... ความสุขทางใจใช้สู้โรคา ;D ;D ;D


หัวข้อ: Re: รักหมอคนนี้จัง
เริ่มหัวข้อโดย: skajy ที่ กรกฎาคม 25, 2009, 04:09:54 PM

อ่านแล้วนึกถึงหมอที่คิดวิธีลดความอ้วนแบบที่เรียกว่า แอ็ปกิ้น ไดเอ็ท
เขาแนะให้กินเนื้อได้ตามอารมณ์ที่เราอยากกินเลย แต่ให้งดแป้ง น้ำตาล แล้วก็นม
โดยเฉพาะนม ผมกินนมต่างน้ำมาตั้งแต่อยู่ประถม ตอนแรกก็ไม่เข้าใจ
ตอนหลังมีหมอที่ปรึกษาการลดน้ำหนักเขาบอกว่า มันเป็นเรื่องของการย่อย
นม ไข่ น้ำตาล เป็นอาหารที่ย่อยง่ายมากๆ เรียกว่ากินเข้าไป เท่าไหร่ร่างกายก็ดูดซึมเท่านั้นเลย
แป้ง ข้าว ย่อยง่ายดี มีบางส่วนย่อยได้ ก็ดูดซึมไป ที่ย่อยไม่หมด ดูดไม่ได้ ก็ถ่ายออกไป
เนื้อทั้งหลาย ย่อยยาก แล้วรางกายก็มีความสามารถจำกัดในการย่อย กินมากก็จริง
แต่มีจำนวนมาก ที่ถูกขับถ่ายออกมาก่อนที่จะดูดซึมได้ ถ้าอยากให้ถ่ายง่าย ก็อย่าลืมทานผักด้วยนะครับ  ;D