เว็บบอร์ดสนทนาภาษาปืน

สนทนาภาษาปืน => หลังแนวยิง => ข้อความที่เริ่มโดย: วัฒน์ ที่ กรกฎาคม 26, 2009, 02:28:50 PM



หัวข้อ: ความอวดดี อวดเด่น อวดรู้ อวดฉลาด ....ไม่ทำให้ชีวิตดีขึ้น
เริ่มหัวข้อโดย: วัฒน์ ที่ กรกฎาคม 26, 2009, 02:28:50 PM
 :) ความอวดดี อวดเด่น อวดรู้ อวดฉลาด ถือเป็นกิเลส จะพาชีวิตตกต่ำ ไม่เกิดประโยชน์แต่อย่างใด

ต้นตอรากเหง้าของกิเลสตัวนี้ คือ อวิชชา-ความไม่รู้จริง หรือความบรมโง่ ก็ได้ เกี่ยวพันกับกิเลสหลายตัวมาก เพราะมีหลายระดับ หลายชั้น ตั้งแต่ชั้นหยาบๆ -ชั้นกลางๆ-และชั้นละเอียด่ คละเคล้าปะปนกันอยู่มากบ้างน้อยบ้างตามส่วน เช่น

1.กิเลสหยาบ-ชั้นนอก(อุปกิเลส 16)....
ปลาสะ-ตีเสมอ (เข้าทำนองอวดเด่น อวดรู้ อวดฉลาดเท่าเทียมกับผู้ที่เหนือกว่า)
สารัมภะ-แข่งดี แย่งดี(ประเภทหน้าใหญ่ใจโต ทำบุญเอาหน้า เอาเด่นกว่าใคร)
มานะ-ถือตัว ถือตน
ถัมภะ-ดื้อ ด้าน
อติมานะ-ดูถูก ดูหมิ่น ดูแคลนคนอื่น
อิสสา-อิจฉาริษยาผู้อื่น ไม่อยากเห็นคนอื่นได้ดี

2.กิเลสชั้นกลาง(อนุสัย 7-นอนนิ่งอยู่ในใจ พุ่งหรือฟุ้งขึ้นมาบางขณะตามเหตุปัจจัย)....
ทิฏฐิ-ความเห็นผิด(เห็นผิดเป็นถูก เห็นถูกเป็นผิด)
มานะ-ถือตัว ถือตน ไม่เห็นคนอื่นอยู่ในสายตา
ภวราคะ-อยากได้ อยากมี อยากเป็น(อยากให้คนอื่นยกย่อง เชิดชู ให้เกียรติ เห็นว่าตนดี ตนเด่น)
อวิชชา-ความไม่รู้จริง บรมโง่

3.กิเลสชั้นละเอียด(สังโยชน์ 10-ทำให้จิตไม่หลุดพ้น)....
สักกายทิฏฐิ-ติดอัตตา ตัวตน อีโก้สูง ประมาทหลงเมาตนเอง
มานะ-ถือตัว ถือตน
อวิชชา-ความไม่รู้จริง บรมโง่......

- ผู้ปฏิบัติธรรม จำนวนไม่น้อยติดหลงอยู่กับกิเลสอวิชชาเหล่านี้ คิดว่าตัวเองบรรลุธรรมแล้ว ดีแล้ว ดีกว่าคนอื่นๆ การแสดงตัวว่ารู้ทั้งๆที่ไม่รู้จริง ก็เป็นการบ่งบอกให้คนอื่นรู้ได้ในที่สุดเองว่า ตนเองเป็นอย่างไร หรือดีแค่ไหน ดังนั้น ผู้รู้จริง เขาจึงไม่โอ่อวด แสดงตนว่ารู้มาก และไม่ตำหนิติเตียนผู้อื่น หากแต่เข้าใจและสงสาร ช่วยได้ท่านก้ช่วย ช่วยไม่ได้ ท่านก็ปล่อยไปตามเรื่องของแต่ละคน

- คนสูง (คนดีจริง) ทำตัวต่ำ (สามัญธรรมดา สมถะ เรียบง่าย ไม่ถือตัว) แต่คนต่ำ (คนชั่ว คนไม่ดีจริง) ทำตัวสูง พยายามยืดชูคอให้สูงกว่าปกติธรรมดาเข้าไว้ อวดเบ่ง อวดเก่ง คุยโม้โอ่อวด ทั้งๆที่ไม่มีดีจะอวด นอกจากความโง่ของตนเท่านั้นเอง

- ในข้อนี้จะเรียนให้ท่านทั้งหลายทราบพอเป็นคติเล็กน้อย สำหรับท่านผู้กำลังประพฤติปฏิบัติธรรมภายในใจอยู่ และอาจมีกรุ่นๆ หรือปริ่มๆ อยู่บ้างภายในใจ ในเมื่อมีโอกาสอาจระบายหรือประกาศโฆษณาออกได้ โดยไม่มีความกระดากอายว่าใครจะตำหนิติเตียนอย่างใดบ้าง เพราะความอยากดังอยากเด่นอันเป็นเรื่องของกิเลสมันผลักดัน จึงขอนำคติของปราชญ์ ที่ท่านทำตามหลักที่พระพุทธเจ้าพาดำเนินมาแสดงเป็นทัศนคติบ้าง เช่น พระอัสสชิได้บรรลุเป็นพระอรหันต์ทั้งองค์ ในจำนวนปัญจวัคคีย์ทั้งห้าที่เป็นปฐมสาวกของพระพุทธเจ้า มีพระอัญญาโกณฑัญญะเป็นต้น พระอัสสชิเป็นองค์ที่ห้า ท่านบรรลุธรรมแล้ว

- ตอนนั้นท่านอุปติสสะ คือ พระสารีบุตรที่เป็นพระอัครสาวกข้างขวาของพระพุทธเจ้านั่นเอง แต่ก่อนที่ท่านยังไม่ได้เป็นพระสาวกท่านกำลังออกบวชในสำนักปริพาชก บำเพ็ญไปตามประเพณีของคนสมัยนั้น เวลามาเห็นพระอัสสชิที่มีความสวยงามมากด้วยกิริยามารยาท ก้าวหน้า ถอยกลับ เหลือบซ้าย แลขวา เป็นผู้มีอากัปกิริยาที่สำรวมน่าเคารพเลื่อมใสมาก จึงพยายามแอบด้อมตามหลังท่านไป พอพ้นจากหมู่บ้าน ก็เรียนถามสำนักที่อยู่อาศัยของอุปัชฌาย์อาจารย์ของท่าน ท่านก็พูดให้ฟังเพียงย่อ ๆ เกี่ยวกับเรื่องธรรมของศาสดาหรือครูอาจารย์ท่านสอนอย่างไร ท่านว่า “เราไม่มีความรู้อันกว้างขวาง จะแสดงให้ท่านฟังได้เพียงย่อ ๆ เท่านั้น “เย ธมฺมา เหตุปฺปภวา” เป็นต้น “ธรรมทั้งหลายเกิดจากเหตุ เมื่อดับก็ต้องดับเหตุก่อน” พระพุทธเจ้าท่านสอนอย่างนี้” เพียงเท่านี้พระสารีบุตรที่เป็นปริพาชกท่านได้บรรลุพระโสดาขึ้นทันที

- ส่วนพระอัสสชิผู้เป็นอาจารย์นั้น ท่านหาได้ประกาศตนไม่ว่าท่านเป็นพระอรหันต์องค์หนึ่ง ท่านไม่ปริปากพูดเลย ส่วนพระสารีบุตรอาจทราบภูมิธรรมท่านได้ในขณะที่ได้ฟังธรรมย่อ เพราะภูมิพระโสดาปัตติมรรค โสดาปัตติผลนี้ สามารถจะหยั่งทราบความจริงของท่านที่มีภูมิสูงกว่าตนได้ จึงสามารถสอนธรรมประเภทอัศจรรย์ไม่เคยฟังให้แก่ตนจนได้บรรลุ แต่ไม่ปรากฏในตำนานว่าพระสารีบุตรท่านได้ทราบจากพระอัสสชิเล่าให้ฟังว่าท่านเป็นพระอรหันต์ เพราะพระอัสสชิไม่ได้แสดงตัวออกมาว่าท่านเป็นพระอรหันต์ นี่ข้อหนึ่งเป็นเครื่องสาธกพอหยิบยกเทิดทูน


 :VOV: ที่มา
ในหนังสือ พระอาจารย์มหาบัว ญาณสัมปันโน



หัวข้อ: Re: ความอวดดี อวดเด่น อวดรู้ อวดฉลาด ....ไม่ทำให้ชีวิตดีขึ้น
เริ่มหัวข้อโดย: somsakbck ที่ กรกฎาคม 26, 2009, 02:46:07 PM
ติดตามอ่านกระทู้ท่านวัฒน์มาตลอด...เหมือนได้อยู่ใกล้วัดตลอดเหมือนกัน..แฮ่..อยากอ่านอีกครับ


หัวข้อ: Re: ความอวดดี อวดเด่น อวดรู้ อวดฉลาด ....ไม่ทำให้ชีวิตดีขึ้น
เริ่มหัวข้อโดย: Ferocious ที่ กรกฎาคม 26, 2009, 02:58:38 PM
ผมไม่ชอบ ท่าน วัฒน์ เลยครับ


ไม่มีความมั่นคงในตัวตนของตัวเอง


เดี๋ยวก็เป็นอาจารย์ เดี๋ยวก็เป็นหมอ เดี๋ยวก็เป็นมหา  ::005:: ::005::



พรุ่งนี้ จะเป็นอะไรอีกครับ อิอิ


ผมล้อเล่นนะครับพี่ ผมอ่านกระทู้พี่ได้ความรู้เยอะมาก อ่านประจำครับ แต่ไม่ค่อยได้แสดงความเห็น


หัวข้อ: Re: ความอวดดี อวดเด่น อวดรู้ อวดฉลาด ....ไม่ทำให้ชีวิตดีขึ้น
เริ่มหัวข้อโดย: Ferocious ที่ กรกฎาคม 26, 2009, 03:02:12 PM
ออ มีอีกครับ กระทู้ที่พี่บอกว่า ไร้สาระไปวันๆ นี้ บางกระทู้ สาระเยอะเป็นประโยค สุดๆ


หัวข้อ: Re: ความอวดดี อวดเด่น อวดรู้ อวดฉลาด ....ไม่ทำให้ชีวิตดีขึ้น
เริ่มหัวข้อโดย: Southlander ที่ กรกฎาคม 26, 2009, 03:03:29 PM
สาธุ












คนต่อไปห้ามตอบว่า---ประดิษฐ์    ลงไป.....มีเคือง


หัวข้อ: Re: ความอวดดี อวดเด่น อวดรู้ อวดฉลาด ....ไม่ทำให้ชีวิตดีขึ้น
เริ่มหัวข้อโดย: Ro@d - รักในหลวง ที่ กรกฎาคม 26, 2009, 03:09:54 PM
ผมเชื่อถือ ในแนวทางของพุทธศาสนา.. ของท่านมหาบัว เป็นทางเดียวกับวิทยาศาตร์  ::014::

จับต้องสัมผัสได้จริง และผมแยก ความเชื่อทางพรหมณ์นั้นเป็นเรื่องของ พิธีกรรม 
และทางฮินดู ที่เจือความเชื่อ.. อยู่ในเรื่องของเทพเจ้า ออกไป เสีย.  ::014::


หัวข้อ: Re: ความอวดดี อวดเด่น อวดรู้ อวดฉลาด ....ไม่ทำให้ชีวิตดีขึ้น
เริ่มหัวข้อโดย: วัฒน์ ที่ กรกฎาคม 26, 2009, 03:13:17 PM
ติดตามอ่านกระทู้ท่านวัฒน์มาตลอด...เหมือนได้อยู่ใกล้วัดตลอดเหมือนกัน..แฮ่..อยากอ่านอีกครับ

 ::014:: ขอบคุณครับ



ผมไม่ชอบ ท่าน วัฒน์ เลยครับ
ไม่มีความมั่นคงในตัวตนของตัวเอง
เดี๋ยวก็เป็นอาจารย์ เดี๋ยวก็เป็นหมอ เดี๋ยวก็เป็นมหา  ::005:: ::005::
พรุ่งนี้ จะเป็นอะไรอีกครับ อิอิ
ผมล้อเล่นนะครับพี่ ผมอ่านกระทู้พี่ได้ความรู้เยอะมาก อ่านประจำครับ แต่ไม่ค่อยได้แสดงความเห็น

 ::014:: ขอบคุณครับ

- เป็นอาจารย์ ไม่ได้ครับ ความรู้ยังน้อย

- เป็นหมอ ก้อไม่ได้เหมือนกัน

- เป็นมหา อันนี้ไม่มีทางเลยครับ โลภะยังมีเยอะ โมหะยังมีมาก โทสะยังตัดไม่ขาด

 :VOV: วันนี้เป็นตัวของตัวเองครับ แต่พรุ่งนี้อยากเป็นที่รักของทุกๆ คน  


 :) อ่านประจำ แสดงความเห็นบ่อยๆ นะครับ แลกเปลี่ยนประสบการณ์ และความรู้กัน อีกประเด็นผมชอบให้เพื่อนสมาชิกมีส่วนร่วมแสดงความเห็น มีกิจกรรมร่วมๆ กัน เช่น กระทู้ที่มีการทายปัญหา อ่านอย่างเดียวเหมือนกับผมบ่น พร่ำเพื่อ  ผมเหมือนคนแก่  ::005::


หัวข้อ: Re: ความอวดดี อวดเด่น อวดรู้ อวดฉลาด ....ไม่ทำให้ชีวิตดีขึ้น
เริ่มหัวข้อโดย: Ro@d - รักในหลวง ที่ กรกฎาคม 26, 2009, 03:18:51 PM
ติดตามอ่านกระทู้ท่านวัฒน์มาตลอด...เหมือนได้อยู่ใกล้วัดตลอดเหมือนกัน..แฮ่..อยากอ่านอีกครับ

 ::014:: ขอบคุณครับ



ผมไม่ชอบ ท่าน วัฒน์ เลยครับ
ไม่มีความมั่นคงในตัวตนของตัวเอง
เดี๋ยวก็เป็นอาจารย์ เดี๋ยวก็เป็นหมอ เดี๋ยวก็เป็นมหา  ::005:: ::005::
พรุ่งนี้ จะเป็นอะไรอีกครับ อิอิ
ผมล้อเล่นนะครับพี่ ผมอ่านกระทู้พี่ได้ความรู้เยอะมาก อ่านประจำครับ แต่ไม่ค่อยได้แสดงความเห็น

 ::014:: ขอบคุณครับ

- เป็นอาจารย์ ไม่ได้ครับ ความรู้ยังน้อย

- เป็นหมอ ก้อไม่ได้เหมือนกัน

- เป็นมหา อันนี้ไม่มีทางเลยครับ โลภะยังมีเยอะ โมหะยังมีมาก โทสะยังตัดไม่ขาด

 :VOV: วันนี้เป็นตัวของตัวเองครับ แต่พรุ่งนี้อยากเป็นที่รักของทุกๆ คน  


ตรงแถบสีเขียว นี้แหละครับ เมื่อเป็นการสร้างสรรค์ เป็นด้านบวก ที่พึงกระทำอยู่

จะเกิดเป็น"เหตุ"  ให้เกิด"ผล" ของสีแดง ที่จะตามมาครับ.  ::002::


หัวข้อ: Re: ความอวดดี อวดเด่น อวดรู้ อวดฉลาด ....ไม่ทำให้ชีวิตดีขึ้น
เริ่มหัวข้อโดย: วัฒน์ ที่ กรกฎาคม 26, 2009, 03:28:59 PM

ตรงแถบสีเขียว นี้แหละครับ เมื่อเป็นการสร้างสรรค์ เป็นด้านบวก ที่พึงกระทำอยู่

จะเกิดเป็น"เหตุ"  ให้เกิด"ผล" ของสีแดง ที่จะตามมาครับ.  ::002::[/color]

 ::014:: ขอบคุณครับพี่ จะยึดถือเป็นแนวทางปฏิบัติตน


หัวข้อ: Re: ความอวดดี อวดเด่น อวดรู้ อวดฉลาด ....ไม่ทำให้ชีวิตดีขึ้น
เริ่มหัวข้อโดย: วัฒน์ ที่ กรกฎาคม 26, 2009, 03:34:43 PM
สาธุ

คนต่อไปห้ามตอบว่า---ประดิษฐ์    ลงไป.....มีเคือง

 ::014:: ถนนสาธุประดิษฐ์ กำเนิดจาก นายต่วน สาธุ เป็นผู้ก่อสร้างถนนสาธุ (จึงได้ชื่อว่าสาธุประดิษฐ์) ท่านได้สร้างถนน ด้วยความมุมานะอย่างสูงที่จะพัฒนาการเดินทางแก่ชาวบ้านที่อาศัยในสวน เลียบแม่น้ำให้มีถนนออกสู่ถนนเจริญกรุงให้ได้ เพื่อให้ความเจริญเข้าถึงให้ได้ โดยท่านคุณต่วน ได้บริจาคที่ดินตลอดที่ท่านมีอยู่จากสะพาน 4 ไปถึง ท่าน้ำสาธุ เท่าที่ท่านมี บางที่ดินที่เป็นของคนอื่น ท่านก็เอาที่ดินที่อื่นที่ท่านมีไปขายเอาเงินมาซื้อที่ ทางผ่านทำถนนให้ต่อกันให้ได้ โดยจ้างคนจีนสมัยนั้นช่วยสร้างค่าแรงวันละ 10 สตางค์ ต่อคน ช่วยกันขนดินมาทำถนน ยืนต่อแถวเอาดินใส่บุ้งกี่ทะยอยส่งต่อๆ กัน วันนึงต้องใช้จ่ายสตางค์เยอะมาก แต่ความพยายาม และปณิธาน อันแรงกล้าที่จะทำความสะดวกให้แก่มหาชนส่วนรวม ท่านจึงทำทุกอย่างให้สำเร็จให้จงได้ จนได้ความเจริญมาถึงทุกวันนี้


หัวข้อ: Re: ความอวดดี อวดเด่น อวดรู้ อวดฉลาด ....ไม่ทำให้ชีวิตดีขึ้น
เริ่มหัวข้อโดย: somsakbck ที่ กรกฎาคม 26, 2009, 03:52:01 PM
อ่านข้อเขียนของท่านวัฒน์แล้วได้ความรู้มากขึ้น..ขอให้ท่านวัฒน์เป็นที่รักของทุกคนตลอดไปครับ....


หัวข้อ: Re: ความอวดดี อวดเด่น อวดรู้ อวดฉลาด ....ไม่ทำให้ชีวิตดีขึ้น
เริ่มหัวข้อโดย: Southlander ที่ กรกฎาคม 26, 2009, 03:55:08 PM
สาธุ

คนต่อไปห้ามตอบว่า---ประดิษฐ์    ลงไป.....มีเคือง

 ::014:: ถนนสาธุประดิษฐ์ กำเนิดจาก นายต่วน สาธุ เป็นผู้ก่อสร้างถนนสาธุ (จึงได้ชื่อว่าสาธุประดิษฐ์) ท่านได้สร้างถนน ด้วยความมุมานะอย่างสูงที่จะพัฒนาการเดินทางแก่ชาวบ้านที่อาศัยในสวน เลียบแม่น้ำให้มีถนนออกสู่ถนนเจริญกรุงให้ได้ เพื่อให้ความเจริญเข้าถึงให้ได้ โดยท่านคุณต่วน ได้บริจาคที่ดินตลอดที่ท่านมีอยู่จากสะพาน 4 ไปถึง ท่าน้ำสาธุ เท่าที่ท่านมี บางที่ดินที่เป็นของคนอื่น ท่านก็เอาที่ดินที่อื่นที่ท่านมีไปขายเอาเงินมาซื้อที่ ทางผ่านทำถนนให้ต่อกันให้ได้ โดยจ้างคนจีนสมัยนั้นช่วยสร้างค่าแรงวันละ 10 สตางค์ ต่อคน ช่วยกันขนดินมาทำถนน ยืนต่อแถวเอาดินใส่บุ้งกี่ทะยอยส่งต่อๆ กัน วันนึงต้องใช้จ่ายสตางค์เยอะมาก แต่ความพยายาม และปณิธาน อันแรงกล้าที่จะทำความสะดวกให้แก่มหาชนส่วนรวม ท่านจึงทำทุกอย่างให้สำเร็จให้จงได้ จนได้ความเจริญมาถึงทุกวันนี้

  โห...สุดยอดครับพี่วัฒน์พูดถึงอะไรรู้หมดเลย วันนี้กดคะแนนจนเต็มแม็กแล้ว


หัวข้อ: Re: ความอวดดี อวดเด่น อวดรู้ อวดฉลาด ....ไม่ทำให้ชีวิตดีขึ้น
เริ่มหัวข้อโดย: PU45™ ที่ กรกฎาคม 26, 2009, 04:14:24 PM

       ขอบคุณครับ



หัวข้อ: Re: ความอวดดี อวดเด่น อวดรู้ อวดฉลาด ....ไม่ทำให้ชีวิตดีขึ้น
เริ่มหัวข้อโดย: birdwhistle...รักในหลวง ที่ กรกฎาคม 26, 2009, 04:31:42 PM
สมัยยังเรียนชั้น ป.6 - ม.ศ.3 ที่ พ.ม.ช. ตอนกลับบ้านเดินย้อนไปราว 2-3 ป้ายรถเมล์เพื่อดักรถที่ว่างกว่าโดยรอรถสาย 35(สมัยยังอยู่ตรงข้ามไปรษณีย์กลาง) และสาย 62 (เมื่อย้ายไปอยู่สุขุมวิทซอย 1) ก็มายืนรอรถตรงอนุสาวรีย์ นายต่วน สาธุ นี่แหละครับ พอจำได้แต่ว่า สร้างราวปี สองพันสี่ร้อยหกสิบกว่า แต่จำไม่ได้ว่า หกสิบเท่าไหร่ 

ที่จริงผมเพิ่งจบ ม.ศ.3 มาเพียง 36 ปีกว่า ๆ  ไม่น่าลืมเลย
 
ปัจจุบันไม่รู้ยังอยู่หรือเปล่า


หัวข้อ: Re: ความอวดดี อวดเด่น อวดรู้ อวดฉลาด ....ไม่ทำให้ชีวิตดีขึ้น
เริ่มหัวข้อโดย: ชยันโต ที่ กรกฎาคม 26, 2009, 07:11:14 PM
 ::014:: :D ;)


หัวข้อ: Re: ความอวดดี อวดเด่น อวดรู้ อวดฉลาด ....ไม่ทำให้ชีวิตดีขึ้น
เริ่มหัวข้อโดย: ~ Sitthipong - รักในหลวง ~ ที่ กรกฎาคม 26, 2009, 07:39:15 PM
ขอบคุณครับ  ::014::


หัวข้อ: Re: ความอวดดี อวดเด่น อวดรู้ อวดฉลาด ....ไม่ทำให้ชีวิตดีขึ้น
เริ่มหัวข้อโดย: Middle ที่ กรกฎาคม 26, 2009, 09:21:38 PM
ดีครับ ขอบคุณครับ... ::014::


หัวข้อ: Re: ความอวดดี อวดเด่น อวดรู้ อวดฉลาด ....ไม่ทำให้ชีวิตดีขึ้น
เริ่มหัวข้อโดย: pk...รักในหลวง... ที่ กรกฎาคม 26, 2009, 09:43:42 PM
:) ความอวดดี อวดเด่น อวดรู้ อวดฉลาด ถือเป็นกิเลส จะพาชีวิตตกต่ำ ไม่เกิดประโยชน์แต่อย่างใด

ต้นตอรากเหง้าของกิเลสตัวนี้ คือ อวิชชา-ความไม่รู้จริง หรือความบรมโง่ ก็ได้ เกี่ยวพันกับกิเลสหลายตัวมาก เพราะมีหลายระดับ หลายชั้น ตั้งแต่ชั้นหยาบๆ -ชั้นกลางๆ-และชั้นละเอียด่ คละเคล้าปะปนกันอยู่มากบ้างน้อยบ้างตามส่วน เช่น

1.กิเลสหยาบ-ชั้นนอก(อุปกิเลส 16)....
ปลาสะ-ตีเสมอ (เข้าทำนองอวดเด่น อวดรู้ อวดฉลาดเท่าเทียมกับผู้ที่เหนือกว่า)
สารัมภะ-แข่งดี แย่งดี(ประเภทหน้าใหญ่ใจโต ทำบุญเอาหน้า เอาเด่นกว่าใคร)
มานะ-ถือตัว ถือตน
ถัมภะ-ดื้อ ด้าน
อติมานะ-ดูถูก ดูหมิ่น ดูแคลนคนอื่น
อิสสา-อิจฉาริษยาผู้อื่น ไม่อยากเห็นคนอื่นได้ดี

2.กิเลสชั้นกลาง(อนุสัย 7-นอนนิ่งอยู่ในใจ พุ่งหรือฟุ้งขึ้นมาบางขณะตามเหตุปัจจัย)....
ทิฏฐิ-ความเห็นผิด(เห็นผิดเป็นถูก เห็นถูกเป็นผิด)
มานะ-ถือตัว ถือตน ไม่เห็นคนอื่นอยู่ในสายตา
ภวราคะ-อยากได้ อยากมี อยากเป็น(อยากให้คนอื่นยกย่อง เชิดชู ให้เกียรติ เห็นว่าตนดี ตนเด่น)
อวิชชา-ความไม่รู้จริง บรมโง่

3.กิเลสชั้นละเอียด(สังโยชน์ 10-ทำให้จิตไม่หลุดพ้น)....
สักกายทิฏฐิ-ติดอัตตา ตัวตน อีโก้สูง ประมาทหลงเมาตนเอง
มานะ-ถือตัว ถือตน
อวิชชา-ความไม่รู้จริง บรมโง่......

- ผู้ปฏิบัติธรรม จำนวนไม่น้อยติดหลงอยู่กับกิเลสอวิชชาเหล่านี้ คิดว่าตัวเองบรรลุธรรมแล้ว ดีแล้ว ดีกว่าคนอื่นๆ การแสดงตัวว่ารู้ทั้งๆที่ไม่รู้จริง ก็เป็นการบ่งบอกให้คนอื่นรู้ได้ในที่สุดเองว่า ตนเองเป็นอย่างไร หรือดีแค่ไหน ดังนั้น ผู้รู้จริง เขาจึงไม่โอ่อวด แสดงตนว่ารู้มาก และไม่ตำหนิติเตียนผู้อื่น หากแต่เข้าใจและสงสาร ช่วยได้ท่านก้ช่วย ช่วยไม่ได้ ท่านก็ปล่อยไปตามเรื่องของแต่ละคน

- คนสูง (คนดีจริง) ทำตัวต่ำ (สามัญธรรมดา สมถะ เรียบง่าย ไม่ถือตัว) แต่คนต่ำ (คนชั่ว คนไม่ดีจริง) ทำตัวสูง พยายามยืดชูคอให้สูงกว่าปกติธรรมดาเข้าไว้ อวดเบ่ง อวดเก่ง คุยโม้โอ่อวด ทั้งๆที่ไม่มีดีจะอวด นอกจากความโง่ของตนเท่านั้นเอง

- ในข้อนี้จะเรียนให้ท่านทั้งหลายทราบพอเป็นคติเล็กน้อย สำหรับท่านผู้กำลังประพฤติปฏิบัติธรรมภายในใจอยู่ และอาจมีกรุ่นๆ หรือปริ่มๆ อยู่บ้างภายในใจ ในเมื่อมีโอกาสอาจระบายหรือประกาศโฆษณาออกได้ โดยไม่มีความกระดากอายว่าใครจะตำหนิติเตียนอย่างใดบ้าง เพราะความอยากดังอยากเด่นอันเป็นเรื่องของกิเลสมันผลักดัน จึงขอนำคติของปราชญ์ ที่ท่านทำตามหลักที่พระพุทธเจ้าพาดำเนินมาแสดงเป็นทัศนคติบ้าง เช่น พระอัสสชิได้บรรลุเป็นพระอรหันต์ทั้งองค์ ในจำนวนปัญจวัคคีย์ทั้งห้าที่เป็นปฐมสาวกของพระพุทธเจ้า มีพระอัญญาโกณฑัญญะเป็นต้น พระอัสสชิเป็นองค์ที่ห้า ท่านบรรลุธรรมแล้ว

- ตอนนั้นท่านอุปติสสะ คือ พระสารีบุตรที่เป็นพระอัครสาวกข้างขวาของพระพุทธเจ้านั่นเอง แต่ก่อนที่ท่านยังไม่ได้เป็นพระสาวกท่านกำลังออกบวชในสำนักปริพาชก บำเพ็ญไปตามประเพณีของคนสมัยนั้น เวลามาเห็นพระอัสสชิที่มีความสวยงามมากด้วยกิริยามารยาท ก้าวหน้า ถอยกลับ เหลือบซ้าย แลขวา เป็นผู้มีอากัปกิริยาที่สำรวมน่าเคารพเลื่อมใสมาก จึงพยายามแอบด้อมตามหลังท่านไป พอพ้นจากหมู่บ้าน ก็เรียนถามสำนักที่อยู่อาศัยของอุปัชฌาย์อาจารย์ของท่าน ท่านก็พูดให้ฟังเพียงย่อ ๆ เกี่ยวกับเรื่องธรรมของศาสดาหรือครูอาจารย์ท่านสอนอย่างไร ท่านว่า “เราไม่มีความรู้อันกว้างขวาง จะแสดงให้ท่านฟังได้เพียงย่อ ๆ เท่านั้น “เย ธมฺมา เหตุปฺปภวา” เป็นต้น “ธรรมทั้งหลายเกิดจากเหตุ เมื่อดับก็ต้องดับเหตุก่อน” พระพุทธเจ้าท่านสอนอย่างนี้” เพียงเท่านี้พระสารีบุตรที่เป็นปริพาชกท่านได้บรรลุพระโสดาขึ้นทันที

- ส่วนพระอัสสชิผู้เป็นอาจารย์นั้น ท่านหาได้ประกาศตนไม่ว่าท่านเป็นพระอรหันต์องค์หนึ่ง ท่านไม่ปริปากพูดเลย ส่วนพระสารีบุตรอาจทราบภูมิธรรมท่านได้ในขณะที่ได้ฟังธรรมย่อ เพราะภูมิพระโสดาปัตติมรรค โสดาปัตติผลนี้ สามารถจะหยั่งทราบความจริงของท่านที่มีภูมิสูงกว่าตนได้ จึงสามารถสอนธรรมประเภทอัศจรรย์ไม่เคยฟังให้แก่ตนจนได้บรรลุ แต่ไม่ปรากฏในตำนานว่าพระสารีบุตรท่านได้ทราบจากพระอัสสชิเล่าให้ฟังว่าท่านเป็นพระอรหันต์ เพราะพระอัสสชิไม่ได้แสดงตัวออกมาว่าท่านเป็นพระอรหันต์ นี่ข้อหนึ่งเป็นเครื่องสาธกพอหยิบยกเทิดทูน


 :VOV: ที่มา
ในหนังสือ พระอาจารย์มหาบัว ญาณสัมปันโน


::014::ขอบคุณที่นำมาให้อ่านครับคุณวัฒน์ สาธุครับ ::014::


หัวข้อ: Re: ความอวดดี อวดเด่น อวดรู้ อวดฉลาด ....ไม่ทำให้ชีวิตดีขึ้น
เริ่มหัวข้อโดย: pk...รักในหลวง... ที่ กรกฎาคม 26, 2009, 09:52:08 PM
ผมเชื่อถือ ในแนวทางของพุทธศาสนา.. ของท่านมหาบัว เป็นทางเดียวกับวิทยาศาตร์  ::014::

จับต้องสัมผัสได้จริง และผมแยก ความเชื่อทางพรหมณ์นั้นเป็นเรื่องของ พิธีกรรม 
และทางฮินดู ที่เจือความเชื่อ.. อยู่ในเรื่องของเทพเจ้า ออกไป เสีย.  ::014::
ขออนุญาตพี่ Ro@d แนะนำแนวทางของพระเดชพระคุณหลวงพ่อจรัญ ฐิตธัมโม
วัดอัมพวัน จังหวัดสิงห์บุรี เป็นอีกแนวทางนึงครับ.


หัวข้อ: Re: ความอวดดี อวดเด่น อวดรู้ อวดฉลาด ....ไม่ทำให้ชีวิตดีขึ้น
เริ่มหัวข้อโดย: som36 ที่ กรกฎาคม 26, 2009, 10:08:33 PM
ขอบคุณครับ


หัวข้อ: Re: ความอวดดี อวดเด่น อวดรู้ อวดฉลาด ....ไม่ทำให้ชีวิตดีขึ้น
เริ่มหัวข้อโดย: indojeen@รักในหลวง ที่ กรกฎาคม 26, 2009, 10:11:17 PM
เป็นคำสอนที่เรียบง่าย  และได้ใจความครับพี่วัฒน์


เคยฟังหลวงตาพูดถึงคนคนหนึ่งไว้  ได้ใจความ

และเป็นจริงดังกะตาเห็นจริง ๆ ::014::


หัวข้อ: Re: ความอวดดี อวดเด่น อวดรู้ อวดฉลาด ....ไม่ทำให้ชีวิตดีขึ้น
เริ่มหัวข้อโดย: Ro@d - รักในหลวง ที่ กรกฎาคม 26, 2009, 11:13:56 PM
ผมเชื่อถือ ในแนวทางของพุทธศาสนา.. ของท่านมหาบัว เป็นทางเดียวกับวิทยาศาตร์  ::014::

จับต้องสัมผัสได้จริง และผมแยก ความเชื่อทางพรหมณ์นั้นเป็นเรื่องของ พิธีกรรม 
และทางฮินดู ที่เจือความเชื่อ.. อยู่ในเรื่องของเทพเจ้า ออกไป เสีย.  ::014::
ขออนุญาตพี่ Ro@d แนะนำแนวทางของพระเดชพระคุณหลวงพ่อจรัญ ฐิตธัมโม
วัดอัมพวัน จังหวัดสิงห์บุรี เป็นอีกแนวทางนึงครับ.


ขอบคุณมากครับ คุณ pk-cz.. วัดอัมพวัน สิงห์บุรี อยู่ตรง ด่านเก็บเงินที่ถูกยกเลิกไป ..  :D


หัวข้อ: Re: ความอวดดี อวดเด่น อวดรู้ อวดฉลาด ....ไม่ทำให้ชีวิตดีขึ้น
เริ่มหัวข้อโดย: ดิ โอลดิ์ สยาม ที่ กรกฎาคม 26, 2009, 11:24:18 PM
 ::014:: ::014:: ::014:: ขอบคุณ จขกท. ครับ ที่นำสิ่งดีๆมาฝาก ::002:: ::002:: ::002::


หัวข้อ: Re: ความอวดดี อวดเด่น อวดรู้ อวดฉลาด ....ไม่ทำให้ชีวิตดีขึ้น
เริ่มหัวข้อโดย: Twitter 125 ที่ กรกฎาคม 27, 2009, 08:03:43 AM
สาธุ อนุโมทนาด้วยครับ  ::014::


หัวข้อ: Re: ความอวดดี อวดเด่น อวดรู้ อวดฉลาด ....ไม่ทำให้ชีวิตดีขึ้น
เริ่มหัวข้อโดย: submachine -รักในหลวง- ที่ กรกฎาคม 27, 2009, 11:03:14 AM
หลวงตาบัว กะท่าน ว.วชิรเมธี (ไม่แน่ใจเขียนถูกหรือไม่)
ผมชอบอ่าน/ฟัง/ดู เพราะได้ตรวจสอบตัวเองไปด้วย

รู้เลยว่าจุดบกพร่องของตัวเองเยอะเเยะไปหมด

แต่ก่อนชอบท่านพุทธทาสภิกขุ (ก่อนละสังขาร) มีทั้งหนังสือที่อ่านง่ายๆพื้นๆ จนถึงหนึงสือที่เหมาะกับคนที่ศึกษาขั้นสูง
ตอนบวชผมเคยจับเล่มหนึ่งของท่านพุทธทาส(จำชื่อหนังสือไม่ได้)  ยืมพระที่วัดมาอ่าน1สัปดาห์ เจ้าของหนังสือมาถามว่า
เป็นไงบ้างอ่านแล้วได้อะไรเยอะไหม  ผมตอบตรงๆว่า ไม่รู้เรื่องเลยครับ   กะว่าโดนเทศนาแน่ๆ 
แต่เจ้าของหนังสือ หัวเราะหึๆ แล้วบอก คุณจะอ่านรู้เรื่องได้ยังไง  ผมบวชมา5ปี ยังอ่านไม่รู้เรื่องเลย 
แล้วท่านก็ให้หนังสืออีกเล่ม....อืม.ม.ม..อ่านง่ายกว่าเยอะ 

ลาสิกขาออกมา รู้เลยว่า เป็นชาวพุทธ ที่เข้าถึงพุทธจริงๆ ไม่ง่ายอยางที่คิด แต่หากเอาแนวทางความคิดของพุทธ
มาครองเรือนเฉกเช่น ฆราวาสทั่วไป ค่อนข้างง่ายกว่า



หัวข้อ: Re: ความอวดดี อวดเด่น อวดรู้ อวดฉลาด ....ไม่ทำให้ชีวิตดีขึ้น
เริ่มหัวข้อโดย: somsakbck ที่ กรกฎาคม 27, 2009, 02:57:07 PM
อัลเบริ์ต ไอสไตร์ เคยกล่าวว่า หากจะถามว่าศาสนาใดป็นวิทยาศาสตร์ที่สุดแล้ว ถือว่าศาสนาพุทธเป็นศาสนาที่เป็นวิทยาศาสตร์ที่สุดในโลก ผมเห็นด้วยครับ อย่างที่ว่า ..ทำดีได้ดี..ทำชั่วได้ชั่ว...ก็เป็นไปตามกฎของนิวตันที่ว่า action=reaction ทำดีไปก็ต้องได้รับผลดีกลับมา ไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง....


หัวข้อ: Re: ความอวดดี อวดเด่น อวดรู้ อวดฉลาด ....ไม่ทำให้ชีวิตดีขึ้น
เริ่มหัวข้อโดย: Udomkd ที่ กรกฎาคม 27, 2009, 04:31:13 PM
ติดตามอ่านกระทู้ท่านวัฒน์มาตลอด...เหมือนได้อยู่ใกล้วัดตลอดเหมือนกัน..แฮ่..อยากอ่านอีกครับ

 ::014:: ขอบคุณครับ



ผมไม่ชอบ ท่าน วัฒน์ เลยครับ
ไม่มีความมั่นคงในตัวตนของตัวเอง
เดี๋ยวก็เป็นอาจารย์ เดี๋ยวก็เป็นหมอ เดี๋ยวก็เป็นมหา  ::005:: ::005::
พรุ่งนี้ จะเป็นอะไรอีกครับ อิอิ
ผมล้อเล่นนะครับพี่ ผมอ่านกระทู้พี่ได้ความรู้เยอะมาก อ่านประจำครับ แต่ไม่ค่อยได้แสดงความเห็น

 ::014:: ขอบคุณครับ

- เป็นอาจารย์ ไม่ได้ครับ ความรู้ยังน้อย

- เป็นหมอ ก้อไม่ได้เหมือนกัน

- เป็นมหา อันนี้ไม่มีทางเลยครับ โลภะยังมีเยอะ โมหะยังมีมาก โทสะยังตัดไม่ขาด

 :VOV: วันนี้เป็นตัวของตัวเองครับ แต่พรุ่งนี้อยากเป็นที่รักของทุกๆ คน  


 :) อ่านประจำ แสดงความเห็นบ่อยๆ นะครับ แลกเปลี่ยนประสบการณ์ และความรู้กัน อีกประเด็นผมชอบให้เพื่อนสมาชิกมีส่วนร่วมแสดงความเห็น มีกิจกรรมร่วมๆ กัน เช่น กระทู้ที่มีการทายปัญหา อ่านอย่างเดียวเหมือนกับผมบ่น พร่ำเพื่อ  ผมเหมือนคนแก่  ::005::

บ่นไปเหอะครับ ผมก็ชอบเข้ามาเปิดดู เมื่อเห็นชื่อพี่ตั้งกระทู้ขึ้นมา

ยอกันต่อหน้านี่แหละครับ

ขอบคุณครับ


หัวข้อ: Re: ความอวดดี อวดเด่น อวดรู้ อวดฉลาด ....ไม่ทำให้ชีวิตดีขึ้น
เริ่มหัวข้อโดย: wut_highways ที่ กรกฎาคม 27, 2009, 09:38:48 PM
ขอบพระคุณครับ สำหรับสาระดี ๆ ที่นำมาให้อ่าน


หัวข้อ: Re: ความอวดดี อวดเด่น อวดรู้ อวดฉลาด ....ไม่ทำให้ชีวิตดีขึ้น
เริ่มหัวข้อโดย: ไพโรจน์ ที่ กรกฎาคม 27, 2009, 10:24:43 PM
ชอบครับ  เอามาคุยบ่อย ๆ นะครับคุณวัฒน์ 


หัวข้อ: Re: ความอวดดี อวดเด่น อวดรู้ อวดฉลาด ....ไม่ทำให้ชีวิตดีขึ้น
เริ่มหัวข้อโดย: Sig228-kolok ที่ กรกฎาคม 27, 2009, 10:48:23 PM
ขอบคุณครับลุงวัฒน์ ...  ::014::


หัวข้อ: Re: ความอวดดี อวดเด่น อวดรู้ อวดฉลาด ....ไม่ทำให้ชีวิตดีขึ้น
เริ่มหัวข้อโดย: วัฒน์ ที่ กรกฎาคม 27, 2009, 11:13:48 PM


บ่นไปเหอะครับ ผมก็ชอบเข้ามาเปิดดู เมื่อเห็นชื่อพี่ตั้งกระทู้ขึ้นมา

ยอกันต่อหน้านี่แหละครับ

ขอบคุณครับ

 ::014:: ขอบคุณครับ.... แสดงว่าอยากให้ผมแก่.. ::005::




 ::014:: ขอขอบคุณเพื่อนๆ ทุกท่าน ที่เข้ามาร่วมสนทนากัน

 ::014:: ท่านพุทธทาส เคยกล่าวไว้ว่า “ .....คำว่าประมาทมันรวมไว้ทั้งหมดของสิ่งที่ไม่พึงปรารถนา ความไม่รู้ก็รวมอยู่ในคำว่าประมาท ความอวดดีก็รวมอยู่ในความประมาท ความสะเพร่า ไม่รอบคอบ ก็รวมอยู่ในความประมาท ความขี้เกียจก็รวมอยู่ในความประมาท แม้แต่ความไม่ตั้งอกตั้งใจฟันฝ่าอุปสรรคให้สำเร็จ ก็เรียกว่าความประมาททั้งนั้น..."




หัวข้อ: Re: ความอวดดี อวดเด่น อวดรู้ อวดฉลาด ....ไม่ทำให้ชีวิตดีขึ้น
เริ่มหัวข้อโดย: Udomkd ที่ กรกฎาคม 28, 2009, 08:45:35 AM
หากพี่วัฒน์ พอจะมีภูมิเกี่ยวกับศาสนา เขียนไปเหอะครับ คงจะมีคนชอบ เข้ามาอ่านเองแหละ คนไม่ชอบก็เรื่องของคนไม่ชอบ ใครไม่ชอบเขาก็ไม่อ่านแน่ๆ

ที่อยากให้เขียน เพราะเดี๋ยวนี้คนห่างศาสนากันเยอะ จับศาสนาแต่เพียงผิวเปลือก แม้นว่านิดๆหน่อยๆ ก็ขอให้มีศาสนายึดใว้บ้างก็ดี ดีกว่าที่ไม่ีเอาเสียเลย

มันไม่มีอะไรในโลกนี้ที่จะมาควบคุมมนุษย์ได้เลย นอกจากศาสนา(ความเชื่อ ที่เป็นแนวทาง มันเป็นความคิดส่วนตัว อ้างอิงไม่ได้ครับ)

ทุกศาสนาสอนให้คนพึงกระทำในสิ่งที่ดีทั้งนั้น เดี๋ยวนี้มันมีพวกแอบแฝงเยอะ ทำศาสนาผิดเพี้ยน หลอกลวง เอามาสั่งสอนผิดๆถูกๆ

ไปจนถึงขั้นแก้ไขบาป แก้ไขกรรมกันแล้ว หากเมื่อมันเชื่อกันไปแบบนั้นหมด อันตรายมากจริง สังคมมนุษย์ เพราะจะไม่มีใครกลัวบาป เพราะทำแล้วแก้ได้  ซึ่งมันไม่เป็นความจริง ส่วนที่จริง(ในความเชื่อผม)ทำบุญก็ได้บุญ ทำบาปก็ได้บาป จะมาทำบุญเพื่อล้างบาปไม่ได้ เพราะส่วนนี้แยกจากกัน ใครทำบาปใว้ก็ต้องไปชดใช้บาปก่อน แล้วพึงจะมาเสวยบุญได้ภายหลัง


ผมมองเอาว่าจุดอ่อนของพุทธศาสนาคือ ความจริง ที่มนุษย์รับไม่ได้ อิๆ


หัวข้อ: Re: ความอวดดี อวดเด่น อวดรู้ อวดฉลาด ....ไม่ทำให้ชีวิตดีขึ้น
เริ่มหัวข้อโดย: Southlander ที่ กรกฎาคม 28, 2009, 08:49:34 AM
 ::008:: ::008:: ::008::


หัวข้อ: Re: ความอวดดี อวดเด่น อวดรู้ อวดฉลาด ....ไม่ทำให้ชีวิตดีขึ้น
เริ่มหัวข้อโดย: cobra-รักในหลวง ที่ กรกฎาคม 28, 2009, 09:05:46 AM
ผมว่าแค่ถือศีล 5 ให้ครบ ก็จะทำให้บ้านเมืองสงบสุขกว่านี้เยอะครับ ขอบคุณมากครับสำหรับกระทู้ที่ไม่เคยไรัสาระเลยครับ ::014:: ::002::


หัวข้อ: Re: ความอวดดี อวดเด่น อวดรู้ อวดฉลาด ....ไม่ทำให้ชีวิตดีขึ้น
เริ่มหัวข้อโดย: Udomkd ที่ กรกฎาคม 28, 2009, 10:27:39 AM
ผมว่าแค่ถือศีล 5 ให้ครบ ก็จะทำให้บ้านเมืองสงบสุขกว่านี้เยอะครับ ขอบคุณมากครับสำหรับกระทู้ที่ไม่เคยไรัสาระเลยครับ ::014:: ::002::


ปฏิบัติได้ ก็จะเป็นบารมีเกิดกับตัวเองแน่ๆครับ ศีลห้าก็เป็นศีลที่เหมาะสมกับบุคคลทั่วไปอยู่แล้วครับ

1.มุสา วาทาเวรฯ..........การพูดไม่จริง พูดเท็จ โกหก หลอกลวง มันก็จะก่อให้เกิดผล ดังเช่น ที่เห็นๆอยู่แล้ว มองย้อนกลับ ใครมาโกหกเรา จะเกิดอะไรขึ้น เราไปโกหกใครเขา อะไรจะเกิดขึ้น

.............แต่ปัจจุบัน คนไม่กลัวการโกหก เพราะโทษของการโกหก มันไม่มี(เพราะไม่เชื่อ ที่ศาสนาบอกใว้ ที่ไม่เชื่อเพราะไม่ได้รับการปลูกฝังเรียนรู้อย่างจริงจัง อื่นๆ) และบุคคลมีชื่อเสียงทั่วไป(เปรียบเทียบเหตุการณ์ ปัจจุบันกาล) ก็แสดงการพูดโกหกให้เห็นอยู่เสมอๆ และการกระทำนั้นก็เป็นตัวอย่างให้บุคคลทั่วไปเห็นเป็นสิ่งปกติ กลายเป็น  สิ่งที่ดูว่าไม่ผิดไปได้

มองลึกๆ ผลแห่งการโกหก มันก็จะเกิดอะไรขึ้น ตามสิ่งที่มันจะเป็นแหละครับ มาจากว่าจะโกหกมากน้อยแค่ใหน ลองเปรียบเทียบกันดู

ปล.ผมก็ยังโกหก ที่พูดมิใช่ว่า ตัวเองอวดภูมิอะไร เพียงแค่ แสดงความเห็นเท่านั้นเอง

ด้วยความเคารพ


หัวข้อ: Re: ความอวดดี อวดเด่น อวดรู้ อวดฉลาด ....ไม่ทำให้ชีวิตดีขึ้น
เริ่มหัวข้อโดย: ไพโรจน์ ที่ กรกฎาคม 28, 2009, 12:13:37 PM
ขอกราบพี่เข้มงาม  ๆ สัก 3 ที   ::014:: ::014:: ::014::


หัวข้อ: Re: ความอวดดี อวดเด่น อวดรู้ อวดฉลาด ....ไม่ทำให้ชีวิตดีขึ้น
เริ่มหัวข้อโดย: Ro@d - รักในหลวง ที่ กรกฎาคม 28, 2009, 10:19:26 PM
ผมว่าแค่ถือศีล 5 ให้ครบ ก็จะทำให้บ้านเมืองสงบสุขกว่านี้เยอะครับ ขอบคุณมากครับสำหรับกระทู้ที่ไม่เคยไรัสาระเลยครับ ::014:: ::002::


ปฏิบัติได้ ก็จะเป็นบารมีเกิดกับตัวเองแน่ๆครับ ศีลห้าก็เป็นศีลที่เหมาะสมกับบุคคลทั่วไปอยู่แล้วครับ

1.มุสา วาทาเวรฯ..........การพูดไม่จริง พูดเท็จ โกหก หลอกลวง มันก็จะก่อให้เกิดผล ดังเช่น ที่เห็นๆอยู่แล้ว มองย้อนกลับ ใครมาโกหกเรา จะเกิดอะไรขึ้น เราไปโกหกใครเขา อะไรจะเกิดขึ้น

.............แต่ปัจจุบัน คนไม่กลัวการโกหก เพราะโทษของการโกหก มันไม่มี(เพราะไม่เชื่อ ที่ศาสนาบอกใว้ ที่ไม่เชื่อเพราะไม่ได้รับการปลูกฝังเรียนรู้อย่างจริงจัง อื่นๆ) และบุคคลมีชื่อเสียงทั่วไป(เปรียบเทียบเหตุการณ์ ปัจจุบันกาล) ก็แสดงการพูดโกหกให้เห็นอยู่เสมอๆ และการกระทำนั้นก็เป็นตัวอย่างให้บุคคลทั่วไปเห็นเป็นสิ่งปกติ กลายเป็น  สิ่งที่ดูว่าไม่ผิดไปได้

มองลึกๆ ผลแห่งการโกหก มันก็จะเกิดอะไรขึ้น ตามสิ่งที่มันจะเป็นแหละครับ มาจากว่าจะโกหกมากน้อยแค่ใหน ลองเปรียบเทียบกันดู

ปล.ผมก็ยังโกหก ที่พูดมิใช่ว่า ตัวเองอวดภูมิอะไร เพียงแค่ แสดงความเห็นเท่านั้นเอง

ด้วยความเคารพ

..............  ::002:: ::002:: ::002::
คนโกหก ไม่ทำชั่วไม่มี   เป็นพุทธภาษิต   ..

คนลงยึดถือ การโกหก เป็นสารณะ  มุสาวาทะนัง .. ย่อมเป็น คนชั่วได้สมบูรณ์แบบ .  ::013::



หัวข้อ: Re: ความอวดดี อวดเด่น อวดรู้ อวดฉลาด ....ไม่ทำให้ชีวิตดีขึ้น
เริ่มหัวข้อโดย: อาร์ พี จี. ที่ กรกฎาคม 29, 2009, 09:00:31 AM
ขอบคุณครับ....มีประโยชน์มากครับสำหรับผม ;D