เว็บบอร์ดสนทนาภาษาปืน

http://www.manager.co.th/Politics/ViewNews.aspx?NewsID=9480000134697

“ทักษิณ”เข็ญทีเด็ดมัดใจ“รากหญ้า”ฟันนายทุนเงินกู้ดอกโหด
 
โดย ผู้จัดการออนไลน์   1 ตุลาคม 2548 14:45 น.

 
     “ทักษิณ” เตรียมดีเดย์ล้างหนี้ภาคประชาชน 18 ต.ค.เอาใจรากหญ้าสุดสุดอีกรอบ ขู่จัดการขั้นเด็ดขาดผู้มีอิทธิพล-นายทุนเงินกู้และพวกล้มบนฟูก รื้อกฎหมาย 5 ฉบับรวดพลิกช่องกม.ล้มละลายช่วยคนจน เผยทีเด็ดย้อนศรพวกหน้าเลือดใช้วิธีล่อกู้ทำสัญญาเพื่อใช้เป็นหลักฐานเอาผิด              วันนี้(1 ต.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เสร็จจากการเป็นประธานการประชุมเพื่อซักซ้อมนโยบายรัฐบาลกับข้าราชการระดับสูงที่เข้ารับตำแหน่งใหม่ในวัน 1 ตุลาคมที่ทำเนียบรัฐบาล โดยพ.ต.ท.ทักษิณเดินทักทายกับเหล่าข้าราชการและได้กล่าวกับ นายสมามารถ ราชพลสิทธิ์ รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหนครถึงการแก้ไขปัญหาหนี้สินภาคประชาชนว่าในวันที่ 18 ตุลาคม ตนจะประกาศทีเด็ดให้ประชาชนได้รู้ข่าวดี ทำไมประเทศเราต้องแบกรับภาระหนี้สินตั้ง 1.4 ล้านๆบาท“ทั้งที่ประชาชนตาดำๆจำนวนหนี้ไม่มากอย่างนี้หรอก เราต้องเอ็กซ์เรย์ทุกตารางนิ้วเหมือนตอนที่เอ็กซ์เรย์ไข้หวัดนก เอ็กซ์เรย์ให้รู้ว่ามีปัญหาตรงไหน แล้วเราก็ฉายแสงพรึบเดียวหมด” นายกรัฐมนตรีระบุ             

         พ.ต.ท.ทักษิณยังกล่าวว่าปัญหาสังคมอื่นๆเช่นแข่งรถจักรยานยนต์แลกผู้หญิงน่ากลัวมาก ตนได้มีโอกาสพูดคุยกับเด็กวัยรุ่น และดูรายการหลุมดำไม่น่าเชื่อว่าจะมีเรื่องอย่างนี้เกิดขึ้นได้ สมัยก่อนตอนที่จีบสาวใหม่ๆ แค่จับมือก็ถือว่าเรื่องใหญ่แล้ว ตอนนี้มันพูดกันถึงว่าเก็บผู้ชายหมดห้องรึยัง ที่น่าเป็นห่วงมากคือโรคติดต่อทางเพศสัมพันธุ์และการใช้ถุงยางอนามัย เพราะเท่าที่รู้มาเด็กผู้หญิงบางคนไม่ถึงปีทำแท้งสองครั้ง             

          ด้านพล.ต.ต.พีระพันธ์ เปรมภูติ เลขาธิการคณะกรรมการป้องกนและปราบปรามการฟอกเงิน กล่าวว่าหนี้สินภาคประชาชนมีค่อนข้างมาก นายกรัฐมนตรีเป็นห่วงเรื่องประชาชนตาดำๆที่มีจำนวนมาก แต่จำนวนหนี้สินนั้นมีไม่เท่าไร แต่พวกนิติบุคคล ที่มีจำนวนไม่มากแต่จำนวนเงินค่อนข้างสูง จึงอาจจะใช้โอกาสในวันที่ 18 ตุลาคม บอกข่าวดีกับประชาชน โดยการประกาศปราบปรามผู้มีอิทธิพลประเภทนายทุนและเจ้าหนี้เงินกู้นอกระบบที่ไม่ใช่สถาบันการเงินอีกครั้งหนึ่ง             
     
           พล.ต.ต.พีระพันธ์ กล่าวว่า ที่ผ่านมาเคยเสนอแนวทางให้นายกรัฐมนตรีพิจารณาและได้ให้ความเห็นชอบในเรื่องนี้มาตั้งแต่ 23 ก.ย.แล้ว โดยจะต้องมีการแก้กฎหมายครั้งใหญ่ใน 5 ส่วนด้วยกัน คือ 1.แก้พระราชบัญญัติล้มละลายปี 2483 อนุญาติให้ประชาชนผู้เป็นหนี้สามารถยื่นขอให้ตัวเองเป็นบุคคลล้มละลายเพื่อให้หลุดจากการเป็นหนี้ได้ 2.พระราชบัญญัติที่เกี่ยวกับการเรียกดอกเบี้ยเกินอัตรา 3.กฎหมายฟอกเงิน 4.แก้กฎหมายที่จะมาจัดการกับพวกล้มบนฟูก และ 5. อาจจะต้องมีการแก้ไขเรื่องการยกเลิกกรณีที่บุคคลล้มละลายจะต้องขาดจากการทำงาน เช่นถ้าบุคคลที่ล้มละลายนั้นเป็นข้าราชการอยู่ ก็ต้องเป็นข้าราชการต่อไป             

        พล.ต.ต.พีระพันธ์กล่าวว่าหลังจากที่นายกรัฐมนตรีให้ความเห็นชอบในสิ่งที่ตนเสนอไป ตนก็ได้ทำหนังสือถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอาทิ กรุงเทพมหานคร ให้มีการพิจารณาเก็บภาษีป้ายสำหรับนายทุนเงินกู้ดอกโหดที่มีการโฆษณา นอกจากนี้ยังอาจจะต้องใช้มาตรการการลวงกู้เพื่อนำหลักฐานมาดำเนินคดีเรียกดอกเบี้ยเกินอัตรา

******************************************************************

ความคิดผมนะครับ
- ใครกันแน่ที่กระตุ้นให้ประชาชนสร้างหนี้สิน ( หวยบนดิน , ทำบัตรเครดิตได้ง่ายขึ้นมากๆ ฯลฯ )
-ใครกันแน่ที่กระตุ้นให้ประชาชนติดนิสัยบริโภคนิยม ( กรุงเทพฯศูนย์กลางแฟชั่น , ดาวน์รถได้ในราคาต่ำ , ออกมือถือมาล่อวัยรุ่น ฯลฯ )
-ใครกันแน่ที่มอมเมาเยาวชน ( จัดแข่งรถ , อายุต่ำกว่า 18 ทำใบขับขี่ได้ ฯลฯ )

ปล.  ผมก็ไม่รู้ว่าใครนะ  ;D

*******************************************************************

คนที่เป็นหนี้น้อยคนนักที่จะน่าสงสาร ที่ผมถามมาส่วนใหญ่เป็นหนี้เพราะ...(  ผมสุ่มถามแต่เพศหญิงนะครับ )
1. เปลี่ยนมือถือ ( ต้องเป็นรุ่นใหม่ๆ ตลอด ไม่งั้นอายเพื่อน )
2. เสื้อผ้าซื้อใหม่ทุกเดือน ( ถ้าเพื่อนแซวว่าใส่ซ้ำจะอายมาก เลยต้องใหม่อยู่เรื่อยๆ )
3. เครื่องเสียง ( เหมือนข้อ 1 )
4. เครื่องสำอาง ( ใช้ของนอกแพงๆ )
5. หวย ( เล่นเผื่อถูก..แต่เกือบไม่เคยถูก )
6. บัตรเครดิต ( รูดกระจาย....เท่ห์มากๆ )
7. กู้เงินสดทันใจ ( เป็นหนี้ได้ทันใจ )
8. ชอบรับประทานอาหารแบรนด์แนม ( KFC , Mcdonal , Dunkindonut , MK )
9. บัตรโทรศัพท์แบบเติมเงิน ( หลายๆคนใช้เงินในส่วนนี้เฉียดๆ 1,000 บาท หรือกว่านั้น / เดือน )

นี่คือตัวอย่างการใช้เงินพนักงานรายวัน ที่รายได้อยู่ระหว่าง 8,000 ~ 10,000 บาท / เดือน.......... ( เป็นแบบนี้เกือบทุกคนแล้วครบหัวข้อด้วยจะบอกให้ครับ )

ในเมื่อเงินไม่พอใช้ก็ทำการกู้เงินนอกระบบเพื่อหาสิ่งเหล่านี้มาปรนเปรอตัวเองต่อไป

                 
                   ล้างผู้มีอิทธิพล....เอะ....ผมยังไม่ได้ข่าวเลยว่า นายกจะยุบสภา.... :<<

..."ดีใจจัง  ล้างหนี้เก่าจะได้กู้ใหม่  กู้ทุกอย่างยกเว้นลูกระเบิดจ้า"

...จากรากหญ้าแฟนคลับ  ;D

:D~ :D~ :D~

มีหนี้ไม่จบสิ้น ..... มีหนี้เพิ่มขึ้น   เพราะไม่รู้จักควบคุมการใช้จ่าย   ไม่รู้จักพิจารณาตัวเองว่ามีความสามารถพอหรือไม่ .....

โทษใครไม่ได้หรอกครับ ..... นอกจากตัวเอง   ที่ไม่ใช้ปัญญาในการใช้จ่าย .......   :<<


[ไฟล์แนบถูกลบโดยผู้ดำเนินการ]

 ;)  สรุปว่านโยบายนี้ไม่ดีใช่ไหม?  ถามใจตัวเราเองจริงๆเหอะ  การช่วยเหลือประชาชนให้พ้นจากดอกร้อยละยี่ ไม่ดีตรงไหน? ปราบเจ้าพ่อ- เจ้าแม่เงินกู้นี่ไม่ดีอย่างไร? 

 ;)  ไม่ได้เชียร์นายกทักษิน  ออกหน้า ออกตานะ   อันไหนดีเราก็ต้องว่าดี อันไหนไม่ดีก็คือไม่ดี

 ;)  ผมไม่ชอบบิดเบือน

 :~) :~) :~)

.......นโยบายนี้ก็ดีนะ.....แต่ว่าตัวบุคคลที่เป็นหนี้เองแหละเมื่อไหร่จะเปลี่ยนนิสัยฟุ้งเฟ้อฟุ่มเฟือยได้ซะทีเห็นคนรุ่นใหม่ใช่เงินแล้ว...ใจถึงมากๆ....เงินเดือน 8000-10000 บ.แต่ใช้เกินหมื่นอีกน่ะ...

เป็นหนี้กัน เพราะ  หาได้  10 กิน 100 หาได้  1,000 กิน  10,000  เจ้านายเก่าผม(เป็นคนจีน)  บอกว่า"พวกลื้อ รายได้ต่ำแต่รสนิยมสูง"  ตั้งแต่นั้นมาผมเลยซึ้ง  ครับ  ชีวิตเปลี่ยนไปเลย :~)

อ่านแล้วหน่ายคับ...

สร้างข่าวสร้างภาพใหม่ๆ ออกมาอีกแล้ว...:P

เอาเลยคุณทักสินทำได้ก็ทำเลยดีกว่าอยู่เฉยๆแล้วพูดประชดเป็นอย่างเดียว

กับพวกนายทุนเงินกู้ที่โหดจริงๆอย่างที่เป็นข่าว  ผมก็เห็นว่าสมควรดำเนินการขั้นเด็ดขาด  แต่กับพวกปล่อยเงินกู้ในหมู่บ้านตามต่างจังหวัด  ผมเคยถามชาวบ้านที่เป็นลูกหนี้เงินกู้แล้ว  ได้รับคำตอบว่าไม่กล้าแจ้งตำรวจหรือพวกนักหาเสียงราย 4 ปีให้ดำเนินการกับพวกปล่อยกู้ครับ

เพราะหากไม่มีพวกปล่อยกู้ วันหลังขัดสนเรื่องเงินขึ้นมา ก็ไม่รู้จะหันหน้าไปพึ่งใครอีก

เหอเหอเหอ... โครงการกองทุนหมู่บ้านน่ะ  ชาวบ้านกู้ไปทำอะไรบ้างก็ไม่รู้  แต่พอใกล้ครบกำหนดชาวบ้านก็ใช้วิธีไปกู้กับนายทุนพวกนี้เพื่อมาชำระคืนกองทุน ระยะเวลาประมาณ 1 เดือน  พอกองทุนเปิดให้กู้รอบใหม่ก็กู้มาในวงเงินที่เพิ่มขึ้น (ได้เครดิตดีเพราะชำระหนี้ตรงตามกำหนด) จากนั้นก็เอาเงินต้นพร้อมดอกมาคืนนายทุน  ส่วนที่เหลือก็ใช้ต่อไปอีก  ใกล้จะครบปีก็ใช้วิธีนี้แก้ขัดไปครับ

 ;D เห็นด้วยกับเฮียกล๊อกแกล๊กครับ เพิ่มเติมอีกว่า นอกจะกลัว่าจะไม่มีที่พึ่งแล้วยังกลัวอิทธิพลด้วยครับ :-\

 :-\ เรื่องเงินกองทุนหมู่บ้าน บังเอิญผมได้เห็นรายงานที่นักศึกษาจบใหม่ที่รัฐบาลให้มาสำรวจข้อมูลในช่วงแรก ๆ ของโครงการกองทุนหมู่บ้าน ในรายงานมีผลสำรวจการใช้เงินกองทุนอยู่ด้วย ปรากฏว่า 70% ไม่ได้นำเงินไปใช้ตามวัตถุประสงค์ของการตั้งกองทุน และ 50% ของจำนวนข้างต้น นำเงินส่วนหนึ่งไปซื้อมือถือ รองลงมาคือเอาเงินไปดาวน์รถมอเตอร์ไซค์ :-\

รอบนี้เจ้าหนี้เงินกู้โดนชักดาบ  รอบหน้าคิวกองทุนทั้งหลาย  บัตรเครดิตทั้งหลายโดนฟ้องกันสนุก  ผมไม่ชอบนโยบายนี้สอนให้คนโกงมีหนี้ไม่จ่าย  เอาของเค้ามาแต่ไม่คืนถึงแม้นายทุนจะขูดรีด  แค่ปกติก็โกงกันเป็นประจำอยู่แล้วพวกดอกโหดๆลูกหนี้ก็ย้ายบ้านหนีมีให้เห็นประจำ  ควรจะสอนให้รู้จักใช้มากกว่าไม่ฟุ่มเฟือยเท่าที่เห็นไม่มีเงินเก็บกันเลย  พอเดือดร้อนเลยกู้เอาถ้ารู้จักบริหารการเงินใช้จ่ายพอแก่ฐานะอย่างที่หลายท่านบอกไว้คงไม่ต้องมาชวนกันโกงกันหรอกครับ

เหอ..เหอ...ไม่ให้เค้าปล่อยกู้ แต่จะมาปล่อยซะเองนะซี่ ลุกค้ากลุ่มเดียวกัน ;D ;D

 :'( :'( :'( :'(

เอาใจแบบไร้สมอง ต่อไปคนไทยคิดแต่จะเบี้ยวอย่างเดียว ทักษิณน่าจะลองใช้กับบริษัทชินบ้าง

ง่ายๆ ครับ
เอาเงินรัฐบาลไปแจก หาเสียงกับคนจน ไม่ได้คิดแก้ไขอะไรหรอกครับ
ลูกหนี้ เจ้าหนี้ ไม่สนทั้งนั้น รากหญ้า เสียงส่วนใหญ่ของประเทศครับ
ฉลาดจะตาย ย ย ย   ป่าย  :~) :~)