เว็บบอร์ดสนทนาภาษาปืน

 ::014::ขอคำแนะนำจากพีๆทุกท่าน  สำหรับการเลือกกล้องที่ใช้เฝ้าสวนเดินป่า ::014::
    1. ยี่ห้อที่ควรใช้
    2. ความคมขัดและระยะซูมที่ดีๆ (ระยะยิง 25-100 เมตร)
    3. ใช้เดินป่าแล้วกล้องไม่เคลือนได้ง่าย
    4. ราคาที่เหมาะสม

ใช้ติดปืน CZ 452 ครับหรือท่านใดที่ให้คำชี่แนะอื่นๆที่เป็นประโยชน์ได้เลยครับ  ขอขอบคุณครับ ::014::

เอาง่าย ๆ แต่ราคาเอาเรื่อง
เอาแบบ Circle-X ครับ
1.75-4x32   


(http://www.mhakimigun.com/riflescope/73-1421-Trophy.gif) (http://www.mhakimigun.com/riflescope.htm)


ลิงค์ที่รูปครับ

หรือ 4X32 ครับ  กำลังขยายคงที่ น้ำหนักเบาครับ คงไม่ไปยิงปั้น X ที่ 100 เมตร นะครับ

ใช้ 4x32 ก็พอครับ หาขากล้องที่แข็งแรงหน่อยติด แค่นี้ก็ยิงอย่างมั่นใจแล้วครับ ผมก็ใช้แบบนี้ ติดมาร่วม 10 ปีแล้วครับ กล้องยังไม่เคลื่อนเลย

   เอาแค่ 4*32  ก็พอครับ ลองเข้าไปดู ที่นี่ ดูครับ เรื่อง ราคา

http://www.mhakimigun.com/riflescope.htm (http://www.mhakimigun.com/riflescope.htm)

ตามที่ทุกท่านแนะนำมาใช้ได้เลย หรือจะเพิ่มอีกตัวเลือกก็ 3-9 เท่าครับ

อย่างที่พี่ๆ แนะนำนะครับ ขนาด 4 เท่ากำลังดี
ในป่า ใช้กำลังขยายเยอะๆ เดี๋ยวหาเป้าไม่เจอ เพราะสีกลืนกันไปหมด
ขนาด 4 เท่า เนี่ย น่าจะครอบคลุมการใช้งาน ในรัศมี 50 เมตร
แต่ถ้า 100 เมตร สำหรับลูกกรดเนี่ย คงลำบากพอดูครับ
ถ้าไกลขนาดนั้น พยายามเลี่ยงดีกว่า

3 - 9 X 40 ครับส่องสะบายตาดีครับ...3 - 9 X 32 ผมว่าเล็กไปหน่อยครับ

ครับผมเห็นค้วยครับ 3-9x 40 หน้าเลนส์ไม่กว้างหรือแคบเกินไป  ถ้ามีโอกาสใช้ยิงช่วงเช้ามืดหรือพลบค่ำ ก็เลือกแบบ Firefly คือเมื่อแสงน้อยเส้นเล็งจะเรืองแสงโดยไม่ต้องใช้ถ่าน ถ้ากล้องเส้นเล็งธรรมดา ช่วงค่ำๆ กล้องมองเห็นเป้าครับ แต่ไม่เห็นเส้นเล็ง

 ::014::ขอขอบคุณทุกท่านมากครับที่ให้คำตอบ ::014::  คือมันอย่างนี้ครับที่บ้านผมมีต้นทุเรียนบ้านอยู่ครับ  แล้วต้นมันสูงมากครับ  โคนต้นทุเรียนบ้านวัดรอบได้ประมาณแต่ละต้น 2-4 เมตร  ช่วงที่หน้าผลทุเรียนออกกระรอกมันเยอะครับ  ยิ่งเป็นทุเรียนพันธุ์ด้วยแล้วไม่ต้องพูดถึงท่าปลอยใว้ให้กระรอกกินรับรองได้ว่าหมดตั้งแต่ทุเรียนยังไม่แก่ครับ  แถ่วบ้านผมเค้ายิงเฉพาะหน้าผลไม้ครับมันก็เลยเยอะครับ  ( ::014::ต้องขออภัยด้วยครับสำหรับผู้ที่ใจบุญทั้งหลาย ::014::)   กระรอกชอบเข้ามากินทุเรียนในช่วงเช้ามืดพอเริ่มเห็นลูกทุเรียนและในตอนเย็นประมาณ 16:30-18:30 ครับ  ผมก้เลยต้องการกล้องที่ข้อนข้างคมชัด ผมตั้งงบไว้ที่ 6500 ครับ ขอขอบคุณอีกครังครับที่มาร่วมกันให้คำตอบครับ ::014:: ::014::

ถ้ายิงถึง 100 ม. กับ 452 เป้าเล็กและต้องมีเล็งเผื่อส่วนตัวผมว่าต้อง mil dot กำลังขยายสูงหน่อยแต่น้ำหนักจะมากหน่อยนะครับ

ถ้ายิงเป้าเล็กขนาดกระรอก เป็นผมจะเลือก 3-9*40 ครับ ตอนแรกนึกว่าจะยิงเป้าขนาดหมาหรือตัวเงินตัวทองกะจะเชียร์ 1.75-4*32 ซะหน่อย

ที่ผมใช้อยู่ ก็เล่นของจีน  6*18 หน้ากล้อง 40  ราคาไม่ถึง 2000 บาท  ผมว่าแค่นี้ก็เอาอยู่แล้วครับ  แรงรีคอล์ยมีไม่มากไม่เป็นปัญหากับกล้อง  แต่ถ้าจะให้สบายตา ถ้ามีที่พาดยิงหากล้องขยายได้ถึง 24 เท่า หน้ากล้อง 50  เท่านี้ก็เลือกยิงได้เลยว่าจะให้โดนตรงส่วนไหนของตัวกระรอก

กระรอกรบกวนสวนทุเรียนหรือครับ
น่าจะใช้ปืนอัดลมดีกว่า เพราะยิงแล้วตัวอื่นยังไม่ทันรู้ตัว และต้นไม้ไม่บอบช้ำมากครับ ควรใช้เบอร์ 2
ถ้าใช้ .22 ยิงปัง กระรอกจะแตกตื่นวิ่งพล่านและกบดานมองหาตัวต่อไปยากมาก  แล้วก็อาจมีปัญหากับ
อบต หรือ ตำรวจได้ครับ ใช้ปืนอัดลมดีกว่าซุ่มสอยทีละตัว ยิงตัวหนึ่งอีกตัวยังไม่รู้ว่าเพื่อนโดนยิงเลย

ผมว่ายิงกระรอกระยะ 50 เมตรเป็นระยะเต็มกลืนแล้วครับ อย่าลืมว่าเราต้องมองด้วยสายตาก่อนจับเป้า
ไอ้เรื่องจะใช้กล้องกวาดหาเป้าหมายแบบในหนังลืมไปเลยปวดตาเปล่า ๆ  แล้วในสวนมันเห็นไกลได้ที่ไหน
ละครับ ในชีวิตจริงระยะ 50 เมตรผมว่าบางทีมองไม่เห็นด้วยซ้ำไป จะยิงแต่ละครั้งต้องรอกระรอกหยุดนิ่งเสียก่อน
ครั้นจะยิงตอนมันขยับตัวโอกาสพลาดก็มีสูงมาก ยิงพลาดแรงกระสุนยังมีมากพออาจไปทำอันตรายใครได้ด้วย
เดือดร้อนคุณนะครับ นั้นหมายความว่าทุกตัวที่ยิงต้องมีต้นไม้บังหลังจึงจะยิงได้

อ้อ ผมแนะนำกล้องส่องทางไกลด้วยนะครับ ยิงนัดแรกรับรองว่าตัวต่อไปกบดานดูกลมกลืนจนมองแทบไม่ออก
ควรใช้กล้องส่องทางไกลกราดหาพวงหางของกระรอกจะเป็นการหาที่เร็วที่สุด  การมองจากกล้องเล็งด้วยการ
ประทับปืนมันเมื่อยตาครับ

เวลากระรอกออกหากินแถวบ้านผมดูนาฬิกาไม่ได้ ผมใช้วิธีดูพระอาทิตย์หรือแสงสว่างช่วงพระอาทิตย์
โผล่ขอบฟ้าจนมองเห็นแสงรำไร และจะมีเวลาล่อกับมันประมาณชั่วโมงครึ่งกระรอกจึงจะกลับรัง ผมจะซุ่มอยู่กับที่
เพราะกระรอกเป็นสัตว์ไม่อยู่นิ่งจึงทำให้มองเห็นได้เร็ว  ถ้าตอนกลางวันคงต้องตามไปยิงถึงรังของมันเลย
ส่วนตอนเย็นยังไม่เคยได้ยิงเพราะกว่าจะโงหัวจากงานก็มืดทุกวัน

เมื่อก่อนผมหัดปลูกกล้วยไม้ครับ สายน้ำแรงดันแบบพีอี ถูกมันกัดทะลุเป็นจุด ก็เลยหาปืนอัดลมมาสอย
ทำมานาน 3 ปีแล้ว นับที่จำได้เกือบ 40 ตัว แต่คิดว่ามากกว่านั้น เพราะบางวันได้ 3 ตัวก็มี
สัปดาห์ก่อนก็ 2 ตัวครับ

งบ 6500 บาทเหลือเฟือครับสำหรับกล้องเล็งยิงกระรอก ผมว่า 3000 บาทก็พอแล้ว
เอาเงินทีเหลือไปหาขากล้องดีๆมาใส่ดีกว่า ภาระงานของเราไม่สำคัญแบบไปยิงคนสำคัญ
หรือชิงถ้วยเหรียญทอง จึงต้องซื้อแบบราคาห้าหกหมื่นบาทจนเหยียบแสนมาใช้

เรื่องกำลังขยายอย่างที่เพือนสมาชิกแนะนำ 3x9 ก็พอดีแล้วสำหรับระยะไม่เกิน 50 เมตร
ไม่ต้องขยายใหญ่มาก เพราะกำลังขยายมาก ๆ โอกาสยิงพลาดมีมากด้วย
อย่างที่บอกในสวนที่ระยะ 100 เมตรคุณจะเห็นกระรอกก่อนแล้วจึงประทับปืนยิงหรือเปล่า

ยี่ห้อ เลือกอะไรก็ได้ปรับโฟกัสแบบหมุนด้านหน้า เพราะระยะโฟกัสมันลึกดี
ลดการปรับโฟกัสได้มาก อย่าไปเลือกแบบปรับโฟกัสด้านข้างนะ พอเปลี่ยนระยะเล็ง
ก็ต้องหมุนหาอีก แถมพาราแลกซ์มีมากพอที่จะยิงพลาดได้

สำหรับปัญหาจากผู้ใจบุญก็ตัวใครตัวมันครับ ผมเองก็เจอมาจนอ่วม ยังจะเอาตัวไม่รอดจ๊ะ
ปัญหานี้ขอให้โชคดีนะครับ  :D :D

ถ้ายิงตอนแสงน้อย ให้เลือกกล้องหน้าใหญ่  (40 มิลขึ้นไป) กำลังขยายน้อยไว้นะครับ แล้วก็เลือกการเคลือบเล็นส์แบบมัลติโคท แสงจะเข้าได้มากกว่า อัดไนโตรเจนภายในกล้องด้วย ภาพจะชัดเจนกว่า ไม่ขุ่นมัว หรือเป็นฝ้า แต่ว่าเล็งด้วยกล้อง กล้องจะช่วยขยายแสงให้เราเห็นชัดกว่าตาเปล่านะครับ  ของผม 4X32 ธรรมดาสามารถยิงกลางคืนตอนเดือนหงายได้สบาย ไม่ต้องส่องไฟ ยิงมุมสูง ระวังวิถีกระสุนด้วยนะครับ ลูกกรดไปไกลกว่าที่คิดนะครับ ข้างกล่องเขียนเตือนไว้ 1.5 ไมล์ ก็ 2 กิโลกว่าๆละครับ

 ::014::ขอขอบคุณทุกท่านมากๆครับ ::014:: ::014::  ที่ให้คำแนะนำและคำเตือนผมจะระมัดระวังให้มากๆครับ( ผมก็กลัวเหมือนกันครับ) ผมจะไปซื้อพรุ่งนี้ครับ ::014::

มาชม

เรียน จขกท ด้วยความเคารพครับ ระวังเรื่องวิถีกระสุนที่จะแฉลบเปลี่ยนองศาด้วยนะครับ ;D

ถ้ายิงในช่วงแสงน้อย ใช้ 4X ครับ ว่าแต่ระยะยิงถึง 100 เมตร ไหมครับวัดจากจุดยิงถึงโคนต้น ไม่ใช่วัดจากจุดยิงถึงเป้าในมุมสูงนะครับ

เวลา 16.00 - 18.00 น. แสงมากพอครับ ยิงได้ ผมเคยใช้ 4X ยิงนกพิราบบนหอจ่ายน้ำ ประปาหมู่บ้านครับ