เว็บบอร์ดสนทนาภาษาปืน

กลางเดือนผมไปสเปนมาครับ ไปเมืองมะดริก เซโกเวีย และบูโกส ขอนำเสนอภาพเมืองบูโกสก่อน ต้องขอบอกว่าเป็นภาพเล่าเรื่อง ที่ไม่มีศิลปะทางการถ่ายภาพครับ ใช้กล้อง แคนอน SX100

บูโกส เป็นเมืองยุคกลางในแคว้นคาสติล เรียกได้ว่าเป็นเมืองหน้าด่านทางเหนือของมะดริก เป็นเมืองบ้างเกิด เอล ซิด ซึ่งตามเรื่องจริง เอล ซิด เป็นขุนศึกที่ไปยึดเมือง วาเลยเซียได้จากแขกมัวร์ แล้วปกครองเมืองวาเลยเซียจนตายจึงนำศพมาฝังในวิหารประจำเมือง บูโกส

เอลซิด ได้รับอานิสงค์จากภาพยนต์ ฮอลีวู้ด นำแสดงโดย ชาลส์ตัน เฮสตัน จนดูเท่ และพระเอกอย่างเหลือทนจนเหมือนโล่ ตามประวัติศาสตร์คล่องแคล่วลื่นไหนกว่านั้นมากตามแบบขุนศึกยุคกลาง ไม่ใช่พระเอกที่ใช้อุดมการณ์หรือค่านิยมสมัยใหม่อย่างในภาพยนต์ปี 1960 อย่างไรก็ตาม เอล ซิด เป็นขุนศึกสเปนที่มีชื่อเสียงและได้รับการยกย่องมากคนหนึ่ง

สเปนมีขนาดพอๆ กับประเทศไทย แต่ละแคว้นมีวัฒนธรรมต่างกันออกไปเพราะมีประวัติศาสตร์ยาวนานต่างกัน ประชากรมีทั้งฝรั่งยุโรปใต้ปนกับมัวร์ และกลุ่มพ่อค้นในทะเลเมดิเตอเรเนียน มีตั้งแต่ผมทองไปจนถึงผมดำ วัฒนธรรมสเปนเป็นอัตลักษณ์ของคนสเปนมากกว่ากานภาพ วัฒนธรรมท้องถิ่นก็มีลักษณะเด่นของตนเอง เช่น การเต้นฟลามิงโก จะเป็นของทางแคว้นอันดาลูเซียทางใต้ ภาษาสเปนแปลงมาจากลาติน ภาษาถิ่นหลักๆ จะมี คาสติลเลียน คือตอนกลางและทางเหนือ เมืองมะดริก เป็นต้อน คาตาลัน ทางชายฝั่งเมดิเตอเรเนียน เช่น เมืองบาเซโลนา บาส เป็นอีกภาษาหนึ่งคนละรากกับลาติน เป็นภาษาเก่าแก่ใช้ในแคว้นบาส ทางตะวันตกเฉียงเหนือแถบเทือกเขาพีเรนีสติดชายแดนฝรั่งเศส

ตั้งแต่ยุคโบราณ สเปนเป็นเมืองท่าเส้นทางเดินเรือ เช่น อาณาจักรฟินีเซี่ยนมาตั้งแมืองคาดิซ  ก่อนยุคคลาสสิก กรีก โรมัน สเปนเป็นแหล่งเหมืองแร่สำคัญ มีเมืองใหญ่เกิดขึ้นมากและที่พื้นที่แย่งชิงอิทธิพลระหว่างโรมันกับอำนาจอื่นเช่น คาร์เธจ ในยุคกลางแคว้นต่างๆ ของ สเปนมีอำนาจในชั้นแนวหน้าในยุโรป และมีพวกมัวร์เข้ามายึดครองพื้นที่หลายส่วนหลายร้อยปี จนกว่าจะไล่แขกมัวร์ออกไปได้หมดจริงๆ ก็ปี 1492 เป็นปีที่โคลัมบัสค้นพบอเมริกาพอดี

หลังยุคกลางสเปนเป็นมหาอำนาจทางทะเลหลายร้อยปีตั้งแต่ศควรรษที่ 14-15 ขนทรัพย์จากอเมริกามามาก เป็นยุคที่สเปนเรืองอำนาจมากที่สุด ว่ากันว่ามีคำพูดว่าสมัยก่อนกระรอกสามารถกระโดระหว่างต้นไม้จากเหนือของประเทศไปถึงทางใต้ได้ แต่ในยุคเดินเรือมีการตัดไม้มาใช้สร้างเรือมาก สเปนจึงแห้งอย่างทุกวันนี้ ที่จริงคำพูดนี้ก็เกินไปหน่อยครับ เพราะตามภูมิประเทศจริงๆ สเปน ค่อนข้างแห้งแล้ง โดยเฉพาะทางใต้ เหมือนทะเลทราย ภาพยนต์เคาบอยเรื่อง ชาลาโก ยังไปถ่ายทำในภาคใต้ของสเปน

จนมาถึงยุคปฏิวัติอุตสาหกรรม สเปนช้ากว่ายุโรปชาติอื่นเลยตกอันดับไป ตั้งแต่ปลายศตวรรษที่ 18 เป็นต้นมาสเปนกลายเป็นมหาอำนาจชั้นรอง ปี 1808 นโปเลียนบุกเข้าสเปนๆ ก็สู้ไม่ได้ ต้องตอบโต้ด้วยสงครามกองโจร จนกองทัพอังกฤษของ เวลลิงตัน เข้ามาช่วยถึงไล่นโปเลียนออกไปได้ในปี 1810

สถาปัตยกรรมยุคกลางของสเปนจึงหลายหลายโดยเฉพาะในภาคใต้ ส่วนหลังยุคกลางเรอเนสซองค์ ถ้าเทียบขนาดเมืองกันแล้ว วิหารและป้อมปราการสเปนจะใหญ่โตอลังการกว่ายุโรปชาติที่มาเจริญจากยุคอุตสาหกรรมอย่าง อังกฤษ หรือเยอรมันมาก ดัวงจะเห็นได้จากสถาปัตยกรรมเมืองบูโกสนี้ครับ อลังการไม่แพ้ของเมืองใหญ่ขนาด ยอร์ค อังกฤษ

ลานกลางเมืองครับ ค่อนข้างเป็นรูปวงรีเล็กน้อย

ริมแม่น้ำซึ่งเป็นทางผ่านไปยังวงเวียนที่มีอนุสารีย์ เอล ซิด

ด้านหลังของโรงละครประจำเมือง

อนุสาวรีย์ เอล ซิด ขุนศึกศตวรรษที่ 11

 :)

รูปปั้น สมัยใหม่ ดอนนา ชีเมน คุณนาย เอล ซิด

ประตูเมืองที่นำขบวนศพ เอล ซิด เข้าเมืองบูโกส ในศตวรรษที่ 11 เหมือส่วนของป้อมตรงประตูนี้ แนวกำแพงเมืองสองข้างประตูกลายเป็นบ้านเรือนยุคต่อมา

ภายใต้ประตู หนาใช้ได้ครับ

ด้านบนของประตูมีห้องแสดงเล็กๆ แสดงภาพและวัตถุยุคกลาง

วัตถุที่น่าสนใจที่สุดคือ (เขาเืชื่อว่าเป็น) กระดูกท่อนล่างของแขนซ้าย เอล ซิด ซึ่งตายที่เมืองวาเลยเซีย ระหว่างการเดินทางมาจากเมืองวาเลยเซียอาจมีใครแอบดึงออกมาจากโลง ความยาวเทียบกับแขนผมแล้วสั้นกว่ามา เข้าของกระดูกคงสูงแค่ประมาณ 160 ซม. ต้นๆ ซึ่งเป็นปรกติของคนสเปนยุคนั้น 

เดินผ่านประตูเมืองเข้ามาก็เจอวิหารเมืองบูโกส สร้างเสร็จตั้งแต่ปลายศตวรรษที่ 13 ยกเว้นตกแต่งภายในเพิ่มเติมตามสมัย

ประตูหน้า วิหารนี้เป็นศิลปะโกธิก

มีงานแต่งงานพอดี :D

ประตูข้างสำหรับนักท่องเที่ยวเข้าชม มีหูฟังบรรยายอังกฤษให้เช่าตามระเบียบ แค่ประตูนี้ก็บรรยายเกือบ 10 นาทีครับ

ภายในแบ่งเป็นหลายส่วน ภาพนี้คือแท่นบูชาหลัก

เพดานครับ

หลุมศพ เอล ซิด ได้รับการฝังในบริเวณที่เด่นมาก

เสาครับ อิ อิ

แท่นบูชาในส่วนอื่น รวมทั้งวิหารน่าจะมีเกือบ 20 ส่วน เป็นศิลปะในยุคต่างๆ กันไป

เพดานในห้องหนึ่ง เป็นศิลปะแบบ โรโคโค ยุบยับไม่เหลือพื้นที่ว่าง

ทางเดินในวิหารส่วนเก่าที่สร้างในศตวรรษที่ 11-12

สวยมากครับ

รอดูต่อ

แบบจำลองวิหารเก่าตามที่ปรากฎในศตวรรษที่ 12 แนวเส้นทึบคือแบบวิหารในปัจจุบัน

แบบจำลองวิหารในปัจจุบัน

ปีที่สร้างวิหารเก่าและปัจจุบันปรากฎโฉม

ขอบคุณครับ ................

ของเขา เขายังรักษา ไว้ได้อย่างดี

รูปแบบนี่ ต้องบอกว่า อลังการงานสร้าง จริง ๆ  

นาฬิกาบนเพดานครับ ซูมขึ้นไปมาก หุ่นจะตีระฆังด้วย

บรรยากาศทัวไปในห้องต่างๆ ถ้าเจ้าของโลงชอบอยู่เงียบๆ คงบ่นอุบ

ขอบคุณมากครับ พี่Wilhelm Tell -(--   

วัตถุแสดงที่น่าสนใจอีกก็ หนังสือสำคัญแสดงการแต่งงนของ เอล ซิด กับ ชีเมน เป็นเอกสารที่มีรายการสินสิดต่างๆ และมีลายมือชื่อของพยาน บุคคลสำคัญ นอกจากนี้ก็***บใส่เอกสารสํยญาที่ เอล ซิด เคยยึมเงินชาวยิวในสเปนไว้ คำบรรยายไม่ได้บอกว่า มีการใช้คืนครบตามสัญญาหรือไม่?

ภาพนี้รถไฟเล็กสำหรับนักท่องเที่ยวชมเมืองครับ รูปปั้นคือเซนต์แอนโทนี่นักบุญที่ธุดงมาเมืองนี้ มีสัญลักษญ์เปลือกหอยห้อยคอ

รูปสวยครับ ::002::
ไปสเปน ขาดไม่ได้คือสาว ๆ สเปนครับ โอ่เล่ ;D

ขอบคุณทุกท่านที่เข้ามาเยี่ยมชมครับ โอกาสต่อไปจะขอนำชมเมือง มะดริก และ เซโกเวีย ต่อไป สถานที่เด่นของเซโกเวียคือ สะพานส่งน้ำโรมันสูงหลายสิบเมตร ยาวเกือบ 1 กม. เป็นหินซ้อนกันเฉยๆ ไม่ได้ลงสลักใดๆ ใช้งานตั้งแต่ศตวรรษที่ 1 จยถึงศตวรรษที่ 19 ที่เซโกเวียยังมีป้อม อัลคาซาร์ ตั้งแต่ยุคกลาง และออกไปนอกเมืองมี พระราชวัง ลา กรานฮา เป็นพระราชวังฤดูร้อนของกษัตริย์สเปนครับ

อือม์ สาวสเปนเห็นแล้วไม่ค่อยสบายใจครับ เธอๆ เป็นโรคปอดบวมกันทั้งเมือง

ครับผม เขาตั้งใจเก็บรักษาดีมาก มีหน่วยงานดูแลที่มีประสิทธภาพและปลูกฝังให้ประชาชนเห็นคุณค่าของมรดกทางวัฒนธรรม สเปนรบสงครามกลางเมืองกันหลายปีปลายทศวรรษที่ 30 บ้านเมืองพังไปมาก แต่โชคดีที่ไม่มีฝ่ายไหนบ้าถึงขั้นไปรบกันใกล้ๆ โบราณสถานสำคัญๆ

โบราณสถานของยุโรปสร้างเป็นหินหรือซีเมนต์ (โรมันผสมหินภูเขาไฟ ฯลฯ มีวัสดุก่อสร้างเทียบเท่าหรือดีกว่าซีเมนต์ครับ) อยู่ได้ หลายร้อยหลายพันปี เช่น แพนธีออก วิหารหลังคาโดมสถาพสมบูรณ์ในโรมที่มีอายุ 1900 ปี

น่าเสียดายที่โบราณสถานบางที่พังไปเพราะแผ่นดินไหวอย่างในกรีก หรือโดนรื้อเอาวัสดุไปสร้างอย่างอื่น เช่น โป๊ป องค์หนึ่งสั่งรื้อหินจาก โคลีเซียม เอาไปประกอบการสร้างวิหารเซนต์ ปีเตอร์ หรือพังในสงครามอย่าง สำนักสงค์ที่เมือง แอนซิโอ และทั้งเมือง เดรสเดน แนววัง และโรงโอเปร่าที่เมือง เดรนเดน พังจากการบอร์มทางอากาศในสงครามโลกครั้งที่สอง แต่เยอรมันสร้างขึ้นมาใหม่หมด ตามแบบโบราณเดิม ใช้หินจากแหล่งเดิม วิหารเซนต์ สเตฟานที่เวียนนาอลังการแบบวิหารบูโกสนี้ก็เีสียหายในสงครามโลก หลังคาพังไปเกือบหมด ผนังก็พังไปมาก แต่เขาก็ซ่อมสร้างขึ้นใหม่ตามแบบเดิม ใชัวัสดุแบบเดิมครับ

แบบว่า อยากจะรบกวน พี่Wilhelm Tell  -(--  เอาสาวปอดบวมมาลงให้ชมบ้างสิครับ  ::005:: ::005::

อยากไปจังครับคุณต๊อก +1 ทั้งเรื่องและภาพ....สุดยอดครับ....มีบางคนที่ไปเที่ยวว่าอาหารการกินยังจะถูกปากคนไทยเสียยิ่งกว่าที่ฝรั่งเศสอีกครับ  คุณต๊อกพอจะได้ถ่ายภาพเมนูอาหารมาบางไหมครับเอาที่มันพื่นเมืองบ้านๆน่ะครับ

เมือง เซโกเวียครับ เป็นเมืองยุคกลาง ผังเมืองยังอยู่ในแนวกำแพงเมืองเก่าเดิม เซโกเวียอยู่บนเนินด้านหนึ่งสูงชันเป็นที่ตั้งของ ป้อม อัลคาซาร์ อาหารขึ้นชื่อของเมืองนี้คือหมูหันนุ่มหนังกรอบครับ ตามตำรับเขาจะทำให้เนื้อนุ่มมาก แล้วโชว์ใช้สับจานสับหั่นเนื้อหมูได้ แต่ไม่เห็นมีร้านไหนโชว์เลยครับ

ในเมืองบางส่วน รูปปั้นนายคนนี้ผมไม่รู้จักครับ ;D

ขอบคุณมากครับพี่ รูปอาหารมาพอดีเลยครับพี่อภิสิทธิ์ สเปนยึกถือวัฒนธรรมกินดื่ม บาร์ ร้านอาหารมีทุก 50 เมตร (มั๊ง) แต่เวลาอาหารเขาจะช้ากว่าชาวโลก 2 - 2 ชั่วโมงครึ่ง อาหารกลางวันเริ่มกิน บ่าย 2 หรือกว่า ส่วนมากไม่เสริฟอาการเย็นก่อน 2 ทุ่มครึ่ง บางร้านเปิด 3 ทุ่ม ครับ แต่เขามีอาหารที่เสริฟทั้งวันค่อ ทาปาส ซึ่งเป็นจานกับข้าวแต่ละอย่าง เช่น แฮม (มีหลายชนิดมากๆ) กุ้มต้ม เนื้อปรุงสารพัดแบบฝรั่ง สลัดแบบต่างๆ ที่แปลกๆ ก็ เช่น ร้านหนึ่งจเอแกงกระเพราะวัวครับ เบียร์เขาจะเสริฟในแก้วพันช์มีขา เล็กๆ ไม่ใช่แก้วไปท์แบบอังกฤษหรือเหยือกแบบเยอรมัน เมนูหลายหลายมากครับ

วิหารกลางเมืองครับ

แต่ก่อนที่ท่านจะเบื่อวิหารโบสถ์ ต่อไปผมขอแสดงภาพที่ฟลุ๊กไปเจอพอดี คือเขามีงานแสดงดนตรีของวงทหารพอดีครับ มีพาเรตวงดนตรีเดินในเมืองไปแสดงที่เวทีหลังวิหารนี้ เป็นกองทหารของสเปน เยอรมัน และอิตาลี แต่ละกองแต่ละชาติลีลาต่างกันไป

ทหารทีรอเดินพาเรต สเปนเป็นชาติที่ยึดวัฒนธรรม มาโช่แมน ชายแท้ โชว์พาว เครื่องแบบของกองนี้โชว์แมนเต็มที่ เสื้อคับติ้ว โชว์กล้าม กางเกงตุงเชียว เสื้อแบะอกอย่างนี้เดินเลยครับ ไม่ใช่นายคนนี้ถอดกระดุมพักร้อน คนนี้เป็นคนจูงแกะภูเขาสัตว์นำโชคประจำกอง

ทางเดินที่พาเรตจะผ่านครับ

เด็กๆ มารอดู :D

มาแล้ว อกผายไหล่ผึ่งเคราเฟิ้มหน้าเชิด แมนเต็มที่ กองนี้ทำนองแบบทหารช่างพรือทหารภูเขา แต่ละคนจะมีอุปกรณ์ติดหลังด้วยครับ แต่ที่ไปหาข้อมูลมาเป็นทหารราบกองพันที่ 1 ไม่ได้บอกอะไรมาก

แบกไรเฟิล Cetme ควงปืนไปมา เอาพานท้ายกระแทกพื้นแพร่กๆ ผมว่าใช้ปืนสามงานก็เจ๊งแล้วครับ

กองนี้มีวิธีเดินเฉพาะตัว คือไม่เดินสนสนามตบเท้า แต่จะเชิดหน้าตัวตรง เดินเร็วเลียดพื้นแบบนักกีฬาเดินเร็ว บิดก้นด้วยจังหวะฟลามิงโก้ แลมมีลีลาพิเศษกระโดนหมุนตัว 360 องศาแบบท่าบัลเล่ต์ ::007::

วงดนตรีมาแล้วครับ แก่แล้วแต่ใจยังให้แบะเสื้อโชว์ขนหน้าอกเหมือนกัน กิ๊ก กิ๊ก

ขอชมรูป"สาเหตุ"ที่คุณต๊อกต้องไปสเปนแบบชัดๆซักรูปสิครับ  :VOV:

ถึงคิวเยอรมัน มาหลังกองทหารก้นบิด กลายเป็น ชืด ขรึม เชย ไม่เร้าใจเลยครับ ::008::

สเปนมาอีกแบบย้อนยุคประมาณปลายศตวรรษที่ 18-19 ตอนต้น แบกปืนคาบศิลา

 :)

เครื่องหลังพร้อม ::002::

 :D

ย้อนยุคเรอเนสซองค์

 ;D

ควงและโยนธงด้วยครับ

กองนี้อิตาเลี่ยน ขนนกเป็นช่อแบบเอาทั้งฝูงมาทำเลย

ตำรวจนำแต่ละขบวนครับ ตำรวจเมืองนี้ใช้ กล๊อก 17 ส่วนตำรวจเมืองหลวงมะดริกใช้ HK USP ::002::

เอ้อ ผมไม่ได้ถ่ายภาพมาครับ กลัวโดนแฟนเขาเขกหัวเอา

ผมชอบมาสเก็ตเตียร์ครับ ::002:: ::002::

ผมขอเปลี่ยนนิดนะครับ.....

ขอดูรูปไกด์ที่พาเที่ยวหน่อยสิครับ.....

เจอวันหน้า....จะได้ไม่ทักผิดทักถูกนะเออ....

อ้า เอ้อ โอ้ ไกด์หรือครับ วันหน้าพี่และคุณเมล์เจอไกด์คนไหนก็คนนั้นละครับ อิ อิ

อืม...ผมใช้บ่อยๆเวลาทักแฟนเพื่อนคือ...อ้าว วันนั้นไม่ใช่คนนี้นี่.....

จากนั้น....เห็นเคลียร์กันยาวทู๊กที อิๆ

(http://www.pixnice.com/upload/files/zrmzwzbyynh5jemxjigz.jpg) (http://www.pixnice.com/upload/)

ผมอ่านแล้วจำชื่อไม่ค่อยได้ครับ  แต่สะดุดรูป ข้างต้นมากที่สุด เพราะของชอบ... :VOV:
ไปปากช่องที่ไร?  แถวทางขึ้นเขาใหญ่ ..ต้องสักนิดทุกที อร่อยที่สุดต้องนั่งกินที่ร้าน
หนังกรอบ  เนื้อนุ่ม ไร้ไขมัน แต่ไม่รู้จะสู้ ที่สเปน ได้หรือเปล่า?..กัดทั้งน่องอย่างนี้แหล่ะ...สุดยอด.. ::002::

(http://www.gunsandgames.com/smf/index.php?action=dlattach;topic=77073.0;attach=129214;image)

ชุดนี้ทหารสวิสการ์ดหรือเปล่าครับ... :D

"(อ๋อย) อ้อ วันนั้นที่พี่เขาเจอ ไม่ใช่ใครที่ไหนหรอก ผมมากับหลานสาวลูกของคุณน้าสะใภ้น้าชายลูกพี่ลูกน้องคุณลุงลูกคุณย่าคนเล็กน่ะเอง..."

กองนี้เป็นสเปนเองครับพี่รุต ทางยุโรปก็ข้ามกันไปข้ามกันมา คล้ายๆ กันทั้งหน้าทั้งชุด อย่างกองนี้ที่ธงเป็น เฟลอ เดอ ลี ของราชวงศ์บูร์บอง ฝรั่งเศส (และตราลูกเสือ) ก็เพราะเจ้าราชวงศ์บูร์บองเคยมาเป็นเจ้าสเปน จากการแต่งงานไปๆ มาๆ และการสืบอำนาจการปกครอง พื้นที่ปกครองของเจ้ายุโรปข้ามไปข้ามมาไปหมด ก่อนหน้านี้ราชวงศ์ แฮปสเบิร์กของออสเตรีย หรือที่จริงของยุโรปหลายประเทศก็เป็นเจ้าส่วนหนึ่งของสเปนด้วย คือ ชาลส์ ที่ 5 สเปนเรียก คาร์ลอสที่ 5 อย่างอิตาลีแคว้นทัสคานี่ก็ใช้ตรา เฟลอเดอลี เหมือนกันเพราะตระกูลเมดิชี่เจ้าเมืองฟลอเรนซ์ก็แต่งงานกับพวกบูร์บอง จุดเปลี่ยนประวัติศาสตร์ยุโรปยุคนึ่งคือสงครามสืบราชบัลลังค์สเปนเพราะมีผู้มีสิทธิหลายวงศ์จนต้องรบกันกว่าจะตกลงได้

สวิสไปเป็นทหารรับจ้างในฝรั่งเศสสมัยบูร์บองมีชื่อมากเหมือนกันครับ แคว้นอิตาลีรวยๆ ก็ใช้ทหารรับจ้างฝรั่งเศส คนสวิสเคยบอกผมว่าเมื่อก่อนเมืองสวิสจนครับ ชาวบ้านเลี้ยงวัวไปตามเรื่อง การค้าก็ไม่เจริญเพราะเป็นเทือกเขาเดินทางไม่สะดวก คนเลยต้องออกไปขายแรงงานเป็นทหารรับจ้าง

หมูนี่ออกเค็มๆ ครับพี่ น้ำในจานนี่ใช้ได้เลย เอาเนื้อหมูจิ้มกำลังพอดี ของสเปนรู้สึกว่าติดเค็มส่วนมาก และทุกที่ต้องเชื่อมือเชฟเพราะไม่มีเครื่องปรุงให้เลยครับ

...ภาพสวย ได้สาระความรู้ครับ  ::002::

 ::007:: ::007:: :D :D5555555  +1 ครับคุณต๊อก

ขาหมูนี่ :D~กับผมไม่ค่อยมีปัญหากันเลยครับ(รับรองเกลี้ยงจาน)   :D~  แต่ไอ้น้ำแดงๆ :VOV:ถ้วยข้างๆนี่มันอะไรครับ :D~น่ากินชะมัดกินแล้วขาชาตาปรือหรือเปล่าครับ(ผมมันนิยมของรุนแรงเสียด้วย ;D)

...ขาหมูย่างน่าทานจริงๆ  :D~

...ไวน์แดงของสเปนมีหลายตัวทีรสชาติเด็ดดวง มีชื่อเสียงมากครับ  ::002::

อิ อิ น้ำผลไม้นี่เหรอครับพี่ ทำให้ตอนแรกตาสว่าง แล้วก็ปรือๆ เล็กน้อยครับ เบียร์ยี่ห้อแพร่หลายที่โน่นก็พอใช้ครับ แต่จืดหน่อยคล้ายคาล์สเบิร์ก ชื่อออกเสียงว่า "เมา"

ตามธรรมดาหมูเขาจะกินเป็นแฮมครับ เป็นแฮมรมควันแบบแห้งครับ ตามร้านเขาจะแขวนไว้ทั้งขามีหลายสิบหรือเป็นร้อยๆ แบบแล้วแต่ตำรับการรมและพันธุ์หมู สั่งแบบไหนเขาจะแล่มาให้บางเฉียบ

ร้านในสยนามบินยังมีขายแฮมทั้งขาครับแบบว่าให้แบกขาหมูยาวเกือบหลาขึ้นเครื่องกันเลย มีร้านแฮมโดยเฉพาะชื่อ Museo de Jamon มูซิโอ คือ มิวเซียม ฮามอน คือ แฮม ครับ ตั้งชื่อไปงั้นเอง ร้านนี้ขายแฮมนั่งกินและเอากลับบ้าน มีหลายสาขาครับ

กษัตริย์ ฮวน คาร์ลอส จะชอบเสด็จร้านอาหาร ถ้าโปรดอาหารร้านไหนจะพระราชทานรูป เจอร้านหนึงที่ลานหน้าวิหารในเซโกเวียทีทั้งรูปคิง ฮวนคาร์ลอส และเจ้าชายครับ

รูปนี้ลานเมือง เซโกเวีย เวลาประมาณห้าทุ่มครึ่ง ชาวประชาหน้ามีหนวดยังนั่งกันแน่นลานครับ

ร่้านนี้ได้รับรูปทั้งของกษัตริย์และเจ้าชาย

หน้าร้านครับ 8)

เห็นภาพร้านแล้วเขากินกันข้างถนน แต่คงจะดีกว่าข้างถนนเมืองไทยแยะ เพราะไม่มีฝุ่น........หิวครับ :D~

สาขาหนึ่งของ "พิพิธภัณฑ์แฮม" ในมะดริก ;D

พี่ ๆ เรื่องแฮมขอเป็นหลังเที่ยงได้หรือเปล่าครับ โพสช่วงนี้ทำร้ายจิตใจกันเห็น ๆ  :D~

ประเทศยุโรปใต้อย่างนี้ทั้งนั้นครับตามฟุตบาทที่มีที่ และตามลาน เพราะอากาศไม่หนาวไป ตามลานเขาจะห้ามรถเข้าอยู่แล้ว มีถนนแค่ตามขอบๆ คนสเปนนั่งกินนานๆ ไม่เร่งร้อนครับ

อ้าว ไม่ตุนของกินไว้ที่ทำงานเหรอครับ ฮ่า ฮ่า

เดี๋ยวครบชั่วโมงเอาคะแนนไปอีกครับคุณต๊อก  ตอนนี้กำลังกินข้าวเหนียวกับอาหารเหนือ  ::006::     ::010::  (เมียเป็นสาวเหนือ)เห็นภาพแฮมแล้วน้ำย่อยมาครับ :D~

ผมแพ้อาหารพวกนี้ครับพี่ เมียพาไปเดินFOOD LAND พัทยา เจอของพวกนี้ผมจะตายซะให้ได้
ทั้งแฮม ทั้งชีส ไส้กรอก ไอติม ฯลฯ ต้องบอกเมียว่าวันหลังอย่าพามาเดินอีก เดินแล้วไม่ซื้อแบบนี้ทำร้ายจิตใจกัน :~)

ขอบคุณมากครับพี่อภิสิทธิ์

โอ้ คุณซีอุสไปอยู่เมืองฝรั่งคงอ้วนจึ้นจมครับ อิ อิ พวกนี้ทางโน้นยั๊วเยี๊ยไปหมด แบบแห้ง แบบชุ่ม แบบบาง แบบหนา กลิ่นอย่างนั้นอย่างนี้ มันติดเนื้อนุ่มเนียนละลายได้ในปาก...

555   เห็นโลโก้ท่านดอนของคุณเซอุสผมก็รู้แล้วว่าโปรดปรานอาหารยุโรป อย่างหนึ่งที่สะเต็กเมืองไทยสู้ฝรั่งไม่ได้ผมว่าคือน้ำเกรวี่นะครับ

ถ้ายังไม่เบื่อผมขอนำไปเที่ยวต่ออีกที่ครับ พระราชวังฤดูร้อน ลา กรานฮา ซึ่งแปลว่า The Farm หรือ บ้านไร่ นั่นเอง นับเป็นพระอารมณ์ขันของกษัตริย์สเปนที่ตั้งชื่อวังอย่างนี้ ลากรานฮา นั่นรถเมล์ออกไปจาก เซโกเวีย ประมาณครึ่งชั่วโมง ตอนจะออกรถขยับแล้วเด็กวัยรุ่นสเปนวิ่งมาเคาะประตูขอขึ้น ลุงคนขับเปิดประตูแล้วแกด่า "ไม่รู้เวลาเรอะยังไง รถเที่ยวนี้เขาวิ่งกันมาตั้งแต่ก่อนสงครามแล้ว" ::005::

พระราชวัง ลา กรานฮา สร้างสมัยกษัตริย์ บูร์บอง อยากให้หรูเทียบเทียม แวร์ซาย แต่ที่จริงได้ไม่เท่า

ภาพนี้ด้านหน้าทางเข้าครับ

ภายในมีงานศิลป์มากมายแต่ห้ามถ่ายรูปครับ เครื่องเฟอร์นิเจอร์ต่างๆ ก็ยังอยู่ครบส่วนมากทั้งโต๊ะ แท่นบรรทม ของประดับ ฯลฯ มีนาฬิกาลูกตุ้มเล็กๆ โบราณ ที่กษัตริย์หลายองค์สะสมไว้ บางเรื่องอายุ  2 ร้อยกว่าปี เขาก็ให้เดินอยู่

ภาพนี้เลยออกมาในสวนข้างหลัง

 :)

 ;)

 :D

 ;D

รูปปั้นที่เป็นตัวแทนทวีปต่างๆ ครับ รูปนี้ อเมริกา เครื่องสวมหัวแนวพื้นเมืองและมีจรเข้

 :D

ทางเดินออกจากสวนมาด้านข้างครับ

 ;D

นอกจากนี้ข้างวังมีโบสถ์หรือหอสวดประจำวังด้วยครับ มีกระดูกนักาุญเก็บในตู้กระจกและโลงพระศพกษัตริย์บางองค์ ห้ามถ่ายภาพเช่นกัน

ป้อมอัลคาซาร์ใน เซโกเวีย ครับ ใช้งานมาตั้งแต่ยุคกลางจนถึงยุคใกล้ปัจจุบัน อิ อิ ต่อมายุคดินปืนใช้เป็นโรงเรียนทหารปืนใหญ่ สมัยนโปเลียนมาตีสเปนก็มีการรบที่หน้าป้อมนี้ครับ รูปนี้เป็นระเบียง ก้อนหินกลมๆ แบบนี้สมัยก่อนใช้เป็นกระสุนปืนใหญ่ด้วย ปืนใหญ่บรรจุปากยุคแรกๆ ความเร็วไม่สูง และโลหะมีค่าเกินไป ขุด ถลุง ยาก เอาหาทำเป็นก้อนใหญ่ๆ ยิงใส่กันมากเปลืองไป เลยมีการใช้หินมาสกัดเป็นกระสุนกันอย่างแพร่หลาย

อนุสาวรรีย์สำหรับทหารที่รบกับนโปเลียนเสียชีวิตหน้าป้อมนี้

อนุสาวรีย์สเปนสร้างให้ออกท่าเร้าใจกว่าแนวเก๊กขรึมอย่างอังกฤษครับ มีชื่อร้อยเอกทหารปืนใหญ่ที่เสียชีวิตตรงลานนี้  ::014::

จากที่เขียน นายร้อยเอกทหารปืนใหญ่ D.Luis ... Y (และ) D.Pedro   D. ในที่นี้คือ Don ครับ เรียกยกย่องสูงกว่าคำนำหน้า ซินยอร์ เจ้าหน้าที่ต่างชาติเขาก็ให้เกียรติเขียน D. หน้าชื่อในบัตร

เข้าไปข้า่งใน ลานกลางป้อมครับ

อีกลานหนึ่งในป้อม

ภานในห้องต่างๆ แสดงเกราะยุคกลาง

 :)

ที่ KL ผมทุบจานไปหลายใบแล้วครับ  ;D ;D 

สวยมากครับพี่ น่าไปเที่ยวจัง ขอบคุณครับ
นี่ครับกองพันต่างแดนคล้ายๆของฝรั่งเศส
http://en.wikipedia.org/wiki/Spanish_legion (http://en.wikipedia.org/wiki/Spanish_legion)

เกราะ 2 ชุด แรกเป็นเกราะดวล ใช้เวลาประลองยุทธ ขี่ม้าวิ่งเข้าแทงกัน หน้าอกเกราะด้านขวาจะวีเดือยขึ้นมาช่วยรับน้ำหนักหอกครับ โดยเฉพาะโล่ที่ติดกับเกราะตัวที่สอง เป็นลักษณะที่ใช้ดวลโดยเฉพาะ

ในการดวล ถ้าเป็นการดวลเพื่อกีฬา ปลายหอกจะทำเป็นไม้ปลายแฉกให้ไม่แตกออกเวลากระแทก แต่ถ้าดวลถึงตาย เช่น แชมเปี้ยนต่างเมืองดวลกัน ก็ใช้อาวุธมีคมจริงๆ

ในการดวลถึงตาย นอกจากหอกปลายเหล็กแหลมแล้วแชมเปี้ยนก็จะพกอาวุธอื่นๆ เต็มอัตรา เช่น ดาบ ขวาน ลูกตุ้ม ตามถนัด เมื่อเริ่มวิ่งเข้าแทงหอกกันอาจพยายามแทงให้ข้าศึกตกม้าแล้วจัดการต่อหรือพยายามแทงตายเลย เทคนิกหนึ่งคือการยกปลายหอกขึ้นเล็งที่คอ ถ้าแทงถูกรับรองตายแน่ครับ คนและม้าศึกหุ้มเกราะสองข้างวิ่งเข้าปะทะกันตรงๆ ปะทะกันแรงมาก คอไม่หักก็อาจหัวหลุดไปเลย ที่นิยมเล็งคอเพราะหมวกเหล็กจะออกแบบให้โป่งด้านหน้า เพื่อให้ปลายหอกแฉลบออก

เกราะตัวนี้ไม่มีเดือยรับทวน แต่คนจัดท่าคงมึนไปหน่อย อิ อิ

ชุดเกราะหน้าแหลมเพื่อให้ปลายอาวุธแฉลบออกครับ ;D

(http://www.gunsandgames.com/smf/index.php?action=dlattach;topic=77073.0;attach=129205;image)

ทหารช่างหรือเปล่าครับ สะพายเลื่อยด้วย  :o  :o

หมวกเหล็กที่ออกแบบป้องกันดาบฟันจากด้านบน คมดาบที่ฟันลงจะแฉลบออก โดยที่หัวไม่นับแรงโดยตรง

(http://www.gunsandgames.com/smf/index.php?action=dlattach;topic=77073.0;attach=129205;image)

ทหารช่างหรือเปล่าครับ สะพายเลื่อยด้วย  :o  :o

[/quote]

คนอื่นมีเสียม และขวานด้วยครับพี่ ข้อมูลบอกแค่ว่าเป็นกองทหารราบเบา ของ กษัตริย์ อัลฟองโซที่ 13 ซึ่งเป็นปู่ของกษัตริย์ปัจจุบัน

 :D

(http://i949.photobucket.com/albums/ad333/ranthong_album/1.jpg?t=1254292570)

นี่คงเป็นเมียพระเจ้าแผ่นดินสเปน ตอนมีชีวิตอยู่ท่าจะดุมากครับกวดขันผัวจนหงอ เวลาตายตาผัวเลยให้ช่างปั้นเป็นสิงโตเสียเลย ::005::  55555

+1อีกครับ

(http://i949.photobucket.com/albums/ad333/ranthong_album/2.jpg?t=1254293562)

รูปสวยๆพวกนี้คงอยู่บนเวปปืนเราไม่นาน ก็คุณต๊อกแนบไฟล์รูปไว้เวปปืน(ไม่ฝากรูปไว้ที่เวปฝากรูปอ่ะครับ)

(http://upload.wikimedia.org/wikipedia/commons/thumb/7/75/Legionario.JPG/275px-Legionario.JPG)


แล้วจะรบชนะใครเขาป่าวเนี่ย หน้าตาไม่ให้เล๊ยพับผ่า    ::005::

เคยมีโอกาสได้กินอาหารพวก แฮม ชีส ใส้กรอก ปลาแซลมอนรมควัน พาสต้า เนื้อแกะย่าง ไข่ต่าง ๆ ขนมเคก เบเกอรี่ไอติมเชอร์เบ็ทฯลฯ ผมก็สวาปามซะ หลายวันอยู่ แต่สุดท้าย เบื่อครับ สู้น้ำพริกบ้านเราไม่ได้ซักอย่าง
ที่ได้กินเพราะเขาให้ผมไปเป็นเด็กเสริฟในโรงแรมแห่งหนึ่งครับ หัวหน้าเด็กเสริฟแก่มีนโยบายว่า ของในถาดที่ให้แขกตักถ้าเหลืออยากกินก็กิน แต่ถ้าโดนจับได้ห้ามบอกว่าแก่อนุญาต...ผมเลยจีบเด็กฝึกงาน+ผ/ช แม่ครัว(คนทำพาสต้า ออมเล็ต ย่างเนื้อแกะ ในค๊อบฟี่ช๊อบ 1 คนเตรียมของใส่ถาด 1 คน ของหวาน 1 คน) เลยไม่ต้องเสี่ยงไปตักให้ใครเห็นเพราะน้อง ๆ เขาตักใสจานเตรียมไว้ให้ผมทานหลังครัว:DD......ตอนนี้ รร.ดังกล่าวเจ๊งเอ๊ยหมดสัญญาเช่าไปอยู่ที่อื่นแทนที่เก่าแล้ววครับ ;D
ปล.น้อง ๆ เขาเล่นด้วยครับ เพราะผมแสดงเจตนาชัดแจ้งว่าจีบเพื่อหาของกินมิใช้ด้วยเรื่องชู้สาว ;D

ฮิ ฮิ หน้าตาแกง่วงนอนสงสัยตื่นเช้าไปครับ คนสเปนไม่ชอบทำอะไรเร่งรีบ เขามีคำพูดคล้องของกัน ความแบบว่า "ใจเย็นเยนน.. รอพรุ่งนี้ก็ด้าย.." คนละขั้วกันเลยกัยญี่ปุ่น หรือยเรอมันที่ผมเคยได้ยินจากปาก ดร. เยอรมันว่า สุภาษิตเยอรมันบอกว่า "ทำงานก่อนแล้วค่อยสนุกสนาน" ตอนนั้นผมไปรับ ดร. แกบินมาจากเวียนนา เครื่องลงตอนบ่าย ผมส่ง รร. แล้วบอกว่า ยูพักผ่อนก่อนเดี๋ยวตอนเย็นจะมารับไปกินข้าว แกบอกว่า ไม่เป็นไร เอาตารางงานพรุ่งนี้มาบรีฟกันเลยดีกว่า สุภาษิตย. เขาว่า...

อิ อิ ผมฝากรูปไม่เป็นอะครับ รูปสฟิงค์สเปนนี่ผมดูแล้วเก็บหางพันขึ้นข้างบนก้นไม่ได้ทำให้หางพาดไปกับพื้นครับ ที่ร้านของที่ระลึกทำเป็นตัวยาวคืบกว่าสวยดีเหมือนกันแต่แพงไปหน่อย

นั่นแน่ท่านเลขาซีอุสรีบออกตัวเชียว ยังไม่มีใครบอกว่าจีบไว้อย่างอื่นสักหน่อย คราวหน้ามา กทม. ไปกินร้านสเปนกันนะครับ โทรหาผมเบอร์เดิมครับ

ปืนใหญ่แบบที่นอนอยู่นี้เป็นปืนใหญ่ขนาดเล็ก ไม่ได้ตั้งบนแคร่มีล้อ ท้ายลำกล้องเปิด การบรรจุทำเป็นกระเปาะรังเพลิงบรรจุดินปืนและกระสุนแล้วยกมาสวมท้ายยิง เปลี่ยนกระเปาะใหม่ได้เร็วครับ

 ;D

หน้าไม้ประกอบเครื่องกว้านขึ้นสาย

หน้าไม้ของพระเจ้า คาร์ลอสที่ 5 หรือ ชาลส์ที่ 5 หรือที่ประวัติศาสตร์ยุโรปเรียกว่า ชาลส์พระเศียรล้าน

ในหนังสือของ เอริค มาเรีย เรอมาร์ค แนวรบด้านตะวันตกฯ มีตอนหนึ่งที่ทหารพูดถึงบทเรียนในโรงดรียนก็มีกล่าวถึงพระเจ้าชาลส์นี้ครับ

ทางเข้าพิพิธภัณฑ์โรงเรียนทหารปืนใหญ่ที่เคยอยู่ในป้อมนี้ มีปืนครกแบบครกจริงๆ ด้านซ้ายของประตู ::002::

Hot shot หรือกระสุนร้อน เป็นวิธีการยิงกระสุนเพลิงแบบหนึ่ง คือเอากระสุนไปเผาไฟให้ร้อนแดงแล้วคีบขึ้นมาหย่อนลงลำกล้อง พอกระสุนไหลลงไปโดนดินปืนก็จะยิงออกไปเอง นิยมใช้ยิงเรือครับ กระสุนร้อนแดงไปตกตรงไหนจะทำให้ติดไฟโดยเฉพาะถ้าไปถูงถังดินปืน หรือคลังดิดำ รับรองกระจุยทันที

แบบจำลองแสดงการวัดอัตราบรรจุดินปืนครับ เอาลำกล้องปืนใหญ่ขึ้นแขวนแล้วลองยิงดู

แบบจำลองการผลิตลำกล้องปืนใหญ่

ชมห้องอื่นบ้างครับ ห้องนี้แสดงบังลังค์ยุคกลาง ไม่วิจิตรมาก

เพดานห้อนเว้าขึ้นแบบท้องเรือ

เพดานของอีกห้องหนึ่ง

เพดานอีก ::002::

...อลังการมาก สมกับความเป็นมหาอำนาจในอดีต

ขอบบนผนังมีหุ่นเจ้าสเปนแคว้นคาสติลที่รบกับพวกมัวร์มา

กระจกสีห้องต่างๆ ครับ

 :D

ตราอาร์มบนโล่เป้นรูปสะพานส่งน้ำโรมันที่เซโกเวียนี้ครับ

วิวจากกำแพง สูงขนาดนี้เข้าตีไม่ไหว

 :o

 ;D

บนป้อมบน มีบ่อหย่อนถังไปตักน้ำจากใต้ถุนได้

 :VOV: รูปสวยมากครับพี่  ::005:: ...................ว่าแต่ไม่มีรูปสาวสเปนชัดๆสักใบเหรอครับ  ::007::

มองลงไประเบียงชั้นล่าง

จากกำแพงป้อมมองเข้าเมืองครับ

แวะเข้าเมืองหลวงมะดริกครับ ต่อไปคือวังหลวงกลางเมือง พาลาสโซ่ รีอัล หรือ รอยัล พาเลส นั่นเอง บางส่วนเปิดให้ชมแต่ปิดเมื่อมีงานพิธี ตามธรรมดากษัตริย์ ฮวน คาร์ลอส จะประทัปที่อีกวังนอกเมืองครับ

ด้านหน้าของ พาลาสโซ่ รีอัล

ด้านหลังครับ

เหมือนเขาวงกต เลยครับ ;D

ด้านข้าง

ด้านข้างอีกเหมือนกัน ใหญ่ดีครับ ใหญ่กว่าวัง บั๊กกิงแฮม ของอังกฤษ

บริเวณโดยรอบ จากด้านหน้าวังมองออกไปคือ วิการประจำมาดริก เป็นวิหารสมันใหฒ่เริ่มสร้างตอนศตวรรษที่ 19 แตามาเสร็จหลังสงครามโลก ข้างในเป็นแนวสมัยใหม่ ไม่วิจิตรเหมือนของโบราณ สเปนหลายคนบอกว่าไม่ชอบ ;D

วิหารโดยรวมครับ ถ่ายคนละวัน

ด้านข้างวังครับ อาคารตรงกลางคือด้านหลังของโรงละคร ผมไปดูรายการเพิ่งมีบัลเลต์คณะบอลชอยจากรัสเซียมาแสดงเมื่อ 2 วันก่อนพอดี ::013::

บริเวณด้านข้างเหมือนกันครับ

บริเวณนี้มีอนุสาวรีย์นายร้อยเอกอีกคนเหมือนกัน ไปเสียชีวิตในการรบนอกประเทศ ออกแบบดีครับ ::002::

ศูนย์ข้อมูลการท่องเที่ยวเคลื่อนที่ (ได้จริงๆ) เปิดหน้าร้านได้ขนาดนี้ รถบะหมี่ชายสี่เรียกพี่ครับ ;D

ครับพี่ ตอนนี้สเปนไม่มีบทบาทระดับโลกชั้นแนวหน้าแล้ว ช่วงศตวรรษที่ 16- กลาง 16 สเปนครองอำนาจกว้างขวางมากที่สุดในโลกจริงๆ จนกระทั่งปี 1588 กองเรืออามาดาสเปนล่มไปด้วยพายุ แล้วอังกฤษเข้าครองทะเลแทน

ผมว่าเขายังพัฒนาการท่องเที่ยวได้อีกมาก ในสเปนเองอย่างแรกควรฝึกให้คนที่เกี่ยวข้องกับการท่องเที่ยว เช่น พนักงานการรถไฟ พูดอังกฤษให้มากกว่านี้ 

ถ้าขายบะหมี่จนซื้บเบนซ์ได้ ไม่แพงมากก็ต้องอร่อยมากละครับ ;D

ยินดีครับ ขอบคุณครับ อิ อิ ที่จริงเมืองทางใต้ก็มีศิลปและสถาปัตยกรรมอลังการมากครับ ในสตาร์วอร์ Episode 2 ก็ลอกรูปเมือง เซวิย่า มาเป็นดาวนาบู

มาช่วยแป๊ะลิ๊งครับ ::014::
อันนี้เป็นลิ๊งสถานที่ที่เขาใช้ถ่ายทำภาพยนต์
www.movie-locations.com/movies/s/sw_attack.html (http://www.movie-locations.com/movies/s/sw_attack.html)

                                                       ขอ อนุญาต เติม  4 ภาพ ครับ


(http://img41.imageshack.us/img41/3886/mg0864copy.jpg) (http://img41.imageshack.us/i/mg0864copy.jpg/)

(http://img199.imageshack.us/img199/4555/mg0846copy.jpg) (http://img199.imageshack.us/i/mg0846copy.jpg/)

(http://img188.imageshack.us/img188/5923/mg0817copy.jpg) (http://img188.imageshack.us/i/mg0817copy.jpg/)

(http://img23.imageshack.us/img23/5804/img5614copy.jpg) (http://img23.imageshack.us/i/img5614copy.jpg/)

คนเต้นดูหน้าเครียดพิกลนะครับพี่ ;D
ว่าแต่ จขกท.จะพาไปเที่ยวต่อหรือยังครับ ผมแต่งตัวมารอแต่เช้าแล้ว ;D

ขอบคุณมากครับคุณซีอุส และพี่แฟบรี

หน้าเครียดและวัยแบบนี้รับประกันฝีมือเต้นสุดยอดแน่ๆ เลย

ขอเริ่มต้นพาเดินชมเมืองหลวงครับ วันนี้ข้นรถใต้ดินไปโผล่ที่ พลาซ่า โซล ซึ่งเป็นแหล่งคึกคักเหมือนสยามสแควร์ โซล เป็นลานโค้งรูปครึ่งวงกลมไม่ได้เป็นพลาซ่า หรือลานที่ใหญ่ที่สุดในมะดริกแต่คึกคักกว่าเพราะมีร้านรวงขนาดใหญ่มาก และมีสถานีรถไฟใต้ดินชุมทางโผล่ขึ้นมากลางลานพอดี สเปนไม่ได้เป็นประเทศร่ำรวยหรือไฮเทคแนวหน้าของยุโรปตะวันตกปัจจุบัน แต่บริหารจัดการบ้านเมืองได้ดีมาก มีรถไฟใต้ดินสิบกว่าสาน โผล่ขึ้นครอบคลุมพื้นที่เมือง เดินทางสะดวกไม่แพ้ลอนดอน

ข้างลาน โซล มีสัญลักษณ์เมือง มะดริก หมีตะกายต้นเบอรี่ ข้อมูลหลายแหล่งชอบบอว่าเป็นสตอเบอรี่ แต่ที่จริงไม่น่าใช่เพราะสตดเบอรี่นั้นเป็นพุ่มสูงแค่แข้ง อิ อิ

ตึกฝรั่งตรงกันข้ามที่เป็นคือกระทรวง มท. สเปน ครับ มีตำรวจยืนเฝ้าหลายคน และมีแผ่นป้านไว้อาลัยผู้เสียชีวิตในเหตุการณ์สำคัญ เช่น ที่โดนทหารนโปเลียนฆ่าในวันที่ 2 พ.ค. 1808 โดยการชุมนุมต่อต้านการปกครองของฝรั่งเศสเริ่มที่ลานนี้ (ตาม่ี่โกย่าได้วาดภาพมีชื่อไว้) และล่าสุดไว้อาลัยคนที่ตายในการวางระเบิดรถใต้ดินโดยผู้ก่อการร้าย

ซอยข้างลานจะขึงแผ่นบังแดดแบบนี้ เพราะช่วงหน้าร้อนมะดริกร้อนเอาเรื่องเหมือนกัน 38-39 องศาเซลเซียสก็มีครับ แต่ร้อนขนาดนี้ไม่กี่วัน

ที่เป็นป้ายสีเขียวคือห้าง คอร์เต้ เป็นห้างที่มีหลายสาขาแบบเซ็นทรัลบ้านเรา แถมจัดของคล้ายๆ กันซะอีก ชั้นล่างเป็นเครื่องสำอางค์ ไม่ทราบว่าเป็นภูมิปัญญาร้านขายของสากลหรือไม่? สุภาพสตรีจะได้เห็นและเข้ามาซื้อได้เลยไม่ต้องขึ้นไปข้างบนให้เมื่อยน่องและรองเท้าส้นสูงสึก

ที่ โซล มีห้างคาร์เต้ 3 ตึก เป็น ห้างขายของทั่วไป / ร้านหนังสือ และร้านดนตรี-ภาพยนต์ ภายในร้างเชยมาก ดูเหมือนเซ็นทรัลเมื่อ 20 ปี ก่อนเป็นอย่างน้อย ไม่ตบแต่งพิศดารอย่างเซ็นทรัลปัจจุบัน หรือเอมโพเรียม คาเฟทีเรียก็มีร้านเดียว ไม่พอนั่ง แต่เขาขายข้าวของหลากหลายดีมากกว่า ร้านดนตรี-ภาพยนต์ มีซีดีเพลงเก่าๆ แบบ บอง โจวี่ ชุด 1-2 ภาพยนต์คลาสสิกเก่าๆ มีมากขนาด แดรกคูล่้า ปีเตอร์ คุชชิ่ง แสดง เคาบอย จอนห์น เวน แสดง ก็มีครบ ภาพยนต์ต่างชาติก็มีมาก เลยได้โอกาสซื้อดีสีดีเรื่องแปลกๆ เช่น วอเตอร์ลู (ขนาดหาในอเมซอนไม่ได้) นักโทษแห่งเซนด้า (เจมส์ เมสัน แสดง) และ ลาก่อนเมียน้อยของฉัน ภาพยนต์จีน กงลี่ แสดง ซึ่งดันมีแต่เสียงจีน บรรยายสเปน กับเสียงพากษ์สเปน

ดูแผนกภาพยนต์ซึ่งแปลชื่อเป็นสเปนแล้วทำให้รู้คำนิดหน่อย เช่น โซโร = จิ้งจอก (เรื่องเกี่ยวกับรอมเมล) / แบนเดอราส = ธง (เรื่อง ธงของพ่อพวกเรา)

เดินไปทาง พลาซ่า มายอร์ หรือ เมเจอร์ พลาซ่า ลานหลักของมะดริกจะเจอ กระทรวงการต่างประเทศสเปน เป็นตึกเก่าที่เคยเป็นสำนักงาน Inquisition หรือสำนักงานสอบสวนของคริสตจักรหัวรุนแรงที่ชอบจับคนมาทรมานให้ยอมรับว่าทำบาปแล้วเอาไปเผาหรือฆ่าแกงอย่างโหดๆ :-\

ทางเข้าพลาซ่ามายอร์ครับ

พลาซ่า มายอร์ เป็นลานกลางเมืองเอนกประสงค์ของมะดริก ใช้งานทุกอย่างตั้งแต่ชุมนุม แถลงการณ์ สวนสนาม ประหารชีวิต หรือแม้แต่สู้วัวกระทิง ก็สเปนนี่นะ ขอนอกเรื่องว่าจัตตุรัสแดง ซึ่งทรงจริงๆ คือ ผืนผ้าแดง ของกรุงมอสโคนั้นเวลาเอารถถังมาสวนสนามต้องติดแผ่นยางพิเศษที่ตีนตะขาบเพื่อป้องกันพื้นหินเสียหายครับ

รูปนี้จะเห็นวนิพกเล่นแอคคอเดี้ยนอยู่ตรงกลาง

ตรงไหนในสเปนมีที่ว่าง ต้้องมีบาร์มีร้านอาหาร :D~

ต่อไปจะพาไปที่น่ากลัวครับ โฟโต้ ฟรอม เดอะ คริปปป ภาพจากห้องใต้ถุนฝังศพ บรื่อออ....

ห้องใต้ถุนฝังศพของวิหาร อามูเดน่า วิหารประจำกรุงมะดริกในภาพเมื่องานนั้นเอง ในโบสถ์ฝรั่งจะฝังศพใจคริป โดยฝังกับพื้นมีแผ่นหินปิดไว้ คนอื่นก็เดินเหยียบไปมา หรือบางทีก็เป็นโลกตั้งไว้ หรือไม่ก็เป็นโลกตั้งไว้ในโถงโบสถ์ข้างบนเลย

เสียตังค์ค่าเข้าใต้ถุน (ตามระเบียบ) ส่วนโบสถ์ข้างบนไม่เสียครับเขาถือว่าเข้าวัดเข้าวา แต่ลงใต้ถุนถือว่าสอดรู้สอดเห็น

ภาพห้องใต้ถุน...

 :P ตามระเบียบเหมือนกัน โบสถ์เมืองใหญ่ ห้องใต้ถุนยังใหญ่ ไม่มีบรรยากาศวังเวงน่ากลัวแม้แต่น้อย ที่จริงเหมือนโบส์อีกชั้น มีแท่นบูชา และแท่นสวดมนต์ตามที่ต่างๆ ที่เห็นนี้คือแผงเทียนไฮเทคครับ หยอดเหรียญแล้วหลอดจะสว่างประหนึ่งแสงเทียน ท่านก็สวดมนต์ไปได้ตามกำลังศรัทธา (กำลังทรัพย์) ที่จริงเป็นความคิดที่ดีมากครับ ไม่เพิ่มมลพิษในห้อง และไม่ต้องห่วงเรื่องอัคคีภัย ::002::

ตัวอะไรหน้าตาคุ้นๆ อมลูกบอลเหมือนแถวบ้านผมเลย ;D

ตามพื้นเป็นหลุมศพทั้งนั้นครับ ประกอบฝาแน่นหนาดี แต่เดินไปๆ เหยียบหลุมหนึ่ง ฝากระดกกึกๆ ลุงข้างในคงแช่งผม เอ้อ ช่างที่ทำฝาไม่พอดี :<<

สองหลุมนี้มีดอกไม้มาวาง ไปดูแล้วเจ้าของหลุมเสียชีวิตวันที่เมื่อวานเมื่อ 34 ปีก่อน ลูกหลานญาติพี่น้องยังไม่ลืม ::014::

บริเวณกั้นพิเศษ น่าจะเป็นของพระราชวงศ์ แต่ผมยังไม่ได้ไปหาข้อมูลครับ เอ้อ

ขอบคุณครับ...สําหรับเรื่องราวและภาพสวยๆ....จะตามอ่านไปเรื่อยๆ...จนกว่าจะเห็นรูปไกด์...

ระหว่างนี้.....บวกคะแนนให้ไปเรื่อยๆ.....จนกว่าจะเบื่อกันไปข้างหนึ่ง.....

แนวกลางใต้ถุนมีม้านั่งและแท่นบูชาด้านหน้าเหมือนโบสถ์ทั่วไปครับ

วิหาร อามูเดน่า นี้เริ่มสร้างปลายศตวรรษที่ 19 ต่อเนื่องมาและหยุดช่วงสงครามกลางเมืองสเปนปลายทศวรรษที่ 30 จนมาเสร็จสมบูรณ์เป็นทางการไม่ถึง 20 ปีมานี้ ศิลปะมีรูปสมัยใหม่ ประตูนี้เป็นประตูข้าง ประชาชนแต่งตัวใส่สูท และมีการนั่งรถเข็นสมัยใหม่ครับ สร้างเป็นศิลปะร่วมสมัยอย่างนี้ก็ดี อีก 500 ปีคนเขาจะได้เห็นว่ายุคนี้แต่งตัวอย่างไรเหมือนเวลาที่เราไปดูโบสถ์เก่าๆ

ภายในวิหาร

 ::002::

โลงศพข้างบนที่มีสัดส่วนของตนเองประดับประดาอย่างนี้ล้วนแล้วแต่เป็นของบาดหลวงและแม่ชีระดับนักบุญครับ เป็นศิลปะสมัยใหม่ก็มี

กระจกสีก็เป็นโมเดิร์นอาร์ท ;D

 :D

เคยเห็นแต่แบบเก่า ๆ แบบนี้ก็สวยแปลกตาดีครับ ;D

ขอบคุณมากครับพี่ ขอบวกคือครับผม

โอ้ จนกว่าผมจะเบื่อไกด์เลยหรือครับ อิ อิ

บอกใบ้หน่อยสิครับคุณต๊อก :D ไกด์คุณต๊อกเป็นคนบ้านเราหรือยุโรปครับ  ..... เนี่ยคันเนื้อคันตัวไปหมดแล้ว ::008::อาการสอดรู้มันกำเริบอ่ะครับ ::005::

ไกด์ผมเป็นทั้งคนยุโรปและคนบ้านเราครับพี่ จริงๆ ครับ ::008:: ::005::

ไกค์ที่ว่า เป็นเพศเดียวกับพี่หรือว่าคนละเพศกับพี่ครับ
เอาละวุ้ย จากกระทู้พาเที่ยวกลายเป็นกระทู้ 20 คำถามซะแล้ว ;D

เมืองเขาสวยจริงๆ ขอบคุณครับ ... 8) 8) 8)

อ่า...นับว่าเป็นโชคดีครับ ::002::  ขอให้คนทั้งสองอย่าได้มาบังเอิญมาจ๊ะเอ๋กันต่อหน้าคุณต๊อกเลยนะครับ ;D ;D

คนเดียวครับพี่อภิสิทธิ์ ::005::

เรื่องนี้ผมไม่ตอบท่านซีอุสแล้วละ อิ อิ ::008::

หวังว่าท่านสมาชิกคงยังไม่เบื่อนะครับ จะขอแสดงภาพต่อเล็กน้อย

ออกที่โล่งเข้าสวนสาธารณะบ้าง สวน เรทิโอ Tetio = Retreat แปลว่า สวนหย่อนใจ นั่นเอง สวนนี้อยู่กลางกรุงใหญ่โตดีมากครับ กว้างยาวด้านละกว่า 1 กม.

ด้ยความเป็นมหาอำนาจระดับโลกในอดีต ชื่อประตู และชื่อน้ำพุ ต่างๆ ในสวนก็ตั้งเป็นชื่อ อาณานิคม ที่ตนไปตั้งถิ่นฐ่นหรือปกครองมา ประตูนี้ชื่อ เมกซิโก ประตูรอบวงเวียนหน้าวัง บั๊กกิงแฮม ของอังกฤษ ก็ตั้งเป็นชื่ออาณานิคทของตนเหมือนกัน เช่น อินเดีย อัฟริกา ฯลฯ

วงเวียนตรงนอกมุมสวนมีประตู อัลคาลา สร้างมาตั้งแต่ศตวรรษที่ 18 และเขายังเก็บร่อยรอยกระสุนจากการรบในสงครามกลางเมืองสเปนไว้ ุกปีจะมีประเพณีต้อนแกะผ่านประตูนี้ครับ

เข้าไปทางประตูเมกซิโกจะเจอรูปปั้นนี้สูงประมาณ 3 เมตร ประชาชนมักมาเลียนแบบท่าถ่ายรูปคู่ :)

ภาพสวยสุดซึ้งครับดูไม่เบื่อเลยกระทู้นี้ผมต้องหาโอกาสไปเที่ยวยุโรปสักครั้งแล้ว  แต่ที่ชอบใจคือเกล็ดเรื่องราวต่างๆอย่างอันนี้อ่ะครับ  หวังว่าพม่าคงไม่บังอาจตั้งชื่อประตูวังของพวกมันว่าอโยธยานะครับ

ด้านหลังก็มีอีกหน้า ;D

พี่อภิสิทะิธิ์ชอบชมสถาปัตย์ งานศิลป์ต่างๆ รับรองเที่ยวสนุกครับ ถ้าจะให้ดีกรุณาสปอนเซอร์ผมไปเป็นไกด์บางที่ก็ได้ครับ จะช่วยบริการยกกระเป๋าเล่าเกร็ดครับ

น้ำพุในสวนครับ อันนี้รู้สึกชื่อเอควาดอร์ สวนนี้สร้างขึ้นมาตั้งแต่ศตวรรษที่ 16 มีพื้นที่มาก

 ;)

อิอิ..จะให้ดีพวกเราจัดกรุ๊ปทัวร์ เฉพาะเวป อวป.ได้สักยี่สิบคนก็ออกรถน่าจะดีนะครับให้คุณต๊อกเป็นวิทยากร...ซู๊ด..พูดแล้วอยากไป ::005::

 :D

น้ำพุนี้แปลกที่สุดครับ ไม่ได้เป็นชื่อประเทศแต่เป็นรูปปั้น Falling Angel เทวดาตกสวรรค์ คือ ลูกซิเฟอร์ ที่กลายเป็น ซาตาน นั่นเอง ตามธรรมดาเขาไม่ทำรูปปั้น/อนุสาวรีย์ ซาตาน กันครับ :<><>

ฐานน้ำพุก็ทำให้ตื่นเต้น เป็นตัว กริฟฟิต ซึ่งเป็นสัตว์ในตำนานมีอวัยวะหลายพันธุ์ และกินจรเข้เป็นอาหาร

 ;D

สเปนฝนตกน้อยเลยต้องมีทางรวมน้ำให้ต้นไม้ และใช้ให้น้ำต้นไม้จากบนเนินให้ไหลลงไปตามเนินได้ครับ

 8)

 ;D

 :D

ลูกก็นอน พ่อก็นอน ;D

ตำรวจแอบซุ่มตามพุ่มไม้ ในสวนนี้มี ตร. ขับรถไปมา และเดินอยู่หลายคนครับ ::002::

ถ้าจะให้ดี ให้พี่วิลฯ เป็นไกค์ อธิบายสถาปัตย์ งานศิลป์ ของกินต่าง ๆ แล้วเอาพี่จอยฯไปเป็นไกค์กิติมศักดิ์ ภาคพระอาทิตย์ตกดิน........... :DD

ทัวร์ยุโรป ถึงจะสมบูรณ์แบบครับ :D~

ในสวนก็ต้องมีบ่อ และเรือให้แจวตามระเบียบอีกแล้ว

บริเวณนี้เป้นรูปปั้นใครก็ไม่รู้ แต่มีแมวมาอยูเกือบ 10 ตัว ครับ วิเคราะห์ด้วยวิชาธรรมชาติวิทยาแล้วอนุมานได้ว่าเนื่องด้วยพื้นที่เป็นทราย เมื่อมีการเข้าครอบครองระบบนิเวศโดยแมวผู้นำแล้ว บรรดาแมวทั้งหลายเลยมายึดเป็น "สุขา" ครับ :DD

พี่อภิสิทธิ์และคุณซีอุสครับ ถ้าเป็นพลพรรคชาว อวป. ไปเที่ยวเจาะตรงพิพิธภัณฑ์ทหาร และอาวุธเลยดีกว่า ฝรั่งมักจัดทำพิพิธภัณฑ์การทหารไว้อย่างดี รวมทั้งสนามรบสำคัญด้วย เช่นในลอนดอนก็มีที่ Imperial War Museum, Tower of London, Army Museum, Guard Museum ออกไปหน่อยก็มีของทหารปืนใหญ่ กองทัพอากาศ เมืองอื่นก้มีอย่างที่เคนท์ มีเกี่ยวกับกองทัพอากาศ ที่เคมบริดจ์มีของกองบินเมกันสมัยสงครามโลก ทางเหนือที่เมืองลีด ก็มีอามอรี่มิวเซียมโดยเฉพาะครับ

 ;D

 8)

จัดสักยี่สิบวันครับคุณต๊อก ;D..... :D~ :D~ :D~

อย่าได้พาแฟนไปด้วยนะ.....

ผมเคยไปกันเอง.....ล่องขึ้นเหนือจากLondon...ไปถึงEdinburgh.....แล้วขากลับแวะนอนมาตลอดทาง....พอไปเอง....ก็ได้ไปอย่างที่เราอยากไป...

Imperial war Museum / Army Museumเนี่ย.....สงสารแฟนเลย.....ไอ้เราสนุก แต่เขาคงไม่สนุกด้วย.....

สวยจังค่ะ...อธิบายละเอียดดีจัง..... ::002::

น้องต๊อกเตรียมตัวเป็นไกด์ได้เลย.... ::005::

+1

ครับพี่ไดเมียว อิ อิ อิ

ขอบคุณครับพี่โม่ และคุณ STEYR47

...+1 แต่เช้าครับ  ;D

จบหรือยังครับพี่ ยังเที่ยวไม่หน่ำใจเลย ;D

ขอบคุณครับพี่โคด้า

อิ อิ ต่ออีกครับคุณซีอุส เข้าเรื่องปืนผาหน่อย คือพิพิธภัณฑ์ทหารเรือ ที่นี่ผิดธรรมชาติสเปนมากคือเปิเถึงแค่ บ่านสองโมง ที่อื่นจะเปิดถึง 6 โมงเย็นครับ แต่ไม่เสียค่าชม มีการตรวจรักษาความปลอดภัยมาก กระเป๋าต้อง X-ray และขอจดหนังสือเดินทาง หรือบัตร ปชช. ของคนสเปน ทั้งนี้เนื่องจากสเปนยังมีปัญหาความมั่นคงภายในจากกลุ่ม ETA ซึ่งเป็นกำลังแบ่งแยกดินแดนชาว บาส แคว้น บาส อยู่ทางตอนเหนือของสเปนติดกับพรมแดนฝรั่งเศส เป้นชนเชื้อชาติต่างจากสเปน ภาษาวัฒนธรรมต่างกัน เป็นกลุ่มคนเก่าที่ไม่ได้สืบวัฒนธรรมมาจากโรมัน ประมาณ 2-3 เดือนมานี้ กลุ่ม ETA ไปวางระเบิดหน้าที่ทำการ และติดระเบิดใต้ท้องรถของ Civil Guard ทำให้มีเจ้าหน้าที่ในรถเสียชีวิต

อันว่า Civil Guard นี้คือหน่วยตำรวจกึ่งทหารของสเปนใช้ยศทหารคล้ายๆ คาราบิเนียรี่ ของอิตาเลี่ยน แยกต่างหากจาก ตำรวจแห่งชาติสเปน ซึ่งใช้ตำแหน่งแบบตำรวจฝรั่งไม่มียศนำหน้าชื่อ พวก ETA จะมุ่งโจมตี Civil Guard เพราะมีหน้าที่ด้านความมั่นคงโดยตรง และสมัย ฝรังโก ปกครองประเทศ ใช้พวกนี้ไปจัดการและอุ้ม ETA

ตามหน้าตึกสำคัญในภาพที่แสดงไปแล้ว เจ้าหน้าที่เครื่องแบบสีเขียวคือ Civil Gีuard ครับ   

พิพิธภัณฑ์ทหารเรือนี้เป็นตึกอยู่กลางเมืองเลยแสดงแต่ข้าวของและเรือกรรเชียงลำไม่ใหญ่มาก ไม่มีเรือรบแสดงทั้งลำครับ

ปืนบรรจุปาก Wheel Lock สวยงามต่างๆ กระบอกบนสุดเป็นปืน Match Lock หรือคาบชุด พวกนี้ยุคปลางศตวรรษที่ 16 ต้น 17 ครับ

 ;D

กระบอกนี้เป็นปืน Wheel Lock แต่มีเกลียวซะด้วย จากต้นศตวรรษที่ 17 ขนาดคาลิเบอร์ประมาณ .75 นิ้ว พวกลำกล้องเรียบคาลิเบอร์ประมาณ 1-1.2 นิ้ว :DD

แบบจำลองอู่ต่อ และซ่อมเรือครับ ที่นี่มีแบบจำลองเรือรบสมัยต่างๆ มากมาย ทำสวยงามมากบางลำยาว 3 เมตรกว่า

ชุดลั่นไกจุดชนวนปืนใหญ่้ครับ เป็นระบบคาบศิลา ใช้ชุดนี้ติดตรงช่องนมหนู แล้วต่อเชื่อกไกดึงเชือกลั่นไกอย่างที่เห็นคุ้นตาในภาพยนต์ หรือการ์ตูน

ชุดนี้ทำเป็นแหวนโลหะเลย ;D

นอกจาก หอก ดาบ ต่างๆ แล้วก็แสดงปืนที่เคยใช้ประจำการ และยึดมาด้วย

 :D

เกราะของชาวเกาะฟิลิปปินส์ ชาวเกาะดั้งเดิมไม่ใช้โลหะทำเกราะ การใช้เกราะของชาวเกาะ ดัดแปลงมาจากเกราะเปอร์เซีย อาหรับ และฝรั่งที่เข้ามา ;D

ธง ที่เคยติดบนเรือธงของกองเรืรบสเปนครับ ::002::

พิพิธภัณฑ์โบราณคดี

หน้าตึกดันมีรูปปั้น วาลาสเควส ศิลปินเขียนภาพมีชื่อ ในปลายศตวรรษที่ 16 ;D

ดาบไอบีเรีย ยุคศตวรรษที่ 1 ครับ ดาบลักษณะนี้เป็นทรงหนึ่งของกรีก กรีกและโรมันมาตั้งถิ่นฐาน และมีอำนาจปกครองในคาบสมุทรไอบีเรีย แต่ในศตวรรษที่ 1 อำนาจของกรีกหมดไปนานแล้ว เป็นยุคของโรมัน แสดงว่าสเปนโบราณยังติดใจใช้ดาบทรงนี้อยู่

บางคนบอกว่าดาบทรงนี้เป็นต้นแบบของทรงมีดกูรข่า เข้ามายังเอเซียกลางพร้อมกับกองทัพ พระเข้าอเล๊กซานเดอร์มหาราช 3 ศตวรรษก่อน ค.ส. ผมว่าไ่น่าใช้ เพราะอีเหน็บ และมีทรงกรีกุ้งของไทยก็มีคมด้านหน้าและมีศูนย์น้ำหนักแนวมีดกูรคลีเหมือนกัน และไทยไม่ได้รับอิทธิพลกรีกโบราณ

ดาบเล่มนี้มีโกร่งโลหะ ทำให้เห็นว่าคนสมัยนั้นตัวเล็กมากเพราะความยาวด้ามในโกร่งสั้นมาก ดูแล้วมือผมเข้าไปจับไม่ได้ครับ

รูปสลักหินศตวรรษที่ 1-2 คุณพี่นายแบบใช้ดาบแบบนี้เลย 

คุณพี่คนขี่ม้าก็ถือดาบสั้นปลายแหลมคล้ายรุ่นที่แสดงของจริงครับ

ไหกรีกโบราณครับ มีสัษลักษณ์คล้าย สวัสดิกะ ซึ่งสัญลักษณ์แนวสวัสดิกะนี้ทางอินเดียใช้มา 4-5 พันปี และกรีกโรมันก็ใช้กัน ที่จริงในเยอรมันเองกลุ่มฝ่ายขวาอื่นๆ ก็ใช้กันมาก่อนพวกนาซี

โมเสกโรมันจากโรมครับ เป็นรูปกลาดิเอเตอร์ มีสัญลักษณ์คุ้นตารงมุมบนขวา ไม่รู้ว่าโรมันหมายความเหมือนเราหรือเปล่า อิ อิ ::005::

อุปกรณ์ตรงกลางคือเครื่องสูบน้ำโรมันครับ

นาฬิกาแดดโรมัน แสงส่องผ่านรูลงมายังหน้าปัทม์ข้างล่าง

เครื่องประดับห้องศตวรรษที่ 18 สบักเสลาสวยงามมากครับ ตัวข้างในก็มีรายละเอียดครบถ้วน แต่ละตัวสูงแค่ประมาณ 1.5 นิ้ว :VOV:

รูปสลักอียิปต์โนราณ คนแถวล่าถือเป็นเสียบไม้หน้าตาเหมือนกันสมัยนี้เลย อิ อิ

พิพิธภัณฑ์โบราณคดีของสเปนไม่ใหญ่มากครับ เรียกว่าเล็กมากเมื่อเทียบกับของอังกฤษ เยอรมัน คงเป็นเพราะสมัยที่สเปนเรืองอำนาจยังไม่มีความสนใจในวิชาโบราณคดี การขุดค้นโบราณสถานเป็นไปเพื่อการหาสมบัติเท่านั้น สมบัติที่เก็บมาก็จะมีแต่เงินทองซึ่งไปเป็นของส่วนตัว หรือใช้จ่ายในการก่อสร้างบ้านเมืองให้อลังการอย่างที่เห็น

ส่วนอังกฤษ เยอรมัน และฝรั่งเศส มีอำนาจเมื่อวิชาโบราณคดีในยุโรปแน่นหนาแล้ว สมัยนโปเลียนไปอียิปต์ก็มีนักโบราณคดีติดตามเข้าไปมาก และมีความสนใจในโบราณวัตถุ โบราณสถานต่างๆ ทำให้มีการหอบหิ้ว และยกโบราณวัตถุ หรือถอดโบราณสถานทั้งแหล่งเป็นชิ้นๆ กลับมาประกอบใหม่ในประเทศของตนมาก

อย่างไรก้ตามที่มะดริกยังมีพิพิธภัณฑ์ อเมริกา อีกแห่งครับ มีของอเมริกันพื้นเมืองต่างๆ แต่ผมไม่ได้ไป

+อีกครับ

ตามเที่ยวมาหลายวันแล้ว.......เสียดาย ศุกร์ (ตั้งแต่เที่ยงเป็นต้นไป) - อาทิตย์ คงไม่ได้เที่ยว เพราะเน็ตยังเน่าไม่หาย :~)
+1 ให้ก่อนครับ วันจันทร์จะตามเที่ยวในกระทู้ของพี่ต่อ ::014::

ดอน กิโฮเต้ แห่งลามันช่า แต่งโดย เซอวานเตส เป็นวรรณกรรมที่เรียกได้ว่าเด่นที่สุดของสเปน ตีพิมพ์ครั้งแรกปี 1605 ในปี 2005 เรื่องนี้อายุครบ 400 ปี งานฉลองวันชาติสถานทูตสเปนจัดที่เมืองไทยก็ทำน้ำแข็งเป็นชุดรูป ดอน กิโฮเต้ ครับ

อนุสาวรีย์ในการต่อสู้กับนโปเลียนอีกแห่งหนึ่ง

วิหารอียิปต์ครับ เป็นวิหารเล็กๆ ไม่มีอะไรมาก นอกจากอาคารนี้แล้วก็มีอาคารไม่มีลวดลายเล็กกว่าอีก 2 หลัง เป็นของขวัญที่รัฐบาลอียิปต์ให้สเปนในโอกาสที่สเปนช่วยอียิปต์ยกวิหารต่างๆ หนีน้ำที่ท่วมจากการสร้างเขื่อนอัสวาน ในคราวนั้นมีการตัดและขนหินแต่ละก้อนจากวิหาร อาบู ซิมเบล อันใหญ่โต ข้างหน้ามีรูสลักพระเจ้ารามเซสที่ 2 ฯ,ฯ อีก 3 คน สูงหลายสิบเมตรนั่งอยู่ อียิปต์มีความจำเป็นต้องสร้างเขื่อนเพื่อการดำรงชีพของคนในปัจจุบัน เลยต้องปล่อยให้น้ำท่วมพื้นที่สถาปัตยกรรมของคนโบราณบางส่วน วิหารไหนสำคัญก็ทำการตัดและยกขึ้นประกอบใหม่ทั้งวิหาร บางที่ก็ปล่อยให้จมน้ำไป

ไม่มีข้อมูลละเอียดว่าสเปนมีบทบาทแค่ไหนในการช่วยยกวิหารและของเก่าอียิปต์หนีน้ำ แต่ได้วิหารเล็กๆ ของจริงมา 1 หลังก็นับว่ารัฐบาลอียิปต์ซาบซึ้งมาก

วิหารนี้เป็นอียิปต์โบราณยุคหลังมาก หัวเสาเป็นแบบ โครินเธียน คือแบบกรีกอย่างหนึ่ง เนื่องจากเป็นวิหารที่สร้างขึ้นหลังสมัยที่อียิปต์ตกอยู่ภายใต้การปกครองของคนกรีกจากกองทัพพระเจ้าอเล็กซานเดอร์มหาราชแล้วในศตวรรษที่ 3 ก่อน ค.ศ. พระเจ้าอเล็กฯ แต่งตั้งแม่ทัพกรีกให้ปกครองอียิปต์ แม่ทัพกรีกคือ โทเลมี ปฏิบัติตัวเป็นฟาโรห์ใช้วัฒนธรรมอียิปต์เดิมต่อไป แต่แน่นอนที่ศิลปะ/วัฒนธรรมบางอย่างของกรีกก็เข้าผสมกับของอียิปต์เดิม

ตึกสวยงามต่างๆ (เหมือนปลาสวยงาม) ในมะดริกครับ จำไม่ได้ว่าตึกอะไร ::002::

 :D

ตึกนี้แรกเริ่มเป็นที่ทำการไปรษณีย์กลางครับ แต่สร้างซะหรู :DD

อีกที่ที่ขอแนะนำแต่ไม่ได้ถ่ายรูปมาเพราะฝนตกและเป็นตึกหน้าตาธรรมดาคือ พิพิธภัณฑ์ทิสเซ่น ครับ

ทิสเซ่น นี้เป็นชื่อของท่านบารอนมหาเศรษฐีเยอรมันผู้หนึ่ง (มีวงศืวานหลบายชาติและไปอยูโมนาโค) ซึ่งเป็นนักสะสมงานศิลปะตัวยง มีวงานศิลป์หลายพันชื้น ตั้งแต่งานศิลป์ยุคกลาง เอล เกร๊กโก้ โม่เน่ โกย่า ปิกัสโซ่ ฯลฯ ท่านบารอนแต่งงานกับนางงามสเปน มิสสเปน นั่นละครับ บารอนเนสชักชวนให้ท่านบารอนอุทิศงานศิลปะให้ชาติสเปน และพอบารอนเสียชีวิต บารอนเนสภรรยาผู้จัดการมรดกจึงยกสมบัติงานศิลปะของท่านบารอนให้เป็นสมบัติของชาติสเปน รัฐบาลสเปนดีใจมากจัดเป็นพพิธภัณฑ์มีชื่อ (อ้าว หนอยแน่ เยอรมันร้องจ๊ากซ์) ต้องบอกว่านางงามผู้นี้ "สวยอย่างมีคุณค่า" จริงๆ ครับ ::002::   

แย่จัง วันนี้เน็ตอืด.ด.ด...มาก  รอพรุ่งนี้จะมารื้อๆดูรูปต่อ


ขอบคุณท่านต๊อกครับ ที่นำเที่ยว

ยินดีครับท่านซับ ท่านซับปล่อยตั๋วราคาพิเศษไหมครับ? อิ อิ

ตอนนี้ หมีตะกายต้นเบอร์รี่ย้ายแล้วค่ะ...........

ขอแบบพิเศษมาก ๆ หนึ่งที่ด้วยนะคะ... ;D

ผมชอบซานโช่ครับ...

ชอบในศรัทธาและความภักดีครับ...::002::

ตั๋วราคาพิเศษ ต้องหลายๆท่านครับ

อ้อ...ท่านต๊อกมางานนี้ รายงานตามความถนัดเลย แก่นแท้ รากแก้วของสเปนล้วนๆ

พอมีโอกาสไปชมสู้วัวของสเปนและพวกMetro subwayของสเปนมั้ยครับ

(จริงๆกระทู้แบบนี้ น่าจะเอารูปมาตั้งคำถามชิงรางวัลนะ  ของฝากอะไรก็ได้ เอ้อ...แมงวันสเปนก็ดี  ;D )

+1ครับ

ผมไม่ได้ไปดูสู้วัวครับ แต่ซับเวย์นี่ใช้ตลอดเลย สะดวกมาก ระบบแบบมาตรฐาน ซึ่งตั๋วแบบผ่าน 10 ครับ ดูว่าสายไหน ต้องต่อที่สถานีไหน ข้างชานชลาก็มีบอกเส้นทาง ที่หัวขบวนรถจะมีชื่อสถานีปลายทาง ทางเข้ามีที่กั้นต้องสอดตั๋วแบบสากล (ไม่ถึงขนาดที่ประชาชนมีคุณภาพสูงจัด ไม่ต้องมีที่กั้น แค่เป็นเสาขึ้นมาให้สอดตั๋วตีราคาอย่างในเวียนนา) เขตกลางเมืองจะอยู่ในโซนเดียวกัน ขาออกจึงไม่ต้องสอดตั๋วครับ ผลักที่กั้นออกเลย

แต่บางเรื่องสเปนก็ใช้ระบบเกียรติยศ เชื่อใจได้ เช่น ในซุปเปอร์มาร์เก็ต ลูกค้าเป็นคนเอาผลไม้ไปชั่งเอง โดยกดเลขรหัสตามกะบะผลไม้นั้น เครื่องจะพิมพ์บาร์โคดให้ติดถุงเอง ถุงก็เป็นกระดาษน้ำตาล ระบบนี้ยังใช้อยู่ได้แสดงว่าคนไม่โกงเอาของแพงใส่แต่กดรหัสของถูก

สมกับที่เคยเป็นมหาอำนาจจริงๆครับ  ::002::  ::014::

ขอบคุณครับคุณต็อก ภาพสวย บรรยายเยี่ยม ::014::

ขอบคุณครับคุณ Eu พูดเรื่องเมืองฝรั่งนึกทุกทีว่าคุณ Eu เบื่ออาหาร แต่ก็ดีกับหุ่นและสุขภาพนะครับ อิ อิ

+ เพิ่มให้ไปอีก 4 ครับ(รวมของเดิมที่ + ไปที่แรกก็ 5 ) จะทยอย + ให้ครบ 18 คะแนน เท่ากับหน้าที่พี่พาเที่ยว ::014::

ขอบคุณมากครับคุณ ซีอุส เดี๋ยวผมไปค้นหาซีดีเก่าๆ ก่อนจะขุดรูปที่ไปโปแลนด์มาโพสครับ มีรูปค่ายเอาช์วิช สถานที่ฆาตกรรมหมู่ใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์มนุษย์ชาติ

::014::ขอบคุณล่วงหน้าเลยครับ ::014::
ว่าแต่งวดใหม่จะลงอีกกี่หน้าครับจะได้ + ไปซะที่เดียวเลย ;D

ครับผม ;D ;D ตอนนี้มาประจำที่อู่ตะเภา ได้ทานแต่ของที่ชอบครับ ::014::

+ ไปแล้ว 11 เหลือ อีก 7 จะครบตามสัญญานะครับ ::014::

ภาพสวยมากๆคับ