|
หัวข้อ: วันปิยมหาราชครับ เริ่มหัวข้อโดย: nirin ที่ ตุลาคม 22, 2009, 04:58:30 PM ๒๓ ตุลาคมของทุกปี เป็นวันคล้ายวันสวรรคตของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๕ ทุกปีจะมีการวางพวงมาลาดอกไม้ที่พระบรมรูปทรงม้า เพื่อเป็นการรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว
เมื่อวันที่ ๒๓ ตุลาคม ๒๔๕๓ พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๕ ทรงประชวรเสด็จสวรรคต ณ พระที่นั่งอัมพรสถานพระราชวังดุสิต ครั้นนั้นเป็นที่เศร้าสลดอย่างใหญ่หลวงของพระบรมวงศานุวงศ์และปวงชนทั่วประเทศ เพราะพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงเป็นกษัตริย์ที่เคารพรักของหวยราษฎร์ ทรงมีพระมหากรุณาธิคุณอเนกประการทั้งในการปกครองบ้านเมืองและพระราชทานความร่มเย็นเป็นสุขแก่ชนทุกหมู่เหล่า ทวยราษฎร์ทั้งปวงจึงได้ถวายพระนามว่า พระปิยมหาราช หรือพระพุทธเจ้าหลวง เมื่อถวายพระเพลิงพระบรมศพตามราชประเพณีแล้ว ครั้งเมื่อบรรจบอภิลักขิตสมัยคล้ายวันสวรรคต พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๖ ผู้สืบราชสันตติวงศ์ ได้ทรงบำเพ็ญพระราชกุศลทักษิณานุปทานถวายตามราชประเพณี โดยเชิญพระโกศพระบรมอัฐิพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวออกประดิษฐานบนพระแท่นนพปฎลมหา-เศวตฉัตร และเชิญพระพุทธรูปปางประจำพระชนมวารประดิษฐาน ณ โต๊ะหมู่ในพระที่นั่งจักรีมหาปราสาท หรือพระที่นั่งอนันตสมาคมส่วนที่พระบรมราชานุสาวรีย์พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ณ พระลานพระราชวังดุสิต หน้าที่นั่งอนันตสมาคม ที่เรียกว่าพระบรมรูปทรงม้า ซึ่งเป็นพระบรมราชานุสาวรีย์ที่พระบรมวงศานุวงศ์ข้าราชการ พ่อค้า คหบดี ปวงชนชาวไทยทุกหมู่เหล่าผู้สำนึกในพระมหากรุณาธิคุณได้ร่วมใจกันรวบรวมเงินจัดสร้างประดิษฐานขึ้นน้อมเกล้าฯถวายพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวขณะที่ทรงพระชนม์อยู่เนื่องในมหามงคลสมัยที่ทรงครองราชย์ยั่งยืนนานถึง ๔๐ ปี และพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ได้เสด็จพระราชดำเนินมาทรงเปิดพระบรมราชานุสาวรีย์ด้วยพระองค์เอง เมื่อวันที่ ๑๐ พฤศจิกายนพ.ศ. ๒๔๕๑ นั้น ต่อมาทางราชการได้ประกาศให้วันที่ ๒๓ ตุลาคมซึ่งเป็นวันสวรรคตของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว เป็นวันที่ระลึกสำคัญของชาติเรียกว่า วันปิยมหาราช และกำหนดให้หยุดราชการวันหนึ่งในวันปิยมหาราช เจ้าหน้าที่กระทรวงมหาดไทยซึ่งต่อมาเป็น กรุงเทพมหานคร ร่วมด้วยกระทรวงวัง ซึ่งต่อมาเป็นสำนักพระราชวัง ได้จัดตกแต่งพระบรมราชานุสาวรีย์ ตั้งราชวัติ ฉัตร ๕ ชั้น ประดับโคม ไฟ ราวเทียม กระถางธูป ทอดเครื่องราชสักการะที่หน้าพระบรมราชานุสาวรีย์ตั้งแต่นั้นมาจนถึงปัจจุบัน พระราชพิธีทรงบำเพ็ญพระราชกุศลวันปิยมหาราชครั้งแรก คือ ถัดจากปีที่ได้ถวายพระเพลิงพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระจุลจอม เกล้าเจ้าอยู่หัว พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงบำเพ็ญพระราชกุศลทักษิณานุปทานถวายแล้ว ได้เสด็จฯไปถวายพวงมาลา ทรงจุดธูปเทียนเครื่องราชสักการะที่พระบรมราชานุสาวรีย์ <<กลับ -------------------------------------------------------------------------------- พระราชประวัติ สมเด็จเจ้าฟ้าชายจุฬาลงกรณ์ พระบาทสมเด็จพระปริมทรมหาจุฬาลงกรณ์ พระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว มีพระนามเดิมว่า "สมเด็จเจ้าฬ้าชายจุฬาลงกรณ์ บดินทรเทพมหากุฎ บุรุษยรัตนราชรวิวงศ์ วรุตมพงศ์บริพัตรสิริวัฒนราชกุมาร" เป็นพระราชโอรสองค์ที่ ๙ ในพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระเทพศิรินทรา บรมราชินี พระบรมราชสมภพเมื่อวันอังคารที่ ๒๐ กันยายน พุทธศักราช ๒๓๙๖ ทรงได้รับการศึกษาขั้นแรกจากสำนักพระเจ้าบรมวงศ์เธอพระองค์เจ้าบุตรี กรมหลวงวรเสรฐสุดา พระเจ้าลูกเธอในรัชกาลที่ ๓ ผู้ทรงรอบรู้ด้านอักษรศาสตร์ และโบราณราชประเพณีอย่างดียิ่ง นอกจากนั้นทรงศึกษาภาษามคธกับพระปริยัติธรรมธาดา(เนียม) เมื่อเป็นหลวงราชาภิรมย์ กรมราชบัณฑิต ทรงศึกษาวิชาการยิ่งปืนไฟจากสำนัก พระยาอภัยศรเพลิง(ศรี) ทรงศึกษาวิชาคชกรรมกับสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้ามหามาลา กรมพระยาบำราบปรปักษ์ และวิชาอื่นๆ อันสมควรแก่บรมราชกุมาร นอกจากนี้ ได้ทรงศึกษาภาษาอังกฤษ จากชาวต่างประเทศโดยตรง คือ นางแอนนาเลียวโนแวนส์ ครูสตรีชาวอังกฤษ ต่อมาทรงศึกษากับหมอจันดเล ชาวอเมริกัน และ เมื่อเสวยราชสมบัติแล้ว พุทธศักราช ๒๔๑๖ ได้ทรงศึกษา ได้ทรงศึกษากับครูชาวอังกฤษ ชื่อฟรานซิส ยอร์จ แพตเตอสัน ต่อมาก็ทรงพระอุตสาหะศึกษาด้วยพระองค์เองจนมี ความรู้ภาษาอังกฤษอย่างแตกฉาน ในด้านวิชารัฐศาสตร์ ราชประเพณีและโบราณคดีนั้น สมเด็จพระบรมชนกนาถเป็นผู้พระราชทานการฝึกสอนด้วยพระองค์เองตลอดมา หลังจากที่พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวสวรรคต เมื่อวันที่ ๑ ตุลาคม พุทธศักราช ๒๔๑๑ เหล่าเสนาบดีและข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ พร้อมใจกันอัญเชิญสมเด็จ เจ้าฟ้าจุฬาลงกรณ์ฯ ขึ้นเถลิงราชสมบัติ เป็นพระมหากษัตริย์รัชกาลที่ ๕ แห่งพระบรมราชจักรีวงศ์ พระราชพิธีบรมราชาภิเษก ครั้งที่ ๑ พระราชพิธีบรมราชาภิเษกครั้งแรกเมื่อวันที่ ๑๑ พฤศจิกายน พุทธศักราช ๒๔๑๑ ขณะนั้นทรงพระชนมายุเพียง ๑๔ พรรษา สมเด็จพระยาบรมมหาศรีสุริยวงศ์ (ช่วง บุนนาค) ซึ่งขณะมีบรรดาศักดิ์เป็นเจ้าพระยาศรีสุริยวงศ์ รับหน้าที่เป็นผู้สำเร็จราชการแผ่นดิน ระหว่างนั้นพระองค์ได้เสด็จประพาสต่างประเทศ คือ อินเดีย และชวา เพื่อทอดพระเนตรวิทยาการสมัยใหม่ที่ ประเทศทางตะวันตกนำมาเผยแพร่เพื่อนำเป็นแนวทางในการพัฒนาประเทศต่อไป พระราชพิธีบรมราชาภิเษก ครั้งที่ ๒ เมื่อพระชนมายุบรรลุพระราชนิติภาวะ ทรงผนวชเป็นพระภิกษุเป็นเวลา ๒ สัปดาห์ แล้วจึงประกอบพระราชพิธีบรมราชาภิเษกเป็นครั้งที่ ๒ เมื่อวันที่ ๑๕ พฤศจิกายน พุทธศักราช ๒๔๑๖ และนับจากนั้นมาก็ทรงพระราชอำนาจเด็ดขาดในการบริหารราชการแผ่นดิน ตลอดระยะเวลาที่ทรงครองสิริราชสมบัติ ทรงปกครองทำนุบำรุงพระราชอาณาจักรให้มั่นคั่งสมบูรณ์ ดัวยรัฐสมบัติ พิทักษ์พสกนิกรให้อยู่เย็นเป็นสุข บำบัดภัยอันตรายทั้งภายในภายนอกประเทศ ทรงบำเพ็ญพระราชกรณียกิจต่างๆ อันก่อให้เกิดคุณประโยชน์แก่ประเทศชาติให้รอดพ้นจากวิกฤตการณ์และสามารถธำรงเอกราชไว้ตราบจนทุกวันนี้ เครดิตและอ้างอิงจาก http://www.lib.ru.ac.th/journal/oct/oct23_ck_index.html (http://www.lib.ru.ac.th/journal/oct/oct23_ck_index.html) หัวข้อ: Re: วันปิยมหาราชครับ เริ่มหัวข้อโดย: nirin ที่ ตุลาคม 22, 2009, 05:05:05 PM ผมรักและเคารพเสด็จพ่อร.๕และกรมหลวงชุมพรมากครับ ผมเลยนำภาพจากหนังสือจดหมายเหตุของพระยาศรีสหเทพพิมพ์ในปี ศฏ 126 มา มาแปลงเป็นภาพติดฝาผนังครับ
(ภาพนี้ SCAN มาจากต้นฉบับครับ ส่วนขอความมาเติมเองครับ) [img=http://img42.imageshack.us/img42/7899/uploadb.th.jpg] (http://img42.imageshack.us/i/uploadb.jpg/) หัวข้อ: Re: วันปิยมหาราชครับ เริ่มหัวข้อโดย: vuttichai ที่ ตุลาคม 22, 2009, 05:21:55 PM เวลาใด้ปืนบอกใหม่มาก็ โอมชุมพรจุตติอิทธิการะนังสุโขนะโมพุทธธายะ นะมะพะทะ จะพะกะสะ อย่างน้อย 3 จบ+ธูป 16 ดอกแล้วตามด้วยขนาดที่ใด้มาใหม่. 1 ชุด. ::002::
หัวข้อ: Re: วันปิยมหาราชครับ เริ่มหัวข้อโดย: nirin ที่ ตุลาคม 22, 2009, 05:31:25 PM เวลาใด้ปืนบอกใหม่มาก็ โอมชุมพรจุตติอิทธิการะนังสุโขนะโมพุทธธายะ นะมะพะทะ จะพะกะสะ อย่างน้อย 3 จบ+ธูป 16 ดอกแล้วตามด้วยขนาดที่ใด้มาใหม่. 1 ชุด. ::002:: สุดยอดครับเดี๋ยวผมจะสำเนาไว้ทำบ้างนะครับ หัวข้อ: Re: วันปิยมหาราชครับ เริ่มหัวข้อโดย: Ultraman Taro #รักในหลวง# ที่ ตุลาคม 22, 2009, 09:54:58 PM เวลาใด้ปืนบอกใหม่มาก็ โอมชุมพรจุตติอิทธิการะนังสุโขนะโมพุทธธายะ นะมะพะทะ จะพะกะสะ อย่างน้อย 3 จบ+ธูป 16 ดอกแล้วตามด้วยขนาดที่ใด้มาใหม่. 1 ชุด. ::002:: ด้วยความเคารพผมอยากทราบความหมายครับ ว่าทำไปเพื่ออะไร หัวข้อ: Re: วันปิยมหาราชครับ เริ่มหัวข้อโดย: พยัคฆ์เมฆ ที่ ตุลาคม 22, 2009, 10:34:52 PM สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาดำรงราชานุภาพ ทรงเป็นผู้ที่คิดคำๆนี้ขึ้นมาครับ " พระปิยมหาราช "
หัวข้อ: Re: วันปิยมหาราชครับ เริ่มหัวข้อโดย: ป้อมทอง พรานชุมไพร ที่ ตุลาคม 22, 2009, 10:51:36 PM เวลาใด้ปืนบอกใหม่มาก็ โอมชุมพรจุตติอิทธิการะนังสุโขนะโมพุทธธายะ นะมะพะทะ จะพะกะสะ อย่างน้อย 3 จบ+ธูป 16 ดอกแล้วตามด้วยขนาดที่ใด้มาใหม่. 1 ชุด. ::002:: ด้วยความเคารพผมอยากทราบความหมายครับ ว่าทำไปเพื่ออะไร ท่านวิลลี่เขาอยากทำนะ เป็นความเชื่อส่วนบุคคล เหมือนการเบิกเนตรพระพุทธรูป โดยนำหัวใจอักขระภาษาบาลี มาประกอบเป็นคาถา อันประกอบด้วย หัวใจพระพุทธเจ้าห้าพระองค์ หัวใจธาตุทั้งสี่ หัวใจพระยาการเวก ......เพื่อความเป็นมงคลของผู้ครอบครอง หัวข้อ: Re: วันปิยมหาราชครับ เริ่มหัวข้อโดย: Ruk™-รักในหลวง ที่ ตุลาคม 23, 2009, 12:51:41 AM ขอบคุณมากครับที่นำความรู้ดีๆมาฝาก หลายๆอย่างฝากไว้ที่โรงเรียนหมดแล้ว ได้ทวนความจำบ้างก้ดีครับ
หัวข้อ: Re: วันปิยมหาราชครับ เริ่มหัวข้อโดย: homechay ที่ ตุลาคม 23, 2009, 02:20:00 AM ขอบคุณ สำหรับ บทความดีๆนะครับ
หัวข้อ: Re: วันปิยมหาราชครับ เริ่มหัวข้อโดย: vuttichai ที่ ตุลาคม 23, 2009, 05:47:18 AM เวลาใด้ปืนบอกใหม่มาก็ โอมชุมพรจุตติอิทธิการะนังสุโขนะโมพุทธธายะ นะมะพะทะ จะพะกะสะ อย่างน้อย 3 จบ+ธูป 16 ดอกแล้วตามด้วยขนาดที่ใด้มาใหม่. 1 ชุด. ::002:: ด้วยความเคารพผมอยากทราบความหมายครับ ว่าทำไปเพื่ออะไร ท่านวิลลี่เขาอยากทำนะ เป็นความเชื่อส่วนบุคคล ตามนี้เลยครับ เหมือนการเบิกเนตรพระพุทธรูป โดยนำหัวใจอักขระภาษาบาลี มาประกอบเป็นคาถา อันประกอบด้วย หัวใจพระพุทธเจ้าห้าพระองค์ หัวใจธาตุทั้งสี่ หัวใจพระยาการเวก ......เพื่อความเป็นมงคลของผู้ครอบครอง |