เว็บบอร์ดสนทนาภาษาปืน

สนทนาภาษาปืน => สนทนาภาษาปืน => ข้อความที่เริ่มโดย: NaiMai>รักในหลวง ที่ ตุลาคม 09, 2005, 05:55:50 AM



หัวข้อ: เงี่ยหูฟังชาวตันหยงลิมอ ความรู้สึกหลังสัมผัสท่านผู้นำ
เริ่มหัวข้อโดย: NaiMai>รักในหลวง ที่ ตุลาคม 09, 2005, 05:55:50 AM
 :-\ ผมว่าการที่นายกไป 3 จว. ใต้ สงสัยจะลบมากกว่าบวก :-\

เงี่ยหูฟังชาวตันหยงลิมอ ความรู้สึกหลังสัมผัสท่านผู้นำ
       พลันที่ พ.ต.ท. ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี คล้อยหลังออกจากหมู่บ้านตันหยงลิมอ อำเภอระแงะ จังหวัดนราธิวาส ระหว่างเดินทางลงพื้นที่ไปปฏิบัติภารกิจใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ เมื่อวันที่ 7 ตุลาคมที่ผ่านมา บรรยากาศภายในหมู่บ้านได้กลับคืนสู่สภาพปกติ
       
       ถนนสายเล็กๆ ที่เต็มไปด้วยรถตามขบวนนานาชนิด และเจ้าหน้าที่ชุดคุ้มครองความปลอดภัยเหลือบางตา ชาวบ้านที่ออกมาดูนายกรัฐมนตรีต่างทยอยเข้าบ้านไปพักผ่อนและถือศีลในช่วงรอมฎอน มีเพียงทหารบางนายที่ยังคงจับกลุ่มสนทนากับชาวบ้านบางคนที่มัสยิด ในขณะที่ชาวบ้านอีกหลายคนนั่งจับกลุ่มพูดคุยกันบริเวณหน้าบ้าน
       
       หนึ่งในชาวบ้านตันหยงลิมอ กล่าวว่า ตั้งแต่เหตุการณ์กราดยิงร้านน้ำชา การสังหารสองนาวิกโยธิน เรื่อยมาจนถึงการออกหมายจับและควบคุมตัวชาวบ้านไปหลายคนแล้ว สถานการณ์ในหมู่บ้านแย่ลงมาก
       
       การลงมาเยี่ยมชาวบ้านของนายกรัฐมนตรีลดความตึงเครียดในหมู่บ้านให้ผ่อนคลายลง เพราะอย่างน้อยไม่ว่าจะมาเพื่ออะไรแต่ก็ดีกว่าไม่มา และหากเป็นไปได้อยากให้เจ้าหน้าที่รัฐเข้ามาเยี่ยมชาวบ้านดีๆ แบบครั้งนี้บ้าง ส่วนการมาต้อนรับในวันนี้ได้รับความสนใจทั้งชาวบ้านในหมู่ 7 บ้านตันหยงลิมอ รวมถึงชาวบ้านจากต่างหมู่บ้านรอบข้างอีกหลายคน
       
       “จริงๆ แล้วจะมีคนมาต้อนรับนายกฯมากกว่านี้ แต่ตอนนี้บางบ้านก็ไม่มีคนอยู่ ข่าวที่ออกหมายจับมากมายทำให้ชาวบ้านกลัวไม่กล้าอยู่บ้าน เพราะอาจจะถูกจับเหมือนคนอื่นๆ”
       
       เมื่อถามถึงกรณีที่ พ.ต.ท.ทักษิณ มาระบุว่ารู้ตัวคนร้ายที่ยิงกราดร้านน้ำชาแล้วซึ่งเป็นคนในหมู่บ้าน ไม่ใช่คนนอกนั้น ประเด็นนี้ทำให้ชาวบ้านวิพากษ์วิจารณ์กันอย่างกว้างขวาง โดยชาวบ้านหลายคนให้ความเห็นว่า เชื่อได้ยาก เพราะชาวบ้านยังตั้งข้อสังเกตหลายประการเกี่ยวกับผู้ที่กราดยิงร้านน้ำชาในคืนนั้น เช่น รถกระบะที่วิ่งเข้ามาก่อเหตุได้ทั้งๆ ที่มีด่านตรวจของทหารปิดหัวท้ายหมู่บ้าน เป็นต้น
       
       ชาวบ้านส่วนหนึ่งที่นั่งรวมกลุ่มสนทนาในร้านน้ำชาให้ความเห็นว่า สิ่งที่นายกรัฐมนตรีพูดว่าคนร้ายเป็นคนในหมู่บ้านนั้นเป็นสิ่งที่รับไม่ได้ เหมือนกับพยายามบังคับให้ชาวบ้านเป็นโจร ชาวบ้านไม่เชื่อแน่นอน อีกทั้งการมาของนายกรัฐมนตรีครั้งนี้ไม่เห็นว่าจะสามารถเข้าถึงชาวบ้านได้ เพราะเป็นการมาถึงแล้วพูดอยู่ฝ่ายเดียว พูดเสร็จก็ยกขบวนกลับ
       
       จากการสอบถามชาวบ้าน ทำให้ทราบว่า นายกรัฐมนตรีเดินทางมาที่หมู่บ้าน และได้แวะพูดคุยกับเยี่ยมเยียนชาวบ้านเฉพาะบริเวณมัสยิด ศาลาจุดเกิดเหตุสังหาร 2 นาวิกโยธิน และบริเวณร้านน้ำชาเท่านั้น แต่ไม่ได้เข้าเยี่ยมญาติผู้เสียชีวิตจากเหตุกราดยิงแต่อย่างใด
       
       ในขณะที่พ่อของ “อาซูวัน อาแว” เหยื่อที่ถูกยิงเสียชีวิตในร้านน้ำชา คืนวันเกิดเหตุ ซึ่งออกมาทำบุญที่มัสยิดภายหลังจากที่ พ.ต.ท.ทักษิณ เดินทางออกจากหมู่บ้านไปแล้ว เปิดเผยว่า ขณะที่นายกรัฐมนตรีลงมาที่หมู่บ้าน ตนไม่ได้ออกมาต้อนรับนายกฯ เนื่องจากไม่สบายและนอนพักอยู่ที่บ้าน อีกทั้งยังไม่มีเรื่องร้องขออะไรจากนายกรัฐมนตรี ส่วนข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นในร้านน้ำชาคืนนั้นแม้จะอยากรู้แต่ก็คิดว่าคงไม่มีทางได้รู้ความจริง
       
       “ปวดหัว เลยไม่อยากออกมา นอนอยู่บ้านเฉยๆ ได้แต่กังวลต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับครอบครัวและอยู่ในช่วงทำใจ อีกทั้งยั้งวิตกกังวลว่าจะถูกซัดทอดให้เป็นโจรเสียเอง”พ่อของเหยื่อผู้สูญเสียกล่าว
       
       ด้านกลุ่มผู้หญิงประมาณ 9 คนที่จับกลุ่มสนทนาอยู่หน้าบ้าน เปิดเผยผู้สื่อข่าวว่า นายกรัฐมนตรีพยายามเกลี้ยกล่อมเด็กๆ ในหมู่บ้านให้บอกว่าใครเป็นคนร้ายที่ก่อเหตุ โดยกล่าวว่าถ้าใครบอกจะให้เงิน
       
       “เข้าใจว่าที่ถามเด็กเพราะเด็กไม่โกหกแน่นอน คำตอบที่ได้จากเด็กก็ถูกต้องแล้ว เพราะเด็กๆ ทุกคนตอบว่าไม่รู้ จะรู้ได้อย่างไร คนมาชุมนุมวันนั้นเยอะแยะใครจะให้ลูกหลานออกมาจากบ้านทุกคน”
       
       “สุดท้ายนายกรัฐมนตรีได้ให้เงินมา 5,000 บาท โดยบอกว่าให้เอามาแบ่งกัน” ผู้หญิงคนหนึ่งกล่าว
       
       ลูกชายของผู้หญิงคนนี้ได้มีโอกาสใกล้ชิดนายกรัฐมนตรี ก่อนที่จะมาเล่าให้ผู้เป็นแม่ฟัง และเมื่อนำคำพูดของนายกฯ ที่กล่าวกับชาวบ้านว่า คนร้ายที่ยิงชาวบ้านในร้านน้ำชากับที่สังหารโหดนาวิกโยธิน 2 คนเป็นกลุ่มเดียวกัน และเป็นคนในหมู่บ้านตันหยงลิมอนั้น กลุ่มผู้หญิงกลุ่มนี้ได้แสดงความไม่พอใจเป็นอย่างมาก ต่างคนต่างพูดกันเสียงดัง
       
       “ชาวบ้านที่เห็นหน้ากันอยู่ทุกวัน อยู่ดีๆ จะเอาปืนมายิงเด็กอย่างนั้นหรือ” ผู้หญิงคนหนึ่งถามขึ้นมา
       
       “นายกฯ อยากให้ชาวบ้านตันหยงลิมอเป็นโจรอย่างที่นายกฯ กล่าวหาใช่หรือเปล่า อยากให้ชาวบ้านผู้บริสุทธิ์ รับคำสารภาพเรื่องที่ตัวเองไม่ได้ทำ นายกฯต้องการอย่างนี้ใช่ไหม” ผู้หญิงอีกคนหนึ่งในกลุ่ม กล่าวเสียงขุ่น
       
       “คนในหมู่บ้านตันหยงลิมอเป็นโจรหรือเปล่า อาจจะมีหรือไม่มีพวกเราไม่รู้ แต่เราอยากให้นายกฯ ทักษิณ นึกบ้างว่าคนที่ดีอยู่ในหมู่บ้านตันหยงลิมอก็มี อย่ากล่าวหาแบบรวมๆได้ไหม เพราะทุกวันนี้ชาวบ้านไม่มีที่พึ่งแล้ว นายกฯยังกล่าวหาว่าเราเป็นโจรอีก”
       
       กับการที่นายกรัฐมนตรีเดินไปดูแค่อาคารเกิดเหตุ ไปดูมัสยิดและร้านน้ำชา ไม่เห็นว่าจะมีท่าทีอยากไปพบปะกับญาติพี่น้องของผู้ที่เสียชีวิตในร้านน้ำชา หรือผู้ที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์นั้น
       
       ผู้หญิงคนหนึ่งในกลุ่มให้ความเห็นว่า “ได้ยินว่านายกฯมา ก็นึกว่ามาแล้วจะพูดกับชาวบ้านเลยออกมาให้กำลังใจ แต่สิ่งที่เราได้เห็นคือนายกฯ พูดกับนักข่าวฝ่ายเดียว ไม่ได้มาให้ความสำคัญกับชาวบ้านเหมือนอย่างที่คิดเลย ไม่รู้ว่านายกฯจะได้รู้ความจริงที่เกิดขึ้นกับตันหยงลิมอบ้างหรือเปล่า”
       
       “ถ้าจะมาให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าว นายกฯไม่ต้องลงมาดูก็ได้” หญิงสาวอีกคนหนึ่งเสริม
       
       ในขณะที่ผู้หญิงอีกหลายคนให้ความเห็นตรงกันว่า “นายกฯคงกลัวว่าจะต้องเสียเงินให้กับชาวบ้าน พวกเราไม่ต้องการเงินที่ให้แบบไม่เต็มใจ เพราะมันไม่ดี หากเอาไปใช้แล้วพวกเรากลัวรวย พวกเราแค่อยากเห็นหน้านายกฯเท่านั้น ไม่เคยคิดจะขอเงินเลย”
       
       “ถ้านายกฯ มาแล้วยิ่งทำให้ชาวบ้านรู้สึกไม่ดี ขออย่าได้มาเลยในโอกาสหน้า” ผู้หญิงคนหนึ่งในกลุ่มกล่าวในที่สุด
       
       เศษเสี้ยวความคิดเห็นของชาวบ้านอาจไม่ใช่สิ่งสำคัญที่สุดที่นายกรัฐมนตรีต้องฟัง เมื่อท่าทีในการแก้ปัญหาของรัฐบาลคือต้องการจับชาวบ้านตันหยงลิมอที่สังหารนาวิกโยธินทั้งสองนายให้ได้ แล้วสรุปว่าคนนั้นเป็นคนที่ยิงเข้าไปในร้านน้ำชาด้วย
       
       แล้วหลังจากนี้อะไรจะเกิดขึ้นกับชาวบ้าน หากทุกคนในหมู่บ้านมั่นใจว่าคนที่รัฐจับกุมไม่ใช่คนร้ายแน่นอน เพราะคนในชุมชนรู้จักกันทุกคน มุมมองที่ชาวบ้านจะมองรัฐต่อไปจะเป็นอย่างไร
       
       และที่สำคัญ นายกรัฐมนตรีย้ำว่าจะต้องพลิกแผ่นดินจับคนร้ายให้ได้ แต่คำถามที่แสดงถึงความห่วงใยให้กับครอบครัวของ “อาซูวัน”และ “นิมะ” ผู้ที่สูญเสีย 2 ชีวิตเช่นกันอยู่ที่ไหน
       
       ชาวบ้านรอฟังอยู่...

จาก http://www.manager.co.th/Local/ViewNews.aspx?NewsID=9480000138416




หัวข้อ: Re: เงี่ยหูฟังชาวตันหยงลิมอ ความรู้สึกหลังสัมผัสท่านผู้นำ
เริ่มหัวข้อโดย: Nattapol ที่ ตุลาคม 09, 2005, 07:46:03 AM
...ปากหนอปาก.......ปากผู้นำอีกต่างหาก


หัวข้อ: Re: เงี่ยหูฟังชาวตันหยงลิมอ ความรู้สึกหลังสัมผัสท่านผู้นำ
เริ่มหัวข้อโดย: PU45™ ที่ ตุลาคม 09, 2005, 08:38:14 AM
ความรู้สึก ข้อมูล ข้อเท็จจริง ข่าวสาร ฯลฯ ของทั้งสองฝ่าย
มักจะตรงกันข้ามกันเสมอทำให้ความรุนแรงยังคงมีอยู่ต่อเนื่อง ทำไงดี มันหนักขึ้นทุกวัน เลิกเห็นแก่ได้เถอะ  :-\ :-\


หัวข้อ: Re: เงี่ยหูฟังชาวตันหยงลิมอ ความรู้สึกหลังสัมผัสท่านผู้นำ
เริ่มหัวข้อโดย: JJ-รักในหลวง ที่ ตุลาคม 09, 2005, 08:38:18 AM
...ปากหนอปาก.......ปากผู้นำอีกต่างหาก
:~) :~) :~)


หัวข้อ: Re: เงี่ยหูฟังชาวตันหยงลิมอ ความรู้สึกหลังสัมผัสท่านผู้นำ
เริ่มหัวข้อโดย: 1911&FISHING ที่ ตุลาคม 09, 2005, 08:50:26 AM
มันก็เอาความข้างเดียวมาพูดละครับ พูดกันคนละทีสองที .....เอ้อ......แต่งานนี้ผมว่าชาวบ้านก็เกินไปจริงๆ ไม่เห็นพูดถึงสิ่งที่ตัวเองทำบ้างเลย


หัวข้อ: Re: เงี่ยหูฟังชาวตันหยงลิมอ ความรู้สึกหลังสัมผัสท่านผู้นำ
เริ่มหัวข้อโดย: PAE_CZ ที่ ตุลาคม 09, 2005, 09:02:21 AM
มันก็เอาความข้างเดียวมาพูดละครับ พูดกันคนละทีสองที .....เอ้อ......แต่งานนี้ผมว่าชาวบ้านก็เกินไปจริงๆ ไม่เห็นพูดถึงสิ่งที่ตัวเองทำบ้างเลย

 ผมก็เห็นด้วยแบบนี้ครับ     ตอนทำชาวบ้านไม่คิดเลยเป็นเรื่อง ??? ???


หัวข้อ: Re: เงี่ยหูฟังชาวตันหยงลิมอ ความรู้สึกหลังสัมผัสท่านผู้นำ
เริ่มหัวข้อโดย: Tiger wut ที่ ตุลาคม 09, 2005, 09:11:55 AM
  พวกเราได้รับข่าวสารมาต้องกลั่นกรอง..... ไม่ใช่เป็นเหยื่อสื่ออีก เข้าทางเค้าตลอด


หัวข้อ: Re: เงี่ยหูฟังชาวตันหยงลิมอ ความรู้สึกหลังสัมผัสท่านผู้นำ
เริ่มหัวข้อโดย: อิฐแดง ที่ ตุลาคม 09, 2005, 12:04:04 PM
ยังไม่อยากให้รีบด่วนสรุปครับ  โดยเฉพาะคำพูดจากเด็ก ไม่ใช่ว่าเด็กจะแต่งเรื่องโกหก แต่เด็กอาจถ่ายทอดคำพูดผิดความหมายได้
เค้าฟัง-พูดภาษาไทยได้ แต่เราฟัง-พูดภาษาเค้าไม่ได้นะครับ
ต้องขอโทษมานะที่นี้ด้วย ถ้าความคิดเห็นของผมผิดพลาดไปครับ 


หัวข้อ: Re: เงี่ยหูฟังชาวตันหยงลิมอ ความรู้สึกหลังสัมผัสท่านผู้นำ
เริ่มหัวข้อโดย: naisomchai ที่ ตุลาคม 09, 2005, 12:27:54 PM
อ่านจากตัวหนังสือโดยไม่เห็นหน้า สามารถเข้าใจผิดได้... หากท่านใดดูภาพจาก TV จะเห็นว่าบรรยากาศไม่ค่อยน่าคุยครับ...

ชาวบ้านหนุ่ม หรือมีอายุแล้วทั้งหลายยืนล้อมวงเป็นครึ่งวงกลม(แค่ครึ่งเดียว เพราะอีกครึ่งนึง รปภ.ยืนกันที่เอาไว้...)... ท่าทางยืนคุย ยืดอกตรง กอดอกก็มี... จ้องหน้าจ้องตาเขม็ง ไม่ให้ความเคารพคนมีอายุมากกว่า ถึงแม้ไม่เกรงตำแหน่ง แต่กับคนอายุมากกว่าก็น่าจะให้ความเคารพครับ...

ความเห็นนายสมชายว่า หากไม่แสดงภาษาท่าทางเป็นมิตร... คนทุกคนแม้แต่นายสมชายก็พูดแบบจบการสนทนาให้เร็วที่สุดครับ หมดธุระแล้วก็รีบกลับ... ขืนคุยต่อมีรายการทะเลาะบ้งเบ๊งกับนายกฯ ให้คนหลู่เกียรติ... ข่าวเลยออกมาแบบนั้น...

หากนายสมชายเป็นชาวบ้านที่ไม่ยอมรับอำนาจรัฐอยู่แล้ว... นายกฯ โผล่มาให้เห็นหน้า ขอทะเลาะซักทีนึง... มวยรองทะเลาะอย่างไรก็ได้คะแนนครับ...

นายกฯ ของประเทศไทยไปเหยียบตรงนั้น... เป็นความหมายเชิงสัญญลักษณ์ครับ... ว่าอำนาจรัฐไปถึงตรงนั้น ตรงที่ถูกประกาศว่า"ไม่ให้เจ้าหน้าที่ของรัฐเข้าไป"... นี่คือ"ธุระ"เจ้าหน้าที่ของรัฐ ไม่ใช่ไปเพื่อพบปะกับญาติผู้เสียหาย หากไม่แสดงอาการเป็นมิตร...

ทำนองเดียวกันกับโจรพูโลให้สัมภาษณ์ผ่านหนังสือพิมพ์ต่างประเทศว่าจะขอเจรจากับรัฐบาลไทย... ห้ามเจรจาครับ เพราะเท่ากับยอมรับว่าโจรมีตัวตนและมีศักดิ์ศรีพอเจรจาต่อรอง...

โดยสรุป... นายสมชายว่างานนี้เป็นความสำเร็จครับ...


หัวข้อ: Re: เงี่ยหูฟังชาวตันหยงลิมอ ความรู้สึกหลังสัมผัสท่านผู้นำ
เริ่มหัวข้อโดย: BADBOY ที่ ตุลาคม 09, 2005, 01:59:47 PM
ไม่ใช่บ้านผมครับ ผมเลยไม่รู้เรื่อง ไม่แสดงความคิดเห็นปล่อยให้แล้วแต่เวรแต่กรรมเถอะ


หัวข้อ: Re: เงี่ยหูฟังชาวตันหยงลิมอ ความรู้สึกหลังสัมผัสท่านผู้นำ
เริ่มหัวข้อโดย: ชายเจษฎ์ ที่ ตุลาคม 09, 2005, 02:05:05 PM
อ่านจากตัวหนังสือโดยไม่เห็นหน้า สามารถเข้าใจผิดได้... หากท่านใดดูภาพจาก TV จะเห็นว่าบรรยากาศไม่ค่อยน่าคุยครับ...

ชาวบ้านหนุ่ม หรือมีอายุแล้วทั้งหลายยืนล้อมวงเป็นครึ่งวงกลม(แค่ครึ่งเดียว เพราะอีกครึ่งนึง รปภ.ยืนกันที่เอาไว้...)... ท่าทางยืนคุย ยืดอกตรง กอดอกก็มี... จ้องหน้าจ้องตาเขม็ง ไม่ให้ความเคารพคนมีอายุมากกว่า ถึงแม้ไม่เกรงตำแหน่ง แต่กับคนอายุมากกว่าก็น่าจะให้ความเคารพครับ...

ความเห็นนายสมชายว่า หากไม่แสดงภาษาท่าทางเป็นมิตร... คนทุกคนแม้แต่นายสมชายก็พูดแบบจบการสนทนาให้เร็วที่สุดครับ หมดธุระแล้วก็รีบกลับ... ขืนคุยต่อมีรายการทะเลาะบ้งเบ๊งกับนายกฯ ให้คนหลู่เกียรติ... ข่าวเลยออกมาแบบนั้น...

หากนายสมชายเป็นชาวบ้านที่ไม่ยอมรับอำนาจรัฐอยู่แล้ว... นายกฯ โผล่มาให้เห็นหน้า ขอทะเลาะซักทีนึง... มวยรองทะเลาะอย่างไรก็ได้คะแนนครับ...

นายกฯ ของประเทศไทยไปเหยียบตรงนั้น... เป็นความหมายเชิงสัญญลักษณ์ครับ... ว่าอำนาจรัฐไปถึงตรงนั้น ตรงที่ถูกประกาศว่า"ไม่ให้เจ้าหน้าที่ของรัฐเข้าไป"... นี่คือ"ธุระ"เจ้าหน้าที่ของรัฐ ไม่ใช่ไปเพื่อพบปะกับญาติผู้เสียหาย หากไม่แสดงอาการเป็นมิตร...

ทำนองเดียวกันกับโจรพูโลให้สัมภาษณ์ผ่านหนังสือพิมพ์ต่างประเทศว่าจะขอเจรจากับรัฐบาลไทย... ห้ามเจรจาครับ เพราะเท่ากับยอมรับว่าโจรมีตัวตนและมีศักดิ์ศรีพอเจรจาต่อรอง...

โดยสรุป... นายสมชายว่างานนี้เป็นความสำเร็จครับ...
อืม...นายสมชายวิเคราะห์ทีไร ได้ใจผมไปทุกที  ออกหนังสือเมื่อไหร่ บอกผมด้วยนะครับ


หัวข้อ: Re: เงี่ยหูฟังชาวตันหยงลิมอ ความรู้สึกหลังสัมผัสท่านผู้นำ
เริ่มหัวข้อโดย: Recoillism ที่ ตุลาคม 09, 2005, 03:26:01 PM
ขออนุญาตแสดงความเห็นส่วนตัวครับ

คนไทยลืมง่ายครับ ไม่กี่วันก่อนมนุษย์พิเศษพันธุ์นี้มันพึ่งฆ่านาวิกที่เคยขับรถรับส่งลูกหลานเขาอย่างโหดเหี้ยม  วันนี้นายกลงไปก็ไม่รู้ว่าผลจะเป็นอย่างไร แต่ก็เห็นด้วยว่ายังดีกว่านั่งพล่ามอยู่ในกรุงเทพเฉยๆ  ถ้าเป็นสมัยโบราณหมู่บ้านนี้คงถูกตัดหัวกันทั้งหมู่บ้าน ไม่ต้องมีปากเอามาร้องขอความเห็นใจจากหนังสือพิมพ์ผู้จัดการแล้วครับ   8)


หัวข้อ: Re: เงี่ยหูฟังชาวตันหยงลิมอ ความรู้สึกหลังสัมผัสท่านผู้นำ
เริ่มหัวข้อโดย: St. Anger ที่ ตุลาคม 09, 2005, 03:55:20 PM
อ่านจากตัวหนังสือโดยไม่เห็นหน้า สามารถเข้าใจผิดได้... หากท่านใดดูภาพจาก TV จะเห็นว่าบรรยากาศไม่ค่อยน่าคุยครับ...

ชาวบ้านหนุ่ม หรือมีอายุแล้วทั้งหลายยืนล้อมวงเป็นครึ่งวงกลม(แค่ครึ่งเดียว เพราะอีกครึ่งนึง รปภ.ยืนกันที่เอาไว้...)... ท่าทางยืนคุย ยืดอกตรง กอดอกก็มี... จ้องหน้าจ้องตาเขม็ง ไม่ให้ความเคารพคนมีอายุมากกว่า ถึงแม้ไม่เกรงตำแหน่ง แต่กับคนอายุมากกว่าก็น่าจะให้ความเคารพครับ...

ความเห็นนายสมชายว่า หากไม่แสดงภาษาท่าทางเป็นมิตร... คนทุกคนแม้แต่นายสมชายก็พูดแบบจบการสนทนาให้เร็วที่สุดครับ หมดธุระแล้วก็รีบกลับ... ขืนคุยต่อมีรายการทะเลาะบ้งเบ๊งกับนายกฯ ให้คนหลู่เกียรติ... ข่าวเลยออกมาแบบนั้น...

หากนายสมชายเป็นชาวบ้านที่ไม่ยอมรับอำนาจรัฐอยู่แล้ว... นายกฯ โผล่มาให้เห็นหน้า ขอทะเลาะซักทีนึง... มวยรองทะเลาะอย่างไรก็ได้คะแนนครับ...

นายกฯ ของประเทศไทยไปเหยียบตรงนั้น... เป็นความหมายเชิงสัญญลักษณ์ครับ... ว่าอำนาจรัฐไปถึงตรงนั้น ตรงที่ถูกประกาศว่า"ไม่ให้เจ้าหน้าที่ของรัฐเข้าไป"... นี่คือ"ธุระ"เจ้าหน้าที่ของรัฐ ไม่ใช่ไปเพื่อพบปะกับญาติผู้เสียหาย หากไม่แสดงอาการเป็นมิตร...

ทำนองเดียวกันกับโจรพูโลให้สัมภาษณ์ผ่านหนังสือพิมพ์ต่างประเทศว่าจะขอเจรจากับรัฐบาลไทย... ห้ามเจรจาครับ เพราะเท่ากับยอมรับว่าโจรมีตัวตนและมีศักดิ์ศรีพอเจรจาต่อรอง...

โดยสรุป... นายสมชายว่างานนี้เป็นความสำเร็จครับ...
อืม...นายสมชายวิเคราะห์ทีไร ได้ใจผมไปทุกที ออกหนังสือเมื่อไหร่ บอกผมด้วยนะครับ

และ

ขออนุญาตแสดงความเห็นส่วนตัวครับ

คนไทยลืมง่ายครับ ไม่กี่วันก่อนมนุษย์พิเศษพันธุ์นี้มันพึ่งฆ่านาวิกที่เคยขับรถรับส่งลูกหลานเขาอย่างโหดเหี้ยม วันนี้นายกลงไปก็ไม่รู้ว่าผลจะเป็นอย่างไร แต่ก็เห็นด้วยว่ายังดีกว่านั่งพล่ามอยู่ในกรุงเทพเฉยๆ ถ้าเป็นสมัยโบราณหมู่บ้านนี้คงถูกตัดหัวกันทั้งหมู่บ้าน ไม่ต้องมีปากเอามาร้องขอความเห็นใจจากหนังสือพิมพ์ผู้จัดการแล้วครับ 8)

ถูกต้องครับ
นี่ถ้ารัฐบาลไม่เห็นแก่มนุนยธรรม ผู้ที่ประท้วงกันเจ้าหน้าที่รัฐฯ ไม่ให้ช่วย2นาวิก จากมือที่บอกว่าใม่ใช่โจร (ชาวบ้านแท้นะ) ต้องตกเป็นผู้สมรู่ร่วมคิดแน่นอน แล้วมันต่างกันตรงไหน ถึงต้องการใช้รัฐเข้าไปเอาใจอีกหรือ ???


หัวข้อ: Re: เงี่ยหูฟังชาวตันหยงลิมอ ความรู้สึกหลังสัมผัสท่านผู้นำ
เริ่มหัวข้อโดย: skid row ที่ ตุลาคม 09, 2005, 04:52:54 PM
คนพวกนี้ส่วนมากจะไม่ยอมพูดภาษาไทยครับ  จะใช้ภาษายาวี  นี่หากไม่ใช่นายกคงไม่ยอมพูดภาษาไทยด้วยหรอก(เอ!แล้วตรงที่ๆเค้าอยู่มันประเทศอะไรฟะถึงไม่ยอมพูดภาษาไทย)  จะว่ารัฐไม่เปิดโอกาสให้เรียนก็ไม่ใช่  แถมยังพยายามส่งลูกหลานไปเรียนศาสนาพอออกมาไม่มีงานทำก็โทษรัฐ   เอาใจไม่ถูกจริงๆเลย


หัวข้อ: Re: เงี่ยหูฟังชาวตันหยงลิมอ ความรู้สึกหลังสัมผัสท่านผู้นำ
เริ่มหัวข้อโดย: rute - รักในหลวง ที่ ตุลาคม 09, 2005, 06:23:55 PM
รับฟังแล้วคิดคับ....


หัวข้อ: Re: เงี่ยหูฟังชาวตันหยงลิมอ ความรู้สึกหลังสัมผัสท่านผู้นำ
เริ่มหัวข้อโดย: D.A.- รักในหลวง ที่ ตุลาคม 09, 2005, 06:37:07 PM
ผมว่าหมู่บ้านนี้มันแปลก ๆ อยู่แล้ว ขนาดศพนาวิก ฯ ทั้งสองท่านยังต้องใช้เสื่อคลุมร่างออกมา หาธงชาติสักผืนยังไม่มีเลย....


หัวข้อ: Re: เงี่ยหูฟังชาวตันหยงลิมอ ความรู้สึกหลังสัมผัสท่านผู้นำ
เริ่มหัวข้อโดย: editor ที่ ตุลาคม 09, 2005, 10:11:42 PM
ขอให้ทุกหัวระแหงของแผ่นดินไทยร่มเย็นด้วยพระบารมี


หัวข้อ: Re: เงี่ยหูฟังชาวตันหยงลิมอ ความรู้สึกหลังสัมผัสท่านผู้นำ
เริ่มหัวข้อโดย: Nakin ที่ ตุลาคม 09, 2005, 10:12:58 PM

เอ่ออ ..... ใครเขียนข่าวนี้ครับ .... ถ้าเป็นสื่อขาประจำที่มีเรื่องกันอยู่ ......

อ่านแล้วผมก็เชื่อโดยไม่ต้องคิดเลยครับว่า .... ทักษิณ  ต้องติดลบ  แน่ๆ ....... 5 5 5 5

เวรกรรมจริงๆครับ .......  :D



.........


หัวข้อ: Re: เงี่ยหูฟังชาวตันหยงลิมอ ความรู้สึกหลังสัมผัสท่านผู้นำ
เริ่มหัวข้อโดย: editor ที่ ตุลาคม 09, 2005, 10:26:31 PM
เปลี่ยนจาก นายสน..ลิ้ม....น่าจะเปลี่ยนนามสกุลเป็น รู้ทุกอย่าง หรือ เก่งรอบโลกนะครับ...ผมอยากรู้หากคราวหน้า
เปลี่ยนผู้นำจากลุงเหลี่ยมแล้ว...ลุงสน...จะไปแนวใด...เฮ้อ...พอกัน ทั้งรัฐทั้งสื่อ


หัวข้อ: Re: เงี่ยหูฟังชาวตันหยงลิมอ ความรู้สึกหลังสัมผัสท่านผู้นำ
เริ่มหัวข้อโดย: rapala ที่ ตุลาคม 09, 2005, 11:05:05 PM
คนพวกนี้มีเยอะครับที่ไม่ได้รับการอบรมเรื่องมารยาท ลูกน้องผมหลายคนมารยาทดี  แต่มีอีกหลายคนแย่มาก  ถ้าคุณคุ้นเคยกับมารยาทไทยแต่โบราณ  รับรองจะรับไม่ได้กับคนพวกนี้ 
เรื่องใช้เสื่อห่อศพ  เป็นวัฒนธรรมปรกติของพวกเขาครับ  ถ้าใครตายต้องรีบทำพิธีฝังภายใน 24 ชั่วโมง 
สมัยก่อน  ช่วงกลางคืนผมยังเคยเห็นสี่คนแบกแคร่ ข้างบนมีเสื่อห่อร่างเดินไปตามถนน เพื่อไปทำพิธี 
ยังมีของแปลกๆอีกเยอะครับ  ซึ่งก็คงจะเหมือนกับภูมิภาคอื่นๆที่มีวัฒนธรรมที่แปลกแยกออกไป


หัวข้อ: Re: เงี่ยหูฟังชาวตันหยงลิมอ ความรู้สึกหลังสัมผัสท่านผู้นำ
เริ่มหัวข้อโดย: ek_suwat ที่ ตุลาคม 09, 2005, 11:24:17 PM
........................ต้องจัดการเด็ดขาด............................


หัวข้อ: Re: เงี่ยหูฟังชาวตันหยงลิมอ ความรู้สึกหลังสัมผัสท่านผู้นำ
เริ่มหัวข้อโดย: M1911LOVER "รักในหลวง" ที่ ตุลาคม 09, 2005, 11:50:14 PM
ปัจจัตตัง...

ชุมชนนิยม
รัฐชาตินิยม
วัฒนธรรมนิยม
จารีตนิยม
สังคมนิยม
ฯลฯ นิยม...



หัวข้อ: Re: เงี่ยหูฟังชาวตันหยงลิมอ ความรู้สึกหลังสัมผัสท่านผู้นำ
เริ่มหัวข้อโดย: salin - รักในหลวง ที่ ตุลาคม 10, 2005, 08:22:35 AM
http://www.matichon.co.th/matichon/matichon_detail.php?s_tag=01fun01091048&day=2005/10/09

น.อ.เชษฐา ใจเปี่ยม กระบอกเสียงกองทัพเรือ

- หน่วยนาวิกโยธินเองก็อยู่ในพื้นที่นานหลายสิบปีทำไมยังถูกทำร้าย?

ครับ นาวิกโยธินอยู่ในพื้นที่ค่อนข้างนาน 20-30 ปีและมีความต่อเนื่องรู้จักมักคุ้นกับประชาชนเป็นอย่างดี แต่ว่าในช่วงที่ผ่านมาเนื่องจากมีการปรับเปลี่ยนนโยบายต่างๆ ทำให้การจัดอะไรต่างๆ ต้องตัดรูปแบบไป มีช่วงหนึ่งที่เราต้องถอนกำลังกลับมาเข้าที่ตั้งปกติ เพราะ ศอบต.ถูกยกเลิก ช่วงนั้นทำให้สายสัมพันธ์ ที่สร้างไว้ต้องขาดช่วงไป พอเรากลับเข้าไปอีกก็ต้องไปสร้างใหม่ ซึ่งต้องใช้เวลานิดหนึ่ง

มีข่าวทางวิทยุหรือหนังสือพิมพ์ว่าระหว่างการลงเยี่ยมภาคใต้ของนายก ชาวบ้านที่ตันหยงลิมอ ขอให้สร้างมัสยิดให้ใหม่ นายกตอบว่าช่วยจับคนร้ายให้ได้ก่อน ฟังแล้วแสดงให้เห็นว่าแนวคิดเรื่องพื้นที่สีแดงไม่ให้งบประมาณที่ท่านเคยประกาศและถูกต่อต้านอย่างรุนแรงยังอยู่ในใจเสมอ ชาวบ้านจะรับกรรมต่อไปอีกนานเท่าไร

ดร.วัลลภ ปิยมโนธรรมให้ความเห็นในเชิงจิตวิทยาระหว่าการบรรยายเมื่อเร็วๆ นี้ว่า เมื่อนายกพูดว่า 2นาวิกโยธินต้องไม่ตายฟรี เคยคิดบ้างไหมว่าชาวบ้านเขาคิดเช่นเดียวกันมานานแล้ว เมื่อญาติ พี่น้องเขาถูกอุ้มหายไป

เรื่องนี้ถ้าจะแก้ผมว่าต้องหาปัญหาก่อน ไม่ใช่แก้อาการ


หัวข้อ: Re: เงี่ยหูฟังชาวตันหยงลิมอ ความรู้สึกหลังสัมผัสท่านผู้นำ
เริ่มหัวข้อโดย: srimalai_รักในหลวง ที่ ตุลาคม 10, 2005, 08:36:20 AM
ผมดูภาพแล้ว ผมไม่ได้เข้าข้างนายก นายกรัฐมนตรีเป็นผู้นำประเทศ ชาวบ้านยังไม่ค่อยให้เกียรติเลย นับประสาอะไรกับ นายอำเภอ ผู้ว่า อย่างผมบอกละครับ เขาไม่ได้คิดว่าตัวเองเป็นคนไทย และไม่ได้ยืนอยู่บนผืนแผ่นดินไทย


หัวข้อ: Re: เงี่ยหูฟังชาวตันหยงลิมอ ความรู้สึกหลังสัมผัสท่านผู้นำ
เริ่มหัวข้อโดย: too_muangphol ที่ ตุลาคม 10, 2005, 09:31:59 AM
ขออนุญาตไม่แสดงความคิดเห็น นะครับ