|
หัวข้อ: ศาสตราจารย์ ดร.นพ.เทพนม เมืองแมน เริ่มหัวข้อโดย: RUGER ที่ พฤศจิกายน 10, 2009, 12:34:04 AM ;D นั่งดูทีวี ป๋าต๋อยไตรภพ ........... ;D
สงสัยจังว่าเป็นใคร ......... อิอิอิ ******************************* ศาสตราจารย์ ดร.นพ.เทพนม เมืองแมน ตอนที่ 1 (http://board.palungjit.com/attachment.php?attachmentid=90982&thumb=1&d=1155903045) อ้างถึง เรื่องผี กับเรื่องมนุษย์ต่างดาว ยังเป็นเรื่องเร้นลับ คนส่วนใหญ่มองเรื่องนี้เป็นเรื่องเหลวไหล แต่ในความจริงก็คือมีปรากฏการณ์มากมายที่ไม่สามารถหาคำอธิบายได้ ดังนั้น พอคุณกำพล แห่งไทก้า โทรมาชวนผมไปสนทนากับคนที่คุยกับผีกับมนุษย์ต่างดาวได้ ผมก็เลยเกิดความสนใจ ยิ่งได้ยินชื่อว่าเป็น ศาสตราจารย์ ดร.นพ.เทพนม เมืองแมน คนไทยคนแรกที่ได้รับรางวัล HARVARD ALUMNI AWARD OF MERIT ด้านสาธารณสุข จากมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ดด้วยแล้ว ถือเป็นโปรแกรมที่ไม่น่าพลาดด้วยประการทั้งปวง เวลา 16.30 น. ของวันที่ 30 สิงหาคม คุณกำพล รัตนจางวาง พร้อมทีมถ่ายทำสารคดี เพื่อประชาสัมพันธ์ภาพยนตร์เรื่อง White Noise (จับเสียงผี) ก็มาถึงบ้านอาจารย์ที่ วิภาวดีซอย 8 ส่วนผม ชวนคุณพันธุ์ทิตต์ ไปร่วมฟังสนทนาด้วย เพราะรู้ว่าเขาก็สนใจเรื่องพวกนี้อยู่เหมือนกัน ภายในบ้านอาจารย์ถูกตกแต่งแบบเรียบง่าย ที่สะดุดตาก็น่าจะเป็นอัลบั้มภาพที่บันทึกเรื่องราวของจานผี, มนุษย์ต่างดาว และภาพวิญญาณต่างๆ ผมขออนุญาติถ่ายภาพเหล่านี้มาเผยแพร่ ซึ่งอาจารย์ก็อนุญาติโดยดี พร้อมบอกว่า คนจะได้เชื่อเรื่องกรรมดีกรรมชั่ว หลัง จากทีมพร้อมก็เริ่มบันทึกภาพและเสียงกัน คำถามหนึ่งที่น่าสนใจก็คือ ผีมีจริงหรือไม่ ? อาจารย์อธิบายว่า ท่านเคยพิสูจน์เมื่อคราวไปอียิปต์ ตอนไปดูสุสานฟาโรห์ บริเวณที่ฝังพระศพ โดยขอนำเทปไปบันทึกเสียง และห้ามผู้คนผ่านบริเวณนั้นเป็นเวลาสิบนาที ท่านอยู่ในความเงียบ และวังเวง แต่เมื่อสิบนาทีผ่านไป เมื่อกรอเทปเสียงที่บันทึก กลับปรากฏเสียงคล้ายคนกำลังสวดมนต์อยู่ตลอดเวลา ให้คนอียิปต์ฟัง เขาก็บอกว่าเป็นภาษาอียิปต์โบราณ เรื่องการบันทึกเสียงนี้ ท่านบอกว่า หากไปในสถานที่ ที่เชื่อว่ามีวิญญาณ แล้วลองอัดเสียงไว้ก็สามารถจะบันทึกเสียงของผู้ตายได้ ทั้งที่เวลาบันทึกเสียงนั้น หูเราอาจจะไม่ได้ยินเสียงอะไรเลยก็ตาม เรื่องเหล่านี้ อาจารย์อธิบายว่า เป็นเรื่องของคลื่นความถี่ของเสียง ซึ่งหากได้เครื่องอิเล็กทรอนิกส์ดีๆ ก็สามารถจะจับคลื่นเสียงที่มีความละเอียดเกินกว่าหูของมนุษย์จะรับรู้ได้ โดยเชื่อว่าอีกสิบปี ประเทศอเมริกา จะสามารถจะผลิตเครื่องที่ติดต่อกับผู้ที่เสียชีวิตไปแล้วได้ คุณกำพลถามว่า เวลาที่วิญญาณมา ทำไมอากาศรอบข้างมักจะเย็น อาจารย์อธิบายว่า วิญญาณต้องดึงพลังงานความร้อนในบริเวณนั้นมาช่วยเพื่อการปรากฏร่าง ทำให้บริเวณนั้นมีอากาศเย็นลงกว่าปกติประมาณ 5 องศาเซลเซียส จากนั้นเราก็สนทนากันถึงเรื่องชีวิตหลังความตาย โดยยกกรณีของ ดร.คลุ้ม วัชโรบล ซึ่งท่านพยายามพิสูจน์เรื่องนี้ โดยหลังจากเสียชีวิตได้มาเข้าร่างของบุตรชาย และอธิบายถึงชีวิตอีกมิติหนึ่งว่า ดินแดนที่ไปอยู่ไม่มี ดวงอาทิตย์ ดวงจันทร์ แต่มีความสว่าง และอากาศเย็นสบาย เวลาหิวก็นึกถึงอาหาร อาหารก็จะปรากฏ แต่จะเป็นอาหารเฉพาะตน ก็จะมีข้าว ไข่เจียว (ไม่มีน้ำ) ก็สามารถรับประทานได้แค่นั้น มีผู้อื่นอยู่ร่วมด้วย แต่อาหารจะแตกต่างกันไป บางคนก็จะมีอาหารมากมาย แม้ตนไปขอแบ่ง เจ้าของอาหารอนุญาติ แต่เวลาจะหยิบเข้าปาก อาหารเหล่านั้นก็จะอันตธานไป ท่านจึงเชื่อว่าเรื่องเหล่านี้คงเป็นเรื่องของกรรม ใครทำกรรมดีก็จะได้สิ่งดีในภพต่อไป สมบัติพัศสถานไม่สามารถนำติดตัวไปได้เลย (ญาติผู้ตาย สามารถทำบุญ ใส่บาตร ทำสังฆทานไปให้กับผู้ตายได้ โดยญาติต้องกล่าวคำอุทิศ) การพิสูจน์เรื่องวิญญาณของ ดร.คลุ้มในคราวนั้น เป็นข่าวใหญ่โต เพราะเพื่อนสนิทสามคนของท่าน ไม่เชื่อเรื่องนี้ ต่างพากันมาพิสูจน์ซักถามลูกชายของท่านเป็นเวลาสามชั่วโมงเต็ม รวมทั้งความลับต่างๆ ที่มีแต่เพื่อนสนิทเท่านั้นที่ทราบจึงจะตอบได้ แต่ลูกชายของท่านก็ตอบได้หมด ในเวลานั้น ศ.ดร.เทพนม ขอบันทึกภาพร่างของ ดร.คลุ้ม ท่านก็บอกว่าไม่มีร่างแล้ว (ภาพที่ปรากฏจากการถ่ายภาพโพลาลอยด์ในสมัยนั้น จึงได้เพียงแถบแสงสีฟ้าที่เชื่อว่าเป็นวิญญาณของ ดร.คลุ้ม) และจากการวัดคลื่นสมองของบุตรชายท่าน ในวันนั้น ก็พบว่ามีการเปลี่ยนแปลงไปจากปกติ http://bananaclick.velocall.com/pd1125468585.htm (http://bananaclick.velocall.com/pd1125468585.htm) หัวข้อ: Re: ศาสตราจารย์ ดร.นพ.เทพนม เมืองแมน เริ่มหัวข้อโดย: RUGER ที่ พฤศจิกายน 10, 2009, 12:36:10 AM ศาสตราจารย์ ดร.นพ.เทพนม เมืองแมน ตอนที่ 2
อ้างถึง เรื่องตายแล้วไปไหน หรือระลึกชาติได้ เป็นอีกหัวข้อหนึ่งซึ่งเราถือโอกาสแลกเปลี่ยนความคิดเห็นเรื่องนี้กับ ศาสตราจารย์ ดร.นพ.เทพนม เมืองแมน อาจารย์เล่าว่า เคยมีนักศึกษาแพทย์ฝรั่งทำการทดลอง ชีวิตหลังความตายโดยทำให้หัวใจหยุดเต้นชั่วขณะ แล้วค่อยใช้ไฟฟ้ากระตุกให้คืนสติอีกครั้ง ช่วงเวลาที่หัวใจหยุดเต้นนั้น นักศึกษาแพทย์ที่ทดลองได้เล่าว่า เหมือนลอดอุโมงค์และไปโผล่ที่ปลายทาง โดยสามารถพบกับญาติพี่น้องของตนที่เสียชีวิตไปแล้ว ส่วนของคนไทยนั้น อาจารย์เล่าว่า ผู้ที่เคยฟื้นจากความตาย (ชั่วคราว) เล่าว่าเหมือนมีคนชวนให้ไปอยู่ในสถานที่แห่งหนึ่งด้วยกัน โดยเมื่อไปถึงสถานที่แห่งนั้นแล้วพบว่าตนยังไม่ถึงฆาตก็สามารถที่จะกลับมามี ชีวิตเหมือนเช่นเดิม ผมสอบถามว่า ทำไมผู้ที่เสียชีวิตไปแล้วบางคนยังเป็นวิญญาณล่องลอยอยู่ แต่บางคนก็สามารถไปผุดไปเกิดใหม่ อาจารย์อธิบายว่า ความจริงชีวิตของมนุษย์ไม่ได้สิ้นสุด เพียงแต่หมุนเวียนเป็นวัฏจักร เกิดแล้วก็ตายเพียงแต่เปลี่ยนไปในสถานะต่างๆ เช่นทำไมคนบางคนต้องเกิดมาในตระกูลสูงส่ง ทำไมบางคนเกิดมาพิการ แผลเป็นที่ติดตัวมาแต่กำเนิด เรื่องเหล่านี้ล้วนเกิดจากกรรม หรือการกระทำดี-ชั่ว ของแต่ละคนทั้งสิ้น ผู้ที่ไม่สามารถไปผุดไปเกิดได้ก็เป็นเพราะต้องอยู่ใช้กรรม จนกระทั่งมีผู้อุทิศส่วนกุศลหรือแผ่เมตตาไปให้ ผมถามต่อว่า ผีหรือวิญญาณที่อาจารย์เล่าส่วนใหญ่จะเป็นฝ่ายมาขอความช่วยเหลือมนุษย์ มากกว่า ที่จะมาทำร้ายคนเหมือนในหนังใช่หรือไม่ อาจารย์เล่าว่าเคยมีประสบการณ์เมื่อครั้งไปพักที่โรงแรมในเวียดนาม ตอนดึกๆ จะมีความรู้สึกว่ามีมือเย็นๆ มากระตุกที่ขาตลอดคืน จนนอนไม่ได้ เลยนั่งทำสมาธิพบว่ามีวิญญาณคล้ายทหารญวนจำนวนมากมาอยู่รายล้อมรอบเตียง จึงอธิษฐานว่าขอให้อย่ามารบกวนกัน เมื่อกลับเมืองไทยจะทำบุญอุทิศส่วนกุศลไปให้ แล้วก็เข้านอนต่อ ก็ปรากฏว่าไม่มีความรู้สึกเหมือนคนมากระตุกขาอีกเลย รุ่งเช้า ทีมงานก็เล่าว่าตกอยู่ในสภาพเดียวกัน บ่ายวันนั้นจึงตัดสินใจย้ายที่พักกันทั้งทีม สำหรับเรื่องระลึก ชาติได้นั้น อาจารย์เล่าว่า บิดาของตนก็เป็นผู้หนึ่งซึ่งระลึกชาติได้ ท่านเล่าว่า ก่อนจะมาเกิดใหม่นั้น มีคนยื่นน้ำให้ดื่ม แต่ท่านดื่มเพียงครึ่งแก้ว แล้วก็แอบถ่มทิ้ง เรื่องเหล่านี้ตรงกับชาวต่างประเทศหลายคนที่ระลึกชาติได้ แต่เปลี่ยนจากน้ำเป็นผลไม้ โดยแต่ละคนที่ระลึกชาติได้ บอกว่ามิได้รับประทานผลไม้เหล่านั้นหมดเสียทีเดียว จึงสันนิษฐานว่าน้ำหรือผลไม้เหล่านั้น จะเป็นเสมือนเครื่องลบความทรงจำระหว่างเปลี่ยนภพ ในประเทศไทยเอง ก็มีเด็กหลายคนที่ระลึกชาติได้ อายุไม่กี่ขวบ ก็สามารถอ้างอิงถึงบุคคลที่รู้จักแม้ว่าจะอยู่คนละสถานที่ แต่ก็สามารถระบุชื่อและความเป็นมาของบุคคลนั้นๆ ที่อดีตชาติตนเคยเข้าไปเกี่ยวข้องได้ถูก หรือเด็กบางคน ก็สามารถท่องคาถาชินบัญชร ได้ไม่ผิดสักคำ ทั้งที่เกิดมาชาตินี้ไม่มีคนเคยสอน เรื่องเหล่านี้ น่าเสียดายที่ไม่ได้ถูกค้นคว้า หรือพิสูจน์อย่างจริงจัง ทั้งที่ปัจจุบัน มนุษย์พัฒนาเทคโนโลยีให้สามารถเดินทางออกไปนอกโลกได้ โคลนนิ่งแกะเพื่อสร้างชีวิตใหม่ได้ แต่เรื่องอดีตภพหรือความเป็นมาของภูติ ผี วิญญาณ กลับถูกละเลย ผู้ที่อยากทำการศึกษาเรื่องนี้อย่างจริงจัง ก็เลยดูเหมือน “เพี้ยน” ไปในสายตาคนส่วนใหญ่ ทั้งที่การค้นพบครั้งนี้ อาจจะทำให้มนุษย์ละอาย หรือเกรงกลัวต่อบาป มากขึ้น การเอารัดเอาเปรียบหรือเข่นฆ่ากันก็จะน้อยลง บางที ถ้าความรู้สึกสำนึกดีเกิดในมนุษย์ทุกคน เราก็สามารถเห็น “สวรรค์” ได้ในขณะที่มีชีวิต ! http://www.bananaclick.com/pd1125510533.htm (http://www.bananaclick.com/pd1125510533.htm) หัวข้อ: Re: ศาสตราจารย์ ดร.นพ.เทพนม เมืองแมน เริ่มหัวข้อโดย: RUGER ที่ พฤศจิกายน 10, 2009, 12:37:17 AM ศาสตราจารย์ ดร.นพ.เทพนม เมืองแมน ตอนที่ 3
อ้างถึง ความแตกต่างระหว่าง วิญญาณกับมนุษย์ต่างดาวนั้น ศาสตราจารย์ ดร.นพ.เทพนม เมืองแมน อธิบายว่า มนุษย์ต่างดาว มักมีจานบินเป็นพาหนะมาด้วย แต่วิญญาณนั้น ช่วงสมัยที่ ดร.คลุ้ม (ที่เสียชีวิตไปแล้ว)มาเล่าผ่านร่างบุตรชายของตนว่าไม่จำเป็นต้องมีรถ หรือพาหนะ เพียงแค่นึกอยากจะไปที่ไหน ก็สามารถหายตัวและไปโผล่ยังสถานที่ต้องการได้ ดังนั้น การเผารถกระดาษไปให้กับผู้ที่ล่วงลับแล้ว อาจจะไม่มีความจำเป็น หรือถึงได้รับ ก็คงไม่กล้าใช้ เพราะอายผู้อื่นที่เขาใช้วิธีนึกเอา ก็เดินทางไปถึงแล้ว ส่วนวิธีที่อาจารย์จะ พบกับมนุษย์ต่างดาวนั้น อาจารย์เล่าว่าต้องใช้วิธีทำสมาธิ ผมถามถึงรูปร่างหน้าตา อาจารย์อธิบายว่ามีหลายเผ่าพันธุ์ หัวกลมตาโต ปากเล็ก หรือคล้ายมนุษย์ก็มี บางพวกก็มาดี แต่ก็มีกลุ่มประสงค์ร้ายที่จะยึดครองโลกปะปนมาด้วย เพียงแต่ยังไม่สามารถทำสำเร็จ เนื่องจากปรับตัวไม่ได้กับแบคทีเรียบางอย่างบนโลกมนุษย์ (แม้จะพยายามลักตัวมนุษย์ไปแยกยีนส์ หรือผสมพันธุ์เพื่อสร้างเหล่ากอใหม่) ผมสอบถามต่อไปว่า เนื้อหาที่สนทนากับมนุษย์ต่างดาว ส่วนใหญ่จะเป็นเรื่องอะไรบ้าง อาจารย์เล่าว่าเป็นเรื่องทั่วไป เช่น การเกิดสงครามโลกครั้งที่สาม ซึ่งจะเกิดจากการต่อสู้เพราะทนถูกเอารัดเอาเปรียบไม่ไหว โดยจะมีการสร้างฐานจรวดบนดวงจันทร์เพื่อเตรียมถล่มกัน (ความจริงอาจารย์บอกชื่อผู้ที่จะจุดชนวนสงครามโลกด้วย แต่ผมขอปกปิดไว้ เพราะเกรงว่าอาจถูกฟ้องร้อง โดยขอให้ผู้สนใจกลับไปดูคำทำนายของนอสตราดามุสกันอีกครั้ง เนื่องจากชื่อที่อาจารย์บอกกับชื่อในคำทำนายช่างพ้องกันเหลือเกิน) ประเด็นที่น่าสนใจ ก็คือบางที อาจารย์ก็ไหว้วานให้มนุษย์ต่างดาวช่วยเหลืองานบางอย่าง ซึ่งบางงานมนุษย์ต่างดาวก็รับจัดให้ แต่บางงานก็ปฏิเสธ โดยบอกว่าเป็นเรื่องของมนุษย์ที่ต้องจัดการกันเอง ผมขอให้อาจารย์ยกตัวอย่าง ท่านเล่าว่า ก็เรื่องปัญหาภาคใต้บ้านเราไง ที่มนุษย์ต่างดาวบ่ายเบี่ยงไม่ยอมช่วย ส่วนเรื่องที่มนุษย์ต่างดาวยอมออกแรงช่วย อาจารย์ก็ไม่ยอมบอก ปกปิดเป็นความลับ ให้กลับไปคิดเป็นปริศนา ก่อนล่ำรากันวันนั้น พวกเราได้ไถ่ถามถึงงาน ที่อาจารย์กำลังทำอยู่ในปัจจุบัน ท่านได้กล่าวถึงเรื่องการสร้างเสื้อเกราะกันกระสุน ที่จะส่งไปให้ทหารตำรวจภาคใต้เพื่อป้องกันอันตราย โดยเป็นผ้าที่ทอหนาพิเศษ 16 ชั้น ป้องกันกระสุนปืนได้ ที่สำคัญต้นทุนผลิตเพียงแค่ สี่พันบาท ในขณะที่ท้องตลาดทั่วไปจำหน่ายถึงหกมื่นบาท โดยขณะนี้ประเทศจีนมีความสนใจจะสั่งนำเข้าถึงแสนตัว ใครบางคน อดนึกไม่ได้ว่า มนุษย์ต่างดาวอาจช่วยอาจารย์คิดค้นเสื้อเกราะชนิดนี้ แต่ผมกลับคิดถึงสาเหตุของการเกิดสงครามโลกครั้งที่สามที่มนุษย์ต่างดาวทำนาย ว่า จะเกิดจากความโลภของมนุษย์ ผมว่า ถ้ามนุษย์รู้จักแบ่งปันกัน รักและสามัคคีกัน การเข่นฆ่าล้างเผ่าพันธุ์มนุษย์ก็ไม่น่าจะเกิดขึ้น.... วันนี้ มีคำเตือนมาจากต่างดาวแล้ว ถ้ายังไม่เลิกเห็นแก่ตัวกัน ก็นับวันโลกาวินาศได้เลย http://www.bananaclick.com/pd1125512753.htm (http://www.bananaclick.com/pd1125512753.htm) หัวข้อ: Re: ศาสตราจารย์ ดร.นพ.เทพนม เมืองแมน เริ่มหัวข้อโดย: RUGER ที่ พฤศจิกายน 10, 2009, 12:41:39 AM ต่างคนก็ต่างความคิด แต่ผมชอบคำพูดจาก ๑๕ ค่ำ เดือน ๑๑
" เซื่อในสิ่งที่เฮ็ด ..... เฮ็ดในสิ่งที่เซื่อ " ......... อิอิอิ นิทราฝันดีทุกท่านครับ ......... ::014:: หัวข้อ: Re: ศาสตราจารย์ ดร.นพ.เทพนม เมืองแมน เริ่มหัวข้อโดย: RUGER ที่ พฤศจิกายน 10, 2009, 12:50:55 AM เสริมอีกนิดจาก วิกิพิเดีย ครับ
(http://www.pixnice.com/upload/files/dwjmkmbdnm2yhhzn3myu.jpg) http://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B9%80%E0%B8%97%E0%B8%9E%E0%B8%9E%E0%B8%99%E0%B8%A1_%E0%B9%80%E0%B8%A1%E0%B8%B7%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B9%81%E0%B8%A1%E0%B8%99 (http://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B9%80%E0%B8%97%E0%B8%9E%E0%B8%9E%E0%B8%99%E0%B8%A1_%E0%B9%80%E0%B8%A1%E0%B8%B7%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B9%81%E0%B8%A1%E0%B8%99) หัวข้อ: Re: ศาสตราจารย์ ดร.นพ.เทพนม เมืองแมน เริ่มหัวข้อโดย: พจน์-รักในหลวง ที่ พฤศจิกายน 10, 2009, 02:11:35 AM กำลังอ่านหนังสือของ ทพ.สม สุจีรา เรื่อง ไอน์สไตน์พบพระพุทธเจ้าเห็น แล้วดูรายการ ไตรภพสัมภาษณ์ ศ.ดร.นพ เทพนม เมืองแมน พอดี รู้สึกจะไปด้วยกันได้ครับ แล้วจะรู้ว่าพระพุทธเจ้าเห็นอะไรมากกว่านั้นเยอะมาก แต่พระองค์เห็นว่าไม่ใช่ทางหลุดพ้นจึงกล่าวถึงไม่มากนัก.ถึงที่สุดแล้ว "มีคือไม่มี(ว่างเปล่า)"ครับ
หัวข้อ: Re: ศาสตราจารย์ ดร.นพ.เทพนม เมืองแมน เริ่มหัวข้อโดย: oooOilooo ที่ พฤศจิกายน 10, 2009, 02:46:28 AM หนูดูเหมือนกันค่ะเมื่อกี้ ทูไนท์โชว์ ;D ;D
หัวข้อ: Re: ศาสตราจารย์ ดร.นพ.เทพนม เมืองแมน เริ่มหัวข้อโดย: PU45™ ที่ พฤศจิกายน 10, 2009, 07:31:49 AM ได้ยินกิตติศัพท์มานาน ..... แต่ผมว่าแกหมกมุ่นเรื่องจานผีและมนุษย์ต่างดาวมากไปหน่อย คล้ายๆกลุ่มที่นั่งสมาธิและคิดว่าตัวเองสื่อได้รับรู้ได้ ...... ผมว่าชั่วชีวิตของคุณหมอคงพิสูจน์ไม่ได้นอกจากคำบอกเล่าตามจินตนาการ หัวข้อ: Re: ศาสตราจารย์ ดร.นพ.เทพนม เมืองแมน เริ่มหัวข้อโดย: สหายแป๋ง คนดง ที่ พฤศจิกายน 10, 2009, 07:59:27 AM ผมได้ดูตอนจะจบหน่อยหนึ่ง ผมว่าแกต๊องๆยังไงไม่รู้
หัวข้อ: Re: ศาสตราจารย์ ดร.นพ.เทพนม เมืองแมน เริ่มหัวข้อโดย: nick357 "รักในหลวง" ที่ พฤศจิกายน 10, 2009, 09:44:02 AM ฟังแกพูดแล้วเหมือนคนเพ้อเจ้อ :-\.............แต่ผมเชื่อว่ามี......UFO
หัวข้อ: Re: ศาสตราจารย์ ดร.นพ.เทพนม เมืองแมน เริ่มหัวข้อโดย: MJ1911 ที่ พฤศจิกายน 10, 2009, 10:23:32 AM ผมเองเป็นลูกศิษย์ท่านคนหนึ่ง สมัยท่านยังสอนหนังสือในมหา'ลัย
ท่านเป็นคนใจดีครับ ส่วนเรื่องมนุษย์ต่างดาวนั้นท่านเคยพูดให้ฟังเหมือนกันตอนนั้นอาจารย์ยังไม่ทุ่มเท(หรือจะใช้คำว่าหมกมุ่นก็ตาม)ขนาดนี้ บรรดาลูกศิษย์ต่างคิดว่าอาจารย์เพี้ยน เพราะแม้นแต่ละคนไม่ได้ปฏิเสธว่ามันมีหรือไม่มี แต่เรื่องราวประสบการณ์ที่เล่ามามันไม่เป็นเหตุเป็นผลเท่าที่ควร หลายอย่างขัดแย้งกันเอง จึงต้องแยกระหว่างความจริงที่มีอยู่ กับคำบอกเล่าออกจากกันเสียก่อน ความจริงอาจจะมีอยู่หรือไม่มีอยู่ ยังตอบไม่้ได้ แต่คำบอกเล่า จะเป็นเพียงจิตนาการ หรือการประจักษ์จริง หลายคนลงความเห็นว่า น่าจะเป็นอย่างแรกมากกว่าครับ ด้วยความเคารพอาจารย์ครับ หัวข้อ: Re: ศาสตราจารย์ ดร.นพ.เทพนม เมืองแมน เริ่มหัวข้อโดย: somsakbck ที่ พฤศจิกายน 10, 2009, 10:47:48 AM กำลังอ่านหนังสือของ ทพ.สม สุจีรา เรื่อง ไอน์สไตน์พบพระพุทธเจ้าเห็น แล้วดูรายการ ไตรภพสัมภาษณ์ ศ.ดร.นพ เทพนม เมืองแมน พอดี รู้สึกจะไปด้วยกันได้ครับ แล้วจะรู้ว่าพระพุทธเจ้าเห็นอะไรมากกว่านั้นเยอะมาก แต่พระองค์เห็นว่าไม่ใช่ทางหลุดพ้นจึงกล่าวถึงไม่มากนัก.ถึงที่สุดแล้ว "มีคือไม่มี(ว่างเปล่า)"ครับ พระพุทธองค์ท่านถือเป็นอวิชชา เพราะเป็นวิชาที่ไม่ทำให้หลุดพ้นจากบ่วงอัตตาได้ครับ... ในช่วงอายุสุดท้ายของไอน์สไตน์ ๆ ก็หันมาศึกษาเรื่องเอกภพคู่ขนาน ซึ่งเป็นฟิสิกส์ที่ใกล้เคียงกับเรื่องกายละเอียด...แต่ก็ไม่สามารถล่วงรู้ถึงกฎธรรมชาติข้อนี้ได้สำเร็จ ซึ่งก่อนนั้นพระพุทธองค์ท่านตรัสรู้เรื่องต่างๆมาก่อนแล้ว หัวข้อ: Re: ศาสตราจารย์ ดร.นพ.เทพนม เมืองแมน เริ่มหัวข้อโดย: RUGER ที่ พฤศจิกายน 10, 2009, 11:44:28 AM ผมสงสัยอย่าง จานบินทำไมต้องเป็น วงกลมไข่ดาว มันเป็นเป็นทรงแบบอื่น ๆ หรืออย่างไร ???
หัวข้อ: Re: ศาสตราจารย์ ดร.นพ.เทพนม เมืองแมน เริ่มหัวข้อโดย: Don Quixote ที่ พฤศจิกายน 10, 2009, 12:10:11 PM ผมสงสัยอย่าง จานบินทำไมต้องเป็น วงกลมไข่ดาว มันเป็นเป็นทรงแบบอื่น ๆ หรืออย่างไร ??? ผมสงสัยอย่าง จานบินทำไมต้องเป็น วงกลมไข่ดาว มันเป็นเป็นทรงแบบอื่น ๆ หรืออย่างไร ??? ผมสงสัยอย่าง จานบินทำไมต้องเป็น วงกลมไข่ดาว มันเป็นเป็นทรงแบบอื่น ๆ หรืออย่างไร ??? ผมสงสัยอย่าง จานบินทำไมต้องเป็น วงกลมไข่ดาว มันเป็นเป็นทรงแบบอื่น ๆ หรืออย่างไร ??? ถ้าทรงแบบอื่นๆ เป็นจานบินไม่ได้ครับ อาจจะเป็น กระชุบิน หรือ จานเปลบิน หัวข้อ: Re: ศาสตราจารย์ ดร.นพ.เทพนม เมืองแมน เริ่มหัวข้อโดย: โมโม่153 ที่ พฤศจิกายน 10, 2009, 12:22:58 PM ผมสงสัยอย่าง จานบินทำไมต้องเป็น วงกลมไข่ดาว มันเป็นเป็นทรงแบบอื่น ๆ หรืออย่างไร ??? ถ้าทรงแบบอื่นๆ เป็นจานบินไม่ได้ครับ อาจจะเป็น กระชุบิน หรือ จานเปลบินทำทรงจรวดหรืยานอวกาศก็น่าจะได้นะคะ...;D หัวข้อ: Re: ศาสตราจารย์ ดร.นพ.เทพนม เมืองแมน เริ่มหัวข้อโดย: แมวบ้า(น) ที่ พฤศจิกายน 10, 2009, 12:23:40 PM ผมสงสัยอย่าง จานบินทำไมต้องเป็น วงกลมไข่ดาว มันเป็นเป็นทรงแบบอื่น ๆ หรืออย่างไร ??? ถ้าทรงแบบอื่นๆ เป็นจานบินไม่ได้ครับ อาจจะเป็น กระชุบิน หรือ จานเปลบินทำทรงจรวดหรืยานอวกาศก็น่าจะได้นะคะ...;D [/quote] ::007:: ::007:: ::007:: ::007:: ::007:: ถูกใจครับเจ๊ ::007:: ::007:: ::007:: ::007:: ::007:: หัวข้อ: Re: ศาสตราจารย์ ดร.นพ.เทพนม เมืองแมน เริ่มหัวข้อโดย: Don Quixote ที่ พฤศจิกายน 10, 2009, 12:25:30 PM ผมว่ามนุษย์เราประเมินตัวเองสูงเกินไปมากครับ ทั้งชีวสภาพของตนเอง และมิติที่เกี่ยวข้อง คือ ชีวสภาพของมนุษย์เรานั้น ก็ทำอะไรได้ระดับหนึ่ง ในจักรวาลนี้ผมเชื่อว่ามีสิ่งมีชีวิตที่ทำอะไรได้มากกว่าเรามากนัก ::002::
ส่วนมิติที่เกี่ยวข้อง ผมนึกถึงเวลา คือเวลาของอารยธรรมมนุษย์เรานั้น เอาที่เหลือร่อยรอยทางวัติถุเป็นเรื่องเป็นราว เป็นสิ่งก่อสร้าง (ค่อนข้าง) ถาวร ยังไม่ถึง 10,000 ปี ลเย ซึ่งเวลาแค่นี้สำหรับยมิติของจักรวาลแล้ว สั้นยิ่งนัก อายุของดาวเคราะห์เป็นหมื่นล้านปี นานกว่าล้านเท่า ก็ยังมีเกิดแล้วดับไปไม่รู้เท่าไหร่แล้ว ::008:: ส่วนตัวผม เชื่อว่ามีสิ่งมีชีวิตในดาวอื่นแน่ๆ รูปแบบไหนนั้นคงไม่จำเป็นต้องใกล้เคียงคน เช่น ไม่จำเป็นต้องเดินสองขา แต่เรื่องจะมาเจอเราในช่วงอารยธรรมของเราหรือไม่นั้นแล้วแต่ความน่าจะเป็นจริงๆ เพราะประวัติศาสตร์มนุษย์ที่ผ่านมานั้นสั้น และจะยาวอีกเท่าไหร่ก็ไม่มีใครรู้ :<><> และอาจจะเนื่องจากมิติเวลาอันสั้นนี้เราจึงไม่เจอสิ่งมีชีวิตจากดาวอื่นจังๆ ก็ได้ ::014:: ตอนนี้พวกนักวิทยาศาสตร์ชอบส่งสัญญาณวิทยุไปในอวกาศเล่นๆ เผื่อใครมาเจอจะได้รู้ว่าเราอยู่ที่นี่ นักมานุษยวิทยาบางคนอย่าง Jared Diamond บอกว่าเป็นความคิดที่บ้ามาก เพราะถ้ามีใครมาเจอจริงๆ และติดต่อกับเราได้จะต้องเป็นสิ่งมีชีวิตที่วิทยาการสูงกว่าเรามาก และตามประวัติศาสตร์ของการพบปะ/ปฏิบัติต่อกันระหว่างมนุษย์ แต่ต่างวัฒนธรรม ต่างความเชื่อ ต่างระดับเทคโนโลยี่ จะลงเอยประเด็น "กดขี่เป็นทาส" "ปล้นฆ่า" และ/หรือ "ฆ่าล้างเผ่าพันธุ์" ทั้งนั้น ::012:: ผมเองก็ออกจะเห็นด้วยและเมื่อพูดถึงสิ่งมีชีวิตต่างดาวที่ ต่างกับมนุษย์เรา ยิ่งกว่าต่างสปีชีย์ แตกต่างจนไม่รู้จะพูดอย่างไร ผมขอเติมประเด็น "สัตว์เลี้ยง" เข้าไปด้วยครับ ::010:: หัวข้อ: Re: ศาสตราจารย์ ดร.นพ.เทพนม เมืองแมน เริ่มหัวข้อโดย: นายขม รักในหลวง ที่ พฤศจิกายน 10, 2009, 12:29:34 PM ผมสงสัยอย่าง จานบินทำไมต้องเป็น วงกลมไข่ดาว มันเป็นเป็นทรงแบบอื่น ๆ หรืออย่างไร ??? ถ้าทรงแบบอื่นๆ เป็นจานบินไม่ได้ครับ อาจจะเป็น กระชุบิน หรือ จานเปลบิน อืมมม มีเหตุผล 8) จานบินไม่ค่อยน่ากลัวเท่าไหร่ สากบินน่ากลัวกว่าเยอะ ส่วนมากจะบินตรงและแม่น ::007:: ::007:: หัวข้อ: Re: ศาสตราจารย์ ดร.นพ.เทพนม เมืองแมน เริ่มหัวข้อโดย: Don Quixote ที่ พฤศจิกายน 10, 2009, 12:31:38 PM ::005::หรือไม่ก็บินแบบเหวี่ยงรอบตัว ปะทะเป้าหมายหลายเด้ง อย่างระเบิดมือสากเยอรมัน นะครับพี่ ::007::
หัวข้อ: Re: ศาสตราจารย์ ดร.นพ.เทพนม เมืองแมน เริ่มหัวข้อโดย: PU45™ ที่ พฤศจิกายน 10, 2009, 12:31:57 PM ผมสงสัยอย่าง จานบินทำไมต้องเป็น วงกลมไข่ดาว มันเป็นเป็นทรงแบบอื่น ๆ หรืออย่างไร ??? ถ้าทรงแบบอื่นๆ เป็นจานบินไม่ได้ครับ อาจจะเป็น กระชุบิน หรือ จานเปลบิน อืมมม มีเหตุผล 8) จานบินไม่ค่อยน่ากลัวเท่าไหร่ สากบินน่ากลัวกว่าเยอะ ส่วนมากจะบินตรงและแม่น ::007:: ::007:: :OO :OO :<< :<< ::007:: หัวข้อ: Re: ศาสตราจารย์ ดร.นพ.เทพนม เมืองแมน เริ่มหัวข้อโดย: oooOilooo ที่ พฤศจิกายน 10, 2009, 01:10:06 PM oooOilooo, หลวงกาหลง และ 7 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
อุ๊ย !!!!!!!!! ;D ;D ::005:: หัวข้อ: Re: ศาสตราจารย์ ดร.นพ.เทพนม เมืองแมน เริ่มหัวข้อโดย: pscn ที่ พฤศจิกายน 10, 2009, 01:14:20 PM oooOilooo, หลวงกาหลง และ 7 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้ ::013::อุ๊ย !!!!!!!!! ;D ;D ::005:: หัวข้อ: Re: ศาสตราจารย์ ดร.นพ.เทพนม เมืองแมน เริ่มหัวข้อโดย: Ruk™-รักในหลวง ที่ พฤศจิกายน 10, 2009, 05:30:59 PM แรกๆผมก็ดูว่าน่าสนใจ แต่มาหมดความเชื่อเถือตรงที่แกบอกว่า มีมนุษย์ต่างดาวโทรมาหาแกที่เบอร์บ้าน
พูดคุยกันด้วยภาษาไทย นัดแนะให้ไปเจอกันแถวแก่งกระจาน เพชรบุรี แกบอกว่าคนที่ไปด้วยถูกลำแสงของ มนุษย์ต่างดาวตายหมด มีแกรอดคนเดียว เพราะมนุษย์ต่างดาวสั่งห้ามไม่ให้บอกใครและไม่ให้พาใครไปด้วย ทั้งนั้น เท่านั้นแหละ ผมไม่กลับไปฟังอีกเลย และได้ยินหรือเห็นแกที่ไหน ก็ได้แต่ปลง ทำไมคนเรียนจบด๊อกเตอร์ ยังสติติ๊งต๊องขนาดนี้ หัวข้อ: Re: ศาสตราจารย์ ดร.นพ.เทพนม เมืองแมน เริ่มหัวข้อโดย: pasuta ที่ พฤศจิกายน 10, 2009, 06:58:04 PM คนต่างด้าวนี่มีแน่ๆเยอะด้วยครับ ;D แต่ต่างดาวนี่ก็ยังสงสัยอยู่ครับว่าโลกเรายังมีสิ่งมีชีวิตได้ แล้วทำไมอีกฟากฝั่งของดวงอาทิตย์ที่ระยะทางพอๆกับโลกของเรา อุณหภูมิและความชื้นเหมาะสมแก่การดำรงชีพจะเกิดสิ่งมีชีวิตขึ้นไม่ได้บ้าง และอาจจะพัฒนาพอๆกับมนุษย์โลกหรือยังด้อยกว่าเลยติดต่อเดินทางหากันไม่ได้หรือมาไม่ถึง ถ้าเป็นแบบนี้ความน่าจะเป็นไปได้คงมีสูง แต่ถ้าพูดว่าติดต่อกันทางโทรจิตได้ยังไงผมก็ยังไม่เชื่อครับ แต่เรื่องราวอ่านแล้วก็สนุกดีครับ ::002:: ::002::
หัวข้อ: Re: ศาสตราจารย์ ดร.นพ.เทพนม เมืองแมน เริ่มหัวข้อโดย: วัฒน์ ที่ พฤศจิกายน 10, 2009, 07:16:07 PM อืมมม มีเหตุผล 8) จานบินไม่ค่อยน่ากลัวเท่าไหร่ สากบินน่ากลัวกว่าเยอะ ส่วนมากจะบินตรงและแม่น ::007:: ::007:: ผู้มีประสบการณ์ตรงมาเล่าให้ฟังเลยนะเนี๊ยะ..... ::005:: หัวข้อ: Re: ศาสตราจารย์ ดร.นพ.เทพนม เมืองแมน เริ่มหัวข้อโดย: sig_surath7171 ที่ พฤศจิกายน 11, 2009, 06:53:48 PM แรกๆผมก็ดูว่าน่าสนใจ แต่มาหมดความเชื่อเถือตรงที่แกบอกว่า มีมนุษย์ต่างดาวโทรมาหาแกที่เบอร์บ้าน พูดคุยกันด้วยภาษาไทย นัดแนะให้ไปเจอกันแถวแก่งกระจาน เพชรบุรี แกบอกว่าคนที่ไปด้วยถูกลำแสงของ มนุษย์ต่างดาวตายหมด มีแกรอดคนเดียว เพราะมนุษย์ต่างดาวสั่งห้ามไม่ให้บอกใครและไม่ให้พาใครไปด้วย ทั้งนั้น เท่านั้นแหละ ผมไม่กลับไปฟังอีกเลย และได้ยินหรือเห็นแกที่ไหน ก็ได้แต่ปลง ทำไมคนเรียนจบด๊อกเตอร์ ยังสติติ๊งต๊องขนาดนี้ 555 ด๊อกเพี้ยน ๆ ท่านด๊อกน่าจะขอมนุษย์ต่างดาว มาช่วยทำงานบ้าน ช่วยขับรถ ช่วยเป็นหมอนวด ฯลฯ หรือไม่ก็ยืมจานบินไปยิงลำแสงพิฆาตใส่เครื่องบินของไอ้เหลี่ยมให้ตายยกลำ กลางอากาศ หรือช่วยให้พามันไปเป็นที่ปรึกษาของหัวหน้าเผ่าที่ดาวพลูโต ก็จะเป็นการดีมาก หัวข้อ: Re: ศาสตราจารย์ ดร.นพ.เทพนม เมืองแมน เริ่มหัวข้อโดย: todsagun ที่ พฤศจิกายน 11, 2009, 07:06:12 PM ผมก็ได้ดูครับ...
เห็นหลักฐานประกอบหลายๆอย่างของท่านผู้นี้แล้ว.. ยังหาคำตอบมาแย้ง..แบบเป็นรูปธรรมไม่ได้.. เรื่องพฤติกรรมของแกผมไม่ขอวิจารณ์.. ส่วนเรื่องงาน..ที่แกพยายามนำเสนอ.. ผมยังไม่เชื่อถือ.. แต่ก็ไม่ปฎิเสธที่จะยอมรับความเชื่อในเรื่องที่แกกล่าวอ้าง.. ถ้าอนาคตข้างหน้า..จะมีใครสักคน.. สามารถหาหลักฐาน..ที่มีน้ำหนักมากกว่านี้มานำเสนอ.. ;D หัวข้อ: Re: ศาสตราจารย์ ดร.นพ.เทพนม เมืองแมน เริ่มหัวข้อโดย: อู๋ รักในหลวง ที่ พฤศจิกายน 11, 2009, 07:33:41 PM สมัยก่อน ตอนเด็กๆม3-4 มีเพื่อนอยู่คนสนใจเรื่องมนุษย์ต่างดาวก็ไปเข้าทีมกับดร.ท่านนี้ครับ
ดร.แกก็บ้าเรื่องนี้มา10กว่าปีได้แล้วมั้งครับ ยังไม่เลิกบ้า ( อย่างว่าก็คงเหมือนเราบ้าปืนกันครับ) ได้ยินว่าศึกษาจริงจังมาก ทั้งเรื่องนั่งสมาธิ นั่งทางใน แต่ก็ใช้ศาสตร์ทางวิทยาศาสตร์มาผสมผสานกับเรื่องไสย์ศาตร์ เช่น นั่งทางในติดต่อกับมนุษย์ต่างดาวไรงี้ ดูๆไปครับ วันนึุงอาจมีงานวิจัยแปลกๆให้เราตื่นเต้นกันเล่นๆก็ได้ ส่วนตัวผมไม่ค่อยเชื่อ ....แต่เค้าบ้าเรื่องของเค้าปล่อยเค้าบ้าไป ไม่ได้ทำอะไรให้เราเดือดร้อน หัวข้อ: Re: ศาสตราจารย์ ดร.นพ.เทพนม เมืองแมน เริ่มหัวข้อโดย: เก้าก่อการ ที่ พฤศจิกายน 11, 2009, 07:37:54 PM แกคงถูกมนุษต่างดาวจับไปทำวิจัยบ่อยๆ มากๆเข้าเลยมีผลต่อการรับรู้ของสมอง ::005::
หัวข้อ: Re: ศาสตราจารย์ ดร.นพ.เทพนม เมืองแมน เริ่มหัวข้อโดย: nick357 "รักในหลวง" ที่ พฤศจิกายน 13, 2009, 09:15:07 AM สมัยก่อน ตอนเด็กๆม3-4 มีเพื่อนอยู่คนสนใจเรื่องมนุษย์ต่างดาวก็ไปเข้าทีมกับดร.ท่านนี้ครับ ดร.แกก็บ้าเรื่องนี้มา10กว่าปีได้แล้วมั้งครับ ยังไม่เลิกบ้า ( อย่างว่าก็คงเหมือนเราบ้าปืนกันครับ) ได้ยินว่าศึกษาจริงจังมาก ทั้งเรื่องนั่งสมาธิ นั่งทางใน แต่ก็ใช้ศาสตร์ทางวิทยาศาสตร์มาผสมผสานกับเรื่องไสย์ศาตร์ เช่น นั่งทางในติดต่อกับมนุษย์ต่างดาวไรงี้ ดูๆไปครับ วันนึุงอาจมีงานวิจัยแปลกๆให้เราตื่นเต้นกันเล่นๆก็ได้ ส่วนตัวผมไม่ค่อยเชื่อ ....แต่เค้าบ้าเรื่องของเค้าปล่อยเค้าบ้าไป ไม่ได้ทำอะไรให้เราเดือดร้อน แต่เค้าบ้าเรื่องของเค้าปล่อยเค้าบ้าไป ไม่ได้ทำอะไรให้เราเดือดร้อน อันนี้จริงครับเห็นด้วย...เเละไม่เคยต่อต้าน ;D หัวข้อ: Re: ศาสตราจารย์ ดร.นพ.เทพนม เมืองแมน เริ่มหัวข้อโดย: -จ่าตะพาบน้ำ- * รักในหลวง* ที่ พฤศจิกายน 13, 2009, 10:35:19 PM แกคงถูกมนุษต่างดาวจับไปทำวิจัยบ่อยๆ มากๆเข้าเลยมีผลต่อการรับรู้ของสมอง ::005:: ::005:: ::005:: ::005:: หัวข้อ: Re: ศาสตราจารย์ ดร.นพ.เทพนม เมืองแมน เริ่มหัวข้อโดย: USP40 ที่ พฤศจิกายน 14, 2009, 03:49:19 AM ฟังแกพูดแล้วเหมือนคนเพ้อเจ้อ :-\.............แต่ผมเชื่อว่ามี......UFO เห็นคำว่า UFO แล้วผมอดอมยิ้มไม่ได้ อิอิอิมีเพื่อนฝรั่งสมัยที่รู้จักกันใหม่ๆ มันถามผมว่าเอ็งรู้ไหมว่า UFO แปลว่าอะไร ไอ้เราก็ซื่อจนเซ่อตอบไปว่า Unidentified flying object ไอ้เวรมันบอกว่าไม่ใช่เว้ย มันแปลว่า Ugly F...ing Oriental ไอ้เวร....55555 หัวข้อ: Re: ศาสตราจารย์ ดร.นพ.เทพนม เมืองแมน เริ่มหัวข้อโดย: ManStopper ที่ พฤศจิกายน 14, 2009, 06:27:03 AM ผมก็เชื่อว่าเราไม่ได้อยู่โดดเดี่ยวในจักรวาลอันกว้างใหญ่ จึงเชื่อว่าน่าจะมีจริงๆ UFO
หัวข้อ: Re: ศาสตราจารย์ ดร.นพ.เทพนม เมืองแมน เริ่มหัวข้อโดย: PU45™ ที่ พฤศจิกายน 14, 2009, 08:00:04 AM เห็นคำว่า UFO แล้วผมอดอมยิ้มไม่ได้ อิอิอิ มีเพื่อนฝรั่งสมัยที่รู้จักกันใหม่ๆ มันถามผมว่าเอ็งรู้ไหมว่า UFO แปลว่าอะไร ไอ้เราก็ซื่อจนเซ่อตอบไปว่า Unidentified flying object ไอ้เวรมันบอกว่าไม่ใช่เว้ย มันแปลว่า Ugly F...ing Oriental ไอ้เวร....55555 :<< :<< :<< หัวข้อ: Re: ศาสตราจารย์ ดร.นพ.เทพนม เมืองแมน เริ่มหัวข้อโดย: nick357 "รักในหลวง" ที่ พฤศจิกายน 15, 2009, 05:53:13 AM ฟังแกพูดแล้วเหมือนคนเพ้อเจ้อ :-\.............แต่ผมเชื่อว่ามี......UFO เห็นคำว่า UFO แล้วผมอดอมยิ้มไม่ได้ อิอิอิมีเพื่อนฝรั่งสมัยที่รู้จักกันใหม่ๆ มันถามผมว่าเอ็งรู้ไหมว่า UFO แปลว่าอะไร ไอ้เราก็ซื่อจนเซ่อตอบไปว่า Unidentified flying object ไอ้เวรมันบอกว่าไม่ใช่เว้ย มันแปลว่า Ugly F...ing Oriental ไอ้เวร....55555 โหยยย...น่าพามาเทียวเอเซียจะลืมไม่ลง ;D หัวข้อ: Re: ศาสตราจารย์ ดร.นพ.เทพนม เมืองแมน เริ่มหัวข้อโดย: USP40 ที่ พฤศจิกายน 15, 2009, 06:33:17 AM ฟังแกพูดแล้วเหมือนคนเพ้อเจ้อ :-\.............แต่ผมเชื่อว่ามี......UFO เห็นคำว่า UFO แล้วผมอดอมยิ้มไม่ได้ อิอิอิมีเพื่อนฝรั่งสมัยที่รู้จักกันใหม่ๆ มันถามผมว่าเอ็งรู้ไหมว่า UFO แปลว่าอะไร ไอ้เราก็ซื่อจนเซ่อตอบไปว่า Unidentified flying object ไอ้เวรมันบอกว่าไม่ใช่เว้ย มันแปลว่า Ugly F...ing Oriental ไอ้เวร....55555 โหยยย...น่าพามาเทียวเอเซียจะลืมไม่ลง ;D |