เว็บบอร์ดสนทนาภาษาปืน

สนทนาภาษาปืน => หลังแนวยิง => ข้อความที่เริ่มโดย: aecom ที่ พฤศจิกายน 16, 2009, 04:05:59 PM



หัวข้อ: คำสารภาพ ตอนที่ 1
เริ่มหัวข้อโดย: aecom ที่ พฤศจิกายน 16, 2009, 04:05:59 PM
ในบาร์เหล้าขนาดย่อมกลางเมือง.

ชีวิตกลางคืนอันเนิบนาบ ดำเนินไปตามทางของมัน.
เปรียบเหมือนจังหวะของเพลงอันน่าเบื่อหน่าย ที่นักดนตรีบนเวทีกำลังจำใจบรรเลง.

ผมมองอย่างเข้าใจ.
ในโลกนี้บางทีสิ่งที่ชอบเรากลับไม่ได้ทำ.
สิ่งที่ต้องทำกลับไม่ชอบ.
ทั้งหมดล้วนเพื่อปัจจัยที่ห้า ที่จะนำไปจับจ่ายเอาตัวรอดในสังคมที่เน่าเฟะแบบวันต่อวัน.

เด็กเสิร์ฟวางเบียร์ขวดที่ห้าลงบนโต๊ะ ก่อนบรรจงเทลงในแก้วทั้งสามใบ.
ผมโยนเศษเงินให้ร้อยนึง แล้วโบกมือไล่.

สายตาผมจับจ้องไปที่เพื่อนร่วมโต๊ะทั้งคู่.
พลางยกแก้วขึ้นกระดกรวดเดียวหมดแก้ว.
" งานนี้เสี่ยง เป้าหมายเป็นคนดังในวงสังคม" เพื่อนรัก( คนเดียวของผม ) ชิงพูดขึ้นก่อน.
" ชนิดที่ว่า ถ้ามึงทำแล้ว พาดหัวหน้าหนึ่งแน่ๆ "
ผมฟังอย่างใจเย็น " นายมึงให้เท่าไหร่? "
" สองล้าน....... ล่วงหน้าครึ่งนึง "
ตาผมเบิกโพลง อืมมม งานนี้ไม่เล็ก ค่าหัวสองล้านสำหรับเด็ดชีพใครซักคน ย่อมหมายถึงผลประโยชน์ที่จะตามมาของผู้ว่าจ้างอีกมหาศาลแน่นอน..

..............................

ภาพในวัยเด็กปรากฎชัดขึ้นเรื่อยๆ.
ผมเป็นคนเพชรบุรี ถิ่นแห่งควันปืน เรียกว่าเกิดมาก้อฟังเสียงปืนแทนเสียงเพลงกันแล้ว.
ตอนผมรุ่นๆ เคยขอพี่ชายตามไปดู เค้ากับเพื่อนไปยิงคน เห็นเป็นเรื่องสนุก.
ครั้งแรกที่เห็นเลือดทะลักออกจากแผลเป้าหมาย ผมเหงื่อตก ถึงกับเก็บมานอนฝันร้ายอยู่สองคืน.
แต่ก้อยังเฝ้าเพียรถามพี่ว่าเมื่อไหร่จะได้จับปืน.
ผมอยากยิงคน อยากเด่นอยากดังในวงการ อยากสร้างชื่อในวงนักเลง ซึ่งเป็นเป้าหมายของวัยรุ่นทุกคนในเมืองเพชรตอนนั้น.
อีกสองเดือนพี่เอา 9 มม. มาฝาก.
" เอ้า!! กูเอาไปเสกเป่ามาแล้ว ตัวมึงยังไม่ใหญ่ เอาอันนี้ไปใช้ก่อน โตเมื่อไหร่กูจะไปถอย 11 มาให้ "
พี่วางเพื่อนสนิทคนแรกของผมลงบนโต๊ะ.
" แล้วจำไว้ รักปืนให้มากกว่าทุกอย่างในโลก ปืนดีไว้ใจได้มากกว่าเพื่อนรักสิบคน" พี่เริ่มถอดปืนให้ผมดู.
" หมั่นทำความสะอาด เหน็บติดเอว24ชม. ปืนยิงคนอย่าเอาไปยิงหมาแมว มันจะไม่ขลัง " มือพี่สั่นทำปืนตก เราหัวเราะกันทั้งคู่.

ไม่นึกว่านั่นจะเป็นครั้งสุดท้ายที่ผมจะได้หัวเราะกับพี่.
เสียงพี่ยังก้องในหัวผม.
" ยิงคนทุกครั้ง ถ้าทำได้เอาเลือดมาทาที่ปลายปืน เค้าว่าเป็นเคล็ด ถ้าศพหงายเอาตีนพลิกให้คว่ำ ไม่งั้นเค้าเห็นทางหนีเรา "
" แล้วจำไว้ อย่ายิงเด็ก ผู้หญิง พระ กูขอ มันเป็นศักดิ์ศรีของคนเมืองเพชร "

อีกเดือนเศษ ผมยิงศพแรก ค่าหัวห้าพัน.
เดือนถัดมา พี่โดนอริเก่าดักซัลโวหน้าร้านเหล้าประจำ.

แม่ร้องไห้ให้ทั้งสองเหตุการณ์.

.......................................

ผมก้มมองรอยด้านรูปด้ามปืนที่เอวข้างขวา.
ยกเบียร์ขึ้นทานต่อ.....มองหน้าเพื่อนแล้วผงกหัวรับ.
" กูชอบงานยาก....ไหนรูปเป้าหมาย? "
ชายร่างเตี้ยที่มาด้วยควักซองจดหมายยื่นให้ผม ผมรับมาเปิดดู ข้างในมีแผนที่บ้าน ชื่อ นามสกุล และรูปเป้าหมาย ผมพลิกรูปขึ้นมาดู แล้วถึงกับตะลึง.
" นี่ไอ้เผิน มันอาสาขี่รถให้มึง มือหนึ่งที่กูมีตอนนี้"
เพื่อนผมแนะนำแล้วบรรยายต่อ.
" ประกบเก่ง รู้จังหวะผ่อน เร่ง งานล่าสุดมันไปกับน้องกู น้องกูกดหมดรังกำลังจะเผ่น ไอ้เหี้ยนี่ตาดี เห็นเหยื่อยังไม่ตาย บิดกลับมาให้ซ้ำอีก นิ่งจริงๆ "
คนถูกชมอมยิ้ม ควักบุหรี่นอกมาจุด.
" กูขอสองอาทิตย์ "
" อืมม "
" เน้นๆนะ...ไอ้นี่มันมีวิชา "
" หืม? "
" นายกูดักยิงมาสามครั้งแล้ว มันรอดทุกครั้ง เค้าว่ามันหนังเหนียว มีพระดี "
" ไม่มีใครเหนียวกว่าลูกปืน เชื่อกู "
" มึงกำลังพุ่งแรง กูไม่อยากให้พลาด "
" อืมมม แล้วใครจะไปชี้เป้า? "
" กูเอง "
ผมนึกอยู่แล้ว คนระดับนี้ มันต้องไปชี้เป้าให้ผมเอง.
ผมโบกมือเรียกเด็ก " เบียร์ขวด "
" งานนี้คงยาก " เพื่อนกำชับ.
" ยากทุกงานน่ะแหละ "

ผมนึกถึงงานแรกในชีวิต.
เป้าหมายเป็นหัวคะแนนกระจอกๆในเพชรบุรี.
แต่เป็นนักเลงใจเด็ด พก11มม.ไว้ข้างตัวตลอด เข้าถึงตัวยาก ว่ากันว่าเดินเข้าไปใกล้ตัวมันเกิน 2 เมตร ก้อโดนประกบแล้ว.
วันนั้น ผมเดินเข้าซอยตลาดบ้านมัน เพื่อนจอดรถเครื่องรอข้างนอกเพราะเข้าไม่ได้.
ทางจากปากซอยถึงบ้านมันร่วม 100 เมตร ผมเดินจนถึงร้านขายของข้างบ้านมัน แกล้งทำทีเป็นซื้อบุหรี่.
เห็นมันนั่งกินข้าวกับลูกๆอยู่หน้าบ้าน.
ผมสบตาลูกมันแว็บนึง ใจเต้นรัว นึกในใจต้องเอาลูกมันไปด้วย จำหน้าเราได้.
หัวสมองวางแผน อีกใจนึกยิงแล้วเราจะรอดมั้ย? ลูกน้องมันล่ะ? ต้องวิ่งตั้ง 100 เมตร.
แต่รับเงินมาแล้ว ต้องทำ คำสอนของพี่ผมวนเวียนในหัว ผมยืนสูบบุหรี่นิ่ง ไม่ทันสังเกตุว่าคนเริ่มมองเพราะเราแปลกหน้า แปลกถิ่น.
นึกถึงคำอาจารย์ " ไอ้นี่มันดวงขาด มันต้องตาย แต่มึงต้องจัดการก่อนบ่ายสอง " ผมก้มมองนาฬิกาเก่าๆที่ข้อมือ จะบ่ายแล้ว.
ยังไงต้องก่อนบ่ายสอง ผมคิด.
แม่ค้าที่ร้านเริ่มสงสัยชวนผมคุย " พ่อหนุ่ม มาหาญาติเรอะ? "
ผมตัวสั่นด้วยเป็นมือใหม่ ไม่รู้มีอะไรมาดลใจ.
ไม่สนใจที่แม่ค้าพูด เดินสืบเท้าเข้าไปหาตัวเป้าหมาย แกล้งทำทีเป็นล้วงกระเป๋าเอาไฟมาจุดบุหรี่.
ปากคาบบุหรี่แน่น มือในกระเป๋าค่อยๆดันปลายปืน ให้ด้ามโผล่ออกมามากที่สุด ปลดเซฟเบาๆ มือสั่นกึกๆตลอด.
ทางใกล้ๆไม่เกิน 10 เมตร แต่เหมือนไกลในสายตาผม ลูกสาวมันสบตาผมอีกครั้ง มันผงะหน้ามองตามมา แล้วรีบเลื่อนตัวถอยหลัง ก่อนเอื้อมมือไปหยิบเพื่อนรักมัน...........
ผมไม่ปล่อยวินาทีทอง ควัก 9 มม. คู่กายออกมาประทับมั่น แล้วยิงสวนออกไปสองนัด

ปัง!!!!! ปัง!!!!!!.

กระสุนวิ่งวาบเข้าลำตัวในนัดแรก อีกนัดถากหน้ามันไป......มันหยิบปืนไม่ได้แล้ว.
ผมตามเข้าซ้ำ.

ปัง!!!! คราวนี้เผาขน เข้าเต็มที่ที่คอหอยมัน ร่างมันกระตุกเฮือก เลือดสดๆไหลทะลักออกมาไม่หยุด.
คนในตลาดเริ่มวิ่งหนีกันอลหม่าน เสียงหวีดร้องดังไปทั่ว ฝุ่นตลบเนื่องจากเป็นถนนดินลูกรัง.
ผมเลื่อนปลายปืนมาจ่อหน้าลูกชายมัน ที่กำลังก้มลงดูพ่อ ลูกมันสบตากับผมกร้าว.
ไม่มีแววตาของคนกลัวตาย!!!!!!.

ลูกสาวมันวิ่งเข้าบ้าน ร้องหาแม่.
ผมมองตาลูกชายมันนิ่ง ก่อนกดปืนทิ้งลงพื้นสามนัด
แล้วหันหลังวิ่งหนีไม่คิดชีวิต.
ตัวสั่น หน้ามืด มึนงง ไม่สนใจรอบข้าง.

ผมวิ่งมาถึงปากซอย เพื่อนได้ยินเสียงปืน สตาร์ทรถรอไว้แล้ว ผมกระโดดขึ้นซ้อนเกาะเพื่อนแน่น.
แล้วเพื่อนก้อบิดรถควบเร็วจี๋ หายไปกับสายลม......

สามวันต่อมาผมต้องระเห็จออกไปอยู่กับนายของเพื่อนที่ชลบุรี เพราะตำรวจรังควานหนัก.
เนื่องด้วยนโยบายกำจัดมือปืนในตอนนั้น.
ผมนอนดิ้นไปเป็นเดือน นึกถึงแต่แววตาลูกมัน ใครจ้องหน้าก้อพาลคิดว่าเป็นตำรวจ กลางคืนก้อนอนไม่เต็มตา กลัวคนโน้น คนนี้ จะมาเก็บเรา.

เงิน 5000 บาท.
พรากอิสระ ของผมไปหมดสิ้น.

หลังจากนั้น ผมก้อหันมาเดินเส้นทางสายนี้เต็มตัว.
---------------------------------------------------


หัวข้อ: Re: คำสารภาพ ตอนที่ 1
เริ่มหัวข้อโดย: aecom ที่ พฤศจิกายน 16, 2009, 04:07:45 PM
Copy มาฝากครับ

อ่านเล่นๆ เพลินๆ นะครับ


หัวข้อ: Re: คำสารภาพ ตอนที่ 1
เริ่มหัวข้อโดย: จอยฮันเตอร์ ที่ พฤศจิกายน 16, 2009, 04:20:12 PM
อ้าวหักมุขจบเฉยๆเลย ::011:: ::012:: ::013::


หัวข้อ: Re: คำสารภาพ ตอนที่ 1
เริ่มหัวข้อโดย: submachine -รักในหลวง- ที่ พฤศจิกายน 16, 2009, 04:35:40 PM
ต่อตอน2ได้เลยครับ กระทู้นี้แหละ


หัวข้อ: Re: คำสารภาพ ตอนที่ 1
เริ่มหัวข้อโดย: SEEZ ..รักในหลวง.. ที่ พฤศจิกายน 16, 2009, 04:39:59 PM
ดูจากชื่อกระทู้ เดาต้องมีต่อครับ ;D ;D


หัวข้อ: Re: คำสารภาพ ตอนที่ 1
เริ่มหัวข้อโดย: aecom ที่ พฤศจิกายน 16, 2009, 04:48:02 PM
คำสารภาพ ตอนที่ 2
......................................

งานผมทุกงานต้องวางแผน.
ผมไม่ดื่มเหล้าย้อมใจเหมือนมือปืนรายอื่นๆ.
ผมต้องการสมาธิ สติ และความแน่นอน.
เหยื่อต้องตาย!! คือเท่าที่ผมคิด.
ด้วยความแน่นอนนี่เองที่ทำให้ชื่อเสียงของผมเริ่มพุ่งแรง แซงหน้ามือปืนรุ่นเดียวกันคนอื่นๆ.

...........................................

ตอนนี้ผมตามดูกิจวัตรประจำวัน ของเป้าหมายรายใหม่อยู่....
เฉกเช่นราชสีห์ ที่แอบจ้องมองเหยื่อ.
เพื่อรอเวลาเข้าตะครุบ.
และนำความตายมามอบให้.

แม้ไม่มีใครเต็มใจรับมันก้อตาม.

-------------------------------------------

อาทิตย์กว่าๆแล้วที่ผมเฝ้าตามติดดูเป้าหมายคนนี้.
บางคืนผมต้องอดหลับอดนอน เพื่อรอเช็คเวลา ให้แน่ใจที่สุด.
เป้าหมายเป็นคนใหญ่คนโต โอกาสมีแค่ครั้งเดียว.
ผมจึงใช้เวลาตามอยู่นาน เพื่อความมั่นใจ.
แผนการที่วางต้องรัดกุมที่สุด.

" ไม่ว่างานเล็ก งานใหญ่ มึงจำไว้ แผนการณ์ดีโอกาสพลาดย่อมน้อย อย่าสักแต่ดุ่มๆเข้าไปยิง "
ผมจำคำพี่ได้แม่น.
ทุกงานที่ผ่านมือผม ผมจะวางแผนเองทั้งหมด.
ไม่ยอมให้ใครมาบังคับ หรือกำหนดใดๆทั้งสิ้น.

อีกสองวัน.....ผมตั้งใจไว้แล้ว.
โอกาสเดียวที่จะเข้าถึงตัวเป้าหมายคนนี้ได้ใกล้ที่สุด คือตอนเป้าหมายอยู่ในรถ...กำลังเดินทาง.
ดังนั้น สองสามวันมานี้ ผมกับไอ้เผิน จำเป็นต้องซักซ้อมจังหวะจะโคนกันให้ดี ว่าตอนไหนมันต้องผ่อน ตอนไหนต้องเร่ง และจะประกบเป้าหมายลักษณะไหน.

มือปืนต่างคนย่อมต่างสไตล์.
บางคนชอบยิงย้อนศร คือแซงขึ้นไปแล้วหันหน้ามายิง บางคนชอบประกบเยื้องๆไปทางด้านหลัง แล้วจ่อยิง.
ผมชอบแบบหลัง.....หนีง่าย เป้าหมายไม่รู้ตัว คนขับไม่ทันมอง.
แต่การยิงแบบนี้ มือปืนต้องนิ่ง แม่นยำ เพราะต้องยิงทะลุผ่านกระจกให้เข้าจุดตายของเป้าหมาย ซึ่งจริงๆแล้วยิงจากข้างหน้าจะง่ายกว่า.
เราซ้อมกันเป็นร้อยๆเที่ยว.

.......................................

ผมนั่งจิบเบียร์ในห้องคนเดียว.
นั่งจ้องแผนที่ทางหนีทีไล่ที่เตรียมไว้ ก่อนละสายตาออกมา...ทอดอารมณ์ไปตามรสเบียร์.
ดวงตาเหม่อลอยออกไปที่หน้าต่าง.

นึกถึงภาพเก่าๆสมัยที่ยังต้องหนีหัวซุกหัวซุนในป่า.
ตำรวจตามหาผมแทบพลิกแผ่นดิน.
ผมต้องหมุนเวียนเปลี่ยนที่นอนไปเรื่อย อยู่กับที่นานๆไม่ได้ นอนก้อไม่เต็มตา ชีวิตเหมือนไม่ใช่ชีวิต.

ผมไว้ใจคนไม่ได้แม้แต่คนเดียว เพื่อน คนรัก.
ทุกคนล้วนหักหลังผมได้ เพื่อเงิน.
สิ่งเดียวที่ผมไว้ใจ " ปืน ".
เป็นสิ่งเดียวที่ผมรู้ว่ามันรักผม อย่างจริงใจ.
ผมยิงคนมาร่วมร้อย รวมทั้งลูกหลง และบางคนที่โชคร้ายอยู่ข้างๆเป้าหมาย.
มันไม่เคยขัดลำ.

11 มม. กระบอกนี้.....ผมรักมัน.
หลังจากผมโตเป็นหนุ่มขึ้นมา ชื่อเสียงสรรพคุณของมันเริ่มเป็นที่พูดคุยในวงนักเลง.
" มันมีผีสิง "
" ปืนมันดื่มเลือด "
แล้วแต่ใครจะคิดอย่างไร.
ว่ากันว่าปืนกระบอกนี้ หลวงพ่อชื่อดังแถวปากน้ำเป็นคนทำพิธีให้เองกับมือ เพื่อมอบให้กับเจ้าพ่อชื่อดังในยุคนั้น.
ก่อนที่นายผมจะได้รับตกทอดมา.
และมอบมันให้กับผม ซึ่งเป็นมือหนึ่งของนาย.
ประหนึ่งเพื่อตอบแทนความภักดีของผมที่มีต่อนาย.

.38 9มม. บางรายโดนแล้วยังคลานไปได้อีกร่วมยี่สิบเมตร.
แต่กับ 11 มม. ( โดยเฉพาะกระบอกนี้ ).
ใครโดนเมื่อไหร่ ตรงไหน ล้มตรงนั้นทุกราย.
ทำแล้วห้ามพลาด คือข้อจำกัดของอาชีพอย่างผม ดังนั้นมันจึงเป็นหนึ่งเดียวที่คู่กายผมตลอดเวลา.

.......................................

เป้าหมายผมหนังเหนียว?
ผมไม่เชื่อหรอก.
แต่ที่ผมมากับมันวันนี้ก้อเพื่อสร้างกำลังใจ และเพื่อให้มันสบายใจ ก้อเท่านั้น.

หลวงพ่อชาวเขมร ค่อยๆพรมน้ำมนตร์ลงบนลูกปืนผมช้าๆ ปากท่องคาถางึมงำ.
พลางเอื้อมมือมาขอปืนผมไปประกอบพิธี.
ไม่มีทาง.
ปืนนี้ดีพอแล้ว ผมพูด.
หลวงพ่อผงกหัวช้าๆ ก่อนเอากระสุนผมจุ่มเบาๆในอ่างเลือดอีกาตัวเมีย.
เหม็นคาวตายห่า....ผมคิดในใจ.

......................................

ผมบรรจงใส่กระสุนลงแม็กช้าๆ.
ตรวจสอบความแน่ใจครั้งสุดท้าย ก่อนหยิบปืนสำรองมาเหน็บข้างกายอีกกระบอก เผื่อต้องปะทะ.

ไอ้เผินมาเร็วกว่าเวลานัด.
ยื่นหมวกกันน็อคกับเสื้อแจ๊คเก็ตให้ผม.
ผมท่องคาถาเป่าตัวเอง ก่อนสืบเท้าเดินออกจากห้องช้าๆไปยังรถที่เตรียมมา.
ผมสั่งไอ้เผินให้เช็ครถ ระหว่างนั้นก้อก้มลงมองเวลา อีกไม่ถึงสองชั่วโมง เป้าหมายจะมาถึงปากซอยบ้านแล้ว.
เมื่อทุกอย่างเรียบร้อย เราก้อออกเดินทาง.
งานนี้ห้ามพลาด คำนี้วนเวียนในหัวผม.

........................................

ผมสลัดความคิดต่างๆออกจากหัว.
ตื่นเต้น? ไม่ใช่หรอก.
คำนี้ผมลืมไปนานแล้ว.....ผมนึกถึงแม่ต่างหาก.
หลังยิงคนได้สี่ห้าครั้ง ตอนนั้น.
ผมเอาเงินไปให้แม่ไว้ใช้ แม่พูดว่า " เงินเสนียด มึงอยากใช้ก้อใช้ไป กูไม่ใช้ " แล้วน้ำตาก้อนองหน้า.
ผมก้มหน้านิ่ง.

หลังจากนั้น เงินทุกก้อนที่ผมได้มา ผมจะผลาญมันไปให้เร็วที่สุด ฟุ่มเฟือยที่สุด.
หนึ่ง เพราะคำที่แม่พูด.
สอง เพื่อแลกกับความสุขให้ตัวเอง ที่ไม่รู้ว่า พรุ่งนี้จะยังมีลมหายใจได้ใช้มันอีกหรือเปล่า.
แน่นอน เราฆ่าเค้าได้.
เค้าย่อมฆ่าเราได้.
เมื่อไหร่ที่ผมอ่อนแอนั่นแหละ จะเป็นจุดจบ.

......................................

ผมสะดุ้งเล็กน้อย เมื่อไอ้เผินสะกิด " มาแล้วพี่ "
ผมรีบโดดขึ้นซ้อนท้ายมัน ก่อนบิดตามรถเบนซ์ ที่ขับผ่านเราสองคนไปช้าๆ.
ทิ้งระยะพอควร รอจังหวะหักเลี้ยวที่ปากซอยข้างหน้าอีกราวร้อยเมตรนิดๆ.
งานนี้ก้อเหมือนทุกๆงาน...ผมคิด.

คนในรถจะรู้มั้ย? ว่าความตายกำลังตามมาอยู่ข้างหลัง.
ป่านนี้เค้าอาจโทรศัพท์คุยอยู่กับลูกๆที่บ้าน.
" พ่อกำลังจะถึงแล้วลูก บอกแม่ด้วยนะ "
อาจเป็นเสียงสุดท้าย ที่ลูกๆเค้าจะได้ยิน.
" ใกล้แล้วพี่ " ไอ้เผินร้องเตือน.
ผมกำปืนที่ซอกเอวกระชับ แต่ไม่แน่น ประสบการณ์ทำให้ผมไม่ร้อนรน ใจเย็น นิ่ง.
ไอ้เผินเริ่มบิดคันเร่ง เข้าประกบเป้าหมายทีละนิดๆ ผมสะกิดเอวมันเวลามันเร่งเกินไป มันพยักหน้าแล้วผ่อน.
รถเป้าหมายเริ่มแตะเบรคชะลอ เพื่อเข้าทางโค้ง.
ไอ้เผินเร่งเข้าไปตีคู่ ก่อนผ่อนเบาๆให้รถเป้าหมายขึ้นแซงไปนิดนึง ตามที่ซ้อมกันมา.

วินาทีนี้ โลกมืด.
ในหัวผมว่างเปล่า ไร้ความรู้สึกใดๆ จิตใจสงบเยือกเย็น.
เมื่อแฮนด์ข้างขวาของรถเรา เคลื่อนไปแทบจะแนบกับกระจกหลังช่วงท้ายของรถ.
รถเป้าหมายเข้าโค้งพอดี.
ไอ้เผินชะลอคันเร่งลงอีกเล็กน้อย.
ผมไม่รอช้าชักมัจจุราชสีดำทะมึนออกมา ปลดเซฟ แล้วเข้าจ่อด้านหลังเป้าหมาย....

เค้าไม่รู้ตัว.

ผมกลั้นหายใจ เพื่อไม่ให้ปลายปืนเชิดหัวขึ้น.
ก่อนเล็งศูนย์หน้าตรงศูนย์หลัง มองผ่านไปที่ศีรษะเป้าหมาย.
แล้วเหนี่ยวไกปืนช้าๆ.

ปัง!!.....เสียงปืนนัดแรกทำให้กลองในใจผมรัวเบาๆ
ร่างนั้นกระตุก เหยียดเกร็ง... เค้าตายแล้ว ผมมั่นใจ.
แต่ในความมั่นใจ ย่อมต้องมีความแน่นอนด้วย.
รถเบรคเอี๊ยด คนขับตกใจ เอื้อมมือไปที่ซอกเอว เตรียมปะทะกับเรา.
ผมลงจากรถ ตามเข้าไปซ้ำจ่อๆที่ลำตัว หน้าอกอีกสองนัด.
เลือดแดงสด ไหลพรากๆออกมาไม่หยุด.

ปัง!! ปัง!!

ก่อนเดินอ้อมรถอย่างใจเย็น ไปที่คนขับ.
มันมือไม้สั่น ตัวก้มแนบกับเบาะ มือยังไขว่คว้าหาปืนเปะปะ.
ไอ้เผินบิดเครื่องรอ.
ผมก้าวไปประกบแนบรถ เปิดประตู มันแหงนหน้ามามอง ร้องขอชีวิตกับผม น้ำหูน้ำตาไหลพรากเต็มหน้า.

สายไปแล้ว.....ผมคิด.
ตอนนี้ผมไม่ใช่ผมคนเดิมในตอนนั้น ตอนที่ยิงคนครั้งแรก.
ผมยกปืนเข้าจ่อขมับมัน แล้วกดไกก่อนมันจะดิ้นหนี.

ปัง!! ปัง!!

เสียงคนแถวนั้นเริ่มเอะอะ ผมซ้ำที่ร่างเป้าหมายเบาะหลังจนหมดแม็ก.
ก่อนจะโดดขึ้นมอไซค์ แล้วไอ้เผินก้อบิดออกไปอย่างคนรู้งาน.
หึหึ นี่แหละเมืองกรุง ไม่มีใครกล้าโผล่ออกมาดู ยิงง่ายกว่าบ้านนอกเยอะ แต่เงินดีกว่านัก.

ไอ้เผินขับรถไปตามทางที่เรานัดแนะกันอย่างชำนาญ ไม่รีบจนผิดสังเกตุ แต่ไม่อืดจนไม่ทันการณ์.

................................

เช้าวันต่อมา นสพ.ลงข่าวกันโครมๆ.
ผมนั่งอ่านด้วยความรู้สึกที่บอกไม่ถูก.
ใจนึงดีใจ ที่ได้รู้ว่าเป้าหมายตายสนิทคาที่....อีกใจเป็นความรู้สึกที่ยากจะบรรยาย.

ผมมองปืนที่อยู่ข้างกาย พลางคิดในใจว่า แท้จริงแล้ว.

มันเป็นมิตรที่ทำให้ผมพบความสุข.
หรือเป็นศัตรูที่ทำให้ผมมีทุกข์กันแน่.

.............................


หัวข้อ: Re: คำสารภาพ ตอนที่ 1
เริ่มหัวข้อโดย: aecom ที่ พฤศจิกายน 16, 2009, 04:55:49 PM
คำสารภาพ ตอนที่ 3
......................................
ผมนั่งจ่อมที่บาร์นี้ มาร่วมชั่วโมงแล้ว.
มันเป็นที่ที่ผมกับเพื่อนใช้นัดส่งมอบเงินค่าจ้างครึ่งที่เหลือ.
ยังไม่ถึงเวลานัด....แต่ผมต้องมาก่อนเวลา.
เป็นนิสัย.

ผมบอกแล้วไง ว่าในวงการนี้เชื่อถือ และไว้ใจใครไม่ได้.....ผมต้องมาก่อน.
มาดูลาดเลาว่างานนี้จะไม่มีการเก็บกระสุน.
หมายถึงผมต้องให้มั่นใจว่า งานนี้ไม่มีการจ้างมือปืนมาปิดปากมือปืนอีกที.

ผมเลือกที่นั่งตรงที่คนพลุกพล่าน หันหน้าไปทางประตู คอยสังเกตุทุกคนที่เข้ามาในร้าน.
มือปืนรุ่นใหม่เดี๋ยวนี้ไฟแรง....ไม่เกรงกลัว หรือเคารพรุ่นพี่ๆเหมือนในอดีต.
ทุกคนล้วนอยากฆ่าผม ถ้าผู้ว่าจ้างเกิดอยากหักหลัง.
เพราะนั่นหมายถึงการไต่เต้าขึ้นมามีชื่อเสียงแบบทางลัด ไม่ต้องใช้เวลานาน.
ถ้าสามารถเก็บมือปืนที่มีชื่อได้.
ก้อจะได้รับการยอมรับจากวงการ...ในชั่วข้ามคืน.

คิดไปผมก้อยิ้มไป.
ทุกคนล้วนอยากมายืนในจุดที่ผมยืนอยู่.
ทุกคนล้วนมองเห็นแต่รายได้อันงดงาม...หรือความมีหน้ามีตาในวงการนี้.
มีกี่คนล่ะ?
ที่จะสำเหนียกถึงความทนทุกข์ทรมานของการหลบหนี...ซ่อนตัว.
พึ่งใครไม่ได้.
บอกเล่าสิ่งที่อยากระบายให้ใครฟังไม่ได้.
ต้องระแวดระวังทุกอย่างรอบตัว.
แค่คนเดินผ่านมาข้างหลัง ก้อต้องสะดุ้งหันขวับไปมองทุกครั้ง.
ติดต่อญาติพี่น้องก้อไม่ได้...แม้แค่ส่งข่าวคราวยังไม่ได้...เพราะตำรวจจะคอยประกบครอบครัวอยู่ทุกฝีก้าว.
ไม่มีแม้กระทั่งความรัก.....ทั้งที่ใจมันเรียกร้อง.

ความรัก?
ใช่สิ ผมก้อเคยพบพานกับมัน ผมก้อผู้ชายคนนึง ก้อเหมือนกับคนอื่นๆ ผมมีหญิงที่รัก.
เธอรู้ทุกอย่างว่าผมทำอะไรมาบ้าง แต่ก้อยังรักผม.
แรกๆตำรวจยังไม่รังควาน ผมได้เงินมาก้อให้เมียเก็บไว้ใช้ดูแลบ้าน ดูแลลูก ไม่ขาดมือ.
หลังๆตำรวจมาล้อมบ้านบ่อย ผมต้องระหกระเหินออกมา กลับบ้านไม่ได้.
แรกๆก้อฝากเงินให้คนอื่นเอาไปให้ แต่ให้หมื่นไปถึงมือเมียก้อแค่พัน ผมทำอะไรไม่ได้...ครั้นจะฝากผ่านธนาคาร...ตำรวจก้อตามดมที่มาของเงินโดยตลอด.

กี่ปีแล้วไม่รู้ ที่ผมไม่ได้เห็นหน้าลูกเมีย.
ป่านนี้ลูกคนโต คงป.4 ป.5 แล้ว.
งานนี้แล้วเลิก!! แวบผ่านมาในความคิดผม.
อีกใจนึงค้าน จะลงหลังเสือมันยาก ถ้าบอกนายว่าจะเลิก นายจะไว้ใจเราเหรอ?
แล้วถ้าหันไปใช้ชีวิตปรกติ ห่างปืน จะโดนถล่มเมื่อไหร่? ลูกเมียอาจต้องมารับกรรม.

อย่างที่บอกมือปืนใหม่ๆ มันอยากฆ่าผมทั้งนั้น.

ครั้งหนึ่งสมัยเขมรแตกใหม่ๆ.
อาวุธสงครามทะลักมาไทยมากมาย.
มือปืนทุกซุ้มมีปืนกล อาก้าแทบทั้งนั้น.
ลูกพี่ของผม สมัยนั้นชื่อเสียงดังมาก แกสร้างชื่อขึ้นมาด้วยความแม่นยำ มานะ แน่นอน ซื่อสัตย์ และที่สำคัญ แกอดทน.
แกเคยเล่าว่า บางครั้งแกต้องเดินตัดทุ่งเป็นคืนๆ เพื่อไปนอนรอดักเฝ้าเป้าหมาย.
และอีกหลายครั้งที่แกต้องเอาชีวิตเข้าเสี่ยง เพื่อเข้าไปคลุกคลีจนเป้าหมายตายใจ ล้วนแต่ใช้ความอดทนทั้งนั้น.

แกเป็นคนแรกที่สอนผมอย่างจริงจัง.
" ไอ้แว่นดำ เสื้อหนัง ที่มึงใส่น่ะ จำไว้ว่าเป็นชุดห่อศพมึงดีๆนี่เอง "
แกย้ำเสมอว่า ในหนังมันโม้ มันทำให้ดูเท่ แต่ถ้าผมใส่เหมือนในหนัง.....ก้อเตรียมตัวตาย.
" แต่งตัวเรียบร้อย ปรกติ ชาวบ้านแต่งไงมึงก้อแต่งงั้นแหละ" แกย้ำเสมอ.
" เดินเหิรปรกติ อย่าวางก้าม ใครหาเรื่อง ถ้าจำเป็นเลี่ยงได้ก้อเลี่ยง ใครจะหยามว่าไม่สู้คน ใจหมาปลาซิว ก้อช่างมัน ยิ่งดีซะอีก คนไม่สังเกตุดี "

มือปืนในชีวิตจริง จึงไม่เหมือนกับที่เด็กๆรุ่นกระทงอย่างผมคิดไว้.
บางคนนั่งกินเหล้าเงียบๆ กุ๊ยสั่วๆมาหาเรื่องก้อไม่สู้.
บางคนพวกกิ๊กก๊อก ให้กราบตีนเพื่อเลิกแล้วกัน ก้อทำได้.
" มึงอยากมีศักดิ์ศรี หรืออยากตายล่ะ? "
" รักจะทำงานใหญ่ งานปลาซิวปลาสร้อยอย่าไปสน จำไว้ "
ลักเล็ก ขโมยน้อย ฆ่าผัวที่ไปมีชู้ เมียน้อย ผมไม่ทำ.

โดยเฉพาะ ผู้หญิง เด็ก ผมจะไม่แตะ!!.

ครั้งนึง ผู้ว่าจ้างกำหนดมาว่า อยากให้ผมยิงเป้าหมายในงานเลี้ยงของเค้า เป็นผู้หญิง.
ผมเห็นว่าเงินก้อนใหญ่ เลยหน้ามืด ลืมคำที่ให้ไว้กับพี่ชาย ตกลงรับงาน.
วันนั้น ผมขึ้นไปชั้น 2 ของตัวบ้านรอคอยเป้าหมาย.
ซักพักเพื่อน ว.มาบอกว่าเป้าหมายมาแล้ว ผมรีบมองหาตามจุดที่เพื่อนบอก.

เป็นผู้หญิงท้อง!!

ผมงุนงงชั่วครู่ สำนึกบางอย่างบอกว่า ผมทำไม่ได้.
ผม ว.ไปบอกเลิกงานเดี๋ยวนั้น.
แล้วรีบเดินปะปนผู้คนออกไปทันที.

หลังจากนั้น ผมโดนตามล่าอย่างหนัก เพราะดันไปรู้มากเกินไป แล้วไม่ยอมรับงานมาทำให้สำเร็จ.
ผมลำบากพอควร...แต่ก้อภูมิใจ ที่รักษาสัญญาที่ให้ไว้กับพี่ได้.

มาเรื่องลูกพี่ผมต่อ.
อย่างที่บอกว่าตอนนั้นอาวุธสงครามเกลื่อนเมือง.
แถมเด็กใหม่ๆที่อยากสร้างชื่อ ล้วนต้องการเป่าลูกพี่ผม.
ช่วงนั้น เราได้ข่าวมาว่ามีเด้กใหม่ๆถูกจ้างมา ให้ดักยิงเราภายในอาทิตย์นี้.
แต่เราไม่กบดาน ยังออกตระเวนราตรีเช่นเคย.
ลูกพี่บอกว่าให้ขนอาวุธหนักไปซ่อนไว้ใต้รถกระบะที่เราใช้เดินทาง เผื่อต้องชนกันกับอริ.

แล้ววันนั้นก้อมาถึง.

เราออกจากคาเฟ่ ในตัวเมืองเพชรบุรีราวตีสามกว่าๆ.
ขับรถกลับมาตามทางหลวง เพื่อจะกลับบ้านพัก.
อีกราวโลกว่าจะถึงบ้านอยู่แล้ว จู่ๆกระบะคันหลังที่ตามเรามาไกลๆ ก้อวิ่งขึ้นแซงหน้า แล้วยกปืนยิงขึ้นฟ้าหนึ่งนัด

ปัง!!

พวกเรารีบก้มหน้า ควานหาอาวุธมาถือไว้แน่น.
งานนี้หนักแน่ ผมคิด ทุกคนคิด.
เพราะถ้ามีการยิงปืนขึ้นฟ้าอย่างนี้.
ย่อมหมายถึงพวกมันมี 2 ชุด มันใช้เสียงปืนเป็นสัญญาณว่าเรามาแล้วบอกพวกที่ดักรออยู่ข้างหน้า.

เพื่อนผมแตะเบรคอย่างตระหนก รถเราตกลงไปข้างทาง.
รถกระบะ 2 คันขับมาเทียบห่างกันกับเราราวๆ 20 เมตร.

แล้วห่ากระสุนห่าใหญ่ก้อประเคนมาที่เรา.
พวกเรารีบโดดลงรถหาที่กำบัง แล้วตั้งต้นตอบโต้ ตอนนั้นผมพึ่ง 18 มือไม้สั่น มองไปรอบๆเห็นประกายไฟสว่างวาบรอบตัว จับอาก้าได้ก้อประเคนไม่ดูอะไรทั้งนั้น.
ถูกมั่งไม่ถูกมั่ง.
เพื่อนผมข้างๆโดนเข้ากลางกระโหลก ผงะตัวหงายท้อง เลือดพุ่งมาโดนตัวผม....ผมรีบเหลียวมองหาที่พึ่ง...ลูกพี่.

แกยังคุมสติมั่น ถือปืนกลอยู่ท้ายรถ สาดกระสุนไปเป็นชุดๆ แม่นยำราวจับวาง มีห่านึง โดนพวกมันไม่ต่ำกว่าสามสี่คน ล้มทั้งยืน.
แต่น้ำน้อยย่อมแพ้ไฟ พวกมันยิงต้อนจนเราถอยกรูดไปติดแม่น้ำข้างถนน ตอนนี้เราเหลือกัน เจ็ดคน.
กวาดตาดูพวกมันคร่าวๆ ไม่น่าจะต่ำกว่าสิบ.

พวกเรากระโดดลงแม่น้ำ แล้ววิ่งก้มหน้าเลียบฝั่ง หนีไปทางที่เรามาจากคาร์เฟ่
!!!! ตอนนี้เอง ที่กระสุนนัดนึงถากแขนขวาผมไป ปืนผมหล่นลงแม่น้ำ ลูกพี่บอก " ไม่ต้องเก็บ หนีไปๆ !! "

เพื่อนๆยังยิงตอบโต้ ไปบ้างไม่ให้มันตามได้สะดวก...ตอนนั้นผมมองเห็นรถตำรวจคันนึงมาถึงแล้ว แต่ก้อจอดอยู่อย่างงั้น.
หึ!! ตอนนั้นตำรวจยังไม่กล้ายุ่ง มันเถื่อนกันขนาดนั้น

เราหนีมาได้ซัก 50 เมตร.
เสียงปืนเงียบลง.
ผมหันไปดู เราเหลือกัน 3 คน.

ไม่มีลูกพี่ผม.................

พวกมันเดินตามมา แต่มองไม่เห็นเรา.
ผมนับคร่าวๆได้ราวห้าหกคน.
มีคนนึง เดินถือ 9 มม.ส่ายไปมาห่างผมไม่ถึง 10 เมตรดี......
ผมกลั้นหายใจ ยืนเงียบ....ใช้มือซ้ายกระชาก 9 มม. มากำไว้แน่น.
มันมองว้ายขวา ล่อกแล่กเหมือนสิงโตหาเหยื่อ...แวบนึงมันหันมาทางผม ผมสะดุ้งกึก .......เงียบ.
แต่มันก้อมองผ่านไป คงมองไม่เห็น.
ฉับพลัน ผมยกปืนขึ้นแท่น มีเวลาเล็งแค่เล็กน้อยก่อนเหนี่ยวไก นัดนี้ห้ามพลาด เพราะนั่นหมายถึงมันจะรู้ที่อยู่เรา ต้องให้ตายๆ.

ปัง!!

กระสุน ถากออกไปราวห้านิ้ว.
มันสะดุ้งพรวด ย่อตัวลงนั่ง แล้วโบกมือเรียกพวก ให้ตามมาซ้ำพวกผม....ผมใจหายวาบ.
คราวนี้คงไม่รอด.

ปังๆๆๆๆๆ!!!!! ปังงงๆๆๆๆๆๆๆๆๆ.......

เราแลกกันอีกระลอก.
พวกผมกำลังจะแพ้ มันกำลังไปลาก เอ็ม16 มาแล้ว.

หวอๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ!!!!!!!
กำลังเสริมของตำรวจมาแล้ว.

เป็นครั้งแรกที่ผมได้ยินเสียงนี้แล้วดีใจ ยิ้มออก.
พวกมันยังใหม่ ต่างทิ้งปืนหนีกันไปคนละทาง.
เรา 3 คนรีบว่ายน้ำ ข้ามไปอีกฝั่ง ทิ้งรถ ปืน ศพเพื่อนๆและลูกพี่ ไว้เบื้องหลัง.
ค่อยๆห่างออกไปทุกที.

......................................

เช้าอีกวันเราได้รับข่าวจากนาย ว่ากระสุนในตัวลูกพี่ นับได้เกือบ 50 นัด.
ผมฟังอย่างสงบ.
ไม่รู้สึกอะไร ในใจได้แต่สวดมนตร์ให้ดวงวิญญาณที่หลุดลอยไป.

ไม่มีน้ำตา...มีแต่ความแค้น.
เราทุกคนล้วนรู้ตัวคนทำว่าใคร?

มันต้องตาย.

...................................

เพื่อนผมมาแล้ว เดินอมยิ้มมาแต่ไกล.
ผมมองข้างหลังมัน ปลอดโปร่ง.
มันมานั่งข้างๆผม กระชากเก้าอี้เลื่อนออกมา.
" เหมือนเดิม ไม่ไว้ใจกู? "
" หึๆ....เงินล่ะ? "
" เอ้า!! " มันโยนซองกระดาษสีเทาหนาเตอะ มากองหน้าผม.
" นับซะ "
" ไม่ต้อง...เรื่องนี้เรื่องเดียว..ที่กูไว้ใจมึง "
" ฮ่าๆๆๆ"
" น้องเบียร์หนึ่ง " ผมหันไปสั่งเด็ก.

ราตรีนี้ก้อเหมือนเดิม....เนิบนาบ เชื่องช้า.
ภาพอดีตกลับมาอีกหน.


หัวข้อ: Re: คำสารภาพ ตอนที่ 1
เริ่มหัวข้อโดย: aecom ที่ พฤศจิกายน 16, 2009, 04:58:06 PM
คำสารภาพ ตอนจบ
------------------------------
หลังจากลูกพี่ผมโดนยิงถล่มวันนั้น.
อ.บ้านลาดที่เราอยู่ลุกเป็นไฟ!!.

ไม่มีข่าวพาดหัวหนังสือพิมพ์....ตำรวจไม่กล้าเข้ามายุ่ง...แต่คนในวงการทุกคนกล่าวขานเรื่องนี้กันเซ็งแซ่!!
ใครจ้าง? ใครยิง? เสือด้วยกันมันดมกลิ่นกันออก.

ข่าวจากปากต่อปากลามไปอย่างรวดเร็ว แล้วยิ่งรู้ตัวคนยิงกันแล้ว ข่าววงในยิ่งลุกโหมไม่มีหยุด..
" ไอ้ฝ้ายมันเก็บเอง ใจมันถึง "

" มันอยากขึ้นทางด่วน ดังข้ามวันสมใจมันล่ะ "

" เด็กยังไม่เต็มยี่สิบ แต่ใจแม่งเหลือกิน "

ไม่นานข้อมูลทุกด้านก้อหลั่งไหลมาถึงหูผม ไอ้ฝ้ายเด็กรุ่นๆคราวผมเป็นคนรวมทีมไปซุ่มซัลโววันนั้นนี่เอง....
ตอนนั้นผมกับไอ้ฝ้ายเรียกว่าตีคู่กันมา ทิ้งกันไม่เกินช่วงตัวเท่านั้น.
ยิ่งเราอยู่กันคนละอำเภอ คนละพื้นที่ วัยก้อไล่เลี่ยกัน ชื่อเสียงก้อแทบจะดังมาพร้อมกัน หลายคนจึงเปรียบผมกับมันว่าเป็นเสือคนละถ้ำ....
" เสือสองตัว ต่างหากินไม่ยุ่งกัน แต่เชื่อกู วันนึงมันต้องเดินมาเจอะกัน มันต้องกัดกัน เมื่อไหร่ที่ทำกินแหล่งอาหารมันทับกันเมื่อนั้นแหละ ไม่เชื่อมึงคอยดู " สภากาแฟละแวกบ้านเคยวิจารณ์ไว้.

แล้ววันนั้นก้อมาถึงแล้วจริงๆ!!

" มึงระวัง มันโหดกว่ามึงนัก " เพื่อนผมเคยเตือน.
ผมหลิ่วตามองหน้าเพื่อน " ดี กูชอบ "
" มึงต้องดุกว่านี้ กูซีเรียสนะ "
" อืมมม "

หลังจากนั้นพี่ผมก้อโดนเก็บไปอีกคน.
ผมพักโครงการล้างแค้นไว้ชั่วคราว จัดการงานพี่ซะก่อน.
ผมสงสารแม่ที่สุด.
พอพี่ตาย แม่อ้อนวอนผมทุกวันให้เลิกตามล้างตามเช็ดกันซะที.....ผมไม่กล้าสบตาแม่.

ช่วงนั้นผมเริ่มตามกลิ่นคนที่ยิงพี่ชาย แต่ดูเหมือนข่าวนี้จะเงียบผิดปรกติ ใคร? ใคร? ผมงุ่นง่านเหมือนเสือติดจั่น.
ผมเริ่มท้อและเหนื่อย จนแทบจะล้มเลิกความตั้งใจที่จะล้างแค้นไปหมดแล้ว....

แต่ดูเหมือนกรรมของผมยังไม่หมด............

งานพี่วันสุดท้าย เหมือนพี่ผมนอนตายตาไม่หลับ อาจเป็นเค้าที่ตั้งใจให้ผมได้แก้แค้น...

วันนั้นไอ้ฝ้ายมาที่งาน!!

มันมาคนเดียว เดินแจกยิ้มไปทั่วงาน หยุดสบตาผมนิดนึง ก่อนจะเดินไปจุดธูปไหว้ศพ.
ผมจ้องหน้ามันนิ่ง สับสนในความคิด มันมาทำไม?

หลังจากนั้นมันปลีกตัว ไปนั่งดื่มเหล้ากับคนในวงการที่สนิทกัน ดูมันกระหยิ่มนิดๆกับท่าทางที่ได้แสดงออก ผมยังติดใจ มันมาทำไม?

งานเลิกแล้ว ผมยืนส่งแขกทุกๆคนกลับบ้าน.
ไอ้ฝ้ายลุกเป็นคนสุดท้ายในวงเหล้าของมัน เดินส่ายมาทางผม ทิ้งก้นบุหรี่ลงที่ปลายเท้าก่อนจะขยี้เบาๆ.
เหมือนแม่จะเห็นทุกอย่าง เดินมาจับมือผมไว้แน่น พยายามดึงผมออกมา.....

" โหสินะเพื่อน ไม่ว่ากันนะ " มันพูดเบาๆ ก่อนหัวเราะโครมใหญ่ แล้วหมุนตัวเดินกลับไปช้าๆ

วินาทีนั้น ทุกอย่างกระจ่างในหัวผม ภาพปากมันที่แสยะยิ้มบาดลงไปสุดใจ ผมหน้ามืดวิ่งไปหยิบปืนที่หลังโลงพี่ชาย แม่วิ่งมากอดผมไว้แน่น
" ปล่อยมันไปๆ!! แม่ขอ งานพี่นะลูก " น้ำตาแม่ไหลเต็มแก้ม
" แต่..... " ผมพูดได้แค่นั้น แม่เอามือปิดปากผมแน่น
เราสองคนยืนกอดกันหลังโลงพี่ชายตรงนั้นเอง.

ผมมองตามไอ้ฝ้ายที่ค่อยๆเดินหัวเราะหายไปในความมืด....

.........................................

" มันรู้ว่าคนมากันเยอะ ในวงการทั้งนั้น มึงต้องไม่ยิงมันแน่ "
" กูว่าแบ๊กมันดีด้วยว่ะ นายมันกว้างในเมืองเพชรนี่ เป็นกูก้อคงไม่กลัวมึง "

ผมนั่งคิดถึงคำพูดเพื่อนๆที่พูดกันระหว่างกลับ.
จะทำยังไงดี?
ผมสับสน ทำอะไรไม่ถูก ถ้าผมเป็นไรไป แม่จะอยู่กับใคร?
แต่สองงานที่มันทำ เหมือนจงใจประกาศศึกกับผม
พี่ชาย......ลูกพี่ สองคนนี้ล้วนมีบุญคุณกับผม.....
ผมนอนชั่งใจอยู่นาน จนตีหนึ่งกว่าๆ.....

ผมก้อตัดสินใจเลือกทางเดินเอง ทางที่ทำให้ผมเสียใจมาทุกวันนี้....

ผมเดินไปหาแม่ในห้อง เห็นร่างแม่นั่งสวดมนตร์อยู่เบาๆยังไม่นอน
"แม่........"
" แม่รู้ " แม่ชิงพูดตัดบท หันมาสบตากับผมในความมืด
" แล้วกลับมาหาแม่บ้าง " ตาแม่วูบวาบกับแสงเทียน แม่มีน้ำตาแต่ไม่ร้อง
" เอานี่ไป " แล้วแม่ก้อคล้องหลวงพ่อบุญเกิด วัดสิงห์ให้ผม

ผมกอดแม่แน่น เนิ่นนานและไม่อยากปล่อยแขน
" พรุ่งนี้แม่เข้าไปอยู่บ้านนายนะ ไปทำงานกับนาย "
" จ้ะ "
"ผม....." ผมพูดไม่ออก.
" แม่รู้นะ "

จนวันนี้ผมยังไม่เคยบอกว่ารักแม่.

..............................

ผมกับไอ้โต ไอ้บอย เราสามคนนั่งเงียบกันในรถมิตซูเก่าๆ ลมหนาวจากหน้าต่างปะทะกับใบหน้าผม.
ผมทอดสายตาออกไปยังท้องทุ่งเบื้องหน้า...

" มึงแน่ใจนะ บุกถึงบ้านเนี่ย? " ไอโตทำลายความเงียบ
" อืมมม กูถึงเอาพวกมึงมาไง "
" แต่กูว่า...."
" อะไร? "
" แผนไม่ค่อยดีว่ะ "
ผมชะงักกับคำๆนี้ ใช่ พี่กับลูกพี่เคยย้ำเสมอ แผนดีต้องมาก่อน.
แต่ผมก้อสลัดความคิดนี้ทิ้ง ต้องทำคืนนี้ผมคิด หลังจากวันนี้มันต้องระวังตัวแจ มันรู้ว่าผมต้องตามเก็บมันแน่ๆ.
ผมคงเข้าถึงมันไม่ได้.
ตอนนี้หรือจะไม่ทำเลย?

...........................................

เราจอดรถทิ้งไว้ริมถนน แล้วเดินตัดสวนกล้วยเข้าไปราวสองนาทีก้อมองเห็นบ้านมันชัด
ยังเปิดไฟอยู่!!
ไอ้บอยถือยาเบื่อที่เอามาเบื่อหมาแน่น แต่ไม่มีหมาซักตัว ถ้าเป็นผมคงเลี้ยงไว้ซักสองสามตัว หมานี่แหละดีกว่ายาม ดีกว่าลูกน้องนัก นิดเดียวเป็นเห่า.

ผมมองอย่างถี่ถ้วน ก้มหน้าลงมอง 9 มม.ในมือ ในใจคิดถึงพี่ชายสุดหัวใจ.
หลังจากงานนี้ ถ้ารอด ผมจะไม่ร้องไห้อีก.

ผมเดินช้าๆไปที่ลานบ้านมัน อาศัยต้นไม้บังไปเรื่อยๆ ครู่เดียวผมก้อมาหยุดที่หน้าบันได.
ผมเงยหน้ามองบ้านไม้ยกพื้นหลังนี้ช้าๆ ภาพเลือดที่กำลังจะตามมาชัดเจนขึ้นเรื่อยๆ คนข้างตัวมันจะเสียใจมั้ย? พ่อแม่มันล่ะ? ผมยืนนิ่ง..

แล้วที่มันทำล่ะ!! มันต้องชดใช้ พ่อแม่มันก้อต้องชดใช้ด้วย......ผมหันไปโบกมือเรียกเพื่อนให้ค่อยๆเดินตามมา....เราสามคนหยุดที่ตีนบันได.
ผมท่องคาถาเสกเป่าหัวทั้งสองคนและตัวเอง เราทั้งสามเอาผ้าขาวม้าขนาดกลางมาคาดหน้าเตรียมพร้อม...
ไอ้โตกระชับลูกซองแน่น.
ไอ้บอยเลือนสไลด์ 9 มม.ของมันเบาๆ

" จำไว้ ยิงเท่าที่จำเป็น " ผมกระซิบเบาๆครั้งสุดท้าย.
เสียงบันไดเอียดอาดเบาๆเมื่อรับน้ำหนักเราสามคนพร้อมกัน จนเราไปหยุดที่หน้าประตูไม้เก่าๆ ผมลืมทุกอย่างในหัว ยกมือขึ้นฟ้า
แล้วฟาดผ่าอากาศอย่างแรง!!!!!!

ปัง!!!!! โครม!!!!!!

เรายกเท้าถีบประตูเก่าๆพร้อมกัน แรงปะทะทำให้ประตูกระเด็นฟาดเข้าไปอย่างแรง
ผมพรวดร่าวเข้าไปก่อน ตอนนี้เสียงเอะอะปนหวีดร้องเริ่มแล้ว
เพื่อนทั้งคู่ก้าวตามเข้ามา ผมมองปราดเดียว ทีนี่มีสามห้อง ผมพรวดไปที่ห้องนึง ปัง!! ผมยิงยัดรูกุญแจ ถีบประตูกระเด็น ผมเลิกมุ้งขึ้นดู

ผู้หญิง!! น้องสาวมันนั่งตัวเกร็งหวีดร้องสุดชีวิต
" ช่วยด้วยยยพี่!!!!!! " น้องมันตะโกนลั่น

ปัง!! ปัง!! เสียงปืนดังอีกสองนัด ผมหันขวับวิ่งกลับไปที่ห้องโถง ไอ้บอยนั่งทรุดตัวกุมที่แขนเลือดสดๆไหลทะลักช้าๆ " มันอยู่นั่น " ไอ้บอยพูดพร้อมชี้ไปทางหลังบ้าน.
ผมกับไอ้โตสืบเท้าช้าๆเดินตามไป พ่อแม่มันเปิดประตูออกมา แม่มันโผมาขวางทาง
" อย่าๆๆๆ พ่อคุณ ขอเถอะนะ " แม่มันละล่ำละลัก ผมยกปืนประทับไปที่หน้าผากแม่มัน
" ป้า หลบไป ชั้นไม่อยากทำ "
พ่อมันกลับตัวเข้าห้อง เปิดประตูตู้ ไอ้โตชะงักนิดนึง ก่อนวิ่งตามเข้าไป ผมตะโกนลั่นสุดเสียง
" อย่าาาา!!!!!! "

ปัง!!!!!!!!!!!!

เสียงร่างคนล้มโครมใหญ่ ไอ้โตวิ่งมือสั่นออกมา ผมรู้มันไม่เคยทำคนแก่มาก่อน...
แม่ไอ้ฝ้ายหวีดลั่น น้ำตาทะลักวิ่งพรวดไปในห้องแล้วร้องไห้ลั่น " พ่อๆๆๆๆ!!!!!!!"
จังหวะนั้นน้องสาวมันวิ่งควบเข้าไปที่หลังบ้าน

ผมเสียเวลาไม่ได้แล้ว ไม่สนใจอะไรทั้งนั้นก้าวเข้าไปหลังบ้าน ไอ้บอยดูต้นทาง ผมกับไอ้โตเชิดหัวปืนไปในความมืด.....

ร่างของไอ้ฝ้ายปรากฎขึ้นช้าๆ โดยมีน้องสาวมันยืนตัวสั่นขวางอยู่
" ยิงแม่งเลย ทั้งคู่ " เพื่อนผมละล่ำละลัก ผมอึกอัก เล็ง 9 มม. ไปที่เป้า เสียงแม่มันตะโกนลั่น " อย่าๆๆๆ!! "

ตอนนั้นภาพจากอดีตทั้งหมดหลั่งไหลเข้ามาในหัวผมช้าๆ ชีวิตผมทั้งหมด ใครกำหนด? พี่ชาย...แม่...ลูกพี่ ทุกคนมายืนอยู่ในความคิดผม ยืนจ้องผมนิ่ง

ปัง!! ปัง!!

ร่างของน้องสาวมันกระเด็นตามแรงปะทะ ค่อยๆล้มลงช้าๆ ผมหันไปมองหน้าไอ้โต

เสียงแม่มันหวีดร้องลั่น " อย่าาาาาา ไม่!!!!!!! พ่อคุณ อย่า!!!!! "
ไอ้บอยรั้งแม่มันไว้ไม่ให้เข้ามา.

ร่างไอ้ฝ้ายยืนตะลึงนิ่งหลังศพน้องสาว.
ดูเหมือนทุกอย่างจะช้าไปหมด............

" เร็ว!!! เดี๋ยวแห่กันมา ก้อตายห่ากันหมด!! "

ผมหายจากอาการตะลึง สมาธิรวมเป็นหนึ่ง ไม่คิดถึงถุกผิด มือนิ่ง เหมือนตัวลอยอยู่ในอากาศ ใช่ผมจะพาเพื่อนมาตายไม่ได้.

ผมยกปืนแทบจะพร้อมกับไอ้ฝ้ายที่เตรียมสวน.
ผมเร็วกว่านิดนึง....มันเมา.
ผมกดไกช้าๆ.
มั่นคง.

ปัง!!

ภาพกระสุนที่ลั่นออกไป ติดตาผมถึงทุกวันนี้.
กระสุนค่อยๆกินเนื้อไอ้ฝ้าย ที่หน้าอกเยื้องทางขวาเล็กน้อย เป็นวงกว้างราว 2 ซม.
ปืนมันหลุดจากมือ จ้องตาผมนิ่ง ผมถอดผ้าออก มองหน้ามัน ค่อยๆสืบเท้าเบาๆ ไปหยุดหน้ามัน

มันทำหน้าเหมือนเห็นมัจจุราช ตาโตวาว.
หน้าพี่ผมปรากฎอีกครั้ง.
ผมยกปืนจ่อหน้าผากมัน.
มันยกมือไหว้ ร้องขอชีวิต.
ผมหยุดหายใจ อีกแขนลดลงมาข้างลำตัว......


ผมสบตามัน กดไกสามทีซ้อน


ปัง!! ปัง!! ปัง!!

ร่างมันผงะ หงายหลัง........เลือดพุ่งทะลักเต็มแรง กลิ่นคาวโชยคลุ้งไปทั่ว

ไอ้โต กระชากผมเต็มแรง " ไป!! "
ผมชะงักนิดนึง รีบวิ่งไปที่ศพ เอาเลือดมันมาทากระบอกปืนตามเคล็ด...
ผมออกมาหน้าบ้าน แม่มันนั่งตัวสั่นอยู่มุมห้อง ร้องไห้น้ำตาแทบหมดตัว
แกคงคิด หลังจากนี้ไปจะอยู่ยังไง....คนเดียว...
ผมหลบตาแกวูบ คิดถึงแม่ตัวเอง.....
สุดท้าย.....ฆ่าเค้าหรือถูกฆ่า.
แม่ผมก้อต้องอยู่คนเดียวเหมือนกัน.

ก่อนเราสามคนจะวิ่งไปที่รถ แล้วขับหายไปกับความมืด.......

....................................

เราสามคนแยกย้ายไปคนละจังหวัด ผมมากรุงเทพฯ มาอยู่กับนายคนปัจจุบัน เราไม่ได้ข่าวคราวกันอีกเลยนับแต่นั้น......
ผมเหนื่อยกับชีวิตหลบๆซ่อนๆเหลือเกิน.

ถึงตอนนี้ผมมีชีวิตเหมือนรอวันตาย.....พรุ่งนี้ไม่แน่นอน ห่างลูกห่างเมีย ห่างแม่.........
ความเศร้ามันเกาะกินมานาน จนหัวใจผมมันเย็นชาซะแล้ว ตาผมไร้แววอบอุ่น...........

ผมหวนคิดถึงอดีต.
ทุกวัน.
สิ่งที่ทำไป...ตามมาหลอกหลอนทุกวัน.
ทุกวัน....ตลอดไป.

ผมก้มมองปืนอย่างพินิจ...ก่อนซุกไว้ใต้หมอน.
หลับตานอน ผ่านซากชีวิตคืนนี้ไปอีกวัน.

คืนนี้ผมอยากฝันถึงลูก...
เมีย.
แม่.


หัวข้อ: Re: คำสารภาพ ตอนที่ 1
เริ่มหัวข้อโดย: chartthai ที่ พฤศจิกายน 16, 2009, 05:14:40 PM
ขอบคุณมากครับ


หัวข้อ: Re: คำสารภาพ ตอนที่ 1
เริ่มหัวข้อโดย: Goddess ที่ พฤศจิกายน 16, 2009, 05:24:16 PM
ฟาวจบแท้เนาะผุเขียนกะดาย อิอิ  กำลังมันส์

ให้กำลังใจเด้อจ้า



หัวข้อ: Re: คำสารภาพ ตอนที่ 1
เริ่มหัวข้อโดย: PU45™ ที่ พฤศจิกายน 16, 2009, 06:57:52 PM

           เป็นบทความที่ตั้งใจอ่านทุกตัวอักษร .... ผู้แต่งเขียนได้ดีพอใช้    ขอบคุณครับ





หัวข้อ: Re: คำสารภาพ ตอนที่ 1
เริ่มหัวข้อโดย: ป๊อกแมน ที่ พฤศจิกายน 16, 2009, 07:02:59 PM
กำลังมันครับ


หัวข้อ: Re: คำสารภาพ ตอนที่ 1
เริ่มหัวข้อโดย: อ้วน 008 รักในหลวง ที่ พฤศจิกายน 16, 2009, 08:09:00 PM
ผมว่างานเขียนแบบนี้ มีความจริงและประสบการณ์ปนอยู่ไม่น้อย แต่เก่งที่ทำให้คนอ่าน อ่านแบบวางไม่ลงครับ+1ครับ


หัวข้อ: Re: คำสารภาพ ตอนที่ 1
เริ่มหัวข้อโดย: tinnakorn 0101 ที่ พฤศจิกายน 16, 2009, 08:55:16 PM
อ่านแล้วต้องเอาจนจบสนุกมากครับ +1 ครับท่าน


หัวข้อ: Re: คำสารภาพ ตอนที่ 1
เริ่มหัวข้อโดย: hangseri - รักในหลวง ที่ พฤศจิกายน 16, 2009, 09:14:45 PM
รอฟังด้วยคนครับ


หัวข้อ: Re: คำสารภาพ ตอนที่ 1
เริ่มหัวข้อโดย: pasuta ที่ พฤศจิกายน 16, 2009, 09:20:54 PM
จบซะแล้วยังอ่านไม่จุใจเลยครับท่าน มันส์มากๆ ::002:: ::002::


หัวข้อ: Re: คำสารภาพ ตอนที่ 1
เริ่มหัวข้อโดย: ~ Sitthipong - รักในหลวง ~ ที่ พฤศจิกายน 16, 2009, 09:33:04 PM
+1 ครับ  เนื้่อเรื่องดีครับ  ;)


หัวข้อ: Re: คำสารภาพ ตอนที่ 1
เริ่มหัวข้อโดย: aecom ที่ พฤศจิกายน 16, 2009, 10:09:16 PM
ขอบคุณทุกความคิดเห็นครับ


หัวข้อ: Re: คำสารภาพ ตอนที่ 1
เริ่มหัวข้อโดย: Ake-อุตรดิตถ์ ที่ พฤศจิกายน 16, 2009, 10:10:56 PM
+ ให้ครับผม...


หัวข้อ: Re: คำสารภาพ ตอนที่ 1
เริ่มหัวข้อโดย: depp40 ที่ พฤศจิกายน 16, 2009, 10:12:05 PM

   

     +1  ครับ .....



    ปืนดีไว้ใจได้มากกว่าเพื่อนรักสิบคน


หัวข้อ: Re: คำสารภาพ ตอนที่ 1
เริ่มหัวข้อโดย: Goddess ที่ พฤศจิกายน 17, 2009, 06:26:55 AM
+ เป็นแล่ว   ::002::  +ให้ทุกคนจ้ะ   ::010::


หัวข้อ: Re: คำสารภาพ ตอนที่ 1
เริ่มหัวข้อโดย: SEEZ ..รักในหลวง.. ที่ พฤศจิกายน 17, 2009, 07:01:38 AM
เยี่ยมครับ  +1ครับ ::002:: ::002::


หัวข้อ: Re: คำสารภาพ ตอนที่ 1
เริ่มหัวข้อโดย: จอยฮันเตอร์ ที่ พฤศจิกายน 17, 2009, 08:48:54 AM
ผู้แต่งเรียบเรียงน่าเป็นมืออาชีพใช้คำที่น่าติดตาม ::002::


หัวข้อ: Re: คำสารภาพ ตอนที่ 1
เริ่มหัวข้อโดย: ธำรง ที่ พฤศจิกายน 17, 2009, 09:34:43 AM
ด้วยความเคารพ  ::014:: ผมเห็นมือปืนรับจ้างเป็นเพียงแค่คนขลาด  :-X


หัวข้อ: Re: คำสารภาพ ตอนที่ 1
เริ่มหัวข้อโดย: จอยฮันเตอร์ ที่ พฤศจิกายน 17, 2009, 09:40:49 AM
ด้วยความเคารพ  ::014:: ผมเห็นมือปืนรับจ้างเป็นเพียงแค่คนขลาด  :-X

นิยายครับพี่อย่าไปคิดอะไรมาก ::005::


หัวข้อ: Re: คำสารภาพ ตอนที่ 1
เริ่มหัวข้อโดย: Major ที่ พฤศจิกายน 17, 2009, 09:44:38 AM
สำนวนคล้าย ๆ ของ สุริยัน ศักดิ์ไธสง เลย

อ่านแล้วน่าติดตามอย่างที่ท่าน JOYHUNTER ว่าเลย

ด้วยความเคารพครับ


หัวข้อ: Re: คำสารภาพ ตอนที่ 1
เริ่มหัวข้อโดย: Skydiver_รักในหลวง ที่ พฤศจิกายน 17, 2009, 09:46:10 AM
ขอบคุณมากครับ


หัวข้อ: Re: คำสารภาพ ตอนที่ 1
เริ่มหัวข้อโดย: naisomchai ที่ พฤศจิกายน 17, 2009, 10:02:55 AM
เขียนได้ดีครับ...

นายสมชายมองว่ามือปืนรับจ้างคือคนโง่ คนที่ยอมแพ้อะไรง่ายๆ ไม่ยอมสู้ชีวิตตามครรลองของมันครับ...

ความฉลาดของสมองคนเราไม่มีข้อจำกัด หากปิดกั้นรับข้อมูลแต่วงแคบๆ ก็จะไม่รู้วิธีทำมาหากิน ไม่รู้วิธีสร้างความภูมิใจ ความอิ่มเอมใจให้แก่ตนเอง แล้วก็หันไปหาวิธีที่คิดว่าง่าย แต่มันไม่ง่ายจริง แลเป็นวิธีที่โง่ครับ... เช่นประโยคกับศพแรกที่ว่า"เงินแค่ 5000 บาทพรากอิสระของมือปืนไปแล้ว"...

ในประเทศไทยมีวิธีทำมาหากินตั้งหลายวิธีที่สามารถสร้างรายได้หลักแสนบาทต่อเดือนได้โดยไม่ต้องขายแอมเวย์, ไม่ต้องขายกิ๊ฟฟารีน, ไม่ต้องปล่อยเงินกู้ดอกแพง, ไม่ต้องรับจ้างเกณฑ์คนไปชุมนุมการเมือง, ไม่ต้องโกงคนอื่นหรือโกงชาติ, ไม่ต้องทำสิ่งผิดกฏหมายอื่นใด ฯลฯ...

วิธีที่ว่านั้นมันอยู่ที่สมองของตนเอง ว่าเปิดรับข่าวสารได้มากแค่ไหน คบเพื่อนฝูงได้ถูกคนแค่ไหน... หากคบเพื่อนที่เป็น"สมาคมผู้แพ้"ก็จะได้รับแต่ข้อมูลโอดครวญ ตัดพ้อว่าตัวเองแพ้อย่างไร โดนคนอื่นฉลาดกว่าแย่งทรัพยากรไปอย่างไร แล้วก็สะสมเอาความเกลียดชังเข้าไว้ในสมอง รอวันระเบิดฯ...

หากคบเพื่อนที่อยู่ใน"สมาคมผู้ชนะ"ก็จะได้รับข้อมูลข่าวสารว่าทำอย่างไรจึงชนะ มีทรัพยากรตรงไหนให้ไปไขว่คว้า กฏระเบียบและคุณธรรมตรงไหนห้ามละเมิด หากละเมิดแล้วไม่มีใครคบด้วย เส้นแบ่งมันอยู่ตรงไหน วิธีใดได้มาซึ่งหนทางแห่งชัยชนะ... ชนะได้มันก็ยาก แต่ที่ยากกว่าคือต้อง"อยู่ได้นาน"นั้นต้องมีคุณธรรมครับ...

วิธีทำมาหากินของแต่ละคนไม่เหมือนกัน แล้วแต่ความถนัดเฉพาะตัว... การอ่านมากและการสรุปเรื่องสรุปประเด็นได้เก่งคือคุณสมบัติที่จำเป็นต้องมี, หากสรุปประเด็นไม่ได้จะฟุ๊งซ่านพายเรือในอ่างไม่มีทางออก...

เคล็ดลับที่ไม่ลับของการอ่านมาก แล้วให้สามารถจับประเด็นให้ได้คือการ"จับตัวสะกดการันต์ภาษาไทยให้ถูกต้อง"ครับ... เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องตลก แต่การจับตัวสะกดการันต์ให้ถูกต้องให้ได้จะเป็นการดึงสมองคนอ่านให้มีสมาธิ ตรวจรูปประโยคประธานกริยากรรม แล้วมองภาพรวมให้ออกเหมือนจิ๊กซอว์ใหญ่มีแผ่นจิ๊กซอว์ย่อยหลายแผ่นประกอบกันเป็นประเด็นใหญ่...

ลองดูเพื่อนสมาชิกหลายท่านที่ Post ในเว็บบอร์ดนี้ก็แล้วกันครับ... เราจำแนกผู้คนออกได้ตามระดับสมองโดยดูจากสิ่งที่แต่ละคน Post ออกมาครับ...


หัวข้อ: Re: คำสารภาพ ตอนที่ 1
เริ่มหัวข้อโดย: ธำรง ที่ พฤศจิกายน 17, 2009, 10:05:42 AM
ด้วยความเคารพ  ::014:: ผมเห็นมือปืนรับจ้างเป็นเพียงแค่คนขลาด  :-X

นิยายครับพี่อย่าไปคิดอะไรมาก ::005::

นิยายสำหรับผู้ใหญ่มีวุฒิภาวะไม่เป็นไร แต่ห่วงแนวคิดของเด็กๆหนุ่มๆครับ
เรื่องจริงเพิ่งเจอมา...เงินห้าหมื่นกับการเอาชีวิตคน.....น่าเศร้า  ::004::


หัวข้อ: Re: คำสารภาพ ตอนที่ 1
เริ่มหัวข้อโดย: จอยฮันเตอร์ ที่ พฤศจิกายน 17, 2009, 10:14:24 AM
ด้วยความเคารพ  ::014:: ผมเห็นมือปืนรับจ้างเป็นเพียงแค่คนขลาด  :-X

นิยายครับพี่อย่าไปคิดอะไรมาก ::005::

นิยายสำหรับผู้ใหญ่มีวุฒิภาวะไม่เป็นไร แต่ห่วงแนวคิดของเด็กๆหนุ่มๆครับ
เรื่องจริงเพิ่งเจอมา...เงินห้าหมื่นกับการเอาชีวิตคน.....น่าเศร้า  ::004::

ผมเชื่อว่าตอนจบพระเอกตายครับพี่ ;D


หัวข้อ: Re: คำสารภาพ ตอนที่ 1
เริ่มหัวข้อโดย: naisomchai ที่ พฤศจิกายน 17, 2009, 10:19:52 AM
ด้วยความเคารพ  ::014:: ผมเห็นมือปืนรับจ้างเป็นเพียงแค่คนขลาด  :-X

นิยายครับพี่อย่าไปคิดอะไรมาก ::005::

นิยายสำหรับผู้ใหญ่มีวุฒิภาวะไม่เป็นไร แต่ห่วงแนวคิดของเด็กๆหนุ่มๆครับ
เรื่องจริงเพิ่งเจอมา...เงินห้าหมื่นกับการเอาชีวิตคน.....น่าเศร้า  ::004::

ผมเชื่อว่าตอนจบพระเอกตายครับพี่ ;D

ตายแน่ครับ...

ถ้าไม่ตาย นายสมชายจะแต่งต่อ(ดัดแปลง)ให้ตายแหงแก๋ครับ... เอาแบบตายแล้วปิดประเด็นที่เปิดเอาไว้ค้างคาให้ครบถ้วนเพื่อความสะใจด้วยครับ...


หัวข้อ: Re: คำสารภาพ ตอนที่ 1
เริ่มหัวข้อโดย: Goddess ที่ พฤศจิกายน 17, 2009, 10:28:25 AM
บทสรุป คือตายเนอะ 

อิอิ  รอติดตามบทสรุป


หัวข้อ: Re: คำสารภาพ ตอนที่ 1
เริ่มหัวข้อโดย: soveat ชุมไพร ที่ พฤศจิกายน 17, 2009, 10:33:56 AM
 จำ เล็ก  นกใน ได้ไหมครับ  กลับตัวเป็นคนดีหันมาช่วยบ้านเมืองแล้ว  ก็ยังตายด้วยฝีมือมือปืนรุ่นหลาน  เส้นทางมือปืนไม่ตายก็คุกครับ สองอย่าง  :D


หัวข้อ: Re: คำสารภาพ ตอนที่ 1
เริ่มหัวข้อโดย: จอยฮันเตอร์ ที่ พฤศจิกายน 17, 2009, 10:43:01 AM
จำ เล็ก  นกใน ได้ไหมครับ  กลับตัวเป็นคนดีหันมาช่วยบ้านเมืองแล้ว  ก็ยังตายด้วยฝีมือมือปืนรุ่นหลาน  เส้นทางมือปืนไม่ตายก็คุกครับ สองอย่าง  :D
หลังจากหลุดพ้นคดี มาเป็นผู้ใหญ่บ้าน แล้วออกปราบร่วมกับตำรวจ ขณะปิดล้อมเข้าจับกุมคนร้าย กระสุนปริศนาลอยมาโป้งเดียวกระสุนเจาะหน้าผาก  ส่งวัด ::005::


หัวข้อ: Re: คำสารภาพ ตอนที่ 1
เริ่มหัวข้อโดย: soveat ชุมไพร ที่ พฤศจิกายน 17, 2009, 10:45:23 AM
จำ เล็ก  นกใน ได้ไหมครับ  กลับตัวเป็นคนดีหันมาช่วยบ้านเมืองแล้ว  ก็ยังตายด้วยฝีมือมือปืนรุ่นหลาน  เส้นทางมือปืนไม่ตายก็คุกครับ สองอย่าง  :D
หลังจากหลุดพ้นคดี มาเป็นผู้ใหญ่บ้าน แล้วออกปราบร่วมกับตำรวจ ขณะปิดล้อมเข้าจับกุมคนร้าย กระสุนปริศนาลอยมาโป้งเดียวกระสุนเจาะหน้าผาก  ส่งวัด ::005::

ตอนนั้นผมสิบสองขวบ  :DD :DD :DD


หัวข้อ: Re: คำสารภาพ ตอนที่ 1
เริ่มหัวข้อโดย: วัฒน์ ที่ พฤศจิกายน 17, 2009, 11:15:39 AM
 ::002:: เยี่ยมครับ อ่านแล้วสนุกดีครับ


หัวข้อ: Re: คำสารภาพ ตอนที่ 1
เริ่มหัวข้อโดย: STeelShoTS ที่ พฤศจิกายน 17, 2009, 11:24:00 AM
 สนุกดีครับ....


หัวข้อ: Re: คำสารภาพ ตอนที่ 1
เริ่มหัวข้อโดย: ...อภิสิทธิ์ ... ที่ พฤศจิกายน 17, 2009, 12:26:21 PM
บวก1ครับคุณแอคคอม ........ อึ๋ยย์........ ตอนเด็กๆเห็นคนเขามารับจ้างดูดส้วมพอเขาเคาะปูนเปิดฝาแล้วของในนั้นมันดันออกมาผมพูดกับแม่ว่า "อึ๋ยย์"  อ่านชีวิตตาคนนี้แล้วก็ขอบอกว่า  "อึ๋ยย์" 


ปล. ผมมีเพื่อนเป็นคนเมืองเพชร มีญาติเป็นคนเมืองชล  พวกเขาไม่เห็นดีใจครับเวลามีใครบอกว่า พวกเขาเป็นคนจริงคนดุ


หัวข้อ: Re: คำสารภาพ ตอนที่ 1
เริ่มหัวข้อโดย: chartthai ที่ พฤศจิกายน 17, 2009, 03:25:50 PM
ขอบคุณทุกความคิดเห็นครับ
+ 1 ให้ครับเมื่อวานเพลินไปหน่อยลืมจัดครับ


หัวข้อ: Re: คำสารภาพ ตอนที่ 1
เริ่มหัวข้อโดย: R2D2 ที่ พฤศจิกายน 17, 2009, 04:14:58 PM
ด้วยความเคารพ  ผมเห็นมือปืนรับจ้างเป็นเพียงแค่คนขลาด  
เพื่อนผมยิ่งกว่านั้นอีก แค่เราพูดว่าชอบปืนยาว เช่นลูกกรดยาวหรือไรเฟิล จะโดนมันด่าว่าขลาดทันที พ่อเขาปลูกฝังมาอย่างนั้นครับ ในทัศนะของเขาปืนคือเครื่องประหัตประหารอย่างเดียว..พูดแล้วเซ็งเป็ดเล็กน้อยครับ  


หัวข้อ: Re: คำสารภาพ ตอนที่ 1
เริ่มหัวข้อโดย: ธำรง ที่ พฤศจิกายน 17, 2009, 04:43:11 PM
ด้วยความเคารพ  ::014:: ผมเห็นมือปืนรับจ้างเป็นเพียงแค่คนขลาด  :-X


ต้องขออนุญาตขยายความ .... ที่ผมเห็นเป็นคนเหล่านี้เป็นเพียงคนขลาด ก็เพราะมักเป็นการลอบยิง ลอบทำร้าย ลอบกัด ไม่ให้รู้ตัว
ผมเคารพยกย่องคนกล้า ที่ประจัญหน้าอริราชศัตรู ที่เป็นผู้พิทักษ์สันติราษฎร์ครับ  ::014::




หัวข้อ: Re: คำสารภาพ ตอนที่ 1
เริ่มหัวข้อโดย: pasuta ที่ พฤศจิกายน 17, 2009, 10:42:44 PM
คนที่อยู่ในวงการนี้ก็เปรียบได้ดั่งคนขึ้นขี่หลังเสือ อย่าคาดหวังว่าจะลงได้ง่ายๆไม่ตายก็ติดคุก  ::014::


หัวข้อ: Re: คำสารภาพ ตอนที่ 1
เริ่มหัวข้อโดย: nick357 "รักในหลวง" ที่ พฤศจิกายน 18, 2009, 07:20:55 AM
ลีลาการเขียนอ่านสนุก


แต่อาชีพมือปืนยังคงยืนยันว่าความเห็นเดิมว่าเป็นอาชีพของคน    "หน้าตัวเมีย"


หัวข้อ: Re: คำสารภาพ ตอนที่ 1
เริ่มหัวข้อโดย: เมียหลวงสั่งถอย เมียน้อยสั่งลุย ที่ พฤศจิกายน 20, 2009, 06:29:04 PM
+1 ครับ