เว็บบอร์ดสนทนาภาษาปืน

สนทนาภาษาปืน => หลังแนวยิง => ข้อความที่เริ่มโดย: วัฒน์ ที่ พฤศจิกายน 28, 2009, 01:49:54 PM



หัวข้อ: เปิดใจ ช่างดูแล รถยนต์พระที่นั่ง
เริ่มหัวข้อโดย: วัฒน์ ที่ พฤศจิกายน 28, 2009, 01:49:54 PM
 ::014:: เปิดใจช่างดูแลรถยนต์พระที่นั่งในหลวง

(http://www.komchadluek.net/media/img/size1/2009/11/28/6c7ehdbjc78aicbhc8c5b.jpg)

         เปิดใจ "อนันต์ ร่มรื่นวาณิชกิจ" ช่างดูแลรถยนต์พระที่นั่ง นำพรจากในหลวงคือ "ประมาณตน" เป็นหลักนำชีวิต จนสามารถปลอดหนี้สิน 10 ล้านได้สำเร็จ พร้อมเปิดเผยว่า พระองค์ทรงงานหนักเพื่อพสกนิกร ภายในรถยนต์พระที่นั่งไม่มีสิ่งอำนวยความสะดวก

         เมื่อวันที่ 27 พฤศจิกายน ในการบันทึกรายการตีสิบ ช่วงหนึ่งนายวิทวัส  สุนทรวิเนตร์ พิธีกรรายการ ได้สัมภาษณ์นายอนันต์ ร่มรื่นวาณิชกิจ ช่างดูแลรถยนต์พระที่นั่ง

         นายอนันต์ เล่าถึงจุดเริ่มต้นในการเข้าไปดูแลรถยนต์พระที่นั่งว่า เดิมเป็นช่างทำสีรถยนต์ทั่วไป กระทั่งเมื่อประมาณปลายปี 2541-2542 มีคนมาคุยที่ร้าน แต่งชุดธรรมดามาบอกว่าจะให้ทำสีรถยนต์พระที่นั่ง ตอนนั้นคิดว่าล้อเล่นจึงปฏิเสธ ไม่นานเขานำรถยนต์ รยล. และแต่งชุดเต็มยศเข้ามาหาที่อู่ พร้อมทั้งจดหมายจากสำนักพระราชวัง บอกว่าพรุ่งนี้ให้แต่งชุดสุภาพเพื่อเตรียมเข้าวังไปพบท่านรองราชเลขาธิการ พอเข้าไปในสวนจิตรลดา ท่านรองฯ ถามว่าจะให้ดูแลทำสีรถยนต์พระที่นั่งทั้งหมด จะทำได้ไหม ก็รับคำทันที

         ส่วนรถยนต์พระที่นั่งคันแรกที่ได้ทำนั้น นายอนันต์ กล่าวว่า คือรถโรลส์รอยซ์ ที่เป็นรถยนต์พระที่นั่งที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงใช้ในพระราชพิธีสวนสนาม วันที่ 5 ธันวาคม ของทุกปี

         "เราเห็นเข่าอ่อนเลย วันแรกที่เห็นรถก็นั่งมองรถตั้งแต่ 9 โมง ถึงตีสาม และฝากให้สารถีถามท่านว่าท่านโปรดสีรถยนต์ยี่ห้อไหน แต่ท่านมีรับสั่งกลับว่าให้ใช้สีที่นายช่างใช้ ก่อนที่เราจะทำสีรถก็ก้มกราบที่เยื้องพระบาทขึ้นรถยนต์ จากนั้นจึงเริ่มทำ ระหว่างที่ทำก็ต้องติดกล้องวงจรปิดส่งภาพให้ทางสำนักพระราชวังดู และมีตำรวจมาคอยตรวจดู ตอนนั้นเรานอนเฝ้ารถยนต์พระที่นั่งเลย ตอนที่ซ่อมแม่มาเห็นเข้าก็บอกว่าให้เราซ่อมถวายท่านเลยได้มั้ย เพราะว่าแม่เป็นคนจีนโล้สำเภามาพึ่งพระบรมโพธิสมภารจากท่าน อยากจะตอบแทนคุณท่าน ให้ลูกทำแทนแม่ได้มั้ย เราก็รับคำแม่ทันทีว่าได้ ทั้ง ๆ ที่ตอนนั้นเศรษฐกิจไม่ดี เราเป็นหนี้อยู่ 10 ล้าน แต่เราก็พยายามทำงานให้ท่านอย่างดีที่สุด" นายอนันต์ กล่าว

         ช่างดูแลรถยนต์พระที่นั่ง เล่าอีกว่า พอทำสีรถยนต์ไปได้สัก 7 คัน มีผู้ใหญ่ทำจดหมายขึ้นกราบบังคมทูลพระองค์ท่านว่า นายช่างทูลเกล้าฯ ถวายค่าซ่อมรถทั้ง 7 คัน ก็มีรับสั่งมาว่าขอบใจ แต่ตอนหลังสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี มีรับสั่งให้สารถีมาบอกว่า พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวไม่โปรดที่นายช่างทำแบบนี้ อยากให้นายช่างรู้จักประมาณตนว่าอะไรควรถวาย อะไรไม่ควรถวาย

         "ท่านคงรู้ว่าผมมีปัญหาหนี้สินมาก ท่านก็เลยเตือนสติ ผมถือว่าเป็นพรที่นำคำว่ารู้จักประมาณตน มาใช้จนทุกวันนี้" นายอนันต์ กล่าว

         นายอนันต์ เล่าต่อว่า นอกจากรถยนต์พระที่นั่งของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ยังดูแลรถยนต์พระที่นั่งของพระบรมวงศานุวงศ์ด้วย

         "ครั้งหนึ่งผมต้องซ่อมรถตู้เชฟโรเลต ซึ่งเป็นรถที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวพระราชทานแก่สมเด็จพระเทพรัตน์ฯ สมัยท่านเรียนจบที่จุฬาฯ และเป็นคันโปรดของท่านด้วย ก่อนซ่อมข้างประตูด้านที่ท่านประทับเวลาฝนตกจะมีน้ำหยด แต่หลังจากที่ซ่อมแล้ว วันหนึ่งท่านก็รับสั่งกับสารถีว่า วันนี้รถดูแปลกไป น้ำไม่หยด อย่างนี้ก็ไม่เย็นน่ะสิ แต่ก็ดีเหมือนกันไม่ต้องเอากระป๋องมารอง" นายอนันต์ เล่าถึงพระอารมณ์ขันของสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี

         นายอนันต์ เปิดเผยว่า ภายในรถยนต์พระที่นั่งของแต่ละพระองค์นั้น เรียบง่ายมากไม่มีอะไรเลยที่เป็นสิ่งอำนวยความสะดวก มีแต่ถังขยะเล็ก ๆ กับที่ทรงงานเท่านั้น

         ส่วนการได้มีโอกาสดูแลรถยนต์พระที่นั่ง ทำให้ได้เห็นถึงพระราชกรณียกิจของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวด้วยนั้น นายอนันต์กล่าวว่า ครั้งหนึ่งมีรถยนต์พระที่นั่งที่เพิ่งทรงใช้ในพระราชกรณียกิจมาทำ เห็นว่าพรมใต้รถมีน้ำแฉะขังอยู่และมีกลิ่นเหม็นด้วย แสดงว่าพระองค์ท่านทรงนำรถไปทรงพระราชกรณียกิจในที่ที่น้ำท่วม แถมน้ำยังซึมเข้าไปในรถพระที่นั่งด้วย แสดงว่าน้ำก็ต้องเปียกพระบาทมาตลอดทาง จึงถามสารถีว่า ทำไมไม่รีบเอารถมาซ่อม ก็ได้คำตอบว่าต้องรอให้เสร็จพระราชกรณียกิจก่อน

         เมื่อพิธีกรถามว่า จากการที่ได้มีโอกาสรับใช้เบื้องพระยุคลบาท ได้เห็นถึงความพอเพียงของพระองค์อย่างไร นายอนันต์ ตอบว่า "ปกติถ้าทรงงานส่วนพระองค์ ท่านก็ใช้รถคันเล็กเพื่อประหยัดน้ำมัน และเมื่อเราสังเกตสีรถพระที่นั่ง จะเห็นว่ามีรอยสีถลอกรอบคันรถ กว่าที่ท่านจะนำมาทำสีใหม่ก็รอบคันแล้ว แต่คนใช้รถอย่างเราแค่รอยนิดเดียวก็รีบเอามาทำสีแล้ว และครั้งหนึ่งระหว่างที่ผมกำลังประสานงานไปรับรถพระที่นั่งของสมเด็จพระเทพรัตน์ฯ ก็มีวิทยุของข้าราชบริพารบอกกันว่ารถติดมาก สมเด็จพระเทพรัตน์ฯ เสด็จฯ ขึ้นรถไฟฟ้าไปแล้ว"

         ในช่วงตลอดเวลา 10 ปี ที่ปฏิบัติงานถวายนั้น นายอนันต์กล่าวว่า พระราชกระแสรับสั่งที่ให้เราประมาณตน ทำให้เรายึดมั่นคำนี้มาใช้ในชีวิตประจำวันมาโดยตลอด ทำงานด้วยความสุจริต ไม่เอาเปรียบใคร

         "เชื่อมั้ยว่าชีวิตจากที่เป็นหนี้ 10 ล้าน ก็ดีขึ้นเรื่อย ๆ ขยายกิจการมาโดยตลอด ครอบครัวมีความสุข คุณแม่ที่เคยขอให้เราทำงานเพื่อตอบแทนพระคุณท่าน ก็อายุ 90 ปีแล้ว แต่ท่านยังแข็งแรงอยู่ เหมือนสิ่งที่ผมทำไปทั้งหมดเป็นพรที่สะท้อนกลับมาหาผมเป็นทวีคูณ" นายอนันต์ กล่าวในตอนท้าย

         วันเดียวกัน สำนักพระราชวังแจ้งว่า ในระหว่างที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จฯ มาประทับ ณ โรงพยาบาลศิริราช เพื่อทรงรับการถวายการรักษาพระอาการประชวรเป็นเวลา 70 วัน ปรากฏว่า มีพระประมุขและผู้นำประเทศส่งพระราชโทรเลข พระราชสาส์น และสาส์นถวายพระพร รวมทั้งสิ้น 11 ประเทศ อาทิ สมเด็จพระราชินีนาถมาร์เกรเธอที่ 2 แห่งเดนมาร์ก ทรงส่งพระราชโทรเลขถวายพระพรมีใจความว่า "หม่อมฉันและพระสวามีมีความห่วงใยเป็นอย่างยิ่ง ที่ทราบว่าฝ่าพระบาททรงพระประชวร และขอถวายพระพรให้ฝ่าพระบาททรงพระสำราญในเร็ววัน"

         สมเด็จพระราชาธิบดีแห่งชาวเบลเยียม อัลแบร์ที่ 2 ทรงส่งพระราชโทรเลข มีใจความว่า "เมื่อทราบว่าฝ่าพระบาททรงเข้ารับการถวายการรักษาพระอาการประชวร หม่อมฉัน พระราชินี และพระราชวงศ์ ขอถวายพระพรให้ฝ่าพระบาททรงพระสำราญในเร็ววัน"

         สมเด็จพระราชาธิบดีแห่งมาเลเซีย มีพระราชสาส์นความว่า "หม่อมฉันและพระราชินีรู้สึกห่วงใย ขอสวดมนต์ภาวนาเพื่อฝ่าพระบาทมีพระพลานามัยสมบูรณ์ ทรงพระเกษมสำราญมีพระชนมายุยิ่งยืนนาน" ขณะที่สมเด็จพระราชาธิบดีแห่งสเปน ฮวน คาร์ลอส โซเฟีย ความว่า "ขอถวายพระพรให้ฝ่าพระบาทเกษมสำราญโดยเร็ววัน" ด้านสมเด็จพระราชินีนาถอลิซาเบธที่ 2 แห่งสหราชอาณาจักร มีพระราชสาส์นความว่า "หม่อมฉันรู้สึกเป็นห่วงเมื่อทราบว่าฝ่าพระบาทประชวรเมื่อไม่นานนี้ ขอถวายพระพรให้ฝ่าพระบาททรงพระสำราญในเร็ววัน"



ขอขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก
http://www.komchadluek.net/ (http://www.komchadluek.net/)


หัวข้อ: Re: เปิดใจ ช่างดูแล รถยนต์พระที่นั่ง
เริ่มหัวข้อโดย: น้องโด่ง ที่ พฤศจิกายน 28, 2009, 01:58:46 PM
 ::014:: ทรงพระเจริญ  ::014::


หัวข้อ: Re: เปิดใจ ช่างดูแล รถยนต์พระที่นั่ง
เริ่มหัวข้อโดย: สหายแป๋ง คนดง ที่ พฤศจิกายน 28, 2009, 02:06:30 PM
 ::014::  ขอพระองค์ทรงพระเจริญ ::014::


หัวข้อ: Re: เปิดใจ ช่างดูแล รถยนต์พระที่นั่ง
เริ่มหัวข้อโดย: sorrachat - รักในหลวง ที่ พฤศจิกายน 28, 2009, 02:13:40 PM
ขอบคุณครับ
เป็นปลื้มเลยครับ
ที่ท่านบอกอะไรควรถวาย
อะไรไม่ควร

 


หัวข้อ: Re: เปิดใจ ช่างดูแล รถยนต์พระที่นั่ง
เริ่มหัวข้อโดย: sorrachat - รักในหลวง ที่ พฤศจิกายน 28, 2009, 02:18:42 PM
 ::014::


หัวข้อ: Re: เปิดใจ ช่างดูแล รถยนต์พระที่นั่ง
เริ่มหัวข้อโดย: ชัยบึงกาฬ รักในหลวง ที่ พฤศจิกายน 28, 2009, 02:28:41 PM

   ขอพระองค์ทรงพระเจริญ


หัวข้อ: Re: เปิดใจ ช่างดูแล รถยนต์พระที่นั่ง
เริ่มหัวข้อโดย: ~ Sitthipong - รักในหลวง ~ ที่ พฤศจิกายน 28, 2009, 02:37:00 PM
ขอพระองค์ทรงพระเจริญยิ่งยืนนาน   ::014::


หัวข้อ: Re: เปิดใจ ช่างดูแล รถยนต์พระที่นั่ง
เริ่มหัวข้อโดย: yod - รักในหลวง ครับ ที่ พฤศจิกายน 28, 2009, 02:44:44 PM


ขอพระองค์ทรงพระเจริญยิ่งยืนนาน




อยากให้นายช่างรู้จักประมาณตนว่าอะไรควรถวาย อะไรไม่ควรถวาย


หัวข้อ: Re: เปิดใจ ช่างดูแล รถยนต์พระที่นั่ง
เริ่มหัวข้อโดย: Sig228-kolok ที่ พฤศจิกายน 28, 2009, 02:59:33 PM

ขอพระองค์ทรงพระเจริญยิ่งยืนนาน   ::014::


หัวข้อ: Re: เปิดใจ ช่างดูแล รถยนต์พระที่นั่ง
เริ่มหัวข้อโดย: chonthai-รักในหลวง ที่ พฤศจิกายน 28, 2009, 03:39:14 PM
ทรงพระเจริญยิ่งยืนนาน ขอพระองค์ทรงพระเกษมสำราญ


หัวข้อ: Re: เปิดใจ ช่างดูแล รถยนต์พระที่นั่ง
เริ่มหัวข้อโดย: korpat ที่ พฤศจิกายน 28, 2009, 03:41:11 PM
 ::014::


หัวข้อ: Re: เปิดใจ ช่างดูแล รถยนต์พระที่นั่ง
เริ่มหัวข้อโดย: rute - รักในหลวง ที่ พฤศจิกายน 28, 2009, 05:42:03 PM
ขอพระองค์ทรงพระเจริญยิ่งยืนนาน....::014::


หัวข้อ: Re: เปิดใจ ช่างดูแล รถยนต์พระที่นั่ง
เริ่มหัวข้อโดย: บาร์ท รักในหลวง ที่ พฤศจิกายน 28, 2009, 05:56:32 PM
ขอพระองค์ทรงพระเจริญยิ่งยืนนาน ::014::


หัวข้อ: Re: เปิดใจ ช่างดูแล รถยนต์พระที่นั่ง
เริ่มหัวข้อโดย: อรชุน-รักในหลวง ที่ พฤศจิกายน 28, 2009, 06:05:46 PM
ขอพระองค์ทรงพระเจริญยิ่งยืนนาน  ::014:: ::014::

อ่านแล้วน้ำตาจะไหลครับ  :~) :~)


หัวข้อ: Re: เปิดใจ ช่างดูแล รถยนต์พระที่นั่ง
เริ่มหัวข้อโดย: menkmenk รักในหลวง ที่ พฤศจิกายน 28, 2009, 06:06:33 PM
ขอพระองค์ทรงพระเจริญยิ่งยืนนาน ::014::


หัวข้อ: Re: เปิดใจ ช่างดูแล รถยนต์พระที่นั่ง
เริ่มหัวข้อโดย: pasta ที่ พฤศจิกายน 28, 2009, 06:13:20 PM
  ::014::ขอพระองค์ทรงพระเจริญ ::014::


หัวข้อ: Re: เปิดใจ ช่างดูแล รถยนต์พระที่นั่ง
เริ่มหัวข้อโดย: นายกระจอก ที่ พฤศจิกายน 28, 2009, 07:18:50 PM
ขอพระองค์ทรงพระเจริญ


หัวข้อ: Re: เปิดใจ ช่างดูแล รถยนต์พระที่นั่ง
เริ่มหัวข้อโดย: flyingkob-รักในหลวง ที่ พฤศจิกายน 28, 2009, 07:50:08 PM
ทรงพระเจริญ พุทธเจ้าข้าฯ


หัวข้อ: Re: เปิดใจ ช่างดูแล รถยนต์พระที่นั่ง
เริ่มหัวข้อโดย: gun n roses_รักในหลวง ที่ พฤศจิกายน 28, 2009, 08:38:57 PM
ขอพระองค์ทรงพระเจริญ ยิ่งยืนนาน


หัวข้อ: Re: เปิดใจ ช่างดูแล รถยนต์พระที่นั่ง
เริ่มหัวข้อโดย: JC ที่ พฤศจิกายน 28, 2009, 09:46:57 PM
ทรงพระเจริญ


หัวข้อ: Re: เปิดใจ ช่างดูแล รถยนต์พระที่นั่ง
เริ่มหัวข้อโดย: เมียหลวงสั่งถอย เมียน้อยสั่งลุย ที่ พฤศจิกายน 28, 2009, 09:47:17 PM
ขอพระองค์ทรงพระเจริญ


หัวข้อ: Re: เปิดใจ ช่างดูแล รถยนต์พระที่นั่ง
เริ่มหัวข้อโดย: [แม่จะเรา] ที่ พฤศจิกายน 28, 2009, 09:58:14 PM
ขอพระองค์ทรงพระเจริญยิ่งยืนนาน
อ่านแล้วน้ำตาจะไหลเหมือนกันครับ


หัวข้อ: Re: เปิดใจ ช่างดูแล รถยนต์พระที่นั่ง
เริ่มหัวข้อโดย: Bank_99 ที่ พฤศจิกายน 28, 2009, 11:12:45 PM
ขอพระองค์ทรงพระเจริญ


หัวข้อ: Re: เปิดใจ ช่างดูแล รถยนต์พระที่นั่ง
เริ่มหัวข้อโดย: PU45™ ที่ ธันวาคม 01, 2009, 07:19:13 PM

                      ขอพระองค์ทรงพระเจริญ ยิ่งยืนนาน



หัวข้อ: Re: เปิดใจ ช่างดูแล รถยนต์พระที่นั่ง
เริ่มหัวข้อโดย: NAIVI ที่ ธันวาคม 01, 2009, 08:17:10 PM
ทรงพระเจริญ


หัวข้อ: Re: เปิดใจ ช่างดูแล รถยนต์พระที่นั่ง
เริ่มหัวข้อโดย: Iron ที่ ธันวาคม 01, 2009, 08:41:37 PM
 ::014:: ขอพระองค์ทรงพระเจริญยิ่งยืนนาน   ::014::


หัวข้อ: Re: เปิดใจ ช่างดูแล รถยนต์พระที่นั่ง
เริ่มหัวข้อโดย: tinnakorn 0101 ที่ ธันวาคม 01, 2009, 08:43:58 PM
ขอพระองค์ทรงพระเจริญยิ่งยืนนาน


หัวข้อ: Re: เปิดใจ ช่างดูแล รถยนต์พระที่นั่ง
เริ่มหัวข้อโดย: phan-lanna ที่ ธันวาคม 01, 2009, 11:55:00 PM
ขอพระองค์ทรงพระเจริญ


หัวข้อ: Re: เปิดใจ ช่างดูแล รถยนต์พระที่นั่ง
เริ่มหัวข้อโดย: โทน73 -รักในหลวง- ที่ ธันวาคม 02, 2009, 12:08:29 AM
ทรงพระเจริญ ยิ่งยืนนาน  ::014::


หัวข้อ: Re: เปิดใจ ช่างดูแล รถยนต์พระที่นั่ง
เริ่มหัวข้อโดย: Zeus-รักในหลวง ที่ ธันวาคม 02, 2009, 10:06:17 AM
ทรงพระเจริญ ::014::
อ่านแล้วน้ำตาจะไหลเหมือนกันครับ ::014::


หัวข้อ: Re: เปิดใจ ช่างดูแล รถยนต์พระที่นั่ง
เริ่มหัวข้อโดย: นายรัก-รักในหลวง- ที่ ธันวาคม 02, 2009, 02:17:32 PM
ขอพระองค์ทรงพระเจริญยิ่งยืนนาน ด้วยเกล้าด้วยกระหม่อม ขอเดชะ  ::014:: ::014:: ::014:: ::014::


หัวข้อ: Re: เปิดใจ ช่างดูแล รถยนต์พระที่นั่ง
เริ่มหัวข้อโดย: Choro - รักในหลวง ที่ ธันวาคม 02, 2009, 04:23:41 PM
ขอพระองค์ทรงพระเจริญ  ::014::

  ผมอยากมีบุญแบบช่างอนันต์ครับ   ::014::


หัวข้อ: Re: เปิดใจ ช่างดูแล รถยนต์พระที่นั่ง
เริ่มหัวข้อโดย: birdwhistle...รักในหลวง ที่ ธันวาคม 02, 2009, 04:48:44 PM
ขอให้พระพลานามัยแข็งแรง ทรงหายจากพระประชวรในเร็ววัน

ด้วยเกล้าด้วยกระหม่อม ขอเดชะ  ::014:: ::014:: ::014::



หัวข้อ: Re: เปิดใจ ช่างดูแล รถยนต์พระที่นั่ง
เริ่มหัวข้อโดย: TOW MATER ที่ ธันวาคม 03, 2009, 01:20:03 PM
ขอพระองค์ทรงพระเจริญยิ่งยืนนาน ด้วยเกล้าด้วยกระหม่อมขอเดชะ ::014::


ผมอ่านแล้วก็น้ำตาซึมครับ


หัวข้อ: Re: เปิดใจ ช่างดูแล รถยนต์พระที่นั่ง
เริ่มหัวข้อโดย: Peerapat - รักในหลวง ที่ ธันวาคม 03, 2009, 08:45:14 PM
ขอพระองค์ทรงพระเจริญ
 

     ::014::


หัวข้อ: Re: เปิดใจ ช่างดูแล รถยนต์พระที่นั่ง
เริ่มหัวข้อโดย: วัฒน์ ที่ ธันวาคม 03, 2009, 10:33:31 PM
ชีวิตหลังพระเมตตาแผ่ปก  ::014::

(http://www.matichon.co.th/news-photo/matichon/2009/12/lad01031252p1.jpg)

พรพิภัทร ขอสุก กับครอบครัว



"คืนหนึ่งผมฝันว่าในหลวงและพระราชินีเสด็จฯมาเยี่ยมและบอกจะช่วย จึงเล่าให้แม่ฟัง คิดว่าจะเขียนจดหมายถึงพระองค์"

เรื่องราวมากมายของเด็กนักเรียนยากจนข้นแค้น มีความเป็นอยู่ยากไร้ ต้องดิ้นรนต่อสู้ทุกวิถีทาง เหมือนชีวิตนี้จะไร้ที่พึ่ง แต่พลันที่พวกเขาระลึกถึงองค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ผู้ทรงเปี่ยมด้วยพระเมตตา ชีวิตที่อับจนหนทางไปกลับมามีความหวังเรืองรอง

เช่นชีวิตของ "พรพิภัทร ขอสุก" หรือ "แดง" วัย 19 ปี นักเรียน ม.6 โรงเรียนรัตนบุรี อ.รัตนบุรี จ.สุรินทร์ เคยคิดพักการเรียนทิ้งอนาคตเพื่อออกไปทำงานหาเงินส่งน้อง 2 คนเรียน ช่วยแบ่งเบาภาระทางบ้าน ซึ่งต้องเลี้ยงดูยายวัย 78 ปี กับบิดาป่วยเป็นโรคนิ่วและโรคไต เพราะแม่ไปหางานทำในเมืองกรุง

"แวบหนึ่งตอนนั้น ผมคิดถึงที่พึ่งหนึ่งเดียวในใจคือองค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พระองค์มีพระเมตตาให้โอกาสแก่คนยากจน จึงไปปรึกษาหัวหน้าไปรษณีย์ อ.รัตนบุรี และได้เขียนเรื่องราวทูลเกล้าฯถวายฎีกาเมื่อวันที่ 24 ธันวาคม 2551 กระทั่งวันที่ 9 กุมภาพันธ์ 2552 ผมได้รับเรื่องแจ้งจากสำนักพระราชวังตอบกลับมาในที่สุด"

สำนักพระราชวังมอบเงินทุนพระราชทาน จำนวน 200,000 บาท ให้สร้างบ้านหลังใหม่เรียบร้อยแล้ว ส่วนราชการที่เกี่ยวข้องช่วยเหลือเครื่องอุปโภคบริโภค คณะครูโรงเรียนรัตนบุรี ร่วมกับสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาสุรินทร์ เขต 2 ช่วยทุนการศึกษาระยะสั้น นายประเทือง เติมสุข นายก อบต.ทับใหญ่ อ.รัตนบุรี ช่วยทุนระยะยาว ส่วน นางกรรณิการ์ เจริญพันธ์ ส.ส.สุรินทร์ เขต 2 ช่วยรับบิดา-มารดาไปทำงานบ้าน


(http://www.matichon.co.th/news-photo/matichon/2009/12/lad01031252p2.jpg)

(บน) สภาพบ้านหลังเก่าของพรพิภัทร (ล่าง) บ้านหลังใหม่ที่พรพิภัทรได้รับหลังถวายฎีกา



จากเด็กเรียนดีกตัญญูรู้คุณ ไม่งอมืองอเท้า ขอเพียงมีโอกาส และโอกาสนั้นมาถึงแล้ว เหลือเพียงความใฝ่ฝันที่จะก้าวไปให้ถึงเป้าหมายคือนักศึกษาคณะสาธารณสุขศาสตร์ ด้วยคติประจำใจว่า "หีบที่เต็มไปด้วยเงินทอง มีค่าไม่เท่ากับสมองที่เต็มไปด้วยความรู้"

ปี 2550 ด.ญ.วิไลวรรณ หลักนาลาว อายุ 14 ปี ผู้ยากไร้แห่งบ้านหนองตาก้าย ต.หนองประดู่ อ.เลาขวัญ จ.กาญจนบุรี ได้เขียนจดหมายทูลเกล้าฯ ถวายฎีกาขอพระราชทานการช่วยเหลือทุนการศึกษา ด้วยเหตุครอบครัวยากไร้ บิดาเสียชีวิต มารดาทำงานต่างถิ่น ต้องอาศัยอยู่กับ ยายเจียน หลักนาลาว วัยกว่า 70 ปี ตามลำพัง หาเลี้ยงครอบครัวด้วยอาชีพรับจ้างทำไร่ เผาถ่าน หาเงินมาจุนเจือครอบครัวและส่งหลานเรียน

ภายหลังได้รับพระมหากรุณาธิคุณ สพท.กาญจนบุรี เขต 4 มอบหมายให้ผู้บริหารโรงเรียนบ้านหนองตาก้าย ดูแลให้คำปรึกษา หลายหน่วยงานช่วยเหลือด้านต่างๆ โดยเฉพาะทุนการศึกษาต่อเนื่องจนจบปริญญาตรี


(http://www.matichon.co.th/news-photo/matichon/2009/12/lad01031252p3.jpg)

(ซ้าย) ศุภักษร เรืองศรี กับคุณแม่ (ขวา) วิไลวรรณ หลักนาลาว



วันนี้ วิไลวรรณกำลังศึกษาอยู่ชั้น ม.2 โรงเรียนอู่ทอง อ.อู่ทอง จ.สุพรรณบุรี เธอยังคงมุ่งมั่นกับการศึกษาให้สมกับที่ได้รับพระมหากรุณาธิคุณ บนความใฝ่ฝันในอนาคต อยากเป็นตำรวจหญิง ทำหน้าที่ปกป้องชุมชนของเธอให้สงบสุข เท่าที่เด็กในหมู่บ้านคนหนึ่งที่มีโอกาสทางการศึกษาคนนี้จะทำได้

หนังสือจากสำนักพระราชวัง ลงวันที่ 22 กุมภาพันธ์ 2551 เป็นเสมือนคบเพลิงซึ่งจุดประกายสว่างให้ชีวิต ด.ช.ศุภักษร เรืองศรี อายุ 12 ปี นักเรียนชั้น ป.6 ซึ่งป่วยด้วยโรคไขกระดูกสันหลังฝ่อ มีกำลังใจอยู่สู้ชีวิตต่อไป

น้องโจ้อาศัยบ้านเช่าซอยเจริญสุข ต.หัวรอ อ.พระนครศรีอยุธยา กับ นางปราณี อินทร์ขำ มารดา วัย 34 ปี เธอหอบลูกเข้าๆ ออกๆ โรงพยาบาล (รพ.) พระมงกุฎเกล้าฯ อย่างคนสิ้นหวัง เงินทองที่มีอยู่ร่อยหรอลงเรื่อยๆ

"ผมป่วยหนักเลยต้องหยุดเรียน ตามเนื้อตัวเต็มไปด้วยตุ่มใส ไม่สบายตลอดเวลา ไม่รู้จะทำอย่างไร มีอยู่คืนหนึ่งผมฝันว่าในหลวงและพระราชินีเสด็จฯมาเยี่ยมและบอกจะช่วย จึงเล่าให้แม่ฟัง คิดว่าจะเขียนจดหมายถึงสองพระองค์ แต่แม่ห้ามในครั้งแรกว่า ขอให้ในหลวงทรงหายป่วยออกจากโรงพยาบาลก่อน แล้วจึงค่อยเขียนไป จนกระทั่งในหลวงทรงหายป่วย จึงเขียนไปถึงสำนักพระราชวัง ทั้งๆ ที่ไม่รู้ว่าอยู่แถวไหน" น้องโจ้เล่าด้วยความใสซื่อ

"พระองค์ท่านเพิ่งจะหายป่วยและพระพี่นางสิ้นพระชนม์ แต่พระองค์ยังมองเห็นความเดือดร้อนของประชาชนทุกคน และให้ความช่วยเหลือ พอมีหนังสือตอบกลับมาน้ำตาไหลพราก เชื่อว่าลูกต้องดีขึ้นแน่นอน ถือว่าเป็นที่สุดในชีวิตแล้ว" นางปราณีพูดด้วยน้ำตาคลอเบ้า

ปัจจุบันน้องโจ้เรียนจบ ป.6 แล้ว แม้ไม่ได้เรียนต่อเพราะปัญหาสุขภาพ แต่นางปราณีก็ดีใจที่ครอบครัวได้รับการช่วยเหลือจากหน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้องหลังสำนักพระราชวังประสานมา เป็นค่าครองชีพสัปดาห์ละ 1,500 บาท และ รพ.พระนครศรีอยุธยาจัดรถพยาบาลรับส่ง รพ.พระมงกุฎฯ ฟรีเดือนละ 4 ครั้ง รพ.พระมงกุฎฯดูแลค่ารักษาให้ทั้งหมด

"น้ำพระทัยของพระองค์เสมือนน้ำทิพย์มาต่อชีวิตให้น้องโจ้ยืนยาวอยู่กับแม่นานวันมากขึ้น ทุกวันนี้น้องโจ้มีสภาพไปตามภาวะของโรค เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา พบภาวะเลือดออกในสมอง แพทย์ช่วยเหลือจนรอดมาได้อีกครั้ง โจ้กลับมาอยู่ที่บ้านพักด้วยกำลังใจจากทุกฝ่าย เป็นบุญสูงสุดในชีวิตที่ได้รับพระราชทานการช่วยเหลือ" แม่น้องโจ้กล่าว




ที่มา : มติชน
http://www.matichon.co.th/matichon/view_news.php?newsid=01lad01031252&sectionid=0115&day=2009-12-03 (http://www.matichon.co.th/matichon/view_news.php?newsid=01lad01031252&sectionid=0115&day=2009-12-03)



หัวข้อ: Re: เปิดใจ ช่างดูแล รถยนต์พระที่นั่ง
เริ่มหัวข้อโดย: ART ที่ ธันวาคม 04, 2009, 01:26:55 AM
ขอพระองค์ทรงพระเจริญ