เว็บบอร์ดสนทนาภาษาปืน

      ผมมิอาจลบหลู่ความคิดความเชื่อของคนไทยที่มีมาแต่เนิ่นนาน เกี่ยวกับความเชื่อในเรื่องความ "อยู่ยงคงกระพัน" และอาจมี เพื่อนๆ พี่ๆ น้องๆ ในสมาชิก อวป. นี้ หลายท่านเป็น "นักเลงปืน" ที่มุ่งสรรหาอาวุธคู่มือที่ทรงอานุภาพ สามารถเจาะทะลุทลวงฝ่ายตรงข้ามได้อย่างมีประสิทธิภาพ พร้อมๆ ไปกับการเป็น "นักเลงพระ" ที่กำลังเล็งหาหรือเก็บรักษา พระเครื่องและเครื่องรางของขลังที่มีพุทธคุณด้านความอยู่ยงคงประพันธ์ไปในเวลาเดียวกัน ทั้งนี้ เพื่อรักษาชีวิตของตนให้รอดพ้นจากพยันตรายท้งปวง นั่นก็คือ การให้ตนนั่นเป็นผู้ซึ่ง "แทงไม่เข้า-ยิงไม่ออก ตามความคิดความเชื่อดังกล่าวนี้
      ผมเองในฐานะชาวพุทธคนหนึ่ง (โดยสืบทอด) กำลังคิดว่า นี่คือ กุศโลบาย ทางพุทธศาสนา ที่ให้ผู้ยึดถือธรรม ทุกคนนั้น ไม่กล้ำกรายหรือไม่เข้าไปข้องเกี่ยวในลักษณะ "เขาแทงกันไม่เข้าไป-และเขายิงกันก็ไม่ออกไป" จึงเป็นผู้รอดพ้น "คงกระพัน" เป็นไปตามความหมายของคำว่า "แทงไม่เข้า-ยิงไม่ออก ใช่หรือไม่ ขอโปรดท่านที่มีความคิดเห็นหรือความเชื่อในทางใดก็ตามได้โปรดแสดงความคิดเห็นเพื่อเป็นข้อคิดและแนวทางสำหรับการดำเนินชีวิตในภาวะความเป็นปุถุชนด้วยเทอญ...ขอรับกระผม

กฎทุกกฎ ก็หนีไม่พ้นกฏแห่งกรรมครับ ขนาดพระโมคคัลลานะ ท่านทรงอภิญญายังต้องยอมรับกฏแห่งกรรม

ยอมให้โจรทุบตายเพราะท่านทราบว่าเป็นผลจากกรรมที่ท่านเคยทำไว้กลับมาเล่นงานท่าน

คนก็เช่นเดียวกัน จะดูหมอเก่งขนาดไหนเพื่อแก้กรรม แต่ถ้าปัจจุบันทำแต่กรรมชั่วมากขึ้นๆ วันหนึ่งกรรมนั้นก็ย่อมตามทัน

และก็ย่อมแพ้ภัยตัวเองในที่สุด  สู้ทำความดีไปเรื่อยๆสะสมไปทีละนิดๆ ดีกว่า


แทงไม่เข้า-ยิงไม่ออก ผมได้ยินครั้งแรกจากคำพูดของหลวงพ่อพระราชพรหมยาน ครับ ท่านอธิบายว่า ตอนเขายิงกันเราไม่เข้าไป

ตอนเขาแทงกัน เราไม่ออกไป ก็ปลอดภัย  ผมเคยรับพระจากมือของท่านเองหลายองค์ครับทั้งพระคำข้าวและพระหางหมาก

"ยิงไม่ออก ฟันไม่เข้า" อย่างพวกเล่นของขลัง ระดับเดรัจฉานวิชา ก็ว่าอยู่ยงคงกระพันครับ
แต่คำอธิบายของหลวงพ่อนั้น ตรงกับหลักพระพุทธศาสนามากกว่า คือได้ยินเสียงปืนเขายิงกันเราก็ไม่ออกไป  เห็นเขาแทงกันเราก็ไม่เข้าไป  ก็จะแคล้วคลาด
(แต่เมื่อขอคำอธิบายว่ากินข้าวอยู่ในบ้าน กระสุนปริศนาทะลุหลังคาลงมาโดนเราได้... ท่านก็ว่ากรรมเก่า)

เห็นกระทู้นี้แล้ว ผมนึกถึงข่าวนี้เลย 

--------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
รัวเอ็ม 16 ผ่านกกน.ดับคนหนังเหนียว "หวิน เขาอ้อ"
 
นักเลงรุ่นใหญ่ในเมืองคอนที่ร่ำลือว่าหนังเหนียวยิงฟันไม่เข้า มือสังหารแก้เคล็ดด้วยการยิงนำร่องผ่านผ้าอนามัย-กกน. ตายสยองคาเตียงนอนในบ้าน ตร.พุ่งปมพัวพันคดีปล้นฆ่า


วานนี้ (29 พ.ค.) ตำรวจ สภ.ชะอวด จ.นครศรีธรรมราช ได้รับแจ้งเหตุคนถูกยิงเสียชีวิตที่บ้านเลขที่ 299/2 หมู่ 1 ต.บ้านตูล อ.ชะอวด จึงรุดไปตรวจสอบบ้านที่เกิดเหตุ เป็นบ้านไม้ทรงไทยใต้ถุนสูง ปลูกอยู่ใกล้สวนยางแปลงใหญ่เนื้อที่เกือบ 100 ไร่ ภายในห้องนอน พบศพนายถวิล พลเดช อายุ 61 ปี เจ้าของบ้านนอนหงายจมเลือดอยู่บนที่นอน มีบาดแผลถูกยิงด้วยกระสุนปืนเอ็ม 16 เข้าที่กกหูซ้าย 2 นัด แขนซ้าย 2 นัด ชายโครงซ้าย 3 นัด โคนขาซ้ายถูกยิงด้วยกระสุนปืนลูกซอง 4 รู โดยมีนางต่วน พลเดช อายุ 59 ปี ภรรยากอดศพร้องให้ปิ่มจะขาดใจ ส่วนที่ห้องนอนใกล้กันมีดช.กฤษณะพงศ์ พลเดช อายุ 7 ปี หลานชายผู้ตายอยู่ในสภาพตื่นตระหนก 

ที่ฝาบ้านซึ่งเป็นด้านห้องนอน มีรอยกระสุนปืนเจาะกว่า 30 รู เตียงนอนถูกกระสุนเจาะพรุน ข้าวของในบ้านหลายชิ้นถูกกระสุนได้รับความเสียหายด้วย ที่พุ่มไม้ข้างบ้าน ห่างจากตัวบ้านประมาณ 15 เมตร พบปลอกกระสุนปืนเอ็ม 16 รวม 30 ปลอก กางกางในผู้หญิงสีแดงมีรอยถูกเจาะด้วยกระสุน 1 ตัว ผ้าอนามัยที่มีรอยถูกเจาะด้วยกระสุนปืน 1 ชิ้น และก้นบุหรี่กรองทิพย์ 2 ก้น ตกอยู่ จึงเก็บเป็นหลักฐาน 

โดยก่อนเกิดเหตุ นายถวิล นอนอยู่ในบ้าน คนร้ายซึ่งคาดว่ามีไม่ต่ำกว่า 3 คนซุ่มอยู่ข้างบ้าน ใช้อาวุธปืนระดมยิงใส่บ้านของนายถวิล

โดยพุ่งเป้าไปที่ห้องนอน ทำให้นายถวิล เสียชีวิต ซึ่งขณะเกิดเหตุนางต่วนภรรยาของนายถวิล นอนอยู่ที่บ้านทรงไทยอีกหลังหนึ่งที่อยู่ใกล้กัน หลังเสียงปืนสงบลงได้วิ่งมาดู พบว่าสามีถูกยิงเสียชีวิตแล้ว และเห็นรถยนต์กระบะตอนครึ่งสี เทา ไม่ทราบยี่ห้อและหมายเลขทะเบียนสตาร์ทเครื่อง บริเวณถนนซอยห่างจากบ้านไปราว 50 เมตร และขับหลบหนีไปอย่างรวดเร็วมุ่งหน้าไปทางถนนเอเชียสาย 41   

เบื้องต้นตำรวจพุ่งปมประเด็นไว้ที่การตามล้างแค้น เนื่องจากในอดีตนายถวิล เป็นขาใหญ่กว้างขวางในวงการนักเลงเมืองนคร เป็นที่รู้จักกันในนาม "หวิน เขาอ้อ"

เนื่องจากนายถวิลเป็นคนมีวิชาคาถาอาคมเข้มขลังคนหนึ่ง ชาวบ้านร่ำลือว่าหนังเหนียวยิงไม่เข้า เป็นศิษย์มีชื่อของสำนักพุทธอาคมเขาอ้อ สำนักตักศิลาโบราณใน จ.พัทลุง เคยต้องคดีฆ่าคนตายและปล้นหลายครั้ง แต่สู้คดีจนหลุดพ้นมาได้ทุกครั้ง รวมทั้งเคยถูกยิงถูกแทงมาหลายครั้ง แต่ไม่ได้รับอันตราย 

ล่าสุด เข้าไปพัวพันคดีคนร้ายบุกปล้นฆ่าเศรษฐีนีเจ้าของปั๊มน้ำมันใน อ.ชะอวด แต่พยานหลักฐานสาวไม่ถึงตัวนายถวิล คาดว่าญาติของผู้ตายในคดีดังกล่าวเกิดความคับแค้น จัดทีมฆ่ามือพระกาฬใช้อาวุธสงครามยิงถล่ม โดยใช้กางเกงในและผ้าอนามัยของผู้หญิงแก้เคล็ดคาถาอาคมของนายถวิล ซึ่งจะได้เร่งสืบสวนสอบสวนเพื่อคลี่คลายคดีและติดตามจับกุมคนร้ายที่ก่อเหตุมาดำเนินการตามกฏหมายต่อไป

โดย: หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ
----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

สงสัยงานนนี้ บุญคำมาเอง

ยิงไม่เข้าก็มีของแก้ให้ยิงเข้าได้ครับ  :D 

เรื่องแคล้วคลาดผมว่าจริงครับ  แต่แทงไม่เข้ายิงไม่ออกผมว่าไม่จริงครับ  ศาสนาสอนให้เราเป็นคนดีนั่นก็คือเกราะกำบังอย่างดีแล้วครับ  ;D

แทงไม่เข้า ยิงไม่ออก มีจริง ๆนะครับขอยืนยัน ตัวผมนี่แหละ ถ้าเห็นเขาแทงกันไม่เข้าไปแน่  ถ้าได้ยินเสียงปืนก็ไม่ออกจากบ้านแน่นอนเหมือนกัน   คลายเครียดอย่าคิดมาก ;D

ขอประทานโทษครับ

 ขนาดสมัยอยุธยาพระดีๆ เข้มขลังและสุดยอดแห่งวิชาและนักรบเราก็มีของดีๆทั้งนั้น ยังไม่รอดเลยครับ

ถ้าเราคงกระพันจริง หนังเหนี่ยวจริง เราคงเป็นเจ้าโลกแทนอเมริกาไปแล้วครับ เพราะรบยังไงก็ไม่ตาย

 พระและเครื่องรางต่างๆ ผมเชื่อว่าเป็นเพียงขวัญกำลังใจและเป็นข้อคิดให้เราทำดี คิดถึงครูบาอาจารย์

ละเว้นความชั่วมากกว่าครับ  ส่วนที่ว่ายิงไม่เข้าคงต้องดูเป็นรายๆไป ว่าเกิดเพราะอะไร

เราคงปฏิเสธเรื่องนี้ไม่ได้เต็มปากหนักครับเพราะผมก็แขวนพระเครื่องเหมือนชาวพุทธทั่วไปครับแต่ผมว่ามันอยู่ที่จังหวะครับ บ้างครั้งยิงไม่ออกก็อาจจะบอกมหาอุตหยุดลูกปืนได้ทั้งที่ปืนหรือลูกกระสุนอาจจะไม่ดีครับ หรือโดนยิงแล้วไม่ถูกก็อาจจะว่าแคล้วคลาดซึ่งความเป็นจริงคนยิงอาจจะตื่นเต้นก็เลยไม่โดนครับ พระผู้สร้างพระเครื่องทุกองค์ในโลกนี้พอถึงเวลาท่านก็มรณะไปหมดครับ ไม่มีองค์ไหนอยู่ตลอดกาล  เหลือไว้แต่พระเครื่อง เครื่องรางของขลัง ครับ
                   

ถามนินจา๑๙ดูสิครับ...:D

ตอนเขายิงกันเราไม่เข้าไป ตอนเขาแทงกัน เราไม่ออกไป ก็ปลอดภัย

ชอบใจประโยชน์นี้จัง  

ยิงไม่เข้าแทง ไม่ออก ไม่น่า ใช่ความเชื่อใน พุทธศาสนา นะครับ  แต่ศาสนาพุทธ สามารถไปอธิบายได้ว่า เป็นเดรัจฉานวิชา ของพวกพุทธพาณิชย์  ::012::

แต่ก็สามารถนำเรื่องจิตวิทยามาใช้เพื่อให้เกิดขวัญกำลังใจ แกร่งกล้า ฮึกเหิมขึ้น กล้าออกไปปะดาบ ฟันแทงกับ อริราช ที่มารุกราน ในอดีต

เรื่องยิงฟันไม่เข้า มันลอบไปสิงอยู่เป็นจิตใต้สำนึกของแต่ละท่าน  คงได้ฝันกันมาทุกคนแล้วว่า ในฝัน ปืนท่าน ยิงไม่ออก ยิงโจรไม่ตายสักที

โดยส่วนตัว  ผมไม่เชื่อ แต่ผมเชื่อปืนในมือผมว่า มีอานุภาพ สยบความเชื่อใน เดรัจฉานวิชาเหล่านี้ ได้อย่างสิ้นเชิง  ::002:: 

ผมแขวนหลวงพ่อ Kevlar กับ หลวงปู่ Ceramic  ครับ อิอิอิ

 ::003::ฝันว่าปืนยิงไม่ออกนี่ วิเคราะห์แบบ ฟรอยด์ ท่านว่ามีปัญหาเกี่ยวกับนกครับพี่ :~) ::013:: ::005::

มิดใบเลย อิอิอิ

ถ้าให้ท่านเลือกระหว่างพระเครื่องที่ขลังที่สุด ยิงไม่เข้า กับเสื้อเกราะกันกระสุน ท่านจะเลือกอะไร (ต้องทดลองยิงด้วยนะ)

  ::005:: ::005:: ::005:: ผมไม่เอาคนหนึ่งล่ะ คงต้องเลือกเหมือนท่าน .40 S&W ล่ะครับ

          สมัยก่อนใช้ดาบเหล็กไม่ค่อยดีเท่าไหร่ อยู่นานสนิมขึ้นลบคมทำให้ฟันแล้วดาบหักบ้าง เข้าแค่รอยแดงเลือดซิบๆ

          ปืนเช่นกัน อัดกระสุนดินดำ  ถึงขนาดบ้าง เกินขนาดบ้าง ดินดำชื้นบ้าง 



          ลองปืนกะลูกปืนสมัยนี้สิครับ โดนเข้าเชื่อว่าไม่ตายคาที่ ก็ตายโรงพยาบาล

          ผมว่าเป็นแค่กุศโลบายให้คนทำความดี ไม่แช่งด่า ไม่คิดร้าย ฯลฯ  เมื่อทำดีก็เหมือนเกราะป้องกันตนเอง

ถ้าเป็นชาวพุทธที่แท้จริง

พระทุกองค์ ปลอมทั้งนั้นครับ  ::014::  ::014::

...มันอาจจะมีนะครับ "วิชาแบบนั้น-คนแบบนั้น-ของแบบนั้น" แต่ว่ามีอยู่ไม่มาก  บริษัทอย่างโคลท์  สมิธแอนด์เวสสัน ซิก-ซาวเออร์ วินเชสเตอร์ ฯลฯ จึงยังทำกำไรได้ดีอยู่

ลองมาดูความเห็นของคุณไพฑูรย์ พันธุ์เชื้องามกันบ้างครับ อดีตของท่าน จากเด็กบ้านนอกชาว จ.ตาก มาเป็นบุตรบุญธรรมของเจ้านายท่านหนึ่งในเมืองหลวง เป็นถึงนายทหารพระธรรมนูญและลกศิษย์หลวงพ่อเดิม วัดหนองโพที่ผมนับถือเลื่อมใสด้วยเช่นกัน แต่ด้วยโชคชะตาของท่านพลิกผันจนต้องกลายมาเป็นอาชญากรและนักโทษประหารชีวิตถึง 2 ครั้ง แต่ก็ได้รับพระราชทานอภัยโทษทั้ง 2 ครั้งเช่นกันครับ ภายหลังพ้นโทษก็ได้เขียนหนังสือเกี่ยวกับเรื่องราวอัตชีวประวัติของตัวเองหาเลี้ยงชีพครับ ::014::

เห็นตัวอย่างจากคนรู้จักคนนึง ว่าคนที่ตั้งมั่นในธรรม แน่วแน่ที่จะทำประโยชน์สุขให้แก่คนหมู่มาก มีอานิสสงฆ์คุ้มครองให้แคล้วคลาดจริงๆครับ ได้ข่าวมาหลายครั้งจนเชื่อ

บางครั้งก็ประหลาดๆ บางทีอีก็รอดมาดื้อๆอย่างเหลือเชื่อ นี่ถ้าพี่แกมีใจเอียงไปทางพวกเครื่องลางของขลังหน่อยละจะนึกว่าแกโม้ แต่แกเปล่า  :P

เรื่องนี้ยังไม่เคยเห็นจังๆสักที ว่าใครที่เอาปืนมายิงแล้วไม่เข้า หรือไม่ออก
ดังนั้น อย่าไปลองของเด็ดขาด เพราะไม่น่าใช่คำสอนตามหลักพุธศาสนาของพระพุทธเจ้า

"ยิงฟันไม่เข้า"

พุทธศาสนาไม่เคยสอนเรื่องอยู่ยงคงกระพันนะครับ

เดี๋ยวถอดเสื้อให้ยิงเลยครับ แล้วจะนั่งดู ครับ อิอิ

ไม่เห็นกับตาผมไม่เชื่อครับ  ที่บ้านมีคนมีพระดีมากๆ  มีคนมาขอซื้อหลายคนแกไม่ขาย  เพราะเขาให้ราคาถูก จนมีนายทหารคนนึงมาขอซื้อ

20  ล้าน  แกไม่ขาย  แกจะขายก็ต่อเมื่อได้  50 ล้านเท่านั้น  ก็เลยต้องเกิดการลองกันขึ้นทันที  เจ้าของพระก็ชวนเพือนบ้านมาดูเต็มเลย 


แต่รู้สึกว่าจะมีแต่เพื่อนของเจ้าของพระเท่านั้น  แปลกไหมครับ ผมก็เลย เอา  cz452 เก่าๆ ไปเลยครับมั่นใจมากๆว่าปืนเราดีพอ+ กับความอยากรู้

แต่เจ้าของบ้านกับเพื่อนไม่พอใจอย่างมาก  บอกว่าคนไม่เกี่ยวห้ามลอง  อ้าวๆ  เริ่มแปลกอีกแล้ว  จะลองได้เฉพราะ ปืนของแก  กับปืนของเพื่อน


แกเท่านั้น  ส่วนนายทหารคนนี้แกก็เฉยๆ   เพราะว่าแก่คงผ่านอะไรมาเยอะแล้ว    ได้เวลาลอง  ทุกกระบอกผ่านหมดครับ  ไม่จะเป็น .22   .32  .38


9 mm 11mm  แล้วก็ลูกซองเดี่ยวไทยทำเอง  ทำไห้ผมเกิดความสงสัยมากเลยต้องขอยิงเองบ้าง   ก็ไม่ออก   แต่ผมก็ได้เห็นความผิดปรกติของปืน

1  ไกของปืนเบามากๆ     


2 เข็มแทงฉนวนของปืนลูกโม่  ทุกกระบอก  มันสั้นๆ  ชอบกลอยุ่ครับ


3  ลูกปืนเหมือนมีรอยเปลื่ยนแก้ป  หรือเขาอาจจะทำไห้  มันชื่น   เลยยิงไม่ออก

จบครับ                               นายทหารแก ก็พอใจ เลยนัดจ่ายเงิน พร้อมกับไห้ไปลองกันอีกรอบในค่ายทหาร    ในโคราช  แต่ผมไม่ได้ไปครับ


แต่ได้ข่าวว่า  เรียบร้อยครับ   เจอ  m16  ของ  นายทหาร หาย  กระจุ้ย   ไปเลย    อดได้ตัง  พระก็พัง    จริงๆแล้วถ้าเอา  zc   ของผมก็น่าจะ.........


ไม่เห็นต้องเปลื่องกระสุนหลวง เลย ::005:: ::005::    สรุปแล้วยังไม่เชื่อครับ ::014:: ::014::

หงะ......แบบนี้เขาเรียก "หม่อมเหยิน" ครับคุณป๋า

ของผมเคยเจอเหมือนกรณีของคุณ sohan ผมอยู่ที่สนามด้วยก็เลยได้เห็น ที่ สยป.โคราช ทั้งคนที่จะเช่าและคนที่จะให้เช่า
มีพระมาด้วยจุดธูปเป็นกำพร้อมกับบริกรรมคาถาแล้วลองยิง....โป้งกระจุยเลย ทั้งพระทั้งคนที่จะให้เช่ารีบขึ้นรถไปเลยครับ
แต่ก็เป็นเหตุการณ์หลายปีมาแล้วครับ  ::004:: ::004:: ::004::
แต่ผมก็เชื่อในคำสอนของพระพุทธศาสนาครับ ทำดีได้ดี ทำชั่วได้ชั่ว ::014:: ::014:: ::014::

ท่านใดเคยทราบไหมครับว่าในสมัยก่อนมีคนอาบน้ำว่านแล้วทำให้หนังเนียว... ::014::

เรื่องแบบนี้ผมคิดว่ามันขัดกับหลักการทางวิทยาศาสตร์อย่างสิ้นเชิง

ทำความดี ละเว้นความชั่ว ทำจิตใจให้บริสุทธิ์ นั่นแหละครับอยู่ได้นาน รวมกับที่โบราณท่านว่า " รู้หลบเป็นปีก รู้หลีกเป็นหาง "
ผมจึงคิดว่า แทงไม่เข้า ยิงไม่ออก ก็น่าจะเป็นกุสโลบายที่สอนให้เรามีสติก็เป็นได้ครับ

 สำหรับผม ไม่ต้องยิง ไม่ต้องแทง แต่ไม้มาก็โกยก่อนละครับ   ( ไม่ได้กลัวครับ แค่ไปตั้งหลัก แล้ว............      ใส่เกียร์หมาโกยต่อครับ)  ::011:: ::011::

เคยอ่านหนังสือเรื่องเล่าจื่อสอนว่ามีวรรคนึงที่ว่า
"สัตว์ร้ายอาจมีเขี้ยวเล็บที่แหลมคม แต่ไม่อาจทำอะไรเขาได้
อาวุธอาจแหลมคมทรงอานุภาพ แต่ไม่อาจทำร้ายเขาได้
เพราะปราชญ์อยู่ในที่ๆควรอยู่ดำเนินชีวิตอย่างที่ควรเป็น
จึงห่างไกลจากอันตรายดังกล่าว" ประมาณนี้หละครับ

พระจริง ต้องเดินบิณบาตได้ใช่มั้ยครับ ฮา

นั่นก็ถูก.....  แต่ปราชญ์ จะเรียกพระสงฆ์เป็นรูป ไม่ใช่องค์....

วัตถุประสงค์ของการสร้างพระ คือ ช่วยให้นึกถึง.... เหมือนพกรูปแฟน....   ให้นึกถึง หิริ - โอตัปปะ....

ไม่รู้ว่า เป็นอุบายของคนสมัยหนึ่งหรือไม่ ที่เอาความเชื่อมาเคลือบองค์พระ

ให้ผู้ที่เข้าไม่ถึงวัตถุประสงค์ที่แท้จริง ได้เอาพระมาห้อยคอ......

ผมไม่เคยบวชเรียนมาก่อน ก็เลยเข้าไม่ถึงธรรมมะขั้นสูง ประเภทอภินิหาร อะไรเทือกนั้น

บ้านผมอยู่นครศรีฯ แต่ไม่เคยมีจตุคามรามเทพเลยสักชิ้นเดียว.... ไม่เลี้ยงนกกรงหัวจุกและสัตว์อื่นใด ทั้งที่อยู่ท่ามกลางดงนก

ไม่ผิดศีลสี่ข้อแรก (ผิดมั่งเหมือนกัน นาน ๆ ที แต่พอจะหาเหตุผล แถไปได้บ้าง)
  :D

เมื่อหลายปีก่อนเคยเห็นเพื่อนพี่ชายกินว่านอยู่ยงคงกระพัน  ชื่อว่านพญาหอกหัก  เด็ดใบ3ใบใส่ปากเคี้ยว  แล้วท่องคาถาอะไรผมไม่รู้แล้วขอมีดโกนหนวดยีเล็ตย์แบบสองคมของใหม่ยังไม่ได้ใช้จากผมไป  กรีดที่แขนตัวเองสามสี่ที   เป็นรอยแดงๆที่แขนยาวๆสามสี่เส้น   มีเลือดซึมออกมานิดๆเหมือนยางบอน  อันนี้ผมยืนดูอยู่ข้างข้างเลยครับ   และผมก็ไม่เข้าใจว่าทำไมมันถึงไม่เข้า (เพื่อนพี่ชายคนนี้บ้าคาถาอาคมมากครับรู้ว่าที่ไหนมีอาจารย์ดีต้องไปเสาะหาประจำ)..... ??? ??? ???

ประวัติ คาถา และความเป็นมาของ พระคาถา
          เมื่อครั้งสมัยพุทธกาลพระพุทธศาสนาเจริญรุ่งเรืองมาก แต่หลังจาก การสังคายนาพระพุทธศาสนาครั้งที่ 3 (ตติยสังคายนา) แล้ว พระพุทธศาสนาในประเทศอินเดียเริ่มร่วงโรยลง และต่อมาได้ย้ายไปประดิษฐานในลังกา ศาสนาพุทธกับพราหมณ์ในอินเดียสมัยนั้น ได้ผสมผสาน กันมา จนเกิดมีลัทธิ พุทธตันตระ (ลัทธิพุทธศาสนาอันเกี่ยวกับการใช้คาถา-อาคม พระคาถา) เกิดขึ้น อีกลัทธิหนึ่ง
          ศาสนาพราหมณ์ในขณะนั้น มีความมั่นคงเลื่อมใส ในลัทธิไสยศาสตร์มาก มีการใช้เวทมนตร์"คาถา"เป่าพ่นปลุกเสกและลงเลขยันต์ ประกอบ อาถรรพณ์ต่างๆแม้ในทางพระพุทธศาสนาก็ใช่ว่าจะปฏิเสธเสียทีเดียว เพราะ พระพุทธศาสนาเองก็ยังมีคุณอัศจรรย์ ที่จัดเป็น ปาฏิหาริย์ไว้ 2 อย่าง คือ

1. อนุสาสนีปาฏิหาริย์ คำสอนที่เป็นอัศจรรย์

2. อิทธิปาฏิหาริย์ ฤทธิ์ที่เป็นอัศจรรย์ถึงกับ พระพุทธเจ้าได้ทรงยกย่อง พระโมคคัลลานะ เถระไว้เป็น ยอดของพระภิกษุที่ทรงอิทธิฤทธิ์ หากแต่ พระองค์ไม่ทรงยกย่อง อิทธิปาฏิหาริย์เท่ากับ อนุสาสนีปาฏิหาริย์

          การใช้เวทมนตร์คาถานั้น ผลสำเร็จ จะเกิดขึ้นได้ก็อยู่ที่ดวงจิตสำรวมเป็นสมาธิ และสมาธินี้ท่านจัดบนฐาน แห่ง วิปัสสนาญาณถึงแม้หาก ว่าปุถุชนเราจะบรรลุได้อย่างสูงไม่เกินฌานสมาบัติก็ตามกระนั้นก็สามารถที่จะแสดง อิทธิฤทธิ์ ได้ตามภูมิของตน

          ส่วนอารมณ์ของรูปฌานนั้น ท่านใช้กสิณบ้างใช้คาถาบริกรรมบ้าง สุดแต่นิสัยของผู้บำเพ็ญปฏิบัติ โดยเฉพาะที่ใช้คาถาบริกรรมนั้น ผู้บริกรรม จะรู้ถึงเนื้อความของคาถาที่บริกรรมนั้น หรือไม่ก็ตามนั่นมิใช่สิ่ง ที่เป็นปัญหาที่สำคัญ เพราะความมุ่งหมายต้องการแต่จะให้สมาธิเท่านั้น เพื่อผลในทางอิทธิปาฏิหาริย์ที่ตนมุ่งหวังปรารถนา พระคาถาและการทำสมาธิแบบนี้ ได้เจริญแพร่หลายมากขึ้น ได้เกิดมีคณาจารย์มุ่งสั่งสอนเวทมนตร์กัน และได้ดัดแปลงแก้ไขวิธีการทางไสยศาสตร์ ของพราหมณ์มาใช้ โดยคัดตัดตอนเอาเนื้อมนต์ของพราหมณ์นั้นออกเสีย บรรจุพระพุทธมนต์ แทรกเข้าไปแทน เพราะมาคิดเห็นกันว่ามนต์พราหมณ์ยังเรืองอานุภาพถึงอย่างนี้ ถ้าหากว่า เป็นพุทธมนต์ คงจะยิ่งกว่าเป็นแน่

มีดของฝรั่งเลยไม่เหนียวครับ

เหนียวๆๆต้องเจอเบเนเก้  ;D ;D ;D

ยังไม่เคยเจอคนหนังเหนียวครับ  แต่มีเรื่องขำๆ เกี่ยวกับคนที่เล่นของแบบสักยันต์ประมาณเนี้ย

ยังจำได้ติดตาเลย ไปนั่งดื่มเหล้ากับเพื่อนๆสี่ห้าคน อยู่ๆเพื่อนคนนึงเกิดของขึ้นหรืออะไรไม่ทราบ คุล้มคลั่งทำเสียงเหมือนเสือคำราม

เราก็นั่งกันแบบรำคาญนะ ตกใจด้วย  เสียงก็ดัง มีพี่คนนึงถามว่า เฮ้ย เป็นอะไรว่ะ  คนนั้นก็ไม่ตอบ  พี่เขาถามอีก  ของขึ้นหรอว่ะ 

เพื่อนคนนั้นก็ยัง ตาขวาง คำรามเหมือนเสืออีก  พี่เขาเลยเดินเข้าไปตบบ้องหูสองทีซ้อน ลงวัดพื้นเลย 

แล้วก็เงียบ สงสัยของออกแล้วมั้ง   จนเดี๋ยวนี้ไม่มานั่งสังสรรญด้วยกันแล้ว แต่พอเอามาคุยกันหัวเราะกันท้องแข็ง  ::007:: ::007:: ::007::

ขำๆนะครับ วิทยาศาสตร์บอกได้มั๊ยว่าไก่กับไข่อะไรเกิดก่อน  ;D

แล้วแต่ศรัทธาและความเชื่อครับ แต่ส่วนของผม เคยพิสูจน์มาแล้วกับตัวเองครับ  ::002:: ::002:: ::002::