หัวข้อ: เบี้ยแก้... เริ่มหัวข้อโดย: Giant ที่ มกราคม 07, 2010, 12:08:35 AM คืออยากทราบว่า เบี้ยแก้...เค้ามีไว้เพื่ออะไร บูชาอย่างไร ใช้แก้อะไรได้ครับ แล้วจะหามาบูชาได้จากที่ไหนบ้างครับ... ::014:: ::014:: ::014::
หัวข้อ: Re: เบี้ยแก้... เริ่มหัวข้อโดย: Middle ที่ มกราคม 07, 2010, 12:31:43 AM เบี้ยแก้มีอิทธิฤทธิ์ทางด้านการป้องกันคุณไสย มนต์ดำ ยาเสน่ห์ กันเขี้ยวงา หรือ แม้กระทั่งกันผี เบี้ยแก้ที่ดังๆ เป็นที่รู้จักกันมีอยู่ 2 สำนัก คือ เบี้ยแก้หลวงปู่รอด วัดนายโรง และ เบี้ยแก้หลวงปู่บุญ วัดกลางบางแก้ว ว่ากันว่าอาคมของหลวงปู่ทั้งสองนี้ เข้มขลังนัก ขนาดที่ว่าเสกเบี้ยให้คลานเหมือนหอยได้เลยทีเดียว
วิธีการสร้างเบี้ยแก้คือการนำปรอทที่ปลุกเสกแล้วเข้าไปอยู่ในตัวเบี้ย แล้วหาวิธีอุดไว้ไม่ให้ปรอทหนีออกมาได้ อย่างของอาคมประเภท ลูกอม หรือลูกสะกด ต่างๆ ที่ต้องนำปรอทมาหลอมกับทองแดง เงิน ทองคำนั้นเรียกว่าปรอทที่ตายแล้ว ส่วนปรอทที่นำมาทำเบี้ยแก้เรียกว่าปรอทเป็น โดยเมื่อเขย่าตัวเบี้ยแก้แล้วจะได้ยินเสียงดัง "ขลุกๆ" อยู่ในตัวเบี้ย ถ้าทำเบี้ยในช่วงฤดูร้อน ปรอทจะมีการขยายตัวมาก ทำให้เวลาเขย่าในสภาวะอากาศร้อนก็จะไม่ค่อยได้ยินเสียง "ขลุก" แต่ถ้าในเบี้ยตัวเดียวกั มาเขย่าในช่วงอากาศหนาวปรอทจะหดตัวลงทำให้มีพื้นที่ในตัวเบี้ยเหลือทำให้เขย่าแล้ว ได้ยินเสียง "ขลุก" ได้ชัดเจน เมื่อกรอกปรอทเสร็จแล้วจะปิดช่องด้วยชันนะโรงใต้ดินที่ปลุกเสกแล้ว และหุ้มด้วยผ้าแดงหรือแผ่นตะกั่วแผ่นทองแดงแล้วจึงนำมาถักเชือกหรือหุ้มทำห่วงไว้ให้ ผูกเอวหรือห้อยคอ ขั้นตอนสุดท้ายคือการปลุกเสกกำกับอีกครั้งหนึ่ง เสียงของเบี้ยแก้แต่ละตัวไม่เหมือนกันบางตัวก็ดังมาก บางตัวก็ดังน้อย บางตัวบรรจุปรอทน้อยเกินไปการกระฉอกของปรอทจะดังคล่องแคล่วดีแต่ก็ขาดความหนักแน่น บางตัวบรรจุปรอทมากไปก็อาจจะทำให้เสียงน้อยหรือไม่ได้ยินเลยก็มี สำหรับผู้ที่ชื่นชอบนะครับ คราวหน้าคราวหลังถ้าได้ไปเช่าหาเบี้ยแก้ก็อย่าลืม "เขย่า" ใกล้ๆ หู ฟังเสียงปรอทมันกระฉอกชอบเสียงแบบไหนก็เลือกตัวนั้นเลย เพิ่มเติมอีกเล็กน้อยครับสำหรับเบี้ยแก้ที่มีชื่อเสียงของสำนักอื่นๆ 1. เบี้ยแก้หลวงพ่อนุ่ม วัดนางใน อ่างทอง 2. เบี้ยแก้หลวงพ่อคำ วัดโพธิ์ปล้ำ อ่างทอง 3. เบี้ยแก้หลวงพ่อโปร่ง วัดท่าช้าง อ่างทอง 4. เบี้ยแก้หลวงพ่อภักตร์ วัดโบสถ์ อ่างทอง สังเกตุดูว่าเบี้ยแก้ที่มีชื่อเสียงนั้นมาจากจ.อ่างทองซะมาก เพราะเป็นวิชาที่สืบสานต่อกันมาครับ เหมือนเบี้ยแก้วัดกลางบางแก้ว นครปฐมก็สืบสานกันมา 4 รุ่นแล้วเช่นกัน ปัจจุบันอาจารย์เจือเป็นรุ่นที่ 4 ครับ เค้าว่ากันว่าเบี้ยแก้เป็นวัตถุมงคลชั้นสูงที่เป็นเครื่องเตือนใจให้กลัวภัย ที่เรามองไม่เห็นหากนำติดตัวไว้ย่อมปกป้องภัยอันตรายได้ทั้งปวงเป็นเมตตามหานิยม แคล้วคลาด มหาอุตม์ กันผีร้ายได้ทุกประการ วิธีการฟังเสียงปรอทในท้องเบี๊ย...บางท่านเขย่าเหมือนเขย่าขวดยา ซึ่งไม่ได้ประโยชน์แต่อย่างใด ก็เก๊จะใช้น้ำมันใส่ตะกั่วกลม หรือวัสดุอย่างอื่นที่มีน้ำหนักแทน.. ฉนั้น เวลาจะฟังเสียงปรอทเดิน ควรจะหงายท้องเบี๊ยขึ้น เขย่าในลักษณะของการคลอนเบา ซ้าย-ขวา เพื่อฟังเสียงหรือสัมผัสถึงเวลาปรอทโยนตัว จะประมาณสองครั้ง... ท่านที่เคยเขย่าเต๋าน่าจะรู้ดี ของเก๊เลียนแบบมีมานานแล้ว ยุคแรกๆที่เก๊ดีออกมา ก็โดนกันระนาวเหมือนกัน ว่ากันว่ามีเก๊อยู่ฝีมือนึง ทำดีขนาดเซียนสะดุดขาตัวเอง... ซึ่งเซียนที่โดนยังไม่รู้ก็อวดอ้างว่าเบี๊ยตัวเองสวยงั้นสวยงี๊...พอมาถึงในวง คนเป็นมี คึนรู้จริงมี...ก็ลยเกิดการท้าทายกันว่า "ถ้าเบี๊ยตัวนี้ดีจริง ต้องผ่าดู"..."ถ้าดี..กูยอมจ่าย หมื่นนึง" (ราคาเบี๊ยยุคนั้น หมื่นนึงนี่ต้องโคตรแชมป์) ... "แต่ถ้าไม่ดี กูขอจิ้มพระองค์เดียว กูเลือกเอง" ว่าแล้วการพิสูจน์ก็เริ่มขึ้น เรียกคนกลางเป็นคนมาผ่า... ผ่าเชือกถักออกชั้นแรก..มองเห็นตะกั่วที่ตีหุ้ม เจ้าของเริ่มหน้าเสีย ครั้นพอเมื่อแกะตะกั่วหุ้มท้องเบี๊ยออก ตามสูตร น่าจะมีกระดาษหรือผ้าลงยันต์ปิดไว้อีกชั้นนึง...แล้วก็มีจริงๆ มีกระดาษพับไว้..ครานี้ เจ้าของแทบอยากจะยิงกบาลตัวเองเมื่อเห็นสีกระดาษ...หน้าเริ่มมืด..วิงเวียน.. แล้วกระดาษก็ถูกคลี่ออก ด้านใน มีรอยจารด้วยดินสอไว้ว่า "ไอ้โง่!!" เบี้ยแก้ทางสายอ่างทอง เช่นของหลวงพ่อภักต์ หลวงพ่อโปร่ง เวลาเขย่าเพื่อฟังเสียงปรอทจะดังไม่เหมือนกับสายวัดกลางครับ คือเสียงจะดัง แซดๆ ไม่ดัง ขลุกๆ เนื่องจากเบี้ยสายอ่างทองจะนิยมใส่ตะกั่วตัดเป็นชิ้นเล็กๆใส่ไว้ในเบี้ยแก้ด้วยครับ เบี้ยแก้สายวัดกลาง เวลาบรรจุปรอทจะบรรจุตัวละหนึ่งบาทตามตำราครับเพราะฉะนั้นน้ำหนักเบี้ยวัดกลางจะค่อน ข้างใกล้เคียงกัน(น.น.เบี้ย ปรอท ตะกั่ว เชือก ห่วง น.น.รวมๆน่าจะไม่หนีกันมาก) ส่วนพวกตัวเล็กตัวน้อย ตัวใหญ่ยักษ์ ไม่ทราบว่าสมัย หลวงปู่บุญ หลวงปู่เพิ่ม จะมีหรือเปล่าไม่ทราบครับแล้วอีกเรื่องหนึ่งเรื่องการหุ้มตะกั่วที่ เห็นในปัจจุบันที่เห็นทำเป็นแม่พิมพ์ไม้ปั๊มตะกั่วบนล่างแล้วเอามาหุ้มเบี้ยก่อนถัก น่าจะเป็นยุคปลายๆหลวงปู่เพิ่ม หลวงพ่อใบ หลวงพ่อเจือนะครับ ถ้าเป็นยุคเก่าจะใช้วิธีค่อยตีไล่ตะกั่วให้หุ้มเบี้ยครับจะไม่ค่อยเรียบร้อย และจะเห็นรอยยับรอยจีบนะครับ จริงการที่จะดูเก๊แท้จะต้องดูหลายๆองค์ประกอบรวมกันนะครับ ทั้งเรื่องการถัก ขนาดเชือกถัก ความเก่าของรัก ความเก่าของตะกั่ว รอยจาร ปล. ผมลอกเอามาจากเว๊ปกูเกิ้ลครับ... ;D หัวข้อ: Re: เบี้ยแก้... เริ่มหัวข้อโดย: Tืa์M๊ ┇รัnใuxaวJ ที่ มกราคม 07, 2010, 03:19:24 AM เบี้ยแก้ที่ดีที่สุดคือ การทำดี ละเว้นชั่วครับ
หัวข้อ: Re: เบี้ยแก้... เริ่มหัวข้อโดย: PU45™ ที่ มกราคม 07, 2010, 07:45:53 AM ผมมีของอาจารย์เจือครับ น้าอุ๋ย oui เมตตาให้มานานแล้ว ...... พระอาจารย์ท่านเพิ่งมรณะภาพเมื่อไม่กี่วันนี้เอง หัวข้อ: Re: เบี้ยแก้... เริ่มหัวข้อโดย: 3ศร ที่ มกราคม 07, 2010, 04:12:10 PM ขอบคุณท่านMiddleมากครับ ผมก็ศิษย์ปู่เจือครับพกติดกระเป่าตลอด ::002::
หัวข้อ: Re: เบี้ยแก้... เริ่มหัวข้อโดย: Sig228-kolok ที่ มกราคม 07, 2010, 04:29:52 PM ผมมีของอาจารย์เจือครับ น้าอุ๋ย oui เมตตาให้มานานแล้ว ...... พระอาจารย์ท่านเพิ่งมรณะภาพเมื่อไม่กี่วันนี้เอง ของผมได้มา 4 ลูก แจกหมดแล้วครับลุงปู ... โชคดี 8) 8) 8) หัวข้อ: Re: เบี้ยแก้... เริ่มหัวข้อโดย: Choro - รักในหลวง ที่ มกราคม 07, 2010, 06:40:59 PM ตอนนี้ยังมีของหลวงปู่อั๊บ วัดท้องไทร อ.นครชัยศรี นครปฐมครับ ท่านก็ชรามากแล้วครับ แต่เต็มไปด้วยเมตตาบารมี
ผมใช้ของหลวงปู่อั๊บติดตัวครับ แต่ของหลวงพ่อเจือผมเก็บอย่างเดียวครับ ::005:: ::005:: http://www.konrakmeed.com/webboard/upload/index.php?showtopic=276 (http://www.konrakmeed.com/webboard/upload/index.php?showtopic=276) http://www.konrakmeed.com/webboard/upload/index.php?showtopic=63 (http://www.konrakmeed.com/webboard/upload/index.php?showtopic=63) หัวข้อ: Re: เบี้ยแก้... เริ่มหัวข้อโดย: steam.รักในหลวง ที่ มกราคม 07, 2010, 06:59:32 PM (http://img341.imageshack.us/img341/2299/66028303.jpg) (http://img341.imageshack.us/i/66028303.jpg/)(http://img341.imageshack.us/img341/66028303.jpg/1/w800.png) (http://g.imageshack.us/img341/66028303.jpg/1/)
มีผู้ใหญ่ท่านนึ่งให้ผมมาก่อนหลวงพ่อมรณะภาพไม่ถึงสิบวัน ตัวนี้รับจากมือหลวงพ่อเลยครับ ::014:: หัวข้อ: Re: เบี้ยแก้... เริ่มหัวข้อโดย: PU45™ ที่ มกราคม 07, 2010, 07:12:32 PM ของน้ายงเป็นเบี้ยแก้เปลือยครับ ของผมแบบถักเชือกแล้วลงรัก หัวข้อ: Re: เบี้ยแก้... เริ่มหัวข้อโดย: วัฒน์ ที่ มกราคม 07, 2010, 07:16:33 PM ผมมีของอาจารย์เจือครับ น้าอุ๋ย oui เมตตาให้มานานแล้ว ...... พระอาจารย์ท่านเพิ่งมรณะภาพเมื่อไม่กี่วันนี้เอง ของผมได้มา 4 ลูก แจกหมดแล้วครับลุงปู ... โชคดี 8) 8) 8) หนึ่งในสี่ส่งมาให้ผมด้วย ขอบคุณครับ ::014:: หัวข้อ: Re: เบี้ยแก้... เริ่มหัวข้อโดย: steam.รักในหลวง ที่ มกราคม 07, 2010, 07:23:02 PM ของน้ายงเป็นเบี้ยแก้เปลือยครับ ของผมแบบถักเชือกแล้วลงรัก หัวข้อ: Re: เบี้ยแก้... เริ่มหัวข้อโดย: ต้นหนาว ที่ มกราคม 07, 2010, 09:20:04 PM (http://www.pixnice.com/upload/files/twiyyf2gecjz2miynztn.jpg)
หัวข้อ: Re: เบี้ยแก้... เริ่มหัวข้อโดย: ต้นหนาว ที่ มกราคม 07, 2010, 09:23:13 PM จำได้ว่ามีเบื้ยแก้หลวงปู่เจืออยู่ 2 ลูก...กับตะกรุดหนังเสืออีก 1 อัน...
เดี๋ยวไปหาก่อนครับ.... หัวข้อ: Re: เบี้ยแก้... เริ่มหัวข้อโดย: Giant ที่ มกราคม 08, 2010, 03:14:28 AM เมื่อวานได้ เบี้ยแก้ มาโดยไม่คาดถึง จากผู้ใหญ่ท่านหนึ่ง ของหลวงปู่เจือ ปิยสีโล วัดกลางบางแก้ว นครปฐม เดี๋ยวว่างจะถ่ายภาพมาให้ชมครับ แต่ผมอยากทราบเพิ่มเติมครับว่า นอกจากเบี้ยแก้นี้จะใช้คุ้มครองผู้บูชาแล้วยังสามารถ นำไปช่วยคนที่ถูกสิ่งไม่ดีได้บ้างหรือป่าวครับ (ผมไม่ได้คิดลองดี หรือลองของนะครับ) แต่หากสามารถช่วยเหลือผู้เดือดร้อนได้ก็น่าจะดีนะครับ แล้วจะต้องบูชาครูอย่างไรบ้างครับ ขอคำแนะนำด้วยอยากบูชาให้ถูกวิธีครับ ::014:: ::014:: ::014::
หัวข้อ: Re: เบี้ยแก้... เริ่มหัวข้อโดย: Choro - รักในหลวง ที่ มกราคม 08, 2010, 03:19:37 PM ขอนำเสนอเป็นบทความ
อิทธิคุณและพิธีกรรมการใช้เบี้ยแก้ ข้ออธิบายต่อไปนี้ คัดลอกจากต้นฉบับเดิมของวัดกลางบางแก้ว เพื่อให้ท่านที่มีเบี้ยแก้ได้ทราบถึง อิทธิคุณและการใช้อย่างถูกต้อง อันจะบังเกิดผลดีแก่ผู้ใช้ - ป้องกันอัตวิบากกรรม แก้ภาพหลอน จิตรหลอน ภาพอุปทาน แก้อำนาจภูผีปีศาจ อาถรรพณ์เวททำให้ มัวเมาขลาดกลัว ขนพองสยองเกล้า ลมเพลมพัด คุณไสย คุณผี คุณคนทั้งปวงอุบาทว์เหตุ อุบาทว์ภัย ทั้งปวง มัวเมายาพิษ ยาสั่งทั้งหลาย ไข้ป่า ไข้ป้าง ไข่ผีป่า ผีโป่ง ผีปอบ ต้องกระทำจากภูตผี ผีพราย ผีตายโหง กองกอยวิกลจริต จิตวิกลวิกาล วิญญาณ อุปาทานวิกลเหมือนผีเข้าเจ้าสิงสู่ปราศจากสิ้นแล - ให้อธิษฐานเอาน้ำมนต์ เอาดอกพุทธรักษาดอกไม้ ดอกเข็มแดงหลากสี ตั้งขันธูปเทียน ขันห้า ข้าวตอก ดอกไม้แก้บาทวพิษ บาดทะยัก อัมพาต บาดแผล ฝีมะเร็ง ฝีคุณ หัวพิษ หัวกาฬ ทรวงชัก รางขนพอง สันนิบาตลูกหมา ลูกนก หลังแอ่น คางแข็ง บ้าหมู ภายนอกภายใน อาบกินด้วย ตั้งจิตหน่วงลง ในคุณพระศรีรัตนตรัยใช้ได้แล - เมื่อเข้าศึกสงครามให้เอาไว้ด้านหน้าสารพัดศัตรู บีทาย่ำรุกไล่ให้เอาไว้ด้านหลัง หาเจ้าฟ้ามหากษัตริย์ เจ้าขุนมูลนาย ให้เอาไว้ด้านข้างขวา เมื่อหาหญิง หานางพญาไว้ข้างซ้าย สารพัดศาสตรามิต้องข้างกายเลย ดุจฝนเสนห่า ข้าวปลาอาหารเป็นพิษ คางแข็ง เคี้ยวไม่กลืนเลยแล - ปลิงก็ดี ทากร้ายก็ดี มีในป่ามืด ในน้ำห้วยหนอง คลองบึง มันไม่เกาะกินเลือดทั้งวัวทั้งควาย ช้างม้า ก็ดีแล แก้งูพิษ เขี้ยวขนอน แมวเซา เห่าแก้วก็ดีมิต้องกายมาขบกัดเลยแล เบี้ยแก้ คือ เครื่องรางชนิดหนึ่ง ซึ่งมีอุปเท่ห์การใช้มากมายหลายอย่าง ทั้งกันและแก้สิ่งชั่วร้ายเสนียด คุณไสย คุณคน คุณผี บาเบื่อ ยาเมา ทั้งหลาย คณาจารย์ยุคเก่าที่สร้างเครื่องรางประเภทเบี้ยแก้ เอาไว้มีด้วยกันหลายสำนัก แต่ที่มีชื่อเสียงมากที่สุด เห็นจะมีอยู่เพียง 3 สำนักคือ -สายวัดนายโรง (หลวงปู่รอด ,หลวงพ่อพลอย วัดคฤหบดี บางยี่ขัน, หลวงพ่อแขก ,หลวงพ่อรัตน์ วัดบางบำหรุ -สายวัดกลางบางแก้ว (หลวงปู่บุญ ,หลวงปู่เพิ่ม ,หลวงปู่เจือ) -สาย จ.อ่างทอง (หลวงพ่อพักตร์ วัดโบสถ์ , หลวงพ่อคำ วัดโพธิ์ปล้ำ , หลวงพ่อนุ่ม วัดนางใน) วิธีการสร้างเบี้ยแก้ เมื่อหาตัวเบี้ยมาได้แล้ว คณาจารย์ผู้สร้างก็บรรจุปรอทที่ปลุกเสกแล้วเข้าไปในตัวเบี้ย แล้วหาวิธีอุดมิให้ปรอทไหลออกมาได้ (ปรอทที่ใช้นี้เป็นปรอท หรือปรอทดินโบราณมีวิธีการจับปรอทโดยนำไข่เน่าไปทิ้งไว้ในน้ำครำไม่ช้าปรอทจะกินไข่เน่าจนเต็ม) ปรอทมีคุณสมบัติเป็นของเหลวลื่นไหลการจะนำปรอทมาบรรจุเบี้ยแก้ คณาจารย์ผู้สร้างจำต้องมีพระเวทเข้มขลัง เพราะต้องใช้พระเวทฆ่าปรอทหรือบังคับให้ปรอทรวมตัวกันอยู่ในเบี้ย พระคณาจารย์บางท่าน ถึงกับบริกรรมพระเวทเรียกปรอทเข้าในตัวเบี้ยได้เอง การปิดปากเบี้ยเพื่อกันไม่ให้ปรอทไหลออกมาได้นั้นนิยมเอาชันโรงใต้ดิน ที่ปลุกเสกแล้วมาอุดใต้ท้องเบี้ยให้สนิทเรียบร้อย แล้วจึงหุ้มด้วยวัสดุอย่างใดอย่างหนึ่ง เช่น ผ้าแดง แผ่นตะกั่วแผ่นทองแดง วัสดุที่ใช้หุ้มหรือปิดนี้ก็ต้องลงอักขระเลขยันต์และปลุกเสกกำกับด้วย เช่นเบี้ยแก้ สำนักวัดกลางบางแก้วจะมีลวดทองแดงขดเป็นห่วง เพื่อให้ใช้เชือกคล้องคาดเอว เบี้ยแก้ที่ผ่านการบรรจุปรอทจนกระทั่งถักหุ้มเรียบร้อยแล้ว ก็ยังไม่ถือว่าเสร็จสิ้นขึ้นตอนกรรมวิธี เพราะคณาจารย์เจ้าผู้สร้างท่านต้องปลุกเสกกำกับอีกจนมั่นใจว่าใช้ได้จริงๆ แล้วเล่ากันว่า คณาจารย์บางรูป สามารถปลุกเสกเบี้ยแก้ จนกระทั่งตัวเบี้ยคลานได้เหมือนหอย หัวข้อ: Re: เบี้ยแก้... เริ่มหัวข้อโดย: Giant ที่ มกราคม 08, 2010, 11:33:58 PM ได้ความรู้เพิ่ม...ขอบคุณครับ... ::014:: ::014:: ::014::
หัวข้อ: Re: เบี้ยแก้... เริ่มหัวข้อโดย: วัฒน์ ที่ มกราคม 09, 2010, 07:55:12 PM เบญจภาคีเครื่องราง-ของขลัง มีดังนี้
1. ตะกรุดมหาโสฬสมงคล หลวงปู่เอี่ยม วัดสะพานสูง 2. เบี้ยเเก้ หลวงปู่รอด วัดนายโรง 3. ปลัดขิก หลวงพ่อเหลือ วัดสาวชะโงก 4. เขี้ยวเสือ หลวงพ่อปาน วัดบางเหี้ย (คลองด่าน) 5. หนุมาน หลวงพ่อสุ่น วัดศาลากุน ถ้าเป็นนักสะสมเครื่องราง-ของขลังยุคเก่า ท่านก็จะกล่าวถึง 9 เครื่องราง-ของขลัง ทรงคุณค่าครับ จนมีคนเเต่งเป็นโคลงกลอนดังนี้ .... " หมากดีที่วัดหนัง ถ้าเบี้ยขลังวัดนายโรง ไม้ครูอยู่คู่วัดอินทร์ ส่วนมีดบินวัดหนองโพธิ์ พิสมรวัดพวงมาลัย ครั่งเหลือร้ายวัดโตนดหลวง ราหูคู่วัดศรีษะฯ เเหวนอักขระวัดหนองบัว ลูกเเร่ที่วัดบางไผ่ ฤทธิ์เหลือร้ายหาใดปาน เก้าสิ่งล้วนเป็นมงคล ทั่วทุกคนควรค้นหา ติดกายยามญาตตรา ภัยมิกล้ามาเเพ้วพาน" หัวข้อ: Re: เบี้ยแก้... เริ่มหัวข้อโดย: yod - รักในหลวง ครับ ที่ มกราคม 09, 2010, 10:16:41 PM ขอบคุณครับ พี่ วัฒน์
แต่ .... คนนี้ ชื่ออะไร ครับผม.... (http://www.pixnice.com/upload/files/zzgdwzgnyxnq20qzty0q.jpg) หัวข้อ: Re: เบี้ยแก้... เริ่มหัวข้อโดย: วัฒน์ ที่ มกราคม 09, 2010, 10:32:13 PM ขอบคุณครับ พี่ วัฒน์ แต่ .... คนนี้ ชื่ออะไร ครับผม.... :VOV: เธอเป็นชาวเวียดนาม ชื่อ เหวียนถิหญาเล (Nguyen Thi Nha Le) ครับ หัวข้อ: Re: เบี้ยแก้... เริ่มหัวข้อโดย: yod - รักในหลวง ครับ ที่ มกราคม 09, 2010, 11:27:15 PM ขอบคุณครับ พี่ วัฒน์ เธอ ชวนฝันจังเลย |