เว็บบอร์ดสนทนาภาษาปืน

สนทนาภาษาปืน => สนทนาภาษาปืน => ข้อความที่เริ่มโดย: Yoshiki_Silencer - รักในหลวง ที่ มกราคม 13, 2010, 12:09:29 AM



หัวข้อ: เรื่องจากเหตุการณ์จริง
เริ่มหัวข้อโดย: Yoshiki_Silencer - รักในหลวง ที่ มกราคม 13, 2010, 12:09:29 AM
          พอดีช่วงที่ผมเคยไปรับราชการอยู่ที่สามจังหวัดชายแดนภาคใต้มีคดีผ่านเข้ามาใน

ความรับผิดชอบอยู่เรื่องหนึ่งก็เลยอยากนำมาเล่าสู่กันฟัง และรบกวนพี่ ๆ ช่วยกันวิเคราะห์

เหตุการณ์นี้ด้วยครับ


          เรื่องมีอยู่ว่าผู้เสียหายเป็นผู้ใหญ่บ้านของหมู่บ้านแห่งหนึ่งซึ่งมีผลงานในการปราบปราม

ผู้ก่อความไม่สงบจนเป็นที่หมายหัวของคนร้าย      ขออนุญาตอธิบายสภาพบ้านของผู้เสียหาย

ก่อนนะครับ  บ้านของผู้เสียหายเป็นบ้านพักชั้นเดียวก่อด้วยปูน  มีหน้าต่างรอบบ้านลักษณะเป็น

บานเกล็ด  ตัวบ้านยกสูงจากพื้นประมาณ  ๑  เมตร  ด้านหน้ามีโรงรถจอดรถได้  ๑  คัน  ส่วนประตู

ทางเข้าบ้านอยู่ติดกับโรงจอดรถ  ประตูรั้วเป็นสังกระสีสูงประมาณหน้าอก  ส่วนรั้วบ้านใช้เสาไม้ปัก

ลงกับพื้นดินแล้วใช้ไม้ตีตามยาวลักษณะคล้ายกับคอกวัวยาวตลอดแนว  สามารถปีนข้ามหรือมุดลอด

ช่องว่างระหว่างไม้แต่ละชั้นได้  หน้าบ้านมีกอต้นกล้วย  ๑  กอ และมีเนินดินเล็ก ๆ อยู่ติดกับกอกล้วย

ระยะห่างระหว่างตัวบ้านกับประตูรั้วประมาณ  ๗ – ๘  เมตร  ด้านขวาของบ้านไม่แน่ใจว่าติดอะไร 

แต่ทางด้านซ้ายติดกับบ้านของเพื่อนบ้านซึ่งไม่มีรั้วกั้น


          เวลาประมาณ  ๒๑.๐๐  น.  ของคืนเกิดเหตุ  ขณะที่ผู้เสียหายกำลังอยู่ภายในบ้านพักกับครอบ

ครัวและเตรียมจะออกไปเข้าเวรรักษาความปลอดภัยประจำหมู่บ้าน  ตอนนั้นผู้เสียหายได้ยินเสียงผิด

ปกติมาจากทางหน้าบ้าน  จึงได้สั่งให้ภริยาปิดไฟภายในบ้านพัก  และสั่งให้ภริยากับลูกไปหลบภายใน

ห้องนอน  ส่วนตัวเองถืออาวุธปืนสังเกตการณ์อยู่บริเวณหน้าต่างบ้านเกล็ด  ( ผู้เสียหายมีอาวุธปืนยาว

เป็นลูกซองปั๊มห้านัด  ส่วนปืนสั้นเป็นขนาด  ๑๑  มม.  ยี่ห้อซิกเซาเออร์  สาเหตุที่จำได้เพราะนึกอยู่ใน

ใจว่าผู้ใหญ่ใช้ปืนดีกว่าเราอีก  ::005:: )  จึงเห็นเงาคนประมาณ  ๓ – ๔  ตะคุ่มอยู่บริเวณกอกล้วยหน้าบ้าน 

จากนั้นมีเสียงปืนดังขึ้น  ๑  นัด  จากกลุ่มดังกล่าว  ( ปรากฏในตอนหลังว่าเป็นเพื่อนบ้านที่อยู่บ้านข้างเคียง

กันได้เสียงเหมือนคนเดินอยู่ข้างบ้าน  จึงเปิดประตูออกมาดู  คนร้ายจึงใช้อาวุธปืนอาก้ายิงใส่เพื่อนบ้านคน

ดังกล่าวที่บริเวณขา  จำนวน  ๑  นัด  ได้รับบาดเจ็บ )  ผู้เสียหายแน่ใจว่าเป็นคนร้ายจึงได้ใช้อาวุธปืนลูกซอง

และปืนสั้นยิงใส่กลุ่มคนร้ายดังกล่าวจำนวนหลายนัด  ( ในภายหลังสามารถเก็บปลอกกระสุนปืนลูกซองประมาณ 

๓ – ๔  ปลอก  และปลอกกระสุนปืนขนาด  ๑๑  มม. ประมาณ  ๘ – ๙  นัด ได้จากภายในบ้านพักผู้เสียหาย ) 

คนร้ายจึงได้ยิงตอบโต้  กระสุนปืนถูกตัวบ้าน  รถยนต์  หลังคา  และกระจกบานเกล็ดแตกได้รับความเสียหาย 

จากนั้นคนร้ายจึงได้หลบหนีไป
 

          เมื่อเจ้าหน้าที่มาถึงที่เกิดเหตุพบคนร้ายนอนอยู่ในที่เกิดเหตุอยู่บริเวณกอกล้วย  จำนวน  ๒  คน  คนหนึ่ง

เสียชีวิตคาที่  ส่วนอีกหนึ่งคนได้รับบาดเจ็บสาหัสและเสียชีวิตในเวลาต่อมา  โดยคนที่เสียชีวิตคาที่มีบาดแผล

ถูกยิงด้วยปืนขนาด  ๑๑  มม. เข้าที่แขน  จำนวน  ๑  นัด  และที่หน้าอก  จำนวน  ๑  นัด  ส่วนคนที่ได้รับบาดเจ็บ

มีแผลถูกยิงด้วยปืนขนาด  ๑๑  มม. และปืนลูกซอง  ( แต่จำไม่ได้ว่าถูกยิงที่ไหนบ้าง )  เมื่อตรวจสอบบริเวณบ้าน

พบปลอกกระสุนปืนอาก้า  เอ็ม - ๑๖  ปืนลูกซอง  และกระสุนปืนพก  ตกอยู่รวมกันประมาณเกือบ  ๔๐  ปลอก 

ส่วนอาวุธปืนของคนร้ายที่ถูกยิงเชื่อว่าพวกที่เหลือได้เก็บไปด้วย  ( แหมรอบคอบจริงวุ๊ย  :DD )  ส่วนตัวผู้เสียหาย

ได้รับบาดเจ็บเล็กน้อยจากการโดนสะเก็ดกระจกบาด  ส่วนคนร้ายอื่นหนีไปได้และในระหว่างหลบหนียังได้ยิงเข้า

ใส่บ้านเรือนชาวบ้านแถวนั้นอีกหลายนัด  และเส้นทางที่จะเข้ามายังหมู่บ้านดังกล่าวยังมีการโยนตะปูเรือใบ  ตัดต้น

ไม้  และเผายางรถ  เพื่อเป็นการสะกัดกั้นไม่ให้เจ้าหน้าที่เข้ามายังที่เกิดเหตุด้วย


          ส่วนตัวของผมเท่าที่วิเคราะห์จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น  เห็นว่าผู้เสียหายรอดชีวิตในครั้งนี้มาได้เพราะมีสติ 

พอรู้ว่ามีเหตุการณ์เกิดขึ้นจึงรีบปิดไฟภายในบ้านพักทันที  ทำให้คนร้ายไม่สามารถสังเกตการณ์ภายในบ้านพักได้ 

ประกอบกับบริเวณหน้าบ้านมีแสงไฟริมทางแม้จะสลัว แต่ก็พอที่จะทำให้ผู้เสียหายสังเกตเห็นกลุ่มคนร้ายได้โดยถนัด 

และผู้เสียหายอยู่ในที่กำบังที่มั่นคงสามารถใช้อาวุธปืนยิงลอดทางบานเกล็ดได้  ส่วนคนร้ายแม้จะมากันหลายคนและ

มีอาวุธที่ร้ายแรงกว่า  แต่ก็เสียเปรียบในเรื่องที่กำบัง และมองไม่เห็นตัวผู้เสียหาย  ประกอบกับเพื่อนบ้านเปิดประตูออก

มาดูคนร้ายเลยต้องยิงเพื่อนบ้านคนดังกล่าวก่อน  ทำให้ผู้เสียหายแน่ใจว่ากลุ่มคนดังกล่าวเป็นคนร้ายอย่างแน่นอนเลย

มีโอกาสยิงก่อนทำให้ได้เปรียบ


          พี่ ๆ มีความเห็นกันอย่างไรบ้างครับเกี่ยวกับเรื่องนี้  รบกวนขอทราบความเห็นด้วยครับ   ::014::


หัวข้อ: Re: เรื่องจากเหตุการณ์จริง
เริ่มหัวข้อโดย: สีสัน ที่ มกราคม 13, 2010, 12:25:41 AM
เข้ามาสงสัยเพิ่มครับ ทำไมลูกซองถึงไม่สามารถจัดการคนร้ายได้(น่าจะยิงลูกซองหมดก่อนจึงใช้11มมทีหลัง) เพราะคนที่ถูกยิงเชื่อว่าทั้ง2คน น่าจะจบที่11 มม (คนที่2 น่าจะถูกลูกซองเจ็บ แต่คงยังสู้ได้ จึงถูก11ซ้ำ)  ??? รอพี่มาให้ความกระจ่างดัวยครับ  ::014::

ผมมีความเห็นว่าผู้ใหญ่บ้าน ยิง11มม แม่นครับ ;D


หัวข้อ: Re: เรื่องจากเหตุการณ์จริง
เริ่มหัวข้อโดย: bhornchat ที่ มกราคม 13, 2010, 12:29:27 AM
ท่านอัยการถามความเห็นในประเด็นใดครับ
ข้อกฎหมายหรือขัอเท็จจริงของการใช้อาวุธ
ผมพอนึกภาพออกเพราะเคยทำงานในสามจังหวัด
มานานหลายสิบปี   ตอนนี้อีกห้าปีจะเกษียณ :OO
เขากลับไม่ให้ไปช่วยแก้ปัญหาซะแล้ว สงสัยแก่ไป ::004::
ยินดีแลกเปลี่ยนข้อคิดเห็นกันครับ


หัวข้อ: Re: เรื่องจากเหตุการณ์จริง
เริ่มหัวข้อโดย: your-ประชาธิปไตย ที่ มกราคม 13, 2010, 12:44:35 AM
ความเห็นคือยิงไปหลบไปได้ขนาดนี้ก็เยี่ยมแล้วครับ อีกความเห็นคือสมน้ำหน้าโจร น่าจะโดนกระสุนตายหมดทุกคน ขอยกย่อง ผญบ.ที่กล้ายืนหยัด และนับถือในความกลล้าหาญ


หัวข้อ: Re: เรื่องจากเหตุการณ์จริง
เริ่มหัวข้อโดย: Zeus-รักในหลวง ที่ มกราคม 13, 2010, 01:22:06 AM
         
          เวลาประมาณ  ๒๑.๐๐  น.  ของคืนเกิดเหตุ  ขณะที่ผู้เสียหายกำลังอยู่ภายในบ้านพักกับครอบ

ครัวและเตรียมจะออกไปเข้าเวรรักษาความปลอดภัยประจำหมู่บ้าน  ตอนนั้นผู้เสียหายได้ยินเสียงผิด

ปกติมาจากทางหน้าบ้าน  จึงได้สั่งให้ภริยาปิดไฟภายในบ้านพัก  และสั่งให้ภริยากับลูกไปหลบภายใน

ห้องนอน  ส่วนตัวเองถืออาวุธปืนสังเกตการณ์อยู่บริเวณหน้าต่างบ้านเกล็ด  ( ผู้เสียหายมีอาวุธปืนยาว

เป็นลูกซองปั๊มห้านัด  ส่วนปืนสั้นเป็นขนาด  ๑๑  มม.  ยี่ห้อซิกเซาเออร์   สาเหตุที่จำได้เพราะนึกอยู่ใน

ใจว่าผู้ใหญ่ใช้ปืนดีกว่าเราอีก  ::005:: )  คนที่เสียชีวิตคาที่มีบาดแผล

ถูกยิงด้วยปืนขนาด  ๑๑  มม. เข้าที่แขน  จำนวน  ๑  นัด  และที่หน้าอก  จำนวน  ๑  นัด  ส่วนคนที่ได้รับบาดเจ็บ

มีแผลถูกยิงด้วยปืนขนาด  ๑๑  มม. และปืนลูกซอง  ( แต่จำไม่ได้ว่าถูกยิงที่ไหนบ้าง ) 
วิเคราะห์ได้อย่างเดียวครับว่า ซิกเซาเออร์ แม้จะกระสุนน้อย แต่ก็พึ่งพาได้เสมอ :VOV:
ผมจะโดนเต๊ะมั๊ยเนี่ย :~)


หัวข้อ: Re: เรื่องจากเหตุการณ์จริง
เริ่มหัวข้อโดย: Adrenaline-รักในหลวง ที่ มกราคม 13, 2010, 01:38:51 AM
นับถือผู้ใหญ่บ้านครับ เก่งมากๆครับ ท่านคงเคยมีประสบการณ์มาพอสมควร ไม่งั้นคงไม่ได้เป็นผู้ใหญ่บ้าน ::014:: ผมว่าพวกที่หนีไปคงจะโดนลูกซองไปบ้างเหมือนกันแหละครับ


หัวข้อ: Re: เรื่องจากเหตุการณ์จริง
เริ่มหัวข้อโดย: nick357 "รักในหลวง" ที่ มกราคม 13, 2010, 02:19:07 AM
มาตอน3ทุ่มกล้ามาก...ไม่รู้จริงหรือเปล่าที่บางทีโจรที่มายิงเราอาจเป็นเพื่อนบ้าน(เราไม่รู้ว่าเขาเป็นโจร)หรือคนที่เรารู้จักมาหาเราที่บ้านเลยโดนยิงตายแบบง่ายดาย.. ขอให้ จนท ทุกท่านปลอดภัยครับ ::014::


หัวข้อ: Re: เรื่องจากเหตุการณ์จริง
เริ่มหัวข้อโดย: bigbang ที่ มกราคม 13, 2010, 07:54:55 AM
โชคดีครับที่ได้ยินเสียงคนร้ายก่อน มาหลายตัวแต่ไม่ได้กลับสองตัว หากไม่ได้ยินเสียงก่อนเกมส์เปลี่ยนแน่
คิดว่าตัวบ้านที่มีกำบังสำคัญสุด ส่วนบริเวณรอบตัวบ้าน มีส่วนให้การเข้าถึงลำบากหรือสามารถ
เตือนภัยหรือป้องกันการบุกรุกก็สำคัญไม่น้อยครับ  ขอให้พระคุ้มครองด้วยครับ


หัวข้อ: Re: เรื่องจากเหตุการณ์จริง
เริ่มหัวข้อโดย: PU45™ ที่ มกราคม 13, 2010, 08:03:31 AM

     
                                       ตื่นเต้นครับ ..... เจ้าของบ้านมีสติและตั้งรับอยู่ในชัยภูมิที่ได้เปรียบกว่าผู้บุกรุก



หัวข้อ: Re: เรื่องจากเหตุการณ์จริง
เริ่มหัวข้อโดย: k_ble2009 ที่ มกราคม 13, 2010, 08:30:52 AM
ขอเป็นกำลังใจให้  ตำรวจ  ทหาร  ชาวบ้าน  เจ้าหน้าที่ทุกท่าน
ขอคุณพระศรีรัตนตรัย  จงคุ้มครองพวกท่าน  ให้แคล้วคลาดปภอดภัย
ครับผมม


หัวข้อ: Re: เรื่องจากเหตุการณ์จริง
เริ่มหัวข้อโดย: glock_21 รักในหลวง ที่ มกราคม 13, 2010, 08:40:31 AM
ในสถานการณ์นี้การป้องกันตัว ด้วยลูกซองและปืนสั้นขนาด .45  ยอดเยี่ยมครับ ::002::


หัวข้อ: Re: เรื่องจากเหตุการณ์จริง
เริ่มหัวข้อโดย: Middle ที่ มกราคม 13, 2010, 08:46:51 AM
ผญบ ยอดเยี่ยมครับ.... ::002::


หัวข้อ: Re: เรื่องจากเหตุการณ์จริง
เริ่มหัวข้อโดย: ช.ช้าง ที่ มกราคม 13, 2010, 08:47:07 AM
สันนิษฐานว่า ผญบ. ใช้ปืนสั้นยิงก่อน จึงเอาปืนลูกซองมายิงต่อ...ดูจากจำนวนปลอกกระสุน
ชาวบ้านส่วนมาก...มักจะไม่ค่อยเชื่อใจปืนลูกซองนะครับ จะมองว่าปืนสั้นมีอานุภาพมากกว่า (สงสัยเพราะมันแพงกว่า ...555)
ดันั้นตอนที่ยิงเปิดออกไปด้วยปืนสั้น คนร้ายยังไม่ได้เข้าที่กำบังหรือระวังตัวจึงโดนกระสุนปืนสั้นเข้าไปมากกว่า เมื่อใช้ปืนลูกซองนั้น ต่างฝ่ายต่างหลบและอยู่ในสถานการณ์การปะทะแล้ว  จึงไม่ได้เห็นผลของปืนลูกซอง
กลับกัน...หาก ผญบ. เปิดด้วยลูกซอง...บึ้ม..ๆ..ๆ  ไป ซัก 3-4 นัดใส่กลุ่มคนร้ายอย่างรวดเร็ว
ผมว่า...เก็บศพ...ได้เยอะกว่านี้


หัวข้อ: Re: เรื่องจากเหตุการณ์จริง
เริ่มหัวข้อโดย: naisomchai ที่ มกราคม 13, 2010, 08:47:50 AM
ความเห็นนายสมชายว่าสุดยอดครับ หากไม่โดนกระจกบาดเท้าเอา ถือว่าเพอร์เฟคเลยครับ... คราวหลังหารองเท้าแบบสวมง่ายเอาไว้ในบ้านหนึ่งคู่ท่าทางจะดีครับ...


หัวข้อ: Re: เรื่องจากเหตุการณ์จริง
เริ่มหัวข้อโดย: m@m ที่ มกราคม 13, 2010, 08:55:58 AM
 ;D ถ้าเป็นลูกซอง เปิดเกมส์ ก่อนคงอยู่หน้าบ้านอีกหลายครับ ;D


หัวข้อ: Re: เรื่องจากเหตุการณ์จริง
เริ่มหัวข้อโดย: smitxx2005'รักในหลวง' ที่ มกราคม 13, 2010, 08:59:13 AM
จากเหตุการถ้าท่านผู้ใหญ่บ้านทุกตำบลมีความสามารถขนาดนี้คงลดความศูนย์เสียไปได้มาก
+1 ผู้ใหญ่บ้านครับ


หัวข้อ: Re: เรื่องจากเหตุการณ์จริง
เริ่มหัวข้อโดย: JUNGLE ที่ มกราคม 13, 2010, 09:37:41 AM
ขอยกนิ้วโป้งให้ผู้ใหญ่บ้านท่านนี้ครับ... ว่าแต่ว่า... โจรเหล่านั้นสวมเสื้อเกราะหรือมีอะไรป้องกันกระสุนบ้างหรือเปล่าครับ... กระสุนลูกซองถึงได้ไม่แสดงอานุภาพมากนัก...

...เพราะนึกภาพคนร้ายอยู่เป็นกลุ่ม... มีที่กำบังคือกอกล้วย... โดนลูกซองกวาด... ไม่น่ารอดครับ... ;D ;D ;D



หัวข้อ: Re: เรื่องจากเหตุการณ์จริง
เริ่มหัวข้อโดย: your-ประชาธิปไตย ที่ มกราคม 13, 2010, 09:39:29 AM
ความเห็นคือยิงไปหลบไปได้ขนาดนี้ก็เยี่ยมแล้วครับ อีกความเห็นคือสมน้ำหน้าโจร น่าจะโดนกระสุนตายหมดทุกคน ขอยกย่อง ผญบ.ที่กล้ายืนหยัด และนับถือในความกลล้าหาญ
อีกความเห็นคือ ถ้าอยู่ในระยะหวังผล หลังที่กำบังมั่นคง ไรเฟิลจู่โจมก็ไม่ได้กินลูกซอง ...อย่าดูถูกลูกซองนะครับ


หัวข้อ: Re: เรื่องจากเหตุการณ์จริง
เริ่มหัวข้อโดย: ppk/s7.65 ที่ มกราคม 13, 2010, 09:56:32 AM
ข่าวนี้เคยดูทางทีวี มาช่วง หนึ่ง ตอนแม่ทัพภาคไปเยี่ยมผู้ใหญ่ที่โรงบาล เมื่อต้นปีที่แล้ว ถ้าจำไม่ผิด

       เก่งจริงๆ น่านับถือท่าน


หัวข้อ: Re: เรื่องจากเหตุการณ์จริง
เริ่มหัวข้อโดย: s453 ที่ มกราคม 13, 2010, 10:00:51 AM
เยี่บมครับเอาใจช่วยเจ้าหน้าที่ทุกท่านครับ พวกรกประเทศจะได้หมดไปเร็วๆ


หัวข้อ: Re: เรื่องจากเหตุการณ์จริง
เริ่มหัวข้อโดย: แสนสุข ที่ มกราคม 13, 2010, 10:01:12 AM
3 ต่อ 1 อยู่ในชัยภูมิดีกว่าถึงอาวุธด้อยกว่าแต่อยู่ในระยะหวังผล+สติดี  สุดยอดครับ ขอบคุณ จขกท  ขอบคุณท่านผู้ใหญ่บ้านกระดูกเหล็ก ครับ ::014::


หัวข้อ: Re: เรื่องจากเหตุการณ์จริง
เริ่มหัวข้อโดย: ja_nef_cop-รักในหลวง ที่ มกราคม 13, 2010, 10:07:12 AM
ถ้าเป็นผมนะมันต้อง M 26 ก่อนดึงสลักออกแล้วนับ ๑-๒ แล้วขว้างแล้วก็ ๑๑ มม. ต่อด้วยลูกซอง  มันมา ๕ ก็เก็บศพ ๕ ครับ ยุทธศาสตร์ดี ปืนดี มีความคิดดีต่อชาติ ไอ้พวกลอบกัดมาเท่าไหร่ก็ไม่กลัว จาก ตำรวจเคยอยู่ชายแดน 


หัวข้อ: Re: เรื่องจากเหตุการณ์จริง
เริ่มหัวข้อโดย: Ro@d - รักในหลวง ที่ มกราคม 13, 2010, 10:13:14 AM

คดีนี้ คงจบไปแล้วด้วยการสั่งไม่ฟ้อง เพราะเป็นการกระทำที่พอสมควรแก่เหตุ เป็นการป้องกันที่ชอบด้วยกฎหมาย ไม่มีความผิด ตาม ป.อาญา ม.๖๘
ที่รอดมาได้ อาจเพราะ

๑. รู้สึกตัวก่อน ถึงความผิดปรกติ และเสียงปืน ทำให้ประเมินได้ว่า เป็นคนร้าย และอยู่ตรงไหน  และเตรียมการรับมือ และรอสวนกลับได้ทันการณ์
๒. ผู้ใหญ่ มีที่ปลอดภัย สำหรับตนเองเละครอบครัว
๓. ผู้ใหญ่มีอาวุธปืน พร้อมที่จะปกป้องตนเอง จึงจบลงด้วย ยิงจนหมดกระสุนที่บรรจุอยู่ในตัวปืน ๒ กระบอก เท่านั้น บรรจุ .๔๕ ต่อ แล้วรอดูเหตุการณ์
๔. สามารถทิ้งระยะไว้ไม่ให้ คนร้ายเข้ามาใกล้ จนเริ่มปฎิบัติการได้ก่อน.. จนอาจก่อความเสียหายได้มากกว่านี้

ทั้งหมด เกิดเพราะ คนร้ายพลาดที่เปิดเผยตนเองเสียก่อน เพราะประเมิน ตัวผู้ใหญ่บ้าน ต่ำจากความเป็นจริง

งานนี้ถ้าขาดไปข้อใดข้อหนึ่ง การณ์จะกลับกันทันที ถ้าผู้ใหญ่ ไม่ได้ระวังภัย หรือไม่มีเหตุเตือนภัยก่อนหน้า..  ออกจากบ้าน ก็จะปรุพรุน ริมรั้ว  เหมือนกันครับ  


หัวข้อ: Re: เรื่องจากเหตุการณ์จริง
เริ่มหัวข้อโดย: FMJ ที่ มกราคม 13, 2010, 10:33:43 AM
ผญบ.เจ๋งมาก สามารถใช้อวป.ป้องกันตนเองได้แถมเด็ดหัวโจรชั่วได้อีก เยี่ยมครับ  ::002::


หัวข้อ: Re: เรื่องจากเหตุการณ์จริง
เริ่มหัวข้อโดย: suthep2010 ที่ มกราคม 13, 2010, 10:59:20 AM
เยี่ยมไปเลย ...


หัวข้อ: Re: เรื่องจากเหตุการณ์จริง
เริ่มหัวข้อโดย: ๐๐๓ ที่ มกราคม 13, 2010, 11:22:41 AM
คนร้ายอาจจะหมอบหลังเนินดินเล็กๆ ตรงกอกล้วย เลยหลุดรอดจากม่านกระสุนลูกซองไปได้

แต่ผมสงสัยว่า กำแพงบ้านก่อปูน สามารถป้องกันอันตรายจาก Ak.47 และ M16 ในระยะ ไม่ถึง 10 เมตร ไำด้ไหมครับ ถ้าโดนยิงเ้ข้าเป้าจะทะลุถึงตัว ผญบ. ไหม

ที่ ผญบ. ไม่เป็นไร เพราะผนังปูนกันกระสุนไว้ หรือว่าโจรยิงไม่ถูกจุดเพราะไม่เห็นตัวครับ ?





หัวข้อ: Re: เรื่องจากเหตุการณ์จริง
เริ่มหัวข้อโดย: ชอลิ่วเฮียง - รักในหลวง ที่ มกราคม 13, 2010, 11:29:24 AM
ถ้าผมจะสรุปว่า ระยะ 7-8 เมตร ใกล้ไปสำหรับการต่อสู้ด้วยลูกซอง  11 มม. จึงได้เป็นพระเอก
ถ้ายืดระยะออกเป็นซัก 15 - 40 เมตร ผมว่าลูกซองจะเป็นพระเอก
ถูกต้องไหมคร๊าบบบบ........


หัวข้อ: Re: เรื่องจากเหตุการณ์จริง
เริ่มหัวข้อโดย: soveat ชุมไพร ที่ มกราคม 13, 2010, 12:11:55 PM
คนร้ายอาจจะหมอบหลังเนินดินเล็กๆ ตรงกอกล้วย เลยหลุดรอดจากม่านกระสุนลูกซองไปได้

แต่ผมสงสัยว่า กำแพงบ้านก่อปูน สามารถป้องกันอันตรายจาก Ak.47 และ M16 ในระยะ ไม่ถึง 10 เมตร ไำด้ไหมครับ ถ้าโดนยิงเ้ข้าเป้าจะทะลุถึงตัว ผญบ. ไหม

ที่ ผญบ. ไม่เป็นไร เพราะผนังปูนกันกระสุนไว้ หรือว่าโจรยิงไม่ถูกจุดเพราะไม่เห็นตัวครับ ?





    ผนังก่ออิฐฉาบปูนโดยมาก ความหนาอยู่ที่ประมาณ 10 ซ.ม.ครับ เท่าที่เห็นกันกระสุนอาวุทธสงครามได้ในระดับหนึ่ง ถ้าใช้อิฐมอญก่อผนัง เพราะมวลของอิฐมอญจะหนาแน่นมาก  แต่หากเป็นซีเมนต์บล็อค(อิฐบล๊อค)โอกาสที่กระสุนจะทะลุผนังมีสูงครับ   ::014::

   ผมเคยแนะนำเพื่อนที่อยู่ 3 จ.ช.ต.ในการสร้างบ้านไปครั้งนึง ให้ลงทุนทำผนัง ค.ส.ล. เทสูงประมาณ 90 ซ.ม. หนา 10 ซ.ม.ข้างบนก่อด้วยอิฐมอญโชว์ลายขนาดอิฐ ม.ฐ. ขนาก 7x7x16 ซ.ม. ด้านหลังฉาบเรียบ ผลปรากฎว่าเพื่อนโทรมาบอกว่าโดนลองดีไปสี่ห้านัดด้วยอาร์ก้า ผนังแค่ปูนกระทาะนิดหน่อย  ถือว่าความแข็งแรงอยู่ในเกณฑ์ดีเยี่ยมครับ  ::002::


หัวข้อ: Re: เรื่องจากเหตุการณ์จริง
เริ่มหัวข้อโดย: Yoshiki_Silencer - รักในหลวง ที่ มกราคม 13, 2010, 12:13:54 PM
เข้ามาสงสัยเพิ่มครับ ทำไมลูกซองถึงไม่สามารถจัดการคนร้ายได้(น่าจะยิงลูกซองหมดก่อนจึงใช้11มมทีหลัง) เพราะคนที่ถูกยิงเชื่อว่าทั้ง2คน น่าจะจบที่11 มม (คนที่2 น่าจะถูกลูกซองเจ็บ แต่คงยังสู้ได้ จึงถูก11ซ้ำ)  ??? รอพี่มาให้ความกระจ่างดัวยครับ  ::014::

ผมมีความเห็นว่าผู้ใหญ่บ้าน ยิง11มม แม่นครับ ;D

          เท่าที่จำข้อเท็จจริงในสำนวนได้นะครับเพราะเหตุการณ์ผ่านมาเกือบ  ๒  ปีแล้ว  รู้สึกจะมีปลอกกระสุน

ปืนขนาด  ๑๑  มม.  ตกอยู่เกือบสิบปลอก  ส่วนกระสุนปืนลูกซองมีตกอยู่ในบ้านเหมือนกันครับแต่จำได้ว่า

ประมาณ  ๕ - ๖  ปลอก  ส่วนตัวผมก็ได้เจอตัวผู้ใหญ่บ้านเหมือนกันแต่ก็ไม่ได้สอบถามรายละเอียดในการ

ยิงต่อสู้ว่าเป็นอย่างไรบ้าง  แต่เท่าที่ดูภายนอกท่าทางผู้ใหญ่แกเอาเรื่องเหมือนกัน  ท่าทางนิ่ง ๆ เฉย  น่า

เกรงขามอย่างบอกไม่ถูก  ::003:: 


หัวข้อ: Re: เรื่องจากเหตุการณ์จริง
เริ่มหัวข้อโดย: ~ Sitthipong - รักในหลวง ~ ที่ มกราคม 13, 2010, 12:16:58 PM
คิดว่าคนร้ายไม่รู้จุดที่ผู้ใหญ่บ้านแอบอยู่ด้วยครับ   ที่สำคัญคือรู้ตัวก่อนว่ามีความผิดปกติ 

นี่ถ้าเลี้ยงหมาไว้ด้วยจะแจ่มมากครับ    ;)


หัวข้อ: Re: เรื่องจากเหตุการณ์จริง
เริ่มหัวข้อโดย: soveat ชุมไพร ที่ มกราคม 13, 2010, 12:20:34 PM
เข้ามาสงสัยเพิ่มครับ ทำไมลูกซองถึงไม่สามารถจัดการคนร้ายได้(น่าจะยิงลูกซองหมดก่อนจึงใช้11มมทีหลัง) เพราะคนที่ถูกยิงเชื่อว่าทั้ง2คน น่าจะจบที่11 มม (คนที่2 น่าจะถูกลูกซองเจ็บ แต่คงยังสู้ได้ จึงถูก11ซ้ำ)  ??? รอพี่มาให้ความกระจ่างดัวยครับ  ::014::

ผมมีความเห็นว่าผู้ใหญ่บ้าน ยิง11มม แม่นครับ ;D

          เท่าที่จำข้อเท็จจริงในสำนวนได้นะครับเพราะเหตุการณ์ผ่านมาเกือบ  ๒  ปีแล้ว  รู้สึกจะมีปลอกกระสุน

ปืนขนาด  ๑๑  มม.  ตกอยู่เกือบสิบปลอก  ส่วนกระสุนปืนลูกซองมีตกอยู่ในบ้านเหมือนกันครับแต่จำได้ว่า

ประมาณ  ๕ - ๖  ปลอก  ส่วนตัวผมก็ได้เจอตัวผู้ใหญ่บ้านเหมือนกันแต่ก็ไม่ได้สอบถามรายละเอียดในการ

ยิงต่อสู้ว่าเป็นอย่างไรบ้าง  แต่เท่าที่ดูภายนอกท่าทางผู้ใหญ่แกเอาเรื่องเหมือนกัน  ท่าทางนิ่ง ๆ เฉย  น่า

เกรงขามอย่างบอกไม่ถูก  ::003:: 

จากที่ ท่าน จขกท.กล่าวถึงลักษณะ ของท่าน ผญบ. เลยขออนุญาตวิเคราะห์นะครับ

      ผมว่า ไอ้คนแรกโดนลูกซองเจ็บไปก่อนแล้วเพื่อนมันน่าจะมาพยายามลากเอาเพื่อนที่เจ็บไปด้วยเพื่อเป็นการป้องกันการโดนจับกุม ซึ่ง ผญบ.น่าจะเห็นเป้าหมายชัดเจนเพราะมีแสงไฟสลัวๆและระยะก็ไม่ได้ห่างมา จึงยิงด้วยปืนสั้นเข้าใส่เจ้าคนที่มาช่วยพังพาบอยู่ตรงนั้น  เมื่อเห็นว่าเจ้าคนมาช่วยสิ้นฤทธิแล้วจึงซ้ำเจ้าคนเจ็บไปด้วยแบบไม่ปราณีครับ  กะว่าตอนนั้นกำลังเลือดขึ้นหน้า ส่วนสองคนที่เหลือเห็นว่าเพื่อนไม่น่ารอดแล้วจึงยิงกดดัน ผญบ.แล้วฉวยเอาปืนกลับไปครับ  ::014::


หัวข้อ: Re: เรื่องจากเหตุการณ์จริง
เริ่มหัวข้อโดย: Yoshiki_Silencer - รักในหลวง ที่ มกราคม 13, 2010, 12:25:57 PM
ท่านอัยการถามความเห็นในประเด็นใดครับ
ข้อกฎหมายหรือขัอเท็จจริงของการใช้อาวุธ
ผมพอนึกภาพออกเพราะเคยทำงานในสามจังหวัด
มานานหลายสิบปี   ตอนนี้อีกห้าปีจะเกษียณ :OO
เขากลับไม่ให้ไปช่วยแก้ปัญหาซะแล้ว สงสัยแก่ไป ::004::
ยินดีแลกเปลี่ยนข้อคิดเห็นกันครับ

          ผมต้องการสอบถามในเรื่องข้อเท็จจริงในเรื่องของการใช้อาวุธ

ครับ 

           ถ้าพี่ bhornchat  อยู่ในสามจังหวัดมานานน่าจะเคยได้ยินเหตุการณ์

นี้  เกิดขึ้นที่จังหวัดปัตตานีครับ แต่จำไม่ได้ว่าอำเภอใด  เหตุการณ์เกิดขึ้นมา

ประมาณ  ๒  ปีเศษแล้วครับ  ชื่อผู้เสียหายถ้าบอกไปเชื่อว่าพี่  bhornchat  คง

เคยได้ยินแน่นอน  แต่ขออนุญาตไม่บอกชื่อนะครับเกรงว่าอาจจะกระทบถึงผู้ใหญ่เขา    


หัวข้อ: Re: เรื่องจากเหตุการณ์จริง
เริ่มหัวข้อโดย: Terk Kung ที่ มกราคม 13, 2010, 12:33:33 PM
สงสัยตรงนึงครับ กอกล้วยที่อยู่หน้าบ้านที่ว่า ระยะอยู่ห่างจากหน้าต่างบ้านประมาณกี่เมตรครับ


หัวข้อ: Re: เรื่องจากเหตุการณ์จริง
เริ่มหัวข้อโดย: Yoshiki_Silencer - รักในหลวง ที่ มกราคม 13, 2010, 12:34:14 PM

คดีนี้ คงจบไปแล้วด้วยการสั่งไม่ฟ้อง เพราะเป็นการกระทำที่พอสมควรแก่เหตุ เป็นการป้องกันที่ชอบด้วยกฎหมาย ไม่มีความผิด ตาม ป.อาญา ม.๖๘
ที่รอดมาได้ อาจเพราะ

๑. รู้สึกตัวก่อน ถึงความผิดปรกติ และเสียงปืน ทำให้ประเมินได้ว่า เป็นคนร้าย และอยู่ตรงไหน  และเตรียมการรับมือ และรอสวนกลับได้ทันการณ์
๒. ผู้ใหญ่ มีที่ปลอดภัย สำหรับตนเองเละครอบครัว
๓. ผู้ใหญ่มีอาวุธปืน พร้อมที่จะปกป้องตนเอง จึงจบลงด้วย ยิงจนหมดกระสุนที่บรรจุอยู่ในตัวปืน ๒ กระบอก เท่านั้น บรรจุ .๔๕ ต่อ แล้วรอดูเหตุการณ์
๔. สามารถทิ้งระยะไว้ไม่ให้ คนร้ายเข้ามาใกล้ จนเริ่มปฎิบัติการได้ก่อน.. จนอาจก่อความเสียหายได้มากกว่านี้

ทั้งหมด เกิดเพราะ คนร้ายพลาดที่เปิดเผยตนเองเสียก่อน เพราะประเมิน ตัวผู้ใหญ่บ้าน ต่ำจากความเป็นจริง

งานนี้ถ้าขาดไปข้อใดข้อหนึ่ง การณ์จะกลับกันทันที ถ้าผู้ใหญ่ ไม่ได้ระวังภัย หรือไม่มีเหตุเตือนภัยก่อนหน้า..  ออกจากบ้าน ก็จะปรุพรุน ริมรั้ว  เหมือนกันครับ  

          ครับคุณอา Ro@d  เชื่อว่าในคดีที่ผู้ใหญ่เป็นผู้ต้องหาท้ายที่สุดอัยการคงสั่งไม่ฟ้องเช่นกัน   ;)  

          พอดีสำนวนที่ผมได้รับมานี่เป็นคดีสาขาครับ คือเป็นคดีที่ตำรวจตั้งคนร้ายเป็นผู้ต้องหาข้อหา

พยายามฆ่า ฯ  แต่สั่งไม่ฟ้องเพราะผู้ต้องหาถึงแก่ความตาย  คดีนี้เป็นสำนวนในความรับผิดชอบของผมครับ

          นอกจากนี้ยังมีสำนวนไต่สวนการตายกรณีที่ผู้ใหญ่บ้านซึ่งเป็นเจ้าพนักงานถูกกล่าวหาว่ายิงคนร้ายตาย

ในระหว่างปฏิบัติหน้าที่  ซึ่งคดีนี้เป็นผมคนสืบพยานเองเลยได้มีโอกาสเจอกับผู้ใหญ่  แต่ก็ไม่ได้คุยรายละเอียด

เกี่ยวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น  คงรับรู้เท่าที่ผู้ใหญ่แกเบิกความเท่านั้นครับ
      
          ส่วนสำนวนหลักที่ผู้ใหญ่เป็นผู้ต้องหานั้นช่วงที่ผมยังรับราชการอยู่ที่นั่นทราบว่าตำรวจยังทำสำนวนไม่

เสร็จ  เชื่อว่าคงส่งสำนวนมาหลังจากที่ผมย้ายขึ้นมาแล้วครับเลยไม่ทราบรายละเอียดว่าเป็นอย่างไร


หัวข้อ: Re: เรื่องจากเหตุการณ์จริง
เริ่มหัวข้อโดย: ลุมพินี08 ที่ มกราคม 13, 2010, 12:39:08 PM
ผู้ใหญ่สู้ๆ เด็ดมากครับเก็บได้ตั้ง 2


หัวข้อ: Re: เรื่องจากเหตุการณ์จริง
เริ่มหัวข้อโดย: Yoshiki_Silencer - รักในหลวง ที่ มกราคม 13, 2010, 12:49:55 PM
ขอยกนิ้วโป้งให้ผู้ใหญ่บ้านท่านนี้ครับ... ว่าแต่ว่า... โจรเหล่านั้นสวมเสื้อเกราะหรือมีอะไรป้องกันกระสุนบ้างหรือเปล่าครับ... กระสุนลูกซองถึงได้ไม่แสดงอานุภาพมากนัก...

...เพราะนึกภาพคนร้ายอยู่เป็นกลุ่ม... มีที่กำบังคือกอกล้วย... โดนลูกซองกวาด... ไม่น่ารอดครับ... ;D ;D ;D



          เท่าที่ดูภาพถ่ายในสำนวนนะครับคนนึ่งใส่เสื้อแขนยาวสีดำธรรมดา  ส่วนอีกคนหนึ่งเสื้อเวสต์สำหรับใส่

ซองกระสุนธรรมดาครับ แต่ไม่น่าจะกันกระสุนปืนได้


หัวข้อ: Re: เรื่องจากเหตุการณ์จริง
เริ่มหัวข้อโดย: Yoshiki_Silencer - รักในหลวง ที่ มกราคม 13, 2010, 12:55:55 PM
          พอดีผมลองไปค้นไฟล์งานเก่า ๆ ในคอมพิวเตอร์ดูเลยเจอไฟล์งานคดีนี้ครับ

เลยเอามาลงให้พี่ ๆ ดูกันเต็ม แต่ขออนุญาตเปลี่ยนชื่อบุคคลในเหตุการณ์ และรายละเอียดบาง

อย่างบ้างเพื่อไม่ให้กระทบกับผู้ที่เกี่ยวข้องบ้างนะครับ  ซึ่งอาจจะแตกต่างจากเรื่องที่โพสไว้ตอน

แรกบ้างเนื่องจากตอนแรกเขียนจากความทรงจำล้วน ๆ ครับ


          คดีนี้กล่าวหา  นาย ..... ผู้ต้องหาที่  ๑  ,  นาย ..... ผู้ต้องหาที่  ๒  ว่าร่วมกันพยายามฆ่า

เจ้าพนักงานขณะปฏิบัติการตามหน้าที่ , มีและใช้อาวุธปืน เครื่องกระสุนปืน ที่นายทะเบียนไม่

สามารถออกใบอนุญาตให้ได้  ,  พกพาอาวุธปืนไปในเมือง  หมู่บ้าน  หรือทางสาธารณะ โดย

ไม่มีเหตุอันควร ,  ยิงปืนในเมือง  หมู่บ้าน  หรือที่ชุมชน  โดยไม่มีเหตุอันควร   ,   กระทำด้วย

ประการใด ๆ ให้ทางสาธารณะอยู่ในลักษณะอันน่าจะเป็นเหตุให้เกิดอันตรายแก่การจราจร , 

ก่อการร้าย  และอั้งยี่ซ่องโจร


          เหตุเกิดเมื่อวันที่.....เดือน.....พ.ศ. ๒๕๔๙  เวลาประมาณ  ๒๑.๑๐  น.  ที่ตำบลนาเกตุ 

อำเภอโคกโพธิ์  จังหวัดปัตตานี


          ข้อเท็จจริงจากการสอบสวนได้ความว่าในวันเกิดเหตุผู้เสียหายซึ่งมีตำแหน่งเป็นผู้ใหญ่

บ้าน ได้ร่วมกับชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้านออกตรวจตราพื้นที่รับผิดชอบ       ต่อมาผู้เสียหาย

ได้กลับมาที่บ้านพักเพื่อทำธุระส่วนตัว     ระหว่างนั้นผู้เสียหายได้ยินเสียงปืนดังขึ้นมาจากทางบ้าน 

นาย ก.  และ ผู้เสียหายสังเกตุเห็นว่ามีกลุ่มคนเข้ามาภายในบ้านของตนเอง  ผู้เสียหายจึงได้ตะโกน

ถาม และได้ยิงปืนขึ้นฟ้าจำนวนหนึ่งนัด   แต่กลุ่มคนดังกล่าวกลับใช้อาวุธปืนหลายชนิดยิงเข้าใส่

ผู้เสียหายจำนวนหลายนัด  ผู้เสียหายจึงได้ใช้อาวุธปืนลูกซองยาวของทางราชการ และอาวุธปืนพก

สั้นของตนเอง ยิงต่อสู้กับคนร้าย     ขณะนั้น นาย ข.  ซึ่งมีบ้านอยู่ติดกับผู้เสียหาย  ได้เปิดประตูออก

มาดูเหตุการณ์  จึงถูกกลุ่มคนร้ายใช้อาวุธปืนยิงเข้าที่บริเวณขาซ้าย  ผู้เสียหายยิงต่อสู้กับคนร้ายสักพัก

จนกระทั่งเสียงปืนสงบลง และเชื่อว่ากลุ่มคนร้ายได้หลบหนีไปหมดแล้ว   ผู้เสียหายจึงได้ออกมาดูด้านนอก

และได้โทรศัพท์แจ้งเจ้าหน้าที่  เมื่อเจ้าหน้าที่มาถึงพบว่าบริเวณถนนทางเข้าที่เกิดเหตุมีการตัดต้นไม้ 

โปรยตะปูเรือใบ  และนำยางรถยนต์จุดไฟมาวางขวางไว้กลางบริเวณกลางถนน      เมื่อมาถึงบริเวณที่เกิด

เหตุแล้วพบผู้ต้องหาทั้งสองถูกยิงด้วยอาวุธปืนเสียชีวิตอยู่ภายในเขตรั้วบ้านของผู้เสียหาย    โดยรอบตัว

ผู้ต้องหาทั้งสองยังพบซองบรรจุกระสุนปืนเอ็ม – ๑๖   ปลอกกระสุนปืนสงครามและกระสุนปืนชนิดอื่น


ตกอยู่จำนวนหลายปลอก      ผู้เสียหายและ นาย ข. ถูกกระสุนปืนของคนร้ายได้รับบาดเจ็บ   ที่บริเวณบ้านของ

ผู้เสียหายถูกอาวุธปืนของคนร้ายยิงได้รับความเสียหายจำนวนหลายแห่ง  นอกจากนี้ยังพบ

ว่าบ้านเรือนของผู้ที่อยู่ใกล้เคียงก็ถูกคนร้ายยิงได้รับความเสียหายด้วยเช่นกันและยังพบปลอก

กระสุนปืนหลายชนิดตกอยู่ที่บริเวณดังกล่าวโดยรอบจำนวนหลายนัด  จึงได้ยึดไว้เป็นของกลาง   

ส่วนสาเหตุที่กลุ่มคนร้ายลอบยิงผู้เสียหายนั้น   เชื่อว่ามาจากเหตุที่ผู้เสียหาย  ให้ความร่วมมือกับ

เจ้าหน้าที่ของรัฐในการแจ้งเบาะแสการก่อการร้ายหลายครั้ง    ทำให้ผู้ต้องหาทั้งสองกับพวกซึ่ง

เป็นผู้ก่อความไม่สงบเกิดความไม่พอใจจึงมาลอบยิงหมายเอาชีวิตดังกล่าว

          ชั้นสอบสวนผู้ต้องหาทั้งสองถึงแก่ความตาย....


          ป.ล. รายละเอียดบางอย่างเช่นผู้เสียหายสังเกตเห็นคนร้ายมากันประมาณ  ๓ - ๔  คนนั้น

ได้มาจากการที่ผู้เสียหายมาเบิกความที่ศาลในชั้นไต่สวนการตายของคนร้ายครับ  ซึ่งเพิ่มเติมมา

จากข้อเท็จจริงในสำนวนครับ.




หัวข้อ: Re: เรื่องจากเหตุการณ์จริง
เริ่มหัวข้อโดย: submachine -รักในหลวง- ที่ มกราคม 13, 2010, 12:58:54 PM
ใจสู้ดีครับ นับถือน้ำใจจริงๆ เรื่องนี้บอกให้รู้ได้ว่า ปืนอะไรก็ไม่สำคัญครับ
สำคัญที่คน


หัวข้อ: Re: เรื่องจากเหตุการณ์จริง
เริ่มหัวข้อโดย: Yoshiki_Silencer - รักในหลวง ที่ มกราคม 13, 2010, 01:02:46 PM
คนร้ายอาจจะหมอบหลังเนินดินเล็กๆ ตรงกอกล้วย เลยหลุดรอดจากม่านกระสุนลูกซองไปได้

แต่ผมสงสัยว่า กำแพงบ้านก่อปูน สามารถป้องกันอันตรายจาก Ak.47 และ M16 ในระยะ ไม่ถึง 10 เมตร ไำด้ไหมครับ ถ้าโดนยิงเ้ข้าเป้าจะทะลุถึงตัว ผญบ. ไหม

ที่ ผญบ. ไม่เป็นไร เพราะผนังปูนกันกระสุนไว้ หรือว่าโจรยิงไม่ถูกจุดเพราะไม่เห็นตัวครับ ?





          เท่าที่ดูภาพถ่ายในสำนวนนะครับเข้าว่าคนร้ายคงจะไม่ทราบว่าผู้ใหญ่บ้านอยู่ตรงไหนนะครับ 

ลักษณะการยิงของคนร้ายน่าจะเป็นการยิงกดดันเพื่อหลบหนีมากกว่า  เพราะกลุ่มกระสุนกระจายไปทั่วบ้าน

ตั้งแต่ผนังบ้าน  ราวบันได  หลังคาบ้าน  และรถยนต์ที่จอดอยู่หน้าบ้าน 


หัวข้อ: Re: เรื่องจากเหตุการณ์จริง
เริ่มหัวข้อโดย: Yoshiki_Silencer - รักในหลวง ที่ มกราคม 13, 2010, 01:04:51 PM
สงสัยตรงนึงครับ กอกล้วยที่อยู่หน้าบ้านที่ว่า ระยะอยู่ห่างจากหน้าต่างบ้านประมาณกี่เมตรครับ

          ประมาณ  ๗ - ๘  เมตร  ครับ  เพราะเท่าที่จำได้กอกล้วยอยู่ติดกับแนวรั้วครับ  และใกล้ ๆ กอกล้วย

มีเนินดินเล็ก ๆ  ความสูงประมาณไม่น่าจะเกินครึ่งแข้งอยู่เนินนึงครับ


หัวข้อ: Re: เรื่องจากเหตุการณ์จริง
เริ่มหัวข้อโดย: Yoshiki_Silencer - รักในหลวง ที่ มกราคม 13, 2010, 01:12:26 PM
คิดว่าคนร้ายไม่รู้จุดที่ผู้ใหญ่บ้านแอบอยู่ด้วยครับ   ที่สำคัญคือรู้ตัวก่อนว่ามีความผิดปกติ 

นี่ถ้าเลี้ยงหมาไว้ด้วยจะแจ่มมากครับ    ;)

          ผู้ใหญ่บ้านเป็นมุสลิมไม่เลี้ยงหมาครับ   ;D ;D ;D 


หัวข้อ: Re: เรื่องจากเหตุการณ์จริง
เริ่มหัวข้อโดย: dmesg ที่ มกราคม 13, 2010, 01:39:24 PM
นับถือผู้ใหญ่บ้านครับ ผมว่าสู้ได้ขนาดนี้ก็เยี่ยมแล้วครับ


หัวข้อ: Re: เรื่องจากเหตุการณ์จริง
เริ่มหัวข้อโดย: Kapiman - รักในหลวง ที่ มกราคม 13, 2010, 02:02:20 PM
คิดว่าคนร้ายไม่รู้จุดที่ผู้ใหญ่บ้านแอบอยู่ด้วยครับ   ที่สำคัญคือรู้ตัวก่อนว่ามีความผิดปกติ 

นี่ถ้าเลี้ยงหมาไว้ด้วยจะแจ่มมากครับ    ;)

          ผู้ใหญ่บ้านเป็นมุสลิมไม่เลี้ยงหมาครับ   ;D ;D ;D 

แหมดันตอบก่อนผมอีก ช้าไปหน่อยนึง ^ ^   

สงสารครอบครัวผู้ใหญ่ฯแกนะครับ เมียกับลูกแกคงปลงแล้วหละ ว่าทุกๆวันย่อมมีอันตรายเกิดขึ้นได้กับครอบครัวเสมอ


หัวข้อ: Re: เรื่องจากเหตุการณ์จริง
เริ่มหัวข้อโดย: KCharng ที่ มกราคม 13, 2010, 02:03:36 PM
ขอปรบมือให้ท่านผู่ใหญ่บ้านครับ

จากข้อสอง ผมขอเดาว่าน่าจะเป็นหลังตู้เย็นครับ :)



คดีนี้ คงจบไปแล้วด้วยการสั่งไม่ฟ้อง เพราะเป็นการกระทำที่พอสมควรแก่เหตุ เป็นการป้องกันที่ชอบด้วยกฎหมาย ไม่มีความผิด ตาม ป.อาญา ม.๖๘
ที่รอดมาได้ อาจเพราะ

๑. รู้สึกตัวก่อน ถึงความผิดปรกติ และเสียงปืน ทำให้ประเมินได้ว่า เป็นคนร้าย และอยู่ตรงไหน  และเตรียมการรับมือ และรอสวนกลับได้ทันการณ์
๒. ผู้ใหญ่ มีที่ปลอดภัย สำหรับตนเองเละครอบครัว
๓. ผู้ใหญ่มีอาวุธปืน พร้อมที่จะปกป้องตนเอง จึงจบลงด้วย ยิงจนหมดกระสุนที่บรรจุอยู่ในตัวปืน ๒ กระบอก เท่านั้น บรรจุ .๔๕ ต่อ แล้วรอดูเหตุการณ์
๔. สามารถทิ้งระยะไว้ไม่ให้ คนร้ายเข้ามาใกล้ จนเริ่มปฎิบัติการได้ก่อน.. จนอาจก่อความเสียหายได้มากกว่านี้

ทั้งหมด เกิดเพราะ คนร้ายพลาดที่เปิดเผยตนเองเสียก่อน เพราะประเมิน ตัวผู้ใหญ่บ้าน ต่ำจากความเป็นจริง

งานนี้ถ้าขาดไปข้อใดข้อหนึ่ง การณ์จะกลับกันทันที ถ้าผู้ใหญ่ ไม่ได้ระวังภัย หรือไม่มีเหตุเตือนภัยก่อนหน้า..  ออกจากบ้าน ก็จะปรุพรุน ริมรั้ว  เหมือนกันครับ  


หัวข้อ: Re: เรื่องจากเหตุการณ์จริง
เริ่มหัวข้อโดย: rute - รักในหลวง ที่ มกราคม 13, 2010, 02:47:01 PM
ขอบคุณครับที่กรุณานำมาเล่าสู่กันฟัง...

สติสำคัญที่สุดในสถาณะการณ์ฉุกเฉิน...

ท่านผู้ใหญ่บ้านคุมสติได้ดีกว่า...

น่านับถือจริงๆครับ...::002::

         
          เวลาประมาณ  ๒๑.๐๐  น.  ของคืนเกิดเหตุ  ขณะที่ผู้เสียหายกำลังอยู่ภายในบ้านพักกับครอบ

ครัวและเตรียมจะออกไปเข้าเวรรักษาความปลอดภัยประจำหมู่บ้าน  ตอนนั้นผู้เสียหายได้ยินเสียงผิด

ปกติมาจากทางหน้าบ้าน  จึงได้สั่งให้ภริยาปิดไฟภายในบ้านพัก  และสั่งให้ภริยากับลูกไปหลบภายใน

ห้องนอน  ส่วนตัวเองถืออาวุธปืนสังเกตการณ์อยู่บริเวณหน้าต่างบ้านเกล็ด  ( ผู้เสียหายมีอาวุธปืนยาว

เป็นลูกซองปั๊มห้านัด  ส่วนปืนสั้นเป็นขนาด  ๑๑  มม.  ยี่ห้อซิกเซาเออร์   สาเหตุที่จำได้เพราะนึกอยู่ใน

ใจว่าผู้ใหญ่ใช้ปืนดีกว่าเราอีก  ::005:: )  คนที่เสียชีวิตคาที่มีบาดแผล

ถูกยิงด้วยปืนขนาด  ๑๑  มม. เข้าที่แขน  จำนวน  ๑  นัด  และที่หน้าอก  จำนวน  ๑  นัด  ส่วนคนที่ได้รับบาดเจ็บ

มีแผลถูกยิงด้วยปืนขนาด  ๑๑  มม. และปืนลูกซอง  ( แต่จำไม่ได้ว่าถูกยิงที่ไหนบ้าง ) 
วิเคราะห์ได้อย่างเดียวครับว่า ซิกเซาเออร์ แม้จะกระสุนน้อย แต่ก็พึ่งพาได้เสมอ :VOV:
ผมจะโดนเต๊ะมั๊ยเนี่ย :~)

ผมก็ว่าซิกซาวเออร์ ๑๑ ม.ม.นี่มันดีจริงๆครับ...ฮา...::005::


หัวข้อ: Re: เรื่องจากเหตุการณ์จริง
เริ่มหัวข้อโดย: แสนสุข ที่ มกราคม 13, 2010, 03:34:58 PM
รบกวนท่าน จขกท.ครับ ในกรณีเดียวกันนี้ถ้าเปลี่ยนจากผู้ใหญ่บ้านมาเป็นชาวบ้านธรรมดารูปคดีจะเปลี่ยนไปบ้างไหมครับ ::014::


หัวข้อ: Re: เรื่องจากเหตุการณ์จริง
เริ่มหัวข้อโดย: -Joke- ที่ มกราคม 13, 2010, 03:54:22 PM
สะใจ ครับ สะใจ นับถือผู้ใหญ่จริงๆ

ถ้าผู้ใหญ่มีปืนพวก คาร์บิ้น หรือ เอาลูกซองอัดตูมๆๆ ไปตอนเปิด ผมว่าน่าจะมีนอนมากกว่านี้ครับ


หัวข้อ: Re: เรื่องจากเหตุการณ์จริง
เริ่มหัวข้อโดย: ก๊วยเจ๋ง ที่ มกราคม 13, 2010, 04:29:47 PM
อ่านแล้วได้ความรู้ดีครับ สติ จังหวะ โอกาศ 


หัวข้อ: Re: เรื่องจากเหตุการณ์จริง
เริ่มหัวข้อโดย: bigbuffalo ที่ มกราคม 13, 2010, 05:44:56 PM
ชื่อผู้ใหญ่ก็กินขาดแล้วครับ ผู้ใหญ่กูเฮง


หัวข้อ: Re: เรื่องจากเหตุการณ์จริง
เริ่มหัวข้อโดย: Choro - รักในหลวง ที่ มกราคม 13, 2010, 06:01:02 PM
ขอชมท่านผู้ใหญ่ครับเยี่ยมมากและขอบคุณท่าน จขกท ที่นำมาให้อ่านครับ  ::014::

 รู้ตัวก่อนว่าอะไรจะเกิดและรับมืออย่างสาสม  ::002:: ::002::

 





หัวข้อ: Re: เรื่องจากเหตุการณ์จริง
เริ่มหัวข้อโดย: pimuk ที่ มกราคม 13, 2010, 06:46:20 PM
ไม่ทราบว่า เพื่อนบ้าน ใช้ปืนอะไรครับ เป็นเพื่อนบ้านที่น่านับถือจริงๆ  ::002::

ระยะ ๗ ถึง ๘ เมตร ท่านสมาชิก จะเลือกอะไรก่อนครับ ระหว่างลูกซองปั๊มป์ที่ยิงได้ไม่เร็วเท่าซิกซาวเออร์ และเกะกะด้วยเวลาแอบข้างหน้าต่าง


หัวข้อ: Re: เรื่องจากเหตุการณ์จริง
เริ่มหัวข้อโดย: Ro@d - รักในหลวง ที่ มกราคม 13, 2010, 07:37:01 PM
ไม่ทราบว่า เพื่อนบ้าน ใช้ปืนอะไรครับ เป็นเพื่อนบ้านที่น่านับถือจริงๆ  ::002::

ระยะ ๗ ถึง ๘ เมตร ท่านสมาชิก จะเลือกอะไรก่อนครับ ระหว่างลูกซองปั๊มป์ที่ยิงได้ไม่เร็วเท่าซิกซาวเออร์ และเกะกะด้วยเวลาแอบข้างหน้าต่าง

ถ้าเข้าระยะยิง และฝ่ายรับรู้ตัวก่อน เราคือฝ่ายกำหนดการยิงได้ก่อน ควรเป็นลูกซองยาวที่เป็นปืนหลัก
การยิงโดยไม่ต้องเล็ง และอานุภาพของกระสุนลูกซองยาว และยิงก่อนอีกฝ่ายจะตั้งหลักได้ ถ้าเลือกใช้ปืนที่ดี และเหนือกว่า จะปิดเกมส์ ได้เร็วครับ

เหตุการณ์ที่เกิดในเวลา ใกล้กับเรื่องนี้
บิดากับบุตร ขึ้นเขา และเข้าไปสู่จุดซุ่ม บิดาใช้ .๔๕  ถูกอีกฝ่ายยิงตาย ส่วนบุตร ใช้ ลูกซองปั้ม ๕ นัด ยิงอีกฝ่ายตายไป ๒  ทั้ง ๒ โจร มีค่าหัวคนละ ๕๐,๐๐๐.-


หัวข้อ: Re: เรื่องจากเหตุการณ์จริง
เริ่มหัวข้อโดย: Eka นายเอกา+รักในหลวง ที่ มกราคม 13, 2010, 08:16:04 PM
เก่งและเฮงด้วย นับถือ นับถือ  ::014::


หัวข้อ: Re: เรื่องจากเหตุการณ์จริง
เริ่มหัวข้อโดย: yod - รักในหลวง ครับ ที่ มกราคม 13, 2010, 08:33:19 PM


ผ่านมา กว่า สองปี แล้วครับ สำหรับเหตุการณ์ ในครั้งนั้น


หัวข้อ: Re: เรื่องจากเหตุการณ์จริง
เริ่มหัวข้อโดย: rucha ที่ มกราคม 13, 2010, 08:55:15 PM
นี่ขนาด เจ้าหน้าที่ ฝ่ายปกครอง อยุ่ในพื้นที่ เสี่ยง  โจรผู้ร้าย 4-5คน แบกอาก้า หวังจะถล่ม...
แต่ผู้ใหญ่บ้านรู้ตัวเสียก่อน  สาดกระสุนกันทั้งสองฝ่าย ผล โจรเดี้ยง...
แต่ ผู้ใหญ่บ้าน ต้องขึ้นโรงขึ้นศาล (ลุ้น) ยกฟ้อง...
แล้วกระทุ้ที่เคย ถามกัน..ขโมย ขึ้นบ้าน...ขโมยปีนรั้ว...โจรกระชากกระเป๋า  โจรถือมีด....ยิงได้ใหม?...เฮ้อ...


หัวข้อ: Re: เรื่องจากเหตุการณ์จริง
เริ่มหัวข้อโดย: Ro@d - รักในหลวง ที่ มกราคม 13, 2010, 09:17:50 PM
นี่ขนาด เจ้าหน้าที่ ฝ่ายปกครอง อยุ่ในพื้นที่ เสี่ยง  โจรผู้ร้าย 4-5คน แบกอาก้า หวังจะถล่ม...
แต่ผู้ใหญ่บ้านรู้ตัวเสียก่อน  สาดกระสุนกันทั้งสองฝ่าย ผล โจรเดี้ยง...
แต่ ผู้ใหญ่บ้าน ต้องขึ้นโรงขึ้นศาล (ลุ้น) ยกฟ้อง...
แล้วกระทุ้ที่เคย ถามกัน..ขโมย ขึ้นบ้าน...ขโมยปีนรั้ว...โจรกระชากกระเป๋า  โจรถือมีด....ยิงได้ใหม?...เฮ้อ...

ข้อเท็จจริงอย่างนี้ ชัดเจนครับ อัยการสั่งไม่ฟ้อง คดีจบไปแล้ว ไม่ต้องไปลุ้นในศาลอีกแล้ว  


หัวข้อ: Re: เรื่องจากเหตุการณ์จริง
เริ่มหัวข้อโดย: JJ-รักในหลวง ที่ มกราคม 13, 2010, 09:45:15 PM
นับถือ ในการตั้งสติของผู้ใหญ่บ้านครับ
ไม่ตื่นเต้น จนทำอะไรไม่ถูก ให้ลูกเมีย เข้าไปหลบในที่ปลอดภัย
ปิดไฟในบ้านเพื่อให้ข้างนอกมองไม่เห็น
เยี่ยมจริงๆ ครับ


หัวข้อ: Re: เรื่องจากเหตุการณ์จริง
เริ่มหัวข้อโดย: เมียหลวงสั่งถอย เมียน้อยสั่งลุย ที่ มกราคม 13, 2010, 10:40:33 PM
ถ้าผู้ใหญ่เปลี่ยนจากลูกซองปั๊ม5นัด เป็นไซก้าออโต้8นัด จำนวนโจรที่ตายอาจจะเพิ่มมากกว่านั้น
3 จชต น่ากลัว ญาติผมขับรถยนต์โดนโจรขับรถมอเตอร์ไซด์ไล่ตามเงียบไปจนถึงหน้าบ้าน ดีว่าไหวตัวทัน ห่างโจรไม่ถึง 5 เมตร ใครอยู่ 3จชต ต้องระวังตัวให้ดี ปืนพร้อม กระสุนเพียบ ที่กำบังชัวร์ ถ้าติดสปอร์ตไลท์ที่หน้าบ้านด้วยยิ่งดี
จะช่วยให้เรามองโจรได้ง่ายและโจรมองเราไม่เห็น


หัวข้อ: Re: เรื่องจากเหตุการณ์จริง
เริ่มหัวข้อโดย: Yoshiki_Silencer - รักในหลวง ที่ มกราคม 13, 2010, 11:05:30 PM
รบกวนท่าน จขกท.ครับ ในกรณีเดียวกันนี้ถ้าเปลี่ยนจากผู้ใหญ่บ้านมาเป็นชาวบ้านธรรมดารูปคดีจะเปลี่ยนไปบ้างไหมครับ ::014::

          ถ้าเป็นผลทางด้านคดีในส่วนที่ผู้ใหญ่บ้านยิงโจรตายล่ะก็  ถ้าหากเป็นชาวบ้านธรรมดาผลคดีก็ไม่เปลี่ยน

ไปครับ  เพราะพฤติการณ์ที่คนร้ายมีอาวุธครบมือบุกเข้ามาในบ้านของผู้เสียหายจำนวนหลายคน  การที่เจ้าของบ้าน

ใช้อาวุธปืนยิงคนร้ายตายดังกล่าวถือได้ว่าเป็นการป้องกันตัวโดยชอบด้วยกฎหมาย  เจ้าของบ้านไม่มีความผิดครับ.


หัวข้อ: Re: เรื่องจากเหตุการณ์จริง
เริ่มหัวข้อโดย: Yoshiki_Silencer - รักในหลวง ที่ มกราคม 13, 2010, 11:07:41 PM
ชื่อผู้ใหญ่ก็กินขาดแล้วครับ ผู้ใหญ่กูเฮง

          ฮิ ฮิ ฮิ  รู้ได้ยังไงเนี่ยเราอุตส่าห์นั่งลบชื่อผู้ใหญ่ในไฟล์งานแทบแย่  แสดงว่าต้องเคยอยู่สามจังหวัดแน่ ๆ  ;D ;D ;D 


หัวข้อ: Re: เรื่องจากเหตุการณ์จริง
เริ่มหัวข้อโดย: Yoshiki_Silencer - รักในหลวง ที่ มกราคม 13, 2010, 11:10:39 PM
ไม่ทราบว่า เพื่อนบ้าน ใช้ปืนอะไรครับ เป็นเพื่อนบ้านที่น่านับถือจริงๆ  ::002::

ระยะ ๗ ถึง ๘ เมตร ท่านสมาชิก จะเลือกอะไรก่อนครับ ระหว่างลูกซองปั๊มป์ที่ยิงได้ไม่เร็วเท่าซิกซาวเออร์ และเกะกะด้วยเวลาแอบข้างหน้าต่าง

          เพื่อนบ้านใช้ลูกซองปั๊มห้านัดของทางราชการเช่นกันครับ  เป็น ชรบ.เหมือนกับผู้ใหญ่บ้านครับ

          เป็นผมถ้าเลือกได้คงใช้ลูกซองอัตโนมัติครับ  แต่ถ้าตามเหตุการณ์ผมขอใช้ซิกซาวเออร์ซัดให้หมดแม็กก่อนเลยครับ  :D


หัวข้อ: Re: เรื่องจากเหตุการณ์จริง
เริ่มหัวข้อโดย: Yoshiki_Silencer - รักในหลวง ที่ มกราคม 13, 2010, 11:13:02 PM
ไม่ทราบว่า เพื่อนบ้าน ใช้ปืนอะไรครับ เป็นเพื่อนบ้านที่น่านับถือจริงๆ  ::002::

ระยะ ๗ ถึง ๘ เมตร ท่านสมาชิก จะเลือกอะไรก่อนครับ ระหว่างลูกซองปั๊มป์ที่ยิงได้ไม่เร็วเท่าซิกซาวเออร์ และเกะกะด้วยเวลาแอบข้างหน้าต่าง

ถ้าเข้าระยะยิง และฝ่ายรับรู้ตัวก่อน เราคือฝ่ายกำหนดการยิงได้ก่อน ควรเป็นลูกซองยาวที่เป็นปืนหลัก
การยิงโดยไม่ต้องเล็ง และอานุภาพของกระสุนลูกซองยาว และยิงก่อนอีกฝ่ายจะตั้งหลักได้ ถ้าเลือกใช้ปืนที่ดี และเหนือกว่า จะปิดเกมส์ ได้เร็วครับ

เหตุการณ์ที่เกิดในเวลา ใกล้กับเรื่องนี้
บิดากับบุตร ขึ้นเขา และเข้าไปสู่จุดซุ่ม บิดาใช้ .๔๕  ถูกอีกฝ่ายยิงตาย ส่วนบุตร ใช้ ลูกซองปั้ม ๕ นัด ยิงอีกฝ่ายตายไป ๒  ทั้ง ๒ โจร มีค่าหัวคนละ ๕๐,๐๐๐.-  

          อยากรบกวนคุณอา Ro@d ช่วยเล่าเหตุการณ์นี้ให้ฟังหน่อยครับ  เพื่อกรณีศึกษาครับ  ::014::


หัวข้อ: Re: เรื่องจากเหตุการณ์จริง
เริ่มหัวข้อโดย: Yoshiki_Silencer - รักในหลวง ที่ มกราคม 13, 2010, 11:15:59 PM
นี่ขนาด เจ้าหน้าที่ ฝ่ายปกครอง อยุ่ในพื้นที่ เสี่ยง  โจรผู้ร้าย 4-5คน แบกอาก้า หวังจะถล่ม...
แต่ผู้ใหญ่บ้านรู้ตัวเสียก่อน  สาดกระสุนกันทั้งสองฝ่าย ผล โจรเดี้ยง...
แต่ ผู้ใหญ่บ้าน ต้องขึ้นโรงขึ้นศาล (ลุ้น) ยกฟ้อง...
แล้วกระทุ้ที่เคย ถามกัน..ขโมย ขึ้นบ้าน...ขโมยปีนรั้ว...โจรกระชากกระเป๋า  โจรถือมีด....ยิงได้ใหม?...เฮ้อ...

          กรณีที่ถามมาผมพอมีตัวอย่างคดีอยู่บ้าง  เอาไว้ถ้ามีโอกาสเมื่อไหร่จะนำลงมาโพสให้เป็นกรณีศึกษากันครับ 

          ยังไงถ้าเป็นข้อมูลทางวิชาการเกินไปก็อย่างเพิ่งเบื่อกันซะก่อนนะครับ   ;)


หัวข้อ: Re: เรื่องจากเหตุการณ์จริง
เริ่มหัวข้อโดย: outpost 1969 รักในหลวง ที่ มกราคม 13, 2010, 11:56:21 PM
 ::014::สวัสดีครับ ::014::

 ;D
นี่ขนาด เจ้าหน้าที่ ฝ่ายปกครอง อยุ่ในพื้นที่ เสี่ยง  โจรผู้ร้าย 4-5คน แบกอาก้า หวังจะถล่ม...
แต่ผู้ใหญ่บ้านรู้ตัวเสียก่อน  สาดกระสุนกันทั้งสองฝ่าย ผล โจรเดี้ยง...
แต่ ผู้ใหญ่บ้าน ต้องขึ้นโรงขึ้นศาล (ลุ้น) ยกฟ้อง...
แล้วกระทุ้ที่เคย ถามกัน..ขโมย ขึ้นบ้าน...ขโมยปีนรั้ว...โจรกระชากกระเป๋า  โจรถือมีด....ยิงได้ใหม?...เฮ้อ...

          กรณีที่ถามมาผมพอมีตัวอย่างคดีอยู่บ้าง  เอาไว้ถ้ามีโอกาสเมื่อไหร่จะนำลงมาโพสให้เป็นกรณีศึกษากันครับ 

          ยังไงถ้าเป็นข้อมูลทางวิชาการเกินไปก็อย่างเพิ่งเบื่อกันซะก่อนนะครับ   ;)

 ;Dไม่มีเบื่อครับ ;Dขอขอบพระคุณท่านจขกท.เป็นอย่างสูงครับ ::002::เยี่ยม ::002::


หัวข้อ: Re: เรื่องจากเหตุการณ์จริง
เริ่มหัวข้อโดย: ManStopper ที่ มกราคม 14, 2010, 12:38:54 AM
ขอบคุณครับที่กรุณานำมาเล่าสู่กันฟัง...

สติสำคัญที่สุดในสถาณะการณ์ฉุกเฉิน...

ท่านผู้ใหญ่บ้านคุมสติได้ดีกว่า...

น่านับถือจริงๆครับ...::002::

         
          เวลาประมาณ  ๒๑.๐๐  น.  ของคืนเกิดเหตุ  ขณะที่ผู้เสียหายกำลังอยู่ภายในบ้านพักกับครอบ

ครัวและเตรียมจะออกไปเข้าเวรรักษาความปลอดภัยประจำหมู่บ้าน  ตอนนั้นผู้เสียหายได้ยินเสียงผิด

ปกติมาจากทางหน้าบ้าน  จึงได้สั่งให้ภริยาปิดไฟภายในบ้านพัก  และสั่งให้ภริยากับลูกไปหลบภายใน

ห้องนอน  ส่วนตัวเองถืออาวุธปืนสังเกตการณ์อยู่บริเวณหน้าต่างบ้านเกล็ด  ( ผู้เสียหายมีอาวุธปืนยาว

เป็นลูกซองปั๊มห้านัด  ส่วนปืนสั้นเป็นขนาด  ๑๑  มม.  ยี่ห้อซิกเซาเออร์   สาเหตุที่จำได้เพราะนึกอยู่ใน

ใจว่าผู้ใหญ่ใช้ปืนดีกว่าเราอีก  ::005:: )  คนที่เสียชีวิตคาที่มีบาดแผล

ถูกยิงด้วยปืนขนาด  ๑๑  มม. เข้าที่แขน  จำนวน  ๑  นัด  และที่หน้าอก  จำนวน  ๑  นัด  ส่วนคนที่ได้รับบาดเจ็บ

มีแผลถูกยิงด้วยปืนขนาด  ๑๑  มม. และปืนลูกซอง  ( แต่จำไม่ได้ว่าถูกยิงที่ไหนบ้าง ) 
วิเคราะห์ได้อย่างเดียวครับว่า ซิกเซาเออร์ แม้จะกระสุนน้อย แต่ก็พึ่งพาได้เสมอ :VOV:
ผมจะโดนเต๊ะมั๊ยเนี่ย :~)

ผมก็ว่าซิกซาวเออร์ ๑๑ ม.ม.นี่มันดีจริงๆครับ...ฮา...::005::

sig sauer ขนาด ๑๑ มม. มีอยู่ ๒ รุ่น คือ p 245 \ p220
ขอเดาว่าน่าจะเป็น p220   ::002::
ผู้ใหญ่บ้านมีสติ ใจกล้าหาญ  ยอดเยี่ยมจริงๆครับ  ::014::


หัวข้อ: Re: เรื่องจากเหตุการณ์จริง
เริ่มหัวข้อโดย: Enruoblem ที่ มกราคม 14, 2010, 12:39:32 AM
ไม่ทราบว่า เพื่อนบ้าน ใช้ปืนอะไรครับ เป็นเพื่อนบ้านที่น่านับถือจริงๆ  ::002::

ระยะ ๗ ถึง ๘ เมตร ท่านสมาชิก จะเลือกอะไรก่อนครับ ระหว่างลูกซองปั๊มป์ที่ยิงได้ไม่เร็วเท่าซิกซาวเออร์ และเกะกะด้วยเวลาแอบข้างหน้าต่าง

ถ้าเข้าระยะยิง และฝ่ายรับรู้ตัวก่อน เราคือฝ่ายกำหนดการยิงได้ก่อน ควรเป็นลูกซองยาวที่เป็นปืนหลัก
การยิงโดยไม่ต้องเล็ง และอานุภาพของกระสุนลูกซองยาว และยิงก่อนอีกฝ่ายจะตั้งหลักได้ ถ้าเลือกใช้ปืนที่ดี และเหนือกว่า จะปิดเกมส์ ได้เร็วครับ

เหตุการณ์ที่เกิดในเวลา ใกล้กับเรื่องนี้
บิดากับบุตร ขึ้นเขา และเข้าไปสู่จุดซุ่ม บิดาใช้ .๔๕  ถูกอีกฝ่ายยิงตาย ส่วนบุตร ใช้ ลูกซองปั้ม ๕ นัด ยิงอีกฝ่ายตายไป ๒  ทั้ง ๒ โจร มีค่าหัวคนละ ๕๐,๐๐๐.-  

          อยากรบกวนคุณอา Ro@d ช่วยเล่าเหตุการณ์นี้ให้ฟังหน่อยครับ  เพื่อกรณีศึกษาครับ  ::014::
น่าจะเป็นคนๆเดียวกันกับผู้ใหญ่ท่านนั้นครับ หากจำผิดต้องขออภัยด้วยครับ เคยเห็นในหนังสือพิมพ์เป็นภาพลูกชายถือลูกซอง


หัวข้อ: Re: เรื่องจากเหตุการณ์จริง
เริ่มหัวข้อโดย: Ro@d - รักในหลวง ที่ มกราคม 14, 2010, 08:13:43 AM
ไม่ทราบว่า เพื่อนบ้าน ใช้ปืนอะไรครับ เป็นเพื่อนบ้านที่น่านับถือจริงๆ  ::002::

ระยะ ๗ ถึง ๘ เมตร ท่านสมาชิก จะเลือกอะไรก่อนครับ ระหว่างลูกซองปั๊มป์ที่ยิงได้ไม่เร็วเท่าซิกซาวเออร์ และเกะกะด้วยเวลาแอบข้างหน้าต่าง

ถ้าเข้าระยะยิง และฝ่ายรับรู้ตัวก่อน เราคือฝ่ายกำหนดการยิงได้ก่อน ควรเป็นลูกซองยาวที่เป็นปืนหลัก
การยิงโดยไม่ต้องเล็ง และอานุภาพของกระสุนลูกซองยาว และยิงก่อนอีกฝ่ายจะตั้งหลักได้ ถ้าเลือกใช้ปืนที่ดี และเหนือกว่า จะปิดเกมส์ ได้เร็วครับ

เหตุการณ์ที่เกิดในเวลา ใกล้กับเรื่องนี้
บิดากับบุตร ขึ้นเขา และเข้าไปสู่จุดซุ่ม บิดาใช้ .๔๕  ถูกอีกฝ่ายยิงตาย ส่วนบุตร ใช้ ลูกซองปั้ม ๕ นัด ยิงอีกฝ่ายตายไป ๒  ทั้ง ๒ โจร มีค่าหัวคนละ ๕๐,๐๐๐.-  

          อยากรบกวนคุณอา Ro@d ช่วยเล่าเหตุการณ์นี้ให้ฟังหน่อยครับ  เพื่อกรณีศึกษาครับ  ::014::
น่าจะเป็นคนๆเดียวกันกับผู้ใหญ่ท่านนั้นครับ หากจำผิดต้องขออภัยด้วยครับ เคยเห็นในหนังสือพิมพ์เป็นภาพลูกชายถือลูกซอง

คนละคน เพราะรายนี้ บิดาตาย..ส่วนลูกชายรอด   

อ่านจากข่าว ประมาณว่า
เหตุกิดขะณะเดินอยู่ในป่า บนเขา ไปทำธุระอะไรสักอย่าง คนร้าย มี ๓ คน มีอาวุธปืนสงคราม ยิงถูกบิดาที่ใช้ .๔๕  ที่เดินนำหน้า เสียชีวิตทันที 
ลูกชายอายุไม่ถึง ๒๐ ถือ ๘๗๐ ตามมาข้างหลัง ยิงสวน ถูกคนร้าย ตายคาที ๒ คน เป็นโจรมีค่าหัวคนละ ๕๐,๐๐๐  จำได้เพียงเท่านี้ นะครับ.  


หัวข้อ: Re: เรื่องจากเหตุการณ์จริง
เริ่มหัวข้อโดย: ฺฅนเมืองชล*รักในหลวงมาก ที่ มกราคม 14, 2010, 11:11:46 AM
ยังพอจำได้อยู่ครับ ;D

พ่อถูกฆ่าลูกล้างแค้นดวลดับ2โจรใต้!กัดฟันสู้ซัดลูกซองชนะเอ็ม16เผย2แนวร่วมค่าหัวรวม8แสนค้น"บ้านบือราแง"รวบ11ตัวป่วน

          ลูกชาย ผช.ผู้ใหญ่บ้าน บือมัง จ.ยะลา ใจเด็ด กัดฟันสู้ยิงปะทะโจรเดือด หลังบิดาตกเป็นเหยื่อดับอนาถ ขณะที่ สองโจรใต้ค่าหัวเกือบล้าน  ไปไม่รอดถูกซัลโวดับตาม พบมีประวัติโชกโชนเป็นถึงหัวโจกชุดคอมมาโด เคลื่อนไหวในพื้นที่ ส่วน ผช. ผญบ. ปัตตานี และ สาวหม้าย เซ่นไฟใต้อีก จนท. กว่า 200 นายสนธิกำลัง ปิดล้อมหมู่บ้านบือราแง เมืองนราฯ ค้น 110 หลังคาเรือน บุกรวบ 11 แนวร่วมป่วนใต้  “บิ๊กบัง” ล่องใต้ดึงองค์กรอิสลาม 14 จว. ถกปัญหาแก้ไฟใต้ ส่วน คนสงขลาตักบาตรพระ 266 วัด อุทิศส่วนกุศลให้เหยื่อไฟใต้
          ปัญหาความไม่สงบในจังหวัดชายแดนภาคใต้ นับวันจะยืดเยื้อยาวนานขึ้นทุกวัน เมื่อเวลา 05.00 น. วันที่ 8 ก.ย. พ.ต.อ.ปราบพาล มีมงคล ผกก.สภ.อ.สุไหงปาดี จ.นราธิวาส พ.ต.ต.ปรีชา กิ่มเกลี้ยง ผบ.ร้อย นปพ.ภ.จว. นราธิวาส ที่ 2 สนธิกำลังตำรวจ ทหาร กว่า 200 นาย นำหมายพระราชกำหนดสถานการณ์ฉุกเฉินเข้าปิดล้อมตรวจค้นบ้านบือราแงหมู่ 3 ต.โต๊ะเด็ง อ.สุไหงปาดี จ.นราธิวาส จำนวน 15 จุด 110 หลังคาเรือน ซึ่งเป็นบ้านผู้ต้องสงสัยคดีก่อเหตุความไม่สงบป่วนใต้
          จากการตรวจค้นเจ้าหน้าที่สามารถควบคุมตัวผู้ต้องสงสัย ซึ่งมีหมายจับ พ.ร.ก.จำนวน 11 ราย คือนายอาดือมัน อาแวหนุ, นายฮายรี ยูโซ๊ะ, นายอุสมาน ฮารีแปเราะ, นายมูหามัดสกรี ฮารีแปเราะ, นายไฟซอล อายิ, นายสัมซี ยูโซ๊ะ, นายมะยากี เถาะ, นายเจ๊ะบอราเฮง เจ๊ะสาแม, นายเฮรี อูมา, นายซาฮาลูเด็ง ยูหนุ๊ และนายฮันดี เจ๊ะเต๊ะ พร้อมตรวจยึดอาวุธปืนลูกซองยาวพร้อมกระสุน ปุ๋ยยูเรียน้ำหนัก 1 กก. ในขณะเข้าทำการตรวจค้นได้มีผู้ต้องสงสัย 1 ราย วิ่งหลบหนีลงจากบ้านเลขที่ 7 หมู่ 3 บ้านบือราแง ทราบชื่อนายรอมลี เจ๊ะแว อายุ 27 ปี ซึ่งเป็นผู้ต้องหาที่มีหมายจับและเป็นผู้ต้องหาที่เคยก่อเหตุป่วนใต้บุคคล สำคัญ ขณะนี้ทางเจ้าหน้าที่อยู่ในระหว่างปิดล้อมไล่ล่าตัวแต่ยังไม่พบตัว ภายหลังทางเจ้าหน้าที่ได้นำของกลางพร้อมควบคุมผู้ต้องสงสัยทั้งหมดไปสอบสวน ขยายผลหาแนวร่วมและผู้ให้การสนับสนุนที่อยู่เบื้องหลังในการก่อเหตุป่วนใต้ ต่อไป
          ต่อมาที่ จ.ยะลา พ.ต.อ.สมเพียร เอกสมญา ผกก.สภ.อ.บันนังสตา รับแจ้งเหตุยิงกันตาย ที่บ้านเลขที่ 16 ริมถนนสายทางลัดเงาะกาโปร์-เขื่อนบางลาง บ้านเงาะกาโปร์ หมู่ 8 ต.บันนังสตา พร้อมกำลังไปตรวจสอบที่เกิดเหตุพบศพ นางวันลิตา มาชัย อายุ 31 ปี นอนเสียชีวิตอยู่หลังบ้าน สภาพศพถูกยิงที่กลางหลัง และศีรษะ รวม 3 นัด ห่างกันพบปลอกกระสุนปืน 11 มม. จำนวน 3 ปลอกตกอยู่ สอบสวนทราบว่าผู้ตายมีอาชีพกรีดยางพารา และเป็นแม่ม่าย ที่เพิ่งหย่าร้างกับสามีเก่า ขณะเกิดเหตุผู้ตายกำลังเดินทางเข้าบ้าน ได้มีคนร้ายเป็นวัยรุ่น 2 คน ขับขี่รถ จยย.มาจอดหน้าบ้าน แล้วชักปืนยิงใส่ ก่อนที่ผู้ตายพยายามจะวิ่งหนีไปหลังบ้าน คนร้ายยังตามไปจ่อยิงศีรษะซ้ำจนเสียชีวิตแล้วหลบหนีไป เบื้องต้นตำรวจจะสอบสวนหาสาเหตุที่แน่ชัดต่อไป
          ขณะที่ จ.สงขลา พ.ต.ต.เสวี วุ่นหนู สวส.สภ.ต.ห้วยปลิง อ.เทพา รับแจ้งเหตุยิงกันตายในป่าสวนยางพื้นที่หมู่ 8 ต.วังใหญ่ อ.เทพา จ.สงขลา จึงไปตรวจสอบพบศพ นายบาเฮง เจะเต๊ะ อายุ 46 ปี อยู่บ้านเลขที่ 5/1 หมู่ 2 ต.ท่าน้ำ อ.ปะนาเระ จ.ปัตตานี เป็นผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน หมู่ 2 ต.ท่าน้ำ ถูกยิงด้วยปืนเอ็ม 16 เข้าที่ลำตัว 7 นัด เสียชีวิตอยู่ในป่าสวนยาง ในที่เกิดเหตุพบ ปลอกกระสุนปืนเอ็ม 16 ตกอยู่ จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน สอบสวนทราบว่า ขณะเกิดเหตุคนตายได้ออกไปช่วยภรรยากรีดยางและถูกคนร้ายใช้ปืนเอ็ม 16 ซุ่มยิงจนเสียชีวิตคาที่ เบื้องต้นเจ้าหน้าที่เชื่อว่าเป็นฝีมือของกลุ่มแนวร่วมในพื้นที่ ซึ่งก่อเหตุเพื่อสร้างสถานการณ์
          ที่กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาคที่ 4 ส่วนหน้า ได้สรุปยอดผู้ถูกเชิญตัวในคดีความมั่นคง ณ ปัจจุบันนี้มีดังนี้ ศูนย์เสริมสร้างสมานฉันท์ ณ ค่ายอิงคยุทธบริหาร อ.หนอง  จิก จ.ปัตตานี มีจำนวน 121 คน เป็นชาย 118 คน หญิง 3 คน และที่ศูนย์พิทักษ์สันติ ศูนย์ปฏิบัติการสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ส่วนหน้า  ยะลา จำนวน 21 คน รวมสรุปยอดผู้ที่ถูกควบคุมตัวทั้งหมดในขณะนี้ 142 คน ด้าน พ.อ.อัคร ทิพโรจน์ ผอ.กอ.รมน. กล่าวว่า ในระยะนี้เป็นช่วงที่กลุ่มคนร้ายมีการเคลื่อนไหว และกระจายลงในพื้นที่เพื่อก่อเหตุร้ายโดยมุ่งโจมตีเจ้าหน้าที่รัฐและประชาชน ผู้บริสุทธิ์ โดยเฉพาะเจ้าหน้าที่ทหาร-ตำรวจ ซึ่งขณะนี้เจ้าหน้าที่ได้มีการสนธิกำลังและตั้งจุดตรวจจุดสกัดในเส้นทางที่ คาดว่าคนร้ายจะใช้เป็นเส้นทางหลบหนี พร้อมทั้งจัดชุดกำลังไล่ล่า หน่วยเคลื่อนที่เร็วออกปฏิบัติการโดยรอบของพื้นที่ต่อไปแล้ว
          ที่โรงแรมวีแอล หาดใหญ่ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน ผบ.ทบ.และประธาน คมช. เดินทางไปเป็นประธานในการประชุมสัมมนา เรื่องบทบาทองค์กรอิสลามกับการแก้ไขปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยมีคณะกรรมการอิสลามทั้ง 14 จังหวัดภาคใต้ รวมกว่า 100 คน เข้าประชุมโดยมี พล.ท.วิโรจน์ บัวจรูญ แม่ทัพภาคที่ 4 และ พล.ต.สำเร็จ ศรีร่าย ผบ.พตท. เข้าร่วมด้วย อย่างไรก็ตามในการประชุมสัมมนาครั้งนี้ ไม่อนุญาตให้สื่อมวลชนเข้าร่วมรับฟังแต่อย่างใด ท่ามกลางมาตรการการรักษาความปลอดภัยอย่างรัดกุมของเจ้าหน้าที่ ทั้งบริเวณโรงแรมและหน้าห้องประชุม
          พล.อ.สนธิ เปิดเผยภายหลังการประชุมว่า ปัญหาในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้เป็นปัญหาหลักที่คนใน 3 จังหวัดแก้เพียงอย่างเดียวคงไม่ได้ แต่ต่อไปนี้จะให้ทั้ง 14 จังหวัดเข้ามาให้ความร่วมมือและช่วยกันแก้ ทั้งในภาคองค์กรศาสนาโดยเฉพาะคณะกรรมการอิสลามทั้ง 14 จังหวัด และในภาคของประชาชน ซึ่งปัญหาของ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้หากมีจังหวัดข้างเคียงเข้ามาช่วยจะเป็นขวัญกำลังใจและทำ ให้การแก้ปัญหาง่ายขึ้น ทั้งนี้การพบปะกับผู้นำศาสนาทั้ง 14 จังหวัดภาคใต้ในครั้งนี้ ตนได้อธิบายแนวทางการแก้ปัญหาในทิศทางเดียวกัน
          อย่างไรก็ตาม ก่อนการประชุม นายแวดือราแม มะมิงจิ ประธานคณะกรรมการอิสลามประจำ จ.ปัตตานี ได้ยื่นจดหมายเปิดผนึกให้กับ พล.อ.สนธิ พร้อมกับเปิดเผยว่า ข้อเรียกร้องที่ได้ยื่นให้กับ พล.อ.สนธิ คือ ต้องการให้ภาครัฐให้ความสำคัญในเรื่องของการศึกษาของเยาวชน และควรมีหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมารับผิดชอบในเรื่องของกระบวนการจัดการศึกษา ทั้งระบบ และเรื่องของทุนการศึกษา เพราะการศึกษาจะเป็นส่วนสำคัญต่ออนาคตของเยาวชนในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ เพราะจะสามารถพัฒนาศักยภาพของคนในพื้นที่และไม่ตกเป็นเครื่องมือของกลุ่มผู้ ไม่หวังดี ซึ่งทาง พล.อ.สนธิ รับที่จะประสานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้
          ด้าน นายประยงค์ รัตนพันธ์ รอง ผวจ.สงขลา เป็นประธานในพิธีทำบุญตักบาตรพระภิกษุสงฆ์ 109 รูป ที่บริเวณสนามฟุตบอล รร.มหาวชิราวุธสงขลา เขตเทศบาลนครสงขลา โดยจะนำข้าวสารอาหารแห้งที่ได้รับจากการทำบุญตักบาตร ไปถวายให้กับพระสงฆ์ 266 วัด ในพื้นที่ 4 จังหวัดชายแดนภาคใต้ สำหรับการจัดพิธีทำบุญตักบาตรในครั้งนี้จะร่วมถวายสังฆทานเพื่อนำภัตตาหาร ถวายแด่พระสงฆ์ 266 วัด และอุทิศส่วนกุศลให้กับผู้เสียชีวิตในจังหวัดชายแดนภาคใต้
          ส่วนนายอารีย์ วงศ์อารยะ รมว.มหาด ไทย เปิดเผยถึงกรณีที่มีข้อเสนอให้ยกเลิกเคอร์ฟิวในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ช่วง   ระยะเวลาถือศีลอดในเดือนรอมฎอนนั้น ตนได้เสนอเรื่องไปแล้วแต่ขณะนี้นายกรัฐมนตรียังไม่ได้พิจารณา เนื่องจากติดภารกิจ และหากยกเลิก  ได้ก็จะเป็นประโยชน์ เพราะช่วงเวลาการทำละหมาดจะเพิ่มขึ้นเกินเวลา 21.00 น. ด้าน พ.อ.ธนาธิป สว่างแสง โฆษก กอ.รมน. กล่าวถึงสถานการณ์ในภาคใต้ ว่า ได้เน้นย้ำดูแลข้าราชการครูเป็นพิเศษ พร้อมขอความร่วมมือกับประชาชนให้ช่วยสอดส่องดูแลเป็นหูเป็นตาให้เจ้าหน้าที่ ด้วย
          เมื่อเวลา 16.00 น. วันเดียวกัน ร.ต.ต.พงษ์พันธุ์ คำวุ้น สภ.ต.โกตาบารู อ.รามัน จ.ยะลา รับแจ้งเหตุยิงกันบนเทือกเขาบ้านดุซงตาวา หมู่ 3 ต.มือมัง อ.รามัน พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหาร รุดไปตรวจสอบที่เกิดเหตุพบศพนายอาลียะ แมะแซ อายุ 48 ปี อยู่บ้านเลขที่ 37/2 หมู่ 3 บ้านดุซงตาวา ซึ่งเป็น ผช.ผู้ใหญ่บ้านฝ่ายรักษาความสงบ สภาพศพถูกยิงด้วยปืนเอ็ม 16 เข้าตามลำตัวหลายนัด ห่างออกไปพบศพนายบือราเฮง ลีเกียะ อายุ 28 ปี และนาย   ซาการียา มะซุเป๊ะ อายุ 29 ปี นอนเสียชีวิตอยู่ใกล้กัน สภาพศพถูกยิงด้วยปืนลูกซองเข้าที่ลำตัวและศีรษะ
          จากการสอบสวนนายอันบาฮา แมะแซ อายุ 20 ปี ลูกชายนายอาลียะ ให้การว่า ขณะที่ตนและบิดากำลังกลับบ้านพัก ได้มีคนร้ายซึ่งทราบชื่อภายหลัง คือนายบือราเฮง และนายซาการียา ใช้ปืนยิงใส่พวกตน จนบิดาเสียชีวิต ขณะที่ตน ซึ่งเป็น ชรบ.ของหมู่บ้าน ใช้ปืนลูกซองยาวยิงตอบโต้กับคนร้าย จนทั้งหมดถูกยิงเสียชีวิต สำหรับนายซาการียา มะซุเป๊ะ เป็นคนร้ายที่ทางราชการเพิ่งตั้งรางวัลนำจับ 5 แสนบาท รวมถึงนายบือราเฮง ลีเกียะ ก็เช่นกันมีรางวัลนำจับ 3 แสนบาท ในคดีความมั่นคงหลายคดีที่เกิดขึ้น ซึ่งทั้งสองเป็นแนวร่วมก่อความไม่สงบระดับ หัวหน้าปฏิบัติการชุดคอมมานโด ที่ก่อเหตุในพื้นที่เขต อ.รามัน จ.ยะลา
          ถัดมาเมื่อเวลา 19.00 น. พ.ต.อ.    กรีรินทร์ อินทร์แก้ว รอง ผบก.ภ.จว.ปัตตานี  ได้นำกำลังตำรวจ ทหาร กว่า 30 นาย เข้าปิดล้อมบริเวณบ้านฮอแตกูแล หมู่ 3 ต.เตราะบอน อ.สายบุรี หลังจากสายข่าวรายงานว่ามีผู้ต้องหาตามหมายจับเข้ามาหลบซ่อนตัวในพื้นที่ กระทั่งสามารถจับกุม นายยาการียา มะ อายุ 30 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับที่ จ.56/2550 ลงวันที่ 5 ก.พ. 50 ในคดีฆ่าและเผา นายนนท์ ไชยสุวรรณ ผอ.โรงเรียนชุมชนบางเก่า อ.สายบุรี เมื่อวันที่ 24 พ.ย. 49 ทั้งนี้ จากการสอบปากคำเบื้องต้นผู้ต้องหาให้การปฏิเสธ อย่างไรก็ตาม ในการจับกุมครั้งนี้ถือว่าสามารถตัดเขี้ยวเล็บของกลุ่มขบวนการในพื้นที่ได้ เนื่องจากข้อมูลในทางลับพบว่า ผู้ต้องหารายนี้เป็นถึงระดับแกนนำในพื้นที่ และเคยก่อเหตุอุกฉกรรจ์มาแล้วหลายครั้ง.--จบ--

          --เดลินิวส์ ฉบับวันที่ 9 ก.ย. 2550--



หัวข้อ: Re: เรื่องจากเหตุการณ์จริง
เริ่มหัวข้อโดย: Ro@d - รักในหลวง ที่ มกราคม 14, 2010, 11:31:04 AM
ยังพอจำได้อยู่ครับ ;D

พ่อถูกฆ่าลูกล้างแค้นดวลดับ2โจรใต้!กัดฟันสู้ซัดลูกซองชนะเอ็ม16เผย2แนวร่วมค่าหัวรวม8แสนค้น"บ้านบือราแง"รวบ11ตัวป่วน

          ลูกชาย ผช.ผู้ใหญ่บ้าน บือมัง จ.ยะลา ใจเด็ด กัดฟันสู้ยิงปะทะโจรเดือด หลังบิดาตกเป็นเหยื่อดับอนาถ ขณะที่ สองโจรใต้ค่าหัวเกือบล้าน  ไปไม่รอดถูกซัลโวดับตาม พบมีประวัติโชกโชนเป็นถึงหัวโจกชุดคอมมาโด เคลื่อนไหวในพื้นที่ ส่วน ผช. ผญบ. ปัตตานี และ สาวหม้าย เซ่นไฟใต้อีก จนท. กว่า 200 นายสนธิกำลัง ปิดล้อมหมู่บ้านบือราแง เมืองนราฯ ค้น 110 หลังคาเรือน บุกรวบ 11 แนวร่วมป่วนใต้  “บิ๊กบัง” ล่องใต้ดึงองค์กรอิสลาม 14 จว. ถกปัญหาแก้ไฟใต้ ส่วน คนสงขลาตักบาตรพระ 266 วัด อุทิศส่วนกุศลให้เหยื่อไฟใต้
          ปัญหาความไม่สงบในจังหวัดชายแดนภาคใต้ นับวันจะยืดเยื้อยาวนานขึ้นทุกวัน เมื่อเวลา 05.00 น. วันที่ 8 ก.ย. พ.ต.อ.ปราบพาล มีมงคล ผกก.สภ.อ.สุไหงปาดี จ.นราธิวาส พ.ต.ต.ปรีชา กิ่มเกลี้ยง ผบ.ร้อย นปพ.ภ.จว. นราธิวาส ที่ 2 สนธิกำลังตำรวจ ทหาร กว่า 200 นาย นำหมายพระราชกำหนดสถานการณ์ฉุกเฉินเข้าปิดล้อมตรวจค้นบ้านบือราแงหมู่ 3 ต.โต๊ะเด็ง อ.สุไหงปาดี จ.นราธิวาส จำนวน 15 จุด 110 หลังคาเรือน ซึ่งเป็นบ้านผู้ต้องสงสัยคดีก่อเหตุความไม่สงบป่วนใต้
          จากการตรวจค้นเจ้าหน้าที่สามารถควบคุมตัวผู้ต้องสงสัย ซึ่งมีหมายจับ พ.ร.ก.จำนวน 11 ราย คือนายอาดือมัน อาแวหนุ, นายฮายรี ยูโซ๊ะ, นายอุสมาน ฮารีแปเราะ, นายมูหามัดสกรี ฮารีแปเราะ, นายไฟซอล อายิ, นายสัมซี ยูโซ๊ะ, นายมะยากี เถาะ, นายเจ๊ะบอราเฮง เจ๊ะสาแม, นายเฮรี อูมา, นายซาฮาลูเด็ง ยูหนุ๊ และนายฮันดี เจ๊ะเต๊ะ พร้อมตรวจยึดอาวุธปืนลูกซองยาวพร้อมกระสุน ปุ๋ยยูเรียน้ำหนัก 1 กก. ในขณะเข้าทำการตรวจค้นได้มีผู้ต้องสงสัย 1 ราย วิ่งหลบหนีลงจากบ้านเลขที่ 7 หมู่ 3 บ้านบือราแง ทราบชื่อนายรอมลี เจ๊ะแว อายุ 27 ปี ซึ่งเป็นผู้ต้องหาที่มีหมายจับและเป็นผู้ต้องหาที่เคยก่อเหตุป่วนใต้บุคคล สำคัญ ขณะนี้ทางเจ้าหน้าที่อยู่ในระหว่างปิดล้อมไล่ล่าตัวแต่ยังไม่พบตัว ภายหลังทางเจ้าหน้าที่ได้นำของกลางพร้อมควบคุมผู้ต้องสงสัยทั้งหมดไปสอบสวน ขยายผลหาแนวร่วมและผู้ให้การสนับสนุนที่อยู่เบื้องหลังในการก่อเหตุป่วนใต้ ต่อไป
          ต่อมาที่ จ.ยะลา พ.ต.อ.สมเพียร เอกสมญา ผกก.สภ.อ.บันนังสตา รับแจ้งเหตุยิงกันตาย ที่บ้านเลขที่ 16 ริมถนนสายทางลัดเงาะกาโปร์-เขื่อนบางลาง บ้านเงาะกาโปร์ หมู่ 8 ต.บันนังสตา พร้อมกำลังไปตรวจสอบที่เกิดเหตุพบศพ นางวันลิตา มาชัย อายุ 31 ปี นอนเสียชีวิตอยู่หลังบ้าน สภาพศพถูกยิงที่กลางหลัง และศีรษะ รวม 3 นัด ห่างกันพบปลอกกระสุนปืน 11 มม. จำนวน 3 ปลอกตกอยู่ สอบสวนทราบว่าผู้ตายมีอาชีพกรีดยางพารา และเป็นแม่ม่าย ที่เพิ่งหย่าร้างกับสามีเก่า ขณะเกิดเหตุผู้ตายกำลังเดินทางเข้าบ้าน ได้มีคนร้ายเป็นวัยรุ่น 2 คน ขับขี่รถ จยย.มาจอดหน้าบ้าน แล้วชักปืนยิงใส่ ก่อนที่ผู้ตายพยายามจะวิ่งหนีไปหลังบ้าน คนร้ายยังตามไปจ่อยิงศีรษะซ้ำจนเสียชีวิตแล้วหลบหนีไป เบื้องต้นตำรวจจะสอบสวนหาสาเหตุที่แน่ชัดต่อไป
          ขณะที่ จ.สงขลา พ.ต.ต.เสวี วุ่นหนู สวส.สภ.ต.ห้วยปลิง อ.เทพา รับแจ้งเหตุยิงกันตายในป่าสวนยางพื้นที่หมู่ 8 ต.วังใหญ่ อ.เทพา จ.สงขลา จึงไปตรวจสอบพบศพ นายบาเฮง เจะเต๊ะ อายุ 46 ปี อยู่บ้านเลขที่ 5/1 หมู่ 2 ต.ท่าน้ำ อ.ปะนาเระ จ.ปัตตานี เป็นผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน หมู่ 2 ต.ท่าน้ำ ถูกยิงด้วยปืนเอ็ม 16 เข้าที่ลำตัว 7 นัด เสียชีวิตอยู่ในป่าสวนยาง ในที่เกิดเหตุพบ ปลอกกระสุนปืนเอ็ม 16 ตกอยู่ จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน สอบสวนทราบว่า ขณะเกิดเหตุคนตายได้ออกไปช่วยภรรยากรีดยางและถูกคนร้ายใช้ปืนเอ็ม 16 ซุ่มยิงจนเสียชีวิตคาที่ เบื้องต้นเจ้าหน้าที่เชื่อว่าเป็นฝีมือของกลุ่มแนวร่วมในพื้นที่ ซึ่งก่อเหตุเพื่อสร้างสถานการณ์
          ที่กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาคที่ 4 ส่วนหน้า ได้สรุปยอดผู้ถูกเชิญตัวในคดีความมั่นคง ณ ปัจจุบันนี้มีดังนี้ ศูนย์เสริมสร้างสมานฉันท์ ณ ค่ายอิงคยุทธบริหาร อ.หนอง  จิก จ.ปัตตานี มีจำนวน 121 คน เป็นชาย 118 คน หญิง 3 คน และที่ศูนย์พิทักษ์สันติ ศูนย์ปฏิบัติการสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ส่วนหน้า  ยะลา จำนวน 21 คน รวมสรุปยอดผู้ที่ถูกควบคุมตัวทั้งหมดในขณะนี้ 142 คน ด้าน พ.อ.อัคร ทิพโรจน์ ผอ.กอ.รมน. กล่าวว่า ในระยะนี้เป็นช่วงที่กลุ่มคนร้ายมีการเคลื่อนไหว และกระจายลงในพื้นที่เพื่อก่อเหตุร้ายโดยมุ่งโจมตีเจ้าหน้าที่รัฐและประชาชน ผู้บริสุทธิ์ โดยเฉพาะเจ้าหน้าที่ทหาร-ตำรวจ ซึ่งขณะนี้เจ้าหน้าที่ได้มีการสนธิกำลังและตั้งจุดตรวจจุดสกัดในเส้นทางที่ คาดว่าคนร้ายจะใช้เป็นเส้นทางหลบหนี พร้อมทั้งจัดชุดกำลังไล่ล่า หน่วยเคลื่อนที่เร็วออกปฏิบัติการโดยรอบของพื้นที่ต่อไปแล้ว
          ที่โรงแรมวีแอล หาดใหญ่ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน ผบ.ทบ.และประธาน คมช. เดินทางไปเป็นประธานในการประชุมสัมมนา เรื่องบทบาทองค์กรอิสลามกับการแก้ไขปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยมีคณะกรรมการอิสลามทั้ง 14 จังหวัดภาคใต้ รวมกว่า 100 คน เข้าประชุมโดยมี พล.ท.วิโรจน์ บัวจรูญ แม่ทัพภาคที่ 4 และ พล.ต.สำเร็จ ศรีร่าย ผบ.พตท. เข้าร่วมด้วย อย่างไรก็ตามในการประชุมสัมมนาครั้งนี้ ไม่อนุญาตให้สื่อมวลชนเข้าร่วมรับฟังแต่อย่างใด ท่ามกลางมาตรการการรักษาความปลอดภัยอย่างรัดกุมของเจ้าหน้าที่ ทั้งบริเวณโรงแรมและหน้าห้องประชุม
          พล.อ.สนธิ เปิดเผยภายหลังการประชุมว่า ปัญหาในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้เป็นปัญหาหลักที่คนใน 3 จังหวัดแก้เพียงอย่างเดียวคงไม่ได้ แต่ต่อไปนี้จะให้ทั้ง 14 จังหวัดเข้ามาให้ความร่วมมือและช่วยกันแก้ ทั้งในภาคองค์กรศาสนาโดยเฉพาะคณะกรรมการอิสลามทั้ง 14 จังหวัด และในภาคของประชาชน ซึ่งปัญหาของ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้หากมีจังหวัดข้างเคียงเข้ามาช่วยจะเป็นขวัญกำลังใจและทำ ให้การแก้ปัญหาง่ายขึ้น ทั้งนี้การพบปะกับผู้นำศาสนาทั้ง 14 จังหวัดภาคใต้ในครั้งนี้ ตนได้อธิบายแนวทางการแก้ปัญหาในทิศทางเดียวกัน
          อย่างไรก็ตาม ก่อนการประชุม นายแวดือราแม มะมิงจิ ประธานคณะกรรมการอิสลามประจำ จ.ปัตตานี ได้ยื่นจดหมายเปิดผนึกให้กับ พล.อ.สนธิ พร้อมกับเปิดเผยว่า ข้อเรียกร้องที่ได้ยื่นให้กับ พล.อ.สนธิ คือ ต้องการให้ภาครัฐให้ความสำคัญในเรื่องของการศึกษาของเยาวชน และควรมีหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมารับผิดชอบในเรื่องของกระบวนการจัดการศึกษา ทั้งระบบ และเรื่องของทุนการศึกษา เพราะการศึกษาจะเป็นส่วนสำคัญต่ออนาคตของเยาวชนในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ เพราะจะสามารถพัฒนาศักยภาพของคนในพื้นที่และไม่ตกเป็นเครื่องมือของกลุ่มผู้ ไม่หวังดี ซึ่งทาง พล.อ.สนธิ รับที่จะประสานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้
          ด้าน นายประยงค์ รัตนพันธ์ รอง ผวจ.สงขลา เป็นประธานในพิธีทำบุญตักบาตรพระภิกษุสงฆ์ 109 รูป ที่บริเวณสนามฟุตบอล รร.มหาวชิราวุธสงขลา เขตเทศบาลนครสงขลา โดยจะนำข้าวสารอาหารแห้งที่ได้รับจากการทำบุญตักบาตร ไปถวายให้กับพระสงฆ์ 266 วัด ในพื้นที่ 4 จังหวัดชายแดนภาคใต้ สำหรับการจัดพิธีทำบุญตักบาตรในครั้งนี้จะร่วมถวายสังฆทานเพื่อนำภัตตาหาร ถวายแด่พระสงฆ์ 266 วัด และอุทิศส่วนกุศลให้กับผู้เสียชีวิตในจังหวัดชายแดนภาคใต้
          ส่วนนายอารีย์ วงศ์อารยะ รมว.มหาด ไทย เปิดเผยถึงกรณีที่มีข้อเสนอให้ยกเลิกเคอร์ฟิวในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ช่วง   ระยะเวลาถือศีลอดในเดือนรอมฎอนนั้น ตนได้เสนอเรื่องไปแล้วแต่ขณะนี้นายกรัฐมนตรียังไม่ได้พิจารณา เนื่องจากติดภารกิจ และหากยกเลิก  ได้ก็จะเป็นประโยชน์ เพราะช่วงเวลาการทำละหมาดจะเพิ่มขึ้นเกินเวลา 21.00 น. ด้าน พ.อ.ธนาธิป สว่างแสง โฆษก กอ.รมน. กล่าวถึงสถานการณ์ในภาคใต้ ว่า ได้เน้นย้ำดูแลข้าราชการครูเป็นพิเศษ พร้อมขอความร่วมมือกับประชาชนให้ช่วยสอดส่องดูแลเป็นหูเป็นตาให้เจ้าหน้าที่ ด้วย
          เมื่อเวลา 16.00 น. วันเดียวกัน ร.ต.ต.พงษ์พันธุ์ คำวุ้น สภ.ต.โกตาบารู อ.รามัน จ.ยะลา รับแจ้งเหตุยิงกันบนเทือกเขาบ้านดุซงตาวา หมู่ 3 ต.มือมัง อ.รามัน พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหาร รุดไปตรวจสอบที่เกิดเหตุพบศพนายอาลียะ แมะแซ อายุ 48 ปี อยู่บ้านเลขที่ 37/2 หมู่ 3 บ้านดุซงตาวา ซึ่งเป็น ผช.ผู้ใหญ่บ้านฝ่ายรักษาความสงบ สภาพศพถูกยิงด้วยปืนเอ็ม 16 เข้าตามลำตัวหลายนัด ห่างออกไปพบศพนายบือราเฮง ลีเกียะ อายุ 28 ปี และนาย   ซาการียา มะซุเป๊ะ อายุ 29 ปี นอนเสียชีวิตอยู่ใกล้กัน สภาพศพถูกยิงด้วยปืนลูกซองเข้าที่ลำตัวและศีรษะ
          จากการสอบสวนนายอันบาฮา แมะแซ อายุ 20 ปี ลูกชายนายอาลียะ ให้การว่า ขณะที่ตนและบิดากำลังกลับบ้านพัก ได้มีคนร้ายซึ่งทราบชื่อภายหลัง คือนายบือราเฮง และนายซาการียา ใช้ปืนยิงใส่พวกตน จนบิดาเสียชีวิต ขณะที่ตน ซึ่งเป็น ชรบ.ของหมู่บ้าน ใช้ปืนลูกซองยาวยิงตอบโต้กับคนร้าย จนทั้งหมดถูกยิงเสียชีวิต สำหรับนายซาการียา มะซุเป๊ะ เป็นคนร้ายที่ทางราชการเพิ่งตั้งรางวัลนำจับ 5 แสนบาท รวมถึงนายบือราเฮง ลีเกียะ ก็เช่นกันมีรางวัลนำจับ 3 แสนบาท ในคดีความมั่นคงหลายคดีที่เกิดขึ้น ซึ่งทั้งสองเป็นแนวร่วมก่อความไม่สงบระดับ หัวหน้าปฏิบัติการชุดคอมมานโด ที่ก่อเหตุในพื้นที่เขต อ.รามัน จ.ยะลา          ถัดมาเมื่อเวลา 19.00 น. พ.ต.อ.    กรีรินทร์ อินทร์แก้ว รอง ผบก.ภ.จว.ปัตตานี  ได้นำกำลังตำรวจ ทหาร กว่า 30 นาย เข้าปิดล้อมบริเวณบ้านฮอแตกูแล หมู่ 3 ต.เตราะบอน อ.สายบุรี หลังจากสายข่าวรายงานว่ามีผู้ต้องหาตามหมายจับเข้ามาหลบซ่อนตัวในพื้นที่ กระทั่งสามารถจับกุม นายยาการียา มะ อายุ 30 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับที่ จ.56/2550 ลงวันที่ 5 ก.พ. 50 ในคดีฆ่าและเผา นายนนท์ ไชยสุวรรณ ผอ.โรงเรียนชุมชนบางเก่า อ.สายบุรี เมื่อวันที่ 24 พ.ย. 49 ทั้งนี้ จากการสอบปากคำเบื้องต้นผู้ต้องหาให้การปฏิเสธ อย่างไรก็ตาม ในการจับกุมครั้งนี้ถือว่าสามารถตัดเขี้ยวเล็บของกลุ่มขบวนการในพื้นที่ได้ เนื่องจากข้อมูลในทางลับพบว่า ผู้ต้องหารายนี้เป็นถึงระดับแกนนำในพื้นที่ และเคยก่อเหตุอุกฉกรรจ์มาแล้วหลายครั้ง.--จบ--

          --เดลินิวส์ ฉบับวันที่ 9 ก.ย. 2550--

ขอบคุณมากครับ คุณ  ฺฅนเมืองชล ..  ::002::


หัวข้อ: Re: เรื่องจากเหตุการณ์จริง
เริ่มหัวข้อโดย: ครูชอบปืน ที่ มกราคม 14, 2010, 11:53:56 AM
ผญบ. เก่งมากครับ มีสติกับตัวเอง
ใจกล้าหาญมาก แม้ไม่รู้ว่าคนร้ายมากี่คน
แต่ท่านก็สู้ เป็นกำลังใจให้กับ จนท. ทุกคนที่ อยู่ 3 จชต. ด้วยครับ


หัวข้อ: Re: เรื่องจากเหตุการณ์จริง
เริ่มหัวข้อโดย: เขาใหญ่ ที่ มกราคม 14, 2010, 12:04:47 PM
ไม่ทราบว่า เพื่อนบ้าน ใช้ปืนอะไรครับ เป็นเพื่อนบ้านที่น่านับถือจริงๆ  ::002::

ระยะ ๗ ถึง ๘ เมตร ท่านสมาชิก จะเลือกอะไรก่อนครับ ระหว่างลูกซองปั๊มป์ที่ยิงได้ไม่เร็วเท่าซิกซาวเออร์ และเกะกะด้วยเวลาแอบข้างหน้าต่าง

ผู้ใหญ่บ้านรู้ตัวก่อน ลงมือก่อนจึงได้เปรียบ

โจรลงมือก่อน พ่อเลยเสียชีวิต แต่ลูกก้อมีสติและยิงแม่นโจรเลยตาย 2ศพ

ถ้าเข้าระยะยิง และฝ่ายรับรู้ตัวก่อน เราคือฝ่ายกำหนดการยิงได้ก่อน ควรเป็นลูกซองยาวที่เป็นปืนหลัก
การยิงโดยไม่ต้องเล็ง และอานุภาพของกระสุนลูกซองยาว และยิงก่อนอีกฝ่ายจะตั้งหลักได้ ถ้าเลือกใช้ปืนที่ดี และเหนือกว่า จะปิดเกมส์ ได้เร็วครับ

เหตุการณ์ที่เกิดในเวลา ใกล้กับเรื่องนี้
บิดากับบุตร ขึ้นเขา และเข้าไปสู่จุดซุ่ม บิดาใช้ .๔๕  ถูกอีกฝ่ายยิงตาย ส่วนบุตร ใช้ ลูกซองปั้ม ๕ นัด ยิงอีกฝ่ายตายไป ๒  ทั้ง ๒ โจร มีค่าหัวคนละ ๕๐,๐๐๐.-



หัวข้อ: Re: เรื่องจากเหตุการณ์จริง
เริ่มหัวข้อโดย: EniGMa46 ที่ มกราคม 14, 2010, 12:42:26 PM
คิดว่าคนร้ายไม่รู้จุดที่ผู้ใหญ่บ้านแอบอยู่ด้วยครับ   ที่สำคัญคือรู้ตัวก่อนว่ามีความผิดปกติ 

นี่ถ้าเลี้ยงหมาไว้ด้วยจะแจ่มมากครับ    ;) มุสลิมไม่เลี้ยงหมา หรอครับ  พึ่งรู้

          ผู้ใหญ่บ้านเป็นมุสลิมไม่เลี้ยงหมาครับ   ;D ;D ;D 


หัวข้อ: Re: เรื่องจากเหตุการณ์จริง
เริ่มหัวข้อโดย: ลุมพินี08 ที่ มกราคม 14, 2010, 12:47:09 PM
น่าเห็นใจทุกๆท่านที่อยู่ในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนใต้ ปืนคงเลื่อนอันดับขึ้นมาเป็นปัจจัยที่ 1 แล้ว แต่ปัญหาคือหาซื้อยากเหลือเกินแถมราคาก็มหาโหด


หัวข้อ: Re: เรื่องจากเหตุการณ์จริง
เริ่มหัวข้อโดย: EniGMa46 ที่ มกราคม 14, 2010, 12:51:31 PM
ผมว่า จากสำนวนที่ อ่าน ผมว่า ผู้ใหญ่บ้าน ใช้ ปืนพกสั้น ยิงก่อนจนหมดแมก :<< ละครับ เพราะ มีการยิงเตือนไป 1 นัดก่อน  ::008::
แล้วโดนยิงถล่ม :OO พอหมดแมก แล้วก็ ต่อด้วยลูกซอง แถมมี ลูกซองของเพื่อนบ้าน ร่วมด้วย ไม่ หมอบหมดทุกคนก็ถือว่า โจรยังไม่ถึงฆาต  ::003::  ผู้ใหญ่ก็ใจเด็ดครับ ยิงขู่ไปก่อน  ::002::




ผมว่า งานนี้ ลูกซองน่าจะเข้าเป้า มากกว่า  อิอิ  ::008:: ::008:: ::008::


หัวข้อ: Re: เรื่องจากเหตุการณ์จริง
เริ่มหัวข้อโดย: pimuk ที่ มกราคม 14, 2010, 03:30:43 PM
ไม่ทราบว่า เพื่อนบ้าน ใช้ปืนอะไรครับ เป็นเพื่อนบ้านที่น่านับถือจริงๆ  ::002::

ระยะ ๗ ถึง ๘ เมตร ท่านสมาชิก จะเลือกอะไรก่อนครับ ระหว่างลูกซองปั๊มป์ที่ยิงได้ไม่เร็วเท่าซิกซาวเออร์ และเกะกะด้วยเวลาแอบข้างหน้าต่าง

          เพื่อนบ้านใช้ลูกซองปั๊มห้านัดของทางราชการเช่นกันครับ  เป็น ชรบ.เหมือนกับผู้ใหญ่บ้านครับ

          เป็นผมถ้าเลือกได้คงใช้ลูกซองอัตโนมัติครับ  แต่ถ้าตามเหตุการณ์ผมขอใช้ซิกซาวเออร์ซัดให้หมดแม็กก่อนเลยครับ  :D

ผมคงเลือกปืนสั้นเหมือนกัน เพราะผมยิงเร็วกว่าซองปั๊มป์

คิดว่าคนร้ายไม่รู้จุดที่ผู้ใหญ่บ้านแอบอยู่ด้วยครับ   ที่สำคัญคือรู้ตัวก่อนว่ามีความผิดปกติ 

นี่ถ้าเลี้ยงหมาไว้ด้วยจะแจ่มมากครับ    ;) มุสลิมไม่เลี้ยงหมา หรอครับ  พึ่งรู้
          

ผู้ใหญ่บ้านเป็นมุสลิมไม่เลี้ยงหมาครับ   ;D ;D ;D


มุสลิมเกลียดหมา เห็นเมื่อไหร่ฆ่าหมด แต่ชอบเลี้ยงแพะ   สมัยเด็กๆ ผมชนกับแพะเล่นเป็นประจำ แพะใช้หัว แต่ผมใช้ฝ่าเท้ายันเข้าหน้าผาก แพะกลิ้งไปสองสามเมตร มันยังวิ่งเข้ามาปะทะอีกสองสามรอบ

แล้วเวลาแข่งฟุตบอลกับทีมมุสลิม พนันตังค์ ๒๐๐ บาท แข่งได้สิบนาที คนถือตังค์พาตังค์หนีทุกที  ต้องไล่ตามไปชกกัน ;D


หัวข้อ: Re: เรื่องจากเหตุการณ์จริง
เริ่มหัวข้อโดย: pimuk ที่ มกราคม 14, 2010, 03:37:08 PM
นสพ. ฉบับเดียว รายงานเหตุการณ์นับไม่ถ้วน น่ากลัวจริงๆ 


หัวข้อ: Re: เรื่องจากเหตุการณ์จริง
เริ่มหัวข้อโดย: I3enzkung ที่ มกราคม 14, 2010, 04:24:37 PM
ขอเป็นกำลังใจให้ผู้ใหญ่บ้านท่านนี้ และ เพื่อนพี่น้องชาวไทยใน3จังหวัดชายแดนภาคใต้ต่อไปนะครับ ปล.ผู้ใหญ่บ้านฉลาดรอบคอบและมีสติดีมากครับ ::014::


หัวข้อ: Re: เรื่องจากเหตุการณ์จริง
เริ่มหัวข้อโดย: วายุ - รักในหลวง ที่ มกราคม 14, 2010, 04:37:05 PM
ขอชมว่า ผญบ. ตั้งสติได้ดีมากครับ


หัวข้อ: Re: เรื่องจากเหตุการณ์จริง
เริ่มหัวข้อโดย: Enruoblem ที่ มกราคม 15, 2010, 09:22:39 PM

คนละคน เพราะรายนี้ บิดาตาย..ส่วนลูกชายรอด  

อ่านจากข่าว ประมาณว่า
เหตุกิดขะณะเดินอยู่ในป่า บนเขา ไปทำธุระอะไรสักอย่าง คนร้าย มี ๓ คน มีอาวุธปืนสงคราม ยิงถูกบิดาที่ใช้ .๔๕  ที่เดินนำหน้า เสียชีวิตทันที 
ลูกชายอายุไม่ถึง ๒๐ ถือ ๘๗๐ ตามมาข้างหลัง ยิงสวน ถูกคนร้าย ตายคาที ๒ คน เป็นโจรมีค่าหัวคนละ ๕๐,๐๐๐  จำได้เพียงเท่านี้ นะครับ.  
::014::ขอบคุณครับ


หัวข้อ: Re: เรื่องจากเหตุการณ์จริง
เริ่มหัวข้อโดย: Tืa์M๊ ┇รัnใuxaวJ ที่ มกราคม 16, 2010, 12:22:42 AM
ยิงก่อน...ค่อยถาม นี้คือคติพจน์ของคาวบอยรุ่นเดอะ ที่ยังใช้ได้เสมอ
ปล.ภาวะสงครามเช่นนี้ ยิงไปเถอะครับ  เพื่อชีวิตของเราและคนที่คุณรัก


หัวข้อ: Re: เรื่องจากเหตุการณ์จริง
เริ่มหัวข้อโดย: bhornchat ที่ มกราคม 17, 2010, 10:46:37 PM
การใช้อาวุธในพิ้นที่สามจังหวัดมีกรณีศึกษามากมายครับ
ผู้ใหญ่บ้านท่านนี้มีการะวังป้องกันที่ดีและมีอาวุธเหมาะสม
การตั้งรับด้วยปืนลูกซองยาวปั๊มจะได้เปรียบในระยะ 30 เมตรลงมา
อำนาจการยิงด้วยลูก 9 เม็ดต่อเนื่องจะหยุดยั้งสกัดกั้นได้ดี
หากมีลูกกรดติดกล้องช่วยยิงอีกสักกระบอกจะยืดระยะถึง 50 เมตร
ส่วน 11 มม.ที่เหมาะสมที่สุดในภาคใต้ก็น่าจะเป็นซิกซาวเอ้อร์นีแหละ
เพราะขึ้นลำลดนกไว้ได้ ฉุกเฉินก็เหนี่ยวดับเบิ้ลได้เลย ไกดีทำให้แม่น
ตอนอยู่ใต้ผมใช้ 1991ของหลวง (ผมยืม ทบ.)  ลูกน้องผมทั้งทีมก็ใช้ตัวเดียวกัน
ผมใช้สลับกับสตาร์พีดี .45 ที่เพื่อนรักโอนให้   ซิงเกิ้ลทั้งคู่    กลัวไม่ทันเหมือนกัน
อยากได้ซิกซาวเอ้อร์ก็ไม่มีตังค์ อ้อ บ้านที่นั่น ควรใช้อิฐมอญก่อกันลูกปืนได้ทุกชนิด
ขอบคุณท่านอัยการเจ้าของกระทู้ที่ให้แลกเปลี่ยนความเห็นกันครับ ขอให้เจริญก้าวหน้า
ท่านที่อยู่ในพื้นที่  ผมเป็นห่วง  หากมีข้อถาม  เชิญได้ทั้งที่บอร์ดกับทางอีเมล์ครับ
ผมพอมีประสบการณ์บ้าง   อาจมีความเห็นแนะนำเพื่อนๆ น้องๆ ทางใต้ได้บ้างครับ
ขอให้ทุกท่านปลอดภัยเสมอครับ     

 


หัวข้อ: Re: เรื่องจากเหตุการณ์จริง
เริ่มหัวข้อโดย: Yoshiki_Silencer - รักในหลวง ที่ มกราคม 18, 2010, 12:34:25 PM
การใช้อาวุธในพิ้นที่สามจังหวัดมีกรณีศึกษามากมายครับ
ผู้ใหญ่บ้านท่านนี้มีการะวังป้องกันที่ดีและมีอาวุธเหมาะสม
การตั้งรับด้วยปืนลูกซองยาวปั๊มจะได้เปรียบในระยะ 30 เมตรลงมา
อำนาจการยิงด้วยลูก 9 เม็ดต่อเนื่องจะหยุดยั้งสกัดกั้นได้ดี
หากมีลูกกรดติดกล้องช่วยยิงอีกสักกระบอกจะยืดระยะถึง 50 เมตร
ส่วน 11 มม.ที่เหมาะสมที่สุดในภาคใต้ก็น่าจะเป็นซิกซาวเอ้อร์นีแหละ
เพราะขึ้นลำลดนกไว้ได้ ฉุกเฉินก็เหนี่ยวดับเบิ้ลได้เลย ไกดีทำให้แม่น
ตอนอยู่ใต้ผมใช้ 1991ของหลวง (ผมยืม ทบ.)  ลูกน้องผมทั้งทีมก็ใช้ตัวเดียวกัน
ผมใช้สลับกับสตาร์พีดี .45 ที่เพื่อนรักโอนให้   ซิงเกิ้ลทั้งคู่    กลัวไม่ทันเหมือนกัน
อยากได้ซิกซาวเอ้อร์ก็ไม่มีตังค์ อ้อ บ้านที่นั่น ควรใช้อิฐมอญก่อกันลูกปืนได้ทุกชนิด
ขอบคุณท่านอัยการเจ้าของกระทู้ที่ให้แลกเปลี่ยนความเห็นกันครับ ขอให้เจริญก้าวหน้า
ท่านที่อยู่ในพื้นที่  ผมเป็นห่วง  หากมีข้อถาม  เชิญได้ทั้งที่บอร์ดกับทางอีเมล์ครับ
ผมพอมีประสบการณ์บ้าง   อาจมีความเห็นแนะนำเพื่อนๆ น้องๆ ทางใต้ได้บ้างครับ
ขอให้ทุกท่านปลอดภัยเสมอครับ    

 

          ด้วยความยินดีครับ   ;D ;D ;D
 
          ถ้าหากท่าน bhornchat  มีประสบการณ์เกี่ยวกับใช้อาวุธปืนในสามจังหวัดภาคใต้

หากนำมาลงเป็นกรณีศึกษาให้กับพี่ ๆ ในเว็บบอร์ดเพื่อเป็นกรณีศึกษาก็คงจะดีไม่น้อยครับ

          ขอขอบคุณไว้ล่วงหน้าครับ  ::014:: ::014:: ::014::


หัวข้อ: Re: เรื่องจากเหตุการณ์จริง
เริ่มหัวข้อโดย: ก๋อไต๋ ที่ มกราคม 18, 2010, 01:09:44 PM
ค่าหัว8แสนใครจะได้ครับ...สงสัยจัง


หัวข้อ: Re: เรื่องจากเหตุการณ์จริง
เริ่มหัวข้อโดย: N. tob ที่ มกราคม 18, 2010, 01:58:44 PM
ขอชม ผญบ.คับสู้ได้ถึงใจจริงๆคับ นับถือท่านคับ


หัวข้อ: Re: เรื่องจากเหตุการณ์จริง
เริ่มหัวข้อโดย: swat11 ที่ มกราคม 19, 2010, 12:02:01 AM
ผมว่า ผู้ใหญ่ยิงลูกซองไปนัดแรก โดนโจรคนแรก อีกสามคนแตกกระเจิงหาที่หลบ ตอนยิงลูกซองนี้เล็งออกมาจากหน้าต่างได้เพราะโจรยังไม่รู้ตัว
ที่โดนคนเดียวคงเพราะมันมืดยิงสุ่มไปตามเงา อีกสามนัดไม่โดนเพราะ โจรหาที่กำบัง
จากนั้น ผู้ใหญ่เอาตัวสั้นมายิง แต่ตอนนี้ไม่ง่ายแล้วโจรยิงเข้ามาทางหน้าต่าง ผู้ใหญ่คงยื่นแต่มือยิงสุ่มแบบไม่ได้เล็ง โดนคนที่คลานหนี้เพราะลูกซอง
เพื่อนที่เหลือบอกถอยได้แล้วตำรวจกำลังแห่กันมา เพื่อนอีกคนกำลังจะเข้าไปลากเพื่อน โดนยิงไปอีกคน ที่เหลือหลบจนเสียงปืนเงียบรีบหยิบปืนหนี
ส่วนที่โดนกระจกบาดเพราะตอนยิงตัวสั้นเอามือยื่นไปแล้วกระจกแตกใส่บาดมือ
ผมก็คิดเอามั่วๆนะครับ เป็นตัวผมเองก็คงดับไฟ ยิงชุดแรกจากนั้น นั่งรอในบ้านดักทางประตู เพราะกลัวไม่กล้าไปยิงสวน  :~)

ปล.ผู้ใหญ่เก่งมากครับ  ::002::


หัวข้อ: Re: เรื่องจากเหตุการณ์จริง
เริ่มหัวข้อโดย: khwanphet_NAVY 39 ที่ มกราคม 19, 2010, 08:32:56 AM
........................................น่านับถือจริงๆครับท่าน...................... ::014::


หัวข้อ: Re: เรื่องจากเหตุการณ์จริง
เริ่มหัวข้อโดย: @Ten ที่ มกราคม 23, 2010, 01:05:32 PM
http://www.gunsandgames.com/smf/index.php?topic=30707.0 (http://www.gunsandgames.com/smf/index.php?topic=30707.0)

ดูข่าวภาคค่ำ ผู้ใหญ่กูเฮงโดนระเบิดได้รับบาดเจ็บ 

บึ้ม! ผู้ใหญ่บ้านดีเด่นปัตตานีพร้อม ชรบ.บาดเจ็บ 
 
โดย ผู้จัดการออนไลน์ 5 กุมภาพันธ์ 2550 11:04 น.
 
 
       ปัตตานี – คนร้ายลอบวางระเบิดผู้ใหญ่บ้านดีเด่น ปัตตานี พร้อม ชรบ.ขณะเดินทางไปประชุมประจำเดือน ทำให้รถเสียหลักได้รับบาดเจ็บรวม 3 คน ขณะเดียวกันอดีตผู้ใหญ่บ้านวัย 66 ปีถูกคนร้ายประกบยิงขณะวางของขายในตลาดนัดอาการสาหัส
       
       วันนี้ (5 ก.พ.) เวลา 08.50 น. พ.ต.ท.นิคม เสือกล้า รอง ผกก.สภ.อ.โคกโพธิ์ จ.ปัตตานี ได้รับแจ้งเหตุระเบิดบนถนนสายบ่อทอง ม.4 บ้านบาซาเอ ต.นาเกตุ อ.โคกโพธิ์ จ.ปัตตานี มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 3 ราย คือ นายกูเฮง สะอิ ผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 3 บ้านควนลาแม ต.นาเกตุ อ.โคกโพธิ์ นายมูฮัมหมัดรอซี มะเด็ง เป็น ชรบ.หมู่บ้าน และนายไชวิทย์ ดือมิงหมัด เป็น ชรบ.หมู่บ้าน
       
       ขณะเกิดเหตุทั้ง 3 คนได้ขับรถยนต์ออกจากบ้านเพื่อไปประชุมประจำเดือน แต่ระหว่างทางคนร้ายได้กดชนวนระเบิดบนถนนสายบ่อทอง หมู่ที่ 4 บ้านบาซาเอ ทำให้ทั้ง 3 คนได้รับบาดเจ็บ เนื่องจากรถเสียหลักและเกิดอุบัติเหตุ แต่ไม่ได้โดนระเบิด ส่วนนายกูเฮง สะอิ เป็นผู้ใหญ่บ้านดีเด่นเนื่องจากเมื่อ 2 เดือนที่ผ่านนายกูเฮง ได้ยิงตอบโต้คนร้ายตาย 2 คน
       
       หลังจากเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำกำลังเข้าไปตรวจสอบที่เกิดเหตุบริเวณทางเบี่ยงหัวสะพาน ซึ่งอยู่ในระหว่างก่อสร้างสะพาน แรงระเบิดทำให้รถยนต์โตโยต้าไฮลักซ์แบบ 4 ประตู สีบรอนขาว ทะเบียน กข 9417 ปัตตานี สภาพรถถูกแรงระเบิดทำให้เครื่องยนต์พัง ล้อหน้าด้านซ้ายปริวตกห่างจากที่เกิดเหตุประมาณ 200 เมตร ด้วยอานุภาพของแรงระเบิดทำให้เกิดหลุมลึก 8 ซม.กว้าง 210 ซม.
       
       ในที่เกิดเหตุพบชิ้นส่วนถังเคมีดับเพลิง แผงรีโมทย์กันขโมยของรถยนต์กระจัดกระจายอยู่ในบริเวณที่เกิดเหตุ ส่วนคนเจ็บทั้ง 3 คน ได้นำส่งรักษาตัวที่โรงพยาบาลโคกโพธิ์ จ.ปัตตานี
       
       ส่วนสาเหตุของการลอบวางระเบิดในครั้งนี้เจ้าหน้าที่สันนิษฐานว่าเป็นการสร้างสถานการณ์ร้ายรายวันใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้
       
       เวลาไล่เลี่ยกัน พ.ต.ท.วีรชาติ คูหามุก รอง ผกก.สภ.อ.หนองจิก ได้รับแจ้งเหตุคนร้ายก่อเหตุยิงนายประยูร จินดารัตน์ อายุ 66 ปี อดีตผู้ใหญ่บ้าน 87 ม.5 ต.ยาบี ได้รับบาดเจ็บสาหัส เหตุเกิดบริเวณตลาดนัดท่ากุโบ ม.2 ต.ปูโล๊ะปูโย อ.หนองจิก จ.ปัตตานี เหตุเกิดในขณะนำสินค้าลงจากรถเพื่อมาขายในตลาดนัด ได้มีคนร้ายเดินเข้ามาประกบยิงด้วยอาวุธปืนพกสั้นไม่ทราบขนาดจำนวน 1 นัด เข้าบริเวณลำตัวได้รับบาดเจ็บสาหัส ส่วนสาเหตุอยู่ระหว่างสืบสวนสอบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจ


ผู้ใหญ่แกเฮงสมชื่อจริงๆครับ คนดีผีคุ้ม


หัวข้อ: Re: เรื่องจากเหตุการณ์จริง
เริ่มหัวข้อโดย: @Ten ที่ มกราคม 23, 2010, 01:12:35 PM
ผญบ.ดวลเดือด ยิงโจรป่วนใต้ตาย2
 
"ตรวจสอบที่เกิดเหตุพบผู้บาดเจ็บและศพคนร้าย"

เมื่อกลางดึกวันที่ 17 ธ.ค. พ.ต.ท.นฤชา สุวรรณลาภา รอง ผกก.ป.สภ.อ.โคกโพธิ์ จ.ปัตตานี รับแจ้งมีเหตุผู้ใหญ่บ้านยิงต่อสู้กับคนร้าย ที่บ้านเลขที่ 3 หมู่ 3 บ้านควนลาแม ต.นาเกตุ จึงพร้อมด้วย พล.ต.ต.ก่อเกียรติ วงศ์วรชาติ ผบก. นำกำลังตำรวจและทหารกว่า 50 นาย รุดไปสอบสวนพบคนเจ็บ 2 คนชื่อนายกูเฮง สะอิ อายุ 45 ปี เจ้าของบ้าน และเป็นผู้ใหญ่บ้านในท้องที่ดังกล่าว ถูกยิงด้วยอาวุธปืนอาก้าที่บริเวณหน้าอก และนายดือราแม เจ๊ะเด็ง เพื่อนบ้านถูกยิงที่ขาขวานำส่ง รพ.โคกโพธิ์

นอกจากนั้น พบศพคนร้ายถูกยิงนอนตายในชุดพราง 2 ศพ ชื่อนายอุสมาน ปาเนาะ อายุ 27 ปี ผู้ต้องหามีหมายจับคดีความมั่นคง สภ.อ.โคกโพธิ์ และนายอารมณ์ เจ๊ะนุ อายุ 30 ปี อยู่บ้านเลขที่ 35/1 หมู่ 2 ต.เปียน อ.สะบ้าย้อย จ.สงขลา ผู้ต้องหาคดียิงเจ้าหน้าที่ ถูกยิงด้วยปืนลูกซองร่างพรุน ที่เอวห้อยตะกรุด ตรวจค้นในศพนายอารมณ์พบบัตรประจำตัวประชาชนของนายอับดุลเลาะ มะมิง อายุ 32 ปี อยู่บ้านเลขที่ 59/9 หมู่ 2 ต.เปียน จึงยึดไว้ตรวจสอบ ส่วนในที่เกิดเหตุพบปลอกกระสุนปืนอาก้า กับปืนเอ็ม 16 และปืนพกกระจายเกลื่อนร่วม 50 ปลอก เสื้อเกราะ 1 ตัว กระเป๋าเป้สีดำภายในพบเสื้อชุดพรางและแผนที่การก่อเหตุด้วย

 
(http://tnews.teenee.com/crime/img8/25734.jpg)

(http://tnews.teenee.com/crime/img8/25740.jpg)
 
"ผญบ.กล้าหาญ ยิงคนร้ายดับ 2 ศพ"

นายกูเฮงเล่าเหตุการณ์ว่า ขณะเกิดเหตุกำลังอยู่ในบ้านกับครอบครัว มีคนร้ายไม่ต่ำกว่า 5 คน บุกเข้ามาล้อมบ้านแล้วใช้ปืนกราดยิงถล่มกระสุนถูกฝาบ้านปรุพรุน ระหว่างนั้นได้ตะโกนบอกให้ทุกคนหมอบกับพื้น แล้ววิ่งไปคว้าปืนลูกซองยาวมายิงสู้กับคนร้ายจนหมดกระสุน จึงหันมาใช้ปืนพก 11 มม. ปักหลักยิงสู้กับคนร้ายดุเดือด ขณะเดียวกัน มีเพื่อนบ้านมาช่วยยิงสู้กับคนร้ายจนถูกยิงบาดเจ็บ ส่วนคนร้ายเห็นท่าไม่ดีพากันล่าถอยหนีเข้าป่าโดยทิ้งศพเพื่อนที่ถูกยิงตายไว้ในที่เกิดเหตุ

ด้าน พล.ต.ต.ก่อเกียรติ วงศ์วรชาติ ผบก.ภ.จ.ปัตตานี เปิดเผยว่า เหตุการณ์บุกยิงผู้ใหญ่บ้านครั้งนี้เชื่อว่าคนร้ายต้องการสร้างสถานการณ์ และพยายามโยนความผิดให้เจ้าหน้าที่เป็นผู้กระทำ เนื่องจากคนร้ายใส่เสื้อพรางแบบทหารทุกคน สำหรับนายกูเฮงผู้ใหญ่บ้านที่ถูกยิงบาดเจ็บนั้น ขอยกย่องชมเชยว่ามีความกล้าหาญเด็ดเดี่ยว และมีไหวพริบสามารถยิงคนร้ายตายถึง 2 ศพ ขณะนี้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจกระจายกำลังไล่ล่าและเข้าตรวจค้นในพื้นที่ต้องสงสัยทุกจุด เนื่องจากเชื่อว่าคนร้ายถูกยิงบาดเจ็บไปอีก 1 คน แต่เพื่อนช่วยพาหลบหนี เนื่องจากพบรอยเลือดในที่เกิดเหตุ

(http://tnews.teenee.com/crime/img8/25737.jpg)

ต่อมาเวลา 11.00 น. พล.ต.อ.อชิรวิทย์ สุพรรณเภสัช รอง ผบ.ตร พล.ต.ท.อดุลย์ แสงสิงแก้ว ผช.ผบ.ตร เดินทางมาเยี่ยมปลอบขวัญแก่นายกูเฮง สะอิ ผู้ใหญ่บ้านใจเด็ด ที่นอนรักษาตัวใน รพ.โคกโพธิ์ โดย พล.ต.อ.อชิรวิทย์ได้มอบเงินให้จำนวนหนึ่งให้กับนายกูเฮงเพื่อเป็นขวัญกำลังใจช่วยเหลือครอบครัว พล.ต.อ.อชิรวิทย์เปิดเผยว่า ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจะจัดกำลังคุ้มครองความปลอดภัยนายกูเฮงและครอบครัวอย่างเต็มที่ และทราบว่าฝ่ายทหารจะจัดชุดเข้าไปคุ้มครองและเข้ากดดันแนวร่วมในหมู่บ้าน 
 
 


หัวข้อ: Re: เรื่องจากเหตุการณ์จริง
เริ่มหัวข้อโดย: steam.รักในหลวง ที่ มกราคม 23, 2010, 01:16:19 PM
     เป็นกำลังใจให้ผู้ใหญ่บ้านกูเฮงครับ


หัวข้อ: Re: เรื่องจากเหตุการณ์จริง
เริ่มหัวข้อโดย: @Ten ที่ มกราคม 23, 2010, 01:23:03 PM
แด่พ่อ...ด้วยดวงใจ(อยากให้รู้-ให้ดู-ให้อ่าน)

จากใจ...“อัมรัน สะอิ” พ่อจะไม่มีวันเดินอย่างเดียวดาย


(http://www.oknation.net/blog/home/blog_data/107/107/images/dad.jpg)               


(http://www.oknation.net/blog/home/blog_data/107/107/images/dad1.jpg)


(http://www.oknation.net/blog/home/blog_data/107/107/images/kuheang4.jpg)

ท่ามกลางบรรยากาศแห่งวันพ่อ ที่อบอวลไปด้วยกลิ่นพุทธรักษา ภาพอันน่าปลาบปลื้ม ที่ปรากฏให้เห็นกันทั่วบ้านทั่วเมือง คือลูกที่ดีทั้งหลายคงมีโอกาสกราบเท้า แสดงออกซึ่งความรักที่บุตรพึงมีต่อบุพการี


เฉกเช่นชีวิตของ ฮัมรัน สะอิ หนุ่มน้อยวัย 17 ปี บุตรคนเล็กของ นายกูเฮง สะอิ ผู้ใหญ่บ้านแห่งควนลาแม ต.นาเกตุ อ.โคกโพธิ์ จังหวัดปัตตานี ที่เลือกจะแสดงพฤติกรรมรักพ่อทุกวัน ทุกลมหายใจ โดยการขอยืนเคียงบ่าเคยงไหล่กับผู้ให้ชีวิตของเขาตลอดไป


เรื่องราวระหว่างความรักของพ่อ-ลูก ในพื้นที่ชายแดนใต้คู่นี้ ผมเคยนำเสนอต่อสมาชิกชาวบล็อกมาแล้วครั้งหนึ่ง เมื่อวันที่ 23พฤษภาคม 2550 แต่วันนี้ในขออีกทีกับเรื่องราว แด่พ่อ...ด้วยดวงใจ ของฮัมรัน สะอิ ที่ผมขอยกให้เป็นลูกแห่งปี หวังว่าสมาชิกโคเคเนชั่น คงไม่ว่าอะไร และคงร่วมให้กำลังใจหนุ่มน้อยคนนี้ให้มีโอกาสอยู่กับพ่อของเขาไปนานตราบนานเท่านาน


หลังจาก กูเฮง สะอิ ผู้ใหญ่บ้านควนลาแม ต.นาเกตุ อ.โคกโพธิ์ จ.ปัตตานี รอดพ้นจากความตายด้วยเงื้อมมือของคนร้ายที่ลอบสังหารอย่างหวุดหวิดถึงสองครั้งสองครา...โทษฐานไม่ยอมก้มหัว ซ้ำยังประกาศจุดยืนตรงข้ามกับกลุ่มโจรชัดเจน...ทุกวันนี้ทุกย่างก้าวของเขาจึงเต็มไปด้วยอันตรายอย่างยิ่งยวด


แม้เขาจะรู้ดีว่า...ใครบ้างคือ "มิตร" ...ใครกันคือ "ศัตรู" แต่เมื่อเขาอยู่ในที่แจ้ง...ผิดกับโจร ซึ่งซุ่มรอจังหวะอยู่ในที่มืด...โอกาสที่จะ "พลาดท่า" ย่อมมีอยู่แทบทุกฝีก้าว !!!


สภาพชีวิตทุกวันนี้ของผู้ใหญ่กูเฮง จึงต้องอยู่อย่างหวาดระแวง และต้องระแวดระวังอย่างที่สุด ซึ่งนอกจากลักษณะของบ้าน ซึ่งไม่ต่างจากป้อมปราการแล้วก็ยังต้องมี ชรบ.คอยคุ้มกันอยู่รอบๆ บ้าน 8-10 คน


แต่ถึงจะคุ้มกันเข้มถึงเพียงนี้...ในหัวใจของคนใน "ครอบครัวสะอิ" ก็ไม่เคยอุ่นใจอย่างแท้จริงแม้สักวัน!


ฮัมรัน สะอิ หนุ่มน้อยวัย 17 ปี ซึ่งเป็นลูกคนเล็กของบ้าน และกำลังศึกษาใน ร.ร.ศาสน์สามัคคี ต.ตุยง อ.หนองจิก จ.ปัตตานี จึงขันอาสา "คุ้มครองความปลอดภัย" ให้ผู้เป็นพ่อเสมือนเงาตามตัว โดยไม่เกรงกลัวภัย อันตรายที่ฝ่ายตรงข้ามพยายามจ้องหาโอกาสที่จะลงมืออยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน


ฮัมรัน บอกว่า หลังจากพ่อถูกซุ่มโจมตีจนเฉียดตายมาแล้วถึง 2 ครั้ง เขาจึงเริ่มหัดจับปืนครั้งแรกเมื่อ 2 ปีก่อน เพราะต้องการคุ้มครองความปลอดภัยของพ่อ ซึ่งต้องออกตรวจตราพื้นที่อยู่ทุกวัน


เขารู้ดีว่า ลำพังความกล้าเพียงอย่างเดียวคงไม่พอที่จะปกป้องชีวิตของผู้เป็นบิดาให้พ้นภัย อันตรายได้แน่ เพราะวันนี้สถานการณ์เปลี่ยนไป และศักยภาพของฝ่ายตรงข้ามก็ไม่ใช่อยู่ในระดับธรรมดา เพราะแม้แต่เจ้าหน้าที่ของรัฐยังตกเป็นเหยื่อสังเวยความรุนแรงให้เห็นมาแล้วนับไม่ถ้วน


ด้วยเหตุนี้ เขาจึงตัดสินใจเสริมทักษะการป้องกันตัว และการใช้อาวุธจาก "หน่วยรบพิเศษ" นานกว่า 1 สัปดาห์ โดยเป็น "หลักสูตรเร่งรัด" แต่ก็ต้องผ่านการฝึกหนักชนิด  "แทบคลานกลับบ้าน" หลังจบคอร์ส


"ผมตั้งใจฝึกหนักชนิดที่ไม่เคยพบมาก่อนในชีวิต เพราะตั้งใจว่าจะดูแลพ่อให้ได้อย่างสมภาคภูมิ ไม่ใช่ได้ชื่อว่ามีโอกาสถือปืน เพราะเป็นลูกผู้ใหญ่บ้านเท่านั้น" ฮัมรัน กล่าวด้วยความมุ่งมั่น


หนุ่มน้อย ซึ่งเป็นทายาทของผู้ใหญ่บ้านกระดูกเหล็กแห่งบ้านควนลาแม ย้ำว่า ชีวิตของผู้เป็นพ่อทุกวันนี้ยิ่งกว่าแขวนไว้บนเส้นด้าย เพราะฝ่ายตรงข้ามไม่มีวันรามือแน่


ยิ่งคำประกาศกลางมัสยิดหมู่บ้านของพ่อ ซึ่งเหมือนระบุว่า สิ่งที่ใครบางคนในชุมชนกำลังทำอยู่เป็นสิ่งที่ขัดต่อบทบัญญัติของศาสนาอย่างสิ้นเชิง...มันเหมือนเป็นการ "ประกาศสงคราม" อย่างชัดแจ้ง


"ผมรู้ว่าการแสดงจุดยืนของพ่อยิ่งทำให้ฝ่ายตรงข้ามเล่นไม่เลิกแน่" ฮัมรัน กล่าวด้วยความวิตก


กระนั้น ถึงจะต้องเผชิญกับอันตรายสักเพียงใด แต่ฮัมรันก็พร้อมจะยืนเคียงข้างพ่อเสมอ แม้จะรู้ดีว่าจะต้องเผชิญชะตากรรมอย่างไรบ้าง


"ผมรู้สึกภูมิใจในสิ่งที่พ่อสอนให้เรารู้จักว่าการใช้ชีวิตภายใต้บัญญัติหลักศาสนาที่ถูกต้อง และเที่ยงแท้นั้นเป็นอย่างไร" ฮัมรัน แน่วแน่ที่จะสืบทอดปณิธานของผู้เป็นพ่ออย่างเต็มที่


อีกสิ่งหนึ่งซึ่งฮัมรัน  "รู้ซึ้ง" จากประสบการณ์เฉียดตายของพ่อคือคำว่า "เพื่อนแท้" แท้จริงเป็นเช่นไร


"หลายคนในหมู่บ้านถูกชักจูงให้เชื่อในสิ่งที่ไม่ถูกต้อง และในจำนวนนั้นก็มีเพื่อนที่รู้จักกันมาตั้งแต่เด็กด้วย แม้แต่คนที่มายิงพ่อก็รู้จักกันดี วันนี้จึงพอจะนับหัวได้ว่า ใครคือมิตรแท้ของเรา"


นอกเหนือจากการคอยระวังภัยให้พ่อแล้ว ทุกวันนี้เขายังร่วมภารกิจลาดตระเวนรักษาความปลอดภัยภายในหมู่บ้านร่วมกับ ชรบ. เพื่อดูแลความเรียบร้อยในพื้นที่ โดยเฉพาะในละแวกบ้าน ส่วนในยามว่างจากภารกิจอื่นๆ แล้ว หนุ่มน้อยจะไม่ไปไหนไกลบ้าน เพราะสมาชิกในครอบครัวก็ตกอยู่ในที่นั่งลำบากไม่แพ้กัน


"องค์อัลเลาะห์กำหนดเอาไว้แล้วว่าสิ่งที่กำลังทำขณะนี้เป็นหน้าที่ของบุตรที่พึงมีต่อบิดามารดาตามหลักคำสอนทุกศาสนามิใช่หรือ ผมเชื่อว่าคงไม่มีใครยอมให้คนอื่นมาทำร้ายชีวิตผู้มีพระคุณเหมือนที่ผมกำลังทำอยู่ในทุกวันนี้แน่นอน"  ฮัมรัน กล่าวทิ้งท้ายด้วยความมุ่งมั่น


*****************************************

พ่อผม เฉียดตายมาแล้ว 2 ครั้ง

ครั้งแรก เมื่อวันที่ 19 ธันวาคม 2549 ถูกกลุ่มโจรนับสิบซุ่มยิงคาบ้าน และถูกยิงได้รับบาดเจ็บสาหัส แต่กลับแข็งใจยิงสู้จนคนร้ายต้องสังเวยชีวิตไปถึง 2 ศพ


ครั้งที่สอง เมื่อวันที่ 4 กุมภาพันธ์ 2550 ถูกลอบวางระเบิดบนถนนสายนาเกตุ-บาซาเอ ขณะขับรถกระบะพร้อมเพื่อนอีก 2 คน เพื่อร่วมประชุมกำนัน ผู้ใหญ่บ้านที่ อ.โคกโพธิ์ จ.ปัตตานี แรงระเบิดทำให้รถกระบะพังยับ เจ้าตัวและเพื่อนที่โดยสารมาด้วยได้รับบาดเจ็บ แต่ก็รอดชีวิตมาได้ราว "ปาฏิหาริย์" อีกครั้ง

+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

 ::014:: ::014:: ::014::

ขอสิ่งศักสิทธิ์ของทุกศาสนา จงคุ้มครองผู้ใหญ่บ้านกูเฮง สะอิ และครอบครัว
รวมถึงเจ้าหน้าที่ในพื้นที่ทุกท่าน พี่น้องคนไทยที่เป็นคนไทยด้วยตัวและหัวใจในพื้นที่สามจังหวัดชายแดนทุกคน ให้ปลอดภัยจากภัยอันตรายและการลอบทำร้ายจากพวกนอกศาสนาด้วยครับ


ผมอยากเป็นส่วนหนึ่งที่ร่วมบริจาคสนับสนุนหาเสื้อเกราะแบบ Level-IIIA ที่สามารถกันกระสุน M16&AK47 ได้
ให้แกได้ไว้ใช้จัง มีทางจะเป็นไปได้ไหม ท่านสมาชิกที่พอจะมีข้อมูลช่วยแนะนำด้วยครับ


หัวข้อ: Re: เรื่องจากเหตุการณ์จริง
เริ่มหัวข้อโดย: @Ten ที่ มกราคม 23, 2010, 01:28:02 PM
ท่านผู้ใหญ่บ้าน กูเฮง สะอิ แห่งบ้านควนลาแม
http://www.gunsandgames.net/smf/index.php?topic=37606.0 (http://www.gunsandgames.net/smf/index.php?topic=37606.0)


หัวข้อ: Re: เรื่องจากเหตุการณ์จริง
เริ่มหัวข้อโดย: khwanphet_NAVY 39 ที่ มกราคม 23, 2010, 01:32:35 PM
..................................สุดยอดครับ.......ซึ้งครับท่าน............................. ::014::


หัวข้อ: Re: เรื่องจากเหตุการณ์จริง
เริ่มหัวข้อโดย: @Ten ที่ มกราคม 23, 2010, 01:37:34 PM
“ผมขออยู่กับความถูกต้อง” ปากคำผู้ใหญ่กระดูกเหล็กมือปราบ อาร์.เค.เค     
วันอาทิตย์ที่ 25 มีนาคม 2007 10:05น. 
อับดุลเลาะ  หวังหนิ
สถาบันข่าวอิศรา สมาคมนักข่าวนักนักสือพิมพ์แห่งประเทศไทย
http://www.isranews.org/cms/index.php?option=com_content&task=view&id=1849&Itemid=58 (http://www.isranews.org/cms/index.php?option=com_content&task=view&id=1849&Itemid=58)

(http://www.isranews.org/cms/images/pictures/march07/250307/picture1_032.jpg)

“ผมได้ประกาศอย่างเปิดเผยว่า ตัวเองจะขออยู่ฝ่ายตรงข้ามกับกลุ่มคนร้าย ผมขออยู่กับความถูกต้อง  ผมกล้าที่จะเผชิญชะตากรรมกับสิ่งที่รุนแรงที่สุดในชีวิต  เพียงเพื่อได้ยึดมั่นอยู่กับความถูกต้องและเที่ยงแท้เท่านั้นเอง”

นายกูเฮง สะอิ ผญบ. กระดูกเหล็กแห่งบ้านควนลาแม ตำบลนาเกตุ อำเภอโคกโพธิ์ จังหวัดปัตตานี ซึ่งรอดตายจากการถูกแนวร่วมอาร์.เค.เคในพื่นที่ ลอบฆ่าอย่างหวุดหวิดมาสองครั้งสองครา

ในเวลาห่างกันแค่สองเดือนเศษ กล่าวกับ ศูนย์ข่าวอิศราฯ ด้วยน้ำเสียงเรียบๆ ทว่าเด็ดเดี่ยว หนักแน่น แต่ประกายตาของคนหนุ่มวัยฉกรรจ์ที่ย่าง 45 วูบลงเล็กน้อย เมื่อพูดถึงวันเวลาข้างหน้าที่อะไร ๆ ก็หาความแน่นอนไม่ได้

“คนเราเมื่อยังไม่ถึงเวลา ต่อให้ทำยังไงก็ไม่สามารถทำอะไรเขาได้หรอก” เขายืนยันจากความรู้สึกที่ยึดมั่นอยู่กับเอกองค์อัลเลาะห์ (ซ.) พระผู้เป็นเจ้าผู้ทรงกำหนดทุกสิ่งทุกอย่าง  รวมทั้งความเป็นความตายของทุกสรรพชีวิต ตามที่เขาได้เรียนรู้มาตั้งแต่วัยเยาว์


เหตุเกิดที่บ้านควนลาแม

บ้านควนลาแมเป็นหมู่บ้านขนาดกลางกว่าร้อยหลังคาเรือน ลูกบ้านร้อยเปอร์เซ็นต์เป็นมุสลิม  ก่อนหน้านี้ชาวบ้านอยู่กินเป็นปกติสุขเสมอมา  แม้จะมีคนขนานนามว่าเป็นหมู่บ้านชุมโจร เนื่องจากเป็นแหล่งส้องสุมของโจรอิทธิพลที่มักออกไปปล้นสะดมแล้วกลับมากบดานอยู่ในพื้นที่  แต่โจรพวกนั้นก็ไม่เคยสร้างความเดือดร้อนให้ชาวบ้านเลย กลับช่วยเหลือชาวบ้านอย่างดี  ชาวบ้านนี้จึงรักโจร เป็นหูเป็นตาให้ด้วยซ้ำไป  แต่พอโจรนักเลงตายไปทีละคนสองคนจนหมด  หมู่บ้านนี้ก็คืนสู่ความสงบเรียบร้อยอีกครั้งหนึ่ง  หลักการศาสนาอิสลามได้รับการปฏิบัติเหมือนเดิม  สันติภาพภายในหมู่บ้านทำให้ลูกบ้านทุกคนมีโอกาสได้ลิ้มลองความสุข หน้าชื่นตาบ้านโดยถ้วนหน้า  แต่ก็เป็นอยู่ชั่วประเดี๋ยวประด๋าวเท่านั้น  มันช่างไม่ยั่งยืนเอาเสียเลย

เพราะจากนั้นไม่นานก็เกิดเรื่องไม่สงบจนได้   หมู่บ้านนี้กลายเป็นเป้าหมายของขบวนการอาร์เคเคที่ต้องการขยายฐานจัดตั้งเพื่อไปบรรลุอุดมการณ์แบ่งแยกดินแดน แนวร่วมพวกนี้เริ่มต้นโฆษณาชวนเชื่อโดยกล่าวหารัฐไทยว่าไม่มีความชอบธรรม พร้อมเรียกร้องคนมลายูปัตตานีให้ลุกขึ้นสู้ปลดปล่อยตนเอง มีความพยายามให้คนไทยมุสลิมมองคนไทยพุทธเป็นศัตรูอย่างผิดๆ  ขบวนการได้ใช้เล่ห์เพทุบายและวิธีการทุกอย่าง ทั้งเกลี้ยกล่อม หว่านล้อม ขู่เข็ญ รวมทั้งลงมือสังหารเอาชีวิตคนอย่างง่าย ๆ  ถึงกับประกาศในมัสยิดไม่ให้ชาวบ้านให้ความร่วมมือ เป็นสาย หรือร่วมมือกับเจ้าหน้าที่รัฐอย่างเด็ดขาด  มีการโฆษณาว่า การทำร้ายคนนอกศาสนาไม่บาป  และอ้างว่าเลือดของมุสลิมที่ทรยศหักหลังมุสลิมด้วยกัน “ฮาลาล” หรือเป็นที่อนุมัติให้ฆ่าได้ตามกฎศาสนาอิสลาม ซึ่งร้ายแรงและผู้นำมุสลิมในพื้นที่ส่วนมากไม่อาจยอมรับได้

เหตุการณ์ที่บ้านควนลาแมเริ่มต้นด้วยกลุ่มก่อความไม่สงบลอบเผาโรงเรียนของหมู่บ้าน ตามด้วยเผาตู้โทรศัพท์ เผายางตามถนน โรยตะปูเรือใบสกัดรถของเจ้าหน้าที่ เผาไม้ที่กั้นตรวจของชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน (ชรบ.) เผาป้อม ชรบ.  ฯลฯ  เหตุการณ์ทั้งหมดนี้ใช่ว่าลูกบ้านส่วนใหญไม่ได้จะเห็นด้วย  เป็นหน้าที่ของ ผญบ. ที่จะต้องดูแลความสงบสุขของหมู่บ้าน  และขอความร่วมมือจากทุกคนให้รักษาความสงบ  นี่เองคือที่มาของการหมายปองเอาชีวิตกูเฮง ผญบ. และนายมะ สมาชิก อบต. นาเกตุจากบ้านควนลาแมว่า เลือดของเขาทั้งสองเป็นที่อนุมัติให้ฆ่าได้โดยไม่บาป  ทั้ง ๆ ที่ไม่ผ่านกระบวนการไต่สวน (ผู้ถูกกล่าวหา) ตามหลักศาสนาอิสลามก่อนแต่อย่างใด


ผู้ใหญ่ใจเพชร

(http://www.isranews.org/cms/images/pictures/march07/250307/img_7551.jpg)
ภาพ : รถผญบ.ที่โดนระเบิดเมื่อวันที่ 4 ก.พ. 2550

นายกูเฮง สะอิ ผญบ. บ้านควนลาแมถูกคนร้ายจำนวนหนึ่งบุกลอบยิงที่บ้านของเขาเองราว 3 ทุ่มเศษในคืนวันที่ 19 ธันวาคม 2549  แต่เขาได้ใช้อาวุธยิงต่อสู้ป้องกันตัวเองถูกคนร้ายเสียชีวิต 2 ราย ทำให้เขาได้รับรางวัล ผญบ.ดีเด่น ประจำปีโดย ฯพณฯ พลเอกสุรยุทธ จุลานนท์ นายกรัฐมนตรี เดินทางไปมอบด้วยตัวเองที่จังหวัดปัตตานีเมื่อวันที่  27 มราคมที่ผ่านมา  แต่แล้วเช้าวันที่ 4 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ขณะกูเฮงกับเพื่อนคู่ใจอีกสองคน ได้แก่นายมูฮัมมัดมะรอรี เจะเด็ง อบต.จากบ้านควนลาแม  และนายไชยวิทย์ ตือบิงหมะ  เดินทางขับขี่รถยนต์กระบะ 4 ประตู ยี่ห้อโตโยต้า วีโก้ สีบรอนซ์เงิน หมายเลขทะเบียน กข 9417 ปัตตานี ออกจากบ้านพัก เพื่อไปประชุมกำนันผู้ใหญ่บ้าน ณ ที่ว่าการอำเภอโคกโพธิ์  ได้ถูกวางระเบิดบนถนนสายบ้านนาเกตุ-บาซาเอ บริเวณทางเบี่ยงสะพานบ้านคล้องช้าง ม.4  ต.นาเกตุ อ.โคกโพธิ์  ทำให้รถยนต์กระบะที่ทั้งสามขับขี่มาเสียหายยับเยิน โชคดีที่รอดชีวิตมาได้อีกครั้งหนึ่ง แต่ก็ได้รับบาดเจ็บโดยถ้วนหน้า 

“คนร้ายรับรู้ความเคลื่อนไหวของผมโดยตลอด  วันนั้นเป็นวันประชุมประจำเดือนของกำนันผู้ใหญ่บ้านที่ที่ว่าการอำเภอ  พวกคนร้ายจงใจเล่นงานผมโดยตรง กะเอาให้ตายให้ได้  พวกมันยอมปล่อยรถของทหารชุดคุ้มครองครูให้ผ่านไปก่อน  จากนั้นเพียง 15 นาที พอรถผมมาถึงจุดเกิดเหตุ  พวกมันก็กดรีโมตระเบิดรถผม เห็นไหมว่าพวกมันจงใจเอาชีวิตผมโดยตรงเลย” ผู้ใหญ่กูเฮงกล่าว  “แต่ถ้าผมยังมีชีวิตอยู่ต่อไป อย่าหวังเลยว่าผมจะยอมให้กลุ่มขบวนการเข้ามาเคลื่อนไหวในพื้นที่ของผมอย่างสะดวก”

“หลังเกิดเหตุการณ์ครั้งหลังนี้ ชาวบ้านส่วนใหญ่เกิดความรู้สึกต่อต้านขบวนการมากขึ้น ชาวบ้านพากันประณามฝ่ายขบวนการก่อการร้ายเพิ่มขึ้นทุกขณะ” เขากล่าวต่อ  “อีกไม่นานพวกนั้นจะอยู่ในหมู่บ้านเราไม่ได้  แม้พวกเราจะโดนเล่นงานแค่ไหน ผมถือว่าสำหรับพวกเรามันเกินคุ้ม แต่มันไม่คุ้มค่าสำหรับพวกนั้นเลย  เวลานี้ชาวบ้านส่วนใหญ่เข้าใจดีในสิ่งที่เกิดและเป็นอยู่ในพื้นที่ดี  ต่างจากเมื่อก่อนนี้ ที่ชาวบ้านเกือบทั้งหมดฟังแต่พวกเขาอยู่ฝ่ายเดียว...”  กูเฮงระบายความในใจด้วยความรู้สึกโล่งอกโล่งใจขึ้นอีกอักโข  แต่เราก็จับความรู้สึกอีกกะผีกหนึ่งในหลืบมุมหนึ่งของหัวใจ ผญบ. ดีเด่นท่านนี้ได้  เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในหมู่บ้านควนลาแมและหมู่บ้านใกล้เคียงหลาย ๆ ครั้งย่อมแสดงถึงศักยภาพของขบวนการอาร์เคเคและแนวร่วมมากพอสมควร   จะเห็นได้ว่าคนร้ายสามารถเคลื่อนไหวได้อย่างอิสระมากทีเดียว  ตัวอย่างเหตุการณ์ล่าสุดที่คนร้ายได้วางวัตถุระเบิดแสวงเครื่องน้ำหนัก 15 กิโลกรัม โดยบรรจุในถังก๊าซ จุดชนวนด้วยรีโมทคอลโทรล ฝังไว้ใต้ผิวถนน ซึ่งส่งผลให้รถของ ผบญ.กูเฮง เสียหลักกระเด็นออกข้างทางถนน แรงระเบิดทำให้ตัวถังรถด้านหน้าพังยับเยิน เหตุการณ์นี้ใช่ว่าจะเกิดขึ้นซ้ำไม่ได้  และเป็นไปได้ที่อาจเกิดเหตุร้ายที่รุนแรงหรือร้ายแรงกว่านี้วันหนึ่งข้างหน้า


การรักษาความความปลอดภัย

ทุกวันนี้ชาวบ้านต้องการให้มีทหารเข้ามาอยู่ในพื้นที่เพื่อดูแลความสงบเรียบร้อย มีทหารเข้ามาลาดตระเวนในหมู่บ้านทุกวัน   ชาวบ้านเริ่มเป็นมิตรที่ดีกับทหารพรานที่เข้ามาตั้งฐานและปักหลักอยู่ในพื้นที่    แม้กระนั้นผลกระทบจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นก็ทำให้การดำรงชีวิตของชาวบ้านเปลี่ยนไปจากเดิมมาก  ในช่วงนี้ถ้าไม่มีธุระจำเป็นจริงๆ ก็ไม่มีชาวบ้านคนไหนอยากออกไปไหนต่อไหนเหมือนแต่ก่อน ยกเว้นมีความจำเป็นจริงๆ  แต่ชาวบ้านก็จะนัดออกไปพร้อม ๆ กันหลาย ๆ คน  มีความระมัดระวังตัวมากขึ้น เพราะชาวบ้านทราบดีว่ากลุ่มแนวร่วมรู้ความเคลื่อนไหวภายในหมู่บ้านตลอด

“ตอนนี้มีทหารพรานมาตั้งฐานอยู่ในหมู่บ้านเต็มไปหมด  ถ้าเป็นเมื่อก่อนชาวบ้านคงไม่ยอมให้เข้ามา” เขากล่าว “ผมเองก็ต้องระวังตัวมากกว่าเก่า  ถ้าไม่มีธุระจำเป็นผมจะไม่ออกไปไหนเลย  สิ่งของจำเป็นในครัวเรือนกำนันท่านช่วยเป็นธุระจัดหามาให้ทั้งนั้นแหละครับ”

(http://www.isranews.org/cms/images/pictures/march07/250307/img_72051.jpg)
ภาพ : รับรางวัล ผญบ.ดีเด่น ประจำปีจากนายกรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 27 มกราคม 2550

ผญบ. เจ้าของรางวัลดีเด่นฯ รู้ดีว่า กลุ่มแนวร่วมขบวนการกำลังรอจังหวะที่จะลอบทำร้ายตนอีก  ทางการจึงได้วางมาตรการรักษาความปลอดภัยในหมู่บ้าน โดยนอกจากจัดให้ทหารพรานเข้าไปตั้งฐานในหมู่บ้านถึงหนึ่งกองร้อยแล้ว ส่งผลให้กลุ่มแนวร่วมไม่สามารถเข้ามาเคลื่อนไหวในหมู่บ้านได้สะดวกแล้ว  ยังจัดชุด ช.ร.บ. เข้าไปประจำการณ์เพิ่มอีก โดยแบ่งเป็น 2 ชุด ชุดละ 7-8 คน เวียนกันเฝ้าระวังหมู่บ้านตลอด  24 ชั่งโมง

“ชาวบ้านรักและห่วงใยผมมาก ผมดีใจและซาบซึ้งใจ  ถึงแม้เงินค่าตอบแทนจะลดลง ชรบ. พวกนี้ก็ยังตั้งใจทำงานเต็มร้อย คือทั้งเต็มใจและเต็มที่ว่างั้นเถอะ  เพือให้หมู่บ้านของเรามีความสงบสุขเหมือนเดิม”

การทำงานของชาวบ้านและเจ้าหน้าที่ สามารถควบคุมตัวผู้ต้องสงสัยได้แล้ว 11 คน ซึ่งเป็นคนในหมู่ 4 บ้านคลองช้าง หมู่ 4 บ้านควนดิน และหมู่ 5 บ้านปูโล๊ะปูโย ทั้ง 3 หมู่นี้เป็นพื้นที่เคลื่อนไหวของกลุ่มแนวรวมขบวนการอาร์เคเค   “แต่เราจะสบายไม่ได้ ตอนนี้พวกนั้นคงแค้นมาก  ไม่นานจะมีการแก้เค้นแน่นอนร้อยเปอร์เซ็นต์  นี่ก็ได้ยินข่าวลือกันแซ่ดทั่วหมู่บ้านว่า  พวกมันจะโจมตีครั้งใหญ่”  กูเฮงเล่าพร้อมกับบอกเราว่า เขาเองจะต้องระวังตัวเป็นพิเศษ

เขาเชื่อและมั่นใจว่าเหตุการณ์ร้ายทั้งหมดล้วนเป็นน้ำมือของคนกลุ่มเดียว เชื่อว่าในหมู่บ้านคลองช้างทั้งหมู่ 4 และหมู่ 7  มีหน่วยรบพิเศษของอาร์เคเคเคลื่อนไหวอยู่  ในช่วงวันที่ 16 ธันวาคมปีที่แล้วซึ่งได้มีคนร้ายบุกถล่มบ้านผู้ใหญ่ฯ มีคนในหมู่บ้านหายไปสิบคน  ถึงตอนนี้ก็ยังไม่กลับมา  พวกที่หายไปนี้คงไปตั้งหลักและจะกลับมาแก้แค้นอีกอย่างแน่นอน

การเยียวยา

หลังจากเกิดเหตุการณ์เกิดขึ้นครั้งล่าสุด  กูเฮงได้รับการช่วยเหลือจากชมรมกำนัน จังหวัดตรังเป็นเงินจำนวน 25,000 บาท ชมรมกำนันจังหวัดสงขลาจำนวน 17,000 บาท อำเภอโคกโพธิ์ 5,000 บาท ช่วยเยียวยาทั้งร่างกายละจิตใจของเขา ทำให้เขามีแรงที่จะฮึดลุกขึ้นสู้กับคนร้ายต่อไป ไม่ว่าจะเป็นใคร หน้าไหน   สำหรับรถกระบะที่โดนระเบิดเสียหายนั้น  กูเฮงบอกว่าอยากให้ทางภาคช่วยรีบซ่อมแซ่มให้ได้ใช้งานเหมือนเดิมโดยเร็ว  เพราะตอนนี้เขาไม่มีรถใช้แล้ว ลำบากมาก   อีกเรื่องหนึ่งที่เขายังค้างคาใจอยู่ก็คือ  เงินค่าหัวโจรที่เสียชีวิตจากเหตุการณ์ที่คนร้ายถล่มบ้านของเขาเมื่อ 19 ธันวาคมปีที่แล้ว  เมื่อไหร่จะตกเบิกเสียที
 
ทางด้านนายนิพนธ์  อินทรสกุล นายอำเภอโคกโพธิ์กล่าวว่า ได้จัดหน่วยทหารพรานเข้าไปประจำการอยู่ในพื้นที่เพื่อรักษาความปลอดภัยและสร้างขวัญกำลังใจให้กับชาวบ้าน  รวมทั้งผู้ใหญ่บ้านโดยตลอด ทางอำเภอได้ให้ความช่วยเหลือเบื้องต้นในเรื่องข้าวสาร อาหารแห้งให้กับชุด ชรบ.ที่เฝ้าเวรยามหมู่บ้านโดยไม่ขาด  สำหรับกูเฮง ทางอำเภอได้มอบเงินเยียวยาเบื้องต้นจำนวน 10,000 บาท  ในเรื่องรถของผู้ใหญ่กูเฮงที่ได้รับความเสียหายนั้น ทางอำเภอก็ได้ทำเรื่องแล้ว  เบื้องต้นนี้ทางอำเภอได้ประสานขอความอนุเคราะห์จากบริษัทฯ ในเรื่องหนี้สินของนายกูเฮง  คงเรียบร้อยดี  สำหรับเงินส่วนที่เหลืออีก 75 เปอร์เซ็นต์ ขณะนี้ได้ส่งเรื่องไปให้ทางจังหวัดพิจารณาเพื่ออนุมัติแล้ว

 เราหวังว่า ทางการจะให้ความเป็นธรรมและไม่ทอดทิ้งชาวบ้านควนลางา และท่านผู้ใหญฯ กูเฮง วีรบุรุษใจเพชรของเรา ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น  เราภาวนาว่า ความสันติสุขจะกลับมาโดยเร็วสำหรับทุก ๆ ฝ่าย ไม่ว่าท่านจะมีสีผิว ภาษา เชื้อชาติ และศาสนาใด เพราะเราคือคนไทย...คนไทยที่มีในหลวงทรงเป็นที่รักของเราทุก ๆ คนโดยเท่าเทียมกัน  พระองค์ผู้ทรงไม่เคยเลือกที่รักมักที่ชังสำหรับราษฎรของพระองค์เลย
 


หัวข้อ: Re: เรื่องจากเหตุการณ์จริง
เริ่มหัวข้อโดย: khwanphet_NAVY 39 ที่ มกราคม 23, 2010, 02:00:39 PM
.....................ขอเป็นกำลังใจครับสู้ๆ.................. ::014:: ::014:: ::014:: ::014:: ::014:: ::014:: ::014::................. ::014::..


หัวข้อ: Re: เรื่องจากเหตุการณ์จริง
เริ่มหัวข้อโดย: @Ten ที่ มกราคม 23, 2010, 02:13:19 PM
 ::014:: ::014:: ::014::


หัวข้อ: Re: เรื่องจากเหตุการณ์จริง
เริ่มหัวข้อโดย: pimuk ที่ มกราคม 23, 2010, 08:27:28 PM
ด้วยความนับถือครับ


หัวข้อ: Re: เรื่องจากเหตุการณ์จริง
เริ่มหัวข้อโดย: Supakij Kaw ที่ มกราคม 23, 2010, 09:33:07 PM
เก่งจังเลยครับ


หัวข้อ: Re: เรื่องจากเหตุการณ์จริง
เริ่มหัวข้อโดย: saengsakul-รักในหลวง ที่ มกราคม 24, 2010, 05:50:47 AM
                  ขอคารวะ "กูเฮง   สะอิ" ผญบ.บ้านควนลาแม. วีรบุรุษใจเพชรผู้นี้ด้วยความจริงใจ....  ::002:: ::014::