เว็บบอร์ดสนทนาภาษาปืน

  คือเคยฟังข้อกฏหมายมาบ้างว่ากรณีที่ฆ่าชายชู้แบบคาหนังคาเขานั้นกฏหมายเห็นใจว่าศักดิ์ศรีลูกผู้ชายถูกย่ำยีสามีไม่มีความผิด
แต่กรณีนี้ถึงไม่คาหนังคาเขาแต่โดนดูถูกศักดิ์ศรีลูกผู้ชายกันต่อหน้าต่อตาและเชื่อได้ว่าพระรูปนี้มีพฤติกรรมดังข้อกล่าวหาจริง
จึงอยากทราบว่ากรณีนี้ สามีจะพ้นผิดหรือไม่ครับ
-------------------------------------------------------------------------------------------------
ที่มาของข่าวและรายละเอียดครับ
http://www.ryt9.com/s/bmnd/780400 (http://www.ryt9.com/s/bmnd/780400)

เมื่อวันที่ 18 ม.ค.ที่ผ่านมา เวลา 11.30 น. พล.ต.ต.มณฑล มีอนันต์ ผบก.ภ.จว.ฉะเชิงเทรา พ.ต.ท.ชัยวัฒน์  แป้นสุวรรณ รักษาการ ผกก. สภ.บ้านโพธิ์ จ.ฉะเชิงเทรา ได้นำตัว นายประเทือง พุทธรัตน์ อายุ 47 ปี ผู้ต้องหาก่อเหตุใช้อาวุธปืนลูกซองยิงพระสนม สิงห์ท้าย (จิตวิโร) อายุ 50 ปี ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดใหม่ศรีมงคล ตั้งอยู่พื้นที่ หมู่ 4 ต.แหลมประดู่ มรณภาพคารถเก๋งโตโยต้า โคโรน่า สีฟ้า หมายเลขทะเบียน กค-496 ฉะเชิงเทรา ที่บริเวณหน้าบ้านเลขที่ 100/2 หมู่ 1 ต.แหลมประดู่ อ.บ้านโพธิ์ จ.ฉะเชิงเทรา ซึ่งเป็นบ้านของผู้ต้องหา และเป็นสามีของนางลัดดา อายุ 42 ปี ที่ผู้ตายเดินทางมาหากลางดึก เหตุเกิดขึ้นเมื่อเวลา 21.30 น. ของคืนวันที่ 16 ม.ค.ที่ผ่านมา ตามที่ได้เสนอข่าวไปแล้วนั้น พร้อมด้วยนำของกลางที่ใช้ก่อเหตุ คืออาวุธปืนลูกซองยาว ยี่ห้อเรมิงตัน มีทะเบียน และปลอกกระสุนปืนลูกซองเบอร์ 12 จำนวน 1 ปลอก มาร่วมกันแถลงข่าว ที่ห้องโถงชั้นล่าง สภ.บ้านโพธิ์
        ทั้งนี้ พล.ต.ต.มณฑล กล่าวว่า จากการสอบสวนทราบว่า ผู้ตายมีความสัมพันธ์ด้านชู้สาวกับนางลัดดา ภรรยาของนายประเทือง ที่ผ่านมาก่อนเกิดเหตุผู้ตายเคยเข้ามารับตัวนางลัดดาออกจากบ้านไปร่วมประเวณีกันจำนวนหลายครั้ง จนผู้ต้องหาทราบถึงพฤติกรรมของทั้งคู่ และเคยบอกให้เลิกในการกระทำดังกล่าวเสีย แต่ผู้ตายกลับไม่เชื่อฟัง หรือยอมเลิกรากัน และยังหวนกลับมารับตัวภรรยาของ ผู้ต้องหาไปร่วมหลับนอนกันตามเดิมอีกหลายครั้ง ในวันเกิดเหตุผู้ตายได้ขับรถเก๋งคันดังกล่าวมายังที่บ้านของผู้ต้องหา เพื่อที่จะมารับตัวภรรยาของผู้ต้องหาไปร่วมหลับนอนกันอีก และเป็นจังหวะที่นายประเทืองกลับเข้าบ้านมาพบพอดี จึงได้ใช้อาวุธปืนลูกซองยิงผู้ตายจนเสียชีวิต จำนวน 1 นัด หลังจากก่อเหตุผู้ต้องหายังคงหลบซ่อนตัวอยู่ภายในหมู่บ้าน ก่อนติดต่อกับเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อขอเข้ามอบตัวในที่สุด และเมื่อเวลา 06.00 น. วันที่ 18 ม.ค.53 ผู้ต้องหาจึงได้เดินทางเข้ามอบตัวตามนัดหมาย ที่ สภ.บ้านโพธิ์ พร้อมด้วยของกลางอาวุธปืนลูกซองยาวที่ใช้ในการก่อเหตุ และปลอกกระสุนปืนที่ยังติดคาอยู่ในรังเพลิง จำนวน 1 ปลอก
        พล.ต.ต.มณฑล กล่าวอีกว่า สำหรับคดีที่เกิดขึ้นนี้ ถือเป็นเรื่องที่น่าเห็นใจต่อผู้ก่อเหตุ ที่กระทำการลงไปด้วยความเคียดแค้นและบันดาลโทสะ เนื่องจากภรรยานอกใจ ทั้งที่ได้เคยตักเตือนบอกกล่าวให้เลิกราต่อการกระทำดังกล่าวแล้วก็ตาม และยังมาถูกผู้ตายบุกรุกเข้ามาถึงบ้าน พร้อมพูดจาดูถูกเหยียดหยาม แต่เจ้าหน้าที่ก็จำเป็นต้องสอบสวนดำเนินคดีในข้อหา "ฆ่าผู้อื่นตายโดยเจตนา" สำหรับคดีนี้ทางพนักงานสอบสวนได้ตั้งวงเงินในการประกันตัวไว้ 300,000 บาท และจะอนุญาตให้ประกันตัวไปได้ เนื่องจากผู้ต้องหาเป็นคนที่ตั้งใจทำมาหากิน และมามอบตัวด้วยตนเอง ไม่มีพฤติกรรมหลบหนี
        ขณะที่นายประเทือง กล่าวว่า ตนอยู่กินกับนางลัดดามานานกว่า 20 ปี จนมีบุตรชายด้วยกัน 2 คน บุตรสาว 1 คน และลูกก็โตจนอายุ 18 ปี 15 ปี และ 6 ปีแล้ว มีอาชีพเลี้ยงกุ้ง เลี้ยงปลา ที่ผ่านมานั้นในช่วงเวลากลางคืน ตนจะไปนอนเฝ้าอยู่ที่บ่อเลี้ยงกุ้ง บ่อเลี้ยงปลา ไม่เคยทราบมาก่อนว่าภรรยาของตนแอบมีชู้ จนมาระยะหลังได้เริ่มระแคะระคายจากกระแสข่าวจากปากของชาวบ้านมาบ้างว่า พระในวัดศรีมงคล ซึ่งเป็นหมอทำเสน่ห์ ทำไสยศาสตร์ ได้แอบเข้ามาพบกับภรรยาของตนบ่อยครั้ง และในเวลากลางคืนจะมารับตัวออกไปนอกบ้านด้วยกัน เมื่อทราบเรื่องใหม่ๆ ก็ได้แต่พยายามทำใจเพราะเสียไปแล้ว และตนก็ยังไม่เคยเห็นกับตา จึงได้บอกเตือนทั้ง 2 คนให้เลิกในพฤติกรรมนั้นเสีย แต่ก็ยังไม่ยอมเลิกรา และยังได้พากันหายตัวออกไปจากบ้านเป็นเวลานานนับเดือน จนตนได้เข้าแจ้งความคนหายไว้ที่ สภ.บ้านโพธิ์ แต่แล้วก็กลับมาอีก จนในวันเกิดเหตุ ช่วงหัวค่ำขณะที่กำลังทำงานเฝ้าอยู่ในบ่อเลี้ยงกุ้ง ตนรู้สึกหิวข้าวจึงได้เดินกลับจากบ่อกุ้งเข้ามายังบ้านพัก พร้อมกับได้ถืออาวุธปืนลูกซอง ที่ตนใช้ถือติดตัวในการเฝ้าทรัพย์สินอยู่เป็นประจำมาด้วย เนื่องจากในพื้นที่มีโจรขโมยชุกชุม และไม่ได้ตั้งใจจะมาก่อเหตุ แต่เมื่อมาถึงบ้านก็ได้พบกับพระสนม ที่ได้ขับรถมาถึงที่เกิดเหตุพอดี จึงได้ร้องตะโกนถามผู้ตายว่า "จะไปไหน" โดยที่ผู้ตายกลับพูดจาแบบนักเลงใส่ตนว่า "กูจะมาหาเมีย" ตนจึงถามว่าจะมารับเมียกูไปไหน ผู้ตายตอบว่า "เมียมึง ก็เหมือนเมียกู" จึงทำให้ตนรู้สึกเจ็บปวด และเกิดบันดาลโทสะอย่างมาก จึงได้ใช้อาวุธปืนที่ถือติดมือมายิงเข้าใส่ 1 นัด จากนั้นจึงได้หลบหนีออกจากบ้านไป          บรรยายใต้ภาพ
        มอบตัว  นายประเทือง พุทธรัตน์ ผู้ต้องหาก่อเหตุใช้อาวุธปืนลูกซองยิงพระสนม สิงห์ท้าย (จิตวิโร) ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดใหม่ศรีมงคลมรณภาพคารถ ยนต์ สารภาพถูกย่ำยีศักดิ์ศรีลูกผู้ชาย เข้ามารับเมียรักพาออกจากบ้านไปหลับนอน

      ตกนรกหมกไหม้ครับหลวงพ่อ ::004::

หากเป็นอย่างที่กล่าวจริง ก็ตามนั่นล่ะครับ

สมควรตายแล้วครับ มันผิดทั้งทางโลกและทางธรรมอย่างแรง   8)

สาธุ  ::014:: ::014:: ::014::

ตำรวจก็ต้องตั้งข้อกล่าวหาว่าฆ่าคนตายโดยเจตนา ส่วนผู้ต้องหาก็ต้องสู้ว่าบันดาลโทสะ อยู่ที่พยานหลักฐานว่าฝ่ายใดมีน้ำหนักมากกว่า โจทย์สามารถพิสูจน์จนให้ศาลสิ้นข้อส่งสัยได้หรือไม่ว่ามีเจตนาจริง ๆ  ::014::
ส่วนโล้นหมเหลืองที่ทำเสน่ห์ ทำไสยศาสตร์ ก็เข้าข่าย อวดอุตริมนุสธรรม 1 ใน 4 ข้อ เหตุแห่งการปาราชิก
เหตุแห่งการปาราชิกประกอบไปด้วย1. เสพเมถุน 2. ลักทรัพย์ 3. ฆ่ามนุษย์ 4. อวดอุตริมนุสธรรม

ประเด็นอยู่ที่ว่าจะหาพยานหลักฐานอะไรมาพิสูจน์ว่าเขาเป็นชู้กันจริง

มารศาสนาอาศัยผ้าเหลืองบังหน้า  ::013::

ใครหน่อเป็นเจ้าอาวาส ::010::

พระอายุ ๕๐ ขับรถมาบ้านสีกาอายุ ๔๒ ตอนกลางคืน ๓ทุ่มครึ่ง ถูกยิงมรณาภาพภายในรถ  อืม...ถ้าให้ชัวว์คงต้องถามพยานสำคัญสีกาอีกคน ถ้าเป็นตามที่ผู้ต้องหาพูดผมว่าศาลท่านคงเห็นใจ

เห็นใจผู้ต้องหาครับ แต่ก็ สมน้ำหน้า อลัชชีทุศีล

น่าจะหลุดครับ

  ขับรถไปชนกับชาวบ้านแล้วมรณะภาพก็คงไม่เท่าไหร่  แต่นี่ดันไปเป็นชู้เมียชาวบ้าน
ไหนนักข่าวบอกเป็นเกจิดังเรื่องทำเสน่ห์ยาแฝด  แล้วทำไมไม่ทำให้เขามาหลงตัวเอง
ตรงกันข้ามตัวเองกลับไปหลงเมียชาวบ้านเสียเอง ขับรถไปให้ผัวเขายิงถึงบ้าน  สมควรครับ

เกจิดัง คงคิดว่าตัวเองหนังเหนียว ยิงฟัน ไม่เข้า ครับลุงแป๋ง เจอลูกซองเข้าไปใบ้รับประทานเลย คือพูดไม่ได้ตลอดไป

หนังเหนียวต้องน้ามะเอ็มครับ  ไม่อาบน้ำสักสองวันปาด้วยเหรียญสิบติดหนึบ ::005::

หากฟังจากข้อเท็จจริงรวมทั้งพยานแล้วคิดว่าศาลท่านคงเมตตาครับ...

ไม่น่าเรียกว่ายิงพระครับ ยินคนชั่วดีๆเนี่ยแหละ

ตรงสีแดงจริงหรอครับ ผมไม่ทราบมาก่อน ท่านใดรู้กฎหมายช่วยคอนเฟริมหน่อยครับ

ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๗๒ 

"ผู้ใดบันดาลโทสะโดยถูกข่มเหงอย่างร้ายแรงด้วยเหตุอันไม่เป็นธรรม จึงกระทำความผิดต่อผู้ข่มเหงในขณะนั้น ศาลจะลงโทษผู้นั้นน้อยกว่าที่กฎหมายกำหนดไว้สำหรับความผิดนั้นเพียงใดก็ได้"

 ::004::...ดูข่าวแล้ว.น่าเศร้านะครับ..ถ้าพระทำตัวแบบตามข่าวจริงๆ... :~)

น่าจะอ้างบันดาลโทสะได้นะครับ

ยังไม่เข้าเป็นเรื่องป้องกันตัว ตาม ป.อาญา ม.๖๘  หรือเป็นการกระทำความผิดด้วยความจำเป็น ตาม ป.อาญา ม. ๖๗ ๖๓

แต่เข้า ตาม ป.อาญา ม.๗๒ ตามที่ คุณ ๐๐๓ ให้ความเห็นไว้ครับ  มีความผิดฐานฆ่าคนโดยเจตนา แต่ข้อเท็จจริง
อ้างเหตุ บันดาลโทสะ เพื่อเหตุเบาเทาโทษ โดยศาลจะลงโทษ เพียงใดก็ได้  แต่อาวุธปืน ศาลน่าจะต้องริบ .

  ดูจากคำให้การของจำเลย  ถือว่า เป็นมวย พอสมควร

 สวัสดีปีใหม่ครับพี่ Ro@d

    ขอบคุณครับ  ที่ผมตั้งกระทู้ถามข้อกฏหมายนี้ก็เนื่องจากได้ติดตามฟังข่าวโมเดิร์นนายจากวิทยุ FM 100.5 mHz มีสองกรณีที่ไม่เกี่ยวกันแต่ อาจโยงกันว่า

กรณีคดีแรก ของการหายตัวไปของทนาย สมชาย นีละไพจิตร แม้จะไม่เจอหลักฐานคือศพของท่านทนายสมชายแต่อัยการก็สั่งฟ้องจากพยานแวดล้อมได้

เห็นว่าเป็นคดีแรกในเมืองไทยที่สั่งฟ้องได้แม้ไม่เจอ หลักฐาน

  ส่วนกรณีฆ่าพระเพราะเป็นชายชู้นั้นถึงสามีจะไม่ได้ฆ่าแบบคาหนังคาเขาแต่จากพยานแวดล้อมก็เชื่อได้ว่าพระรูปนั้นทำความผิดเป็นชู้จริง

สองกรณีตรงนี้ผมจึงมองว่านี่เป็นพัฒนาการที่ดีของการบังคับใช้กฏหมายในเมืองไทย ที่ทำให้ผู้กระทำผิดอย่าได้ทะนงตนไปว่าไร้พยานหลักฐานแล้วมือกฏหมายจะทำอะไรไม่ได้ครับ


   ส่วนเหตูการณ์ของพระจะดีเลวอย่างไรสังคมคงจะประณามเอง  ที่ผมข้องใจก็ตรงข้อกฏหมายเท่านั้น จริงๆผมไม้ได้เรียนกฏหมาย หรือ อะไรด้านนี้หรอก
เรียนและทำงานคนละแบบกันเลยแต่ชอบดูหนังแนวฏกหมายว่าความกันในศาลอะไรแบบนี้ บางทีอินขนาดนึกว่าตัวเองเป็น คีนู รีฟ ว่าความในเรื่อง
 Devil advocate เลย

คดีแบบนี้เคยเกิดขึ้น ที่ลาดพร้าว ผู้ต้องหา คือนาย ก. กลับถึงบ้าน พบนางข. กำลังมีอะไรกลับชู้อยู่ในบ้าน นายก.จึงได้ต่อว่านางข. ทำไมถึงทำแบบนี้เดี๋ยวลูกๆมาเห็นเข้า นางข.

ไม่สนใจแถมยังต่อว่านายก. ต่างๆนานาคล้ายกับว่าเด็กๆไม่เกี่ยวเพราะเจี๊ยวเล็ก นายก.จึงเกิดการโมโหวิ่งเข้าครัวได้จึงใช้มีดแทงนางข.ตาย สุดท้ายคดีนี้ศาลท่านยกฟ้องครับพี่

Ro@d

มีอีกคดีหนึ่งที่ดังมากเมื่อ 10 ปีที่ผ่านมา คือลูกถูกวัยรู่นฆ่าตาย วันไปขึ้นศาลแม่ผู้ตายได้เดินไปถามคนฆ่าว่า "มึงฆ่าลูกกูทำไม" ฆาตกรมันตอบไปว่า "กูฆ่าแล้วมึงจะทำไม" ผลฆาตกรโดน .38 ไปหมดโม่ คนยิงรอด

มันก็น่าตายจริงๆนะ ;D ;D

น่าตำหนิหญิงชู้ผู้เป็นภรรยาด้วย  ::004:: ส่วนมารศาสนาเป็นถึงพระระดับชั้นผู้ช่วยเจ้าอาวาส ยังลดละกิเลสตัณหาไม่ได้อีก อยู่ไปก็รกผ้าเหลือง .... ::004:: เป็นใครก็คงบันดาลโทสะ หากเป็นจริงตามที่ผู้ต้องหาให้การ........


อ่านๆดูก็เหมือนกับว่าผู้ต้องหาเตรียมการมาเพื่อการนี้โดยเฉพาะ เนื่องจากถูกย่ำยีมาหลายต่อหลายครั้งหลายหน เห็นใจครับ ::014::


กรณีนี้เจตนาพกปืนไปศาล แล้วยิงจำเลยในศาลเลยเหรอครับ.....  :OO งง งง ครับ ว่าคนยิงรอด ไม่โดนข้อหาอะไรเลยเหรอครับ ?  ::014::

จากเนื้อข่าว

คนเป็นพระแบบนี้สมควรตายครับ  อยู่ไปก็มีแต่ทำให้ศาสนาหม่นหมอง

เห็นใจคนยิงครับ  ศาลท่านคงเมตตาเป็นเหตุให้ยกฟ้องในที่สุด

ตรงทางขึ้นศาลน่าจะเป็นตอนที่กลับบ้านกัน พอแม่ผู้ตายได้ฟังดังนั้นจึงวิ่งไปหยิบปืนในรถมายิงจำเลย สุดท้ายศาลสั่งรอลงอาญาหรืออย่างไรนี้ละครับแต่ไม่ติดคุก

ก่อนมรณะภาพ หวังว่าคงไม่ได้สร้างเหรีญไว้นะครับ ::004::

  ถ้าเสพเมถุนจริงๆ คงพ้นจากความเป็นพระไปนานแล้วครับ

อิ อิ อิ เรื่องนี้ สอบพยานในพื้นที่ได้ เกี่ยวกับพฤติกรรมต่างๆ ที่พอจะคาดได้ว่าเหมาะสมหรือส่อไปในแนวไหน

ปกติลักษณะนิสัยของคนไทย ไม่ชอบพูดถึงคนตายในแง่ไม่ดีอยู่แล้ว  แต่หากงานนี้ ตรงข้ามกัน ก็พอเดาๆได้ครับ

เห็นใจคนยิงครับ ..
ช้างสาร งูเห่า ข้าเก่า เมียรัก อย่าได้วางใจ ...เพลงน้ำตาจ่าโท อมตะจริงๆครับ