เว็บบอร์ดสนทนาภาษาปืน

สนทนาภาษาปืน => หลังแนวยิง => ข้อความที่เริ่มโดย: your-ประชาธิปไตย ที่ พฤษภาคม 06, 2010, 11:41:53 PM



หัวข้อ: กู้หนี้ สร้างหนัง กดดันให้ไปดู มัดมือให้ใช้หนี้
เริ่มหัวข้อโดย: your-ประชาธิปไตย ที่ พฤษภาคม 06, 2010, 11:41:53 PM
เรื่อง ขอคัดค้านการให้เงินสนับสนุนสูงถึง 100 ล้านบาท แก่ภาพยนตร์เรื่อง ตำนานสมเด็จพระนเรศวร
เรียน นาย ธีระ สลักเพชร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม

ตามที่สำนักงานศิลปวัฒนธรรมร่วมสมัย กระทรวงวัฒนธรรม ได้เปิดรับโครงการและกิจกรรมส่งเสริมอุตสาหกรรมภาพยนตร์และวิดีทัศน์ ที่ต้องการขอทุนสนับสนุน จากงบประมาณที่กระทรวงวัฒนธรรมได้รับการอนุมัติมาจากงบไทยเข้มแข็งเป็นจำนวนเงิน 200 ล้านบาท ปรากฏว่ามีผู้ส่งโครงการขอรับการสนับสนุนทั้งสิ้น 295 เรื่อง แต่มีเพียง 49 เรื่องโครงการเท่านั้น ที่ได้รับคัดเลือกให้มีการสนับสนุน โดยที่หนึ่งในนั้น คือ ภาพยนตร์เรื่องตำนานสมเด็จพระนเรศวรภาค 3 และ ภาค 4 ได้รับการสนับสนุนเป็นจำนวนสูงอย่างน่าผิดสังเกต คือ 100 ล้านบาท หรือ คิดเป็นครึ่งหนึ่งของทุนสนับสนุนทั้งหมด

พวกข้าพเจ้าในฐานะผู้สร้างภาพยนตร์อิสระ นักวิจารณ์ภาพยนตร์ ผู้มีส่วนเกี่ยวข้องกับการประกอบอาชีพภาพยนตร์และวิดีทัศน์ รวมถึงประชาชนผู้รักภาพยนตร์ (ตามที่มีชื่อปรากฏท้ายจดหมายฉบับนี้) ขอคัดค้านการอนุมัติการสนับสนุนโครงการดังกล่าวด้วยเหตุผลดังนี้

1/ การอนุมัติทุนขาดซึ่ง “หลักธรรมาภิบาล” ขณะที่ประเทศไทยกำลังเกิดวิกฤติทางการเมือง และเศรษฐกิจ การให้เงินสนับสนุนแก่ภาพยนตร์เพียงเรื่องเดียวสูงถึง 100 ล้านบาท ย่อมไม่อาจรับฟังได้ว่าจะเป็นธรรมแก่ผู้ที่ไม่ได้รับการสนับสนุนกว่า 246 เรื่อง ซึ่งขัดกับหลักธรรมาภิบาลที่รัฐบาลประกาศใช้ในการปกครองประเทศ

อนึ่ง เป็นที่ทราบกันดีกว่าภาพยนตร์ตำนานสมเด็จพระนเรศวรนี้จะได้รับเงินสนับสนุนจากกระทรวงพาณิชย์เป็นจำนวนสูงถึง 330 ล้านบาท นั่นหมายความว่าภาพยนตร์เรื่องนี้มิสมควรได้รับเงินช่วยเหลือเพิ่มจากกระทรวงวัฒนธรรมอย่างยิ่ง

2/ คณะกรรมการพิจารณาให้ทุนสนับสนุนนั้น ไม่มีความเป็นกลาง มีอคติ และขาดดุลพินิจที่เป็นธรรม โดยปรากฏชัดว่า มีบริษัทค่ายภาพยนตร์เอกชนแห่งหนึ่งผู้อยู่เบื้องหลังโครงการภาพยนตร์หลายเรื่องได้รับเงินสนับสนุนสูงเป็นพิเศษ ซึ่งถือว่าไม่เป็นธรรมแก่ผู้สร้างภาพยนตร์อิสระรายอื่นๆที่ไม่ได้รับการสนับสนุน

3/ ด้วยเหตุผลที่กล่าวมาข้างต้น ย่อมเป็นเหตุให้เชื่อได้ว่า โครงการสนับสนุนการสร้างภาพยนตร์และวิดีทัศน์ของกระทรวงวัฒนธรรมย่อมไม่ก่อให้เกิดผลดีต่อวงการภาพยนตร์ไทยแต่อย่างใด ทั้งยังเป็นการเอื้อประโยชน์ให้แก่เอกชนเฉพาะราย และจะซ้ำเติมเพิ่มข้อกังขาต่อการใช้จ่ายงบประมาณของรัฐบาลต่องบประมาณไทยเข้มแข็ง

ดังนั้นพวกข้าพเจ้าจึงใคร่ขอให้ท่านรัฐมนตรีโปรดระงับการดำเนินการดังกล่าวอย่างเร่งด่วน และขอให้มีการทบทวนขั้นตอน และวิธีการพิจารณากระบวนการให้ทุนสนับสนุนทั้งโครงการอีกครั้งหนึ่ง ว่ามีความเหมาะสม โปร่งใส และเป็นธรรมต่อทุกฝ่าย

จึงเรียนมาเพื่อโปรดพิจารณา

(ลงชื่อ)
นาย มานิต ศรีวานิชภูมิ
นาย อภิชาติพงษ์ วีระเศรษฐกุล

โดย ช่างเหน่ง

....เท่าที่ผ่านมาก็เห็นๆกันอยู่ว่าแย่ขนาดไหน ใช้เงินส่งเดชแบบนี้ไม่ถามเจ้าของเงินบ้างเหรอ

จาก  http://thaimisc.pukpik.com/freewebboard/php/vreply.php?user=civil&topic=8316 (http://thaimisc.pukpik.com/freewebboard/php/vreply.php?user=civil&topic=8316)


หัวข้อ: Re: กู้หนี้ สร้างหนัง กดดันให้ไปดู มัดมือให้ใช้หนี้
เริ่มหัวข้อโดย: Ton-Krittin ที่ พฤษภาคม 07, 2010, 01:13:48 AM
http://www.thaicinema.org/news52_tff.asp (http://www.thaicinema.org/news52_tff.asp)

ประกาศโปรเจ็คหนังที่ได้รับทุนหนังไทยจากสำนักงานศิลปวัฒนธรรมร่วมสมัย กระทรวงวัฒนธรรม

ชื่อที่ใส่ตัวสีขาว เป็นการส่งเสริมแบบมีเงื่อนไข คือมีการให้คืน ส่วนที่เหลือเป็นการให้เปล่า

(http://www.pantip.com/cafe/chalermthai/topic/A9172490/A9172490-212.jpg)



หนังประวัติศาสตร์ของชาติไทยไม่ใช่เหรอ   จะคัดค้านไปเพื่ออะไร  ???

และถ้าผมจำไม่ผิด รายได้ทั้งหมดทั้ง ๔ ภาค ไม่ได้เข้ากระเป๋าผู้สร้างน่ะครับ





หัวข้อ: Re: กู้หนี้ สร้างหนัง กดดันให้ไปดู มัดมือให้ใช้หนี้
เริ่มหัวข้อโดย: Ton-Krittin ที่ พฤษภาคม 07, 2010, 01:17:13 AM

เอามาจากกระทู้ในพันทิพ

ขอโทษท่านมุ้ย และเพื่อนสมาชิกในบอร์ด กรณีข้อมูลผิดพลาดเรื่องงบ100ล้านของนเรศวรค่ะ{แตกประเด็นจาก A9183076}
http://www.pantip.com/cafe/chalermthai/topic/A9186909/A9186909.html (http://www.pantip.com/cafe/chalermthai/topic/A9186909/A9186909.html)

อ้างถึง
ก่อนที่ท่านนายกจะเป็นนายก
ก่อนที่จะมีปัญหาเรื่องเสื้อแดง
ก่อนที่มีปัญหาเรื่องเศรษฐกิจ

ผมเสนอขอเงิน 10000 ล้านให้กับวงการครับ

คือแบ่งเป็น

1) สร้างสถาบันภาพยนตร์ Model เดียวกับ Swedish Film Instution หรือ Australia Film Board (ของ Australia รู้สึกว่าชื่อ Film adn Television Film Institute ซึ่งผมจำไม่ได้แล้ว แต่ที่จำได้คือเขารับนักศึกษาแค่ 12 คนต่อปี ซึ่งจะต้องเป็น Top ของแต่ละมหาวิทยาลัย) มี ทุนสำหรับ Projects ที่นักศึกษา เสนอมา โดยมี Film Bord เป็นตัวคัดเลือก(เหมือนThresis อะไรพวกนี้)
2) มีโรงถ่ายแห่งชาติ สำหรับผู้สร้างหนังเช่าในราคาถูก
3) มีทุนสำหรับผู้สร้างที่มี Project ที่ดี มีแผนที่ดี Budget และ Schedule พร้อม รายได้เอาคืนมาให้ Film Board สำหรับหนังเรื่องอื่น (อย่างนเรศวรเป็นต้นที่ต้องคืนรายได้ให้รัฐ เพื่อนำไปใช้กับหนังเรื่องอื่น ง่ายๆ ก็คือรัฐเป็นเจ้าของหนัง กำไรขาดทุนเป็นของรัฐ) ผมเชื่อว่าหนังส่วนใหญ่จะกำไรเพราะนอกจากโรงในกรุงเทพแล้ว จะมีโรงต่างจังหวัด ขาย DVD ขายSpin off เช่นตุ๊กตา,เกมส์,ของที่ระลึก
4) รัฐต้องรับผิดชอบในการหาโรง, ค่า prints ค่าโฆษณา งบประมาณส่งไปฉายต่างประเทศ ค่าใช้จ่ายในการเดินทาง Promote ต่างประเทศ ฯลฯ. อันนี้สำคัญครับ   เพราะหนังนอกกระแส 90 % ไม่มีโรงฉายครับ แต่ถ้าอยู่ใต้ Film Board Film Board จะต้องรับผิดชอบหาโรงให้
5) มีอุปกรให้เช่าราคาย่อมเยา
6) มี Film Festival ประเภท Noncensor 100% มีการประกวดหนังในประเทศ

Film Board นี่จะมาจาก สมาพันธ์ภาพยนตร์ ยกระดับขึ้นมาเป็น Film Board เพราะสมาชิกของสมาพันธ์มาจากผู้ประกอปการสร้างภาพยนตร์ทุกสาขา สมาชิกจะมีจากผู้อำนวยการสร้างลงมาถึงเด็กไฟ จากพวกที่ทำ CG จนถึงLab ตลอดไปจนถึงผู้ประกอบการโรงภาพยนตร์

ซึ่งเหล่านักสร้างอิสระก็ควรจะเข้ามาเป็นสมาชิกจะได้มีสิทธิ Vote ครับ (ผมไม่ได้เป็นสมาชิกมาหลายปีแล้วครับ เป็นผู้สร้างอิสระหรือ Indy แก่ๆ)

เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องใหม่ เริ่มมาจากพ่อของผมที่เป็นประธานสมาคมผู้อำนวยการสร้าง เคยเสนอ Projrct ให้จอมพลป.พิบูลสงคราม เรื่อยมาจนถึงนายกคนนี้่แหละครับ (ทักษินก็เคยเสนอไปและเกือบได้ด้วยแฮะ)

แต่จากหมื่นล้านถูกลดลงมาเป็นร้อยล้าน

และที่เลือกเอานเรศวรก็คงจะเป็นเพราะน่าจะได้เงินคืนทั้งหมดบวกกำไรอีกต่างหาก
เพราะวันที่ผมเซ็นสัญญา หนังเรื่องนี้ก็เป็นของรัฐ จะเอาไปทำอะไรก็แล้วแต่เห็นสมควร
แล้วเรื่องที่จะเอาเงินมาใช้ส่วนตัวคงจะลำบาก
เพราะนอกจากจะต้องส่ง Budget อย่างละเอียด ขนาดถ้าระบุว่าจะต้องสร้างเรือสำเภาของพระยาจีนจันตุ ก็มีการถามว่าต้องใช้ไม้กี่แผ่น ลงมาจนถึงใช้ตาปูกี่ตัว
และมีคนตรวจบัญชีทุกสิ่งทุกอย่างที่ใช้เงิน
มีคนมาประจำอยู่กับกองถ่ายดูว่าเราใช้เงินได้ถูกประเภทหรือเปล่า

อยากรู้เหมือนกันว่าถ้ามีคนคอยตรวจสอบกับพวกผู้สร้างอิสระเขาจะคิดอย่างไร

ผมก็ได้เพียงค่าตัวของผม
ต้องมาทำละครทีวีเพื่อเอาตัวรอดครับ

แต่ถ้านเรศวรกำไร

Film Bord ก็อยู่แค่เอื้อมครับ

(ผมคงจะไม่ได้อยู่จนเห็น Film Board ในฝันของผู้สร้างหนังหรอกครับ)
ปล. เขาไม่ได้มี Film Bord เพื่อศิลปะอย่างเดียวครับ
เขาต้องการอุตสาหกรรมภาพยนตร์ให้เจริญเติบโดเทียบเท่าชาติอื่นครับ
เขาคิดถึงคนงานที่อยู่ในอุตสาหกรรมหนังครับ เช่นเด็กไฟ คนเดินตั๋วหนัง คนถ่ายโปสเตอร์ครับ
ไม่ใช่แต่ผู้กำกับหนัง

แก้ไขเมื่อ 29 เม.ย. 53 17:36:57

จากคุณ : Cinephile   



Cinephile คือท่านมุ้ยครับ


หัวข้อ: Re: กู้หนี้ สร้างหนัง กดดันให้ไปดู มัดมือให้ใช้หนี้
เริ่มหัวข้อโดย: ต.แม่สาย ที่ พฤษภาคม 07, 2010, 08:24:52 AM
ตอนสมัยก่อนเคยเรียนเศษฐศาสตร์ อาจารย์ท่านสอนว่า การจะทำให้เศรษฐกิจดีขึ้น รัฐบาลต้องเข้าไปกระตุ้นให้เกิดการจับจ่าย เศรษฐกิจของประเทศก็จะหมุนไปได้ ถ้าคนมีเงินมีรายได้ ร้านค้าก็จะขายสินค้าได้ เมื่อร้านค้าขายสินค้าได้ บริษัทก็จะมียอดสั่งซื้อสินค้า สร้างกำไรให้บริษัท บริษัทจ้างงาน คนก็มีรายได้ คนมีรายได้มากขึ้นก็ซื้อสินค้าบริการเยอะขึ้นหมุนเวียนไปเรื่อย ๆ วงจรเศรษฐกิจก็จะหมุนไปเรื่อย ๆ ถ้าวันใดวันหนึ่ง บริษัทปิดกิจการ ลูกจ้างถูกให้ออก ไม่มีรายได้ ไม่ซื้อสินค้า ร้านค้าก็ต้องปิดตัวหรือเลิกจ้างคน ประเทศเราก็ไม่มีรายได้จากภาษี จะยิ่งวุ่นวายไปอีกครับ รัฐบาลจึงต้องเข้ามาอัดฉีดเงิน ให้ธุรกิจต่าง ๆ โดยการจ้างงาน ให้เงินทุนสนับสนุน ในงบไทยเข็มแข็งหรืองบอื่น ๆ ที่เราเคยเห็นกันครับ

แต่การอัดฉีดเม็ดเงินเข้าระบบก็ต้องมีมาตรการตรวจสอบกันดังจะเห็นได้ว่า บาบกรรมมีจริงแม้แต่อดีตรัฐมนตรีที่ทำโครงการผักสวนครัวรั้วกินได้ก็ยังติดคุก คุกจริง ๆ ครับ ไม่มีตัวแสดงแทน ดังที่เขาบอกครับ เงินของหลวง ตกน้ำไม่ไหลตกไฟไม่ไหม้


หัวข้อ: Re: กู้หนี้ สร้างหนัง กดดันให้ไปดู มัดมือให้ใช้หนี้
เริ่มหัวข้อโดย: Iron ที่ พฤษภาคม 07, 2010, 08:25:07 AM
คนที่ทำหนังแบบมืออาชีพในบ้านเรามีไม่มากหรอกครับ ผมเพิ่งพาครอบครัวไปเที่ยวกองถ่ายพระนเรศวรมา เห็นการตั้งใจทำงานแล้ว

ขอบอกว่าแค่นี้ยังน้อยไปครับ  หนังเองก็เป็นหนังที่ทำให้คนไทยทั้งชาติภูมิใจในความเป็นไทย เป็นประวัติศาสตร์อันยาวนาน

ที่บรรพบุรุษช่วยบกบ้านป้องเมือง ให้เราซึ่งเป็นลูกหลานได้อยู่กันอย่างสุขสบายในวันนี้ 


หนังเรื่องนี้สร้างครั้งแล้วก็ยังคงเป็นสมบัติคู่แผ่นดินไว้ได้จนถึงรุ่รลูกรุ่นหลานครับ  ดีกว่าหนังผีไม่ประเทืองปัญญาเยอะแยะไป


เชียร์และให้กำลังใจทีมงานครับ  อยากเห็นผลงานดีๆเร็วๆครับ




หัวข้อ: Re: กู้หนี้ สร้างหนัง กดดันให้ไปดู มัดมือให้ใช้หนี้
เริ่มหัวข้อโดย: ต.แม่สาย ที่ พฤษภาคม 07, 2010, 08:31:09 AM
อยากดูภาค 3 เร็ว ๆ เหมือนกันครับ คราวก่อนเห็นข่าวว่าจะฉายเดือนธันวา ก็เงียบไปแล้วครับ

อยากเห็นเรื่องอื่นที่ท่านมุ้ยจะทำด้วยครับเช่นเรื่อง เพชรพระอุมาครับ


หัวข้อ: Re: กู้หนี้ สร้างหนัง กดดันให้ไปดู มัดมือให้ใช้หนี้
เริ่มหัวข้อโดย: ~ Sitthipong - รักในหลวง ~ ที่ พฤษภาคม 07, 2010, 09:01:58 AM
หนังประวัติศาสตร์   ดูแล้วทำให้รู้ขนมธรรมเนียบ  ประเพณีโบราณ  ทำให้เกิดความรักชาติของประชาชนในชาติ  ๑๐๐  ล้านผมว่ายังน้อยไปครับ  ::014::


หัวข้อ: Re: กู้หนี้ สร้างหนัง กดดันให้ไปดู มัดมือให้ใช้หนี้
เริ่มหัวข้อโดย: araki-รักในหลวง ที่ พฤษภาคม 07, 2010, 09:14:17 AM
               เรียน คุณ your
ใครจะกดดันให้ท่านไปดูได้ครับ ถ้าท่านไม่ดู และถ้าหนังไม่ดีก็โดนด่าแน่นอนนี่คือประเทศไทย(ปกติมักจะด่าไว้ก่อน)  แต่ผมเห็นด้วยที่มีการส่งเสริม เพราะผมเห็นผลจากภาพยนต์เกาหลีที่สร้างกระแสที่ดีต่อประเทศของเขาครับ ไม่ใช่ดีเฉพาะอุตสาหกรรมภาพยนต์เท่านั้นรวมถึงวงการอื่นด้วย เช่น การท่องเที่ยว สินค้า เรื่องอื่น ๆ ผมไม่ทราบครับเพราะไม่ได้อยู่ในวงการ เห็นเท่าที่เห็น คุณ your ทราบอะไรที่ถูกต้อง และไม่เห็นด้วยนอกจากในข่าวที่ปรากฏนำมาบอกกันบ้างซิครับ
                                                                          araki


หัวข้อ: Re: กู้หนี้ สร้างหนัง กดดันให้ไปดู มัดมือให้ใช้หนี้
เริ่มหัวข้อโดย: naisomchai ที่ พฤษภาคม 07, 2010, 09:37:14 AM
http://www.thaicinema.org/news52_tff.asp (http://www.thaicinema.org/news52_tff.asp)

ประกาศโปรเจ็คหนังที่ได้รับทุนหนังไทยจากสำนักงานศิลปวัฒนธรรมร่วมสมัย กระทรวงวัฒนธรรม

ชื่อที่ใส่ตัวสีขาว เป็นการส่งเสริมแบบมีเงื่อนไข คือมีการให้คืน ส่วนที่เหลือเป็นการให้เปล่า

(http://www.pantip.com/cafe/chalermthai/topic/A9172490/A9172490-212.jpg)



หนังประวัติศาสตร์ของชาติไทยไม่ใช่เหรอ   จะคัดค้านไปเพื่ออะไร  ???

และถ้าผมจำไม่ผิด รายได้ทั้งหมดทั้ง ๔ ภาค ไม่ได้เข้ากระเป๋าผู้สร้างน่ะครับ


ตามรูปเป็นตัวสีขาว แสดงว่าให้ยืมแล้วต้องคืนหลวงนี่ครับ...


หัวข้อ: Re: กู้หนี้ สร้างหนัง กดดันให้ไปดู มัดมือให้ใช้หนี้
เริ่มหัวข้อโดย: JJ-รักในหลวง ที่ พฤษภาคม 07, 2010, 09:46:15 AM
ถึงยังงัย ผมก็จะสนับสนุนหนังไทย
ที่เป็นหนังอิงประวัติศาสตร์
ทำให้เห็นซึ่งการกระทำของบรรพบุรุษ
เพื่อรักษาบ้านเมืองนี้ไว้ครับ
ดีกว่าไปดูหนัง ที่มีแต่
การตบตี แย่งชิง หึงหวง กัน


หัวข้อ: Re: กู้หนี้ สร้างหนัง กดดันให้ไปดู มัดมือให้ใช้หนี้
เริ่มหัวข้อโดย: naisomchai ที่ พฤษภาคม 07, 2010, 09:52:04 AM
นายสมชายเป็นคนดูหนังมากกกกกก... ดูมาก ชนิดเห็นหนังแค่ฉากใหญ่ฉากเดียว หรือดูหนังตอนเรื่มเรื่องแค่ไม่เกิน 10 นาที สามารถประเมินได้ว่าควรจะดูต่อหรือไม่ เพราะมันเสียเวลาไม่คุ้มนั่งดู...

หนังมืออาชีพกับหนังมือกระจอกนั้นแตกต่างกันมาก แตกต่างกันแว๊บแรกคือมุมกล้อง แสงเงา การเกลี่ยแสง, ดูสักพักจะเห็นเรื่องเครื่องแต่งกาย ความสมบูรณ์สมจริงของฉาก, ดูต่อไปอีกนิดจะเห็นสีหน้าท่าทางแววตาของดารา, ดูอีกไม่เกิน 10 นาทีจะเห็นการปูพื้นเรื่อง การผูกเรื่องเข้าประเด็นว่ากระชับฉับไวพอดี หรือเกินเลยไปหรือไม่... (ถ้าจะให้ดีต้องคุณต๊อกวิจารณ์ฯ - เพราะที่สุดแล้วเรื่องวิจารณ์หนัง)

แม้แต่หนังท่านมุ้ย โดยเฉพาะเรื่องสุริโยทัยนั้นหากจะหาข้อตำหนิกันจริงๆก็มีเรื่องอัดเนื้อหาแน่นเกินจนรีดอารมณ์คนดูได้ไม่ถึงที่สุด เพราะจำเป็นต้องบรรจุประวัติศาสตร์อัดเข้าไว้ในแค่ 100 กว่านาที... ทำให้ประวัติศาสตร์พระนเรศวรจึงต้องขยายเป็นหลายภาค...

ตามท้องเรื่องกระทู้ที่ต่อว่า ทำนองว่าให้ท่านมุ้ย"กู้เงิน"แยะไป... บอกตรงๆว่า หากรัฐบาลจะจ้างใครสักคนให้ทำหนังส่งเสริมความรักชาติ เป็นโปรเจกหลวง แล้วให้ผู้สร้างหนังทั้งประเทศไทยเสนอตัวเองเข้าประกวด  (ฮอลลีวู้ดไม่เกี่ยว - เพราะต้องการส่งเสริมอุตสาหกรรมหนังของคนไทย)...

คิดว่าหากทำเป็นงานช้างแบบให้ประชาชนลงประชามติกันเลย(ประชดเล็กน้อย... ฮา)... คิดว่าจะหนีท่านมุ้ยได้หรือครับ ในเมื่อหนังแนวนี้มันรู้อยู่ว่าใครมือแค่ไหน...


หัวข้อ: Re: กู้หนี้ สร้างหนัง กดดันให้ไปดู มัดมือให้ใช้หนี้
เริ่มหัวข้อโดย: Ton-Krittin ที่ พฤษภาคม 07, 2010, 10:40:30 AM

ตามรูปเป็นตัวสีขาว แสดงว่าให้ยืมแล้วต้องคืนหลวงนี่ครับ...

ใช่ครับท่านสมชาย และที่สำคัญรายได้ทั้งหมดก็จะนำขึ้นทูลเกล้าฯ ถวายในหลวงครับ  ::014::


อ้างถึง
ท่านมุ้ยยังกล่าวด้วยว่า "สำหรับหนังเรื่องนี้ เราทำขึ้นมาเพื่อถวายในหลวง รายได้ทุกบาททุกสตางค์ผมจะนำไปทูลเกล้าฯถวายในหลวง จะไม่หักค่าใช้จ่ายอะไรใดๆ เลย

คือผมจะขอเข้าหุ้นกับคนไทย แค่คนไทยจ่ายค่าดูแค่คนละ 100 บาท เข้าไปดูหนังท่านก็มีส่วนได้เป็นผู้หนึ่งที่มีส่วนได้มอบเงินนั้นเป็นของขวัญในวโรกาสวันเฉลิมฯครบรอบ 80 พรรษาให้กับผู้ชายคนหนึ่งที่ทำงานหนักเพื่อพวกเราทุกคน

"เพราะฉะนั้นพวกที่รอจะซื้อวีซีดีผี ก็พึงคิดเอาไว้ว่าจะไม่ได้ทำอะไรเพื่อในหลวงของเราเลย แถมยังจะเป็นการทำลายเสียอีกด้วย"

อ้างถึง
“ผมทำหนังเรื่องนี้ตามพระราชดำริของสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ เพื่อให้คนไทยดู ให้ตระหนักถึงที่มาที่ไปของเรา และภาคภูมิใจในความเป็นไทยที่บรรพบุรุษเราสร้างไว้ให้ โดยทุ่มเทอย่างเต็มที่ หลายๆ คนบอกว่าดูแล้วเกิดความรู้สึกรักชาติก็เป็นเรื่องที่ดีครับ สำหรับตัวผมเองอยากให้คนไม่รักชาติได้ดูมากกว่า เผื่อว่าจะมีอะไรที่ทำให้สะกิดใจพวกเขาบ้าง” ท่านมุ้ย กล่าว

ที่มา

http://yayee.spaces.live.com/Blog/cns!70EBD1A96D280F5D!1941.entry (http://yayee.spaces.live.com/Blog/cns!70EBD1A96D280F5D!1941.entry)
http://kingnaresuanmovie.com/news_item_029_thai.php (http://kingnaresuanmovie.com/news_item_029_thai.php)




หัวข้อ: Re: กู้หนี้ สร้างหนัง กดดันให้ไปดู มัดมือให้ใช้หนี้
เริ่มหัวข้อโดย: Choro - รักในหลวง ที่ พฤษภาคม 07, 2010, 11:01:03 AM
 ผมชอบหนังไทยครับ อยากเห็นฉากสวยๆ อยากเห็นศิลปะ อยากได้ภูมิใจความเป็นไทย

 อีกอย่างหนังเรื่องนี้ไม่ได้มีจุดประสงค์ที่การหารายได้ครับ แต่เป็นการเชิดชูวีรกรรมของพระมหากษัตริย์ไทย

 ทุกอย่างในฉากก็น่าจะสมพระเกียรติของพระองค์ท่านครับ

 

 

 

 


หัวข้อ: Re: กู้หนี้ สร้างหนัง กดดันให้ไปดู มัดมือให้ใช้หนี้
เริ่มหัวข้อโดย: hello9pk ที่ พฤษภาคม 07, 2010, 11:09:58 AM
แล้ว คนโขน 8,000,000 ไม่ต้องคืนใช่มั๊ยครับ  ???


หัวข้อ: Re: กู้หนี้ สร้างหนัง กดดันให้ไปดู มัดมือให้ใช้หนี้
เริ่มหัวข้อโดย: เบิ้ม ที่ พฤษภาคม 07, 2010, 11:17:16 AM
ชอบดูหนังที่ได้เนื้อหาครบ ผิด ถูด ดี ชั่ว ครบทุกแง่ทุกมุม ทุกฝ่าย ไม่ชอบดูหนังที่เอียงข้างใดข้างหนึ่งเหมือนหนังอเมริกัน ที่เอาตัวเองเป็นฮีโร่ ไปถล่มบ้านเขา แต่ตัวกลับเป็นพระเอก

เพิ่งได้ดูหนังเรื่อง"นานกิง" ดูแล้ว สมมุติถ้าเป็นคนจีน จะรักชาติมากขึ้นเยอะ และหนังก็ไม่ใช่สร้างให้คนรักชาติและเกลียดญีปุ่นจนกลายเป็นกระแสคลั่งชาติที่อันตราย หนังสร้างให้เห็นมุมของทหารญี่ปุ่นและคนญีปุ่นเช่นกัน ที่ต้องเขาร่วมสงครามอันโหดร้าย ผมดูจบ..กลับรู้สึกเกลียดสงคราม มันเลวร้าย ไม่เหมือนดูหนังสงครามเรื่องไหนมาก่อน 

ผมว่าหนังไทยข้อจำกัดเยอะ บอกความจริงอะไรไม่หมด หนังที่ดี ควรมีหลายๆมุมให้คิด ดูแล้วไม่น่าเบื่อจนเกินไป อีกทั้งฉากและอุปกรณ์ประกอบที่มันอลังการเกินไป เกินกว่าเหตุ เช่นเสื้อผ้าเครื่องแต่งกาย ซึ่งคิดตามยังไงก็คิดไม่ออก สมัยนั้นเขาแต่งตัวกันขนาดนั้นหรือ ?


หัวข้อ: Re: กู้หนี้ สร้างหนัง กดดันให้ไปดู มัดมือให้ใช้หนี้
เริ่มหัวข้อโดย: กรรมกร ที่ พฤษภาคม 07, 2010, 11:51:58 AM
ภาพยนต์ คือ อุตสาหกรรม อย่างหนึ่ง สามารถนำเงินเข้าประเทศและสร้างงานให้คนไทยได้

การที่ภาครัฐให้การสนับสนุน เป็นเรื่องดีแล้ว หากแต่วิธีการสนับสนุนต่างหากที่น่าห่วง

หลายเรื่องหลายโครงการ เป็นการริเริ่มและแนวคิดที่ดี

... หากแต่วิธีการและการดำเนินการในแบบ ไทยๆ ทำให้สุดท้ายปลายทาง ไม่บรรลุผลที่ประสงค์



ปล. เมื่อคืนใครได้ดูรายการ เจาะใจ บ้างครับ ... ในหลวงเป็นผู้ริเริ่ม ชักนำให้ชาวเขาเลิกปลูกฝิ่นไปปลูกกาแฟ

แต่ด้วยการทำงานแบบ ผักชีโรยหน้า ขายผ้าเอาหน้ารอด ของผู้รับสนองพระราชดำริ

ชาวเขาจึงไม่สามารถนำลงจากดอยมาขายเองได้

เพราะไม่มีสัญชาติ ไม่มีบัตรประชาชน (ผู้ให้สัมภาษณ์บอกว่า ทำให้ชาวเขาต้องถูก "หมากัด" เมื่อลงจากดอย)

ไม่มีการตลาดรองรับ  ให้ปลูกแต่ไม่บริหารจัดการต่อ ว่าจะให้ขายยังไง จนชาวบ้านเกือบจะกลับไปปลูกฝิ่นอีก

ดีที่ฟ้ายังมีตา ส่งผู้นำที่มีความจริงใจและเสียสละมาให้ กาแฟดอยช้าง จึงมีวันนี้

...  ::014::