เว็บบอร์ดสนทนาภาษาปืน

สนทนาภาษาปืน => หลังแนวยิง => ข้อความที่เริ่มโดย: OO BUCK ที่ พฤษภาคม 21, 2010, 07:30:17 PM



หัวข้อ: หลังจากบ้านเมืองสงบ คนที่ไม่มีปืนจะอยากซื้อปืนมากขึ้นหรือเปล่าครับ
เริ่มหัวข้อโดย: OO BUCK ที่ พฤษภาคม 21, 2010, 07:30:17 PM
ขออณุญาตตั้งหัวข้อกระทู้หน่อยนะครับและขอเว้นเรื่องการเมืองครับ  ::014::เพื่อนสมาชิกคิดเห็นเป็นประการใดบ้าง สำหรับผมเองคิดว่า
     1. น่าจะมีคนที่ไม่เคยมีปืน จะอยากมีติดบ้านกันมากขึ้น โดยเฉพาะท่านที่มีที่พักอาศัยใกล้ที่ชุมนุมหรือใกล้จุดที่มีไฟใหม้ ทั้งในเขต กทม. และต่างจังหวัด  เพราะหลายกรณีชี้ให้เห็นได้ว่า "ปืนสามารถป้องกันไฟใหม้บ้านได้"
     2. เรื่องราคา กลัวว่ามันจะแพงขึ้นไปอีก จากการที่มีผู้ต้องการซื้อมากขึ้น
     3. ข้อนี้คิดไม่ออกครับว่า รัฐบาลจะมีนโยบายอย่างไรกับปืนที่จะมีการซื้อขายกันในอนาคต (ไรเฟิลอาจจะถูกเพ่งเล็งมากขึ้นหรือเปล่า)
           
          ขออภัยที่ทำให้สิ้นเปลืองพื้นที่เว็ปและขอบคุณเพื่อนสมาชิกที่สละเวลามาอ่านและตอบครับ  ::014::
     


หัวข้อ: Re: หลังจากบ้านเมืองสงบ คนที่ไม่มีปืนจะอยากซื้อปืนมากขึ้นหรือเปล่าครับ
เริ่มหัวข้อโดย: PU45™ ที่ พฤษภาคม 21, 2010, 07:34:57 PM


                   ถ้าอยากมีปืนเพราะกรณีนี้คงเป็นการคิดผิด   ปืนใช้ป้องกันต่อสู้กับผู้ร้ายได้ 

                   แต่กับกลุ่มกบฎและผู้ก่อการร้ายที่มีจำนวนมากแล้ว อยากให้คิดใหม่ครับ




หัวข้อ: Re: หลังจากบ้านเมืองสงบ คนที่ไม่มีปืนจะอยากซื้อปืนมากขึ้นหรือเปล่าครับ
เริ่มหัวข้อโดย: Southlander ที่ พฤษภาคม 22, 2010, 07:35:09 AM
ชุมชนควรรวมตัวช่วยเหลือกันและกันไม่ต่างคนต่างอยู่
และควรมีปืนที่ช่วยหยุดยั้งคนหมู่มากได้เช่นปืนลูกซอง
ในแต่ละชุมชนไม่ต่ำกว่าสิบกระบอกขึ้นไป...อย่าหวังพึ่งอะไร
เพราะที่ผ่านมาก็เห็นแล้วว่าเจอกับอะไรม็อบมันจะเข้ามาทำอะไรก็ทำ
และทางการก็ควรอนุญาติอำนวยความสะดวกในการขอซื้อปืนป้องกันตนเองครับ

ผมสนับสนุนให้สุจรติชนมีปืน 200% ครับ  .....ระวังมันจะมารวมตัวกันอีกไม่นานนี้


หัวข้อ: Re: หลังจากบ้านเมืองสงบ คนที่ไม่มีปืนจะอยากซื้อปืนมากขึ้นหรือเปล่าครับ
เริ่มหัวข้อโดย: ขุนช้าง-รักในหลวงและสมเด็จพระเทพ ที่ พฤษภาคม 22, 2010, 07:45:50 AM
ผมคิดทั้งคืนยังคิดไม่ออกจะเอาอะไรไปสู้กับมือโปรทางสงครามที่มีอาก้าในมือเลยครับ  :) :) :)


หัวข้อ: Re: หลังจากบ้านเมืองสงบ คนที่ไม่มีปืนจะอยากซื้อปืนมากขึ้นหรือเปล่าครับ
เริ่มหัวข้อโดย: Southlander ที่ พฤษภาคม 22, 2010, 08:03:48 AM
ผมคิดทั้งคืนยังคิดไม่ออกจะเอาอะไรไปสู้กับมือโปรทางสงครามที่มีอาก้าในมือเลยครับ  :) :) :)

พวกนั้นก็ต้องเจอกะทหารมืออาชีพอยู่แล้ว
ที่เราต้องป้องกันคือตั้งมั่นอยู่ในชุมชนของเรา
และต่อต้านกะพวกกุ๊ยป่วนบ้านเผาเมืองครับ..แบบรามโมเดล และอีกหลายชุมชนที่ต่อต้านจนพวกมันกระเจิงไป

แต่จะมือสมัครเล่น/กุ๊ย/มืออาชีพ/ตัวเรา/......ทุกคนตายเป็นครับ


หัวข้อ: Re: หลังจากบ้านเมืองสงบ คนที่ไม่มีปืนจะอยากซื้อปืนมากขึ้นหรือเปล่าครับ
เริ่มหัวข้อโดย: PU45™ ที่ พฤษภาคม 22, 2010, 08:06:31 AM


                     ถึงขั้นนั้นมันต้องมีเสธ.กำหนดยุทธศาสตร์ครับ  ระดับชาวบ้านคงไม่ไหว



หัวข้อ: Re: หลังจากบ้านเมืองสงบ คนที่ไม่มีปืนจะอยากซื้อปืนมากขึ้นหรือเปล่าครับ
เริ่มหัวข้อโดย: Southlander ที่ พฤษภาคม 22, 2010, 08:21:22 AM


                     ถึงขั้นนั้นมันต้องมีเสธ.กำหนดยุทธศาสตร์ครับ  ระดับชาวบ้านคงไม่ไหว



ไม่ใช่ให้ถือปืนออกไปลุยกะพวกมันสักหน่อยลุงปู
เอาแค่อยู่ในบ้านป้องกันตัวตามสมควรใครที่จะเข้ามาเผาบ้าน
ก็ไล่ออกไปดีกว่านั่งดูให้มันบ้านมอดลงไปในกองเพลิง

จริงๆความหมายที่ผมต้องการสื่อไม่ใช่ให้ใครลุกขึ้นมาจับปืนแล้วออกไปลุยกะพวกมันนะครับ
แบบนั้นเราก็เสียเปรียบมืออาชีพ
 จากเหตการณืครั้งนี้พวกมืออาชีพจะแอบซุ่มตามตึกและคอยเก็บเป้าหมายทั่วไป..เราอย่าออกไปครับ
ช่วยกันปกป้องบ้านและชุมชนก็พอแล้ว


หัวข้อ: Re: หลังจากบ้านเมืองสงบ คนที่ไม่มีปืนจะอยากซื้อปืนมากขึ้นหรือเปล่าครับ
เริ่มหัวข้อโดย: ขุนช้าง-รักในหลวงและสมเด็จพระเทพ ที่ พฤษภาคม 22, 2010, 08:21:42 AM
ที่สมาชิกเราเจอมานี้พวกกุ๋ยแนวร่วม เกือบๆๆสองร้อยคนนะสิครับยังไม่รวมมือโปรที่ถืออาก้าคอยยิงขู่  ผมประเมินจากสถานการ์ณจริงๆๆนะ

แต่ถ้าลบปัจจัยเรื่องมือโปรสงครามออกไป ผมว่าลูกซองกับ10/22ติดกล้องน่าสนใจสุดครับ   มีดกับปืนพกสั้นคงต้องเอาไว้ใส่กันระยะประชิด สิ่งสำคัญคือการซ้อมและหมั่นศึกษาหาความรู้ตลอดนะครับ  ปืนถ้ามีแล้วไม่ได้ซ้อมถึงเวลาจริงๆๆมันไม่ง่ายอย่างที่คิดแน่นอน จากสถิติ คนที่ไม่ได้รับการฝึกซ้อมเวลายิงกันจริงๆๆระยะสามถึงห้าเมตรยิงไม่โดนเป้าเลยยังมีนะครับ  

ง่ายสุดสงสัยต้องซื้อเจ้าลูกนี้ไว้ด้วยมั้งครับ


หัวข้อ: Re: หลังจากบ้านเมืองสงบ คนที่ไม่มีปืนจะอยากซื้อปืนมากขึ้นหรือเปล่าครับ
เริ่มหัวข้อโดย: ขุนช้าง-รักในหลวงและสมเด็จพระเทพ ที่ พฤษภาคม 22, 2010, 08:25:20 AM


                     ถึงขั้นนั้นมันต้องมีเสธ.กำหนดยุทธศาสตร์ครับ  ระดับชาวบ้านคงไม่ไหว



ไม่ใช่ให้ถือปืนออกไปลุยกะพวกมันสักหน่อยลุงปู
เอาแค่อยู่ในบ้านป้องกันตัวตามสมควรใครที่จะเข้ามาเผาบ้าน
ก็ไล่ออกไปดีกว่านั่งดูให้มันบ้านมอดลงไปในกองเพลิง

จริงๆความหมายที่ผมต้องการสื่อไม่ใช่ให้ใครลุกขึ้นมาจับปืนแล้วออกไปลุยกะพวกมันนะครับ
แบบนั้นเราก็เสียเปรียบมืออาชีพ
 จากเหตการณืครั้งนี้พวกมืออาชีพจะแอบซุ่มตามตึกและคอยเก็บเป้าหมายทั่วไป..เราอย่าออกไปครับ
ช่วยกันปกป้องบ้านและชุมชนก็พอแล้ว
พี่จะสื่อว่าให้อยู่ในที่กันบังที่มั่นคงแล้วคอยต้อนรับพวกที่จะมาโยนระเบิดเพลิงใช่ไหมครับ  ผมว่าอย่างเก่งก็25เมตรให้โยนกันดีๆๆเลย ซึ่งอยู่ในระยะที่บานกำลังดีของลูกซองเลยละครับ


หัวข้อ: Re: หลังจากบ้านเมืองสงบ คนที่ไม่มีปืนจะอยากซื้อปืนมากขึ้นหรือเปล่าครับ
เริ่มหัวข้อโดย: babor ที่ พฤษภาคม 22, 2010, 08:30:03 AM

คาดว่าปืนยาว .22 ออโต กับ ลูกซองออโต คงจะขายดียิ่งขึ้น แน่ ๆ งานนี้


หัวข้อ: Re: หลังจากบ้านเมืองสงบ คนที่ไม่มีปืนจะอยากซื้อปืนมากขึ้นหรือเปล่าครับ
เริ่มหัวข้อโดย: Southlander ที่ พฤษภาคม 22, 2010, 08:33:22 AM

คาดว่าปืนยาว .22 ออโต กับ ลูกซองออโต คงจะขายดียิ่งขึ้น แน่ ๆ งานนี้

ศอฉ. บอกเป็นนัยๆ แล้ว อิ อิ ชุมชนช่วยกันผลักดันพวกป่วนเมืองออกไปได้


หัวข้อ: Re: หลังจากบ้านเมืองสงบ คนที่ไม่มีปืนจะอยากซื้อปืนมากขึ้นหรือเปล่าครับ
เริ่มหัวข้อโดย: ขุนช้าง-รักในหลวงและสมเด็จพระเทพ ที่ พฤษภาคม 22, 2010, 08:36:05 AM

คาดว่าปืนยาว .22 ออโต กับ ลูกซองออโต คงจะขายดียิ่งขึ้น แน่ ๆ งานนี้
สบายดีไหมครับ    ;D ;D ;D   10/22ก็พอมั้งเมื่อเช้าเห็นราคา.22 magnum autoแล้วลมจะจับ




คาดว่าปืนยาว .22 ออโต กับ ลูกซองออโต คงจะขายดียิ่งขึ้น แน่ ๆ งานนี้

ศอฉ. บอกเป็นนัยๆ แล้ว อิ อิ ชุมชนช่วยกันผลักดันพวกป่วนเมืองออกไปได้
ไม่ใช่ยิงเสร็จแล้วต้องไปประกันตัวนะครับ :~) :~) :~)


หัวข้อ: Re: หลังจากบ้านเมืองสงบ คนที่ไม่มีปืนจะอยากซื้อปืนมากขึ้นหรือเปล่าครับ
เริ่มหัวข้อโดย: PU45™ ที่ พฤษภาคม 22, 2010, 08:37:37 AM
ไม่ใช่ให้ถือปืนออกไปลุยกะพวกมันสักหน่อยลุงปู
เอาแค่อยู่ในบ้านป้องกันตัวตามสมควรใครที่จะเข้ามาเผาบ้าน
ก็ไล่ออกไปดีกว่านั่งดูให้มันบ้านมอดลงไปในกองเพลิง
 ช่วยกันปกป้องบ้านและชุมชนก็พอแล้ว

                งั้นบังต้องอ่านประสบการณ์จริงตามกระทู้นี้ครับ        http://www.gunsandgames.com/smf/index.php?topic=85650.0 (http://www.gunsandgames.com/smf/index.php?topic=85650.0)



หัวข้อ: Re: หลังจากบ้านเมืองสงบ คนที่ไม่มีปืนจะอยากซื้อปืนมากขึ้นหรือเปล่าครับ
เริ่มหัวข้อโดย: Ruk™-รักในหลวง ที่ พฤษภาคม 22, 2010, 08:42:46 AM
    
ผมคิดทั้งคืนยังคิดไม่ออกจะเอาอะไรไปสู้กับมือโปรทางสงครามที่มีอาก้าในมือเลยครับ  :) :) :)

พวกนั้นก็ต้องเจอกะทหารมืออาชีพอยู่แล้ว
ที่เราต้องป้องกันคือตั้งมั่นอยู่ในชุมชนของเรา
และต่อต้านกะพวกกุ๊ยป่วนบ้านเผาเมืองครับ..แบบรามโมเดล และอีกหลายชุมชนที่ต่อต้านจนพวกมันกระเจิงไป

แต่จะมือสมัครเล่น/กุ๊ย/มืออาชีพ/ตัวเรา/......ทุกคนตายเป็นครับ
     แต่กว่าทหารจะมาช่วย พวกเราก็เจ็บและตายไปแล้วหลายคน พวกมันนึกจะทำอะไรก็ได้
ตามใจ เหมือนกับบ้านนี้เมืองนี้ไม่มีกฏหมาย แถมยังมีมะเขือเทศคอยอำนวยความสะดวก โดย
เฉพาะการขนยางรถยนต์เก่าที่ผ่านทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 1, 9,32, 347, 309, 340, 346,
นี่ผมนับแค่เขตอยุธยาและจังหวัดต่อเนื่องนะครับ
     มะเขือเทศปล่อยให้รถพวกนี้ผ่านไปได้อย่างไร จนบางวันมีคนร้องเรียนไปทางศูนย์เอราวัณ
ว่าพบเพียงมะเขือเทศ 2 นายอยู่ประจำด่านความมั่นคง อ.วังน้อย
     ทันทีที่ศูนย์อาราวัณตำหนิมา ภจ.พระนครศรีอยุธยาก็ออกคำสั่งทางวิทยุสื่อสารออกไปยัง
16 อำเภอในทุกท้องที่ว่า ให้เข้มงวดกวดขันผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์ที่ไม่สวมใส่หมวกนิรภัยและ
ซ้อน 3
     เจริญละพี่น้องเอ๋ย


หัวข้อ: Re: หลังจากบ้านเมืองสงบ คนที่ไม่มีปืนจะอยากซื้อปืนมากขึ้นหรือเปล่าครับ
เริ่มหัวข้อโดย: JJ-รักในหลวง ที่ พฤษภาคม 22, 2010, 01:34:18 PM
   
ผมคิดทั้งคืนยังคิดไม่ออกจะเอาอะไรไปสู้กับมือโปรทางสงครามที่มีอาก้าในมือเลยครับ  :) :) :)

พวกนั้นก็ต้องเจอกะทหารมืออาชีพอยู่แล้ว
ที่เราต้องป้องกันคือตั้งมั่นอยู่ในชุมชนของเรา
และต่อต้านกะพวกกุ๊ยป่วนบ้านเผาเมืองครับ..แบบรามโมเดล และอีกหลายชุมชนที่ต่อต้านจนพวกมันกระเจิงไป

แต่จะมือสมัครเล่น/กุ๊ย/มืออาชีพ/ตัวเรา/......ทุกคนตายเป็นครับ
     แต่กว่าทหารจะมาช่วย พวกเราก็เจ็บและตายไปแล้วหลายคน พวกมันนึกจะทำอะไรก็ได้
ตามใจ เหมือนกับบ้านนี้เมืองนี้ไม่มีกฏหมาย แถมยังมีมะเขือเทศคอยอำนวยความสะดวก โดย
เฉพาะการขนยางรถยนต์เก่าที่ผ่านทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 1, 9,32, 347, 309, 340, 346,
นี่ผมนับแค่เขตอยุธยาและจังหวัดต่อเนื่องนะครับ
     มะเขือเทศปล่อยให้รถพวกนี้ผ่านไปได้อย่างไร จนบางวันมีคนร้องเรียนไปทางศูนย์เอราวัณ
ว่าพบเพียงมะเขือเทศ 2 นายอยู่ประจำด่านความมั่นคง อ.วังน้อย
     ทันทีที่ศูนย์อาราวัณตำหนิมา ภจ.พระนครศรีอยุธยาก็ออกคำสั่งทางวิทยุสื่อสารออกไปยัง
16 อำเภอในทุกท้องที่ว่า ให้เข้มงวดกวดขันผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์ที่ไม่สวมใส่หมวกนิรภัยและ
ซ้อน 3
     เจริญละพี่น้องเอ๋ย
จบงานนี้ น่าจะมีการจัดการกับตำรวจมะเขือเทศบ้างนะครับ


หัวข้อ: Re: หลังจากบ้านเมืองสงบ คนที่ไม่มีปืนจะอยากซื้อปืนมากขึ้นหรือเปล่าครับ
เริ่มหัวข้อโดย: birdwhistle...รักในหลวง ที่ พฤษภาคม 25, 2010, 06:32:53 PM
นี่หละที่ผมคิดว่ายังขาดอยู่  rem870 18 นิ้ว + ต่อหลอดกระสุน + เข็มขัดใส่กระสุน

 



หัวข้อ: Re: หลังจากบ้านเมืองสงบ คนที่ไม่มีปืนจะอยากซื้อปืนมากขึ้นหรือเปล่าครับ
เริ่มหัวข้อโดย: Don Quixote ที่ พฤษภาคม 30, 2010, 04:30:07 PM
ครับ ผมว่ามีหลายๆ ที่ใช้เหตุผลพิจารณาสถานการร์ตามจริง อยากมีปืน

แต่บางคนที่มีอคคติไม่ชอบปืน หรือมีอุดมการณ์สันติหลุดโลกอาจไม่อยากมีต่อไปเพราะคิดว่า เรื่องขนาดนี้ก็ผ่านมาได้แล้ว ไม่เห็นจำเป็นต้องใช้ คนที่พยายามคิดไม่ต่อสู้ป้องกันตัวแบบนี้มักมีความเชื่อตาม "จินตนาการ" ของตน ผมเคยได้ยินมาด้วยตัวเองจริงๆ จากปากเพื่อน

"มีเรื่องอะไรก็เรียกตำรวจ แล้วตำรวจก็จะมาช่วยกูได้"

"บ้านมึงมีปืนมาหลายชั่วคนแล้วก็ไม่เคยต้องใช้ยิงใครใช่ไหม?"

"มีปืนเดี๋ยวทะเลาะกันในบ้าน ขาดสติเอามายิงกันเอง"



หัวข้อ: Re: หลังจากบ้านเมืองสงบ คนที่ไม่มีปืนจะอยากซื้อปืนมากขึ้นหรือเปล่าครับ
เริ่มหัวข้อโดย: Pong CB1300sf-รักในหลวง ที่ พฤษภาคม 30, 2010, 05:06:40 PM
ขอตอบนะครับ :)

ผมว่าคนอยากซื้อปืนคงเยอะขึ้น แต่คงไม่อยากเอามาใช้ป้องกันชีวิตและทรัพย์สินทย์ครับ

จากที่โดนมากับตัว วันที่ 19/5/2553

ผมขอบอกเลยว่า อาวุธที่อยู่ในมือประชาชนธรรมดา คงไม่สามารถรับมือกับกองกำลังดังกล่าวได้
เพราะ
1.กลุ่มคนที่เข้าร่วมก่อการมีจำนวนมาก ประเมิณด้วยสายตา มี 200-300คน
2.ไม่สามารถ แยก ประชาชนธรรมดากับ กองกำลังติดอาวุธได้
3.อำนาจการยิง ของกองกำลังมีสูงกว่า และมีความชำนาญในการใช้อาวุธมากกว่าประชาชนแน่นอน
  (สังเกตุ จากการยิง จะไม่มีการยิงชุดเลย มาทีละนัด แบบ เน้นโดน อย่าถามต่อว่ารู้ได้ไง คืนวันที่ 19
   ผมนอน ข้างตู้ ก๋วยเตี๋ยวตั่งแต่ 6 โมงกว่ายัน 6 โมงเช้า ได้ยินเสียงการยิงแทบทุกนัด ตอนที่รถดับเพลิงมา
   มีเสียงการยิงประมาณ 5-6 นัด เข้าเป้าทุกนัด) จนรถดับเพลิงต้องถอนกำลังกลับไป
4.จำนวน กระสุนที่มี ตามที่ผมเคยบอกแล้วว่าผมมี ลูกซองออโต้/ลูกกรด/11 จำนวนกระสุนที่แบกอยู่น่าจะประมาณ 250-300 นัด
   ถ้ายิงหมด ผมคงพาไปด้วยได้ซัก 100คน แต่ หลังจากนั้น ไม่ต้องคิดครับ ::004::

แต่ ผมขอเสนออาวุธที่ดีที่สุดครับ แถมไม่เสียเงิน ::002::
การรวมตัวของคนในชุมชน น่าจะเป็นอาวุธที่ดีที่สุด เพราะ สิ่งที่คนคนเดียวทำได้มีจำกัดมาก ถ้ารวมกลุ่มกันได้
จะทำให้ความสามารถในการป้องกันตัวสูงขึ้น ครับ ดู ชุมชนราม กับ แฟลตดินแดงครับ ::002::


ครับ ผมว่ามีหลายๆ ที่ใช้เหตุผลพิจารณาสถานการร์ตามจริง อยากมีปืน

แต่บางคนที่มีอคคติไม่ชอบปืน หรือมีอุดมการณ์สันติหลุดโลกอาจไม่อยากมีต่อไปเพราะคิดว่า เรื่องขนาดนี้ก็ผ่านมาได้แล้ว ไม่เห็นจำเป็นต้องใช้ คนที่พยายามคิดไม่ต่อสู้ป้องกันตัวแบบนี้มักมีความเชื่อตาม "จินตนาการ" ของตน ผมเคยได้ยินมาด้วยตัวเองจริงๆ จากปากเพื่อน

"มีเรื่องอะไรก็เรียกตำรวจ แล้วตำรวจก็จะมาช่วยกูได้"

"บ้านมึงมีปืนมาหลายชั่วคนแล้วก็ไม่เคยต้องใช้ยิงใครใช่ไหม?"

"มีปืนเดี๋ยวทะเลาะกันในบ้าน ขาดสติเอามายิงกันเอง"
ขอตอบความเห็นด้านบน
"มีเรื่องอะไรก็เรียกตำรวจ แล้วตำรวจก็จะมาช่วยกูได้"
วันที่ 19/5/2553 วันนั้นผมเบาใจ ว่าแถวบ้านถ้ามีอะไรก็เอาอยู่ เพราะมี ตำรวจปลายจราจลมาอยู่ที่ ป้ายรถเมล์ประมาณ 1 กองร้อย
หวังว่าจะได้รับการคุ้มครองอย่างเต็มที่  ก่อนเกิดเหตุ มีการซ้อมตั่งแถวรูปขบวน โชว์รให้อุ่นใจ ด้วย :~)
แต่ เซ็นเตอณ์วัน ก็ถูกเผา ดอกหญ้าก็ไม่เหลือ แถม อาคาร ปิ้งมอร์ที่ผมเช้าอยู่ก็โดนไปด้วย
เพราะ ก่อนเกิดเหตุ เหมื่อนมีการเตี้ยมกันมา ตำรวจ นั่งดู ม็อบเผายาง พอเริ่มมีเสียงปืนดัง ตำรวจ ก็เก็บของขึ้นรถ
เก็บหมด ชนิดที่ ว่า เก้าอี้ที่เอามาใช้นั้งก็เอากลับไปด้วย ดี ที่ เต็นมีคนกางให้ ถ้าเป็นของ ตำรวจ คงเก็บเต็นกลับไปด้วย
บางส่วนที่ไม่ๆได้ขึ้นรถผู้ต้องขังมา ก็วิ่งหนีข้ามไปหลบในร้านค้า (ร้านลูกค้าผมยังด่าเลย แม่งวิ่งมาหลบหลังร้าน แล้วให้พวกนั้น บรรเลงเต็มที่) ::004::

หลังจากนั้น ก็ทำให้รู้ว่า ตำรวจ พึ่ง ไม่ได้  :~) ตำรวจ มี หน้าที่ รับ แจ้งความ /อำนวยความสะดวกการจราจร /เขียนใบสั่ง
และก็ ไล่รถที่มาจอดส่งของ ::014:: นอกนั้น บลา บลา บลา




หัวข้อ: Re: หลังจากบ้านเมืองสงบ คนที่ไม่มีปืนจะอยากซื้อปืนมากขึ้นหรือเปล่าครับ
เริ่มหัวข้อโดย: Don Quixote ที่ พฤษภาคม 30, 2010, 05:14:09 PM
ครับ เพื่อนผมมันอคติกับความจริงของโลกแบบนายโคทมนั่นแหละครับ

ยินดีด้วยครับคุณโป้งที่ตัดสินใจถูกในสถานการณ์ ผมว่าตัดสินจริงสู้แค่ไหน หรือไม่สู้อย่างไร ยากและสำคัญกว่า สู้อย่างไรเสียอีก

ชีวิตจริงต้องรับผิดชอบครอบครัวหลายเรื่อง วีรบุรุษจริงคือคนกล้าสู้ชีวิต ไม่ใช่กล้าสู้จนตาย แล้วเป็นวีรชนที่ครอบครัวลำบากลำบนต้องมาอาลัยอีก

ผมขอแสดงความนับถือครับ


หัวข้อ: Re: หลังจากบ้านเมืองสงบ คนที่ไม่มีปืนจะอยากซื้อปืนมากขึ้นหรือเปล่าครับ
เริ่มหัวข้อโดย: Don Quixote ที่ พฤษภาคม 30, 2010, 05:20:09 PM
ปล. ผมก็ว่ากองกำลังติดอาวุธที่แอบล้อมซู่มอยู่ระยะไกลไม่ออกมาให้เรายิงง่ายๆ ถ้าเรายิงฝูงชนมักจะรุมเล็งยิงเราเฉพาะตัว เราอาจไม่ได้ยิงหมดแมกที่สองด้วยซ้ำ ไม่ต้องถึงขนาดกระสุนหมด

ขอยกย่องว่าสถานการณ์นี้ตัดสินใจถูกแล้วครับ ชนะใจตัวเอง ชนะสถารณ์การณ์   ...วันหน้ายังมี


หัวข้อ: Re: หลังจากบ้านเมืองสงบ คนที่ไม่มีปืนจะอยากซื้อปืนมากขึ้นหรือเปล่าครับ
เริ่มหัวข้อโดย: naisomchai ที่ พฤษภาคม 30, 2010, 05:40:50 PM
หากประจัญบานระยะของลูกซอง ไม่มีปืนอะไรสู้ลูกซองได้แน่นอนครับ แต่ประเด็นคือเวลาเกิดเหตุการณ์แบบนี้มันเป็นสงครามในเมืองที่ไม่ได้ประกาศ ไม่รู้ว่าใครเป็นฝ่ายไหนกันบ้าง... ขืนตั้งท่าประจัญบานตูมๆ แบบฟ้าถล่มทลาย ก็เท่ากับส่งบัตรเชื้อเชิญแขกที่ไม่พึงประสงค์โผล่มาตามล่าเราน่ะซิครับ...

ปัญหาของลูกซองมีสามเรื่องหากเอามาใช้งานในสงครามในเมืองที่มีแต่ความคลุมเครือทั้งวัตถุประสงค์ และการจำแนกฝ่ายมิตรหรือศัตรูมี 3 ข้อคือ 1) ระยะยิงใกล้ไป ลูก OO Buck หวังผลแค่ไม่เกิน 30 - 50 เมตร ซึ่งระยะนั้นหากยิงชุดแรกกดไว้ไม่อยู่จะโดนคน"เป็นงาน"สวน, 2) เสียงดังจะเรียกให้ฝ่ายตรงข้ามแห่กันมา(อาจโดนไรเฟิ่ลโจมตี หรือเครื่องยิงลูกระเบิดหยอดใส่), 3) ประกายไฟสว่าง เปิดเผยตำแหน่งตนเอง...

ส่วนลูกกรดก็ตรงข้ามคือแม่นกว่า+เงียบกว่า+รีคอยล์ต่ำ+ระยะยิงไกลกว่า โดยเฉพาะหากยิงลอดหน้าต่างที่แง้มเอาไว้ออกไปข้างถนน เช่นจากชั้นสองลงไปหาคนยืน+หมอบซุ่มอยู่ที่เสาไฟฟ้า ป้ายรถเมล์ ฯลฯ ระยะห่างหน่อยอยู่ริมถนน เป้าจะแทบไม่ได้ยินเสียงปืนเลย... พวกเราเป็นพลเรือนนักนิยมปืน ใช้ปืนเพื่อป้องกันบ้านนะครับ หากประจัญบานซึ่งหน้า(ไม่ได้แอบยิง)จะไม่มีทางสู้กับทหารพรานได้เลย(ตามข่าวจากสื่อฯ)...

ดังนั้นกลยุทธคือแอบยิง+ยิงก่อน+ให้เจ็บ+ตายหลายๆคนในเวลาสั้นที่สุด(เชื่อว่า 11 คนหนึ่งหมู่ปืนเล็ก หากกลิ้ง+หงายท้อง+หมดความสามารถในการต่อสู้เสียประมาณครึ่งหนึ่งในเวลาไม่เกินครึ่งนาที เพราะโดนยิงไม่ทันรู้ตัว - หมู่ปืนเล็กนั้นละลายแล้วครับ) แล้วค่อยหาโอกาสซ้ำตามโอกาส... แต่ก่อนอื่นให้ยิงแล้วหนีครับ... แฮ่ๆ...

ถ้าจำได้ในกระทู้เก่าของพี่ Ro@d นายสมชายเคยบอกว่าให้ใช้รูเกอร์ 10/22 "แอบยิง"ระยะไกลไงครับ... ในกระทู้นั้นมีหลายท่านเอาลูกซองมาเปรียบเทียบด้วย แล้วนายสมชายว่าลูกซองเสียงดังเกินไป มันจะเรียกความสนใจจากคนที่"เคยงาน"ให้เข้ามาเยี่ยมเยียนครับ...

นายสมชายยังยืนยันเหมือนเดิมว่าให้เอาลูกกรดยาว"แอบยิง" เพราะลูกกรดเสียงเบา(ส่วนท่านใดจะเอาขวดโออิชิมาใช้งานด้วยนั่นก็แล้วแต่ความสามารถเฉพาะบุคคล)... การแอบยิงไม่ใช่ว่าเกิดเรื่องแล้วจะยิงโต้ตอบนะครับ แต่ต้อง"ยิงก่อน", โดยเริ่มยิงตั้งแต่ยังไม่มีเรื่องนะครับ, ตรงนี้ก็ต้องถามใจว่ากล้าแค่ไหน กับการเป็นคนเปิด"ศพแรก"ในค่ำนั้นทั้งที่ก่อนหน้านั้นยังไม่มีใครทอดร่างบนพื้นถนน...

สำหรับเรื่องกองกำลังติดอาวุธมักแอบล้อมซุ่มอยู่ระยะไกล ไม่ค่อยออกมาให้เรายิงง่ายนั้น ถ้าเราเริ่มยิงทีหลังนั่นแปลว่าพลาดแล้วครับ... ประเด็นคือยิงก่อน พูดง่ายแต่ทำยาก  เพราะเวลาเราเริ่มยิงมันก็ต้องประเมินว่าใครเป็นกองกำลังที่ว่าบ้าง บางทีมันก็ไม่ใช่ก็ได้ เช่นเป็นแค่ฮาร์ดคอร์แรงๆ ธรรมดาๆ ก็ได้ ดังนั้นเวลาเกิดเรื่องต้องการการตัดสินใจที่เด็ดขาดมาก(สมมติว่ามีตำรวจในเครื่องแบบยืนอยู่ข้างคนสวมโม่งถือถังน้ำมัน - จะกล้ายิงไหม หากยิงต้องยิงทั้งคู่)...

เมื่อยิงไปแล้ว มีคนล้มคว่ำไปแล้วก็ต้องย้ายที่ซุ่มใหม่, กองกำลังไอ้โม่งจะไม่อยู่ในฝูงชน แต่จะวิ่งไปวิ่งมาอาศัยฝูงชนเป็นโล่ห์ จะกล้ายิงใส่ฝูงชนไหมครับ... เวลาเกิดเรื่องแบบนี้ คนยิงก็ไม่อยากมาบอกบนหน้าเว็บครับ แล้วคนที่จ้องจะยิงครั้งหน้าก็จะต้องทำตัวให้หายหน้าจากเว็บตั้งแต่เริ่มมีข่าวเกิดเรื่องบนถนนแล้วครับ... ฮา...


หัวข้อ: Re: หลังจากบ้านเมืองสงบ คนที่ไม่มีปืนจะอยากซื้อปืนมากขึ้นหรือเปล่าครับ
เริ่มหัวข้อโดย: สหายแป๋ง คนดง ที่ พฤษภาคม 30, 2010, 05:56:14 PM
ขออณุญาตตั้งหัวข้อกระทู้หน่อยนะครับและขอเว้นเรื่องการเมืองครับ  ::014::เพื่อนสมาชิกคิดเห็นเป็นประการใดบ้าง สำหรับผมเองคิดว่า
     1. น่าจะมีคนที่ไม่เคยมีปืน จะอยากมีติดบ้านกันมากขึ้น โดยเฉพาะท่านที่มีที่พักอาศัยใกล้ที่ชุมนุมหรือใกล้จุดที่มีไฟใหม้ ทั้งในเขต กทม. และต่างจังหวัด  เพราะหลายกรณีชี้ให้เห็นได้ว่า "ปืนสามารถป้องกันไฟใหม้บ้านได้"
     2. เรื่องราคา กลัวว่ามันจะแพงขึ้นไปอีก จากการที่มีผู้ต้องการซื้อมากขึ้น
     3. ข้อนี้คิดไม่ออกครับว่า รัฐบาลจะมีนโยบายอย่างไรกับปืนที่จะมีการซื้อขายกันในอนาคต (ไรเฟิลอาจจะถูกเพ่งเล็งมากขึ้นหรือเปล่า)
          
          ขออภัยที่ทำให้สิ้นเปลืองพื้นที่เว็ปและขอบคุณเพื่อนสมาชิกที่สละเวลามาอ่านและตอบครับ  ::014::
    

         1. น่าจะมีคนที่ไม่เคยมีปืน จะอยากมีติดบ้านกันมากขึ้น โดยเฉพาะท่านที่มีที่พักอาศัยใกล้ที่ชุมนุมหรือใกล้จุดที่มีไฟใหม้ ทั้งในเขต กทม. และต่างจังหวัด  เพราะหลายกรณีชี้ให้เห็นได้ว่า "ปืนสามารถป้องกันไฟใหม้บ้านได้"
       แน่นอนครับ  แม้แต่คนที่เคยมีปืนแล้วก็ยังอยากที่จะมีอีก  แต่ปัจจัยสำคัญใช่ว่าทุกคนจะต้องการที่จะมีปืนไปทั้งหมด  กลุ่มคนที่ไม่ชอบปืนก็มีเยอะครับ
     2. เรื่องราคา กลัวว่ามันจะแพงขึ้นไปอีก จากการที่มีผู้ต้องการซื้อมากขึ้น
       เท่าที่ผมไปเดินสอบถามมา  ราคายังไม่แพงขึ้นกว่าก่อนหน้าที่จะเกิดเหตุมากนัก  ยังเพิ่งวิตกกังวลจนเกินไป
   3. ข้อนี้คิดไม่ออกครับว่า รัฐบาลจะมีนโยบายอย่างไรกับปืนที่จะมีการซื้อขายกันในอนาคต (ไรเฟิลอาจจะถูกเพ่งเล็งมากขึ้นหรือเปล่า)   
       ขอนี้คงไม่มีสมาชิกท่านใดคิดแทนหรือเดาใจรัฐบาลได้เช่นกันครับ  อยากมีรีบขออย่าให้สายจนทำอะไรไม่ได้ ::002::   


หัวข้อ: Re: หลังจากบ้านเมืองสงบ คนที่ไม่มีปืนจะอยากซื้อปืนมากขึ้นหรือเปล่าครับ
เริ่มหัวข้อโดย: deang ที่ พฤษภาคม 31, 2010, 01:33:59 PM
Ummm

ปีนึงใช้ปืน แค่ 2 วัน วันฝน ตก กะ วันแดด ออก

ธรรมดา ก็ แค่ 21A ไว้ เที่ยว ผับ กะ โรงเบียร์ ....

ยุค ศอฉ เพิ่ม P-01 เสียบแมกยาว15 นัด สำรองอีก 2 + 870 ด้ามสั้น ต่อหลอด8 นัด  ...

เจอ พม่า / เขมร (แดงเทียม)  มาทุบรถ ละก็ มันต้องโชค ร้าย แน่ ๆ เลยยย


หัวข้อ: Re: หลังจากบ้านเมืองสงบ คนที่ไม่มีปืนจะอยากซื้อปืนมากขึ้นหรือเปล่าครับ
เริ่มหัวข้อโดย: SigPro-รักในหลวง ที่ พฤษภาคม 31, 2010, 02:17:51 PM
     ผมเห็นด้วยกับเรื่องที่ว่า  คนหลายๆคนหลายครอบครัว ตอนนี้คงอยากจะเริ่มหาปืนมาไว้ในครอบครอง  เพื่อที่จะเอามาป้องกันครอบครัวและชุมชนของตนเอง  ไม่ได้มีให้เอาไว้ไปดวลกับอาก้า อย่างที่บางท่านพูดมา   อย่างเหตุการณืที่เกิดขึ้นกับสมาชิกของเวบ นั่นก็เป็นตัวอย่างให้เห็นว่า ถึงมีปืนเยอะก็ไม่สามารถทำอะไรได้ เพราะมีอยู่คนเดียว สู้อยู่คนเดียว   หากคนอื่นในชุมชนที่ไม่มีปืน...ใครมันจะมากล้าช่วย?   แต่ถ้าคนในชุมชนมีปืนกันเยอะขึ้น  ผมว่ารูปการณ์อาจเปลี่ยนไป ม๊อบก็ม๊อบเหอะ...ถามหน่อยว่าใครบ้างอยากถูกยิง?  ก็พราะเขารู้ไงว่า คุณและชุมชนของคุณไม่มีปัญญาที่จะออกมาต่อต้านเขา  ใช้อาก้ากระบอกเดียว แม๊กสามสิบนัดแม๊กนึง ก็สามรถกดหัวคนทั้งชุมชนได้ เลยเป็นโอกาสให้ม๊อบมือปล่าวได้เข้ามาทำลายข้าวของ บ้านเรือนของพวกคุณได้


หัวข้อ: Re: หลังจากบ้านเมืองสงบ คนที่ไม่มีปืนจะอยากซื้อปืนมากขึ้นหรือเปล่าครับ
เริ่มหัวข้อโดย: ขุนช้าง-รักในหลวงและสมเด็จพระเทพ ที่ พฤษภาคม 31, 2010, 02:35:26 PM
ขอตอบนะครับ :)
ขอตอบความเห็นด้านบน
"มีเรื่องอะไรก็เรียกตำรวจ แล้วตำรวจก็จะมาช่วยกูได้"
วันที่ 19/5/2553 วันนั้นผมเบาใจ ว่าแถวบ้านถ้ามีอะไรก็เอาอยู่ เพราะมี ตำรวจปลายจราจลมาอยู่ที่ ป้ายรถเมล์ประมาณ 1 กองร้อย
หวังว่าจะได้รับการคุ้มครองอย่างเต็มที่  ก่อนเกิดเหตุ มีการซ้อมตั่งแถวรูปขบวน โชว์รให้อุ่นใจ ด้วย :~)
แต่ เซ็นเตอณ์วัน ก็ถูกเผา ดอกหญ้าก็ไม่เหลือ แถม อาคาร ปิ้งมอร์ที่ผมเช้าอยู่ก็โดนไปด้วย
เพราะ ก่อนเกิดเหตุ เหมื่อนมีการเตี้ยมกันมา ตำรวจ นั่งดู ม็อบเผายาง พอเริ่มมีเสียงปืนดัง ตำรวจ ก็เก็บของขึ้นรถ
เก็บหมด ชนิดที่ ว่า เก้าอี้ที่เอามาใช้นั้งก็เอากลับไปด้วย ดี ที่ เต็นมีคนกางให้ ถ้าเป็นของ ตำรวจ คงเก็บเต็นกลับไปด้วย
บางส่วนที่ไม่ๆได้ขึ้นรถผู้ต้องขังมา ก็วิ่งหนีข้ามไปหลบในร้านค้า  (ร้านลูกค้าผมยังด่าเลย แม่งวิ่งมาหลบหลังร้าน แล้วให้พวกนั้น บรรเลงเต็มที่) ::004::

หลังจากนั้น ก็ทำให้รู้ว่า ตำรวจ พึ่ง ไม่ได้  :~) ตำรวจ มี หน้าที่ รับ แจ้งความ /อำนวยความสะดวกการจราจร /เขียนใบสั่ง
และก็ ไล่รถที่มาจอดส่งของ ::014:: นอกนั้น บลา บลา บลา




เหอะๆๆขออนุญาติครับ เวรจริง แล้วเราจะมีไปเพื่ออะไรแบบนี้


หัวข้อ: Re: หลังจากบ้านเมืองสงบ คนที่ไม่มีปืนจะอยากซื้อปืนมากขึ้นหรือเปล่าครับ
เริ่มหัวข้อโดย: amfine02 รักในหลวง ที่ พฤษภาคม 31, 2010, 05:11:53 PM
จากที่ดูมา ก็คิดว่ามีใว้ตอนฉุกเฉินจริงๆดีเหมือนกันครับ

ถ้าจะไปชุมนุนอีกที่กทม จะเอาเรือใบไปต้อนรับเองครับ กทม จะได้ไม่โดนเผาอีก ดักตั้งแต่ขอนแก่นเลย


หัวข้อ: Re: หลังจากบ้านเมืองสงบ คนที่ไม่มีปืนจะอยากซื้อปืนมากขึ้นหรือเปล่าครับ
เริ่มหัวข้อโดย: flyingkob-รักในหลวง ที่ พฤษภาคม 31, 2010, 06:09:10 PM
คนอยากซื้อมีแน่............แต่จะใช้เป็นหรือไม่อีกเรื่องหนึ่ง

มีปืนแต่ใช้ไม่เป็น...น่ากลัวกว่า...คนไม่มีปืน