หัวข้อ: อำนาจในการสั่งคดี เริ่มหัวข้อโดย: RTCO ที่ สิงหาคม 10, 2010, 02:40:09 PM พอดีช่วงนี้เห็นข่าว DSI สั่งฟ้องหรือไม่ฟ้องคดีต่างๆทำให้เกิดความสงสัย
ว่าอำนาจในการจะสั่งฟ้องหรือไม่ฟ้องคดีเป็นของใครกันแน่ ระหว่างพนักงานสอบสวนหรืออัยการ หรือว่า DSI มีกฎหมายพิเศษที่ให้มีอำนาจสั่งคดีได้โดยไม่ต้องผ่านอัยการ แล้วถ้าหาก DSI มีความเห็นว่าไม่ฟ้อง แต่อัยการเห็นควรให้ฟ้องต้องถือตามความเห็นของใคร ไม่รู้จะถามที่ไหนขอถามที่นี่แล้วกันครับ ไม่มีเจตนาให้เป็นกระทู้การเมืองอยากรู้จริงๆครับ ::014:: หัวข้อ: Re: อำนาจในการสั่งคดี เริ่มหัวข้อโดย: SingCring ที่ สิงหาคม 10, 2010, 03:41:04 PM กรมสอบสวนคดีพิเศษนั้น เป็นหน่วยงานของรัฐ
มีหน้าที่สืบสวนสอบสวนคดีพิเศษตามบัญชีท้ายพระราชบัญญัติการสอบสวนคดีพิเศษครับ ซึ่งคดีพิเศษตามบัญชีท้าย ฯ ดังกล่าวต้องมีลักษณะอย่างใดอย่างหนึ่งดังต่อไปนี้ ๑. คดีความผิดทางอาญาที่มีความซับซ้อน จำเป็นต้องใช้วิธีการสืบสวนสอบสวนและรวบรวมพยานหลักฐานเป็นพิเศษ ๒. คดีความผิดทางอาญาที่มีหรืออาจมีผลกระทบอย่างรุนแรงต่อความสงบเรียบร้อยและศีลธรรมอันดีของประชาชนความมั่งคงของประเทศ ความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ หรือระบบเศรษฐกิจหรือการคลังของประเทศ ๓. คดีความผิดทางอาญาทีมีลักษณะเป็นคดีความผิดข้ามชาติที่สำคัญหรือเป็นการกระทำขององค์กรอาชญากรรม ๔. คดีความผิดทางอาญาที่มีผู้ทรงอิทธิพลที่สำคัญเป็นตัวการผู้ใช้หรือผู้สนับสนุน ๕. คดีคามผิดทางอาญาที่มีพนักงานฝ่ายปกครองชั้นผู้ใหญ่หรือตำรวจชั้นผู้ใหญ่ ซึ่งมิใชพนักงานสอบสวนคดีพิเศษหรือเจ้าหน้าที่คดีพิเศษเป็นผู้ต้องสงสัย เมื่อมีหลักฐานตามสมควรว่าน่าจะได้กระทำความผิดอาญา หรือเป็นผู้ถูกกล่าวหาหรือผู้ต้องหา ซึ่งการสืบสวน สอบสวนคดีพิเศษดังกล่าว จึงต้องให้มีพนักงานสอบสวนคดีพิเศษและเจ้าหน้าที่คดีพิเศษ ไว้ทำการสืบสวน สอบสวน และสรุปสำนวนคดีโดยเฉพาะ ตามพระราชบัญญัติการสอบสวนคดีพิเศษ พ.ศ. ๒๕๔๗ แต่อย่างไร พนักงานสอบสวนคดีพิเศษก็ยังมีหน้าที่และการสรุปสำนวนเหมือนกับ พนักงานสอบสวนแต่ละท้องที่ต้องรับผิดชอบ ในคดีอาญาทั่วไป พูดง่ายๆ ว่าพนักงานสอบสวนคดีพิเศษ ก็คือพนักงานสอบสวนทั่วไป ซึ่งต้องสืบสวนสอบสวนคดีพิเศษ และสรุปสำนวน ลงความเห็นสั่งฟ้องหรือไม่ แล้วส่งต่อให้พนักงานอัยการพิจารณาและลงความเห็นสมควรสั่งฟ้องหรือไม่อีกครั้งเหมือนกันครับ ส่วนกรณี ความเห็นสั่งไม่ฟ้องนั้น เท่าที่ดูตามมาตรา ๓๔ ตามพระราชบัญญัติการสอบสวนคดีพิเศษ พ.ศ. ๒๕๔๗ ซึ่งได้บัญญัติเรื่องกรณีที่พนักงานอัยการมีความเห็นสั่งไม่ฟ้อง ในคดีที่ดีเอสไอ มีความเห็นควรสั่งฟ้องไว้ว่า " ในกรณีที่พนักงานอัยการหรืออัยการทหาร แล้วแต่กรณี มีคำสั่งไม่ฟ้องคดีซึ่งได้สอบสวนโดยพนักงานสอบสวนคดีพิเศษ ให้การทำความเห็นแย้งตาม มาตรา ๑๔๕ แห่งประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญาหรือกฎหมายเกี่ยวกับวิธีพิจารณาความ อาญาอื่นเป็นอำนาจหน้าที่ของอธิบดี หรือผู้ดำรงตำแหน่งอื่นตามที่กำหนดในกฎกระทรวง " จากบทบัญญัติดังกล่าว แสดงให้เห็นว่า ในกรณีที่พนักงานอัยการมีความเห็นสั่งไม่ฟ้องคดี ดีเอสไอโดยอริบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ มีอำนาจเพียงทำความเห็นแย้ง เพื่อส่งให้อัยการสูงสุดเป็นผู้ชี้ขาด ว่าจะสั่งฟ้องหรือไม่อีกครั้ง ดังนั้น ตามความเห็นของผม น่าจะต้องถือความเห็นของพนักงานอัยการเป็นหลักครับ รอผู้รู้ท่านอื่นมาช่วยเสริมครับ ::014:: หัวข้อ: Re: อำนาจในการสั่งคดี เริ่มหัวข้อโดย: RTCO ที่ สิงหาคม 10, 2010, 03:45:02 PM กรมสอบสวนคดีพิเศษนั้น เป็นหน่วยงานของรัฐ มีหน้าที่สืบสวนสอบสวนคดีพิเศษตามบัญชีท้ายพระราชบัญญัติการสอบสวนคดีพิเศษครับ ซึ่งคดีพิเศษตามบัญชีท้าย ฯ ดังกล่าวต้องมีลักษณะอย่างใดอย่างหนึ่งดังต่อไปนี้ ๑. คดีความผิดทางอาญาที่มีความซับซ้อน จำเป็นต้องใช้วิธีการสืบสวนสอบสวนและรวบรวมพยานหลักฐานเป็นพิเศษ ๒. คดีความผิดทางอาญาที่มีหรืออาจมีผลกระทบอย่างรุนแรงต่อความสงบเรียบร้อยและศีลธรรมอันดีของประชาชนความมั่งคงของประเทศ ความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ หรือระบบเศรษฐกิจหรือการคลังของประเทศ ๓. คดีความผิดทางอาญาทีมีลักษณะเป็นคดีความผิดข้ามชาติที่สำคัญหรือเป็นการกระทำขององค์กรอาชญากรรม ๔. คดีความผิดทางอาญาที่มีผู้ทรงอิทธิพลที่สำคัญเป็นตัวการผู้ใช้หรือผู้สนับสนุน ๕. คดีคามผิดทางอาญาที่มีพนักงานฝ่ายปกครองชั้นผู้ใหญ่หรือตำรวจชั้นผู้ใหญ่ ซึ่งมิใชพนักงานสอบสวนคดีพิเศษหรือเจ้าหน้าที่คดีพิเศษเป็นผู้ต้องสงสัย เมื่อมีหลักฐานตามสมควรว่าน่าจะได้กระทำความผิดอาญา หรือเป็นผู้ถูกกล่าวหาหรือผู้ต้องหา ซึ่งการสืบสวน สอบสวนคดีพิเศษดังกล่าว จึงต้องให้มีพนักงานสอบสวนคดีพิเศษและเจ้าหน้าที่คดีพิเศษ ไว้ทำการสืบสวน สอบสวน และสรุปสำนวนคดีโดยเฉพาะ ตามพระราชบัญญัติการสอบสวนคดีพิเศษ พ.ศ. ๒๕๔๗ แต่อย่างไร พนักงานสอบสวนคดีพิเศษก็ยังมีหน้าที่และการสรุปสำนวนเหมือนกับ พนักงานสอบสวนแต่ละท้องที่ต้องรับผิดชอบ ในคดีอาญาทั่วไป พูดง่ายๆ ว่าพนักงานสอบสวนคดีพิเศษ ก็คือพนักงานสอบสวนทั่วไป ซึ่งต้องสืบสวนสอบสวนคดีพิเศษ และสรุปสำนวน ลงความเห็นสั่งฟ้องหรือไม่ แล้วส่งต่อให้พนักงานอัยการพิจารณาและลงความเห็นสมควรสั่งฟ้องหรือไม่อีกครั้งเหมือนกันครับ ส่วนกรณี ความเห็นสั่งไม่ฟ้องนั้น เท่าที่ดูตามมาตรา ๓๔ ตามพระราชบัญญัติการสอบสวนคดีพิเศษ พ.ศ. ๒๕๔๗ ซึ่งได้บัญญัติเรื่องกรณีที่พนักงานอัยการมีความเห็นสั่งไม่ฟ้อง ในคดีที่ดีเอสไอ มีความเห็นควรสั่งฟ้องไว้ว่า " ในกรณีที่พนักงานอัยการหรืออัยการทหาร แล้วแต่กรณี มีคำสั่งไม่ฟ้องคดีซึ่งได้สอบสวนโดยพนักงานสอบสวนคดีพิเศษ ให้การทำความเห็นแย้งตาม มาตรา ๑๔๕ แห่งประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญาหรือกฎหมายเกี่ยวกับวิธีพิจารณาความ อาญาอื่นเป็นอำนาจหน้าที่ของอธิบดี หรือผู้ดำรงตำแหน่งอื่นตามที่กำหนดในกฎกระทรวง " จากบทบัญญัติดังกล่าว แสดงให้เห็นว่า ในกรณีที่พนักงานอัยการมีความเห็นสั่งไม่ฟ้องคดี ดีเอสไอโดยอริบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ มีอำนาจเพียงทำความเห็นแย้ง เพื่อส่งให้อัยการสูงสุดเป็นผู้ชี้ขาด ว่าจะสั่งฟ้องหรือไม่อีกครั้ง ดังนั้น ตามความเห็นของผม น่าจะต้องถือความเห็นของพนักงานอัยการเป็นหลักครับ รอผู้รู้ท่านอื่นมาช่วยเสริมครับ ::014:: ขอบคุณครับ +1 หัวข้อ: Re: อำนาจในการสั่งคดี เริ่มหัวข้อโดย: submachine -รักในหลวง- ที่ สิงหาคม 10, 2010, 04:28:37 PM +1ท่านสิงห์ครับ
หัวข้อ: Re: อำนาจในการสั่งคดี เริ่มหัวข้อโดย: pscn ที่ สิงหาคม 10, 2010, 04:58:13 PM + ให้น้าท่านสิงห์ครับ ::002::
|