เว็บบอร์ดสนทนาภาษาปืน

 :D~ผมไม่ได้เสียอะไรเกี่ยวกับเรื่องนี้  แต่คันปากครับอยากทราบความคิดเห็นทุกท่านบ้าง  ผมว่าหลักการดีที่จะกระจายอำนาจ แต่ที่นี่ประเทศไทย คงเห็นกันแล้ว ที่ลงสมัครก็เพื่อผลประโยชน์ซะส่วนมาก แถมทำกร่าง วางอำนาจกันเหลือเกิน (คนดีก็มีนะครับ)  ถ้าคนที่ได้รับเลือกเข้าไปเป็นคนไม่ดี  ผมว่าจะมีผลต่อครูเยอะนะครับ

ให้คุณครูส่วนใหญ่เป็นผู้ตัดสินก็แล้วกัน ท่านมีคุณวุฒิสูง

แต่อยากให้ข้อคิดนิดนึงตามที่ครูๆจำนวนมากติงมาคือ อบต.น่ะความรู้แค่ไหนเชียว ฉันสูงกว่าเยอะ ตรี-โท ทั้งนั้น

กระจาย  อำนาจ  สู่ ท้องถิ่น     ทำเยอะจังครับ    ทำทุกอย่างเลย 

หรือว่า.........   จังหวัด จะคล้าย มลรัฐ    ให้แต่ ละ รัฐ ปกครองตนเอง     แต่.....  บ้านเรา ไม่ได้ มี ประธานาธิบดี นี่น่า 


 ??? ??? ??? ??? ??? ??? ??? ??? ??? ??? ???

ยังไมถึงเวลาครับ
อบต. สมควรเพิ่มศักยภาพมากกว่านี้ เพราะ อบต.ที่พร้อมและศักยภาพสูงพอที่จะรับงานตรงนี้ได้
มีกี่ อบต.เชียว

(สงกะสัย จะทำเหมือน รร.เทศบาล)

ตอนนี้โกนหัวประท้วงกันแล้วครับ

นโยบาย De-centralization หรือการกระจายอำนาจนั้น หากแห่งหนตำบลใด ที่มีผู้ทรงคุณวุฒิ มีความสามารถเพียงพอ และมีการจัดการทรัพยากรที่ดี ในแต่ละท้องที่นั้น ก็สามารถทำให้บริหารจัดการได้อย่างมีประสิทธิภาพ รวดเร็วครับ แต่ลองหันกลับมามองดู องค์การบริหารส่วนตำบล ในประเทศไทย มีผู้ที่มีความรู้ความสามารถด้านการศึกษา อยู่ในตำบล(จบปริญญาตรีเป็นอย่างน้อย เกี่ยวกับการบริหารการศึกษา หรือศึกษาศาสตร์) หรือไม่? หรือมีเพียงแต่นักการเมืองท้องถิ่น ที่เป็นผู้รับเหมา (เห็นได้ในทุกๆ อ.บต.ในประเทศไทย)

ถ้ายังไม่มีบุคคลดังกล่าว ก็อาจทำให้ระบบการกระจายอำนาจการบริหารล้มเหลวได้ครับ :(

นี่ยังไม่หมดนะครับ เท่าที่เคยดูในแผนกระจายอำนาจ เรื่องการตรวจโรงงานอุตสาหกรรม ซึ่งปัจจุบันทำโดย อุตสาหกรรมจังหวัด ซึ่งเป็นหน่วยงานส่วนภูมิภาค ของกรมโรงงานอุตสาหกรรม ก็จะถูกกระจายให้ อ.บต.ด้วยเหมือนกัน ไม่รู้ว่าจะตรวจโรงงานกันเป็นหรือเปล่า? เศร้าครับ ผมกลัวจะทำให้เกิดช่องทางในการกระทำการอันเป็นทุจริตต่อหน้าที่ราชการ และประเทศชาติบ้านเมืองครับ :(

ขอบคุณครับ

  ??? ???ไม่เห็นด้วยครับ มีไม่กี่อบต.หรอกครับที่พร้อม แผนการศึกษานะครับไม่ใช่ขายขนมเด็ก ต้องวางรากฐานกันยาวๆ ไม่ใช่ทดลองก่อนไม่ดีค่อนคืนสังกัด การศึกษาของชาติไม่ใช่เรื่องที่จะมาทดลองครับ จริงๆ อบต.นะแหละรู้ดีว่าพร้อมขนาดไหน? แต่ทำไมชอบตะแบงก็ไม่รู้คนในสังคมนี้

สงสารครูและเด็กนักเรียนครับ ผมได้ฟังครูหลายท่านบ่นมาว่าสาเหตุที่ประสิทธิภาพในการสอนของครูน้อยลงทุกวันก็เพราะ...
ประการแรก หลักสูตรใหม่ที่เปลี่ยนมาใช้ในปัจจุบัน ตำราเรียนยังออกมาไม่ครบทุกชั้น ครูไม่รู้จะสอนอะไร เด็กไม่รู้จะเรียนอะไร ร้านก็ไม่รู้จะขายอะไร ที่นี้แต่ละโรงเรียนสอนชั้นเดียวกันก็ใช้แบบเรียนกันคนละเล่ม เวลาเด็กย้ายโรงเรียนก็เรียนไม่ต่อเนื่อง
ประการที่สอง ระบบการประเมินครูในปัจจุบันที่ใช้แฟ้มสะสมงาน ครูต้องเสียเวลาในการทำผลงาน มิฉะนั้นจะถูกประเมินไม่ผ่าน ทำให้สอนเด็กได้ไม่เต็มที่ 
ประการที่สาม ครูในสามจังหวัดภาคใต้ยิ่งไปกันใหญ่ ไม่มีกำลังใจที่จะสอน เพราะนอกจากสองประการข้างต้นแล้ว ยังต้องดูแลสวัสดิภาพของตัวเองเป็นพิเศษด้วย

ผมคิดว่าครูควรจะได้ดูแลกันเองครับ เพราะพี่ๆลองลงมาดูสมาชิก อบต.แถวสามจังหวัดภาคใต้ซิครับ ทั้งชุดนามสกุลต่างประเทศ 100% ผมไม่ได้ว่านะ บางคนพูดภาษาไทยยังไม่ชัดเลย จะให้ดี กำหนดวุฒิของอบต.ก่อนน่าจะดีกว่า

 :~) ฐานะที่ทำงานในส่วนท้องถิ่นคนหนึ่ง  อปท. ไม่ได้เป็นหน่วยงานที่ต้องการจะรับโอนภารกิจจากหน่วยงานอื่นหรอก แค่ลำพังภารกิจหน้าที่ตามกฎหมายเกี่ยวกับสาธารณูปโภคที่เป็นภารกิจหลักในปัจจุบัน ก็หนักหนาสาหัสอยู่แล้ว  เช่น  กรมทางหลวงชนบท (รพช. เดิม)  ที่ถ่ายโอน บ่อบาดาล ประปาหมู่บ้าน  ถนนลาดยาง ซึ่งแต่ละโครงการที่มอบมา อปท. ต้องจัดงบประมาณบำรุงรักษาและบริหาร โดยเฉพาะ ประปาหมู่บ้าน ส่วนใหญ่ทิ้งร้างขาดการบำรุงรักษา สารพัดปัญหา ???  ในส่วนเรื่องการถ่ายโอนโรงเรียน ไม่อยู่ในสมอง ครับ เพราะไม่ไช้ความต้องการของ อปท. แต่เป็นการยัดเยียดกันมากกว่าครับ  เพราะต้องประเมินตัวเอง ก่อนว่ารับมอบโรงเรียนมาแล้ว  เด็กนักเรียนจะมีคุณภาพจะดีกว่าเดิมหรือไม่  ตอนนี้จะเห็นได้ว่าตอนนี้ อปท. ยังไม่ได้ออกมาโต้ตอบการประท้วงของ ครู  แต่ถ้าครูยังออกมากล่าวหา อปท. อีกเรื่อย ๆๆ คงไม่แน่ เพราะ อปท.  ไม่มีความผิดอะไร ผิดที่เป็นหน่วยงานที่จะต้องรับโอนภารกิจตามกฎหมายเท่านั้น..........
เหตุที่รัฐบาลรีบโอนโรงเรียนให้ท้องถิ่น เนื่องจากรัฐต้องจัดสรรงบประมาณให้ท้องถิ่น ตาม พรบ. กระจายอำนาจ ถึง 35 %  ของงบประมาณทั้งหมด  ภายใน พ.ศ. 2549  ซึ่งปัจจุบัน  จัดสรรให้ได้ประมาณ  25  %  เอง  ดังนั้นเงินเดือนครูทั้งประเทศเมื่อรวมกันแล้วมีจำนวนมากเอาไปคิดเป็นเปอร์เซนต์ คงจะเพิ่มได้อีกมาก  คิดๆ แล้ว อปท. รับโอนครูมาเพื่อเป็นเปอร์เซนต์งบประมาณที่รัฐจัดสรร ให้ครบ 35 %  เอง   ดังนั้นถ้าครูคัดค้านการถ่ายโอนครั้งนี้สำเร็จ ไม่รู้ว่ารัฐบาลจะหางบประมาณจากไหนมาจัดสรรให้ อปท.ครบ  35 %  เดี่ยวก็หาเรื่องโอนหน่วยงานอื่นมาสังกัด อปท. อีก ให้ปวดหัวกันล่ะ  (สมมติงบประมาณรัฐบาล  1 ล้านล้านบาท  ต้องจัดสรรให้ อปท. 350,000  ล้านบาท  คิดดูจะหาเงินจากไหน)

...ผมว่างานนี้ไม่มีอะไรมากหรอก  รัฐบาลกลางต้องการยกภาระค่าใช้จ่ายมาให้ท้องถิ่นแค่นั้นเอง

รัฐบาลนี้เอะอะ   อะไร ๆ ก็จะโอนมาให้ท้องถิ่นทุกอย่าง  พวกกระผมรับผิดชอบงานยิ่งกว่าพวกที่อยู่้ส่วนกลาง (เทียบในระดับซีเดียวกัน)อีก ต้องทำให้ได้ทุกอย่าง  ผิดนิด ผิดหน่อยก็จะจ้องย้ายบ้าง ไล่ออกบ้าง  อยู่ท้องถิ่นใช่ว่าจะสบายนะครับ  ต้องเอาใจทั้งนักการเมืองและกับเจ้านายซึ่งเป็นข้าราชการพวกเดียวกันอีก " ถูกระเบียบแต่ไม่ถูกใจ ถูกใจแต่ไม่ถูกระเบียบ" ทำตัวลำบากเหมือนกัน

ผมขอให้ทำอย่างไรก็ได้ที่ไม่ต้องให้ครู สอนพิเศษเป็นอาชีพหลัก สอนในโรงเรียนเป็นงานเสริมครับ ด้วยความเคารพคุณครูทุกท่านที่ประสิทธิ์ฯ วิชาความรู้ให้ผมได้มีชีวิตที่ดีในทุกวันนี้ครับ

โดยหลักการแล้วดีครับ แต อปท.(องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น) หลายๆแห่งยังไม่พร้อมครับ เพราะแม้แต่ พนักงานของ อปท. เองก็ยังมีอีกมากที่มีทัศนคติดึกดำบรรพ์ ครับ ที่ผมพูดยังงี้ เพราะตอนนี้ผมก็ทำงานอยู่กับ อปท. ครับ

อบต.  เองก็ยิงกันเป็นว่าเล่น
คงอีกหลายยกครับ

ขอเหตุและผลด้วยครับ
ถ้าไม่โอน กับ โอน มีความแตกต่างกันอย่างไร
มีข้อดี และข้อเสีย อย่างไรบ้างครับ
สรุปแล้ว อปท. ยินดีต้อนรับหรือไม่ครับ หรือว่าครูไม่อยากไปครับ

ด้วยความเคารพครับ ;)

 ;Dในฐานะของคนที่ทำงานเป็นข้าราชการส่วนท้องถิ่นนั้น.....เรืองการโอนครูนี่ขิงก็ราข่าก็แรงครับ...ฝ่ายครูก็ถือตัวว่ามีความรู้สูง..เป็นคนสอนให้คนในท้องถิ่นมีความรู้...ซีในระดับ ผอ.บางคนก็ยังสูงกว่านายอำเภอ....เรืองอะไรที่จะลดตัวมาให้ชาวบ้านเขาชี้นิ้วสั่ง.....และในส่วนของ อปท.นั้นก็ไม่รู้ในบทบาทของตนเองอย่างชัดแจ้งก็เลยก้าวก่ายงานไปทั่ว....บางคนก็ซื้อเสียงหรือพวกมากลากเข้ามา......กร่างและบางคนก็ดูเหมือนว่าไม่มีความรู้อะไรเลยนอกจากการฮั่ว...กินเปอร์เซ็น..กินตามน้ำ.....ในส่วนของข้าราชการ อปท. นั้นก็ยังขาดความรู้ความเข้าใจในหน้าที่และบทบาทของตน.ส่วนพวกที่เคยรับราชการในหน่วยอื่น ๆ ก็ไม่ค่อยจะอยากมาอยู่นัก(นาน ๆ จะเจอสักคน :~)).ลูกจ้างส่วนมาก(99%)ไม่ลูกผู้ใหญ่บ้านก็หลานกำนันหรือไม่ก็เป็นดองเถาวันพันเถาถั่วกับผู้นำในชน.....กลับไปถามอีกรอบครับว่ามีความเห็นเรืองโอนครูมาสังกัด อปท.ยังไง ;D
;Dครูไม่อยากมาครับและถ้าอยากมาจริง อปท.ก็ยังไม่พร้อมที่จะทำให้ดีได้ ;D

ขอบคุณมากๆ ครับพี่ Zeus ;D

ตรงเผงเลยครับท่าน

เรื่องจริงที่ทุกคนมองเห็น (ยกเว้นรัฐบาล) :~)

รัฐน่าจะทำประชาพิจารณ์สอบถามความต้องการของครูทั่วประเทศ  ผมว่าเกือบ 100 % ครูไม่เห็นด้วยอย่างแน่นอน เจตนารมย์ของรัฐธรรมนูญต้องการให้มีการกระจายอำนาจลงสู่ท้องถิ่นแต่ไม่ได้ระบุไว้เลยว่าจะต้องมีการถ่ายโอน และตอนนี้ท้องถิ่นเข้ามามีบทบาทมากในโรงเรียน เช่น เป็นคณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐานร่วมกันพัฒนาโรงเรียนในด้านต่าง ๆ พิจารณาอนุมัติงบประมาณที่โรงเรียนได้รับมา   ร่วมกับคณะครูร่างหลักสูตรท้องถิ่นใช้ในสถานศึกษาของตน  บุคคลท่านใดในท้องถิ่นมีความรู้ความชำนาญในสาขาอาชีพต่าง ๆ ก็เชิญมาเป็นวิทยากรภายนอกให้ความรู้กับนักเรียน เป็นการใช้ภูมิปัญญาท้องถิ่นให้เกิดประโยชน์อย่างสูงสุด  จะเห็นได้ว่าในระยะหลัง ๆมานี้ชุมชนเข้าโรงเรียนมากกว่าแต่ก่อนมากซึ่งเป็นประโยชน์กับโรงเรียนในด้านต่าง ๆเป็นอย่างมาก   โดยส่วนตัว ผม ในฐานะครูคนหนึ่ง ไม่เห็นด้วยกับการถ่ายโอน  :)

อย่าคิดดังดิ มันเป็นแผนของรัฐบาลเขา  :~) :~)

ผมไม่มีญาติเป้นครู...ไม่เห็นด้วยกับเรื่องนี้  เพราะมีเพื่อนพี่น้องเป็นอปต.  ยังไม่ถึงเวลาจริงๆครับ :~)

ต้องยอมรับครับว่าองค์การบริหารส่วนท้องถิ่นในปัจจุบันนี้ยังไม่พร้อมถึงขนาดนั้นนะครับ  แค่งานที่มีอยู่ตามปกติก็ล้นมือแล้ว  ส่วนตัวผมเห็นว่าปล่อยไว้อย่างเดิมน่ะดีแล้ว   เข้าใจไหมครับรัฐบาลของพี่เหลี่ยม....

 :( ปัจจุบันการจัดการศึกษาของรัฐ ยังไม่มีมาตรฐาน ถ้าโอนไปให้ อบจ. อบต. ดูแล รู้ๆกันอยู่ว่าที่มาของ อบจ. อบต. ของแต่ละที่เป็นอย่างไร ต่อไปครูในโรงเรียนก็ไม่พ้นลูก หลาน เด็กเส้น เด็กฝากของ อบจ. อบต. คุณภาพการศึกษายิ่งจะแย่ลงกว่าเดิม คนที่รับเคราะห์กลายเป็นเยาวชนอนาคตของชาติไทย...นี่ยังไม่ได้พูดถึง ขอ รับ ฉัน ....อีกต่างหาก... >:(
...ทีหน่วยงานที่เขาอยากออกจาก ศธ. อย่าง มหาวิทยาลัยต่าง ๆ กลับไม่ยอมให้เขาออก.... ::)

 :~) :~) :~)

555  อย่ามีอคติครับพี่สนเด๋วยิงไม่แม่นนะเออ

ฟันธงเลยครับว่าข้าราชการ ของ อปท .นั้น 98% ไม่อยากได้มาเพื่อเพิ่มภาระตัวเองหรอกครับ ตอนนี้ก็จะตายกับงานที่โอนมาร้อยกว่าภารกิจแล้ว ไม่รู้จะรับโอนมาทำไม
  เห็นมีแต่พวกนักการเมืองนี่แหละอยากให้มีกันจัง  มันเป็นนโยบายของรัฐครับเราเป็นผู้ปฏิบัติงานร้องไป โกนหัวเหน่งกันทั้งประเทศ  กรีดเลือดตัวเอง 30 ปี๊ปมันก็ไม่ได้ผลหรอกครับ  กลับกลายเป็นว่า  ครูกับ  อปท. ต้องมาทะเลาะกันจะเป็นจะตาย  นี่ก็ได้ข่าวว่าจะยุบ อบต.ที่ประชากรไม่ถึง 4,000 คนอีกแล้ว  เฮ้อไม่รู้ว่าจะต้องทำงานสนองรํฐที่อยู่ในหอคอยงาช้างไปอีกเท่าไร

ว้ากสสสสสส์..............คิดมากปวดหัวว้อย.....  กินข้าวดีกั่ว

อืม..ม.ม..ม..ม...
แล้วถ้าครูมาอยู่กะ อปท.จริง

แล้ว สพฐ.ล่ะครับ


(สพฐ. = สำนักงานคณะกรรมการ การศึกษาขั้นพื้นฐานครับ)

http://www.obec.go.th/

ในฐานะครูคนหนึ่ง  :) ขอตอบครับ :)
ครูไม่อยากไปครับ แต่ตามอำนาจของท้องถิ่นมีข้อหนึ่งคือสามารถจัดการศึกษาได้
ผมว่าท้องถิ่นเขารู้ตัวดีกว่ายังไม่พร้อมครับ
การศึกษาไม่ใช่เรื่องที่จะทำเล่น ๆ ได้นะครับ
แต่คนที่มีอำนาจทุกวันนี้เขาลืมตัวไปว่ากว่าตนเองจะมาเป็นใหญ่ได้ทุกวันนี้เขาเรียนมาจากไหนเรียนอย่างไร
ครูของเขาสอนเขาอย่างไรเขาจึงอ่านออกเขียนได้คิดได้

อีกอย่างหนึ่งครับ ครูกลัวการเปลี่ยนสถานะจาก "ข้าราชการ" เป็น "พนักงานส่วนท้องถิ่นครับ"

 ???ไม่อยากไปครับ....ก่อนนี้ครูต่อสู้กันมานานกว่าจะหลุดออกมาจากวงโคจร  ขององค์การบริหารส่วนจังหวัด...ที่นิยมเกณฑ์ครู สาวๆไปเสริฟเหล้า เบียร์ ผู้ว่า นายอำเภอครับ...ตอนนี้จะให้ไปเสริฟ นายก อบต. อีกแล้ว ...อะไรกันนี่  ..รัฐบาลไหนกล้ากับครู  500,000 กว่าก็น่าจะลอแงดู.... :o

ขอมองในมุมกลับครับ ประชาชนในท้องถิ่น ก็ผ่านระบบการเรียนในโรงเรียนที่ครูเหล่านี้สอนมานะครับ ทำไมครูไม่สอนให้เขาเลือกคนดีคนเก่งเข้ามาบริหาร อบต. ละครับ  จะได้ไม่มีปัญหา

  :~) :~):~)เออไม่พลาดมั่งให้มันรู้ไป :~) :~) :~) :~) :~)

เห็นด้วยกะพี่ซับค่ะ ไม่ได้มีอคตินะคะ จะโอนก็ได้แต่ต้องมีความพร้อมก่อนค่ะ
คิดกันให้เยอะอีกนิด ช่วยกันคิดช่วยกันทำ เวลาปรึกษากันขอให้เห็นแก่ประโยชน์ของประเทศชาติเป็นหลัก
เพราะเรื่องนี้เป็นเรื่องที่กระทบต่ออนาคตของชาติเราเลยทีเดียวค่ะ เด็กเป็นพื้นฐานของความเจริญ
ถ้ามีปัญหาตั้งแต่ระดับต้นๆแล้ว จะทำให้ชาติอ่อนแอค่ะ ทั้งครูและองค์การบริหารส่วนท้องถิ่น ก่อนจะทำอะไร
ให้คิดถึงเด็กของเราเป็นที่ตั้งนะคะ ถกจะเถียงกันก็ทำไปเถอะถ้าสิ่งที่ทำมันเพื่อเด็กๆของเรา

กราบเรียนตรงๆด้วยใจนะครับ  อ.บ.ต.ที่อื่นผมไม่ทราบคุณวุฒิ  แต่อ.บ.ต.แถวบ้านผม ขาดคุณวุฒิ และมีพื้นฐานมาจากกลุ่มคนมีอำนาจ และหางแถว นักการเมืองท้องถิ่น เข้ามาเพื่อผลประโยชน์กว่า99เปอร์เซนต์ เหลือ1%ทำงานแบบสุกเอาเผากิน เบียดบี้งบพัฒนาต่างๆ จนงานที่ออกมาดูไม่ได้เลย ขอโทษนะครับอาจแรงไปหน่อย แต่ผมรู้สึกเช่นนี้จริงๆ

;Dเรืองปรกติครับ...แสดงว่ายังไม่ชิน :~)

ที่ผมคุมงานอยู่ทุกวันนี้ก็ปวดหัวกับพวกนี้เหมือนกันครับ  ยืนยันครับ  อปท.ที่พวกผมทำงานกันอยู่ยังไม่ต้องการรับภาระเพิ่มและยังไม่พร้อมครับ  ปล่อยให้เป็นเหมือนเดิมดีแล้วครับ