เว็บบอร์ดสนทนาภาษาปืน

 ???
สงสัยมานานแล้วครับ เวลาเห็นข่าวทางภาคใต้
ถ้าท่านใดรู้จัก จะกรุณาวาดภาพลายเส้นแล้วแสกนโพสต์ให้ดูหน่อยได้ไหมครับ
ขอบคุณครับ

นี่ครับ...

http://www.manager.co.th/Local/ViewNews.aspx?newsID=9480000137945

(http://www.manager.co.th/asp-bin/Image.aspx?ID=397528)

ตะปูดัด 2 ช่วงครับ เวลาโยนไปจะตั้งเสากระโดงเรือเสมอครับ

เหล็กตะปูยาวประมาณ 3-4 นิ้ว ตัดด้านที่ใชค้อนตอกให้มีความแหลมเหมือนอีกด้าน งอให้เป็นรูปเหมือนมูมมแลง (ไม่รู้เขียนถูกหรือเปล่า )  ทำสองอันแล้วเอาจุดงอของตะปูสองอันมาเชื่อมติดกันในลักษณะหันหน้าเข้า  ครับ ตอนเด็กๆ ทำบอยครับ ;D ;D ;D

ยกมาให้อ่านครับ... น่าอ่าน

รายงานโดย...เจษฎา สิริโยทัย ผู้สื่อข่าวประจำจังหวัดยะลา ศูนย์ข่าวหาดใหญ่
       
       อ่านและฟังข่าวสถานการณ์ในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ที่ไร ก็ได้ยินถึงเรื่อง “ตะปูเรือใบ” ที่โจรใต้ทิ้งเอาไว้เกลื่อนถนนตรงบริเวณที่ได้ปฏิบัติการ
       
       นับตั้งแต่เหตุการณ์เดือนมกราคม 2547 ที่ยกโขยงบุกปล้นปืน ภูมิปัญญาตามภาษาเขาก็คือ “โค่นต้นไม้ขวางถนน” และ “โรยตะปูเรือใบ” เป็นระยะทางยาวหลายกิโลเมตร เพื่อการสกัดกั้นการสนับสนุนหรือการช่วยเหลือด้านกำลังของ จนท.จากภายนอก
       
       นี่คือ...อาวุธสุดห่วยของโจรใต้ที่ใช้ในการตัดกำลัง จนท.รัฐ แต่ดันได้ผลทั้งทหาร-ตำรวจ-ฝ่ายปกครองยกโขยงกันมายางล้อรถยนต์มีอันต้องแหกและแตกเป็นคันๆ ไป
       
       ก็ถือว่า ตะปูตัวน้อยตัวเขื่องสิ้นเปลืองงบประมาณโจรไม่กี่มากน้อย แต่มันไม่ด้อยน้อยสักนิดในความสำคัญของการตัดกำลังหนุนและช่วยเหลือผู้บาดเจ็บของ จทน.รัฐ
       
       นับตั้งแต่การปล้นปืน 4 มกราคม 2547 ที่ค่ายทหารกองพันพัฒนาที่ 4 บ้านปิเหล็ง ต.เจาะไอร้อง อ.เจาะไอร้อง จ.นราธิวาสเป็นต้นมา เหตุการณ์เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง “ตะปูเรือใบ” ของโจรแบ่งแยกดินแดน 3 จังหวัดชายแดนใต้ก็ถูกผลิตและถูกนำมาใช้ทุกครั้ง ควบคู่ไปกับการก่อเหตุด้วยการสร้างสถานการณ์ทุกรูปแบบ ขึ้นอยู่กับว่ามันจะใช้ก่อนหรือหลังของการก่อเหตุ
       
       หลังจากนั้นไม่นาน ทางราชการทั้งทหาร ตำรวจ และฝ่ายปกครองก็แก้เกมด้วยการปรับกระบวนยุทธ์สู้ตะปูเรือใบโจรใต้ ด้วยการจัดซื้อ “รถยนต์ฮัมวี่” ที่ทหารใต้ใช้วิ่งอยู่ตามท้องถนน สนนราคาโคตรแพงลิบ 4 ล้านกว่าบาทต่อคัน
       
       จากนั้นรถยนต์ฮัมวี่ของทหารนับสิบนับร้อยคันก็ถูกส่งลงมาชายแดนใต้ ทว่าหาได้หยุดยั้งตะปูเรือใบได้ไม่ ยางรถยนต์ยังแหกแตกเหมือนกันกับรถยนต์ทั่วไปใช้การอะไรไม่ได้ แต่ก็ยังดีบ้างตรงที่ว่าฮัมวี่สามารถวิ่งไต่ระดับสมรรถนะเหมือนรถยนต์ออฟโรด แต่เมื่อยางแตกมันจะทำอะไรได้
       
       การสนับสนุนเข้าช่วยเหลือเวลามีเหตุก็ไม่ทันเหตุทันการณ์ เป็นที่รำคาญหัวใจของนักรบผู้ปฎิบัติในสนามยิ่งนัก เพราะคนร้ายมักหลบหนีไปได้อย่างลอยนวลทุกครั้ง แทนที่จะได้ไล่จับสวนกลับไปได้อย่างมีประสิทธิภาพบ้าง
       
       กลางปี 2547 ฮัมวี่ของทหาร รถตรวจการยูนิม๊อคยี่ห้อเบนซ์ รวมทั้งรถตรวจการณ์ที่ผลิตโดย โตโยต้า ถูกส่งลงมาเป็นโขยงมูลค่าหลายสิบหลายร้อยล้านบาท แต่ก็นั่นแหละ กลับยังสู้ “ตะปูเรือใบ” ไม่ได้อีกอย่างเคย ยางแตกวิ่งบดล้อฮ้อแรดไปเป็นแถว ก่อนที่จะเข้าไประงับเหตุหรือสนับสนุนกำลังในที่เกิดเหตุรุนแรงแต่ครั้ง
       
       ครั้นหันไปดูของราชการตำรวจและมหาดไทยกันบ้าง ที่เห็นและก็สุดเสียดายเงินภาษีชะมัด โดยเฉพาะรถของ ตชด.แบบสี่ล้อมีคนขับคนเดียวซ้อนได้ 1 คน ที่จำได้เห็นมาจากในภาพยนตร์ฝรั่งที่เขาใช้วิ่งเล่นไล่กันตามชายหาดหรือทะเลทราย จะว่าเป็นรถจักรยานยนต์ก็ไม่ใช่ รถซาเล้งก็ไม่เชิง
       
       รถจักรยานยนต์แบบ เอ็นทีวี ยี่ห้อ ไทเกอร์ สอบถามผู้ปฎิบัติแล้วใช้ปฏิบัติการในพื้นที่เกิดเหตุไม่ได้เลย นอกจากเชื่องช้าแล้ว อันตรายอันเนื่องมาจากอาจพลิกคว่ำก็มีสิทธิ์เกิดขึ้นได้ในอัตราสูงมาก กำลังพลคอหักเพราะพื้นที่ต่างระดับนั้นมีสูงเช่นกัน
       
       แต่ถ้าเป็นแบบ เอ็นทีวี ขนานแท้ในต่างประเทศนั้น ประสิทธิภาพกลับแตกต่างตรงกันข้ามเกือบทุกสภาพการณ์ แต่พอให้ผู้ผลิตในบ้านเราทำ คุณภาพทำไมกลับได้ไม่เหมือนของต่างประเทศ
       
       ถามว่า...สนนราคาคันละเท่าไร
       
       ตอบว่า...เกือบ 3 แสนบาท และต้องจัดว่าอยู่ในระดับโครตแพง
       
       ทั้งนี้ ก็ต้องนับเป็นเรื่องบังเอิญที่เกิดเหตุการณ์โจรใต้ลอบถล่มตำรวจชุดคุ้มครองครูในพื้นที่ บ้านอุเบ็ง ม.4 ต.ปะแต อ.ยะหา จ.ยะลา เมื่อวันที่ 30 ก.ย.2548 ตอนเวลาประมาณ 08.10 น. ซึ่งจากการที่ผู้เขียนได้ติดตาม จนท.เข้าไปทำข่าวกับเขาด้วย เสียวสันหลังสุดๆ
       
       เหตุเพราะเรื่องมันเกิดขึ้นขณะที่คนร้ายกดระเบิดที่แอบฝังไว้ข้างทาง 2 ลูกพร้อมๆ กัน ในขณะที่กำลังเคลื่อนที่เร็วรถจักรยานยนต์ของตำรวจ 2 คัน ซ้อนท้ายกันมา 4 คน สิ้นเสียงระเบิด จนท.ที่ขับนายหนึ่งถูกสะเก็ดระเบิดเข้าเต็มร่างเสียชีวิตคาที่ ส่วนอีก 3 นายได้รับบาดเจ็บ แต่ยังแข็งใจยิงต่อสู้กับคนร้าย
       
       ทว่า ก่อนที่คนร้ายร้ายซึ่งคาดว่ามีไม่ต่ำกว่า 5 คนจะล่าถอยไปก็ได้โปรยเรือใบเหมือนเดิม และมากกว่าทุกครั้งที่เคยเห็นมา ซึ่งเป็นที่คาดหมายกันว่า จำนวนตะปูเรือใบที่โจรใต้ใช้โรยในเหตุการณ์นี้มากมายเป็นประวัติการณ์ยิ่งนัก ซึ่งอาจจะเป็นรองก็แต่เพียงเหตุการณ์ปล้นปืนที่ค่ายปิเหล็งเมื่อเดือนมกราคมปี 2547 เท่านั้น
       
       เมื่อข่าวการถูกซุ่มโจมตีกระจายออกไปยังหน่วยในพื้นที่ใกล้เคียง ต่างฝ่ายก็ระดมกำลังเพื่อเข้าไปทำการช่วยเหลือ แต่ก็ต้องชะงักเมื่อยานพาหนะที่นำกำลังเข้าสนับสนุนช่วยเหลือไปเจอกับตะปูเรือใบที่ถูกโฏปรยเหมือนฝนห่าใหญ่เข้าให้
       
       แม้แต่รถยนต์เก็บกวาดตะปูเรือใบที่ผลิตในประเทศไทย ซึ่งถูกส่งมาให้ จนท.ในพื้นที่ในสนนราคาคันละเกือบ 3 ล้านบาท ก็ยังไม่ได้ผลในการเก็บกวาดตะปูเรือใบดังกล่าว จนได้ยินเสียงร่ำลือในหมู่ จนท.ผู้ปฎิบัติเขาบ่นให้ฟังว่า...
       
       “ไอ้เจ้ามอเตอร์ 2 วงที่มีลวดสลิงสำหรับกวาดตะปูอยู่ด้านหน้ารถนั่น บางครั้งมันก็กวาดตะปูเข้าล้อรถยนต์ตัวเอง จนเกิดเหตุยางแตกล้อแหกไปหลายครั้งแล้ว จะไปเอาน้ำยาจริงจังอะไรไม่ได้หรอกครับ”
       
       ณ เวลานั้นหากแก้ปัญหาตะปูเรือใบไม่ได้ ยิ่งทำให้เกิดวามล่าช้า และตั้งอยู่บนความเป็นความตายของ จนท.ที่บาดเจ็บในพื้นที่ นอกจากตะปูเรือใบแล้ว คนร้ายยังตัดต้นไม้ขวางถนนปิดกั้นไว้อีกชั้นหนึ่ง
       
       จนท.ตำรวจระดับสูงที่รับผิดชอบพื้นที่รายหนึ่ง ทราบชื่อภายหลังว่า พ.ต.อ.นราศักดิ์ เชียงสุข รอง ผบก.ภ.จว.ยะลา รายนี้ได้ยินมาว่า สมัยเป็น ผบ.หมวด เคยนำกำลัง ตชด.สู้กับ ผกค.มาแล้วอย่างดุเดือดที่พื้นที่ จ.พัทลุง
       
       เขาได้ร้องขอและบัญชาการให้นำรถยนต์หุ้มเกราะของแบบ วี 150 ตชด. 44 ค่ายพญาลิไท ให้อ้อมเข้ามาด้านหน้าของจุดเกิดเหตุ โดยให้วิ่งฝ่าห่าตะปูเรือใบอย่างไม่รอช้า แม้ว่าเวลานั้นบนท้องฟ้า ฮ.ตำรวจจะบินวนเพื่อหาที่ลงกลางถนนในที่เกิดเหตุ เพื่อเข้ามาขนคนเจ็บ แต่ก็ใจไม่ถึงอาจ เป็นเพราะสภาพภูมิประเทศของจุดเกิดเหตุเป็นป่ารก ริมถนนมีต้นไม้สูงและสายไฟแรงสูง
       
       นอกจากนี้ อาจเกรงว่าคนร้ายจะฉกฉวยโอกาสตอน ฮ.ร่อนลงด้วยการซุ่มโจมตี ฮ.ซ้ำทำให้เกิดความเสียหายหนักเป็นสองเด้งเข้าให้อีก
       
       เมื่อรถยนต์หุ้มเกราะ วี 150 ของ ตชด.วิ่งมาถึงจุดเกิดเหตุ ล้อยางของรถ วี 150 สูงขนาดเมตรกว่าก็เหยียบตูปูเรือใบติดมาเป็นจำนวนมาก แต่ก็ไม่รู้สึกเสียหาย พลขับยังขับอย่างมั่นใจ จนเข้าไปหยุดตรงหน้าจุดเกิดเหตุ จนท.ประจำรถก็กระโดดเข้าไปช่วยเหลือผู้บาดเจ็บทั้งหมดและนำออกจากจุดเกิดเหตุไปส่งให้ ฮ.รับตัวส่งต่อไปยังรพ.ได้สำเร็จ
       
       นับเป็นภารกิจที่น่าทึ่งสำหรับรถยนต์หุ้มเกราะ วี 150 ซึ่งคุ้มค่าและเห็นมากับตาแล้วว่า ได้ผลกว่าบรรดารถทั้งหลายที่ถูกส่งมาใช้ในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนใต้
       
       หากสมมุติว่า ในแต่ละพื้นที่หรือแต่ละสถานีตำรวจที่เป็นพื้นที่สีแดง ต่างมีรถยนต์หุ้มเกราะ วี 150 ไว้สถานีละ 1 คัน เอาไว้ลุยตะปูเรือใบและเข้าให้ถึงจุดเกิดเหตุเพื่อปฏิบัติการตอบโต้เชิงรุก หรือการสนับสนุนช่วยเหลือต่างๆ คงจะได้ผลมากทีเดียว ผู้ก่อความไม่สงบคงจะต้องถูกไล่ต้อน และสุดท้ายอาจถูกล้อมถูกจับได้ในที่สุด
       
       แต่ก็นั่นแหละ เมื่อเกิดเหตุการณ์ทีไรก็จะมีเครื่องมือและอุปกรณ์ใหม่ๆ แพงๆ ลงมาในพื้นที่ ใครได้ใครเสียไปหาคำตอบกันเอาเอง
       
       แต่ที่แน่ๆ ขณะเคาะต้นฉบับได้รับแจ้งว่า ทหารพรานที่ อ.เจาะไอร้องที่ตั้งจุดตรวจอยู่ที่ถนนสายยานิง-เจาะไอร้อง ม.1 ต.จวบ อ.เจาะไอร้อง จ.นราธิวาส ได้ถูกผู้ก่อความไม่สงบใช้ปืนสงครามยิงถล่มเข้าไปในฐานขณะนั่งล้อมวงหม่ำข้าวมื้อเย็นเมื่อเวลา17.50 น. ของวันที่เคาะต้นฉบับอยู่นี้ (5 ต.ค.) ผลก็คือ อาสาสมัครทหารพรานจาก จ.ชุมพรดับสยองคาที่ 5 นาย และบาดเจ็บสาหัสอีก 1 นาย
       
       ก่อนปิดท้ายเกมโหดครั้งนี้ โจรใต้ได้เข้าไปปล้นปืนหลวงอีก 5 กระบอกหนีไปได้ ระหว่างเส้นทางหลบหนี ซึ่งก็ได้โรยตะปูเรือใบเหมือนเดิม นับตั้งแต่บ้านบูเก๊ะตาโมง บนถนนสายสุไหงปาดี–นราธิวาส เรื่อยไปจนถึง ม.7 ต.บูกิ๊ต เพื่อสกัดกั้นกำลังของ จนท.รัฐ
       
       เหตุการณ์เกิดขึ้นเหมือนเดิมอีกแล้ว ??!!

อันตรายมากเลยนะ

mass defensive weapon .....

รูปตามแบบข้างบนแถวบ้านผมเขาเรียก "ล้มลุก"

อันตรายมากครับ  พวกผมถึงไม่กล้าเดินทางข้ามเขต ในช่วงหัวค่ำเป็นต้นไปไงครับ ถ้าเห็นของจริงแล้วเสียวดีครับตะปูขนาด 5 นิ้ว ตัดให้แหลมสองข้าง

 >:( >:( ตอนนี้เริ่มใช้เหล็กเส้น 6 มิล กันแล้วหละครับ.......สงสัยกะจะดักรถที่ใหญ่ขึ้น( ฮัมวี่)....กระมังครับ  >:( >:(

ได้แต่หวังว่าเหตุการณ์จะสงบได้ในเร็ววันครับ

ถ้าผมปฏิบัติงานแถว 3 จว.ภาคใต้ คงหาผลิตภัณฑ์ป้องกันยางรั่วมาใช้
แม้จะป้องกันไม่ได้ทั้ง 100% แต่ก็น่าจะดีกว่าไม่ได้ป้องกันอะไรเลย
แบบกระทู้ที่เวบนี้

http://www.thaimtb.com/cgi-bin/viewkatoo.pl?id=24924&st=1

ทหารน่าจะโรยไว้บ้างนะครับ  แบบย้อนเกล็ด
เขาต้องการไม่ให้เราตาม เราก็ไม่ให้เขาหนี

สั่งการลงไปเลยครับ!!!!.....สินค้าควบคุมอันดับแรกของกระทรวงพาณิชย์ในสามจังหวัดคือ....ตะปูและสิ่งเทียมตะปู!!!!(ฮา)

ขอใบ ป.3 ครับ... หากจะเอาขนาดเกินกว่า 1/2 นิ้วขึ้นไป... ให้ขอใบรับรองจากสนามฯ ว่าใช้เพื่อการกีฬาฯ

อย่าไปท้าเขาเอย่าไปท้าเขาเชียวนา...เดี๋ยวประกาศขึ้นมาจริงๆละฮาตรึมเลย

สนุกกันจัง    ผมว่าติดหัวฉีดน้ำไว้หน้ารถก็ดีครับ  ชะลอความเร็วหน่อย แล้วเปิดหัวฉีดฉีดลงข้างทางให้หมด

ผมเห็นในเวบฝรั่งเขาใช้แบบนี้

[ไฟล์แนบถูกลบโดยผู้ดำเนินการ]

แบบนี้เท่าที่ทราบจากผู้รู้ท่านบอกว่ามีมาตั้งแต่สมัยอยุธยาแล้วงครับ
เอาไว้ดักม้า  และ  ช้างของข้าศึก  รวมถึงคนด้วย (ถ้าเดินไม่มองทาง)แต่จะมีขนาดใหญ่กว่าปัจจุบันครับ
เพราะว่ากะเอาถึงขนาดหยุช้างศึกได้เลยทีเดียวครับ

[ไฟล์แนบถูกลบโดยผู้ดำเนินการ]

พ่อเคยเล่าให้ฟัง เมื่อสมัยรบกับ ผกค. พวกทหารจะใช้รถถังนำหน้าก่อนและให้ยานยนต์อื่น ตามรอยตีนตะขาบรถถังอีกที  ซึ่งจะปลอดภัยจาก ตะปู  เรือใบ และกับระเบิดบุคคล ถ้าเจอต้นไม่ขวางทาง ก็ให้ทหาร จัดการระเบิดทิ้งทันที เพื่อเปิดทางให้ทหารราบเข้ายึดพื้นที่ 

ถ้าประกาศจริงๆ จะไปซื้อตะปู ต้องไปขอ ป.3 กับนายทะเบียน   :~)

ถ้าเป็นตะปูสำหรับตอกเข้าไปในเนื้อคอนกรีต  ถือว่าเป็น ตะปูสงคราม อานุภาพร้ายแรง นายทะเบียนออกใบอณุญาตไม่ได้
ประชาชนทั่วไปขออนุญาตใช้ได้แค่ตะปูเข็ม เท่านั้น

งั้นบ้านท่านครูดำกะบ้านท่านอีเมล์ก็มีอาวุธสงครามไว้เพื่อจำหน่ายอ่ะจิคับ

 :~) ...  :VOV:... ถ้าติดตั้งระบบไฟฟ้าแม่เหล็กทำเป็นราวหรือแผ่นยาวๆไว้ที่หน้ารถเพื่อดูดตะปูเรือใบผมคิดว่าน่าจะใช้ได้เหมือนกันนะครับ... ถ้าปล่อยกระแสไฟฟ้าเข้าแรงๆ และลดระดับราวแม่เหล็กลงต่ำๆ ก็ทำงานได้ดีขึ้นมากๆ.. รถสามารถวิ่งดูดเก็บตะปูเรือใบได้เร็วขึ้น..อย่างนี้เป็นต้น...นะครับ... แค่คิดเล่นๆ... ถ้าทำได้ก็จะดีกว่าปล่อยให้รถยางรั่วจอดทิ้ง... เสียงานนะครับ ...:VOV:... :~)

 :DD เวลาเค้าทำเรือใบ เค้าใช้ตะปูแบบนี้ตอกหรอครับ :DD :DD :DD :DD

 :~) :~) :~) :~) กึก กึก กึก กึก  :~) :~) :~) :~)

เคยเห็นว่ามีใส้ในของยางขาย จะเป็นยางตันนิ่มๆใส่ภายในกระทะล้อ แม้ว่ายางจะแบนเพราะลมรั่วแต่จะมียางนี้หนุนไว้ไม่ให้ทรุดลงต่ำกว่า 50% เคยเห็นในสารคดีของรถกันกระสุน โดยแม้นว่าไม่มีลมยางสามารถวิ่งได้ด้วยความเร็ว 80 กม./ชม ได้ไกลกว่า 100 กม.ทีเดียว  น่าเอามาให้รถของตำรวจเราใช้ อย่างน้อยไล่ล่าได้แล้วค่อยเอายางไปปะทีหลังก็ได้


สงสัย ช่างปะยางคงรวยน๊ะ แทงแส้นยางกันมือหงิกเลย ;D

ผมว่าฝ่ายยุทธการคงรู้วิธีแก้ทางแหละครับ เพราะไม่ใช่ของใหม่ เพียงแต่จะทำหรือไม่ต่างหาก ถ้าไม่ทำมีเหตุผลอะไรแฝงอยู่ต่างหาก ซึ่งตรงนี้พวกเราอยู่วงนอกคงไม่ทราบ

 :o  เจอแล้ว
อันนี้ไง
http://autos.msn.com/advice/article.aspx?contentid=4021164&src=News


รูปยางที่ใส่ใส้
(http://fp.images.autos.msn.com/merismus/News/n443416a.jpg)

ขณะมีลม
(http://fp.images.autos.msn.com/merismus/News/n441395a.jpg)

ขณะยางแบน
(http://fp.images.autos.msn.com/merismus/News/n441396a.jpg)

ไม่รู้ว่าน่าใช้รึเปล่า ต้องให้เซียนรถมาบอก

รถกวาดตะปูเรือใบครับ ไม้กวาดข้างหน้าเอาไว้กวาดถนน เอ๊ย! กวาดตะปู ไม่รู้มีที่ไหนรับติดตั้งจะเอาไทเกอร์ไปติดมั่ง ;D

[ไฟล์แนบถูกลบโดยผู้ดำเนินการ]

รถกวาด..ก็น่าจะมีอะไรป้องกันยางตัวเองซักหน่อย
ไม่รู้กวาดๆ ไป ตะปูมันเด้งเข้าล้อตัวเองบ้างหรือเปล่า  ;D

[ไฟล์แนบถูกลบโดยผู้ดำเนินการ]

น่าจะเอาเอ็ม 60 ลงไปใช้บ้าง ดีกว่าเอาไว้ที่สระบุรี :)

ไม่เข้าใจเหมือนกันนะครับ  กวาดเรือใบ แบบที่ใช้ในรูปนั้น  มันอันตรายพอ ๆ กับการวางเลย  วงล้อที่หมุนนั่น มันอาจกวาดเอาเรือใบ ปลิวไปทางอื่น ๆ  แล้วรถคันอื่นในบริเวณนั้น...ทำไงดี...

ทำไมไม่ใช้ แผ่นแม่เหล็กแรงสูง  วางตำแหน่งตรงบริเวณสปอยเล่อหน้ารถ  ดูดติดก่อนถึงล้อ  ก็เท่านั้นเอง ไม่เดือดร้อนชาวบ้านเลย 

รถที่ใช้ในรูปน่ะ  น่าใช้ในสนามรบ มากกว่าหมู่บ้าน น่ะ  ว่ามั๊ย....

เวลาใช้งาน ไม้กวาดจะคว่ำลงครับ แต่ยังไงมันน่าจะกวาดเข้าล้อตัวเองอยู่ดี ;D

 ;D นึกว่ารถวิ่งชนต้นมะพร้าว ;D

ยางรั่ว...เราก็เปลี่ยนเป็นยางตันได้นี่นา.. :-\

[ไฟล์แนบถูกลบโดยผู้ดำเนินการ]

นายสมชายว่าทหารเขาก็รู้วิธีจัดการนะ... มันน่าจะมีเรื่องอื่นซับซ้อนมากกว่า...

น่าจะคอยสังเกตุการเคลื่อนไหวหลังเกิดเหตุนะครับ...ว่า...ผู้ประกอบการรับปะยางออกมาเคลื่อนไหวอะไรบ้างหลังเกิดเหตุ....อาจมีการทำวิกฤติให้เป็น"โอกาส"นะครับ เช่นปะ2แผลแถม1แผลฯลฯ

เเบบนี้ทางใต้เยอะมากครับ ;D มีคนทักว่ามาสามจังหวัดภาคใต้     :OO"มารถกลับเรือ" :OO

จากงาน ดีเฟนส์ 2005

รถในรูปของท่านตูรุส กับยางตัน น่าจะใช้ได้ดีนะครับ
ส่วนรถถังผมว่าจะอุ้ยอ้ายไปนะครับ ในสงครามกองโจรแบบนี้
เค 14