เว็บบอร์ดสนทนาภาษาปืน

อุกอาจกระชากสร้อยยิงซ้ำในปั้มน้ำมันข้างตู้ยามตร.
   
 30 สค. 2553 00:06 น.


ผู้สื่อข่าวเดินทางไปตรวจสอบยังห้องฉุกเฉินโรงพยาบาลอ่างทองหลังรับแจ้งว่ามีคนถูกยิงมาได้รับบาดเจ็บจากการถูกชิงทรัพย์ พบแพทย์และพยาบาลกำลังทำการรักษานายเงิน แสนเสาร์ อายุ 53 ปี อยู่บ้านเลขที่ 28 หมู่ที่ 9 ต.โพธิ์ทอง อ.ปางศิลาทอง จ.กำแพงเพชร ซึ่งถูกอาวุธปืนลูกซองยิงเข้าที่บริเวณขาทั้ง 2 ข้าง จำนวน 28 รู แพทย์ต้องทำการเอ๊กเซรย์และทำการผ่าตัดนำหัวกระสุนออกเป็นการด่วน

จากการสอบถามทราบว่าก่อนเกิดเหตุนายเงิน พร้อมด้วยภรรยาและลูกอีก 4 คนเดินทางไปงานศพที่จ.กำแพงเพชร ขากลับมาได้จอดรถบริเวณปั๊มน้ำมันปตท.บริเวณข้างถนนสายเอเชียหมู่ที่ 4 ต.มหาราช อ.มหาราช จ.พระนครศรีอยุธยา เพื่อพักรถก่อนที่จะกลับที่พักใน อ.บางปะอิน จ.พระนครศรีอยุธยา ระหว่างที่ได้เดินเข้าไปในห้องน้ำและออกมาเพื่อมาที่รถยนต์กระบะทันใดนั้นได้มีคนร้ายจำนวน 2 คน ขี่รถจักรยานยนต์สวมหมวกกันน็อคมาจอดข้างๆและคนซ้อนท้ายได้ลงมากระชากสร้อยคอทองคำหนัก 2 บาทพร้อมพระเลี่ยมทองจากคอ เมื่อหันกลับไปด้วยความตกใจคนร้ายก็ใช้อาวุธปืนยิงใส่จนล้มลงก่อนขับรถจักรยานยนต์หลบหนีไป

ต่อมาผู้สื่อข่าวเดินทางไปยังบริเวณปั๊มน้ำมันปตท. จุดที่เกิดเหตุพบเจ้าหน้าที่ตำรวจสภ.มหาราช กำลังตรวจสอบในที่เกิดเหตุอยู่ซึ่งพบว่ามีรถยนต์กระบะยี่ห้ออีซูซุสีขาวหมายเลขทะเบียน บท 7986 พระนครศรีอยุธยา จอดอยู่ส่วนหน้ารถพบกองเลือดจำนวนหนึ่ง

พ.ต.ต.สำราญ สุขโต สารวัตรเวรสภ.มหาราช กล่าวว่า คนร้ายรายนี้ก่อเหตุอุกอาจมากเพราะจุดที่เกิดเหตุอยู่ห่างจากป้อมตำรวจที่ตั้งอยู่ทางออกปั๊มเพียงไม่กี่เมตรและช่วงที่ก่อเหตุก่อมีคนพลุกพล่านและจากการสอบถามพยานในที่เกิดเหตุพบว่าคนร้ายใช้รถจักรยานยนต์ยี่ห้อคาวาซากิรุ่น KR สีน้ำเงินหลังจากก็เหตุได้ขับรถหลบหนีไปอย่างรวดเร็ว สำหรับเหตุดังกล่าวคาดว่าคนร้ายอาจจะมาดักซุ่มหาเหยื่อพอเห็นนายเงิน สวมเสื้อกล้ามมาจึงเห็นสร้อยคออย่างชัดเจนจึงก่อเหตุดังกล่าว อย่างไรก็ตามได้ประสานให้ชุดสืบสวนตามหาตัวคนร้ายมาดำเนินคดีต่อไป

http://breakingnews.nationchannel.com/read.php?lang=th&newsid=465687 (http://breakingnews.nationchannel.com/read.php?lang=th&newsid=465687)

 
 
 
 

ปล้นรถขนเงิน ชิง8ล้าน หน้าห้างขอนแก่น

โจรสุดเหิมควงปืนบุกเดี่ยว จี้ชิงเงินสด 8 ล้านบาท จาก พนง. 3 คน ในรถขนเงิน ขณะจอดหน้าแบงก์ยูโอบี สาขา ถ.มิตรภาพ เมืองขอนแก่น ตร.เร่งไล่ล่า...

เหตุการณ์อุกอาจคนร้ายลงมือก่อเหตุกลางวันแสกๆ ครั้งนี้ เปิดเผยเมื่อเวลาประมาณ 08.30 น. วันที่ 30 ส.ค. ตำรวจ สภ.เมืองขอนแก่น รับแจ้งเหตุคนร้ายใช้ปืนเป็นอาวุธจี้ชิงเงินสดจากรถขนเงิน บริษัท จีโฟร์เอส กรุ๊ป ขณะจอดอยู่หน้าธนาคารยูโอบี ใกล้กับห้างสรรพสินค้าดังแห่งหนึ่ง ถ.มิตรภาพ อ.เมือง จ.ขอนแก่น ได้เงิน 8 ล้านบาทจึงไปตรวจสอบ

เบื้องต้นทราบว่ารถขนเงินหมายเลขทะเบียน รษ 2275 กรุงเทพ มีพนักงานในรถทั้งหมด 3 คน ถูกคนร้ายเป็นชาย 1 คน สวมหมวกกันน๊อกสีดำ และเสื้อสีดำ ใช้ปืนจี้ชิงเงิน 2 ถุง ร่วมประมาณ 8 ล้านบาทหลบหนีไป โดยไม่มีใครได้รับอันตราย ล่าสุด เจ้าหน้าที่ได้เร่งติดตามคนร้ายและตรวจสอบกล้องวงจรปิดโดยรอบhttp://www.thairath.co.th/content/region/107278 (http://www.thairath.co.th/content/region/107278)

แวะมาเยียมชม กระทู้ ข่าวครับเบิ้ม  ;D

บึ้ม!หน้าที่ว่าการอ.จะแนะจ.นราฯอส.เจ็บ3
   
 30 สค. 2553 11:43 น.






เมื่อช่วงสายที่ผ่านมา เกิดเหตุคนร้ายลอบวางระเบิด คาร์บอม หน้าที่ว่าการอำเภอจะแนะ จ.นราธิวาส ส่งผลให้มีเจ้าหน้าที่ อาสาสมัครบาดเจ็บ 3 นาย จนท.ช่วยกันเร่งนำส่ง รพ.จะแนะ จากนั้น จนท.เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ พร้อมกันพื้นที่ไม่ให้ประชาชนเข้าใกล้หวั่นว่าจะได้รับอันตราย และมีระเบิดหลงเหลืออยู่อีก

 
 
 
 

งัดตู้เซฟบ.ชายสี่บะหมี่เกี๊ยวปทุม

    (http://www.uppicfast.com/image.php?id=410D_4C7BB427&jpg) (http://www.uppicfast.com/share.php?id=410D_4C7BB427)
 30 สค. 2553 12:11 น.


07.00 น.พ.ต.ท.อุทัย แววไทสง สารวัตรเวรสอบสวน สภ.คลองห้า อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี รับแจ้งจากนายพันธ์รบ กำลา ประธานกรรมการบริหารบริษัทชายสี่บะหมี่เกี้ยว จำกัด ตั้งอยู่เลขที่ 7/7 ม.8 ต.คลองหก อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี ว่ามีเหตุคนร้ายบุกเข้าไปงัดตู้เซฟภายในบริษัท แล้วขโมยทรัพย์สินที่บรรจุอยู่ภายในเซฟหลบหนีไป ขอให้เจ้าหน้าที่มาตรวจสอบด้วย พบภายในอาคารสำนักงาน ถูกรื้อค้นกระจุยกระจาย และพบตู้เซฟขนาดใหญ่ถูกคนร้ายจับล้มนอนกับพื้นและงัดแงะบานประตูตู้เซฟ

นางอัษฎาพร บำรุงโชค อายุ 36 ปี แม่บ้านของบริษัท กล่าวว่า เวลา 05.30 น.เดินทางมาทำงาน พบมีร่อยรอยการรื้อค้นข้าวของ และพบตู้เซฟถูกลากออกมาและถูกงัดแงะจนฝาตู้เซฟเปิดออก จึงโทรศัพท์แจ้งนายพันธ์รบ กำลา ประธานกรรมการบริหารบริษัท

ด้านนายอำภา สีนาค อายุ 50 ปี เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของบริษัท กล่าวว่า ทำหน้าที่อยู่อีกฝั่งของตัวอาคารสำนักงาน และไม่ได้ยินเสียงผิดปกติใด ๆ มีเพียงช่วงประมาณ 02.00 น.-03.00 น. มีรถเข้าออกเพื่อมารับของที่บริษัทไปส่งลูกค้า แต่ก็ไม่พบสิ่งผิดปกติ

พ.ต.ท.พัลลภ แอร่มหล้า สวญ.สภ.คลองห้า กล่าวว่า เบื้องต้น เจ้าของแจ้งเพียงว่าในตู้เซฟนั้นมีเอกสารสำคัญหลายอย่าง ทั้งโฉนดที่ดิน เงินสด และเอกสารเกี่ยวกับบริษัท แต่ยังไม่สามารถบอกได้ว่าสิ่งใดหายไปบ้างจะต้องตรวจสอบดูอีกที อย่างไรก็ตาม จะได้ประสานงานไปยังกองพิสูจน์หลักฐาน เข้ามาเก็บร่องรอยลายนิ้วมือแฝงของคนร้าย
 
 
 
 
http://breakingnews.nationchannel.com/read.php?newsid=465763&lang=T&cat= (http://breakingnews.nationchannel.com/read.php?newsid=465763&lang=T&cat=)

 ::004:: ::004:: ::004::

รอบเย็น ..

ขว้างระเบิดใส่ทหารแต่ไม่ทำงานรอดหวุดหวิด
   
 30 สค. 2553 17:18 น.


เจ้าหน้าที่ทหาร ฉก.นราธิวาส 32 กองทัพเรือ ชุดรักษาความปลอดภัยย่านการ ค้าในเขตเทศบาลตำบลบาเจาะ อ.บาเจาะ จ.นราธิวาส จำนวนหนึ่ง กำลังนั่งรับประทานอาหารมื้อเที่ยงกันที่โต๊ะหินอ่อน ซึ่งวางอยู่ใต้ถุนอาคาร สำนักงานหมวดการทางบาเจาะ ตั้งอยู่ถนนเพชรเกษม กลางย่านชุมชนเขตเทศบาล ต.บาเจาะ คนร้าย 2 คน ขี่รถจักรยานยนต์ผ่านมา แล้วใช้ระเบิดสังหารแบบน้อยหน่า ชนิดเอ็ม 76 ขว้างเข้าใส่

โดยระเบิดได้ตกลงบนพื้นปูนซีเมนต์ห่างจากม้าหินอ่อน 2 เมตร ทำให้ทหารที่กำลังนั่งรับประทานข้าวมื้อเที่ยงที่เพิ่งลงมือทานข้าวได้คนละคำสองคำ ต่างวิ่งหลบหนีแตกกระเจิงเพื่อหาที่กำบัง แต่โชคดีระเบิดไม่ทำงาน จึงไม่มีทหารนายใดได้รับบาดเจ็บ

หลังเกิดเหตุ พ.ต.อ.จำลอง งามเนตร ผกก.สภ.บาเจาะ และ พ.ต.ท.จันที แจ่มจันทร์ หัวหน้าชุดพิสูจน์หลักฐาน ตำ รวจภูธร จ.นราธิวาส และชุดเก็บกู้และทำลายวัตถุระเบิด นปพ.นราธิวาส มาตรวจจุดเกิดเหตุ และทำการเก็บกู้ระเบิดไว้ได้ในเวลาต่อมา ก่อนที่จะนำไปทำลายทิ้ง

 
 
 
   

http://breakingnews.nationchannel.com/read.php?lang=th&newsid=465875 (http://breakingnews.nationchannel.com/read.php?lang=th&newsid=465875)

สำนักพิมพ์ไหนเห็นแววนักข่าวสายอาชญากรรมของตาเบิ้มก็ช่วยอนุเคราะห์ทีครับ.. ::005:: ::005:: ::005::

ไม่เป็นไรครับพี่ดุลย์ ผมเห็นเลือดทะลักก็จะเป็นลมแล้ว เดี๋ยวจนท.ต้องมาเสียเวลาช่วยชีวิตผมเปล่าๆ  ::005::

งัดบ้านนายเรืออากาศกวาดทรัพย์สินนับล้าน
   
 30 สค. 2553 18:30 น.


ร.ต.อ.รังสรรค์ ทศยันต์ไชย ร้อยเวร สภ.เกษไชโย อ.ไชโย จ.อ่างทอง รับแจ้งเหตุคนร้ายลักทรัพย์ที่บ้านเรืออากาศตรีฉลวย วาอุระ อายุ 72 ปี อ.ไชโย บ้านที่เกิดเหตุเป็นบ้านปูน 2 ชั้น มีรั้วรอบขอบชิด แต่ปิดประตูหน้าบ้านใส่กุญแจและปิดหน้าต่างไว้ โดยพบว่าประตูหลังบ้านถูกคนร้ายงัดสายยูจนขาด และงัดประตูห้องนอนเข้าไปรื้อค้นทรัพย์สินสูญหายไปหลายสิบรายการ ประกอบด้วย เข็มขัดทองคำหนัก 25.50 บาท สร้อยคอทองคำหนัก 3 บาท จำนวน 3 เส้น หนัก 1 บาท จำนวน 1 เส้น หนัก 2 สลึง จำนวน 4 เส้น สร้อยข้อมือทองคำหนัก 3 บาท จำนวน 3 เส้น หนัก 2 บาท 1 เส้น หนัก 1 บาท 1 เส้น นอกจากนี้มีแหวนเพชร 3 เม็ด เรียงแถว 1 วง แหวนทับทิม แหวนมรกต แหวนหยก พระเครื่องทองคำหนัก 1 สลึง นับสิบองค์ พระเครื่องชั้นนำจำนวนหนึ่ง ปืนขนาด 9 มม. 1 กระบอก รวมมูลค่ากว่าล้านบาท

จากการสอบสวนทราบว่า บ้านหลังดังกล่าวมีผู้พักอาศัยอยู่ 2 คน ก่อนเกิดเหตุได้เดินทางไปยังวัดวงศ์ภาษ ซึ่งอยู่ในหมู่บ้านเพื่อทำบุญเลี้ยงพระเพลให้ญาติที่เสียชีวิต เมื่อกลับมาบ้านพักพบว่าบ้านถูกงัด ทรัพย์สินสูญหายไปหลายรายการ

ร.ต.อ.รังสรรค์ กล่าวว่า สอบสวนชาวบ้านทราบว่า คนร้ายเป็นชายวัยรุ่น 2 คน สวมกางเกงขาสั้น สูงประมาณ 165 ซม. ที่น่าแปลกคือสวมเสื้อยีดสีขาวทั้งคู่ ใช้รถกระบะยี่ห้ออีซูซุ รุ่น ดีแม็กซ์ สีบรอนซ์เงิน เข้าไปจอดไม่นาน เชื่อว่าคนร้ายน่าจะทราบในเรื่องทรัพย์สินและทราบความเคลื่อนไหวของคนในบ้าน

 
 
 
 

3โจรปล้นเสี่ยค้าวัสดุกวาดทรัพย์สินกว่า 10 ล้าน
   
 30 สค. 2553 18:58 น.


พ.ต.ท.ไวยกูล กิจเพชร พนักงานสอบสวน สภ.เมืองนนทบุรี สาขารัตนาธิเบศร์ รับแจ้งเหตุคนร้ายบุกปล้นทรัพย์ภายในร้าน pandinthong ขายส่งเสื้อผ้าแบร์นเนมชื่อดัง ปากซอยติวานนท์ 34 ถ.ติวานนท์ ต. ท่าทราย ที่เกิดเหตุเป็นตึกแถว 4 ชั้น ชั้นล่างเปิดเป็นร้านขายเสื้อผ้าแบรนด์เนมชื่อดัง บริเวณห้องนอนชั้น 4 ภายในห้องถูกคนร้ายรื้อค้นทรัพย์สินกระจายเกลื่อนห้อง พบตู้เซฟขนาดเล็กใหญ่อย่างละ 1 ใบ ถูกคนร้ายทุบจนประตูหลุดเสียหายทั้ง 2 ใบ สอบถามนายฉัตรชัย ฉัตรวิจิตรโชค อายุ 40 ปี เจ้าของบ้านและเป็นเจ้าของกิจการขายวัสดุก่อสร้าง เล่าว่าทรัพย์สินที่สูญหายไปจากตู้เซฟทั้ง 2 ใบนั้นมีทองคำรูปพรรณ ทองคำแท่ง ประมาณ 200 บาท เครื่องเพชร รวมทั้งพระเครื่องเลี่ยมทองอีกหลายสิบองค์ รวมมูลค่าทรัพย์สินกว่า 10 ล้านบาท

ก่อนเกิดเหตุเมื่อเวลา 07.30 น. นายฉัตรชัย และภรรยา ขับรถไปส่งลูกที่โรงเรียนตามปกติเหมือนทุกวัน ทำให้ภายในร้านมีเพียงลูกจ้าง 3 คน คือนางพัด เป่งกระโทก อายุ 50 ปี นางมล อายุ 25 ปี นางกุ้ง อายุ 24 ปี ชาวมอญ ดูแลร้านขายส่งเสื้อผ้าอยู่ด้านล่าง หลังเจ้าของบ้านออกไปเพียงไม่ถึง 10 นาที มีคนร้ายเป็นชาย 3 คน สวมไอ้โม่งปิดบังใบหน้า เปิดประตูบ้านเข้ามาทำที่มาหานายฉัตรชัยเพื่อดูลาดเลา ก่อนที่คนร้ายจะช่วยกันจับตัวสาวใช้ทั้ง 3 คน ผูกมัดด้วยเศษผ้าแล้วพาไปขังในห้องน้ำชั้น 2 ก่อนที่จะรื้อค้นทรัพย์สินภายในห้องนอนของนายฉัตรชัยที่ชั้น 4 กว่า 2 ชั่วโมง ก่อนหลบหนีไปอย่างลอยนวล หลังคนร้ายหลบหนีไปแล้วสาวใช้ทั้ง 3 คน จึงได้พยายามแก้มัดตัวเองก่อนออกมาจากห้องน้ำมาที่ระเบียงพร้อมทั้งร้องเรียกให้คนข้างล่างช่วยจนมีพลเมืองดีโทรศัพท์แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ

เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้ออกหาเบาะแสร่องรอยคนร้าย และพบว่าบริเวณร้านค้าใกล้กันมีกล้องวงจรปิด จึงได้ติดต่อประสานขอดูภาพจากกล้องดังกล่าวซึ่งอาจจะมีภาพคนร้ายที่มาดูลาดเลาก่อนที่จะลงมือก่อเหตุ โดยคาดว่าคนร้ายคงทราบความเคลื่อนไหวของเจ้าของบ้านเป็นอย่างดีว่าจะต้องออกไปส่งลูกไปโรงเรียนทุกเช้า จึงอาศัยช่วงเจ้าของบ้านไม่อยู่บุกเข้ามาปล้นทรัพย์ดังกล่าว โดยอาจมีคนในบ้านรู้เห็นเป็นใจให้คนร้ายลงมือก่อเหตุจึงต้องนำสาวใช้ทั้ง 3 คนมาสอบสวนอย่างละเอียดอีกครั้งเพื่อหาตัวคนร้ายมาดำเนินคดีต่อไป
 
http://breakingnews.nationchannel.com/read.php?lang=th&newsid=465911 (http://breakingnews.nationchannel.com/read.php?lang=th&newsid=465911)
 
 
 

ขนาดบ้านนายเรืออากาศยังไม่รอด

ผู้ต้องหาปล้นบุหรี่สารภาพฆ่าทิ้ง2คนขับ-เด็กรถจริง
   
 30 สค. 2553 20:40 น.


ความคืบหน้ากรณีคนร้ายสังหาร นายวสันต์ สังข์ระยอ อายุ 41 ปี พนักงานขับรถ และนายสัญชัย สินสุรินทร์ อายุ 18 ปี พนักงานประจำรถบรรทุกขนส่งบุหรี่ของ บริษัท สีตะวัน จำกัด จ.สมุทรปราการ ซึ่งรับจ้างห้างหุ้นส่วนจำกัดสหสามิต ขนส่งบุหรี่ยี่ห้อต่างๆ ชิงรถและบุหรี่ 352 หีบ รวมมูลค่า 8.1 ล้านบาท ขณะขับรถไปส่งที่ จ.ขอนแก่น ทิ้งศพไว้ในไร่มันสำปะหลัง อ.สูงเนิน จ.นครราชสีมา เมื่อวันที่ 27 สิงหาคมที่ผ่านมา ต่อมาพบรถที่ถูกปล้นไปจอดทิ้งไว้ในพื้นที่ อ.กบินทร์บุรี จ.ปราจีนบุรี โดยเหลือบุหรี่ที่คนร้ายขนไปไม่หมดจำนวนหนึ่งนั้น

ล่าสุดจับกุมตัวผู้ต้องหาที่ก่อเหตุได้ 3 คน ประกอบด้วย นายมาโนชญ์ งามขำ อายุ 31 ปี ขณะหลบหนีไปกบดานอยู่ที่ อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว เมื่อวันที่ 29 สิงหาคม และขยายผลจับกุมนายนายสิทธิศักดิ์ ฉ่ำบุญ อายุ 37 ปี และนายวัลรบ สะประทุม อายุ 23 ปี ได้ที่ อ.หนองแค จ.สระบุรี สอบสวนเบื้องต้นผู้ต้องหาทั้ง 3 คนปฏิเสธว่าไม่ได้ก่อเหตุดังกล่าว แต่สารภาพว่าก่อเหตุปล้นฆ่ารถขนบุหรี่ในท้องที่ อ.บางม่วง จ.นครสวรรค์ แต่ต่อมาจำนนด้วยหลักฐานภาพวงจรปิดที่บันทึกไว้ในช่วงต่างๆ ขณะทั้งสามคนขับรถกระบะติดตามรถบรรทุกขนบุหรี่ ก่อนลงมือปล้นและฆ่าโหดทั้งสองคน แล้วช่วยกันขนถ่ายบุหรี่ใส่รถกระบะ 2 คัน จากนั้นนำรถบรรทุกไปทิ้ง ก่อนนำบุหรี่ที่ปล้นได้ไปส่งขายให้นายทุนที่ จ.สระบุรี ในราคา 5 ล้านบาท แล้วแบ่งเงินกันแยกย้ายกันหลบหนี ซึ่งในช่วงเช้าวันที่ 31 สิงหาคมนี้ พล.ต.ท.เดชาวัต รามสมภพ ผู้บัญญชาการตำรวจภูธรภาค 3 จะเปิดเเถลงข่าวคดีดังกล่าวที่สำนักงานตำรวจภูธรภาค 3 อ.เมือง จ.นครราชสีมา

 
 
 
 

เข้ามาเชียร์คุณ เบิ้ม ในการตั้งกระทู้ครับ ผมเองชอบอ่านข่าวอาชญากรรมอยู่แล้ว มันจะได้รู้ถึงความก้าวหน้าและเทคโนโลยีและความชั่วของคนที่เขากระทำความผิดเราจะได้ไม่ล้าหลังครับ

ขอบคุณครับ ผมชอบอ่านข่าวพวกนี้ บางเรื่องมันใกล้ตัว อ่านแล้วเราได้พึงระวัง ว่าโจรเดี๋ยวนี้มันพัฒนาไปถึงไหนครับ  ::014::

สำนวนนักข่าวไทย พาดหัวต้อง"เสี่ย"นั่นเสี่ยนี่ ไม่ดูสภาพเสี่ยเล้ย.. ดูสิครับ เสี่ยคนนี้  ::005::



(http://www.uppicweb.com/x/i/ig/3xp31.jpg) (http://www.uppicweb.com/show.php?id=ec2c258bc7d4325dec8923215ddd167f)
Thanks: ฝากรูป (http://www.uppicweb.com) dict (http://www.dictionary.in.th)

ชาวบ้านล้อมจับ เสี่ยรับเหมาก่อสร้างโรคจิต ย่องเปิดกระโปรงสาวรัสเซีย ควงสามียืนรอข้ามถนนที่พัทยา หวิดโดนประชาทัณฑ์...

เหตุการณ์หนุ่มใหญ่โรคจิตเปิดกระโปรงสาวรัสเซียริมถนนรายนี้ เกิดขึ้นเมื่อเวลา เวลา 23.00 น. วันที่ 30 ส.ค.ที่ผ่านมา ขณะ พ.ต.อ.นันทวุฒิ สุวรรณละออง ผกก.สภ.เมืองพัทยา นำกำลังออกตรวจพื้นที่ได้รับแจ้งจากศูนย์วิทยุมีชายไทยแอบเปิดกระโปรงหญิงชาวต่างประเทศแล้วหลบหนี บริเวณ ถ.พัทยาเหนือ ฝั่งมุ่งหน้า ถ.สุขุมวิท หมู่ 6 ต.นาเกลือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี จึงสั่งการให้เจ้าหน้าที่สายตรวจ พร้อมประสานตำรวจอาสาออกค้นหาผู้ก่อเหตุ

ขณะเดียวกัน พ.ต.อ.นันทวุฒิ นำกำลังอีกส่วนหนึ่งไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ พบผู้เสียหายเป็นหญิงชาวรัสเซีย ซึ่งยังอยู่ในอาการตกใจ ทราบชื่อต่อมา คือ Ms.LIKKAREVA YULIA อายุ 28 ปี เบื้องต้นให้ข้อมูลว่า ตนและสามี คือ Mr.LIKHAREV ANATRY อายุ 31 ปี สัญชาติรัสเซีย กำลังยืนรอข้ามถนน จากนั้น มีชายไทยเดินเข้ามาด้านหลังแล้วเปิดกระโปรง จึงพร้อมด้วยสามีพยายามจับตัวชายคนดังกล่าวไว้ เป็นจังหวะเดียวกับพลเมืองดีขับรถผ่านมา เห็นเหตุการณ์ จึงเข้าช่วย แต่จับตัวเอาไว้ไม่ได้ ส่วนตนถูกผลักกระเด็นลงไปกลางถนน โชคดีไม่ถูกรถชน

ต่อมา เจ้าหน้าที่รับแจ้งว่า พลเมืองดีสามารถควบคุมตัวชายต้องสงสัยก่อเหตุครั้งนี้ ได้บริเวณโรงแรมแห่งหนึ่ง ห่างจากจุดเกิดเหตุประมาณ 600 เมตร จึงไปตรวจสอบ ต่อมาทราบชื่อคือ นายสำราญ โอเจริญ อายุ 43ปี อาชีพรับเหมาก่อสร้าง จึงควบคุมตัวไปสอบสวนและให้พยานชี้ตัว ปรากฏว่า ผู้เสียหายและพยานทั้ง 2 คน ชี้ตัวได้ตรงกัน โดยยืนยันว่า เป็นผู้ก่อเหตุและเตรียมลงมือประชาทัณฑ์ เจ้าหน้าที่ต้องรีบกันตัวผู้ต้องสงสัยไปดำเนินคดีที่ สภ.เมืองพัทยาต่อไป

http://www.thairath.co.th/content/region/107607 (http://www.thairath.co.th/content/region/107607)

(http://www.picza.net/uppic/pic/2010_08_31/c68/c684409e3d20a7100e1cd799fe3466b3.jpg) (http://www.picza.net/show.php?id=c684409e3d20a7100e1cd799fe3466b3)
Thanks: Ragnarok เถื่อน (http://www.game-ragnarok-ro.com/)  ฝากรูป (http://www.picza.net)



จับโจรเจ้าเล่ห์วางอุบายเสียบโบชัวร์ที่ประตูบ้านเหยื่อ ก่อนย้อนมาดูวันรุ่งขึ้นถ้ากระดาษยังอยู่เหมือนเดิมแสดงว่าไม่มีคนอยู่ ก่อนย่องยกเค้าเอาทรัพย์สิน สารภาพทำแล้วกว่า 30 ครั้ง หาเงินเที่ยวคาเฟ่...

ที่ บช.น. เมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 31 ส.ค. พล.ต.ท.สัณฐาน ชยนนท์ ผบช.น. พล.ต.ต.บุญส่ง พานิชอัตรา รองผบช.น. พ.ต.อ.วีรวิทย์ จันทร์จำเริญ รอง ผบก.น.1 แถลงข่าว พ.ต.อ.กิตติพันธุ์ จุนทการ ผกก.สน.พญาไท พ.ต.ต.สิทธิศักดิ์ นาคามาตย์ และ พ.ต.ท.กฤษณะ สุกันทะ สว.สส.สน.พญาไท จับกุม นายเอี่ยมฮุย แซ่หลี อายุ 55 ปี และนายสาโรจน์ หรืออาร์ม หงส์ทอง อายุ 19 ปี พร้อมของกลางสร้อยคอทองคำหนัก 1 บาท พร้อมพระเลี่ยม สร้อยคอทองคำหนัก 2 สลึง 1 เส้น พระเลี่ยมทอง 2 องค์ สมุดบัญชีธนาคารไทยพาณิชย์ สาขาย่อยเทสโก้โลตัส ลำลูกกา ของนายสาโรจน์ มีเงินหมุนเวียนในบัญชีหลายแสนบาท รถจักรยานยนต์ยามาฮ่า รุ่นนูโว สีดำ ทะเบียน ษคษ 547 กรุงเทพมหานคร อาวุธปืนขนาด 9 มม. พร้อมเครื่องกระสุน อุปกรณ์งัดแงะ และกุญแจผีหลายดอก

โดยสามารถจับกุมได้ที่ ซอยอารีสัมพันธ์ 1 แขวงสามเสนใน เขตพญาไท กทม.  พ.ต.อ.กิตติพันธุ์ กล่าวว่า ผู้ต้องหาทั้ง 2 คนได้ไปก่อเหตุลักทรัพย์หลายพื้นที่ โดยใช้ขี่รถ จยย. ตระเวนไปตามบ้านพักต่างๆ แล้วลงไปกดกริ่งหน้าบ้าน ถ้าเจ้าของบ้านไม่อยู่ก็จะใช้กระดาษโฆษณาสั่งอาหารตามร้านฟาสฟู้ดต่างๆ ไปเสียบไว้ที่ประตูหน้าบ้าน วันรุ่งขึ้นก็ย้อนกลับมาดูถ้ากระดาษอยู่เหมือนเดิมก็แสดงว่า ไม่มีคนอยู่บ้านจึงเข้าไปลักทรัพย์ ก่อเหตุมาแล้วกว่า 30 ครั้ง สามารถยึดของกลางจาก นายเอี่ยมฮุย ได้ที่ ห้องเช่าไม่มีเลขที่ ชั้นที่ 2 ซอยจุฬา แขวงวังใหม่ เขตปทุมวัน กทม. และนายสาโรจน์ ได้ที่ ห้องเช่าเลขที่ 1706/11 ชั้น 3 แขวงรองเมือง เขตปทุมวัน กทม. นายเอี่ยมฮุย ยังเคยก่อเหตุใช้ปืน จี้ชิงทรัพย์ชายสูงอายุ เหตุเกิดที่ลานจอดรถห้างโลตัส สาขาเจริญผล ได้ทรัพย์สินสร้อยคอทองคำหนัก 5 บาท

นอกจากนี้ยังเคยแอบอ้างเป็นตำรวจยศนายดาบสังกัด สตม. พกปืนไปรีดไถเงินชาวต่างด้าว ย่านหัวลำโพง อีกด้วย  นายเอี่ยมฮุย รับสารภาพว่า เคยถูกจับกุมลักทรัพย์ในเคหะสถาน มาแล้ว 2 หน ติดคุกหนละประมาณ 2 ปี

นายสาโรจน์ เป็นลูกน้องบ้านอยู่ใกล้กัน ตนมียังความรู้เรื่องทำกุญแจผี ทรัพย์สินที่ได้มาจะนำไปขายนำเงินเข้าบัญชีไว้ใช้จ่าย และเที่ยวตามคาเฟ่ โดยจะนำไปขายร้านทองย่านเยาวราช หรือไม่ก็หลอมเก็บไว้ขาย เจ้าหน้าที่ตำรวจแจ้งข้อหา ร่วมกันลักทรัพย์ในเคหะสถานโดยทำอันตรายสิ่งกีดกั้น หรือร่วมกันรับของโจร  พล.ต.ท.สัณฐาน กล่าวว่า เหตุอาชญากรรมคดีลักทรัพย์ทีเกิดขึ้นบ่อยครั้งนั้น ตำรวจทำงานเต็มที่ แต่จะให้ดูแลตลอด 24 ชั่วโมงคงไม่ได้ ประชาชนในพื้นที่ต้องช่วยกัน บช.น.มีโครงการ “เพื่อนบ้านเตือนภัย” ที่จะให้ชาวบ้านในละแวกใกล้เคียงกันช่วยเป็นหูเป็นตา ช่วยกันสังเกต แลกเปลี่ยนเบอร์โทรศัพท์ กรณีพบสิ่งผิดปกติ ก็จะสามารถช่วยกันได้


ไทยรัฐออนไลน์
โดย ทีมข่าวอาชญากรรม
31 สิงหาคม 2553, 13:42 น.
เนื้อหาที่เกี่ยวข้อง
ไม่มีข่าวที่เกี่ยวข้อง
ไม่มีรูปภาพที่เกี่ยวข้อง
1 คน
tags:
โจรเจ้าเล่ห์ เสียบโบชัวร์ ย่องยกเค้า หาเงินเที่ยวคาเฟ่ สัณฐาน ชยนนท์ นครบาล เอี่ยมฮุย แซ่หลี สาโรจน์ หงส์ทอง สัณฐาน ชยนนท์
 
 
 

http://www.thairath.co.th/content/region/107595 (http://www.thairath.co.th/content/region/107595)

รวบแล้วสาวใช้มือฆ่าอาม่าวัย 71

 เมื่อเวลา 11.30 น. วันที่ 30 ส.ค. พล.ต.ท.สัณฐาน ชยนนท์ ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (ผบช.น.) พล.ต.ต.สุเมธ เรืองสวัสดิ์ รอง ผบช.น. พล.ต.ต.วิทยา รัตนวิชช์ ผู้บังคับการตำรวจนครบาล 6 (ผบก.น.6) แถลง พ.ต.อ.สรเสริญ ใช้สถิตย์ ผกก.สน.พระราชวัง พร้อมฝ่ายสืบสวน ร่วมกับ กก.สส.บก.น.6 กก.สส.ภ.จว.นครปฐม และตม.จว.กาญจนบุรี ร่วมกันจับกุม นางเย ไม่มีนามสกุล อายุ 23 ปี ชาวพม่า ผู้ต้องหาฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา ของกลางเงินสด 10,450 บาท พระเลี่ยมทอง แหวนทองคำ ต่างหู กำไลข้อมือ ผ้าที่ใช้มัดผู้ตายและสก๊อตเทป จับกุมได้ที่หน้าบ้านเลขที่ 122 หมู่ 1 บ้านช่องแคบ ต.ท่าเสา อ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรี
 ทั้งนี้ เมื่อวันที่  21 ส.ค. เวลา 01.30-02.00 น. คนร้ายก่อเหตุฆ่านางมาลี อู่วงศ์เจริญ อายุ 71 ปี สภาพนอนคว่ำหน้าอยู่บนเตียงนอน มือทั้งสองข้างถูกพันธนาการด้วยเศษผ้าถุง และเทปกาวไขว้หลัง เท้าทั้งสองข้างถูกพันธนาการด้วยเศษผ้าถุง และเทปกาว ตามร่างกายไม่พบบาดแผลถูกทำร้าย เหตุเกิดบริเวณห้องนอนชั้น 3 “ชาญช่าง” เลขที่ 21/4 แยกสี่กั๊กพระยาศรี แขวงวังบูรพาภิรมย์ เขตพระนคร กทม. ซึ่งเปิดเป็นร้านทำบล็อกตรายาง โล่ ป้ายโลหะ โดยคนร้ายได้ทรัพย์สนเป็นสร้อยคอทองคำหนัก 1 บาท พร้อมพระเลี่ยมทอง (เหรียญเจ้าพ่อเสือเลี่ยมทอง) แหวนเพชร 2 วง ตุ้มหูเพชร 1 คู่ รวมราคาประมาณ 1 แสนบาท ก่อนหลบหนีไป
 สอบสวนนางเยให้การว่า ตนเคยทำงานที่บ้านผู้ตาย 11 เดือน ก่อนออกไปทำงานโรงงานลูกชิ้นที่ จ.ราชบุรี แต่ต่อมาแฟนออกจากโรงงานลูกชิ้นและกลับพม่า ตนจึงกลับมาทำงานที่บ้านผู้ตายอีกครั้ง โดยทำได้เพียง 4 วันก็ก่อเหตุ โดยทุกวันผู้ตายจะทานยานอนหลับ 2 เม็ด วันเกิดเหตุจึงแอบใช้ผ้ามัดมือ และเท้า พร้อมใช้สก๊อตเทปปิดปาก และจับคว่ำหน้า ก่อนนำทรัพย์สินหลบหนีไป ไม่ได้เจตนาจะฆ่าให้ตาย โดยบ้านที่เกิดเหตุตนก็พักอาศัยอยู่กับผู้ตายเพียง 2 คน โดยปกติรับเงินเดือนๆ ละ 4,500 บาท
 พล.ต.ท.สัณฐานกล่าวว่า ถือเป็นเหตุการณ์ที่เป็นอุทาหรณ์เพราะลูกจ้างชาวพม่าเคยก่อเหตุลักษณะนี้มาแล้วหลายครั้ง รายนี้ไม่ใช้รายแรก อย่างไรก็ตาม เชื่อว่าผู้ต้องหาอาจร่วมกันแฟนที่ชื่อ นายเต่า อายุประมาณ 28 ปี ก่อเหตุ ซึ่งจะทำการตรวจสอบอย่างละเอียดอีกครั้ง พร้อมประสาน ตม.กาญจนบุรี เพื่อติดตามนายเต่า มาสอบสวน เนื่องจากสืบทราบว่าขณะนี้อยู่ที่พม่าแล้ว

http://www.khaosod.co.th/view_newsonline.php?newsid=TVRJNE16RTFOVEExTnc9PQ== (http://www.khaosod.co.th/view_newsonline.php?newsid=TVRJNE16RTFOVEExTnc9PQ==)

จำนวนคนอ่านล่าสุด 1478 คน  วันที่ 31 สิงหาคม พ.ศ. 2553 ปีที่ 20 ฉบับที่ 7215 ข่าวสดรายวัน


ออกกฎฟันขรก.หัวงู-ลวนลามด้วยตาก็ผิด

กพ.เสนอ พูดลามก โดนหมด



ลุยปราบข้าราชการหัวงู ก.พ.เสนอครม.ตั้ง 5 กฎเหล็ก ทั้งห้ามใช้สายตาลวนลาม ห้ามส่งอีเมล์ลามก ห้ามจับต้องของสงวน ห้ามพูดจาแทะโลม และห้ามพฤติกรรมส่อทางเพศ เผยมีผลกับข้าราชการพลเรือน 19 กระทรวง ไม่นับรวมตำรวจ ทหาร ครู ผู้พิพากษา อัยการและข้าราชการการเมือง ระบุที่ผ่านมา ก.พ.รับการร้องเรียนจำนวนมากถึงเรื่องการล่วงละเมิดและคุกคามทางเพศ แต่ไม่สามารถทำอะไรได้เพราะไม่มีข้อกฎหมายรองรับ

เมื่อวันที่ 30 ส.ค. ที่สำนักงานคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน (ก.พ.) นางเบญจวรรณ สร่างนิทร เลขาธิการ ก.พ. เปิดเผยว่า ในวันอังคารที่ 31 ส.ค.นี้ ก.พ.จะเสนอร่างกฎก.พ.ว่าด้วยการกระทำอันเป็นการล่วงละเมิดทางเพศหรือคุกคามทางเพศ พ.ศ...ให้ครม.พิจารณา เพื่อแก้ปัญหาการล่วงละเมิดทางเพศในวงราชการ เนื่องจากที่ผ่านมา ก.พ. รับการร้องเรียนจากข้าราชการจำนวนมากถึงเรื่องการล่วงละเมิดและคุกคามทางเพศ แต่ไม่สามารถทำอะไรได้มากนัก เพราะผู้เสียหายไม่กล้าระบุชื่อ ประกอบกับไม่มีข้อกฎหมายรองรับ แต่การที่มีกฎก.พ.ดังกล่าวจะช่วยให้ข้าราชการที่ถูกคุกคามทางเพศกล้ามาร้องเรียนมากขึ้น จะช่วยให้ข้าราชการตระหนักไม่กล้ากระทำผิด เพราะมีระเบียบรองรับอยู่

หลังจากที่ครม.เห็นชอบร่างกฎก.พ.ฉบับนี้แล้ว ก.พ.จะเร่งทำคู่มืออธิบายรายละเอียดลักษณะพฤติกรรมที่เข้าข่ายล่วงละเมิดทางเพศให้แก่ข้าราชการทราบโดยเร็วที่สุด เพราะกฎก.พ. ฉบับนี้จะมีผลใช้บังคับทันที เมื่อมีการประกาศลงในราชกิจจานุเบกษา อย่างไรก็ตามกฎก.พ. ฉบับนี้จะใช้บังคับเฉพาะกับข้าราชการพลเรือนสามัญ 19 กระทรวงเท่านั้น ไม่รวมถึงข้าราชการตำรวจ ทหาร ครู บุคลากรทางการศึกษา ผู้ พิพากษา อัยการ และข้าราชการการเมือง

นายพิรุณ เพียรล้ำเลิศ นิติกรผู้เชี่ยวชาญ สำนักงานก.พ.กล่าวว่า กฎก.พ.ฉบับนี้จะเอาผิดข้าราชการที่มีพฤติกรรมล่วงละเมิดและคุกคามทางเพศ แต่จะถือเป็นความผิดวินัยไม่ร้ายแรง เว้นแต่การกระทำดังกล่าวก่อให้เกิดความเสียหายร้ายแรงต่อต้นสังกัด ก็จะเข้าข่ายความผิดวินัยร้ายแรง ตามมาตรา 85 ของพ.ร.บ.ระเบียบข้าราช การพลเรือน นอกจากนี้กฎก.พ.นี้มุ่งเอาผิดเฉพาะการปฏิบัติราชการ โดยเป็นกระทำระหว่างข้าราช การต่อข้าราชการ หรือข้าราชการต่อผู้ร่วมปฏิบัติราชการ เช่น ลูกจ้างโครงการของส่วนราชการ ซึ่งขณะก่อเหตุไม่จำเป็นต้องอยู่ในสถานที่ราชการ จะเป็นสถานที่นอกราชการก็ได้ โดยจะดูจากเจตนาของทั้งสองฝ่าย หากเป็นการสมยอมกัน ก็ไม่เข้าข่ายกระทำผิด แต่หากฝ่ายผู้ถูกกระทำไม่ยินยอม ทำให้เกิดความเดือดร้อน รำคาญ ก็จะมีความผิดตามกฎก.พ.นี้

นายพิรุณ กล่าวว่า ลักษณะที่เข้าข่ายการกระทำผิดตามกฎก.พ.นี้มี 5 ข้อได้แก่ 1.กระทำการด้วยการสัมผัสทางกายที่มีลักษณะส่อไปในทางเพศ เช่น การจูบ การโอบกอด การจับอวัยวะส่วนใดส่วนหนึ่ง โดยไม่จำเป็นต้องเป็นเฉพาะชายกับหญิงเท่านั้น จะเป็นเพศเดียวกันก็ได้ 2.กระทำการด้วยวาจาที่ส่อไปในทางเพศ เช่น วิพากษ์วิจารณ์ร่างกาย พูดหยอกล้อ พูดหยาบคาย เช่น ฝ่ายชายพูดจาสองแง่ สามง่าม โดยผู้หญิงไม่อยากฟัง 3.กระทำการด้วยอากัปกิริยาที่ส่อไปในทางเพศ เช่น การใช้สายตาลวนลาม การทำสัญญาณหรือสัญลักษณ์เช่น ชายจ้องมองอวัยวะผู้หญิง โดยใช้สายตาลวนลาม แต่กรณีนี้ต้องมีพยานหลักฐานยืนยัน 4.การแสดงหรือสื่อสารด้วยวิธีการใดๆ ที่ส่อไปในทางเพศ เช่น แสดงรูปลามกอนาจาร ส่งจดหมาย ข้อความหรือการสื่อสารรูปแบบอื่น เช่น การเปิดเว็บลามกแล้วเรียกฝ่ายหญิงไปดู หรือส่งอีเมล์ลามกให้ฝ่ายหญิง โดยอีกฝ่ายไม่เต็มใจ 5.การแสดงพฤติกรรมอื่นใดที่ส่อไปในทางเพศ ซึ่งผู้ถูกกระทำไม่พึงประสงค์หรือเดือดร้อนรำคาญ  นายพิรุณ กล่าวว่า ส่วนผู้มีหน้าที่พิสูจน์พฤติกรรมกระทำผิดดังกล่าวคือ ผู้มีอำนาจสั่งแต่งตั้ง บรรจุข้าราชการตามลำดับชั้น โดยผู้ร้องต้องมีหนังสือร้องเรียน พยานหลักฐาน หากมีมูลผู้บังคับบัญชาก็จะสั่งตั้งคณะกรรมการสอบวินัยเป็นกรณีๆไป หรือตั้งกรรมการสอบสวนข้อมูลในเบื้องต้น ส่วนผู้ร้องเรียนไม่จำเป็นต้องเป็นคู่กรณี เป็นบุคคลภายนอกก็ได้ หากพบเห็นพฤติกรรมไม่เหมาะสม หลังจากกฎหมายผ่าน ครม.แล้ว จะนำคู่มือแจกจ่ายและจัดอบรมข้าราชการต่อไป ทั้งนี้ การตรวจสอบข้อเท็จจริงต้องให้ความเป็นธรรมแก่ผู้ถูกกล่าวหาด้วย เพราะมีหลายครั้งเป็นการสมยอม แต่ต่อมากลับถูกนำมาแบล็กเมล์ภายหลัง

หน้า 1

   
 
 





 








 
   
   

ยิงถล่มว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.ภูมิใจไทย คาวงข้าว
   
 31 สค. 2553 22:49 น.


เมื่อเวลา 19.45 น.ที่ผ่านมา ร.ต.ท.จิรวัช รุ่งกลิ่น พนักงานสอบสวน สภ.อุทุมพรพิสัย จ.ศรีสะเกษ รับแจ้งเหตุยิงกันที่บ้านเลขที่ 129 ม.15 ต.สำโรง อ.อุทุมพรพิสัย จ.ศรีสะเกษ ซึ่งเป็นบ้านของ นางสุริยาพร เพียรกสิกรรณ สมาชิกองค์การบริหารส่วนจังหวัดศรีสะเกษ จึงรายงานให้ พ.ต.อ.อัยรัช ชินประยูร ผู้กำกับการ สภ.อุทุมพรพิสัย ทราบ และได้เดินทางไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ ทั้งนี้ผู้บาดเจ็บประกอบด้วย นางสุริยาพร ถูกยิงที่ไหล่ซ้าย อาการสาหัส แต่ยังมีสติดีอยู่ , นายวรศักดิ์ ตั้งพูนผลประเสริฐ หรือเสี่ยก๋อ ว่าที่ผู้สมัครสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร เขต 2 พรรคภูมิใจไทย ถูกยิงที่ข้อมือขวา และบั้นเอวซ้าย แต่นายวรศักดิ์ มีโรคประจำตัวคือความดันอาการ จึงน่าเป็นห่วงอยู่ นอกจากนี้ยังมีรองนายกองค์การบริหารส่วนตำบลหนองฮ้าง ถูกยิงเฉียดมือ ได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย โดยนางสุริยาพร และ นายวรศักดิ์ ได้รับการรักษาเบื้ยงต้นที่โรงพยาบาลอุทุมพร จากนั้นได้ส่งตัวไปที่โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ จ.อุบลราชธานี

สอบสวนผู้อยู่ในเหตุการณ์ทราบว่า นางสุริยาพรเปิดบ้านรับประทานอาหารร่วมกันอยู่ 5 - 6 คน ส่วนใหญ่เป็นนักการเมืองท้องถิ่นในพื้นที่ จากนั้นมีชายฉกรรจ์คนหนึ่งเดินเข้ามาที่ลานจอดรถ พร้อมยิงปืนเข้ามาใส่ที่โต๊ะอาหารประมาณ 10 นัด และวิ่งกลับไปขึ้นรถยนต์หลบหนีไป แต่เนื่องจากที่เกิดเหตุมีรถจอดอยู่เต็มลานจอด จึงมองไม่เห็นว่ารถของคนร้ายเป็นรุ่นไหน ยี่ห้ออะไร ส่วนรายละเอียดสาเหตุและอาวุธที่คนร้ายใช้ลงมือ ตำรวจขอตรวจสอบพยานหลักฐานก่อนจึงจะรายงานความคืบหน้าต่อไป

ทั้งนี้ ร.ต.ท.จิรวัช กล่าวว่า ขณะนี้ได้ทำการสอบพยานไปแล้ว 5 ปาก เป็นพยานที่อยู่ในเหตุการณ์และพยานที่ยืนอยู่บริเวณถนน โดยลักษณะคนร้ายขับรถยนต์เข้ามาจอด จากนั้นได้เดินลงมาพร้อมกับถืออาวุธปืนยิงเข้าใส่ผู้บาดเจ็บทันที ส่วนสาเหตุจะต้องขอเวลาในการสอบสวนอีกระยะหนึ่ง

http://breakingnews.nationchannel.com/read.php?lang=th&newsid=466163 (http://breakingnews.nationchannel.com/read.php?lang=th&newsid=466163)
 
 
 

 :-[

เหยื่อนร.ช่างกลยิงใส่เมล์ 113 เสียชีวิตแล้วที่รพ.
   
 1 กย. 2553 08:50 น.




ความคืบหน้ากรณีกลุ่มวัยรุ่นแต่งกายคล้ายเด็กนักเรียนช่างกลแห่งหนึ่งก่อเหตุใช้อาวุธปืนยิงใส่รถโดยสารประจำทาง สาย 113 วิ่งระหว่าง มีนบุรี - หัวลำโพง ซึ่งมีผู้โดยสารเต็มคันรถเป็นเหตุให้เด็กนักเรียนอายุประมาณ 8 ขวบ ถูกลูกหลงได้รับบาดเจ็บ 1 ราย พนักงานขับรถโดยสารประจำทางสาย 113 พาเด็กถูกลูกหลงบาดเจ็บเข้ารักษาตัวที่ รพ.เกษมราษฏร์ รามคำแหง ล่าสุดเหยื่อกระสุนนักเรียนนักเลงช่างกลยิงใส่รถเมล์113หน้าซ.มิสทีนเสียชีวิตที่รพ.
 
 
 

 ::004:: ::004:: ::004::

ผมว่ากฏหมายไทยมันล้าสมัยครับ เจ้าหน้าที่ก็ทำงานตามกฏหมายแบบ ถึกทือ
คนร้าย พกปืนได้ พวกเรา พลเมืองดีห้ามพกปืน  เวลาตำรวจเจอตำรวจจะะพูดว่าเป็นคนดีพกปืนไปทำไม
ผมก็อยากจะตอบกลับไปว่าก็พวกเอ็งทำงานไม่ได้เรื่อง พวกข้าก็พึ่งตัวเอง
พอพวกข้าพึ่งตัวเองเอ็งก็บอกข้าทำผิดกฏหมาย.....มันสองมาตรฐานไหมครับ พี่น้องชาวปืน
ปล.toyota Land Cruiser VX80 ของผมหายไปสิบปีแล้วครับ แจ้งความแล้ว สน.ปทุมวัน
ปล.2 จากนั้นผมคงไม่รอให้ตำรวจมาช่วยครับ ผมไม่ปฏิเสธตำรวจ แต่ผมขอเอาชีวิตตัวเองและคนที่ผมรักรอดก่อนครับ
ปล.3 ตำรวจที่ผมรักและเคารพ มีหลายท่าน บางท่านก็เล่นเว็ปนี้ด้วย แต่ผมเบื่อตำรวจบางคนที่น้ำเน่า เอาเครื่องแบบ มาหากิน

เสียใจด้วยครับท่านkrajong ผมเคยแค่มอไซร์หาย แต่ช่วงนั้นมอไซร์ก็มีค่ามาก เล่นเอาเบลอไปเลย  ::004::

 ::004::

ยิงผัว-เมียชาวโคกโพธิ์ ขณะกรีดยาง ดับ2
   
 1 กย. 2553 13:46 น.


พ.ต.ท.อนุสรณ์ จันทร์กลับ สว.สภ.นาประดู่ อ.โคกโพธิ์ จ.ปัตตานี รับแจ้งเกิดเหตุยิงกันตาย 2 คน ที่บริเวณบนถนนชนบท ม.3 บ้านทุ่งพลา อ.โคกโพธิ์ จึงรุดไปตรวจสอบพร้อมด้วยกำลังทหารและตำรวจ ที่เกิดเหตุ พบรถจักรยานยนต์รุ่นเก่า จอดล้มอยู่ และพบแต่กองเลือดและรองเท้า ส่วนคนเจ็บนำส่งโรงพยาบาลโคกโพธิ์ จ.ปัตตานี และทั้งสองทนพิษบาดแผลไม่ไหวได้เสียชีวิตระหว่างทาง ทราบชื่อ นายสุรสิทธิ์ เอียดแก้ว อายุ 50 ปี และนางคะนึง เอียดแก้ว อายุ 52 ปี เป็นสองสามีภรรยา ทั้งสองมีบาดแผลถูกยิงเข้าลำตัวหลายแห่ง

สอบสวนทราบว่า ผู้ตายทั้งสอง เป็นสามีภรรยา และจะออกไปกรีดยางทุกวัน วันเกิดเหตุไปกรีดยางตามปกติ โดยมีนายสุรสิทธิ์ เป็นคนขับขี่ บนถนนชนบทในหมู่บ้าน พอใกล้ถึงสวนยางได้มีคนร้าย 2 คน ขับขี่ จยย.ตามประกบ คนร้ายซ้อนท้ายก็ใช้อาวุธปืนสั้นยิงกระหนำ จนเสียหลักล้มลงและเสียชีวิต ส่วนคนร้ายหลบหนีไป สาเหตุเบื้องต้นเป็นการสร้างสถานการณ์ใต้ อนึ่งช่วงปลายเดือนที่ผ่านมา มีการยิงผัวเมียตายเป็นคู่หลายคนและเดือนนี้ ตายเป็นคู่รายแรก
 
 
 
 

คุณเบิ้ม ::002:: ช่วยหาข่าว แก๊งพุ่งแป๊บน้ำใส่กระจกรถ 5 คันคืนเดียว มาลงสิครับ กำลังระบาดแถว ถนนสายบ้านนา-ปากพลี นครนายก พอดีผมเอามาลงไม่เป็นครับ ;D

ขว้างแป๊บน้ำแทนก้อนหินแล้วเหรอครับ  ???

บุกยิง"ไก่ บางแสน"ดับหน้าศาลจังหวัดชลบุรี
   
 6 กย. 2553 16:28 น.


เมื่อเวลา 10.30 น.วันที่ 6 ก.ย. ร.ต.ท.ชินวัชร์ ธิศาลา ร้อยเวร สภ.เมืองชลบุรี รับแจ้งว่ามีเหตุยิงกันที่ประตูหน้าศาลจังหวัดชลบุรี อ.เมือง จ.ชลบุรี จึงพร้อมด้วย พล.ต.ต.นิวัฒน์ รัตนาธรรมวัฒน์ รอง ผบช.ภ.2 พ.ต.อ.สุภธีร์ บุญครอง รอง ผบก.ภ.จว.ชลบุรี พ.ต.อ.สุกิตติ ไสวเกียรติ ผกก.สภ.เมืองชลบุรี ที่เกิดเหตุพบรถเก๋งฮอนด้า ซีวิค สีบอร์น หมายเลขทะเบียน กท.6558 ชลบุรี บริเวณกระจกประตูด้านซ้ายมือคนขับรถมีรอยกระสุนปืนรวมทั้งหมด 12 นัด  บริเวณที่นั่งคนขับมีนายพุฒิพงศ์ สุนันท์วิริยมกรณ์ อายุ 40 ปี นั่งเสียชีวิตคาพวงมาลัย ที่บริเวณหน้าผากถูกยิงด้วยปืนขนาด 11 มม.จำนวน 1 นัด กระสุนทะลุท้ายทอย ที่เกิดเหตุพบหัวกระสุนปืน 11 มม.ฝังอยู่ที่ต้นไม้ 1 นัดจึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน

จากการสอบสวนเบื้องต้นทราบว่า ก่อนเกิดเหตุนายพุฒิพงศ์ได้เดินทางมาขึ้นศาลจังหวัดชลบุรี เพื่อขอผลัดฟ้องในคดีถูกตำรวจ สภ.เสม็ด อ.เมือง จ.ชลบุรี จับกุมยาไอซ์ 11 กรัม หลังจากนั้นได้เดินลงมาขึ้นรถเก๋ง ช่วงนั้นได้มีรถเก๋งโตโยต้า สีบอร์น-ทอง ไม่ทราบหมายเลขทะเบียนขับตามประกบ ขณะที่นายพุฒิพงศ์นั่งในรถเตรียมสตาร์ท คนร้ายที่นั่งเบาะหลังรถคันที่ตามประกบได้ใช้อาวุธปืนสั้นกระหน่ำยิงหลายนัดเข้าบริเวณกระจกประตูด้านตรงข้ามคนขับ หลังจากนั้นได้หลบหนีไปบริเวณหน้าศาลากลางจังหวัดชลบุรี วิ่งเข้าเส้นทางข้างสถานีตำรวจภูธรจังหวัดชลบุรี แล้วมุ่งหน้าออกถนนพระยาสัจจา เลี้ยววกไปทางโรงเรียนชลราษฎรอำรุง ข้ามสะพานลอยออกถนนสายบายพาสมุ่งหน้ากรุงเทพฯ

จากการสอบถามผู้เห็นเหตุการณ์กล่าวว่า ได้ยินเสียงเหมือนประทัดดังเบาๆ คาดว่าน่าจะเป็นปืนเก็บเสียง  พอหันไปดูเห็นรถเก๋งเทียบข้าง จึงให้ยามไปดูพบว่ามีคนถูกยิงเสียชีวิตไปแล้ว

ทางด้านตำรวจได้ตั้งประเด็นในการสอบสวนว่า สาเหตุที่เกิดขึ้นในครั้งนี้คาดว่าน่าจะมาจากคดีที่เกี่ยวข้องกับยาเสพติด จึงลงมือฆ่าตัดตอนเพราะเกรงว่าหากมีการสาวลึกลงไปถึงขบวนการค้ายาเสพติด อาจจะเปิดแหล่งต้นตอของผู้ค้ารายใหญ่ใน จ.ชลบุรีได้ 
 
 
 

อยากทราบว่าระหว่างสหรัฐอเมริกา(ประชาชนครอบครองปืนได้ง่าย)กับประเทศไทย(ป.ครอบครองปืนได้ยากกว่า)สถิติอาชญากรรมใครสูงกว่ากันครับ